SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 11
1   ความหมายของโรค
2   สาเหตุของโรค
3   อาการต่ างๆ
4   วิธีการรักษา
5   วิธีการป้ องกัน
6   โรคแทรกซ้ อน
ความหมายของโรค
 หลอดลมอักเสบเรื้ อรังหมายถึงการอักเสบของหลอดลม มีการบวม
 ของเยือบุหลอดลม และมีเสมหะเป็ นปริ มาณมาก ทาให้ลมผ่านไปยัง
         ่
 ปอดได้นอยลง เราจะถือว่าหลอดลมอักเสบเรื้ อรังเมื่อมีอาการไออย่าง
           ้
 ต่อเนื่อง 3 เดือนต่อปี เป็ นเวลา 2 ปี


                                   แสดงภาพขยายของผนังหลอดลม
                                                   ่
                                     ซึ่ งจะมีขนอยูคอยพัดโบกสิ่ ง
                                   แปลกปลอมออกไปจากหลอดลม
สาเหตุของโรค
         โรคหลอดลมอักเสบเรื้ อรังมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อที่ปอด
 ประมาณ 90% เกิดจากเชื้อไวรัส และอีกที่เหลืออีก 10% เกิดจาก
 การติดเชื้อแบคทีเรี ย ถ้าเป็ นหลอดลมอักเสบเฉียบพลันซ้ าแล้วซ้ าอีก ก็
 จะทาให้เกิดการอักเสบที่ผนังหลอดลมซ้ าๆ ซ้ าๆ ก็จะทาให้เกิดเป็ นโรค
 หลอดลมอักเสบเรื้ อรังได้
            มลภาวะก็เป็ นสาเหตุส่วนหนึ่ง ผูที่สมผัสกับมลภาวะ ก็จะทาให้
                                            ้ ั
 ระคายเคืองต่อหลอดลมตลอดเวลา ก็จะทาให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ
 เรื้ อรังขึ้นได้ และจะทาให้มีเสมหะมากขึ้น
อาการต่ างๆ
        จะมีอาการไอมีเสลดเรื้ อรังเป็ นแรมเดือนแรมปี โดยระยะเริ่ มแรก
 ผูป่วยมักจะไอหรื อขากเสลดในคอหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเป็ นประจา
    ้
 จนนึกว่าเป็ นเรื่ องปกติ ต่อมาจะมีอาการไอถี่ข้ ึนตลอดทั้งวันและมีเสลด
 จานวนมากขึ้น อาจออกเป็ นสี ขาวหรื อสี เหลืองหรื อเขียว บางครั้งอาจมี
 ไข้หรื อไอมีเลือดปนร่ วมด้วย เมื่อเป็ นนาน ๆ เข้าอาจมีอาการหอบเหนื่อย
 ร่ วมด้วย
วิธีการรักษา
          การรักษาหลอดลมอักเสบเรื้ อรังจะต้องรักษาอาการร่ วมกับการปรับ
    สภาพของร่ างกายให้สมดุลเพื่อเสริ มภูมิตานทานของร่ างกาย ดังนั้น จึง
                                              ้
    ต้องรักษาทั้งปอดและอวัยวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะผูป่วยที่เป็ นโรค
                                                           ้
    เรื้ อรัง มักจะมีอาการจากหลายระบบร่ วมด้วย ถ้ารักษาแต่อาการก็จะเป็ น
    แล้วเป็ น อีก ถ้าปรับร่ างกายด้วยผูป่วยจะดีข้ ึนมาก บางรายอาจไม่เป็ นอีก
                                       ้
วิธีการป้ องกัน
 ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกาลังกายอย่าง
 สม่าเสมอ กินอาหารให้เหมาะสมกับร่ างกาย ลดมลภาวะ ของ
 สิ่ งแวดล้อมที่เป็ นพิษทั้งหลาย เพื่อเสริ มให้ร่างกายแข็งแรง ร่ วมกับการ
 รักษา ก็จะยิงได้ผลดีมากขึ้น
             ่




                                                                  LOGO
โรคหรืออาการแทรกซ้ อน
           ผูที่เป็ นโรคหลอดลมอักเสบเรื้ อรังมักจะเป็ นผูที่สูบบุหรี่ เวลาไอ
              ้                                           ้
 ก็คิดว่าเกิดจากบุหรี่ เมื่อมีการติดเชื้อก็ทาให้มีการทาลายหลอดลม หาก
 เป็ นเรื้ อรังจะทาให้ปอดทุกทาลายเกิดเป็ นโรคถุงลมโป่ งพอง ถึงตอนนั้น
 ก็สายเกินจะรักษา
           อาจทาให้เกิดโรคปอดอักเสบ แทรกซ้อนเป็ นครั้งคราว ถ้าปล่อย
 ไว้นาน ๆ มักจะกลายเป็ นโรคถุงลมพอง หัวใจวายหรื อปอดทางานไม่ได้
 ดังที่เรี ยกว่า “ภาวการณ์หายใจล้มเหลว” (respiratory failure)



                                     8
                                                                    LOGO
 http://www.srbr.in.th/Health/smoke2.htm
 http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/Respirato
  ry/bronchitis/bronchitis.htm
 http://www.doctor.or.th/node/2012




                           9
                                                  LOGO
11
     LOGO

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

เรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวมเรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวมWan Ngamwongwan
 
โรคหลอดลมอักเส
โรคหลอดลมอักเสโรคหลอดลมอักเส
โรคหลอดลมอักเสWan Ngamwongwan
 
โรคไข้หวัด
โรคไข้หวัดโรคไข้หวัด
โรคไข้หวัดWan Ngamwongwan
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)Wan Ngamwongwan
 
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบWan Ngamwongwan
 
โรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปากโรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปากWan Ngamwongwan
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง
โรคมะเร็งกล่องเสียงโรคมะเร็งกล่องเสียง
โรคมะเร็งกล่องเสียงWan Ngamwongwan
 
โรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพองโรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพองWan Ngamwongwan
 
หยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่นหยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่นWan Ngamwongwan
 
วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)Wan Ngamwongwan
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1Wan Ngamwongwan
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่Wan Ngamwongwan
 
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่Wan Ngamwongwan
 
หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่Wan Ngamwongwan
 
มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูกมะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูกWan Ngamwongwan
 

Mais procurados (17)

เรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวมเรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวม
 
โรคหลอดลมอักเส
โรคหลอดลมอักเสโรคหลอดลมอักเส
โรคหลอดลมอักเส
 
โรคไข้หวัด
โรคไข้หวัดโรคไข้หวัด
โรคไข้หวัด
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
 
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
 
โรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปากโรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปาก
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง
โรคมะเร็งกล่องเสียงโรคมะเร็งกล่องเสียง
โรคมะเร็งกล่องเสียง
 
2010_PMC Respiatory Disease
2010_PMC Respiatory Disease2010_PMC Respiatory Disease
2010_PMC Respiatory Disease
 
โรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพองโรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพอง
 
หยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่นหยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่น
 
วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)วัณโรค (Tuberculosis)
วัณโรค (Tuberculosis)
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่
 
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
 
Ppt influenza
Ppt influenzaPpt influenza
Ppt influenza
 
หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่
 
มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูกมะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูก
 

Semelhante a ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)

โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายใจโรคระบบทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายใจWan Ngamwongwan
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจkruwai
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจboonyarat thungprasert
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจNichapa Banchakiat
 
Sex education
Sex education Sex education
Sex education atit604
 
มะเร็งกล่องเสียง
มะเร็งกล่องเสียงมะเร็งกล่องเสียง
มะเร็งกล่องเสียงWan Ngamwongwan
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อpissamaiza Kodsrimoung
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อnuting
 
โรคมะเร็งปอด
โรคมะเร็งปอดโรคมะเร็งปอด
โรคมะเร็งปอดWan Ngamwongwan
 
โรคจากการสูบบุหรี
โรคจากการสูบบุหรีโรคจากการสูบบุหรี
โรคจากการสูบบุหรีWan Ngamwongwan
 
วนิดา
วนิดาวนิดา
วนิดาsupphawan
 

Semelhante a ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1) (20)

Asthma
AsthmaAsthma
Asthma
 
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายใจโรคระบบทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายใจ
 
Respiratory1 2
Respiratory1 2Respiratory1 2
Respiratory1 2
 
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
 
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจ
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจ
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจ
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจ
 
เรื่อง ระบบหายใจ
เรื่อง  ระบบหายใจเรื่อง  ระบบหายใจ
เรื่อง ระบบหายใจ
 
ไซนัส
ไซนัส ไซนัส
ไซนัส
 
Sex education
Sex education Sex education
Sex education
 
มะเร็งกล่องเสียง
มะเร็งกล่องเสียงมะเร็งกล่องเสียง
มะเร็งกล่องเสียง
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
 
โรคมะเร็งปอด
โรคมะเร็งปอดโรคมะเร็งปอด
โรคมะเร็งปอด
 
โรคจากการสูบบุหรี
โรคจากการสูบบุหรีโรคจากการสูบบุหรี
โรคจากการสูบบุหรี
 
การรักษามะเร็งปอด
การรักษามะเร็งปอดการรักษามะเร็งปอด
การรักษามะเร็งปอด
 
Management of patient with asthma
Management of patient with asthmaManagement of patient with asthma
Management of patient with asthma
 
วนิดา
วนิดาวนิดา
วนิดา
 

Mais de Wan Ngamwongwan

3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
3การแลกเปลี่ยนแก๊ส3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
3การแลกเปลี่ยนแก๊สWan Ngamwongwan
 
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาดหน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาดWan Ngamwongwan
 
หน่วยที่1ชายหาด
หน่วยที่1ชายหาดหน่วยที่1ชายหาด
หน่วยที่1ชายหาดWan Ngamwongwan
 
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลWan Ngamwongwan
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการWan Ngamwongwan
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากรWan Ngamwongwan
 
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5Wan Ngamwongwan
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่Wan Ngamwongwan
 
----งานหลัก-----
 ----งานหลัก----- ----งานหลัก-----
----งานหลัก-----Wan Ngamwongwan
 
งดบุหรี่
งดบุหรี่งดบุหรี่
งดบุหรี่Wan Ngamwongwan
 
โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจWan Ngamwongwan
 
กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3Wan Ngamwongwan
 
แผลในกระเพาะอาหาร (1)
แผลในกระเพาะอาหาร (1)แผลในกระเพาะอาหาร (1)
แผลในกระเพาะอาหาร (1)Wan Ngamwongwan
 
โรคหัวใจตีบ
โรคหัวใจตีบโรคหัวใจตีบ
โรคหัวใจตีบWan Ngamwongwan
 
หลอดลมอักเสบ
หลอดลมอักเสบหลอดลมอักเสบ
หลอดลมอักเสบWan Ngamwongwan
 

Mais de Wan Ngamwongwan (17)

2 genetic material
2 genetic material2 genetic material
2 genetic material
 
1chrmosome
1chrmosome1chrmosome
1chrmosome
 
3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
3การแลกเปลี่ยนแก๊ส3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
 
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาดหน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
 
หน่วยที่1ชายหาด
หน่วยที่1ชายหาดหน่วยที่1ชายหาด
หน่วยที่1ชายหาด
 
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร
 
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่
 
----งานหลัก-----
 ----งานหลัก----- ----งานหลัก-----
----งานหลัก-----
 
งดบุหรี่
งดบุหรี่งดบุหรี่
งดบุหรี่
 
โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
 
กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3
 
แผลในกระเพาะอาหาร (1)
แผลในกระเพาะอาหาร (1)แผลในกระเพาะอาหาร (1)
แผลในกระเพาะอาหาร (1)
 
โรคหัวใจตีบ
โรคหัวใจตีบโรคหัวใจตีบ
โรคหัวใจตีบ
 
หลอดลมอักเสบ
หลอดลมอักเสบหลอดลมอักเสบ
หลอดลมอักเสบ
 

ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)

  • 1.
  • 2. 1 ความหมายของโรค 2 สาเหตุของโรค 3 อาการต่ างๆ 4 วิธีการรักษา 5 วิธีการป้ องกัน 6 โรคแทรกซ้ อน
  • 3. ความหมายของโรค  หลอดลมอักเสบเรื้ อรังหมายถึงการอักเสบของหลอดลม มีการบวม ของเยือบุหลอดลม และมีเสมหะเป็ นปริ มาณมาก ทาให้ลมผ่านไปยัง ่ ปอดได้นอยลง เราจะถือว่าหลอดลมอักเสบเรื้ อรังเมื่อมีอาการไออย่าง ้ ต่อเนื่อง 3 เดือนต่อปี เป็ นเวลา 2 ปี แสดงภาพขยายของผนังหลอดลม ่ ซึ่ งจะมีขนอยูคอยพัดโบกสิ่ ง แปลกปลอมออกไปจากหลอดลม
  • 4. สาเหตุของโรค  โรคหลอดลมอักเสบเรื้ อรังมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อที่ปอด ประมาณ 90% เกิดจากเชื้อไวรัส และอีกที่เหลืออีก 10% เกิดจาก การติดเชื้อแบคทีเรี ย ถ้าเป็ นหลอดลมอักเสบเฉียบพลันซ้ าแล้วซ้ าอีก ก็ จะทาให้เกิดการอักเสบที่ผนังหลอดลมซ้ าๆ ซ้ าๆ ก็จะทาให้เกิดเป็ นโรค หลอดลมอักเสบเรื้ อรังได้  มลภาวะก็เป็ นสาเหตุส่วนหนึ่ง ผูที่สมผัสกับมลภาวะ ก็จะทาให้ ้ ั ระคายเคืองต่อหลอดลมตลอดเวลา ก็จะทาให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ เรื้ อรังขึ้นได้ และจะทาให้มีเสมหะมากขึ้น
  • 5. อาการต่ างๆ  จะมีอาการไอมีเสลดเรื้ อรังเป็ นแรมเดือนแรมปี โดยระยะเริ่ มแรก ผูป่วยมักจะไอหรื อขากเสลดในคอหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเป็ นประจา ้ จนนึกว่าเป็ นเรื่ องปกติ ต่อมาจะมีอาการไอถี่ข้ ึนตลอดทั้งวันและมีเสลด จานวนมากขึ้น อาจออกเป็ นสี ขาวหรื อสี เหลืองหรื อเขียว บางครั้งอาจมี ไข้หรื อไอมีเลือดปนร่ วมด้วย เมื่อเป็ นนาน ๆ เข้าอาจมีอาการหอบเหนื่อย ร่ วมด้วย
  • 6. วิธีการรักษา  การรักษาหลอดลมอักเสบเรื้ อรังจะต้องรักษาอาการร่ วมกับการปรับ สภาพของร่ างกายให้สมดุลเพื่อเสริ มภูมิตานทานของร่ างกาย ดังนั้น จึง ้ ต้องรักษาทั้งปอดและอวัยวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะผูป่วยที่เป็ นโรค ้ เรื้ อรัง มักจะมีอาการจากหลายระบบร่ วมด้วย ถ้ารักษาแต่อาการก็จะเป็ น แล้วเป็ น อีก ถ้าปรับร่ างกายด้วยผูป่วยจะดีข้ ึนมาก บางรายอาจไม่เป็ นอีก ้
  • 7. วิธีการป้ องกัน  ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกาลังกายอย่าง สม่าเสมอ กินอาหารให้เหมาะสมกับร่ างกาย ลดมลภาวะ ของ สิ่ งแวดล้อมที่เป็ นพิษทั้งหลาย เพื่อเสริ มให้ร่างกายแข็งแรง ร่ วมกับการ รักษา ก็จะยิงได้ผลดีมากขึ้น ่ LOGO
  • 8. โรคหรืออาการแทรกซ้ อน  ผูที่เป็ นโรคหลอดลมอักเสบเรื้ อรังมักจะเป็ นผูที่สูบบุหรี่ เวลาไอ ้ ้ ก็คิดว่าเกิดจากบุหรี่ เมื่อมีการติดเชื้อก็ทาให้มีการทาลายหลอดลม หาก เป็ นเรื้ อรังจะทาให้ปอดทุกทาลายเกิดเป็ นโรคถุงลมโป่ งพอง ถึงตอนนั้น ก็สายเกินจะรักษา  อาจทาให้เกิดโรคปอดอักเสบ แทรกซ้อนเป็ นครั้งคราว ถ้าปล่อย ไว้นาน ๆ มักจะกลายเป็ นโรคถุงลมพอง หัวใจวายหรื อปอดทางานไม่ได้ ดังที่เรี ยกว่า “ภาวการณ์หายใจล้มเหลว” (respiratory failure) 8 LOGO
  • 9.  http://www.srbr.in.th/Health/smoke2.htm  http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/Respirato ry/bronchitis/bronchitis.htm  http://www.doctor.or.th/node/2012 9 LOGO
  • 10.
  • 11. 11 LOGO