SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 37
โครงงำนคอมพิวเตอร์ 
ใบงำนที่ 2 – ใบงำนที่ 8 
เสนอ 
คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ 
จัดทำโดย 
นางสาว อัญชลีพร ชมภูราช ม.6/13 เลขที่ 33 
นางสาวอรกานต์ ศิริรัตน์ ม.6/13 เลขที่ 37
ใบงำนที่ 2 
ควำมหมำยและควำมสำคัญของโครงงำนคอมพิวเตอร์
โครงงำนคอมพิวเตอร์ 
ควำมหมำย 
หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดย 
จะต้องวางแผนการดา เนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการ 
วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานใน 
การพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทา โครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือ 
เป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทา โครงงาน 
เรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือ 
ศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสา คัญของการทา โครงงานเป็นการ 
เปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการคิดดัดแปลงใช้ระบบคอมพิวเตอร์ 
แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพฒันาสื่อการ 
เรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนา 
โปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ 
ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อน 
มนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ควำมสำคัญ 
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความ 
สนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทาง 
วิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็น 
สา คัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยง 
ความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ 
เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ 
ปรึกษาและให้คา แนะนา ความสามารถที่เกิดจากการทา โครงงาน 
คอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทา ให้ผู้เรียนเกิด 
ความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สา คัญ 5 ประการ ดังนี้ 
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียน 
เป็นผู้ทา โครงงานต้องนา เสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจ 
โครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทา โครงงานต้องสื่อสาร 
ความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า 
รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนา เสนอแนวคิด 
ในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
2. ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ 
- การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด 
เนื่องจากอะไร 
- การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนา ความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จาก 
การค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน 
- การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนา ความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ 
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทา โครงงาน 
ใดและไม่ควรทา โครงงานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคม 
โดยรวม เช่น โครงงานระบบคา นวณเลขหวย สา หรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่ง 
รัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทา ให้คนในสังคมเกิดความ 
หมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น 
-การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอน 
ในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวม 
ข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนา เสนอผล 
การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คา ปรึกษา
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และ 
อธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้ 
เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา 
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นา ความรู้และ 
กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนา ไปประยุกต์ใช้ใน 
ชีวิตประจา วันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการ 
เรียนรู้ด้วยตนเอง อันนา ไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้ 
เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมี 
คุณธรรม
ใบงำนที่ 3 
เรื่อง ขอบข่ำยและประเภทของโครงงำน
ขอบข่ำยของโครงงำน 
ขอบข่ายของโครงงาน การดา เนินงานโดยมีนักเรียนเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครู 
อาจารย์เป็นผู้ให้คา แนะนา ปรึกษา สรุปได้ดังนี้คือ 
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาศัยหลักวิชาการทาง 
ทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์ และกิจกรรมต่างๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว 
2. นักเรียนทุกคนเป็นผู้พิจารณาจัดทา โครงงานด้วยตนเอง หรือกลุ่ม จา นวน 2-8 คน ต่อกลุ่ม โดยใช้ 
ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากกว่าก็ได้ 
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตาม 
ความถนัด สนใจและความพร้อม 
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบัติงาน และแปรผลรายงานต่อครู 
อาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดา เนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กา หนด 
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา 
รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดา เนินงานด้วย
ประเภทของโครงงำนคอมพิวเตอร์ 
โครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานดังนี้ 
- การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 
- การพัฒนาเครื่องมือ 
- การทดลองทฤษฎี 
- การประยุกต์ใช้งาน 
- การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ 
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการ 
สร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค 
แบบฝึกหัด บททบทวน และคา ถามคา ตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียน 
แบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือ 
ว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ 
ออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้ 
สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจ 
คัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 
ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล 
ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่ 
สา คัญของประเทศไทย เป็นต้น
2. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนา 
เครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ 
เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุ 
ในมุมต่างๆ เป็นต้น สา หรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น 
โปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบน 
เครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออา นวยความ 
สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สาหรับ 
ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สา หรับช่วยการออกแบบสิ่งของ 
อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็น 
อย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คา นวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณา 
และแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
3. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี 
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จา ลองการทดลองของ 
สาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด 
เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทา ต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และ 
แนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจา ลอง 
หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคา อธิบาย พร้อมทั้งการจา ลองทฤษฏี 
ด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น 
ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทา โครงงานประเภทนี้มีจุดสา คัญอยู่ที่ 
ผู้ทา ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจา ลองทฤษฎี เช่น 
1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์ 
2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ 
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ 
4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน 
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน 
6. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น 
7. โปรแกรมจา ลองการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงาน 
ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน 
ชีวิตประจา วัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สา หรับการออกแบบและตกแต่งภายใน 
อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย 
เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ 
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง 
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้ 
จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนา ข้อมูลที่ได้มาใช้ 
ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการ 
ทา งานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความ 
สมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ 
ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
5.การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานประเภทนีเ้ป็นโครงงานพัฒนา 
ซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมทพีั่ฒนาควรจะ 
เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน 
ประเภทนีจ้ะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้ 
น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทัง้ให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ 
ได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทวั่ไป และ 
นามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึน้ใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และ 
น่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ
ใบงำนที่ 4 
เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ” 
ที่มำรูปภำพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ 
(Educational Media) 
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการ 
สร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด 
บททบทวนและคา ถามคา ตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคล 
หรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็น 
อุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ 
Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ 
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา 
ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชา 
สังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทา 
ความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น 
โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชา 
ต่าง ๆ
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ 
ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วย 
การเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคา ถามคา ตอบ 
ไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดย 
ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่ง 
อาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย 
ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ 
สอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็น 
หัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่ 
แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่ง 
กุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สา คัญของประเทศไทย เป็นต้น
ตัวอย่ำง โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ 
1. โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก 
ผู้พัฒนา นางสาว อัญชลี เตมีประเสริฐกิจ 
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ชนารัตน์ คา อ่อน 
สถานศึกษา โรงเรียนระยองวิทยาคม 
2. โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต 
ผู้พัฒนา นาย เทพ รัตนเรืองจา รูญ และนายพงศกร พันธุ์พงษ์สิทธ์ิ 
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์สโรชา สายเนตร 
สถานศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอัสสัมชัญ
3. โปรแกรมสนุกไปกับตารางธาตุ 
ผู้พัฒนา เด็กหญิงวริศรา พรหมมณี และเด็กหญิงกมลวรรณ ทองงาน 
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ทัศนีย์ ระลึกมูล 
สถานศึกษา โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก 
4. โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ 
ผู้พัฒนา เด็กหญิงวรรณรวัส ยินดีเดช 
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์ 
สถานศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ กรุงเทพฯ 
5.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก 
ผู้พัฒนา เด็กหญิงจิราพร แจ้งไพร และเด็กหญิงกนิษฐา สุริเมือง 
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์วิรุบล จันตา 
สถานศึกษา โรงเรียนภัทรวิทยา จ.ตาก
ใบงำนที่ 5 
เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำเครื่องมือ” 
ที่มำรูปภำพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development) 
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่ง 
โดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น 
ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุม 
ต่าง ๆ เป็นต้น สา หรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น 
โปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ 
ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถ 
นา ไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สา หรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวตัถุใน 
มุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรม 
ประเภท 3D
ตัวอย่ำงชื่อโครงงำน 
-โปรแกรมการค้นหาคา ภาษาไทย 
-โปรแกรมอ่านอักษรไทย 
-โปรแกรมวาดภาพสามมิติ 
-โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล 
-โปรแกรมบีบอัดข้อมูล 
-โปรแกรมประมวลผลคา ไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ 
-โปรแกรมการออกแบบผังงาน 
-พอร์ตแบบขนานของไทย 
-การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 
-โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ 
-โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
ตัวอย่ำงโครงงำนพัฒนำเครื่องมือ 
โปรแกรมอ่ำนออกเสียงเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ 
วัตถุประสงค์ของโครงงาน 
-เพื่อพัฒนาโปรแกรมสา หรับอ่านออกเสียงข้อความจากเอกสารอีเล็กทรอนิกส์แบบ 
อัตโนมัติโดยอ่านได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษและตัวเลข 
เป้าหมายและขอบเขตของโครงงาน 
-สร้างโปรแกรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งโปรแกรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปจะไม่ 
สามารถอ่านออกเสียงเป็นภาษาไทยได้แต่โปรแกรมตัวนี้จะสามารถอ่านออกเสียง 
ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและตัวเลขได้ทฤษฎีที่นามาใช้และความแตกต่าง 
- ได้ใช้โปรแกรม วาจา (Vaja)และ Microsoft Speech Application
ใบงำนที่ 6 
เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี” 
แหล่งที่มารูปภาพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี” 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ 
จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย 
สถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทา ต้อง 
ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน 
เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจา ลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ใน 
รูปของสูตร สมการ หรือคา อธิบาย พร้อมทั้งการจา ลองทฤษฏีด้วย 
คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการ 
นั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทา โครงงานประเภทนี้มี 
จุดสา คัญอยู่ที่ผู้ทา ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงาน 
จาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง 
พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ 
เป็นต้น
ตัวอย่ำงโครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี 
1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ 
2. การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา 
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ 
4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน 
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน 
6. การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ส่วน 
บุคคลแหล่งที่มาของข้อมูล
ใบงำนที่ 7 
เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรประยุกต์ใช้งำน” 
แหล่งที่มา : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
โครงงำนประเภท “กำรประยุกต์ใช้งำน” 
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงาน 
เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจา วัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สา หรับการ 
ออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ 
ซอฟต์แวร์สา หรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการ 
ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิด 
สร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี 
ประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ 
ต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนา ข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนา 
สิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทา งานหรือทดสอบคุณภาพของ 
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียน 
ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ 
ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่ำงชื่อโครงงำน 
• ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน 
• ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล 
• ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต 
• ระบบแนะนา เส้นทางเดินรถประจา ทาง 
• โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสา หรับคนตาบอดบนรถประจา ทาง 
• โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ 
• โฮมเพจส่วนบุคคล 
• โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น 
• โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
ตัวอย่ำงโครงงำนกำรประยุกต์ใช้งำน 
ชื่อโครงงาน กำรศึกษำ Computer Generated Hologram และ กำรประยุกต์ใช้งำนอย่ำงง่ำย 
ชื่อผู้ทา โครงงาน นายไพโรจน์ ศิรินามารัตนะ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ศ.ดร.สมศักด์ิ ปัญญาแก้ว 
สถาบันการศึกษา นิสิตระดับปริญญาตรีปีที่3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับชั้น ปริญญาตรีหมวดวิชา 
คอมพิวเตอร์ 
วัน/เดือน/ปี ทา โครงงาน 1/1/2541 
บทคัดย่อ การถ่ายภาพ hologram ด้วยแสงเลเซอร์ (Laser hologram) คือ การบันทึกรูปแบบการแทรก 
สอด (Interference pattern) ของแสง 2 ขบวน คือ แสงที่มาจากวัตถุ (Object beam) กับ แสง 
อ้างอิง (Reference beam) ลงบนrecording medium โดยการฉายแสงอ้างอิง ที่ตา แหน่งเดิม 
กับ recording medium อีกครั้งหนึ่ง ก็จะสามารถเห็นภาพวัตถุเป็นแบบ 3 มิติได้ 
จากการศึกษาการเกิดภาพ 3 มิติ ด้วยวิธีข้างต้น เกิดจากการที่แสงอ้างอิงผ่าน recording 
medium โดยอาศัยหลักการแทรกสอดและเลี้ยวเบนของแสง เมื่อเรารู้ว่าแสงอ้างอิงมีลักษณะอย่างไร และเรา 
ต้องการวัตถุ3 มิติแบบไหน เราก็จะจะสามารถคา นวณรูปแบบการแทรกสอดบน recording 
medium, นั้นได้ จากนั้นก็สามารถสร้างรูปแบบการแทรกสอดที่เราคา นวณได้ด้วยวิธีLaser 
writing หรือ electron Lithography เป็นต้น ซึ่งhologram ที่ได้นี้ถูกเรียกว่า Computer 
Generated Hologram (CGH) 
การประยุกต์ใช้งาน CGH ที่เห็นได้ชัดก็เช่น การสร้างภาพ 3D holographic Television ซึ่ง 
การคา นวณ Interference pattern และการ lithographyเพื่อให้ได้ภาพ 3D ที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ทา ยาก 
ส่วนที่ง่ายลงมาก็คือการใช้CGH ในการบังคับลา แสงให้เป็นรูปแบบต่างๆ โดยอาจทา เป็น Lens รวมแสง, 
กระจายแสงให้เป็นรูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ซึ่งสามารถนา ประยุกต์ใช้งานเป็น Holographic transmitter 
ใน Optical Wireless LANS Systemหรือการทา Holographic Solar Concentrator เป็น 
ต้น
ใบงำนที่ 8 
เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์” 
แหล่งที่มารูปภาพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์” 
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือ 
เพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้ 
สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบ 
ลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ 
ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทา การสา รวจและรวบรวม 
ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนา มาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้น 
ใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ
ตัวอย่ำงโครงงำนกำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์ 
-โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี 
-การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนแอนดรอยด์ 
-การพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ 3 มิติ 
-เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี 
-เกมอักษรเขาวงกต 
-เกมเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 
-เกมผจญภัย
จบการนาเสนอ 
ขอบคุณค่ะ
แหล่งอ้ำงอิง 
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/ 
CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html 
http://krudarin.wordpress.com/%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%95%E 
0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%8 
0%E0%B8%9E%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B 
8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B4/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E 
0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8 
D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B 
8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1/ 
http://www.slideshare.net/thanapornklinfung/3-14424275 
http://toffykz.blogspot.com/2012/08/8.html 
http://oumsunipharuamsap.blogspot.com/2012/09/4-httpwww.html 
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/ 
CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html 
http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/5_20.html 
http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 
http://www.slideshare.net/suparada/5-14360258
แหล่งอ้ำงอิง (ต่อ ) 
http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 
http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/7.html 
http://toffykz.blogspot.com/2012/08/7.html 
http://www.vcharkarn.com/project/view/689 
http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/8.html 
http://conandoii.blogspot.com/2012/09/6.html

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

ใบงานที่4
ใบงานที่4ใบงานที่4
ใบงานที่4juice1414
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8buntitaoopifif
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Plai Plaifah
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้วThank Chiro
 
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญjjrrwnd
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์princess Thirteenpai
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ysmhcnboice
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์princess Thirteenpai
 
แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1chanakan12
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2Keng Sangwattu
 
เขื่อนทอง
เขื่อนทองเขื่อนทอง
เขื่อนทองChayanis
 
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาNatnicha Nuanlaong
 

Mais procurados (15)

อะไรก็ได้
อะไรก็ได้อะไรก็ได้
อะไรก็ได้
 
ใบงานที่4
ใบงานที่4ใบงานที่4
ใบงานที่4
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
 
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Com
ComCom
Com
 
แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
เขื่อนทอง
เขื่อนทองเขื่อนทอง
เขื่อนทอง
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8
 
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
 

Semelhante a โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8

ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3juice1414
 
ใบงานที่+..
ใบงานที่+..ใบงานที่+..
ใบงานที่+..win_apitchaya
 
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงานใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงานTanyaporn Puttawan
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานNIng Bussara
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานNIng Bussara
 
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาNatnicha Nuanlaong
 
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์miiztake
 
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226Me'e Mildd
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานAoy Amm Mee
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานAoy Amm Mee
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์Phkphoom
 

Semelhante a โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8 (20)

ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
ใบงานที่+..
ใบงานที่+..ใบงานที่+..
ใบงานที่+..
 
K3
K3K3
K3
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
projectcomputer
projectcomputerprojectcomputer
projectcomputer
 
Project
ProjectProject
Project
 
3
33
3
 
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงานใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
 
Dfh
DfhDfh
Dfh
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
Dfh
DfhDfh
Dfh
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
 
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Com01
Com01Com01
Com01
 
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
3 120719083921-phpapp01
3 120719083921-phpapp013 120719083921-phpapp01
3 120719083921-phpapp01
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 

Mais de unstreet

ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวunstreet
 
อังกฤษ 2555
อังกฤษ 2555อังกฤษ 2555
อังกฤษ 2555unstreet
 
สังคม 2556
สังคม 2556สังคม 2556
สังคม 2556unstreet
 
ภาษาไทย 2556
ภาษาไทย 2556ภาษาไทย 2556
ภาษาไทย 2556unstreet
 
เคมี
เคมี เคมี
เคมี unstreet
 
ชีววิทยา2556
ชีววิทยา2556ชีววิทยา2556
ชีววิทยา2556unstreet
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวunstreet
 

Mais de unstreet (9)

creative
creativecreative
creative
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 
อังกฤษ 2555
อังกฤษ 2555อังกฤษ 2555
อังกฤษ 2555
 
สังคม 2556
สังคม 2556สังคม 2556
สังคม 2556
 
ภาษาไทย 2556
ภาษาไทย 2556ภาษาไทย 2556
ภาษาไทย 2556
 
เคมี
เคมี เคมี
เคมี
 
ชีววิทยา2556
ชีววิทยา2556ชีววิทยา2556
ชีววิทยา2556
 
blog
blogblog
blog
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 

โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8

  • 1. โครงงำนคอมพิวเตอร์ ใบงำนที่ 2 – ใบงำนที่ 8 เสนอ คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ จัดทำโดย นางสาว อัญชลีพร ชมภูราช ม.6/13 เลขที่ 33 นางสาวอรกานต์ ศิริรัตน์ ม.6/13 เลขที่ 37
  • 3. โครงงำนคอมพิวเตอร์ ควำมหมำย หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดย จะต้องวางแผนการดา เนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานใน การพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทา โครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือ เป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทา โครงงาน เรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือ ศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสา คัญของการทา โครงงานเป็นการ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการคิดดัดแปลงใช้ระบบคอมพิวเตอร์ แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพฒันาสื่อการ เรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนา โปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อน มนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
  • 4. ควำมสำคัญ โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความ สนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทาง วิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็น สา คัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยง ความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ ปรึกษาและให้คา แนะนา ความสามารถที่เกิดจากการทา โครงงาน คอมพิวเตอร์
  • 5. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทา ให้ผู้เรียนเกิด ความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สา คัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียน เป็นผู้ทา โครงงานต้องนา เสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจ โครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทา โครงงานต้องสื่อสาร ความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนา เสนอแนวคิด ในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
  • 6. 2. ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ - การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด เนื่องจากอะไร - การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนา ความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จาก การค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน - การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนา ความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทา โครงงาน ใดและไม่ควรทา โครงงานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคม โดยรวม เช่น โครงงานระบบคา นวณเลขหวย สา หรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่ง รัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทา ให้คนในสังคมเกิดความ หมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น -การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอน ในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวม ข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนา เสนอผล การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คา ปรึกษา
  • 7. 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และ อธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้ เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นา ความรู้และ กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนา ไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจา วันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการ เรียนรู้ด้วยตนเอง อันนา ไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมี คุณธรรม
  • 8. ใบงำนที่ 3 เรื่อง ขอบข่ำยและประเภทของโครงงำน
  • 9. ขอบข่ำยของโครงงำน ขอบข่ายของโครงงาน การดา เนินงานโดยมีนักเรียนเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครู อาจารย์เป็นผู้ให้คา แนะนา ปรึกษา สรุปได้ดังนี้คือ 1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาศัยหลักวิชาการทาง ทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์ และกิจกรรมต่างๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว 2. นักเรียนทุกคนเป็นผู้พิจารณาจัดทา โครงงานด้วยตนเอง หรือกลุ่ม จา นวน 2-8 คน ต่อกลุ่ม โดยใช้ ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากกว่าก็ได้ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตาม ความถนัด สนใจและความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบัติงาน และแปรผลรายงานต่อครู อาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดา เนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กา หนด 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดา เนินงานด้วย
  • 10. ประเภทของโครงงำนคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานดังนี้ - การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา - การพัฒนาเครื่องมือ - การทดลองทฤษฎี - การประยุกต์ใช้งาน - การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
  • 11. 1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการ สร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค แบบฝึกหัด บททบทวน และคา ถามคา ตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียน แบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือ ว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ ออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้ สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจ คัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่ สา คัญของประเทศไทย เป็นต้น
  • 12. 2. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนา เครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุ ในมุมต่างๆ เป็นต้น สา หรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น โปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบน เครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออา นวยความ สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สาหรับ ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สา หรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็น อย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คา นวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณา และแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
  • 13. 3. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จา ลองการทดลองของ สาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทา ต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และ แนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจา ลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคา อธิบาย พร้อมทั้งการจา ลองทฤษฏี ด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทา โครงงานประเภทนี้มีจุดสา คัญอยู่ที่ ผู้ทา ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจา ลองทฤษฎี เช่น 1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์ 2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ 3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ 4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน 5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน 6. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น 7. โปรแกรมจา ลองการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
  • 14. 4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงาน ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน ชีวิตประจา วัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สา หรับการออกแบบและตกแต่งภายใน อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนา ข้อมูลที่ได้มาใช้ ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการ ทา งานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความ สมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 15. 5.การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานประเภทนีเ้ป็นโครงงานพัฒนา ซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมทพีั่ฒนาควรจะ เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน ประเภทนีจ้ะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้ น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทัง้ให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ ได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทวั่ไป และ นามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึน้ใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และ น่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ
  • 16. ใบงำนที่ 4 เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ” ที่มำรูปภำพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
  • 17. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (Educational Media) เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการ สร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคา ถามคา ตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคล หรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็น อุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชา สังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทา ความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชา ต่าง ๆ
  • 18. ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วย การเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคา ถามคา ตอบ ไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดย ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่ง อาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ สอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็น หัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่ แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่ง กุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สา คัญของประเทศไทย เป็นต้น
  • 19. ตัวอย่ำง โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ 1. โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก ผู้พัฒนา นางสาว อัญชลี เตมีประเสริฐกิจ อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ชนารัตน์ คา อ่อน สถานศึกษา โรงเรียนระยองวิทยาคม 2. โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ผู้พัฒนา นาย เทพ รัตนเรืองจา รูญ และนายพงศกร พันธุ์พงษ์สิทธ์ิ อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์สโรชา สายเนตร สถานศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอัสสัมชัญ
  • 20. 3. โปรแกรมสนุกไปกับตารางธาตุ ผู้พัฒนา เด็กหญิงวริศรา พรหมมณี และเด็กหญิงกมลวรรณ ทองงาน อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ทัศนีย์ ระลึกมูล สถานศึกษา โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก 4. โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ ผู้พัฒนา เด็กหญิงวรรณรวัส ยินดีเดช อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์ สถานศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ กรุงเทพฯ 5.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก ผู้พัฒนา เด็กหญิงจิราพร แจ้งไพร และเด็กหญิงกนิษฐา สุริเมือง อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์วิรุบล จันตา สถานศึกษา โรงเรียนภัทรวิทยา จ.ตาก
  • 21. ใบงำนที่ 5 เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำเครื่องมือ” ที่มำรูปภำพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
  • 22. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development) เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุม ต่าง ๆ เป็นต้น สา หรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น โปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถ นา ไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สา หรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวตัถุใน มุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรม ประเภท 3D
  • 23. ตัวอย่ำงชื่อโครงงำน -โปรแกรมการค้นหาคา ภาษาไทย -โปรแกรมอ่านอักษรไทย -โปรแกรมวาดภาพสามมิติ -โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล -โปรแกรมบีบอัดข้อมูล -โปรแกรมประมวลผลคา ไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ -โปรแกรมการออกแบบผังงาน -พอร์ตแบบขนานของไทย -การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ -โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ -โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
  • 24. ตัวอย่ำงโครงงำนพัฒนำเครื่องมือ โปรแกรมอ่ำนออกเสียงเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ วัตถุประสงค์ของโครงงาน -เพื่อพัฒนาโปรแกรมสา หรับอ่านออกเสียงข้อความจากเอกสารอีเล็กทรอนิกส์แบบ อัตโนมัติโดยอ่านได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษและตัวเลข เป้าหมายและขอบเขตของโครงงาน -สร้างโปรแกรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งโปรแกรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปจะไม่ สามารถอ่านออกเสียงเป็นภาษาไทยได้แต่โปรแกรมตัวนี้จะสามารถอ่านออกเสียง ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและตัวเลขได้ทฤษฎีที่นามาใช้และความแตกต่าง - ได้ใช้โปรแกรม วาจา (Vaja)และ Microsoft Speech Application
  • 25. ใบงำนที่ 6 เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี” แหล่งที่มารูปภาพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
  • 26. โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี” โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย สถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทา ต้อง ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจา ลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ใน รูปของสูตร สมการ หรือคา อธิบาย พร้อมทั้งการจา ลองทฤษฏีด้วย คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการ นั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทา โครงงานประเภทนี้มี จุดสา คัญอยู่ที่ผู้ทา ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงาน จาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
  • 27. ตัวอย่ำงโครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี 1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ 2. การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา 3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ 4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน 5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน 6. การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคลแหล่งที่มาของข้อมูล
  • 28. ใบงำนที่ 7 เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรประยุกต์ใช้งำน” แหล่งที่มา : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
  • 29. โครงงำนประเภท “กำรประยุกต์ใช้งำน” โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงาน เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจา วัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สา หรับการ ออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ ซอฟต์แวร์สา หรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการ ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิด สร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ ต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนา ข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนา สิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทา งานหรือทดสอบคุณภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียน ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 30. ตัวอย่ำงชื่อโครงงำน • ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน • ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล • ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต • ระบบแนะนา เส้นทางเดินรถประจา ทาง • โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสา หรับคนตาบอดบนรถประจา ทาง • โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ • โฮมเพจส่วนบุคคล • โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น • โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
  • 31. ตัวอย่ำงโครงงำนกำรประยุกต์ใช้งำน ชื่อโครงงาน กำรศึกษำ Computer Generated Hologram และ กำรประยุกต์ใช้งำนอย่ำงง่ำย ชื่อผู้ทา โครงงาน นายไพโรจน์ ศิรินามารัตนะ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ศ.ดร.สมศักด์ิ ปัญญาแก้ว สถาบันการศึกษา นิสิตระดับปริญญาตรีปีที่3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับชั้น ปริญญาตรีหมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทา โครงงาน 1/1/2541 บทคัดย่อ การถ่ายภาพ hologram ด้วยแสงเลเซอร์ (Laser hologram) คือ การบันทึกรูปแบบการแทรก สอด (Interference pattern) ของแสง 2 ขบวน คือ แสงที่มาจากวัตถุ (Object beam) กับ แสง อ้างอิง (Reference beam) ลงบนrecording medium โดยการฉายแสงอ้างอิง ที่ตา แหน่งเดิม กับ recording medium อีกครั้งหนึ่ง ก็จะสามารถเห็นภาพวัตถุเป็นแบบ 3 มิติได้ จากการศึกษาการเกิดภาพ 3 มิติ ด้วยวิธีข้างต้น เกิดจากการที่แสงอ้างอิงผ่าน recording medium โดยอาศัยหลักการแทรกสอดและเลี้ยวเบนของแสง เมื่อเรารู้ว่าแสงอ้างอิงมีลักษณะอย่างไร และเรา ต้องการวัตถุ3 มิติแบบไหน เราก็จะจะสามารถคา นวณรูปแบบการแทรกสอดบน recording medium, นั้นได้ จากนั้นก็สามารถสร้างรูปแบบการแทรกสอดที่เราคา นวณได้ด้วยวิธีLaser writing หรือ electron Lithography เป็นต้น ซึ่งhologram ที่ได้นี้ถูกเรียกว่า Computer Generated Hologram (CGH) การประยุกต์ใช้งาน CGH ที่เห็นได้ชัดก็เช่น การสร้างภาพ 3D holographic Television ซึ่ง การคา นวณ Interference pattern และการ lithographyเพื่อให้ได้ภาพ 3D ที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ทา ยาก ส่วนที่ง่ายลงมาก็คือการใช้CGH ในการบังคับลา แสงให้เป็นรูปแบบต่างๆ โดยอาจทา เป็น Lens รวมแสง, กระจายแสงให้เป็นรูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ซึ่งสามารถนา ประยุกต์ใช้งานเป็น Holographic transmitter ใน Optical Wireless LANS Systemหรือการทา Holographic Solar Concentrator เป็น ต้น
  • 32. ใบงำนที่ 8 เรื่อง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์” แหล่งที่มารูปภาพ : http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
  • 33. โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์” โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือ เพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้ สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบ ลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทา การสา รวจและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนา มาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้น ใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ
  • 34. ตัวอย่ำงโครงงำนกำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์ -โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี -การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนแอนดรอยด์ -การพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ 3 มิติ -เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี -เกมอักษรเขาวงกต -เกมเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร -เกมผจญภัย
  • 36. แหล่งอ้ำงอิง http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/ CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html http://krudarin.wordpress.com/%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%95%E 0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%8 0%E0%B8%9E%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B 8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B4/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E 0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8 D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B 8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1/ http://www.slideshare.net/thanapornklinfung/3-14424275 http://toffykz.blogspot.com/2012/08/8.html http://oumsunipharuamsap.blogspot.com/2012/09/4-httpwww.html http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/ CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/5_20.html http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 http://www.slideshare.net/suparada/5-14360258
  • 37. แหล่งอ้ำงอิง (ต่อ ) http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/7.html http://toffykz.blogspot.com/2012/08/7.html http://www.vcharkarn.com/project/view/689 http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/8.html http://conandoii.blogspot.com/2012/09/6.html