Enviar pesquisa
Carregar
9789740336914
•
0 gostou
•
328 visualizações
CUPress
Seguir
9789740336914
Leia menos
Leia mais
Educação
Denunciar
Compartilhar
Denunciar
Compartilhar
1 de 10
Baixar agora
Baixar para ler offline
Recomendados
9789740337737
9789740337737
CUPress
9789740337560
9789740337560
CUPress
9789740337478
9789740337478
CUPress
9789740337270
9789740337270
CUPress
9789740337102
9789740337102
CUPress
9789740337096
9789740337096
CUPress
9789740337072
9789740337072
CUPress
9789740337027
9789740337027
CUPress
Recomendados
9789740337737
9789740337737
CUPress
9789740337560
9789740337560
CUPress
9789740337478
9789740337478
CUPress
9789740337270
9789740337270
CUPress
9789740337102
9789740337102
CUPress
9789740337096
9789740337096
CUPress
9789740337072
9789740337072
CUPress
9789740337027
9789740337027
CUPress
9789740336907
9789740336907
CUPress
9789740336686
9789740336686
CUPress
9789740336457
9789740336457
CUPress
9789740336440
9789740336440
CUPress
9789740336389
9789740336389
CUPress
9789740336280
9789740336280
CUPress
9789740336365
9789740336365
CUPress
9789740336303
9789740336303
CUPress
9789740336242
9789740336242
CUPress
9789740336235
9789740336235
CUPress
9789740336099
9789740336099
CUPress
9789740336419
9789740336419
CUPress
9789740336402
9789740336402
CUPress
9789740336334
9789740336334
CUPress
9789740336327
9789740336327
CUPress
9789740336181
9789740336181
CUPress
9789740336167
9789740336167
CUPress
9789740336150
9789740336150
CUPress
9789740336136
9789740336136
CUPress
9789740336129
9789740336129
CUPress
Mais conteúdo relacionado
Mais de CUPress
9789740336907
9789740336907
CUPress
9789740336686
9789740336686
CUPress
9789740336457
9789740336457
CUPress
9789740336440
9789740336440
CUPress
9789740336389
9789740336389
CUPress
9789740336280
9789740336280
CUPress
9789740336365
9789740336365
CUPress
9789740336303
9789740336303
CUPress
9789740336242
9789740336242
CUPress
9789740336235
9789740336235
CUPress
9789740336099
9789740336099
CUPress
9789740336419
9789740336419
CUPress
9789740336402
9789740336402
CUPress
9789740336334
9789740336334
CUPress
9789740336327
9789740336327
CUPress
9789740336181
9789740336181
CUPress
9789740336167
9789740336167
CUPress
9789740336150
9789740336150
CUPress
9789740336136
9789740336136
CUPress
9789740336129
9789740336129
CUPress
Mais de CUPress
(20)
9789740336907
9789740336907
9789740336686
9789740336686
9789740336457
9789740336457
9789740336440
9789740336440
9789740336389
9789740336389
9789740336280
9789740336280
9789740336365
9789740336365
9789740336303
9789740336303
9789740336242
9789740336242
9789740336235
9789740336235
9789740336099
9789740336099
9789740336419
9789740336419
9789740336402
9789740336402
9789740336334
9789740336334
9789740336327
9789740336327
9789740336181
9789740336181
9789740336167
9789740336167
9789740336150
9789740336150
9789740336136
9789740336136
9789740336129
9789740336129
9789740336914
1.
1 ความรูทั่วไปเกี่ยวกับพันธุวิศวกรรม บทที่ 1 ความรูทั่วไปเกี่ยวกับพันธุวิศวกรรม 1.1 บทนํา ในปจจุบันนี้โลกไดกาวเขาสูยุคของยีน
โดยยีนไดเขาไปมีสวนเกี่ยวของ ในแทบทุกเรื่อง ไมวาเรื่องเกี่ยวกับการแพทย การเกษตร อุตสาหกรรม หรือแมแต เรื่องเกี่ยวกับการพิจารณาคดี ดวยเหตุนี้จึงมีความตื่นตัวในการศึกษาคุณสมบัติ ของยีน และการนํายีนไปใชประโยชน ศาสตรแขนงหนึ่งที่เกี่ยวของกับการนํายีน ไปใชประโยชนที่ไดรับการพัฒนาอยางรวดเร็ว คือ พันธุวิศวกรรม (genetic engineering) ถึงแมจะมีผูใหคํานิยามของคําวา “พันธุวิศวกรรม” ไวมากมาย แตโดย รวมแลวสามารถสรุปไดวา พันธุวิศวกรรมหมายถึงการใชเทคนิคทางหองปฏิบัติ การในการดัดแปลงดีเอ็นเอ (DNA) แลวนําเขาสูเซลลของสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะทําให ไดเซลลที่เรียกวาเซลลดัดแปลงพันธุกรรม (genetically modified cell) หากนํา เซลลดังกลาวไปพัฒนาจนกลายเปนสิ่งมีชีวิต จะทําใหไดสิ่งมีชีวิตที่เรียกวา สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (genetically modified organism หรือ GMO) ตัวอยางเชน หากนําเซลลพืชดัดแปลงพันธุกรรมไปเพาะเลี้ยงจนกลายเปนตนพืช ตนพืชที่ไดก็จะเปนตนพืชดัดแปลงพันธุกรรม เปนตน การที่พันธุวิศวกรรมทําใหมนุษยสามารถสรางยีน และสิ่งมีชีวิตใหมีสมบัติ ตามที่ตองการ จึงไดมีการนําความรูเกี่ยวกับศาสตรแขนงนี้ไปใชประโยชนอยาง กวางขวาง ทําใหคนกลุมหนึ่งเห็นวาพันธุวิศวกรรมมีประโยชนอยางมาก แตใน ขณะเดียวกันก็มีคนบางกลุมที่มองวาพันธุวิศวกรรมเปนการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มี อยูเดิมตามธรรมชาติ ซึ่งอาจนําไปสูการเสียสมดุลของธรรมชาติ รวมทั้งอาจ นําไปสูปญหาที่เกี่ยวของกับการดํารงอยูของสิ่งมีชีวิต นอกจากนี้ คนในกลุมนี้ บางสวนยังมองวาพันธุวิศวกรรมเปนศาสตรที่ผิดตอหลักจริยธรรม คุณธรรม และ มนุษยธรรม เพราะไปเกี่ยวของกับการเปลี่ยนแปลง หรือดัดแปลงสิ่งมีชีวิตใหมี ลักษณะ หรือคุณสมบัติตามที่ตองการ ซึ่งในบางกรณีเปนลักษณะ หรือคุณสมบัติ ที่ผิดธรรมชาติ 1 .indd 11 .indd 1 20/11/2560 23:09:2820/11/2560 23:09:28
2.
2 หลักพันธุวิศวกรรมและการประยุกตใชในงานวิจัย ในบทนี้จะกลาวถึงขั้นตอนพื้นฐานของพันธุวิศวกรรม โดยเริ่มตั้งแตการไดมาซึ่งยีนที่สนใจ ไปจนกระทั่งไดเซลลที่มีลักษณะและคุณสมบัติตามที่ตองการ จากนั้นจะกลาวถึงการนํา พันธุวิศวกรรมไปประยุกตใชในงานดานตาง
ๆ ในสวนทายของบทนี้จะกลาวถึงประเด็นถกเถียง เกี่ยวกับขอดีและขอเสียของพันธุวิศวกรรม โดยในที่นี้จะใหขอมูลของทั้งฝายที่สนับสนุน และ ฝายที่ตอตานโดยไมมีการสรุปวาฝายใดมีขอมูลที่นาเชื่อถือกวากัน 1.2 ขั้นตอนพื้นฐานของพันธุวิศวกรรม ภาพที่ 1.1 แสดงขั้นตอนพื้นฐานของพันธุวิศวกรรม ซึ่งประกอบดวย 3 ขั้นตอนหลัก คือ ภาพที่ 1.1 ขั้นตอนพื้นฐานของพันธุวิศวกรรม 1. การสกัดดีเอ็นเอจากเซลลของสิ่งมีชีวิต การสกัดดีเอ็นเอจากเซลลของสิ่งมีชีวิตมีหลายวิธี การที่จะเลือกใชวิธีใดขึ้นอยูกับปจจัย หลายอยาง เชน ชนิดของเซลลที่นํามาสกัดเอาดีเอ็นเอ วาเปนเซลลแบคทีเรีย เซลลพืช หรือ เซลลสัตว นอกจากนี้ ชนิดของดีเอ็นเอที่ตองการสกัดก็เปนปจจัยที่สําคัญในการเลือกใชวิธีใน การสกัดดีเอ็นเอ เนื่องจากการสกัดเอาดีเอ็นเอทั้งหมด (total DNA) และการสกัดเอาเฉพาะ พลาสมิด (plasmid) จากเซลลของสิ่งมีชีวิตตองใชวิธีที่ตางกัน 1 .indd 21 .indd 2 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
3.
3 ความรูทั่วไปเกี่ยวกับพันธุวิศวกรรม รายละเอียดเกี่ยวกับการสกัดดีเอ็นเอจากเซลลของสิ่งมีชีวิตไดกลาวไวในบทที่ 2 “การ สกัดดีเอ็นเอจากเซลลของสิ่งมีชีวิตและแบคเทอริโอฟาจ” 2.
การสรางรีคอมบิแนนตดีเอ็นเอ ในการนําดีเอ็นเอที่สนใจเขาสูเซลลเจาบาน (host cell) จําเปนตองนําดีเอ็นเอที่สนใจ มาตัดเอาเฉพาะสวนที่ตองการนําเขาสูเซลลเจาบาน แลวนําไปตอเขากับดีเอ็นเอพาหะ (vector DNA หรือ vector) ซึ่งทําใหไดรีคอมบิแนนตดีเอ็นเอ (recombinant DNA) (ภาพที่ 1.2) ที่สามารถ คงอยู และเพิ่มจํานวนไดภายในเซลลเจาบาน การตัดและตอดีเอ็นเอเขากับดีเอ็นเอพาหะเกี่ยวของกับวิธีการทางหองปฏิบัติการ หลายวิธี เชน การตัดดีเอ็นเอดวยเอนไซมตัดจําเพาะ (restriction enzyme) และการเชื่อมตอ ดีเอ็นเอดวยเอนไซมดีเอ็นเอไลเกส (DNA ligase) ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับเอนไซมเหลานี้ได กลาวไวในบทที่ 3 “เอนไซมดัดแปลงดีเอ็นเอและอารเอ็นเอ” สวนรายละเอียดเกี่ยวกับดีเอ็นเอ พาหะไดกลาวไวในบทที่ 4 “พลาสมิดและจีโนมของแบคเทอริโอฟาจ” บทที่ 5 “ดีเอ็นเอพาหะ สําหรับแบคทีเรีย” และบทที่ 6 “ดีเอ็นเอพาหะสําหรับยูแคริโอต” ภาพที่ 1.2 รีคอมบิแนนตดีเอ็นเอเกิดจากการเชื่อมตอกันระหวางดีเอ็นเอพาหะกับดีเอ็นเอ ที่ตองการนําเขาสูเซลล 3. การนํารีคอมบิแนนตดีเอ็นเอเขาสูเซลลเจาบาน วิธีการนํารีคอมบิแนนตดีเอ็นเอเขาสูเซลลเจาบานมีหลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยูกับชนิดของ ดีเอ็นเอพาหะที่ใชในการสรางรีคอมบิแนนตดีเอ็นเอ และชนิดของเซลลเจาบาน รายละเอียด เกี่ยวกับการนํารีคอมบิแนนตดีเอ็นเอเขาสูเซลลเจาบานไดกลาวไวในบทที่ 7 “การนําดีเอ็นเอเขา สูเซลลของสิ่งมีชีวิต” นอกเหนือจากวิธีการทางหองปฏิบัติการที่เกี่ยวของกับขั้นตอนพื้นฐานของพันธุวิศวกรรม ที่ไดกลาวมาแลวในขางตน ยังมีวิธีการทางหองปฏิบัติการอีกเปนจํานวนมากที่เกี่ยวของกับ พันธุวิศวกรรม ตัวอยางเชน การวิเคราะหดีเอ็นเอโดยอะกาโรสเจลอิเล็กโทรโฟรีซิส (agarose gel electrophoresis) ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีนี้ไดกลาวไวในบทที่ 8 “อะกาโรสเจลอิเล็ก- 1 .indd 31 .indd 3 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
4.
4 หลักพันธุวิศวกรรมและการประยุกตใชในงานวิจัย โทรโฟรีซิส” และการเพิ่มจํานวนดีเอ็นเอดวยปฏิกิริยาลูกโซพอลิเมอเรส (polymerase
chain reaction หรือ PCR) ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีนี้ไดกลาวไวในบทที่ 9 “ปฏิกิริยาลูกโซพอลิเมอเรส” 1.3 การประยุกตใชพันธุวิศวกรรม พันธุวิศวกรรมไดถูกนํามาประยุกตใชในดานตาง ๆ ไมวาจะเปนในดานการแพทย ดาน การเกษตรและดานอุตสาหกรรม การที่จะนําการประยุกตใชพันธุวิศวกรรมทั้งหมดมากลาวไว ในที่นี้จึงเปนไปไดยาก ดังนั้น ในที่นี้จึงขอกลาวเฉพาะการประยุกตใชพันธุวิศวกรรมในทาง การแพทยและในทางการเกษตร เนื่องจากการประยุกตใชพันธุวิศวกรรมดังกลาวนาสนใจและ เขาใจไดงาย การประยุกตใชพันธุวิศวกรรมในทางการแพทย ตัวอยางของการนําพันธุวิศวกรรมมาใชประโยชนในทางการแพทยที่เห็นไดชัดเจน คือ การ นําพันธุวิศวกรรมมาใชสรางโปรตีนที่สามารถใชรักษาโรคได ตัวอยางเชน การนําพันธุวิศวกรรมมาใชเพื่อทําใหเซลลของหนูแฮมสเตอร (hamster cell) สามารถผลิต human factor VIII ได มีประโยชนอยางมากในการรักษาผูปวยที่ขาดโปรตีนดังกลาว ซึ่งเปนโปรตีน ที่สําคัญในกระบวนการแข็งตัวของเลือด ผูปวยที่ขาดโปรตีนนี้จะเปนโรคฮีโมฟเลีย (haemophilia) ซึ่งมีอาการเลือดออกงายและหยุดยาก การนําพันธุวิศวกรรมมาใชเพื่อทําให Escherichia coli สามารถผลิตอินซูลิน (insulin) และ โกรทฮอรโมน (growth hormone หรือ somatostatin) ของมนุษยได มีประโยชนอยางมาก ในการรักษาผูปวยที่ขาดอินซูลิน และโกรทฮอรโมน ตามลําดับ ซึ่งความผิดปกติดังกลาวอาจเกิด จากการที่รางกายไมสามารถสรางฮอรโมนทั้งสองชนิดได หรือสรางไดในปริมาณที่นอยเกินไป นอกจากตัวอยางที่กลาวมาแลวในขางตน ยังมีตัวอยางอีกเปนจํานวนมากเกี่ยวกับการใชพันธุ วิศวกรรมในการทําใหเซลลแบคทีเรีย และเซลลของยูแคริโอต (eukaryotic cell) สรางโปรตีน ของมนุษยเพื่อใชรักษาโรคตาง ๆ (ตารางที่ 1.1) 1 .indd 41 .indd 4 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
5.
5 ความรูทั่วไปเกี่ยวกับพันธุวิศวกรรม ตารางที่ 1.1 ตัวอยางของโปรตีนของมนุษยที่ถูกสรางโดยพันธุวิศวกรรมเพื่อใชรักษาโรคตาง
ๆ (ที่มา : Brown, 2016) ในปจจุบันมีการนําพันธุวิศวกรรมมาใชเพื่อการรักษาโรคที่มีความผิดปกติของยีน โดยการ นํายีนที่ปกติใสเขาไปในรางกายของผูปวยเพื่อทําหนาที่แทนยีนที่ผิดปกติ เรียกวิธีการรักษาโรค แบบนี้วา การรักษาดวยยีน (gene therapy) ในปจจุบันมีการนําวิธีการรักษาดวยยีนมาใชรักษา โรคหลายชนิด เชน โรค SCID (severe combined immunodeficiency) โรค SCID เปนโรคที่เกิดจากการที่เซลลเม็ดเลือดขาวมียีน ADA (ยีนสําหรับเอนไซม adenosine deaminase) ที่ผิดปกติ ทําใหไมสามารถพัฒนาเปนเม็ดเลือดขาวที่สมบูรณได ดังนั้น ผูปวยจึงมีภาวะระบบภูมิคุมกันบกพรอง ติดเชื้องาย และมักเสียชีวิตจากการติดเชื้อตั้งแตอายุ ยังนอย การใชวิธีการรักษาดวยยีนในการรักษาโรค SCID ทําไดโดยนํายีน ADA ที่ปกติมาใส ในไวรัสที่สามารถบุกรุกเซลลของมนุษยได โดยตองมีการทําใหไวรัสดังกลาวไมสามารถกอโรค ไดกอน จากนั้นนําไวรัสดังกลาวที่มียีน ADA ที่ปกติไปบุกรุกสเต็มเซลล (stem cell) ที่นําออกมา จากไขกระดูก (bone marrow) ของผูปวย SCID ซึ่งไวรัสจะปลอยยีน ADA ที่ปกติเขาสู 1 .indd 51 .indd 5 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
6.
6 หลักพันธุวิศวกรรมและการประยุกตใชในงานวิจัย สเต็มเซลลของผูปวย เมื่อนําสเต็มเซลลที่ไดไปเลี้ยงและตรวจสอบวามียีน ADA
แลว จึงนํา สเต็มเซลลดังกลาวไปฉีดกลับเขาสูไขกระดูกของผูปวย เมื่อสเต็มเซลลดังกลาวถูกนําไปใช สรางเม็ดเลือดขาวชนิดตาง ๆ เม็ดเลือดขาวเหลานั้นก็จะมียีน ADA ที่ปกติ และสามารถพัฒนา เปนเม็ดเลือดขาวที่สมบูรณได การประยุกตใชพันธุวิศวกรรมในทางการเกษตร ตัวอยางของการนําพันธุวิศวกรรมมาใชประโยชนในทางการเกษตรที่เห็นไดชัดเจน คือ การนําพันธุวิศวกรรมมาใชปรับปรุงพันธุพืช และสัตวเพื่อใหมีลักษณะตามที่ผูผลิต และผูบริโภค ตองการ เชน การทําใหพืชมีความตานทานตอแมลงศัตรูพืช การทําใหพืชทนตอยากําจัดวัชพืช และการทําใหสัตวมีอัตราการเจริญเติบโตสูง มีความสามารถในการผลิตเนื้อ นม หรือไขสูง เปนตน การนํายีนสําหรับเดลตาเอนโดทอกซิน (δ-endotoxin gene) ซึ่งเปนยีนของแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis ใสเขาไปในเซลลพืชโดยวิธีการทางพันธุวิศวกรรมสามารถทําใหพืชมีความตานทาน ตอแมลงศัตรูพืช ทั้งนี้เนื่องจากเดลตาเอนโดทอกซินเปนโปรตีนที่สามารถฆาแมลงศัตรูพืชได โดยจะไปจับและทําลายเซลลเยื่อบุทางเดินอาหารของแมลง การที่เดลตาเอนโดทอกซินมี หลายชนิด และแตละชนิดมีความสามารถในการฆาแมลงศัตรูพืชที่แตกตางกัน (ตารางที่ 1.2) ดังนั้นการใชพันธุวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงพันธุพืชใหมีความตานทานตอแมลงศัตรูพืช จึงจําเปนตอง เลือกยีนที่จะนําเขาสูเซลลของพืชที่เหมาะสม ตารางที่ 1.2 เดลตาเอนโดทอกซินตางชนิดกันมีความสามารถในการฆาแมลงที่แตกตางกัน (ที่มา : Brown, 2016) การนํายีนสําหรับโปรตีนยับยั้งเอนไซมโปรตีเนส (proteinase inhibitor) ซึ่งเปนยีนที่พบได ในพืชตระกูลถั่ว (legumes) ใสเขาไปในเซลลพืชชนิดอื่นโดยวิธีการทางพันธุวิศวกรรมสามารถ ทําใหพืชมีความตานทานตอแมลงศัตรูพืช ทั้งนี้เนื่องจากโปรตีนยับยั้งเอนไซมโปรตีเนสสามารถ ฆาแมลงศัตรูพืชไดโดยไปยับยั้งการทํางานของเอนไซมโปรตีเนสในทางเดินอาหารของแมลง 1 .indd 61 .indd 6 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
7.
7 ความรูทั่วไปเกี่ยวกับพันธุวิศวกรรม การนํายีนสําหรับเอนไซม glyphosate N-acetyltransferase
(GAT) ซึ่งเปนยีนของแบคทีเรีย Bacillus licheniformis ใสเขาไปในเซลลพืชโดยวิธีการทางพันธุวิศวกรรมสามารถทําใหพืชทน ตอสารกําจัดวัชพืชไกลโฟเสต (glyphosate) ได ทั้งนี้เนื่องจากเอนไซมดังกลาวสามารถทําลายพิษ ของไกลโฟเสตได โดยการเติมหมูแอซีทิล (acetyl group) ใหกับไกลโฟเสต (ภาพที่ 1.3) ดังนั้น เมื่อใชไกลโฟเสต สารนี้จึงไปทําลายเฉพาะวัชพืชโดยไมมีผลตอพืชที่ปรับปรุงพันธุ ภาพที่ 1.3 การทําลายพิษของยากําจัดวัชพืชโดยเอนไซม GAT นอกเหนืออจากยีนที่กลาวมาขางตน ในปจจุบันมีการใชพันธุวิศวกรรมในการนํายีนหลายชนิด เขาสูเซลลพืชเพื่อใหพืชมีลักษณะตามที่ตองการดังแสดงในตารางที่ 1.3 1 .indd 71 .indd 7 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
8.
8 หลักพันธุวิศวกรรมและการประยุกตใชในงานวิจัย ตารางที่ 1.3 ตัวอยางของยีนที่นํามาใชปรับปรุงพันธุพืชโดยวิธีการทางพันธุวิศวกรรม (ที่มา
: Brown, 2016) 1.4 ขอดีและขอเสียของพันธุวิศวกรรม พันธุวิศวกรรมก็เหมือนศาสตรอื่น ๆ ที่มีทั้งขอดีและขอเสีย ซึ่งในปจจุบันยังคงเปนประเด็น ถกเถียงที่หาขอยุติไมได ดังนั้น ในที่นี้จึงขอเสนอทั้งขอดีและขอเสียของพันธุวิศวกรรมที่ไดเคยมี การกลาวถึง เพื่อเปนขอมูลพื้นฐานใหเห็นวาผูสนับสนุน และผูคัดคานมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ อยางไร ขอดีของพันธุวิศวกรรม ตัวอยางของขอดีของพันธุวิศวกรรมที่มีการกลาวถึง ไดแก พันธุวิศวกรรมมีประโยชนทางดานการแพทย โดยทําใหการวินิจฉัย การปองกัน และ การรักษาโรคมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังชวยทําใหงานวิจัยตาง ๆ ทาง ดานการแพทยพัฒนาไดอยางรวดเร็ว 1 .indd 81 .indd 8 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
9.
9 ความรูทั่วไปเกี่ยวกับพันธุวิศวกรรม ประโยชนของพันธุวิศวกรรมในทางการเกษตรมีมากมาย เชน การปรับปรุงพันธุพืช
และ สัตวใหมีลักษณะตามความตองการของผูผลิตและผูบริโภค ซึ่งนอกจากจะชวยใหผลผลิตที่ได ออกมาเปนไปตามความตองการของตลาดแลว ยังชวยลดตนทุนการผลิต และเปนประโยชนตอ สุขภาพของเกษตรกรดวย เชน การลดการใชฆาแมลงศัตรูพืช เปนตน พันธุวิศวกรรมสามารถนํามาใชประโยชนในการรักษาสิ่งแวดลอมไดโดยการชวยลดการใช ยาฆาแมลงศัตรูพืช ยากําจัดวัชพืช ยาปฏิชีวนะ ซึ่งยาเหลานี้เมื่อมีการใชมักจะถูกปลอยสู สิ่งแวดลอมทําใหสิ่งมีชีวิตตาง ๆ ที่อยูในสิ่งแวดลอมไดรับอันตราย ขอเสียของพันธุวิศวกรรม ในกลุมผูที่ตอตานพันธุวิศวกรรมมักกลาวถึงขอเสียของพันธุวิศวกรรมในดานตาง ๆ เชน การดัดแปลงพันธุกรรมของสัตวเปนการทารุณสัตว และเปนการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ธรรมชาติ หรือพระเจาสรางขึ้น ซึ่งขัดตอหลักความเชื่อของคนบางกลุม พันธุวิศวกรรมเปนอันตรายตอสิ่งแวดลอม ดังรายงานที่พบวาขาวโพดที่ไดรับยีนสําหรับ เดลตาเอนโดทอกซินเขาไปจะเปนอันตรายตอผีเสื้อที่กินขาวโพดดังกลาว พันธุวิศวกรรมสามารถทําใหเกิดแบคทีเรียกอโรคดื้อยาสายพันธุใหม ๆ ไดโดยการถายทอด ยีนดื้อยาปฏิชีวนะ (antibiotic resistance gene) ซึ่งมักพบเปนสวนประกอบของดีเอ็นเอพาหะ จากแบคทีเรียที่ไดรับการดัดแปลงพันธุกรรมไปยังแบคทีเรียกอโรค ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการบริโภคพืชหรือสัตวที่ไดรับการดัดแปลง พันธุกรรมโดยพันธุวิศวกรรม 1.5 บทสรุป พันธุวิศวกรรมเปนศาสตรที่เกี่ยวของกับการดัดแปลงดีเอ็นเอในหลอดทดลอง แลวนําดีเอ็นเอ ที่ไดเขาสูเซลลของสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะทําใหไดเซลลดัดแปลงพันธุกรรม หากเซลลดังกลาวไดรับ การพัฒนาจนกลายเปนสิ่งมีชีวิต ก็จะไดสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม ขั้นตอนพื้นฐานของ พันธุวิศวกรรม ไดแก การสกัดดีเอ็นเอจากสิ่งมีชีวิต การสรางรีคอมบิแนนตดีเอ็นเอ และการนํา รีคอมบิแนนตดีเอ็นเอเขาสูเซลลของสิ่งมีชีวิต ซึ่งวิธีการตาง ๆ ที่เกี่ยวของกับขั้นตอนดังกลาว จะเปนเนื้อหาของบทตอ ๆ ไปในหนังสือเลมนี้ พันธุวิศวกรรมก็เหมือนกับศาสตรอื่น ๆ คือมีทั้งประโยชน และมีโอกาสที่จะกอใหเกิดปญหา ได ดังนั้นจึงควรนําขอมูลทั้งประโยชน และโทษของพันธุวิศวกรรมมาพิจารณาอยางรอบคอบ และ พยายามหาจุดสมดุลที่ทําใหมนุษยสามารถใชประโยชนจากพันธุวิศวกรรมใหไดมากที่สุด โดยใหมี ผลกระทบตอทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอมนอยที่สุด 1 .indd 91 .indd 9 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
10.
10 หลักพันธุวิศวกรรมและการประยุกตใชในงานวิจัย 1 .indd 101
.indd 10 20/11/2560 23:09:2920/11/2560 23:09:29
Baixar agora