Mais conteúdo relacionado
Semelhante a แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน
สื่อการศึกษา เรื่อง ระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวนภาดล สิทธิจินดา เลขที่ 20 ชั้น ม.6 ห้อง8
นางสาวฐิติชญา เพี้ยงจันทร์ เลขที่ 24 ชั้น ม.6 ห้อง8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม 1. นางสาวนภาดล สิทธิจินดา เลขที่ 20
2. นางสาวฐิติชญา เพี้ยงจันทร์ เลขที่ 24
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สื่อการศึกษา เรื่อง ระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
System of the Human Body
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวนภาดล สิทธิจินดา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/8 เลขที่ 20
นางสาวฐิติชญา เพี้ยงจันทร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/8 เลขที่ 24
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1 - 2 ปีการศึกษา 2558
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
การศึกษาเกี่ยวกับระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ มีความสาคัญต่อการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาทั้ง
ทางด้านการศึกษาและทางด้านการแพทย์ ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มนุษย์ทุกคนมีการดารงชีวิตอย่าง
มีคุณภาพ ปราศจากโรคภัยต่างๆ ร่างกายของมนุษย์เราประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ อวัยวะภายนอก
เราสามารถมองเห็นได้ เช่น มือ แขน ขา จมูก ส่วนอวัยวะภายในร่างกายเราไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น
ตับ หัวใจ ปอด ซึ่งอวัยวะต่างๆเหล่านั้น มีความสัมพันธ์กันและทางานอย่างเป็นระบบ หากอวัยวะ
ต่างๆทางานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ มนุษย์เราก็จะเติบโตและมีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ปราศจาก
โรคภัยต่างๆ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ในทางตรงกันข้ามหากอวัยวะต่างๆทางานไม่สัมพันธ์กัน จะเกิดผลเสีย
ต่อสุขภาพของมนุษย์ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ล้มเหลว และเนื่องจากระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์มี
หลายระบบ แต่ละระบบมีการทางานที่สัมพันธ์และซับซ้อนทาให้ยากแก่การเรียนรู้ จดจาและการนาไป
- 3. 3
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันดังนั้นผู้จัดทาจึงได้คิดหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อให้เกิดการเรียนรู้
ที่เข้าใจง่าย น่าสนใจ โดยได้นาความรู้เกี่ยวกับระบบต่างๆในร่างกาย เทคนิคการเรียนรู้ มาจัดทาเป็นสื่อ
ทางการศึกษา โดยใช้โปแกรม Power point เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ที่เข้าใจง่าย มีการนาความรู้
ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการดารงชีวิต เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษาให้มีความหลากหลาย น่าสนใจ
2. เพื่อเป็นแนวทางในการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบต่างในร่างกายมนุษย์และเสริมสร้างความรู้
ความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวัน
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1. เนื้อหาเรื่องระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ 10 ระบบ
2. เทคนิคการนาเสนอเพื่อง่ายต่อการเรียนรู้ และจดจาโดยใช้โปรแกรม Power point
3. แบบฝึกหัดและแบบทดสอบ
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
1. ระบบหายใจ ประกอบด้วย 1. จมูก (Nose) 2. หลอดคอ (Pharynx) 3. หลอดเสียง
(Larynx) 4. หลอดลม (Trachea) 5. ปอด (Lung) 6. เยื่อหุ้มปอด (Pleura)
2. ระบบย่อยอาหาร ซึ่งมี 2 ระบบ คือ การย่อยทางไกล (Mechamical digestion) และ
การย่อยทางเคมี (Chemical digestion)
3. ระบบประสาทแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือระบบประสาทส่วนกลาง(Central nervoussystem
หรือ CNS) และระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic nervoussystem หรือ ANS)
4. ระบบไหลเวียนโลหิต มีหน้าที่นาออกซิเจน จากปอดไปสู่เซลล์เพื่อเผาผลาญอาหาร ทาให้
เกิดพลังงาน ทางานร่วมกับระบบหายใจ ซึ่งประกอบด้วย จมูก หลอดลม ปอด
5. ระบบผิวหนัง ผิวหนังของคนแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ 1. หนังกาพร้า (Epidermis)
2. หนังแท้ (dermis)
6. ระบบขับถ่าย ประกอบด้วย 1. ลาไส้ ทาหน้าที่ ขับกากที่เป็นของแข็งจากอาหารทาง
ทวารหนัก 2. ปอด ทาหน้าที่ ขับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 3. ผิวหนัง ทาหน้าที่ ขับน้าและ
เกลือ 4. ไต ทาหน้าที่ ขับปัสสาวะ
7. ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ดังนี้
1. รังไข่ 2. ท่อนาไข่ 3. มดลูก 4. ช่องคลอด
ระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ดังนี้
1. อัณฑะและถุงอัณฑะ 2. หลอดเก็บตัวอสุจิ 3. หลอดนาตัวอสุจิ 4. ต่อมสร้างน้าเลี้ยง
อสุจิ 5. ต่อมลูกหมาก 6. ต่อมคาวเปอร์ 7. อวัยวะเพศชาย
- 4. 4
8. ระบบทางเดินอาหาร
1. ในช่องปาก (Mouth) มีอวัยวะดังนี้ ต่อมน้าลาย เยื่อบุช่องปาก ฟัน ลิ้น
2. คอหอย (Pharynx)
3. หลอดอาหาร (Esophagus) และ คาร์เดีย (Cardia)
4. กระเพาะอาหาร (Stomach)
5. ลาไส้ (intestine หรือ Bowel)
6. ทวารหนัก (anus)
9. ระบบกระดูก (Skeleton) หมายถึง ส่วนของโครงสร้างที่เป็นของแข็ง ทาหน้าที่ป้องกัน
เนื้อเยื่ออ่อนๆ
10. ระบบกล้ามเนื้อ การทางานของกล้ามเนื้อส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงมุมของ
ข้อต่อของร่างกาย
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. ศึกษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ วางแผนและคิดค้นหัวข้อในการทาโครงงาน
2. รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการทาโครงงาน
3. ออกแบบการนาเสนองานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
4. เรียบเรียงข้อมูล รูปภาพ ที่น่าสนใจ และจัดทาสื่อการเรียนเพื่อการศึกษาโดย
ใช้โปรแกรม Power point
5. ตรวจสอบแก้ไข และปรับปรุงผลงาน
6. นาเสนอผลงานแก่ครูผู้สอน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. อินเทอร์เน็ต
3. โปรแกรม Power point
งบประมาณ -
- 5. 5
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. สามารถสร้างสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษาที่มีความหลากหลาย น่าสนใจ
2. สามารถใช้เป็นแนวทางในการศึกษาเกี่ยวกับระบบต่างๆของร่างกายและสามารถนาไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
สถานที่ดาเนินการ
1. บ้านเลขที่ 164 หมู่ 6 ตาบลแม่เหียะ อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
2. โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
3. ห้องสมุดพื้นบ้าน ย่านเวียง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี
3. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
1. หนังสือเรียนชีววิทยา ม.4-ม.6 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงศึกษาธิการ
2. หนังสือชีววิทยา Biology for high school students ของ จิรัสย์ เจนพาณิชย์
3. https : // www. sites.google.com/site/comkim2553/dynamo