Enviar pesquisa
Carregar
สัมมาทิฏฐิในวงการศึกษา
•
0 gostou
•
2,443 visualizações
Teacher Sophonnawit
Seguir
โดย พระภาวนาวิริยะคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว)
Leia menos
Leia mais
Educação
Denunciar
Compartilhar
Denunciar
Compartilhar
1 de 64
Baixar agora
Baixar para ler offline
Recomendados
หลักการคิดที่ถูกต้อง
หลักการคิดที่ถูกต้อง
Teacher Sophonnawit
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
Panomporn Chinchana
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องนาฏยศัพท์ ม-4 รวบรวมโดย ครูเย็นจิตร บุญศรี
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องนาฏยศัพท์ ม-4 รวบรวมโดย ครูเย็นจิตร บุญศรี
ครูเย็นจิตร บุญศรี
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
Panomporn Chinchana
จักรวาลในพุทธปรัชญาเถรวาท
จักรวาลในพุทธปรัชญาเถรวาท
Padvee Academy
Saengdhamma in august 2010
Saengdhamma in august 2010
Wat Thai Washington, D.C.
มรรคมีองค์ ๘ เส้นทางครูแท้
มรรคมีองค์ ๘ เส้นทางครูแท้
Teacher Sophonnawit
ธรรมบท ภาคที่ 1 แปลโดยพยัญชนะ ฉบับสองภาษา (ไทย-บาลี).pdf
ธรรมบท ภาคที่ 1 แปลโดยพยัญชนะ ฉบับสองภาษา (ไทย-บาลี).pdf
สุเมธี ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
Recomendados
หลักการคิดที่ถูกต้อง
หลักการคิดที่ถูกต้อง
Teacher Sophonnawit
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
Panomporn Chinchana
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องนาฏยศัพท์ ม-4 รวบรวมโดย ครูเย็นจิตร บุญศรี
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องนาฏยศัพท์ ม-4 รวบรวมโดย ครูเย็นจิตร บุญศรี
ครูเย็นจิตร บุญศรี
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
Panomporn Chinchana
จักรวาลในพุทธปรัชญาเถรวาท
จักรวาลในพุทธปรัชญาเถรวาท
Padvee Academy
Saengdhamma in august 2010
Saengdhamma in august 2010
Wat Thai Washington, D.C.
มรรคมีองค์ ๘ เส้นทางครูแท้
มรรคมีองค์ ๘ เส้นทางครูแท้
Teacher Sophonnawit
ธรรมบท ภาคที่ 1 แปลโดยพยัญชนะ ฉบับสองภาษา (ไทย-บาลี).pdf
ธรรมบท ภาคที่ 1 แปลโดยพยัญชนะ ฉบับสองภาษา (ไทย-บาลี).pdf
สุเมธี ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
099+hisp6+dltv54+550112+a+สไลด์ กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย(1หน้า)
099+hisp6+dltv54+550112+a+สไลด์ กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย(1หน้า)
Prachoom Rangkasikorn
กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย+601+55t2his p06 f02-1page
กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย+601+55t2his p06 f02-1page
Prachoom Rangkasikorn
Seang Dhamma Vol. 37 No. 440 December 2011
Seang Dhamma Vol. 37 No. 440 December 2011
Wat Thai Washington, D.C.
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
Padvee Academy
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
niralai
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
Panda Jing
บทที่ 1 ศึกษาความหมายและความเป็นมาของวิชาเทววิทยาเบื้องต้น
บทที่ 1 ศึกษาความหมายและความเป็นมาของวิชาเทววิทยาเบื้องต้น
Gawewat Dechaapinun
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Wat Thai Washington, D.C.
เสนอค่าย
เสนอค่าย
Montira Hokjaroen
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
Tongsamut vorasan
ไตรภูมิ Pdf
ไตรภูมิ Pdf
Mameaw Pawa
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
guestf16531
Dr yong 130331-cheon il guk era-thai
Dr yong 130331-cheon il guk era-thai
Nantawat Wangsan
การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุในพระพุทธศาสนา ๓
การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุในพระพุทธศาสนา ๓
วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
ลิลิตตะเลงพ่าย
ลิลิตตะเลงพ่าย
Mouy Ye Meiyi
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
Wat Thai Washington, D.C.
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
พัน พัน
Tripoom
Tripoom
putchara
คู่มือการใช้งาน Logbook
คู่มือการใช้งาน Logbook
Teacher Sophonnawit
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
Teacher Sophonnawit
Mais conteúdo relacionado
Semelhante a สัมมาทิฏฐิในวงการศึกษา
099+hisp6+dltv54+550112+a+สไลด์ กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย(1หน้า)
099+hisp6+dltv54+550112+a+สไลด์ กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย(1หน้า)
Prachoom Rangkasikorn
กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย+601+55t2his p06 f02-1page
กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย+601+55t2his p06 f02-1page
Prachoom Rangkasikorn
Seang Dhamma Vol. 37 No. 440 December 2011
Seang Dhamma Vol. 37 No. 440 December 2011
Wat Thai Washington, D.C.
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
Padvee Academy
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
niralai
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
Panda Jing
บทที่ 1 ศึกษาความหมายและความเป็นมาของวิชาเทววิทยาเบื้องต้น
บทที่ 1 ศึกษาความหมายและความเป็นมาของวิชาเทววิทยาเบื้องต้น
Gawewat Dechaapinun
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Wat Thai Washington, D.C.
เสนอค่าย
เสนอค่าย
Montira Hokjaroen
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
Tongsamut vorasan
ไตรภูมิ Pdf
ไตรภูมิ Pdf
Mameaw Pawa
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
guestf16531
Dr yong 130331-cheon il guk era-thai
Dr yong 130331-cheon il guk era-thai
Nantawat Wangsan
การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุในพระพุทธศาสนา ๓
การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุในพระพุทธศาสนา ๓
วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
ลิลิตตะเลงพ่าย
ลิลิตตะเลงพ่าย
Mouy Ye Meiyi
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
Wat Thai Washington, D.C.
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
พัน พัน
Tripoom
Tripoom
putchara
Semelhante a สัมมาทิฏฐิในวงการศึกษา
(20)
099+hisp6+dltv54+550112+a+สไลด์ กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย(1หน้า)
099+hisp6+dltv54+550112+a+สไลด์ กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย(1หน้า)
กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย+601+55t2his p06 f02-1page
กรุงรัตนโกสินทร์ยุคประชาธิปไตย+601+55t2his p06 f02-1page
Seang Dhamma Vol. 37 No. 440 December 2011
Seang Dhamma Vol. 37 No. 440 December 2011
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
บทที่ 1 ศึกษาความหมายและความเป็นมาของวิชาเทววิทยาเบื้องต้น
บทที่ 1 ศึกษาความหมายและความเป็นมาของวิชาเทววิทยาเบื้องต้น
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
เสนอค่าย
เสนอค่าย
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
ไตรภูมิ Pdf
ไตรภูมิ Pdf
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
Dr yong 130331-cheon il guk era-thai
Dr yong 130331-cheon il guk era-thai
การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุในพระพุทธศาสนา ๓
การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุในพระพุทธศาสนา ๓
ลิลิตตะเลงพ่าย
ลิลิตตะเลงพ่าย
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
Tripoom
Tripoom
Mais de Teacher Sophonnawit
คู่มือการใช้งาน Logbook
คู่มือการใช้งาน Logbook
Teacher Sophonnawit
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
Teacher Sophonnawit
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
Teacher Sophonnawit
Lookbook teacher
Lookbook teacher
Teacher Sophonnawit
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
Teacher Sophonnawit
แผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fish
Teacher Sophonnawit
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
Teacher Sophonnawit
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
Teacher Sophonnawit
Access m.3 wordlists
Access m.3 wordlists
Teacher Sophonnawit
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
Teacher Sophonnawit
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
Teacher Sophonnawit
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
Teacher Sophonnawit
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
Teacher Sophonnawit
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
Teacher Sophonnawit
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
Teacher Sophonnawit
PA.1 แบบคำขอ
PA.1 แบบคำขอ
Teacher Sophonnawit
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
Teacher Sophonnawit
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
Teacher Sophonnawit
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
Teacher Sophonnawit
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
Teacher Sophonnawit
Mais de Teacher Sophonnawit
(20)
คู่มือการใช้งาน Logbook
คู่มือการใช้งาน Logbook
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
Lookbook teacher
Lookbook teacher
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
แผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fish
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
Access m.3 wordlists
Access m.3 wordlists
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
PA.1 แบบคำขอ
PA.1 แบบคำขอ
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
สัมมาทิฏฐิในวงการศึกษา
1.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ¾ÃÐÀÒǹÒÇÔÃÔ¤س (à¼´ç¨ ·µÚµªÕâÇ) Ãͧ਌ÒÍÒÇÒÊÇÑ´¾ÃиÃÃÁ¡Ò booksummaForPress.indd 1
27/10/2555 12:17:29
2.
สัมมาทิฐิในวงการศึกษา พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว) พิมพ์ครั้งที่
๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ จ�ำนวนพิมพ์ ๔๔,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕ จ�ำนวนพิมพ์ ๕๔,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ครั้งที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๕ จ�ำนวนพิมพ์ ๔๓,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ที่ บริษัท โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์ จ�ำกัด ๑๑๓/๑๓ ซอยวัดสุวรรณคีรี ถนนบรมราชชนนี ำ booksummaForPress.indd 2 27/10/2555 12:17:30
3.
booksummaForPress.indd 3 27/10/2555
12:17:32
4.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔ คํานํา ผูไดชื่อวาเปน “ครู” ยอมมีคุณสมบัติสําคัญยิ่งประการ หนึ่งคือ
“มีความเขาใจถูกตองเกี่ยวกับเรื่องโลกและชีวิต” เพราะหากปราศจากความเขาใจถูกในเรื่องนี้แลว ครูจะไมรู ไมเขาใจความจริงของชีวิตเลยวา ชีวิตนี้เปนทุกขและทุกชีวิต ลวนตกอยูภายใตกฎแหงกรรม คือ ทําชั่วทุกขเพิ่มขึ้น ทําดี ทุกขลดลง ครูจะกลายเปนบุคคลที่มีวินิจฉัยศีลธรรมผิดพลาด ไมมีหลักตัดสินที่ถูกตองวาสิ่งใด “ถูก-ผิด ดี-ชั่ว บุญ-บาป ควร-ไมควร” วินิจฉัยศีลธรรมประจําใจของครูนี้เอง เปนตัว ควบคุมการกระทําทางใจ ทางความคิด ทางวาจาและทางกาย ไมใหละเมิดกฎแหงกรรม ดวยเหตุที่สัมมาทิฐิ ๑๐ มีความสําคัญมากอยางยิ่งนี้ เอง ครูจึงตองหมั่นฝกฝนอบรมตนเองและศิษยดวย การปฏิบัติตามลําดับของสัมมาทิฐิ โดยเริ่มจากสัมมาทิฐิ booksummaForPress.indd 4 27/10/2555 12:17:33
5.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕ ขอที่ ๑ ทานมีผลจริง
จนถึงขอสุดทายคือ พระพุทธเจามีจริง การปฏิบัติสัมมาทิฐิ ๑๐ ขอนี้ ตองปฏิบัติใหสมํ่าเสมอจนกลาย เปนคุณธรรมประจําใจ สัมมาทิฐิหรือความเขาใจถูกเรื่องโลก และชีวิตนี้เอง จึงเปนประดุจแสงเงินแสงทองสองนําทางชีวิต ครู ศิษย และชาวโลกใหประเสริฐ (พระภาวนาวิริยคุณ) รองเจาอาวาสวัดพระธรรมกาย booksummaForPress.indd 5 27/10/2555 12:17:40
6.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๖ สารบัญ องคประกอบของสัมมาทิฐิ ๑๐ ๗ หลักการดําเนินชีวิตครูอยางถูกตอง
๑๐ ประการ ๒๗ แนวทางการปลูกฝงสัมมาทิฐิสําหรับเด็ก ๔๓ หลักการปลูกฝงสัมมาทิฐิ ๕๕ booksummaForPress.indd 6 27/10/2555 12:17:41
7.
องคประกอบของสัมมาทิฐิ ๑๐ booksummaForPress.indd 7
27/10/2555 12:17:43
8.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๘ องคประกอบของสัมมาทิฐิ ๑๐ ก. หลักการดําเนินชีวิตใหเปนสุข
๔ ๑. ทานมีผลจริง (อตฺถิ ทินฺนํ) ๒. การสงเคราะหมีผลจริง (อตฺถิ ยิฏฐํ) ๓. การบูชามีผลจริง (อตฺถิ หุตํ) ๔. ผลวิบากกรรมที่ทําดี-ชั่วมีจริง (อตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก) booksummaForPress.indd 8 27/10/2555 12:17:44
9.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๙ ๑. ทานมีผลจริง ทาน คือ
การให การแบงปน การเสียสละ การเอื้อเฟอ สิ่งที่เปนประโยชนแกกันดวยความเต็มใจ เชน ใหทรัพยสิ่งของ เปนตน การใหความรูที่เปนประโยชน การใหธรรมะ และ การใหอภัยไมถือโทษโกรธขึ้งกัน ก็จัดวาเปนทานชนิดหนึ่ง ยอมมีผลดีจริงแกผูใหและผูรับ คือ ๑) ผูใหยอมเปนที่รักที่พอใจของมหาชน ๒) ผูใหและผูรับยอมเกิดความรักใครปรารถนาดีตอกัน ๓) เปนการปองกันสังคมไมใหเกิดการหวงแหน แลงนํ้าใจ ทานจึงจัดเปนความดีขั้นตนที่ทุกคนตองฝกใหมี booksummaForPress.indd 9 27/10/2555 12:17:44
10.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๐ ๒. การสงเคราะหมีผลจริง การสงเคราะห คือการชวยเหลือกันในยามยาก
ทุกข ของชาวโลกยอมบรรเทาลงไดหากผูคนในสังคมไมทอดทิ้งหรือ ซํ้าเติมกันเองในคราวตกทุกขไดยาก แตพยายามชวยเหลือเกื้อกูล กัน ซึ่งมีผลดีตอผูใหและผูรับ คือ ๑) ผูใหการสงเคราะหยอมปลื้มใจที่ไดทําความดี ๒) ผูรับการสงเคราะหยอมบรรเทาหรือหมดทุกข เห็นทันตา ๓) ผูรับการสงเคราะหยอมสํานึกในบุญคุณ อันจะนํา ไปสูการตอบแทนพระคุณกันอยางไมรูจบ การฝกสงเคราะหใหกันและกันจนเปนนิสัย คือหัวใจ การพัฒนาสังคม booksummaForPress.indd 10 27/10/2555 12:17:44
11.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๑ ๓. การยกยองบูชามีผลจริง บูชาคือการแสดงความเคารพการกราบไหวการยกยอง นับถือบุคคลที่ควรเคารพนับถือ เชน
พระพุทธรูป พระสงฆ บิดามารดา ครูอาจารย ญาติผูใหญ บูชา ทําได ๒ วิธี ๑. บูชาดวยสิ่งของ คือ ปรนนิบัติดูแล ใหคาใชจาย และบูชาดวยดอกไม ธูป เทียน ๒. บูชาดวยการปฏิบัติ คือ ปฏิบัติตามแบบที่ทานทํา คําที่ทานสอนดวยความเต็มใจ เพื่อจะไดมีความดีเชนทานดวย การบูชาบุคคลที่ควรบูชาอยางเหมาะสม ยอมมีผลนํา ความสุข ความเจริญ ความกาวหนามาให ๑) ทําใหใจผองใส ๒) ทําใหมีกําลังใจทําความดีตามทาน การหาโอกาสบูชาบุคคลที่ควรบูชาเปนหนาที่ของผูเรียน booksummaForPress.indd 11 27/10/2555 12:17:45
12.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๒ ๔. ผลวิบากกรรมดี-กรรมชั่วมีจริง ทุกอยางที่คิด ทุกสิ่งที่ทํา
ทุกคําที่พูดดวยเจตนา ลวนเปนกรรม กรรมนั้นยอมมีผลยอนมาถึงตนเอง ใคร ๆ จะ หลีกเลี่ยงก็มิได เพราะมีกฎตายตัววา “ทําดี ไดดี ทําชั่ว ไดชั่ว” ไมวาผูทํากรรมนั้นจะรูจักกฎแหงกรรมหรือไม นั่นคือ กรรมดี ออกผล เปนความสุข-เจริญ กรรมชั่ว ออกผล เปนความทุกข-เสื่อม ดังนั้น เพื่อความสุข-เจริญ ๑) สิ่งเรงดวนที่ตองรูใหชัด คือ ดี-ชั่วตัดสินอยางไร ๒) สิ่งที่ตองเรงปฏิบัติ คือ ละเวนกรรมชั่ว เลือก ทําแตกรรมดี กลั่นใจใหผองใส จนกวาชีวิตจะหาไม booksummaForPress.indd 12 27/10/2555 12:17:45
13.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๓ ข. ความจริงประจําโลก ๖ ๑.
โลกนี้มีจริง (อตฺถิ อยํ โลโก) ๒. โลกหนามีจริง (อตฺถิ ปโร โลโก) ๓. มารดามีจริง (อตฺถิ มาตา) ๔. บิดามีจริง (อตฺถิ ปตา) ๕. โอปปาติกะมีจริง (อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา) ๖. พระพุทธเจามีจริง (อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา) booksummaForPress.indd 13 27/10/2555 12:17:45
14.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๔ ๕. โลกนี้มีจริง คือ
ตัวเรามีที่มาจริง หากเจริญภาวนาถึงระดับหนึ่ง ยอมประจักษแกใจวา ๑) ตัวเราเองเคยเกิดมาแลวนับภพนับชาติไมถวน ๒) การมาเกิดในภพชาตินี้ ไมวาเกิดในสถานภาพใด จะเกิดในครอบครัวรํ่ารวย-ยากจน ตระกูลสูง-ตํ่า สุขภาพ ดี-ขี้โรค รูปสวย-ทราม สติปญญาดี-ทราม ฯลฯ ลวนเปนผลจากกรรมเกาชาติที่แลว ๆ สงมา หาใช เกิดขึ้นเองหรือผูใดบันดาล เพราะทุกคนลวนมีกรรม เปนของตน เปนทายาทแหงกรรม มีกรรมเปนกําเนิด มีกรรม เปนเผาพันธุ ๓) เมื่อแรกเกิดทุกคนยังไมเปนคนดีหรือชั่วตาม พอแม ยังเปนกลาง ๆ อยู ตอเมื่อไดทํากรรมดี ก็เปนคนดี ไดทํากรรมชั่ว ก็เปนคนชั่ว ตามกรรมที่ตนเองทําขึ้นใหมชาตินี้ คนฉลาดจึงเลือกทําแตกรรมดี เวนกรรมชั่วโดยเด็ดขาด booksummaForPress.indd 14 27/10/2555 12:17:45
15.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๕ ๔) ความเปนทุกข-ตกตํ่าในชาตินี้ เปนผลของ กรรมชั่วใหมในชาตินี้
รวมกับผลกรรมชั่วเกาในอดีตที่ยังติดตาม มาตัดรอน ความสุข-เจริญในชาตินี้ เปนผลของกรรมดีใหม ชาตินี้ รวมกับผลกรรมดีเกาที่สั่งสมไวในชาติที่แลว ๆ ตามมาสมทบ เพราะทุกคนลวนมีกรรมของตนเปนที่พึ่งอาศัย หาใชผูใดบันดาล booksummaForPress.indd 15 27/10/2555 12:17:47
16.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๖ ๖. โลกหนามีจริง คือ
ตายแลวไมสูญ ตราบใดที่ยังไมหมดกิเลส ตายแลวตางคนตางยัง ตองไปเกิดใหมในภพหนาอีกตามกรรมดี-ชั่วที่ตนทําไว นั่นคือ กรรมเกาชาติที่แลว ๆ สงผลใหมาเกิดในภพชาตินี้ กรรมใหมในชาตินี้และชาติที่แลว ๆ สงผลใหไปเกิด ในภพชาติหนา กรรมใหมชาติหนาและชาตินี้ รวมทั้งชาติที่แลว ๆ สงผลใหไปเกิดในภพชาติตอๆ ไป ๖.๑ เพื่อความเจริญรุงเรืองทั้งภพนี้-ภพหนา หลัง การเจริญภาวนาเชา-คํ่า พึงกลาวคําปฏิญาณเตือนตนให ประพฤติปฏิบัติตามหลักการดําเนินชีวิตของชาวพุทธ คือ ๑) การละกรรมชั่วทั้งกาย-วาจา-ใจทุกชนิด ๒) การหาโอกาสทําความดีทั้งหลายใหถึงพรอม ๓) การกลั่นใจใหผองใสไมลดละ booksummaForPress.indd 16 27/10/2555 12:17:47
17.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๗ นั่นคือ เลี้ยงชีพดวยการงานปราศจากบาป โดยเด็ดขาด ยิ่งทํางาน
ใจยิ่งตองผองใส ไดประโยชนทั้ง สวนตนและสวนรวมตลอดไป ๖.๒ ขวนขวายบําเพ็ญกุศลใหมตลอดชีวิต ไมวาชีวิต จะรุงเรืองหรือตกตํ่า ก็ทําบุญมิไดขาด โดยถือหลักวา เชาใด ยังไมไดใหทาน เชานั้นจะยังไมกินอาหาร วันใด ยังไมไดสมาทานศีล วันนั้นจะไมออกจากบาน คืนใด ยังไมไดเจริญภาวนา คืนนั้นจะยังไมเขานอน ทุกวันพระก็ตั้งใจรับอุโบสถศีล ฟงธรรม ทุกวันสําคัญทางศาสนาตั้งใจประกอบบุญใหญไมเวน เพราะตระหนักวา บุญเปนพลังงานบริสุทธิ์ ชําระใจให สะอาดได กําจัดกิเลสใหเบาบางลงได เปนทางใหใจคลายทุกข นําความสุขนานามาใหได และเปนเหตุใหอายุยืน booksummaForPress.indd 17 27/10/2555 12:17:48
18.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๘ ๖.๓ เสร็จการบุญแตละครั้ง ก็ตั้งแผนการสรางบุญใหญ ดวยการอธิษฐานใชบุญเกาตอบุญใหมตอๆ
กันไป เชน ดวยอํานาจแหงทานกุศลนี้ จงมีผลใหไมตองอดอยาก ยากจน ไดโอกาสพามหาชนสรางมหาทานยิ่ง ๆ ขึ้นไปใน พระพุทธเจาและเหลาพระอรหันตเบื้องหนา ทุกภพชาติจนกวา จะเขานิพพาน ดวยอํานาจแหงบุญอันเกิดจากการรักษาศีลดีแลวนี้ จงสงผลใหไดเพศบริสุทธิ์ ไดลักษณะมหาบุรุษครบครันพอใจ การบวชประพฤติพรหมจรรยตลอดกาลตราบวันบรรลุนิพพาน เทอญ ดวยอํานาจแหงการฟงธรรมอันประเสริฐนี้ จงสง ผลใหเปนผูพอใจในการพบเห็น - ฟงธรรม - พิจารณาธรรม ตั้งใจปฏิบัติธรรมตามพระอริยเจายิ่ง ๆ ขึ้นไป ทุกภพทุกชาติ อยารูเบื่อหนายจนกวาจะไดบรรลุนิพพาน ฯลฯ booksummaForPress.indd 18 27/10/2555 12:17:48
19.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๑๙ ๗. มารดามีพระคุณจริง มารดามีพระคุณตอบุตรอเนกอนันต เพราะเปนผูให กําเนิดกายมนุษย
เลี้ยงดูบุตรจนเติบใหญ อบรมสั่งสอนบุตร ใหเขาใจความจริงของโลกและชีวิต และหามบุตรทําชั่ว เลือก แตประพฤติชอบ อยูในกรอบศีลธรรม กอใหเกิดเปนนิสัยดี และ คุณธรรมประจําใจอันจะนําไปสูความสุข-เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ผูเรียนเจาปญญาจึงตองฝกแสดงความกตัญูรูคุณ ตอมารดาและฝกตอบแทนพระคุณทานดวยการทําสิ่งที่เปน ประโยชนสุขตอทานจนตลอดชีวิต แตมารดายอมมีโทษมหันต หากไมอบรมสั่งสอนบุตรใหเปนคนใฝดี booksummaForPress.indd 19 27/10/2555 12:17:48
20.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๐ ๘. บิดามีพระคุณจริง บิดาก็มีพระคุณตอบุตรอเนกอนันตเชนเดียวกับมารดา สวนทานใดจะมีพระคุณมากกวากันก็ขึ้นกับความทุมเทเสียสละ ของทานในการเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนบุตรใหเปนคนดีมี ศีลธรรมนั่นเอง งานเรงดวนของบิดามารดาทุกคน
คือ ๑) ตองเตรียมฝกตัว อบรมใจใหพรอมเพื่อการเลี้ยงดู บุตรและการเปนตนแบบคุณธรรมศีลธรรม จริยธรรมแกบุตร ตั้งแตตน ตลอดจนจัดเตรียมสภาพสิ่งแวดลอมที่ดีไวใหพรอม ๒) ตองฝกบุตรใหคุนตอความดีสากลขั้นพื้นฐาน ๔ ประการตั้งแตยังนอนแบเบาะ โดยไมเห็นแกความเหนื่อย ยากใด ๆ คือ ๑. รักความสะอาด ๒. รักความเปนระเบียบ ๓. รักความสุภาพนุมนวล ๔. รักความตรงตอเวลา booksummaForPress.indd 20 27/10/2555 12:17:49
21.
เมื่อบุตรรูความก็ยํ้าปฏิบัติตอไป ความดีสากลพื้นฐาน ๔ ประการก็จะพัฒนาเปนนิสัยดี
ๆ พื้นฐาน ๓ คือ ๑. นิสัยรักการควบคุมตัวเอง ๒. นิสัยรักการพึ่งตนเอง ๓. นิสัยรักการจับถูก ๓)พัฒนานิสัยดีๆทั้งสามนั้นผานกิจกรรม๕หองชีวิต๑ โดยไมคิดทอแทและสุดทายก็กลายเปนความมีวินัยความอดทน และความเคารพ แลวสงตอไปเพิ่มพูนความรูความดีอีก ที่โรงเรียนเพื่อใหมีนิสัยบัณฑิต๕๒ พรอมเปนมิตรแทแกมหาชน เมื่อเติบใหญ บุตรจึงสมควรกราบไหวบูชาบิดา-มารดา ผูเปน เสมือนพระอรหันตในบานและชวยแบงเบาภาระของทานให เต็มกําลัง หลังทําการบานที่ครูมอบหมายแลวเปนประจําทุกวัน ๑. ๕ หองชีวิตประกอบดวย หองนอน หองนํ้า หองแตงตัว หองอาหาร และหองทํางาน ๒. นิสัยบัณฑิต ๕ ประกอบดวย นิสัยใฝควบคุมตนเอง, นิสัยใฝรักษา สุขภาพ, นิสัยใฝเรียนรู, นิสัยใฝทําดีตามกฎแหงกรรม และนิสัย ใฝเจริญภาวนา booksummaForPress.indd 21 27/10/2555 12:17:49
22.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๒ ๙. โอปปาติกะมีจริง โอปปาติกะสัตว คือ
สัตวที่ผุดเกิดขึ้นมา ก็โตเต็มที่ทันที ทันใด โดยไมตองมีมารดาบิดา เกิดดวยอํานาจกรรมที่แรงมาก ซึ่งตนเคยทําไวสมัยเปนมนุษย ครั้นถึงคราวตายรางกายก็ สลายวับโดยไมมีซากเหลือโอปปาติกะแบงออกเปน ๒ ประเภท ประเภทที่ ๑ สมัยเปนมนุษยทํากรรมชั่วมาก ตายไป แลวเกิดเปนสัตวนรก ซึ่งมีรูปรางนาเกลียดนากลัวมาก และ อยูในนรกซึ่งมีสภาพทุกขทรมานมาก คือทุกขยิ่งกวาคุกในโลก อยางเทียบไมได ประเภทที่ ๒ ทํากรรมดีมากไปเกิดเปนเทวดานางฟา ซึ่งมีรูปรางงดงามมากและอยูในสวรรค ซึ่งอยูในสภาพเปน สุขมากแมสุขของพระเจาจักรพรรดิ์ก็เทียบไมได สภาพสุข-ทุกขของสัตวนรกและชาวสวรรคแตกตางกัน มากก็จริง แตทั้งคูเหมือนกันคือ อายุยืนมาก คืออายุเกินแสน เกินลาน เกินโกฏิปก็มี booksummaForPress.indd 22 27/10/2555 12:17:50
23.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๓ พระสัมมาสัมพุทธเจาตรัสเลาเรื่องนี้ดวยมหากรุณา เพราะปรารถนาจะใหชาวโลกมีกําลังใจในการละกรรมชั่ว โดยเด็ดขาด และทุมเททํากรรมดีดวยชีวิต จะไดเปนสุขนานๆ ในสวรรค
และไดโอกาสวางแผนทําความดีใหรัดกุมเต็มที่ เมื่อคราวกลับมาเกิดเปนมนุษย สภาพรางกายที่แตกตางกันโดยสิ้นเชิงระหวาง มนุษยกับสัตวนรกหรือมนุษยกับเทวดา แมเปนบุคคลเดียวกัน ก็ตาม อาจเปรียบเทียบไดกับสัตวบางชนิด แมเปนสัตว ตัวเดียวกัน แตในวงจรชีวิตของมันมีสภาพรางกายและ สถานที่อยูแตกตางกันโดยสิ้นเชิง เชน ยุงกับลูกนํ้า กบกับ ลูกออด หรือแมลงวันกับหนอน เปนตน ผูเรียนจึงตองหมั่นคํานึงถึงเรื่องโอปปาติกะใหมาก เพื่อเตือนสติตนเองใหละชั่ว ทําดีดวยชีวิต และเตือนสติ ใหหมั่นฝกสมาธิมากๆ เพื่อมีโอกาสไดเห็นนรก-สวรรคตาม พระอรหันตและกําจัดกิเลสใหสิ้นไปตามทานดวย booksummaForPress.indd 23 27/10/2555 12:17:50
24.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๔ booksummaForPress.indd 24 27/10/2555
12:17:51
25.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๕ ๑๐. พระพุทธเจามีจริง เปนธรรมชาติวา หากสมณพราหมณหรือใครก็ตาม ไมจํากัดดวยเชื้อชาติ
หากตั้งใจประพฤติดีปฏิบัติชอบ ไมละเมิดกฏแหงกรรม มุงกลั่นใจใหผองใสเปนนิจดวยชีวิต ยอมสามารถรูแจงแทงตลอดในโลกนี้โลกหนาไดดวยปญญา อันยิ่งเอง อาศัยความเมตตากรุณาอยางยิ่งของทาน ทาน ยอมสามารถสอนชาวโลกใหรูแจงตามได บุคคลมีความดีงามพรอมเชนนี้ มีอยูในโลก บางยุคสมัยจริง ชาวโลกเรียกทานดวยความเคารพ อยางยิ่งวาพระพุทธเจา หากใครมีโชคไดพบพระองคแลว ตั้งใจฟงธรรม พิจารณาธรรม ปฏิบัติสมควรแกธรรม ยอม หมดทุกขโดยเด็ดขาดตามทานไดอยางแนนอน booksummaForPress.indd 25 27/10/2555 12:17:51
26.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๖ บัดนี้แมพระพุทธเจาจะดับขันธปรินิพพานนานแลว แตคําสอนของพระองคทานยังอยู จึงสมควรรีบเรงศึกษา พระธรรมคําสอนและฝกหัดขัดเกลาตนเองตามทาน ยอมบรรลุธรรมตามทานวันหนึ่งจนได พรอมกับหมดทุกข หมดกิเลสโดยสิ้นเชิง booksummaForPress.indd
26 27/10/2555 12:17:56
27.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๗ หลักการดําเนินชีวิตครูอยางถูกตอง ๑๐ ประการ booksummaForPress.indd
27 27/10/2555 12:17:58
28.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๘ booksummaForPress.indd 28 27/10/2555
12:17:59
29.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๒๙ หลักการดําเนินชีวิตครูอยางถูกตอง ๑๐ ประการ ๑. ทานมีผลจริง ๑.
มุงมั่นถายทอดความรูทั้งทางโลกและทางธรรมให แกศิษยดวยความปรารถนาดีตอศิษยอยางบริสุทธิ์ใจที่จะให ศิษยเปนคนดีที่โลกตองการประสบความสุขความเจริญรุงเรือง ในชีวิต ๒. แบงปนความรูทั้งทางโลกและทางธรรม รวมทั้ง ประสบการณในวิชาชีพครู ตลอดจนเทคโนโลยีสมัยใหม ในวงการศึกษาใหแกเพื่อนครูดวยความจริงใจ ๓. รวมมือในการทํากิจกรรมตางๆ เพื่อประโยชนของ โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเปนสวนรวม โดยไมเห็นแก ความเหนื่อยยากและโดยไมขาดตกบกพรอง booksummaForPress.indd 29 27/10/2555 12:18:00
30.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๐ ๔. สละเวลาในการถายทอดความรูดานวิชาการ หรือ ปลูกฝงอบรมศีลธรรมใหแกเด็กบางคน
บางกลุมที่มีปญหาเปน กรณีพิเศษดวยจิตเมตตา ๕. เมื่อมีปญหากระทบกระทั่งกันในหมูเพื่อนรวมงาน ก็พยายามใหอภัยกันเสมอ เพื่อความรักสามัคคีระหวางเพื่อน รวมงาน และเพื่อเปนแบบอยางที่ดีแกบรรดาลูกศิษย การประพฤติปฏิบัติเหลานี้ ถือไดวาเปนการทําทาน ในอีกลักษณะหนึ่งของผูมีอาชีพครู ซึ่งมีผลดีอยางแทจริง booksummaForPress.indd 30 27/10/2555 12:18:00
31.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๑ ๒. การสงเคราะหมีผลจริง ๑. สงเคราะหนักเรียนที่มีปญหาตางเพื่อใหสามารถ เรียนไดจบหลักสูตร
ดวยวิธีการที่เหมาะสม เชน นักเรียนที่ ขาดแคลนทุนเลาเรียน ก็อาจหางานพิเศษใหทํา หาทุนอุดหนุน การศึกษาจากองคกรของรัฐและเอกชนให เปนตน ๒. สงเคราะหนักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดีแต ยากจน ดวยการสละเวลาสอนพิเศษให เพื่อสงเขาสอบแขงขัน ชิงทุนการศึกษาเรียนตอในประเทศหรือตางประเทศหลังจาก จบการศึกษาในโรงเรียนที่กําลังเรียนอยู ๓. เมื่อเพื่อนครูหรือบุคลากรในโรงเรียนตางประสบ ปญหาจากอุบัติเหตุ หรือภัยธรรมชาติก็ตองชวยกันสงเคราะห อยางสุดความสามารถ เปนตน การประพฤติปฏิบัติเหลานี้ ถือไดวาเปนการสงเคราะห เพื่อนมนุษยดวยกัน ยอมมีผลดีอยางแนนอน ผูประพฤติปฏิบัติ ยอมชื่อวามีสัมมาทิฐิอยางแทจริง booksummaForPress.indd 31 27/10/2555 12:18:00
32.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๒ ๓. การยกยองมีผลจริง ๑. ครูควรมองหาคุณธรรมความดีและความสามารถ ทั้งของผูบริหารซึ่งเปนหัวหนาของตน
และเพื่อนครูผูรวมงาน ทุกคน ขณะเดียวกันก็พึงมีทัศนคติที่ดีตอทุกคน เมื่อเห็นใคร ทําดีทําถูกตองก็ควรกลาวยกยองสรรเสริญตามความเหมาะสม บุคคลที่มีนิสัยเชนนี้ ยอมสามารถเขากันไดกับผูรวมงานทุกคน ยอมสามารถประกอบอาชีพไดดวยความสบายใจ และมีโอกาส เจริญรุงเรืองในหนาที่การงาน ๒. ครูตองไมนินทาวารายผูบริหารใหนักเรียนฟง เพราะจะทําใหนักเรียนขาดความเคารพผูบริหาร และอาจไมมี ความรูสึกภาคภูมิใจในสถานศึกษาของตน ๓. ครูตองไมนินทาวารายเพื่อนครูใหนักเรียนฟง เพราะ ก. ถานักเรียนเชื่อผูนินทาก็จะรังเกียจหรือไมเคารพ นับถือครูผูถูกนินทา booksummaForPress.indd 32 27/10/2555 12:18:01
33.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๓ ข.นักเรียนที่ไดรับการปลูกฝงนิสัยรักการปฏิบัติตาม มรรคมีองค ๘ แลว
จะมองวา ผูนินทาผิดศีล ไมนาเคารพ ค. ความลับในโลกไมมี ผูถูกนินทายอมรูวาใคร นินทาตน ซึ่งจะเปนเหตุปจจัยใหเกิดปญหาตางตามมาอีกมาก เชน ครูผูนินทาจะกลายเปนแกะดําในหมูเพื่อนครู เปนตน ๔. ครูตองไมแสดงความลําเอียงตอนักเรียน ดวย การพูดจาไพเราะกับนักเรียนที่เกงและดี เมื่อทําผิดพลาด แต ใชถอยคําตําหนิติเตียนรุนแรงหรือหยาบคายกับเด็กที่เรียนออน ยากจน แทนที่จะใชคํานุมนวล ออนโยน อยางไรก็ตาม ครูตองระลึกอยูเสมอวา การทํางานรวม กับมวลชนหรือคนหมูมากจะประสบความสําเร็จอยางแทจริงไม วาดานใดก็ตามจําเปนตองรูหลักจิตวิทยาเปนอยางดี การที่ครูประพฤติตอผูคนตางๆ ไมวาเด็กหรือผูใหญ ในเชิงยกยอง ยอมมีผลดีตอทุกฝาย booksummaForPress.indd 33 27/10/2555 12:18:01
34.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๔ ๔. กฎแหงกรรมมีผลจริง ๑. ครูตองศึกษาเรื่อง
กฎแหงกรรม ใหเขาใจในระดับ โยนิโสมนสิการเปนอยางนอย เพื่อใหสามารถอธิบายเกี่ยวกับ พฤติกรรมตางๆ ของคนเราดวยกฎแหงเหตุและผล ถาเปน เชนนี้ก็จะชวยใหครูมีศรัทธามั่นในกฎแหงกรรม ซึ่งนอกจาก จะชวยใหครูตั้งมั่นอยูในสัมมาทิฐิแลว ยังจะสามารถอธิบาย เรื่อง กฎแหงกรรมไดอยางมีประสิทธิผลเสมอ ๒. เมื่อครูมีศรัทธามั่นในกฎแหงกรรม ตั้งมั่นใน สัมมาทิฐิเปนคุณสมบัติประจําตัวแลว ก็พึงพัฒนาตนใหมีนิสัย รักการปฏิบัติตามมรรคมีองค ๘ และปฏิบัติสัมมาสมาธิเปน ประจํา ถาปฏิบัติไดถูกวิธีตามที่ครูบาอาจารยอบรมสั่งสอน ยอมประสบความกาวหนาถึงขั้นบรรลุฌานระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะสามารถพิสูจนกฎแหงกรรมไดดวยตนเอง ถาเปน เชนนั้น การทําหนาที่ปลูกฝงนิสัยรักการปฏิบัติตามมรรค มีองค ๘ ใหแกศิษยก็จะมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น booksummaForPress.indd 34 27/10/2555 12:18:01
35.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๕ ๓. ครูพึงระลึกเสมอวา เรื่องกฎแหงกรรมคือหัวใจของ สัมมาทิฐิ
ถาครูสามารถปลูกฝงอบรมศิษยทั้งมวลใหมีศรัทธา มั่นคงในเรื่องกฎแหงกรรมได ยอมมั่นใจไดวาศิษยเหลานั้น จะเปนคนดีมีสัมมาทิฐิระดับตน หนาที่ตอไปของครูก็คือจะตอง ตอกยํ้าใหศิษยมีสัมมาทิฐิมั่นคงยิ่งขึ้น กลาวไดวาการปลูกฝงอบรมศิษยทั้งมวลใหเปนคนดี มั่นคงอยูในสัมมาทิฐิ คือกรรมดีที่ครูไดทําทั้งเพื่อตนเอง สังคม และประเทศชาติโดยรวม ยอมมีผลดีตอตัวครูเอง และทุกฝาย ดังกลาวมาแลวอยางแนนอน booksummaForPress.indd 35 27/10/2555 12:18:02
36.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๖ ๕. โลกนี้มี (ที่มาจริง) เหตุแหงความเจริญกาวหนาหรือความเสื่อมในอาชีพ ครูของตนในปจจุบันนี้
ลวนเปนผลมาจากการดําเนินชีวิต ของครูในชวงเวลาที่ผานมา วาเปนไปตามสัมมาทิฐิ ๔ ประการ แรกหรือหลักการดําเนินชีวิตใหเปนสุข ๔ หรือไมเพียงใด ประการหนึ่ง ประกอบกับวิบากแหงบาปกรรมในชาติปางกอน ที่ตามมาตัดรอน อีกประการหนึ่ง ดังนั้น เมื่อมั่นใจวาตนครองชีวิตถูกตองตามหลัก การดําเนินชีวิตใหเปนสุข ๔ แลว แตไมไดรับผลตอบแทน ดานตําแหนงหนาที่การงานตามที่คาดหวัง ก็จะตองไมทอใจ จงพากเพียรทําใหดียิ่งขึ้นไปอีก คิดเสียวาอยางนอยก็เปน บุญกุศลที่ไดทําแลวในชาตินี้ booksummaForPress.indd 36 27/10/2555 12:18:02
37.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๗ ๖. โลกหนามี (ที่ไปจริง) ความเจริญหรือความเสื่อมในอาชีพครูของตนในอนาคต ขึ้นอยูกับความเขมงวดกวดขันตนเองทั้งในดานนิสัยสวนตัว และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในหนาที่
วาเปนไปตาม หลักการดําเนินชีวิตใหเปนสุข ๔ มากนอยเพียงใด นับแตบัดนี้ เปนตนไป รวมกับผลในขอ ๕ อีกดวย เมื่อมีแนวคิดเชนนี้แลวครูก็ตองไมตั้งอยูในความประมาท จําเปนตองพิจารณาตรวจสอบ แกไขและพัฒนาการปฏิบัติงาน ในหนาที่ของตนประการหนึ่ง พิจารณาตรวจสอบ แกไขและ พัฒนาลักษณะนิสัยของตนอีกประการหนึ่งขณะเดียวกันก็สอน ใจตนเองอยูเสมอวา ความสําเร็จในชีวิตของครูนั้น ตองอยูที่ คุณภาพและคุณธรรมของศิษยทั้งมวลเปนสําคัญ มิไดอยูที่ ตําแหนงลาภหรือยศ โดยสวนตัว อยางไรก็ตามถาครูไดทุมเท ชีวิตปฏิบัติหนาที่เพื่อความเจริญกาวหนาของศิษยทั้งมวลแลว ความเจริญกาวหนาจะเกิดขึ้นแกตัวครูเอง เปนไปตามกฎแหงกรรม booksummaForPress.indd 37 27/10/2555 12:18:02
38.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๘ ๗. มารดามีจริง ครูตองมีความกตัญูกตเวทีตอมารดา ครู
- อาจารย และผูมีพระคุณ การปฏิบัติเชนนี้ นอกจากเปนคุณธรรมหรือ กรรมดีของครูโดยตรงแลว ยังเปนแบบอยางดานคุณธรรม ใหแกบุตร ธิดา ลูกศิษย และคนรอบขางอีกดวย booksummaForPress.indd 38 27/10/2555 12:18:04
39.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๓๙ booksummaForPress.indd 39 27/10/2555
12:18:09
40.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๐ ๘. บิดามีจริง ครูตองมีความกตัญูกตเวทีตอบิดา ครู-
อาจารยและ ผูมีพระคุณนอกจากครูจะปฏิบัติตามเปนตนแบบดานคุณธรรม ใหแกบุตรธิดา ลูกศิษยและคนรอบขางแลว ครูจําเปนจะตอง แนะนําสั่งสอนอบรมใหศิษยตระหนักถึงคุณของบิดาไมยิ่งหยอน ไปกวามารดาอีกดวยทั้งนี้เพราะในสภาพสังคมปจจุบันมีปญหา ครอบครัวแตกแยกเกิดขึ้นทุกสังคม บุตรสวนใหญจะใกลชิด สนิทสนมกับมารดา หางไกลกับบิดาหรือในบางครอบครัวที่ บิดาจมอยูกับอบายมุขก็มักจะทําทารุณโหดรายตอมารดาทําให บุตรบางคนถึงกับเกลียดชังบิดาของตนก็มี ดังนั้น จึงเปนหนาที่ของครูในการปลูกฝงชี้แนะใหเด็ก มีความเขาใจและความคิดถูกตองเกี่ยวกับเรื่องพระคุณของ บิดา ปองกันมิใหเด็กมีบาปกรรมติดตัวไป เพราะมีความคิดเห็น เปนมิจฉาทิฐิเกี่ยวกับพระคุณของบิดา ครูที่สามารถเปลี่ยนทิฐิ ของศิษยได ยอมถือวาเปนความสําเร็จในชีวิตครู booksummaForPress.indd 40 27/10/2555 12:18:09
41.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๑ ๙. สัตวที่เกิดแบบโอปปาติกะมีจริง ครูที่ทุมเทชีวิตเพื่อปลูกฝงอบรมเหลาศิษยใหเปนคนดี มีสัมมาทิฐิอยางมั่นคง รูจักเสียสละทํางานเพื่อสวนรวม ดวยความบริสุทธิ์ใจ
ขณะเดียวกัน ครูเองก็ทําตนเปนตนแบบ ศีลธรรมและคุณความดีทุกอยางทุกประการที่ครูพรํ่าสอน ศิษย ครูประเภทนี้แมหายากแตก็มีอยูจริง จึงกลาวไดวา ครูที่ เปนมนุสเทโว คือเปนมนุษยแตมีนํ้าใจเยี่ยงเทวดานั้นมีอยูจริง ครูประเภทนี้ยอมเปนปูชนียบุคคลใหแกมนุษยและเทวดาได กราบไหวทั้งโลกนี้และโลกหนา booksummaForPress.indd 41 27/10/2555 12:18:12
42.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๒ ๑๐. พระพุทธเจาผูเปนบรมครูของสัตวโลกมีจริง ครูผูประสบความสําเร็จในชีวิตครู คือครูผูอุทิศชีวิตเพื่อ ทําหนาที่ปลูกฝงอบรมบมนิสัยศิษยของตนใหมีนิสัยบัณฑิต
๕ มีความรับผิดชอบตอตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และพระพุทธศาสนา ดวยมีความคิดวาการทํางานในหนาที่ของ ตนทุกอยางทุกประการ ลวนเปนการสั่งสมบุญบารมีใหแก ตนเองเยี่ยงพระโพธิสัตว อยางไรก็ตามมีครูบางคนทําหนาที่การงานในตําแหนง เสมือนเปนงานอดิเรก เบียดบังเวลาราชการ หรือเวลาใน ตําแหนงหนาที่ไปทําธุรกิจสวนตัวหลายรูปแบบแมอยูที่โรงเรียน ก็ทําหนาที่ครูเฉพาะอยูในหองเรียนเทานั้น เมื่อกาวพนจาก หองเรียน จิตใจก็พะวักพะวนอยูกับเรื่องธุรกิจ ครูประเภทนี้ ถาบังเอิญเปนที่โปรดปรานของผูบริหาร ยอมมีความเจริญ รุงเรืองในตําแหนงหนาที่ แตครูประเภทนี้ก็ไมถือวาประสบ ความสําเร็จในอาชีพครู booksummaForPress.indd 42 27/10/2555 12:18:15
43.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๓ แนวทางการปลูกฝังสัมมาทิฐิสําหรับเด็ก booksummaForPress.indd 43 27/10/2555
12:18:18
44.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๔ แนวทางการปลูกฝงสัมมาทิฐิสําหรับเด็ก สัมมาทิฐิประกอบดวยองคธรรม ๑๐ ประการ
คือ ๑. ทานมีผลจริง ๒. การสงเคราะหมีผลจริง ๓. การบูชามีผลจริง ๔. ผลวิบากกรรมที่ทําดี-ชั่วมีจริง ๕. โลกนี้มีจริง (มีที่มา) ๖. โลกหนามีจริง (ตายแลวไมสูญ) ๗. มารดามีพระคุณจริง ๘. บิดามีพระคุณจริง ๙. โอปปาติกะมีจริง ๑๐. พระพุทธเจามีจริง booksummaForPress.indd 44 27/10/2555 12:18:19
45.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๕ สัมมาทิฐิ ๑๐ ประการนี้
แบงออกไดเปน ๒ กลุม ไดแก กลุมที่ ๑ ขอ๑-๔คือหลักการดําเนินชีวิตใหเปนสุข๔ประการ กลุมที่ ๒ ขอ ๕-๑๐ คือ ความจริงประจําโลก ๖ ประการ องคธรรมในกลุมที่ ๑ คือ ขอ ๔ ซึ่งชาวพุทธเรียกวา กฎแหงกรรม และคุนกับพุทธพจนวา “ทําดีไดดี ทําชั่วไดชั่ว” เรื่องกฎแหงกรรมนี้ เปนองคธรรมที่เดนกวาองคธรรม ๓ ขอแรกเพราะเปนเรื่องของเหตุและผล ซึ่งอภิปรายใหเกิด ความเขาใจไดงาย โดยเฉพาะอยางยิ่งเด็กโต เพราะมีเรื่องราว มากมายพิสูจนใหเห็นไดในชีวิตประจําวัน เชน เด็กที่เกียจคราน การเรียนยอมสอบตก นักเรียนวัยรุนที่เปนอันธพาลปลนจี้ booksummaForPress.indd 45 27/10/2555 12:18:19
46.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๖ ชาวบาน ยอมถูกตํารวจจับ เปนตน
แตผูที่ยังไมเชื่อ กฎแหง กรรมเต็มหัวใจ ก็คงจะเปนบรรดาผูใหญที่มีขอสงสัย เนื่องจาก ยังขาดการศึกษาและปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนาอยาง จริงจังนั่นเอง ซึ่งจะไมขอกลาวในที่นี้ การปลูกฝงอบรมเด็ก ๆ ใหมีสัมมาทิฐิเปนคุณธรรม ประจําใจ ควรประกอบดวยองค ๓ คือ ๑. ปลูกฝงความรูความเขาใจองคธรรมในองคมรรค ตางๆ ใหแกเด็ก ๆ ในเชิงทฤษฎีดวยการอภิปรายโดยใชวิธี ปุจฉา-วิสัชนา เพื่อกระตุนเด็ก ๆ ใหใชปญญาคิดพิจารณา รายละเอียดในองคธรรมแตละขอ จนกระทั่งเด็ก ๆ มองเห็น ขอดีหรือประโยชนอยางแทจริงของเรื่องที่อภิปราย และยอมรับ ไปปฏิบัติในชีวิตจริง booksummaForPress.indd 46 27/10/2555 12:18:19
47.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๗ ๒. ผูใหญควรมีกุศโลบายจัดกิจกรรมเพื่อใหเด็ก ๆ
ได นํารายละเอียดในองคมรรคตาง ๆ ซึ่งไดอภิปรายกันมาแลว มาปฏิบัติในชีวิตประจําวันใหเกิดเปนนิสัย ๓. ชักชวนใหเด็กฝกสมาธิภาวนาพรอมกับผูใหญ ทุก ๆ วัน ทั้งที่บานและที่โรงเรียนจนเกิดเปนนิสัย การทําสมาธิ ภาวนายอมเปนการปฏิบัติมรรคองคที่ ๗ และ ๘ ไปพรอม ๆ กัน เด็ก ๆ ที่มีประสบการณภายในแมเพียงจิตสงบอยางตอ เนื่องสักระยะหนึ่ง ทั้งสติและปญญาของเขาก็จะพัฒนาขึ้นมา ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะชวยใหพวกเขาเขาใจหัวขอธรรมในองค มรรคตาง ๆ ที่อภิปรายกันมาแลวดียิ่งขึ้น มีความเขาใจถูกตอง ถองแทขึ้นวาสิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว สิ่งใดควร สิ่งใดไมควร สิ่งใดผิด สิ่งใดถูก ขณะเดียวกันก็มีสติควบคุมตนเองทั้งทางกายและ วาจา มิใหกระทําสิ่งที่ชั่ว สิ่งที่ไมควร สิ่งที่ผิด พรอมกันนั้น booksummaForPress.indd 47 27/10/2555 12:18:19
48.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๘ ก็อยากกระทําสิ่งดีๆ สิ่งที่ควรและถูกตอง เพราะเชื่อมั่นวา จะไดรับการยอมรับและชื่นชมจากบุคคลทั่วไป การสอนสมาธิกลุมแรก
ควรยึดเรื่องหลักเหตุผล เปนมาตรฐานการดําเนินการอภิปรายอาจจะยกองคธรรม ขอใดขอหนึ่งใน ๓ ขอแรกขึ้นมาตั้งเปนคําถามก็ได เชน ถาเปนเด็กอนุบาลอาจถามวา ก. “หนูรูสึกอยางไร ถามีเพื่อนคนหนึ่งใหขนมอรอย ๆ รับประทานทุกวัน” คําตอบของเด็กแตละคนอาจใชถอยคํา แตกตางกันไป แตเชื่อมั่นวาจะเปนไปในเชิงบวกทั้งสิ้น ข. “หนูรูสึกอยางไร ถามีเพื่อนมาชวยขณะที่กําลังหิ้ว ถังนํ้าหนัก ๆ” แนนอนวาคําตอบของเด็กแตละคนจะเปนไป ในเชิงบวก ค. “หนูรูสึกอยางไร ถามีเพื่อนคนหนึ่งขโมยดินสอของ หนูไป” คําตอบจากเด็กทุกคนยอมเปนไปในเชิงลบ booksummaForPress.indd 48 27/10/2555 12:18:20
49.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๔๙ เมื่อถามคําถามในลักษณะนี้หลาย ๆ คําถามแลว
ผูใหญ พึงสรุปวา ถาเราทําดีกับผูอื่น เขาก็รักและชอบเรา แตถาเรา ทําไมดีกับเขาเขาก็เกลียดเราไมชอบเราไมอยากคบหาสมาคม กับเรา พรอมกันนั้นก็ตั้งคําถามใหมวา“ใครเห็นดวยใหยกมือขึ้น” ถามีเด็กไมยกมือ (ซึ่งไมนาจะมี) ผูใหญตองขอใหเขาอภิปราย จากคําถามชุดแรก ผูใหญก็สามารถโยงเขามาสู ๓ เรื่อง คือ ๑. ทานมีผลจริง ๒. การสงเคราะหมีผลจริง ๓. กฎแหงกรรมมีจริง ครั้นแลวตั้งคําถามใหม เชน ง. “หนูรูสึกอยางไร ถามีผูชมวาหนูเขียนหนังสือสวยมาก” booksummaForPress.indd 49 27/10/2555 12:18:20
50.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๐ จ. “หนูรูสึกอยางไร ถาหนูฟนหนาหัก
แลวถูกเพื่อน ๆ ลอวาฟนหลอ” ฉ. “หนูรูสึกอยางไร ถาคุณแมซื้อของเลนที่ถูกใจหนูมาให” ช. “หนูรูสึกอยางไร ถาคุณพอพาหนูไปฝกวายนํ้าตาม ที่หนูปรารถนา” คําถามเหลานี้ จะกระตุนใหเด็ก ๆ รวมกันอภิปราย ครั้นแลวผูใหญก็พึงสรุปในเชิงใหการอบรมสั่งสอนวา เราควรจะหาจุดดีจุดเดนของผูอื่น แลวนํามายกยองสรรเสริญ เพื่อใหเขามีกําลังใจทําความดีตอไป ไมควรสนใจปมดอย ของผูอื่น แลวนํามาลอเลียนใหเขารูสึกอับอายขายหนา นั่นคือ ใหพยายามจับถูกผูอื่น อยาพยายามจับผิดใคร ๆ ขณะเดียวกัน ก็สอนใหเด็กรูจักเอาใจเขามาใสใจเรา จากคําถามชุดนี้ ผูใหญก็สามารถโยงเขามาสูสัมมาทิฐิ ไดทั้งชุดแรกและชุดที่ ๒ คือ booksummaForPress.indd 50 27/10/2555 12:18:20
51.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๑ ๑. การบูชามีผลจริง ๒. มารดามีพระคุณจริง ๓.
บิดามีพระคุณจริง เมื่อเปลี่ยนประเด็นไปสูองคธรรมใหม ผูใหญก็นํา การอภิปรายดวยการใชคําถามตาง ๆ เชน ซ. “หนูรูสึกอยางไร เมื่อเห็นคนตาบอดแตกําเนิดหรือ คนที่มีอวัยวะพิกลพิการ” ฌ. “หนูรูสึกอยางไร เมื่อเห็นคนมีรูปรางหนาตาสวย หรือหลอ เห็นคนที่มีฐานะรํ่ารวย เห็นคนขอทาน” เมื่อเด็ก ๆ อภิปรายแสดงความคิดเห็นโดยทั่วกันแลว ผูใหญอาจใหคําอธิบายวา “ตั้งแตตอนตน เราไดอภิปรายกันแลววา การทําดียอม ไดดีคนทําชั่วยอมไดชั่วนั่นคือหลักหรือกฎแหงเหตุผล เรื่องราว ทุกอยางที่เกิดขึ้นลวนเปนผลที่มาจากเหตุทั้งสิ้น ซึ่งทางธรรม เรียกวา กฎแหงกรรม” booksummaForPress.indd 51 27/10/2555 12:18:21
52.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๒ ครั้นแลวถามยํ้าวา “ใครเชื่อกฎแหงกรรมบาง ยกมือขึ้น” (ถาเด็กคนใด ไมยกมือ
ตองขอใหอภิปราย) ครั้นแลวถามตอไปวา ญ. การที่คนเราเกิดมาพิกลพิการหรือรูปสวยรวยทรัพย นั้น ลวนเปนผลทั้งสิ้นใชไหม ถาหนูคิดวาใช อะไรเปนเหตุ ที่ทําใหเปนเชนนั้น คําถามนี้ยอมกระตุนใหเด็ก ๆ คิดหาทางอภิปรายกัน อยางกวางขวาง ซึ่งผูใหญอาจจะชวยเสริมขอมูลในลักษณะ ตั้งคําถามใหคิดบาง ซึ่งในที่สุดก็จะไดขอสรุปลงที่เรื่อง กฎแหงกรรม ครั้นแลวผูใหญก็เพิ่มคําอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในองคธรรมโลกนี้มี (ที่มา) จริง ครั้นแลวก็สามารถโยงไปสูเรื่อง โลกหนามี (ที่ไป) จริง ไดโดยงาย booksummaForPress.indd 52 27/10/2555 12:18:21
53.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๓ เมื่อเด็ก ๆ เขาใจและยอมรับเรื่องโลกหนามีจริงแลว ยอมเขาใจเรื่อง
นรก-สวรรค ไดโดยงาย และถามีสื่อใหดู ประกอบคําอธิบายก็จะเขาใจไดงายขึ้นอีก และสามารถโยงไป ถึงเรื่อง โอปปาติกะ ไดทันที เมื่อเด็ก ๆ เขาใจองคธรรมทั้ง ๙ โดยปราศจากขอ กังขาแลว ยอมโยงไปสูองคธรรมขอ ๑๐ คือพระพุทธเจามีจริง ไดโดยไมยาก เพราะเด็ก ๆ ชาวพุทธทั้งหลายตางก็เคยเห็น พระพุทธรูป เห็นรูปพระพุทธเจา อีกทั้งเคยไดสวดมนตบูชา พระรัตนตรัยกันมาแลวทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้ คือ วิธีการสอนใหเด็ก ๆ เขาใจในภาคทฤษฎี ตอจากนี้ไปก็เปนเรื่องที่ผูใหญจะตองจัดใหเด็ก ๆ ไดทํากิจกรรม ตาง ๆ ตามองคธรรมที่ไดอภิปรายมาแลว ในเรื่องที่สามารถ นํามาปฏิบัติไดจริง เชน การตักบาตร การทําสังคมสงเคราะห ไปทําบุญถวายภัตตาหารพระที่วัด การสวดมนตและการเจริญ สมาธิภาวนาเปนกิจวัตรทั้งที่บานและที่โรงเรียน booksummaForPress.indd 53 27/10/2555 12:18:21
54.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๔ การทําสมาธิภาวนานั้นจะชวยพัฒนาปญญาใหเด็กมี ความเขาใจองคธรรมที่ไดอภิปรายมาแลวทั้งหมดลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็มีสติระมัดระวังตนใหรูจักสํารวมกาย วาจา มิใหเผลอตัวแสดงพฤติกรรมชั่วติดตัวตอไปในโลกหนา ถาผูใหญหมั่นเอาใจใสเด็ก ๆ
ในปกครองของตนให ปฏิบัติตามองคธรรมตาง ๆ ที่ตนไดอภิปราย แลวนําไปปฏิบัติ เปนกิจวัตรจนเปนนิสัย ประกอบกับรับการบําเพ็ญสมาธิภาวนา ตังแตเยาววัย จนเปนนิสัย พวกเขาก็จะเติบโตขึ้นมาเปนคนดี ที่โลกตองการอยางแนนอน booksummaForPress.indd 54 27/10/2555 12:18:22
55.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๕ หลักการปลูกฝังสัมมาทิฐิ booksummaForPress.indd 55 27/10/2555
12:18:23
56.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๖ หลักการปลูกฝงสัมมาทิฐิ หลักการปลูกฝงสัมมาทิฐิที่จะกอใหเกิดสัมฤทธิผลนั้น อาจกลาวสรุปเปนขอ ๆ ไดดังนี้ ๑.
ตองไมมีการบังคับแตเปนการฝกใหคิดอยางเปน กระบวนการ จากการเกิดความเขาใจระดับตื้นไปสูความเขาใจ ที่ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นตามลําดับ จนกระทั่งใจใสสวางเสมือนหนึ่ง แสงเงินแสงทองผุดขึ้นมาฆากิเลสที่แอบแฝงอยูในใจ ๒. ฝกใหคิดอยางมีเหตุผลโดยใชวิธีอภิปรายตามที่ได กลาวไวในตอนตนแลว การคิดอยางมีเหตุผลนั้นมีอยู ๒ ดาน คือ ดานวัตถุ และจิตใจ สําหรับการปลูกฝงสัมมาทิฐินี้ตองเนนดานจิตใจ และ ดําเนินตามหลักเกณฑกฎแหงกรรม คือ ทําดีไดดี ทําชั่วไดชั่ว เมื่อฝกใหเด็กคิดโดยการอภิปรายกันอยางกวางขวางและ booksummaForPress.indd 56 27/10/2555 12:18:23
57.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๗ ทั่วถึงแลว ผูใหญตองเปนผูสรุปประเด็นสําคัญใหเด็กเขาใจ และจดบันทึกไว เพื่อนําไปสูการปฏิบัติตอไป ๓.
ขอมูลที่นํามาใหเด็กคิดหาเหตุผลนั้นตองเรียงลําดับ จากเรื่องงายไปหายาก จากเหตุผลตื้น ๆ ไปสูเหตุผลที่ลึกซึ้ง เชน การแบงปนอาหารการกิน การแบงปนสิ่งของเครื่องใช ใหกันระหวางญาติพี่นองหรือเพื่อนฝูง ซึ่งมิไดอัตคัดขัดสน เชนนี้จัดวาเปนการสรางความรักใครกลมเกลียวระหวางสมาชิก ของหมูคณะใหแนนแฟนยิ่งขึ้น เปนตัวอยางของเหตุตื้น ๆ ซึ่งนําไปสูผลคือความสามัคคีระหวางสมาชิกของหมูคณะ อันเปนจุดมุงหมายขององคธรรมแรกของสัมมาทิฐิ คือ ทานมีผลจริง สําหรับการสละแรงกาย สละเงินทอง สละเวลาอันมีคา เพื่อชวยเหลือคนตกทุกขไดยาก ซึ่งเปนเรื่องที่ทําไดยากกวา การแบงปน เพราะนอกจากตนจะตองมีความพรอมแลว ยังจะตองมีนํ้าใจเสียสละอยางสูงอีกดวย นี้ก็เปนตัวอยาง booksummaForPress.indd 57 27/10/2555 12:18:23
58.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๘ ของเหตุและผลที่ลึกซึ้งขึ้นอีกระดับหนึ่ง อันเปนจุดมุงหมาย ขององคธรรมที่ ๒
ของสัมมาทิฐิ คือ การสงเคราะหมีผลจริง อนึ่งการบริจาคทรัพยสินเพื่อทํานุบํารุงพระพุทธศาสนา ก็จัดเปนเรื่องการสงเคราะหดวย ซึ่งอานิสงคที่ผูบริจาค จะไดรับก็คือ ความปลื้มปติใจ ที่จัดเปนเรื่องบุญกุศล ซึ่ง อาจเปนเรื่องที่เขาใจไดงายสําหรับผูที่คุนอยูกับการสราง บุญกุศล มีผูคนไมนอยที่นอกจากจะชอบทําสังคมสงเคราะหและ ศาสนาสงเคราะหแลวยังชอบชวนผูอื่นมารวมกิจกรรมสงเคราะห เพื่อสรางบุญกุศลเชนเดียวกับตนอีกดวย ตองถือวาบุคคล ประเภทนี้มีนํ้าใจสูงสงอยางยิ่ง เพราะมีบทบาทในการพัฒนา สังคมใหเกิดสันติสุขอยางยั่งยืน สมควรไดรับการยกยองจาก สังคม เปนจุดมุงหมายขององคธรรมที่ ๓ ของสัมมาทิฐิคือ การบูชายกยองมีผลจริง booksummaForPress.indd 58 27/10/2555 12:18:24
59.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๕๙ เมื่อเด็กมีความเขาใจเรื่อง ทานมีผลจริง การสงเคราะห มีผลจริง
และการบูชายกยองมีผลจริง ครูก็ควรสรุปโดยโยง เขามาสูองคธรรมที่ ๔ ของสัมมาทิฐิ คือ ทําดีไดดี ทําชั่วได ชั่วหรือกฎแหงกรรม พรอมทั้งนอมนําใหเด็กตั้งมโนปนิธาน ที่จะยึดเปนหลักปฏิบัติในชีวิตตลอดไป ดวยเชื่อมั่นวานอกจาก เปนการทําดีแลวยังเปนการสรางบุญกุศลที่จะนําความสุข ความเจริญมาสูชีวิตตนอีกดวย สวนขอมูลที่จะนํามาใหเด็กคิดหาเหตุผลสําหรับเรื่อง โลกนี้และโลกหนานั้น ผูใหญอาจจะชี้นําใหเด็กคิดตามก็ไดวา ขณะที่คนเราโกรธหนาตาจะไมสวยเลย ดังนั้นคนที่มีนิสัย หงุดหงิด โกรธงาย โกรธบอย ๆ โกรธทั้งวัน หนาตาก็จะไม สวยทั้งวัน ถาโกรธทั้งปก็จะไมสวยทั้งป ดังนั้นคนที่มักโกรธ จนเปนนิสัยหนาตาของเขาก็จะไมสวยตลอดชีวิต พรอมกันนั้น นิสัยมักโกรธก็จะติดตัวเขาขามชาติไปอีกดวย booksummaForPress.indd 59 27/10/2555 12:18:24
60.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๖๐ ในทํานองกลับกันคนที่มีอารมณดีไมโกรธงาย เมื่อถูก ผูอื่นลวงเกินก็ไมโกรธยอมใหอภัย คนประเภทนี้ยอมมีหนาตา แชมชื่น
เบิกบาน ยิ้มแยมแจมใส สดชื่นสวยงาม แมหนาตา จะไมไดสวยมากนัก แตก็สวยกวา นามอง นาเขาใกลกวาคน มักโกรธทั้งวัน คนที่อารมณดีเปนนิสัย นิสัยนี้ก็จะติดตัวเขา ขามชาติไปอีกดวย จากขอมูลที่ยกมานี้ ผูใหญพึงสรุปใหเด็กเห็นวานิสัยทั้ง ดีและไมดี จะติดตัวคนเราตลอดไปทุกภพทุกชาติ ดังนั้น ถาเรา มีนิสัยไมดีจําเปนตองแกไขและกําจัดใหหมดสิ้นไป ทั้งนี้เพราะ นิสัยคือตนเหตุแหงการกระทําตาง ๆ หรือกรรมของเรา ถาเรา มีนิสัยไมดี เราก็มักจะทํากรรมชั่วหรือเรียกวาบาป และบาปนี้ก็ จะติดตัวเราไปตลอดเชนเดียวกับนิสัย ตราบใดที่เราทําบาป หรือทําชั่ว เราก็จะไดชั่วหรือไดทุกข หาความสุขไมได แตถา เรามีนิสัยดี เราก็จะชอบทํากรรมดี หรือเรียกวาบุญ และบุญนี้ booksummaForPress.indd 60 27/10/2555 12:18:24
61.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๖๑ ก็จะติดตัวเราไปตลอดเชนเดียวกับนิสัย ตราบใดที่เราทําบุญ หรือทําดี เราก็จะไดดีหรือมีความสุขเสมอ จากบทสรุปตรงนี้
ครูก็จะสามารถโยงมาสูเรื่องกฎ แหงกรรม เรื่องโลกนี้มี(ที่มา) จริง และโลกหนา(มีที่ไป) จริง ใหเด็กเขาใจไดโดยงาย เกี่ยวกับขอมูลที่จะนํามาใหเด็กคิดหาเหตุผลเกี่ยวกับ พระคุณของมารดาบิดานั้น ครูควรระมัดระวังการตั้งคําถาม ที่จะนําไปสูการอภิปรายเพื่อใหไดคําตอบในเชิงบวก ทั้งนี้ เพราะเด็กแตละคนมาจากสภาพครอบครัวตลอดจนคุณสมบัติ ฐานะทางเศรษฐกิจและฐานะทางสังคมของพอแมที่แตกตาง กัน ซึ่งอาจจะทําใหเด็กมีทัศนคติตอพอแมของตนแตกตางกัน อยางไรก็ตามครูจะตองควบคุมการอภิปรายของเด็กใหอยูใน ขอบเขตที่วา พอแมทุกคนมีพระคุณตอบุตรและพระคุณที่สําคัญ มีอยู ๓ ประการ คือ booksummaForPress.indd 61 27/10/2555 12:18:24
62.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๖๒ ๑. เปนผูใหชีวิตลูก ๒. เปนตนแบบกายมนุษยใหลูก ๓.
เลี้ยงดูบุตรดวยความรักและปรารถนาดีตอ ลูกโดยไมหวังสิ่งตอบแทนใด ๆ นอกจากความกตัญูรูคุณ หากมีเด็กคนใดแสดง ความคิดเห็นในเชิงลบตอพอแม ครูจะตองพยายามพลิก ความคิดเห็นของเขาใหเปนเชิงบวกโดยเร็ว เชน ถาเด็กบางคน กลาววาไมรักแมเพราะแมชอบทุบตีเขา ครูก็ตองรีบถามใหเขา คิดหาสาเหตุที่ถูกแมทุบตีทันที เพื่อใหเขาคิดหาความผิด ความบกพรอง หรือความเลวรายของตน แลวปรับปรุงแกไข ตนเองใหดีขึ้นเพื่อจะไดไมถูกแมทําโทษอีก พรอมกันนั้น ก็ตอง ตอกยํ้าเรื่องพระคุณของพอแมทั้ง ๓ ประการ ดังกลาวแลว พรอมทั้งสอนใหเด็กแสดงความกตัญูรูคุณ ดวยการกราบไหว พอแมกอนเขานอนทุกคืน กอนไปโรงเรียนและเมื่อกลับถึงบาน ทุกวัน ยอมจะชวยใหเขามีทัศนคติที่ดีตอแม booksummaForPress.indd 62 27/10/2555 12:18:25
63.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๖๓ สําหรับองคธรรมขอ ๙ และ
๑๐ ของสัมมาทิฐิซึ่ง ไดอธิบายไวในตอนตนแลว คงเปนเรื่องเขาใจงายจึงไมจําเปน ตองกลาวซํ้าอีก ๔. ปจจัยสงเสริมสัมฤทธิผลของการอบรม การปลูกฝง สัมมาทิฐิจะเกิดผลสัมฤทธิ์อยางแทจริงนั้น ตองประกอบดวย องค ๓ คือ ๑) เด็ก ๆ ที่รับการอบรมมีอารมณดี ปจจัยที่ จะทําใหคนเรามีอารมณดีอาจมีหลายประการ เชน รางกาย แข็งแรงไมปวยไขไมหิวโหยไมถูกบังคับขูเข็ญและการมีโอกาส ทําสมาธิกอนรับการอบรมก็จะชวยใหอารมณดี ๒) สิ่งแวดลอมดี ซึ่งประกอบดวยองค ๓ คือ ๒.๑ สถานที่อบรมสะอาด ๒.๒สถานที่อบรมและผูเขารับการอบรมมีความ เปนระเบียบเรียบรอยปราศจากเสียงอึกทึกครึกโครม booksummaForPress.indd 63 27/10/2555 12:18:25
64.
ÊÑÁÁÒ·Ô°Ôã¹Ç§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ๖๔ ๒.๓ ครูหรือวิทยากรผูใหการอบรมมีพฤติกรรม สุภาพเรียบรอย ๓) มีวินัยเรื่องเวลา
หมายถึงการดําเนินการ อบรมเปนไปตามเวลาที่กําหนด คือเริ่มตรงเวลาและเลิกตรงเวลา ๕. ครูหรือวิทยากรผูใหการอบรม ตองปฏิบัติตนเปนผู มีสัมมาทิฐิ เปนแบบอยางใหเด็กที่เขารับการอบรมไดตลอด เวลาเชนชอบทําทานชอบเสียสละชอบยกยองคนดี มีอารมณ ดีเสมอ ไมวารายและใหอภัยผูที่ทําผิดพลาด ฯลฯ booksummaForPress.indd 64 27/10/2555 12:18:26
Baixar agora