Mais conteúdo relacionado Semelhante a Digital maketing (20) Mais de ธนาพัฒน์ ลิ้มสายพรหม (20) Digital maketing2. Digital Marketing
Digital Marketing มาจากคา 2 คา
คือ Digital และ Marketing ถ้าจะแปลเป็นไทยก็สามารถแปล
ตรงๆ ได้ และมีความหมายค่อนข้างชัดเจน เพราะคาว่า Digital
หมายถึง ตัวเลข ดิจิตอล ส่วน Marketing หมายถึง การตลาด ซึ่ง
พอรวมกันก็สามารถสรุปได้ว่า Digital Marketing หมายถึง การ
ทาการตลาดผ่านสื่อดิจิตอล แล้วสื่อดิจิตอล หมายถึงอะไรบ้าง มาร่วม
หาคาตอบพร้อมๆ กัน
3. Digital Marketing
• ก็คือการโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ผ่านช่องทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคอ
ย่าง Computer หรือ สมาร์ทโฟน โดยใช้ digital marketing
channel เป็นช่องทางในการส่งข้อมูล เมื่อข้อมูลถูกส่งไปแล้ว ผู้ส่ง
สามารถรู้ผลตอบรับได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้รับข้อความสามารถเข้าถึง
ข้อความได้จากทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ และสามารถรู้ได้ถึงผลตอบรับ
จากคนอื่นๆ ที่พูดถึงเกี่ยวกับแบรนด์เราและยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีด้วยแล้ว
จะยิ่งเกิดการบอกต่อพูดต่อเป็นจานวนมากและลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
5. 4C
• 4C นั้นประกอบด้วย Customer, Costs, Convenience,
Communications ซึ่งหลักการนี้เป็นการเอา 4P มาปรับให้เข้ากับยุคสมัย
มากขึ้นโดยการทา Product เปลี่ยนมาเป็น Customer โดยต้องดูว่า
Customer มีความต้องการอะไร และอยากได้อะไร ซึ่งองค์กรจะนาเสนอ
ผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไรที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้บ้าง จาก
Price เปลี่ยนมาเป็น Cost เพือดูว่ามีต้นทุนอะไรที่เกี่ยวข้องที่จะทาให้ลูกค้าเกิด
ความพึ่งพอใจต่อองค์กรได้ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาต่างของสินค้าและบริการอีกด้วย
จาก Place เปลี่ยนมาเป็น Convenience โดยทาให้ลูกค้ามีความ
สะดวกสบายในการใช้สินค้าและบริการมากขึ้นบนสถานที่ที่ลูกค้าคิดว่าสะดวกสบาย
หรือมีความต้องการที่อยากจะซื้อสินค้าและบริการในสถานที่นั้นที่สุด และสุดท้าย
Promotion มาเป็น Communication ในการสร้างการสื่อสารที่พร้อมใจ
กันทั้งองค์กรที่จะสื่อสารในแบบเดียวกันกับที่ลูกค้าต้องการอยากจะรู้
7. digital marketing channel
• Facebook
ถือเป็น social media ที่มีผู้ใช้เป็นจานวนมาก สามารถสร้างกลุ่มคนที่ชอบอะไร
เหมือนๆกัน ให้มารวมกันไว้ในเพจสามารถสร้างความสัมพันธ์ภายในกลุ่ม นอกจากนี้
Facebook สามารถสร้างคอนเท้นได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ข้อความ วิดีโอ
และรูปภาพ ทาให้หลายคนเลือกที่จะใช้ Facebook ในการติดตามข่าวสารต่างๆ
ถือเป็น digital marketing channel ที่มีผู้ใช้เป็นจานวนมาก
• Youtube
เป็นอีกหนึ่ง digital marketing channel ที่สามารถสร้างคอนเท้นใน
รูปแบบของ VDO และมีผู้ใช้เป็นจานวนมากนอกจากจะดูคลิปวิดีโอได้แล้ว ยัง
สามารถสร้าง channel ของตัวเองเพื่อให้คนอื่นได้ติดตามได้อีกด้วย นอกจากนี้
Youtube สามารถแชร์ลิงค์มาที่ Facebook เพื่อเป็นการโปรโมทเพิ่มยอดวิว
8. Digital Marketing Channel
• Instagram
เป็น digital marketing channel ที่มีผู้ใช้เยอะ โดยเฉพาะดารา เซเลบ
ต่างๆ มักที่จะใช้ Instragram แทน Facebook เพราะส่วน
ใหญ่ content จะเป็น รูปภาพ และ วิดีโอ ทาให้สื่อสารได้ง่ายโดยไม่มีข้อความ
ต่างๆที่เราไม่ต้องอ่านขึ้นมารบกวน
• E-mail
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุดสมัยของดิจิทัล คงไม่มีใครไม่มี e-mail เป็นของตัวเอง
เพราะ e-mail เปรียบเหมือนกุญแจที่จะพาทุกท่านเข้ามาสู่โลกอ่อนไลน์ และ e-
mail ก็เป็นอีกหนึ่ง digital marketing channel ที่สามารถเข้าถึงกลุ่ม
ลูกค้าใหม่และเป็นการเชื่อมความสัมพันธุ์กลับกลุ่มลูกค้าเก่าได้ และยังช่วยในการโป
รโมท digital marketing channel อื่นๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
9. กิจกรรมในการทา Digital Marketing
• Search Engine Optimization (SEO)
เกี่ยวกับการปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถค้นหาง่ายขึ้น เวลามีคนค้นหาบน Search
Engine อย่างเช่น Google, Bing และ Yahoo เป็นต้น
• Search Engine Marketing (SEM)
เกี่ยวกับการทาการตลาดผ่าน Google หรือ Search Engine อื่นๆ เพื่อให้แสดงผล
ป้ายโฆษณา มักอยู่ในรูปแบบของ Pay Per Click หรือ Pay Per View
• Social Media Optimization (SMO)
เป็นการปรับปรุง Social media เช่น Facebook, Twitter ให้ค้นหาง่ายขึ้นบน
Search Engine
• Content Marketing
การเขียนเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ เพื่อโปรโมทสินค้าและบริการ
• Campaign Marketing
เป็นการทาการตลาดด้วยการทาโปรโมชั่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ส่วนลด หรือให้ของแถม
10. กิจกรรมในการทา Digital Marketing
• E-Commerce Marketing
เป็นการขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์
• Social Media Marketing
เป็นการทาการตลาดผ่านสื่อ Social Media ไม่ว่าจะเป็นการ Post หรือการทา
โฆษณา
• E-mail Marketing
เป็นการส่งอีเมล เพื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อแนะนา ขายสินค้าและบริการ รวมทั้งการทา
กิจกรรม
• Display Marketing
เป็นการทาการตลาด โดยการแสดงป้ายโฆษณาสินค้าและบริการ
• E-book
เป็นการทาหนังสือในรูปแบบของไฟล์บนคอมพิวเตอร์ และทาการแจกจ่าย หรือขาย เพื่อ
ประชาสัมพันธ์
11. • ข้อดีของ Digital Marketing คือ สามารถวัดผลได้จากจานวน
ผู้ที่คลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ หรือผู้ที่เข้ามาลงทะเบียนร่วมกิจกรรม แต่
การจะได้ข้อมูลเหล่านี้นักการตลาดต้องวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น เพื่อให้
ฝ่ายเทคนิคตระเตรียมระบบเก็บข้อมูลนี้ไว้ตั้งแต่สร้างสื่อดิจิตัล และต้อง
เลือกเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อนามาต่อยอดได้จริงเท่านั้น
12. กลยุทธ์ Digital Marketing
• กลยุทธ์ Digital Marketing สามารถแบ่งได้เป็น 2 ด้านคือ
• Pull Digital Marketing Strategy กลยุทธ์นี้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายเลือกข้อมูลต่างๆ
ด้วยตนเอง เช่น การสื่อสาร และข้อเสนอทางการตลาด ฯลฯ เพราะฉะนั้นนักการตลาดต้อง
พยายามทาให้แบรนด์ หรือข้อเสนอของท่านเป็นที่สะดุดตา พบเจอได้ง่าย และชักจูงให้
ผู้บริโภคสนใจและทาการซื้อสินค้าหรือกิจกรรมต่างๆ ตามที่ท่านต้องการในที่สุด ท่านควรใช้
กลยุทธ์ เช่น Search Engine Optimization, Viral Marketing, Social
Media Marketing, Email Marketing เป็นต้น
• Push Digital Marketing Strategy กลยุทธ์นี้นักการตลาดเป็นฝ่ายสื่อสาร ส่ง
ข้อมูล ข่าวสาร ข้อเสนอ ฯลฯ ไปยังผู้บริโภค เช่นการโฆษณาบนเว็บไซต์ ส่งสติ๊กเกอร์ผ่าน
Line ท่านควรใช้กลยุทธ์ เช่น Search Engine Advertising,
Webinars/Seminars, Demonstrations, Free Trial เป็นต้น
13. 1.สร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Building Brand Awareness) เป็นสิ่งสาคัญใน
การทาการตลาด เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการหรือรู้ถึงปัญหาหรือความ
ต้องการของตนเอง ที่เรียกว่า Lead Generation โดยใช้เครื่องมือ เช่น Search
Engine Optimization, Email Marketing ท่านสามารถใช้เครื่องมือ
การตลาดแบบเดิมๆ เสริมได้ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ Telemarketing เป็นต้น
2. ช่วยการค้นหา (Facilitating Discovery) หลังจากผู้บริโภคทราบความต้องการ
ของตนเองหรือเกิดความต้องการแล้ว งานขั้นต่อไปของท่านคือต้องช่วยนาเสนอข้อมูล
เพิ่มเติมที่ผู้บริโภคต้องการเพื่อการตัดสินใจ แน่นอนท่านต้องพยายามโน้มน้าวให้ผู้บริโภค
เลือกแบรนด์ของท่าน กลยุทธ์ที่ใช้บางตัวอาจจะทาหน้าที่ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้
เช่นเดียวกัน เช่น Search Engine Advertising, Search Engine
Optimization ฯลฯ
14. สรุปท่านต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้ในสร้างสิ่งเหล่านี้
3. เสนอทางเลือกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Guiding
Solution) เมื่อผู้บริโภคได้รับข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว ท่านต้องเสนอสิ่ง
ที่ท่านสามารถตอบสนองความต้องการนั้น และต้องโน้มน้าวสร้างความมั่นใจให้กับ
แบรนด์ของท่าน เครื่องมือที่ควรพิจารณาใช้ เช่น Trial/Demonstration,
Viral Marketing, Reference Marketing เป็นต้น
4. ขายและปิดการขาย (Sales and Close Sale) เมื่อผู้บริโภคตัดสินใจซื้อแบ
รนด์ของท่านแล้ว งานขั้นสุดท้ายคือการเลือกวิธีการขายและปิดการขายที่เหมาะกับ
ท่านและลูกค้าของท่าน สินค้าบางอย่างอาจขาย ชาระค่าสินค้าและส่งมอบสินค้า
ออนไลน์ ได้ เช่น การดาวน์โหลดสินค้าบางอย่างอาจต้องส่งพนักงานขายไปชี้แจง
และทาการขาย สินค้าบางอย่างอาจต้องให้ลูกค้าไปรับสินค้าด้วยตนเอง หรือส่ง
สินค้าให้ทางไปรษณีย์ หรือส่งสินค้าไปให้ เป็นต้น
15. Digital Marketing Analytics
• การทา Digital Marketing จะมีเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ผลนั่นก็
คือ Digital Marketing Analytics โดยมีหลักพื้นฐานในการ
วัดค่าต่างๆ 3 ประการ
16. Digital Marketing Analytics
• 1. พฤติกรรม
การที่คุณทาการตลาดใดๆ ไปนั้น คุณล้วนมีเป้าหมายที่จะให้ผู้ที่
ได้รับสาร หรือผู้ที่ได้รับประสบการณ์ เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือ เกิด
พฤติกรรมอะไรบางอย่างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการเห็นหรือกระทาอะไร
บางอย่าง ซึ่งจะว่าไปแล้ว นี่คือสิ่งสาคัญที่สุดที่คุณอยากจะรู้เลยก็ว่าได้
17. Digital Marketing Analytics
• 2. ปริมาณของการเปลี่ยนแปลง
หลังจากที่คุณทราบแล้วว่า คุณต้องการอยากสร้าง / เปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมอะไรของกลุ่มเป้าหมาย สิ่งที่ตามมา คือ การดูว่าปริมาณของ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นมีมากเท่าใด ซึ่งปริมาณดังกล่าวนั้นอาจจะ
มาในรูปปริมาณทั้งหมด หรือจะเป็นแบบค่าเฉลี่ยก็ได้
18. Digital Marketing Analytics
• 3. ระยะเวลา
การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ นั้น ก็จาเป็นที่คุณจะต้องรู้ระยะเวลาของ
ช่วงข้อมูลที่ต้องการจะวิเคราะห์ด้วย เพื่อให้สามารถกาหนดขอบเขต
ของการวัด / วิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง
การทาการตลาดแบบ Digital Marketing มีหลายช่องทาง
– Mobile Marketing
– Content Marketing
– SocialMedia Marketing
– Infographic
19. • Adwords คือ การซื้อ คีย์เวิร์ด เพื่อส่งเสริมการให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจ
จากการเสริช์คาที่เกี่ยวเนื่องของธุรกิจนั้นๆ
• Pay Per Click คือการลงโฆษณาโดยคิดเงินตามจานวนคลิก
• SEO ย่อมาจาก Search engine Optimization
• Content Marketing พูดในสิ่งที่ผู้ขายอยากสื่อสารออกไปและ
เป็นสิ่งที่ลูกค้าสนใจที่จะฟัง
22. Facebook
• Bill board เช่น มีรถวิ่งผ่าน 500000 คันต่อวัน 1 คันสองคน
eyeball (คนเห็นโ
• Facebook
1 people who like your page
2 people who like your page and friend
3 people who should you told your friend
26. Google
• "SEM" ย่อมาจากคาว่า "Search Engine Marketing" เป็นการผสม
คากันระหว่างคาว่า "Search Engine" ซึ่งก็คือเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต
และคาว่า "Marketing" หรือ การตลาด ดังนั้น คา
ว่า "SEM" หรือ "Search Engine Marketing"
จึงหมายถึง "การทาการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต"
• SEM (Search Engine Marketing) ประกอบไปด้วยในส่วนของ Paid
Search หรือ Search Advertising ซึ่งเป็นส่วนของโฆษณาที่มีค่าใช้จ่าย
เป็นรายคลิ๊กในรูปแบบของ PPC (Pay Per Click) และในส่วน
ของ Organic Search หรือ Natural Search ซึ่งเป็นส่วนผลการค้นหา
จากระบบของ Search Engine โดยเรียกการทาการตลาดในส่วนนี้ว่า SEO
(Search Engine Optimization)
27. • การทา SEM (Search Engine Marketing) สามารถแบ่งได้เป็น 2
ส่วน คือ
• 1. SEO (Search Engine Optimization) หรือการโปรโมทเว็บไซต์ คือ
การเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ในส่วนของผลการค้นหา
ทั่วไปในหน้า Search Result Page โดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายใน
เว็บไซต์ให้เป็นไปตามกฏของ Search Engine นั้นๆ
และการเพิ่ม Backlinks ที่มีคุณภาพมายังเว็บไซต์
• 2. PPC (Pay Per Click) คือ ส่วนของพื้นที่โฆษณาซึ่งอยู่ในหน้า Search
Result Page เช่นกัน แต่ต้องจ่ายเงินเมื่อมีการคลิ๊กเปิดเข้าไปดูเว็บไซต์ PPC มี
ข้อแตกต่างกับ SEO ตรงที่สามารถแสดงผลในลาดับต้นๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยที่
ไม่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างในเว็บไซต์ เพียงแค่ประมูล Keyword ที่ต้องการมา
เว็บไซต์ก็สามารถแสดงอยู่ในอันดับต้นๆ ได้
29. SEO
• "SEO" หรือ "Search Engine Optimization" คือ
วิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงเนื้อหาและการเพิ่มลิงค์ที่
มีคุณภาพมายังเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ติดอยู่ในอันดับต้นๆ บน
Search Result Page (หน้าแสดงผลการค้นหา) เมื่อกรอก
Keyword (คาค้นหา) ที่ต้องการผ่าน Search Engine ต่างๆ
อาทิ Google, Yahoo!, Bing เป็นต้น
• เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ค้นหาข้อมูลผ่าน Google มากเป็นอันดันหนึ่ง
ในหลายๆ ประเทศ ทั้งในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย
ญี่ปุ่น เป็นต้น ส่วนใหญ่จึงเน้นการทา SEO บน Google เป็นหลัก
31. PPC (Pay Per Click) คือ?
• "PPC" หรือ "Pay Per Click" คือ การลงโฆษณาบน Search
Result Page หรือหน้าแสดงผลการค้นหาของ Search
Engine อาทิ Google, Yahoo!, Baidu เป็นต้น โดยคิด
ค่าใช้จ่ายจากการคลิ๊ก แม้ว่าโฆษณาจะแสดงขึ้นมา แต่หากไม่มีการ
คลิ๊กเกิดขึ้น ก็จะไม่เสียเงินในการลงโฆษณาแต่อย่างใด
•
33. YouTube
• Port folio ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว
• การใช้วีดีโอออนไลน์ทาโฆษณาทาให้ง่ายในการสร้างความเข้าใจ
เกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็ว และ
ยังกระตุ้นให้ลูกค้าคลิกเข้ามาหาข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ หรือ แฟนเพจ
ของคุณ
34. รูปแบบการให้บริการทาการตลาดออนไลน์โดยใช้ YouTube
1. True View In-Stream Ads
• เป็นการแสดงโฆษณา YouTube ของคุณก่อนแสดงวีดีโอ YouTube
อื่นๆ ผู้ชมสามารถเลือกได้ว่าจะชมโฆษณาต่อหรือจะ skip เพื่อเข้าสู่วีดีโอ
YouTube ที่ต้องการ
• จุดเด่น: ดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากที่สุด สามารถอธิบายธุรกิจของคุณ
ให้ง่าย และน่าสนใจมากขึ้น ผ่านคลิปวีดีโอ
• ค่าใช้จ่าย: ถ้าความยาวของโฆษณา YouTube ของคุณยาวเกินกว่า 30
วินาที คุณจะเสียค่าโฆษณาเมื่อผู้ชมดูวีดีโอ YouTube ของคุณ 30 วินาที
ขึ้นไป แต่ถ้าความยาวของน้อยกว่า 30 วินาที คุณจะเสียค่าโฆษณาเมื่อ
วีดีโอ YouTube ของคุณถูกแสดงจนจบ
36. รูปแบบการให้บริการทาการตลาดออนไลน์โดยใช้
YouTube
2. YouTube Overlay Ads
• เพื่อที่จะสร้าง Brand Awareness โดยใช้ภาพแบนเนอร์โฆษณา
แสดงบนวีดีโอ YouTube เป็นที่นิยมของนักการตลาดออนไลน์ใน
ปัจจุบัน เพราะสามารถทา mass marketing ได้ในเวลาที่รวดเร็ว
โดยไม่ต้องสร้างวีดีโอโฆษณา เพียงแค่สร้างภาพแบนเนอร์ และนาไป
แสดงบนวีดีโอ YouTube ที่เป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
• จุดเด่น: สร้างแบรนด์ธุรกิจของคุณให้เป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว ไม่
จาเป็นต้องมีคลิปวีดีโอ YouTube
40. รูปแบบการให้บริการทาการตลาดออนไลน์โดยใช้
YouTube
4. YouTube Under Video Ad
• เป็นการแสดงโฆษณาบนพื้นที่ใต้วีดีโอ YouTube โดยแสดงเฉพาะ
บนมือถือ และแท็บเล็ต เมื่อคลิกที่โฆษณา สามารถลิงค์ไปที่เว็บไซต์,
เฟสบุ๊คเพจ หรือ วีดีโอ YouTube
จุดเด่น: โฆษณาโดดเด่น เจาะกลุ่มผู้ใช้มือถือ กระจายตามกลุ่ม
YouTube ต่างๆ
ค่าใช้จ่าย: เสียค่าโฆษณาเมื่อมีผู้คลิกเข้าชมโฆษณา YouTube ของ
คุณ