การวิจัยเพื่อศึกษาทัศนคติของคนไทย ThaiView ครั้งที่ 19 ปี 2557
•
0 gostou•4,691 visualizações
การวิจัยเพื่อศึกษาทัศนคติของคนไทยในประเด็นที่น่าสนใจต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม เพื่อนำเสนอความเห็นของประชาชนชาวไทย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ ต่อหน่วยงานราชการและเอกชน ในการพัฒนาและปรับปรุงสังคม คุณภาพชีวิต ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ที่สอดคล้องต่อความต้องการที่แท้จริงของประชาชน กลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 600 คน โดยแบ่งเป็นประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 300 คน ภาคเหนือ 100 คน ภาคใต้ 100 คน ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 100 คน วิธีการเก็บข้อมูล: กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามด้วยตัวเองผ่านแบบสอบถามออนไลน์ โดย YesOpinion.com ระยะเวลาเก็บข้อมูล : 1 – 17 กรกฎาคม 2557 ดำเนินการสำรวจโดย สมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย (TMRS) www.tmrs.or.th
Recomendados
Recomendados
Mais conteúdo relacionado
Mais de Sundae Solutions Co., Ltd.
Mais de Sundae Solutions Co., Ltd. (20)
การวิจัยเพื่อศึกษาทัศนคติของคนไทย ThaiView ครั้งที่ 19 ปี 2557
- 1. 19 สิงหาคม 2557 ThaiView 2014
- 2. ที่มาและวัตถุประสงค์ ! เพื่อส่งเสริมการวิจัยทางการตลาดในประเทศไทย โดย จัดทำการวิจัยเพื่อศึกษาทัศนคติของคนไทยในประเด็น ที่น่าสนใจต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ! เพื่อนำเสนอความเห็นของประชาชนชาวไทย ซึ่งอาจเป็น ประโยชน์ ต่อหน่วยงานราชการและเอกชน ในการ พัฒนาและปรับปรุงสังคม คุณภาพชีวิต ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ที่สอดคล้องต่อความต้องการที่แท้จริง ของประชาชน 2!
- 3. ขอบเขตและวิธีการศึกษา ! กลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 600 คน โดยแบ่งเป็นประชาชนใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล 300 คน ภาคเหนือ 100 คน ภาคใต้ 100 คน ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 100 คน § อายุ 18 ปีขึ้นไป § รายได้ครอบครัว ≥10,000 บาท/เดือน ! วิธีการเก็บข้อมูล: กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามด้วยตัวเองผ่าน แบบสอบถามออนไลน์ ! ระยะเวลาเก็บข้อมูล : 1 – 17 กรกฎาคม 2557 ชาย 50% หญิง 50% ต่ำกว่า 10,000 บาท, 8% 10,000-34, 999 บาท, 32% 35,000-49, 999 บาท, 20% 50,000-84, 999 บาท, 24% 85,000 บาท หรือ มากกว่า, 15% ไม่ระบุ, 3% 66% 15% 10% 8% 1% ปริญญาตรี ปริญญาโท ปวช./ปวส. มัธยมศึกษา ปริญญาเอก 26% 13% 12% 10% 13% 7% 8% 3% 3% 2% 1% 1% 2% พนักงานบริษัทเอกชนระดับปฏิบัติการ อาชีพอิสระ ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าของกิจการ แม่บ้าน/พ่อบ้าน (แต่งงานแล้ว และไม่ได้ เกษียณ (อายุ 50 ปีขึ้นไป) อื่นๆ (โปรดระบุ) 3!
- 6. A5. คุณมีความมั่นใจมากน้อยเพียงใดว่า ในช่วงเวลา 12 เดือนจากนี้ไป สภาวะเศรษฐกิจของตัวคุณเอง จะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง มั่นใจมาก ค่อนข้างมั่นใจ ไม่ค่อยมั่นใจ ไม่มั่นใจเลย ไม่ทราบ 3% 11% 54% 27% 6% การบริหารจัดการเงินและการพัฒนาตนเอง 21% การแก้ไขปัญหาของคสช 19% คสช. ช่วยสร้างความเชื่อมั่น 16% การเมืองคลื่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น 12% มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม/เห็นผล 10% เศรษฐกิจดีขึ้น 8% อื่นๆ 9% ความมั่นใจต่อสภาวะเศรษฐกิจในช่วงเวลา 12 เดือนข้างหน้า ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจทาง เศรษฐกิจ แต่การเข้ามาของ คสช. ทำให้คนไทยมั่นใจว่าจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และช่วยสร้างความ เชื่อมั่นได้ การเมืองการปกครองของรัฐบาล เช่น ความไม่ แน่นอน ความวุ่นวาย 31% ค่าครองชีพแพง 17% ไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ 10% รายได้ไม่เหมาะสมกับรายจ่าย 10% เศรษฐกิจตกต่ำ 10% ปัญหาสังคม เช่น ความขัดแย้ง ความเลื่อมล้ำ 6% อื่นๆ 13% เหตุผลหลักที่ทำให้คุณไม่มั่นใจ เหตุผลหลักที่ทำให้คุณมั่นใจ ! 6!
- 7. A1. ในปัจจุบัน คุณกังวลใจ และต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ เรื่องใดต่อไปนี้ มากที่สุด 3 อันดับแรก 3% 31% 47% 61% 67% 91% อื่นๆ ภาวะการว่างงาน การเอาเปรียบผู้บริโภค การมีเงินไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพ และใช้จ่ายในด้าน ต่างๆ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ราคาสินค้า และพลังงานแพง (เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซ) ความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจ คนไทยเกือบทั้งหมดมีความกังวลเรื่องราคาสินค้าและพลังงานมากที่สุด ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและ การมีเงินไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพเป็นสิ่งที่คนไทยกังวลในระดับรองลงมา จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง ! 7!
- 8. ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น/ เงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือน 59% เป็นหนี้เพิ่มขึ้น/ไม่มีเงินออม 49% ได้ของที่คุณภาพไม่สมราคา/สินค้าไม่ได้มาตรฐาน 10% ค่าครองชีพสูงขึ้น/ ภาวะเงินเฟ้อ/ รายได้ลดลง 8% หางานยากขึ้น/ไม่มีการจ้างงาน/ ไม่มีรายได้มาเลี้ยงชีพ 7% สุขภาพจิตไม่ดี เกิดความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า/เกิด ปัญหาภายในครอบครัว 5% A2. แล้วอันดับที่ 1 ที่คุณเลือกตอบมาในข้อ A1. มีผลอย่างไรกับการดำรงชีวิตของคุณ และคนไทย ปัญหาเศรษฐกิจส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น/ รายได้ไม่พอใช้ในแต่ละเดือน รวมถึงการใช้ชีวิตลำบากขึ้น/ภาวะหนี้สูงขึ้น/ไม่มีเงินออม จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 563 ตัวอย่าง ผลกระทบของปัญหาทางเศรษฐกิจต่อการดำรงชีวิต ! 8!
- 9. A3. ในปัจจุบัน คุณกังวลใจ และต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาทางสังคม เรื่องใดต่อไปนี้ มากที่สุด (3 อันดับแรก) จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง 66% 51% 38% 30% 20% 19% 18% 11% 10% อาชญากรรม ความเสื่อมถอยด้านศีลธรรมจริยธรรม ยาเสพติด การศึกษา และการพัฒนาเด็กและ เยาวชน การจราจร ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ความเหลื่อมล้ำในสังคม มลภาวะ เช่น ขยะ อากาศเป็นพิษ ปัญหาสุขภาพ ความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาทางสังคม ด้านสังคมพบว่า ปัญหาอาชญากรรม ความเสื่อมถอยด้านศีลธรรมและจริยธรรม และยาเสพติด เป็นปัญหา สังคมที่คนไทยกังวลและอยากให้มีการแก้ไขในอันดับต้นๆ ! 9!
- 10. A4. แล้วอันดับที่ 1 ที่คุณเลือกตอบมาในข้อ A3. มีผลอย่างไรกับการดำรงชีวิตของคุณ และคนไทย จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 468 ตัวอย่าง ปัญหาด้านสังคมมีผลกระทบทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และปัญหาด้านสังคมยัง เป็นบ่อเกิดความเสื่อมโทรมของสังคมและปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมา ผลกระทบของปัญหาทางสังคมต่อการดำรงชีวิต ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน/ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง 43% เป็นบ่อเกิดแห่งความเสื่อมโทรมของสังคม คนไม่ละอายต่อ การทำผิด 30% ถูกเอารัดเอาเปรียบ/มาตรฐานการบริการไม่เท่ากัน/เกิดการเลือก ที่จะปฏิบัติต่อบุคคลไม่เท่าเทียมกัน 18% ทำให้ไม่มีความรู้ที่เพียงพอจะไปสู้กับคนประเทสอื่นๆ/เด็กๆไม่มี ศิลธรรมและไม่รู้จักกาลเทศะ 12% การเดินทางยากลำบาก/ใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้น/สิ้น เปลืองเวลา/สุขภาพจิตแย่ 10% 10!
- 12. ระดับความสุขกับคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ B1. ในปัจจุบัน คุณมีความสุขมากน้อยเพียงใดกับคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ต่อไปนี้ จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง 2% 2% 5% 6% 8% 14% 20% 21% 30% 39% 38% 57% 50% 68% 55% 47% 48% 27%28% 10% 11% 7% 7% 2% มีความสุขมาก ค่อนข้างมีความสุข ไม่ค่อยมีความสุข ไม่มีความสุขเลย ในด้านคุณภาพชีวิต คนไทยมีความสุขกับครอบครัวมากที่สุด ตามด้วยความสุขจากการเป็นที่ยอมรับใน สังคม ในทางตรงกันข้าม คนไทยมีความสุขน้อยมากในด้านสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงด้านการเงิน ! 12!
- 14. กิจกรรมที่ให้ความสนใจ C1. จากกิจกรรมดังต่อไปนี้ มีกิจกรรมใดบ้างที่คุณตั้งใจที่จะใช้เวลากับมันมากขึ้น (หลายคำตอบ) จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง 33% 36% 39% 47% 49% 49% 49% 54% การกีฬา การลงทุนในตลาดการเงิน ต่างๆ เช่น ตลาดหุ้น กองทุน อุปกรณ์ด้านไอที โภชนาการ ด้านการศึกษา/ การฝึกอบรบ การใช้ Social media การดูแลตัวเอง การท่องเที่ยว 2% 11% 16% 20% 31% 31% 32% อื่นๆ การเมือง อาเซียน เศรษฐกิจของประเทศ การปฏิบัติธรรม/ นั่งสมาธิ การดูแลสิ่งแวดล้อม ด้านความบันเทิง คนไทยให้ความสนใจกับกิจกรรมการท่องเที่ยวมากที่สุด รองลงมาได้แก่ การดูแลตัวเอง การใช้ Social media การศึกษา/ฝึกอบรม และโภชนาการ ! 14!
- 15. 37% 31% 20% 24% 17% 2% 3% 3% 1% 1% 2% 4% 2% นิตยสาร เคเบิ้ลทีวีที่ต้องจ่ายค่า สมาชิก SMS สื่อบนสถานีและใน รถไฟฟ้าและรถใต้ดิน สื่อบนรถประจำทาง ช่องทางการรับข่าวสาร C4.1 คุณได้รับข่าวสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นจากช่องทางใดบ้าง จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง 73% 70% 60% 57% 53% 39% 41% 24% 9% 8% 5% 2% 42% 22% 12% 7% 4% 2% ออนไลน์ - โซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ทีวี ออนไลน์ - เว็บไซต์ของผู้ จำหน่ายสินค้า ณ จุดขายสินค้า หนังสือพิมพ์ ป้ายกลางแจ้ง ช่องทางข่าวสารทั้งหมด ช่องทางรับข่าวสารบ่อยที่สุด ช่องทางที่ต้องการมากที่สุด น่าสนใจที่ในปัจจุบัน ออนไลน์ – โซเชียลเน็ตเวิร์ค มีบทบาทสำคัญมากขึ้นมากต่อชีวิตคนไทย ขณะที่ ทีวีเริ่มมีบทบาทรองลงมา ! 15!
- 16. 22% 16% 12% 11% 10% 1% 1% 1% 1% ซื้อครบเซ็ท รับสิทธิ์ หรือราคาพิเศษ เพิ่มระยะการรับ ประกันสินค้า ซื้อบริการล่วงหน้า รับ สิทธิ์ หรือราคาพิเศษ รับสิทธิพิเศษเมื่อ แนะนำต่อให้คนรู้จัก รับสินค้าก่อน จ่ายปี หน้า โปรโมชั่นที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ C5.1 คุณเคยซื้อสินค้า/บริการโดยได้รับอิทธิพลจากโปรโมชั่นใดบ้าง จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง 92% 78% 63% 57% 53% 37% 29% 59% 20% 4% 3% 9% 1% 1% 48% 26% 4% 4% 9% 1% 2% ลดราคา แถมสินค้า เช่น ซื้อ 1 แถม 1 สะสมแต้ม เพื่อแลกรับสิทธิ์ พิเศษ แถมของสมนาคุณ ผ่อนชำระ 0% หรือรับ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ เพิ่มปริมาณพิเศษ ชิงของรางวัล เช่น แท็บเล็ต ทอง รถ คอนโด ฯลฯ มีอิทธิพล มีอิทธิพลมากที่สุด ชอบมากที่สุด โปรโมชั่นเกี่ยวกับการลดราคา มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการและเป็นสิ่งที่คนไทยชอบมาก ที่สุด โดยการแถมสินค้าเป็นที่ชื่นชอบรองอันดับสอง ขณะที่การสะสมแต้มเพื่อแลกรับสิทธิ์พิเศษ การแถม ของสมนาคุณ และผ่อน 0% หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจน้อยมาก ! 16!
- 17. คุณประโยชน์ของโปรโมชั่น จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง C6. คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ต่อคุณประโยชน์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ของโปรโมชั่น สืบเนื่องจากความรู้สึกว่ามีรายได้ไม่พอจ่าย ผู้บริโภคเห็นว่าโปรโมชั่นมีประโยชน์ในแง่เป็นการช่วยลดค่า ใช้จ่าย/แบ่งเบาภาระ ช่วยทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น สร้างความคุ้มค่า สร้างโอกาสให้ได้ใช้สินค้า/บริการที่ ต้องการ และเพิ่มการแข่งขัน ช่วยลดค่าใช้จ่าย/ แบ่งเบาภาระ 86% ทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้า/ บริการง่ายขึ้น 84% สร้างความคุ้มค่าให้กับ สินค้า/บริการ 83% เพิ่มโอกาสให้ได้ ใช้สินค้า/บริการในรูปแบบที่ต้องการ ง่ายขึ้น/มากขึ้น/ เร็วขึ้น 81% เพิ่มการแข่งขันในตลาด ทำให้ประโยชน์ตกกับผู้บริโภค 77% สร้างความตื่นเต้น สนุกสนาน มีการลุ้นรับโชค 60% กระตุ้นให้เกิดการพูดคุย/สนทนาใน กลุ่มเกี่ยวกับโปรโมชั่น 53% ! 17!
- 18. จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง C7. ในมุมมองของคุณ ผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย/ผู้ให้บริการ มีทัศนคติอย่างไร ที่นำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ เหล่านั้น ทัศนคติต่อผู้ผลิตที่นำเสนอโปรโมชั่น กระตุ้นยอดขายในช่วงนั้นๆ สนองความพึงพอใจของลูกค้าที่ นิยมสินค้าที่มีโปรโมชั่น เป็นการแนะนำให้ผู้บริโภครู้จัก ทดลองใช้ หรือใช้มากขึ้น เพื่อตอบโต้โปรโมชั่นของคู่แข่ง เป็นการล้างสต็อกรุ่น เก่าๆ ก่อนออกรุ่นใหม่ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาที่จะต้อง มีโปรโมชั่น แบบนั้นๆ ในช่วงนั้นๆ มีความจริงใจที่จะคืน กำไรให้กับผู้บริโภค คนไทยมองว่าเหตุผลหลักที่ผู้ผลิตจัดให้มีโปรโมชั่น เพื่อเป็นการกระตุ้น/เพิ่มยอดขาย การตอบสนอง ความพึงพอใจของลูกค้าที่นิยมการซื้อสินค้าที่มีโปรโมชั่น และการแนะนำให้ผู้บริโภครู้จัก ทดลองใช้ หรือ ใช้สินค้าตนเองมากขึ้น ! 18!
- 20. ความคิดเห็นต่อประเทศผู้ผลิตสินค้า 0% 20% 40% 60% 80% 100% Top 4 box Bottom 4 box จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง E1. นึกถึงสินค้าโดยทั่วๆ ไป คุณมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสินค้าที่ผลิตจากภูมิภาคต่างๆ ดังต่อไปนี้ โดยคะแนน 0 – 10 ซึง 0 หมายถึง แย่มาก และ 10 หมายถึง ยอดเยี่ยมมาก ประเทศผู้ผลิตสินค้าถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยไทยและสิงคโปร์ถูกมองว่าประเทศผู้ผลิตสินค้าที่ดีเยี่ยมเป็น อันดับต้นๆ ของอาเซียน ! 20!
- 21. ประเทศผู้ผลิต: สินค้าทั่วไป อาหาร และสินค้าเพื่อสุขภาพ E2. ถ้าไม่สนใจเรื่องราคา ประเทศใดที่คุณคิดว่า ผลิตสิ่งของต่อไปนี้ได้ดีที่สุด? โปรดเลือก 1 คำตอบต่อผลิตภัณฑ์ จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง ในหมวดสินค้าทั่วไป สินค้าที่ผลิตในประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ยกเว้น เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ที่สิงคโปร์ได้รับการยอมรับว่าผลิตได้ดีที่สุด เสื้อผ้าแฟชั่น เทคโนโลยีใหม่ๆ/ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม เครื่องสำอาง 58% 16% 5% 1% 5% 5% 2% 2% 2% 1% 37% 12% 1% 8% 5% 2% 2% 2% 1% 30% 28% 8% 12% 4% 3% 2% 3% 2% 2% 43% 20% 9% 3% 5% 4% 2% 1% 2% 3% 25% สินค้าเพื่อสุขภาพ อาหารสด อาหารแห้งที่อยู่ ในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ 48% 13% 10% 7% 4% 4% 2% 4% 1% 2% 65% 4% 8% 5% 4% 4% 1% 4% 2% 3% 59% 5% 12% 3% 3% 5% 2% 2% 3% 2% หากดูเรื่องอาหารและสินค้าเพื่อสุขภาพ ประเทศไทยเป็นผู้นำในการผลิตที่ดีที่สุด และเหนือกว่าประเท ศอื่นๆในอาเซียนทั้งหมด ! 21!
- 22. ทัศนคติต่อประเทศในอาเซียน 0% 20% 40% 60% 80% 100% ประเทศที่น่าทำงานที่สุด ประเทศที่น่าอยู่อาศัยที่สุด ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุด E2. ถ้าไม่สนใจเรื่องราคา ประเทศใดที่คุณคิดว่า ผลิตสิ่งของต่อไปนี้ได้ดีที่สุด? โปรดเลือก 1 คำตอบต่อผลิตภัณฑ์ จำนวนตัวอย่างทั้งหมด = 600 ตัวอย่าง คนไทยมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่อาศัยและน่าเที่ยวมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ถูกมองว่าเป็นประเทศที่น่าทำงานมากที่สุด โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่สอง ! 22!
- 23. World’s Top 3 Country for Expat อันดับ 1: ประเทศจีน อันดับ 2: ประเทศเยอรมัน อันดับ 3: ประเทศสิงคโปร์ ที่มา: HSBC Group ทำการสำรวจชาวต่างชาติจำนวน 7,000 ตัวอย่างทั่วโลก ปี 2556 ซึ่งผลเป็นที่สอดคล้องกับงานวิจัยระดับโลก 23!
- 24. บทสรุป § แม้ว่าเหตุการณ์ทางการเมืองเป็นสาเหตุหลักที่ ทำให้คนไทย ขาดความมั่นใจต่อสภาวะทาง เศรษฐกิจ แต่การเข้ามาของ คสช. ทำให้คน ไทยเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และ เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ § เมื่อกล่าวถึงความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจ คนไทยส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่องราคาสินค้า และพลังงานมากทีสุด ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ และการมีเงินไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพเป็นสิ่งที คนไทยกังวลรองลงมา § ส่วนด้านสังคม ปัญหาอันดับต้นๆ ที่คนไทยต้องการให้มีการแก้ไขโดยเร็ว ได้แก่ § อาชญากรรม § ความเสื่อมถอยด้านศีลธรรมและจริยธรรม § และยาเสพติด § ผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน/ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เป็น บ่อเกิดแห่งความเสื่อมโทรม และคนไม่ละอายต่อการทำผิด ! 24!
- 25. บทสรุป § เมื่อพิจารณาด้านคุณภาพชีวิต คนไทยมี ความสุขกับครอบครัว รองลงมาคือ ความสุขจากการเป็นที่ยอมรับในสังคม § ในทางตรงกันข้าม คนไทยมีความสุขน้อย มากในด้านการเงิน รวมถึงด้านสุขภาพ และความปลอดภัย § ส่วนช่องทางการรับรู้ข่าวสารนั้น โซเชียลเน็ตเวิร์ค และ ออนไลน์ เช่น เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ มีบทบาท สำคัญมากขึ้นต่อชีวิตคนไทย ในขณะทีโทรทัศน์เริ่มมี บทบาทน้อยลง ! 25!
- 26. § คนไทยมองว่าประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์เป็นผู้นำในภูมิภาคในด้านการผลิตสินค้า โดย ประเทศไทย เป็นผู้นำในการผลิตสินค้าทั่วไป และสินค้าประเภทอาหารและสุขภาพ ส่วนประเทศ สิงคโปร์เป็นผู้นำในภูมิภาค ด้านการผลิตสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ/เครื่องใช้ไฟฟ้า § อย่างไรก็ตาม แม้คนไทยมีความเชื่อมั่นใจผลิตภัณฑ์ Made in Thailand แต่ผู้ผลิตก็ควรที่จะ สร้างสรรค์เพื่อเพิ่มมูลค่า (value) รักษามาตรฐานที่ดี (consistency) และเน้นความโดดเด่นเป็น เอกลักษณ์ (differentiation) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน บทสรุป ! 26!
- 27. ขอบคุณ