SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 218
Baixar para ler offline
1362




[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1363

                                              52
          รพินทรกวาดสายตาสํารวจภูมิประเทศลักษณะชอบกลนันอีกครั้ง แลวก็ตัดสินใจในทันที
                                                       ้
นั้น
            “ผมกับคะหยินจะขามปลักใบไมที่ตนยูงตนนั้นกอน บางทีอาจไดรองรอยอะไรเพิ่มขึ้น”
                              ่
            “ตกลง”
            ไชยยันตพยักหนาอยางงายๆ ดวยความเชือมือ
                                                    ่
            พรานใหญหันไปสงภาษากับคะหยิ่น พรอมทั้งลวงเชือกไนลอนที่ตดอยูประจําในยาม
                                                                                 ิ
หลังโยนไปใหแงซาย จัน และบุญคํา ก็ปลดเชือกประจําตัวสมทบไปใหดวยทันที
            หัวหนาบานหลมชาง จัดการตอเชือกเหลานั้นเขาเปนเสนเดียวกัน ซึ่งไดความยาว
ประมาณ 40 เมตร ไตเนินชันขึ้นไปยันโคนตนรัง อันจะใชเปนตนเชือกสําหรับยึด จัดการผูกติดกับ
รากที่งอกโผลขึ้นมาตอนหนึง แตแลวทันทีน้นเอง คะหยิ่นผูกําลังงวนอยูกับการผูกเชือก ก็รอง
                                ่              ั
อุทานออกมาคําหนึ่ง มีอาการชะงักนิ่งไป ตาจองนิ่งลงไปตรงพื้นบริเวณโคนตนรัง
            รพินทรกับทุกคนในคณะ ไตตามขึ้นไปในทันทีดวยความสงสัยในอาการของคะหยิน
                                                                                            ่
พอขึ้นมาถึงบริเวณนั้นไชยยันตก็ครางเบาๆ
            บนพื้นซึ่งกลาดเกลื่อนไปดวยใบไมโคนตนรัง มีเลือดสดสีคล้ํากองอยู ราวกับใครมา
เชือดวัวทั้งตัวทิ้งไวที่นน ฝูงแมลงวันตอมหึ่ง หยดไขขังแลเห็นเปนแนวขาวไปหมด กลิ่นมันคาว
                           ั่
หืนๆ ผิดกับเลือดสัตวทุกชนิด กองเลือดเหลานี้ไมไดปรากฏอยูกับพืนเทานั้น ยังติดเปรอะเปนคราบ
                                                                  ้
อยูกับลําตนในระดับสูงเกินชวงศีรษะคนสูงขนาดแงซายขึ้นไปเกือบชวงแขน เหมือนควักสีจากถัง
มาปายไว ตําแหนงที่คนพบใหมนี้มีจํานวนมากมายที่สุด นับตั้งแตออกมาตามรอย ยกเวนที่ทิ้งไวให
เห็นในเขตหมูบาน อันเปนแดนประจัญบานระหวางมันกับคณะของเชษฐา
                
            “ทําไมเลือดมันถึงมากองเอาเปนปลักอยูตรงนี้”
            ไชยยันตพึมพําขึ้นอยางแปลกใจ
            จอมพรานพิจารณาดูรองรอยเหลานั้นอยางถี่ถวนระมัดระวังตาเปนประกาย
            “มันมาหยุดเอาหัวเช็ดกับโคนตนรังนี่พกใหญทีเดียว กอนที่จะเลื้อยหายลงไปในทะเล
                                                  ั
ใบไมนั่น นีเ่ ปนรอยเลือดจากสวนหัวของมัน แสดงวาบาดแผลฉกรรจมาก เลือดจึงยังออกอยูเรื่อยๆ
โดยไมมีการหยุด เบาใจไดแลวครับ ไอตัวนี้เห็นจะไมรอดแน ฝมือของคุณชายเชษฐากับพวกนัน         ้
ทีเดียวแหละ”
            แลวเขาก็เอาลํากลองไรเฟล ชี้ใหไชยยันตกับดารินสังเกตไปยังตําแหนงรอยเลือดตอน
หนึ่ง ซึ่งติดอยูกับตนรัง มันไมเพียงแตสีของเลือดเทานันที่ปรากฏ แตมีของเหลวใสสีขาวเปนเมือก
                                                        ้
เหนียว ติดปะปนอยูดวยมองเห็นชัด ของเหลวใสชนิดนีหยดเปนกอนกองอยูกับพืนดวย
                                                      ้                       ้

[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1364

            “ดูใหดีซิครับ ไอเจาสิ่งเหนียวใสลักษณะเปนเมือกที่ติดปนอยูกับเลือดนั่นดวยคืออะไร?”
            ทั้งสองจองพิจารณาดูสิ่งนั้นอยางประหลาดใจ ดารินทรุดตัวลงกับพืน หยิบกิ่งไมเล็กๆ
                                                                                 ้
เขี่ยดูดวยอาการงงๆ แลวเมมริมฝปากเงยหนาขึ้น
        
            “มันเปนอะไร นอย พอจะเดาถูกไหม?”
            ไชยยันตถามโดยเร็ว
            แพทยสาวลุกขึ้นยืนชาๆ ถอดถุงมือหนังขางหนึ่งออก ลงทุนใชนิ้วเปลาแตะวัตถุเหลวใส
นั้นขยี้สมผัสดู หัวคิวขมวดยน
          ั           ้
            “เอ แปลก! บอกไมถกเหมือนกันวามันเปนอะไรกันแน แตลักษณะมันคลายๆ น้ําเมือกอยู
                                   ู
ในเยื่อลูกนัยนตาประเภทมิวคัส”
            “ถางั้นไมมีปญหาอะไรเลย...”
            รพินทรพดโดยเร็ว แยกเขี้ยวยิ้ม
                        ู
            “คุณชายเอาลูกปน .458 ยัดเขาไปในลูกตาขางซายของมัน น้ําเมือกขาวๆ นี่ จะตองเปน
น้ําจากเยื่อลูกตาแน แปลวาตามันบอดไปขางหนึ่งแลว”
            “จริงดวย! นั่นจะตองเปนน้ําจากเยื่อลูกตาของมันที่ทะลักออกมา!!”
            อดีตนายทหารปนใหญ รองออกมาอยางยินดี
            “ใชแลวครับ บุญคําเห็นกับตา ลูกตาซายของมันเลือดฟูมไปทีเดียว แตตามันแตละขาง
ใหญเทากระบุงเห็นจะได”
            บุญคํายืนยันมาอีกคนหนึ่ง

           ทั้งหมด สํารวจดูรอยเลือดตรงตําแหนงทีคนพบเปนครังลาสุดนั้นอีกครูเดียว รพินทรก็
                                                   ่         ้
ตบไหลคะหยินเปนสัญญาณเตือน เจานักเลงชาวดอยก็ผูกเอวตนเองไวดวยเชือกอีกขางหนึ่ง โดยมี
               ่                                                  
บุญคําทําหนาที่เปนคนคอยโรยสายเชือกผอนให จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนพังพาบกับพื้นของใบไม
คอยๆ กระดิบตัวสายไปมาในลักษณะไมผดอะไรกับอาการเลื้อยของงูหางออกไปตามลําดับ มุงหนา
                                         ิ
ไปยังตนยูงใหญ ที่ยืนตระหงานในระดับเทลาด 45 องศาต่ําลงไป
           ทุกคนสงบนิ่ง จองมองดูการเคลื่อนไหวไปของคะหยินดวยใจอันเตนระทึก และแทบจะ
                                                            ่
ไมเชื่อสายตา รางของคะหยิ่นเคลื่อนหางออกไปเปนลําดับ กลางทะเลของใบไมอนมีลักษณะ ั
ประหลาด ซึ่งจะดูดสิ่งมีชีวต ที่มีน้ําหนักตัวทุกชนิดใหจมหายลงไปภายใตอยางลึกลับทั้งๆ ที่มอง
                           ิ
ดวยสายตาผาดๆ วา นาจะเหยียบยางผานไปได ไอของอะไรชนิดหนึ่งระเหยกรุนเปนกลุมหมอก
                                                                           
ควันบางๆ ขึ้นมาจากผิวพืนเหลานั้น ปกคลุมไปทั่ว มองดูล้ลับชวนขนพองสยองเกลาอยางไรบอก
                         ้                               ี
ไมถกู




[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1365

             ยิ่งหางออกไป สวนลางของลําตัวคะหยิ่นที่กระดิบไปนัน ก็ถูกกลุมใบไมมฤตยูกลืนไว
                                                                     ้
หมดสิ้น คงเห็นแนสวนศีรษะเทานันที่โผลกระดิบๆ อยู แลดูไมผิดอะไรกับลอยคอไปในน้ํา ทุกคน
                                       ้
เฝาจับมองดูดวยอาการหายใจไมทั่วทอง ประสาทเขม็งเกลียวตึงเครียด
                 
             บุญคํายึดปลายเชือกไวมั่นอยางเตรียมพรอมที่จะฉุดลาก นายบานหลมชางขึ้นมาอยางทัน
การ หากพลาดพลั้งจมหายลงไปเชนไร แงซายและจันก็คอยเตรียมใหความรวมมืออยูคนละดาน
             ในที่สุด คะหยิ่นก็ไปถึงตนยูงตนที่หมายตาไวโดยสวัสดิภาพ ตะกายขลุกขลักอยูที่นั่นครู
หนึ่ง ก็ลุกขึ้นยืนทามกลางการถอนใจโลงอกของคณะทุกคน นักเลงชาวดอยแกปลายเชือกที่รัดเอว
อยูออกมัดติดกับตนยูง ขึงจนตึงเปนสะพานแลวโบกมือยิ้มรามา
             พรานใหญเหวียงไรเฟลขึ้นสะพายไหล รัดผาขาวมาเคียนเอวใหแนนกระชับ แลวหันมา
                             ่
ทางไชยยันต
             “ทุกคนรอผมอยูฝงนี้กอน ถาผมโบกมือเปนสัญญาณ แปลวาใหทยอยขามตามกันไป ผม
กับคะหยิ่นอาจขามกลับมาที่นี่ก็ได ถาไมไดรองรอยอะไรจากทางดานนั้น”
                                               
             ไชยยันตตบไหลเขาแทนคําตอบ พรานใหญหันไปสั่งความกับแงซายและคนของเขาสอง
สามคํา ก็ใชมือทั้งสองยึดสายเชือกที่โยงตึงเปนสะพานนั้นไวเปนหลัก คอยๆ ยางเทาตามปกติลงไป
ยังพื้นที่เห็นปกคลุมอยูดวยใบไมนั้น
             กาวแรก มันลึกเพียงหนาแขง และรูสึกวาจะลึกลงไปอีกหากยังยืนอยูกบที่ พอกาวทีสอง
                                                                                 ั           ่
มันก็จมลงไปถึงหัวเขา สัมผัสเตือนใหทราบทันทีวา พืนเบื้องลางมันถาจะไมใชใบไมแหงเสียแลว
                                                            ้
หากแตเปนโคลนเหลวเย็นเฉียบ เขาทดลองยืนนิ่งอยูกับที่อึดใจหนึ่ง ก็รูสึกวามันถูกดูดลึกลงไปจน
เกือบถึงขาออน ขณะนั้นเอง คะหยินก็ตะโกนโบกไมโบกมือลั่นมา เตือนใหเขาทิ้งกายลงนอนราบ
                                         ่
กับพื้นใบไม และใหใชสายเชือกนั้นเหนี่ยวรั้งกายคืบหนาไป จอมพรานเหนียวสายเชือกดึงตัว
                                                                                   ่
กลับคืนขึ้นฝงเดิม เพื่อถอนตัวขึ้นจากปลักดูดกอน แลวแหงนมองไปยังนายจางทั้งสอง ซึ่งยืนมองดู
เขาดวยความสงสัย บอกเรียบๆ วา
             “ใบไมมันปกคลุมใหเห็นอยู 2-3 ฟุตเทานันเองครับ ขางลางเปนโคลนทั้งนั้น โคลนดูด
                                                      ้
ดวย ผมสงสัยมาแตแรกแลววา ลําพังกองใบไมมันจะดูดใหจมลงไปไดยงไง ถาจําเปนตองตามผม
                                                                         ั
ไปละก็ ระวังนะครับ อยาพยายามทิ้งน้ําหนักตัวในทายืนเปนอันขาด นอนไปเหมือนคะหยิ่น แลวก็
ยึดสายเชือกนีไวใหมั่น แถวนี้คงเปนหุบโคลนดูดทั้งนั้น”
                   ้
             ระหวางทีไชยยันต และดารินยังงงงัน ประหลาดใจในคําพูดของเขา รพินทรก็ทิ้งกายคว่ํา
                         ่
หนา ครอมสายเชือกไวคอยๆ ใชขอไตสายเชือกตัดผานทะเลใบไม อันแทที่จริงมีปลักโคลนดูดซอน
อยูภายใตออกไปอยางระมัดระวัง
             พักใหญจงไปถึงตําแหนงทีคะหยินยืนคอยอยูกอนแลว พรรคพวกทังหมดทางฝงนี้ เห็น
                       ึ                   ่ ่                                 ้
เขาจับมือคะหยิ่นที่สงลงมาใหเหนียวกายขึ้นไป
                                    ่                  ทั้งสองดูเหมือนจะสํารวจไปรอบๆ          และ


[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1366

ปรึกษาหารือกันอยูครูใหญ ทามกลางความกระสับกระสายของไชยยันตและดาริน ตอมาจึงเห็นทั้ง
รพินทรและคะหยิ่น ชวยกันโบกมือเปนสัญญาณใหขามตามไป
            บุญคําไดรบคําสั่งจากพรานใหญไวกอนแลว เกี่ยวกับการควบคุมจัดขบวนเคลื่อนยาย ก็
                        ั
ตบหลังแงซายบุยปากใหขามเปนคนแรกสําหรับชุดหลัง ดารินถูกเตือนใหเปนคนถัดไป และไชย
ยันตก็ขนาบหลังปดทายมา รวมเปนชุดสามคน โดยมีหญิงสาวอยูตรงกลาง เพื่อดูแลใหความ
ปลอดภัยในกรณีที่อาจมีการพลาดพลั้งเกิดอุปทวเหตุ
            จันกับบุญคําคงยืนรอคอยอยูบนฝงที่เดิม จนกระทั่งทั้งสามคนที่ไตเปนแถวเรียงเดี่ยวตาม
                                        
กันไป เวนระยะหางกันเพียงชวงแขนเดียวบรรลุถึงฝงตรงขาม อันมีรพินทรกับคะหยิ่นคอยฉุดรับอยู
จากนั้น จันจึงขามไปเปนคนรองสุดทาย เหลือบุญคําลาหลังอยูคนเดียว
            เมื่อจันไตเชือกลากตัวไปถึงขึ้นฝงเรียบรอย ตาพรานเฒากระดูกเหล็กก็แกปลายเชือกที่ผูก
กับตนรังออกมัดติดเอว ลงนอนพังพาบกับพื้นใบไมอนเปนอาการเดียวกับทุกคน แลวโบกมือเปน
                                                         ั
สัญญาณกับคะหยิ่นใหสาวปลายเชือกอีกขางหนึ่งฉุดลากตัวไป แงซายกับจันก็ชวยกันออกแรงชัก
                                                                                 
เพิ่มขึ้นอีกสองแรง

            ครั้นแลว ทั้ง 7 คนในคณะ ก็ขามมารวมกันอยูอีกดานหนึ่งไดครบจํานวนเรียบรอย ทันที
ที่ข้นมาถึงโคนตนยูงใหญ 5 คนที่ตามมาทีหลัง ก็มองเห็นรอยของงูยกษตวนั้นอยางถนัดชัดเจน มี
     ึ                                                             ั ั
รอยโคลนสดๆ เปรอะเลอะเปนทางกวางใหญ ผานตรงบริเวณดินแข็งโคนตนยูงดานหนึ่ง เปนชวง
ระยะสิบกวาเมตร แลวก็หายลับไปใตพนใบไมอีกดาน บอกใหทราบวามันโผลขึ้นที่โคนตนยูงนี้
                                         ื้
แลวเลื้อยผานบริเวณดินแข็งชวงสั้นๆ จากนั้นก็มุดหายลงไปใตผิวใบไมตามเดิม อันหมายถึงวา
บริเวณทีหายไปนั้นจะตองเปนหลมโคลนเหมือนที่ไตผานกันมาแลว
          ่
            ตางพุงสายตาไปยังพื้นตรงรอยที่มันอันตรธานไปอีกครั้งอยางคนหา
            “มันมุดจากตรงโนน มาโผลขึ้นหนอยหนึ่งตรงนี้ แลวก็ดําดินหายไปอีก ใหตายเถอะ!
บริเวณนี้เห็นจะเปนปลักโคลนทั้งนั้น แวดลอมรอบดานทีเดียว”
            ไชยยันตกลาวออกมาแผวต่ําในลําคอ ขณะทีกวาดตาไปรอบๆ ดวยความเสียวสยอง
                                                         ่
ระคนพรั่นใจอยางไรบอกไมถูก ภูมิประเทศที่เห็นมันชวนใหขนหัวลุก
            พรานใหญคงอยูในอาการขรึมสงบปกติของเขา จนอานไมออก ควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ
เปนตัวแรก ภายในของเขาเริ่มอึดอัดกังวลใจ ชําเลืองแวบหนึ่งไปทางหญิงสาวอยางเปนหวง ราช
สกุลสาวนักผจญภัยผูผิดเพศ บัดนี้ริมฝปากแหงผาก เหงื่อออกโชกเต็มตัว จนเสื้อลาสัตวเปยกชุม
ราวกับอาบน้ํารัดแนบเนื้อเขามาเห็นทรวดทรงเดน ใบหนาขาวซีดดวยความเหนื่อยจัด การลงนอน
ราบกับพื้นนําตัวเคลื่อนที่ไปดวยกําลังขอ โดยอาศัยเหนี่ยวสายเชือกลากตัวเอง
            มันเปนการออกแรงหนักที่สุดสําหรับผูหญิง


[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1367

              เขาอดที่จะพิศวงเสียไมไดวา...หลอนสามารถขามมาไดอยางไร และก็ไมไดปริปากคําใด
แมแตคําเดียว นอกจากอากัปกิริยาและสีหนาเทานั้น ซึ่งหลอนหลบซอนไมไดถงความรูสึกภายใน
                                                                                    ึ
ขณะนี้
              “ถูกอยางคุณไชยยันตวาแลวครับ”
              เขาหันไปตอบไชยยันตเบาๆ
              “แถวนี้เปนปลักโคลนทั้งนั้น มีบริเวณติดตอกันไปอยางกวางขวางชนิดยังเดาไมถูก วา
มันมีขอบเขตกินแดนไปถึงไหนบาง คะหยิ่นเองก็ยังบอกไมไดเหมือนกัน ที่เราเห็นตนไมใหญยน             ื
ตนอยูเปนบริเวณดินแข็งสูงขึ้นมา ลักษณะเหมือนเกาะกลางบึงโคลนนั่นเอง เราเห็นจะตองเสียเวลา
ตรวจคนหารอยของมัน และสํารวจพื้นที่ไปพรอมกันดวย”
              “ก็ไหนวาคะหยิ่นชํานาญภูมประเทศแถวนีดีไมใชหรือ?”
                                            ิ           ้
              รพินทรหัวเราะเบาๆ
              “เชื่อมันมากนักไมไดหรอกครับ ไอนี่มนขี้คุย แตถึงอยางไรมันก็รดีกวาพวกเราทุกคน
                                                      ั                          ู
สําหรับถิ่นนี้ และมีความสามารถเปนพิเศษในการเลื้อยขามปลักไปไดอยางงู ถึงอยางไรมันก็นําทาง
เราได แตหมายถึงวา เราจะตองระมัดระวังตัวเอง และใชการวินจฉัยใครครวญของเราเองดวย”
                                                                 ิ
              “ลงปลักโคลนมันลอมรอบไปหมดอยางนี้ มิแปลวาเราตองไปกันโดยไตเชือกเปนระยะๆ
ไปหรือ ก็คะหยิ่นบอกไวยังไงวา พอมาถึงที่นี่แลว พอจะมีทางเดิน”
              ดารินเอยขึ้นอยางกังวล สีหนาชักไมดนัก จะเขมแข็งทรหดอดทนสักปานใดก็ตาม หลอน
                                                   ี
เริ่มรูสึกทอแททอดอาลัยขึ้นเปนครั้งแรกเมือคิดวา การเคลื่อนที่ในระยะตอไป ตองใชวิธีอยางเมื่อครู
                                              ่
นี้ โดนเขาชวงระยะแรกหลอนก็เต็มกลืนแทบจะหมดกําลังลงกลางระยะทางอยูหลายครั้ง แตสูกด                 ั
ฟนทนจนสุดฤทธิ์ความมานะ
              “นั่นซิ ไอลิงทโมนนี่ตมเราเสียแลวกระมัง หลอกใหพวกเราเลื้อยไปอยางมัน”
              ไชยยันตเสริมขึ้นเบาๆ ชําเลืองไปทางคะหยิ่นผูกําลังปองหนากวาดตาสังเกตไปรอบๆ
ทิศ พรานใหญชี้มือไปทางดานใต อันเปนสันดินแข็งระดับเดียวกันกับโคนตนยูง บอกวา
              “คะหยินบอกวาทางที่พอจะเดินไปได ตองตัดไปทางนี้ครับ มันจะออมลงไปสูหุบตีนเขา
                      ่
ลูกนี้ ผมคิดวาเราเดินไปตามสันเนินนีกอนดีกวา บางทีไปถึงหุบขางลาง อาจคะเนไดวาขอบของ
                                          ่                                              
บริเวณปลักโคลนมันมีแนวอยูตรงไหนบาง พอชวยใหคานวณไดถูกวา มันจมตัวซอนอยูในปลัก
                                                            ํ
แหงนี้ตามที่คณหญิงวาแตแรก หรือวาขึ้นจากปลักหายหนาไปไหนอีก”
                  ุ
              ระหวางนายจางทั้งสอง...ไมมีใครแสดงความเห็นอยางใดอีกทั้งสิ้น หมายถึงปลอยหนาที่
ตัดสินชี้ขาดแกพรานใหญผูเดียว รูปการมันสอใหทุกคนเห็นชัดวา การตามรอยเจางูยักษแทบไมผด          ิ
อะไรกันเลยกับการตามรอยไอแหวง ครั้งสุดทายในถ้ําใตน้ําตก เพราะภูมประเทศวิบากกันดารเต็ม
                                                                          ิ
ไปดวยภยันตรายจากธรรมชาติรอบดานไมยิ่งหยอนไปกวากันเลย ครั้งนั้นทุกคนฝากความหวังไว
กับแงซายผูทําหนาที่เปนมัคคุเทศก แตครั้งนี้คะหยิ่นอุปมาประหนึ่งเรือนํารอง...

[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1368

             และในระหวางแงซายกับคะหยิ่นแลว คนแรกยอมใหความเชื่อมั่นอบอุนแกผูถกนําได
                                                                                   ู
มากกวาคนหลัง ทวาก็ไมมีทางเลือกอยางอืน    ่
             ตลอดทั้งดงทึบอันแวดลอมไปดวยปลักโคลนมรณะ ยังคงปกคลุมไปดวยความเงียบสงัด
...มันเงียบเสียจนกระทั่งแทบไดยนเสียงหัวใจของแตละคนเตนไปในลักษณะตางๆ จันกับบุญคํา
                                 ิ
ซุบซิบหารือกันเบาๆ แลวสอบถามพูดจากับคะหยิ่น มีแงซายคนเดียวเทานัน ที่ไมเอยคําใดกับใคร
                                                                 ้
ทั้งสิ้น เคาหนาสงบเย็นเยียบดุจภาพปนอยูเ ชนนั้น

             ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครัง ภายใตการนําของคะหยิน ผูจรดฝเทาลักษณะยองไปเบื้อง
                                       ้                        ่
หนา การเดินเปนลักษณะเรียงเดี่ยวและซ้ํารอยของมัคคุเทศก ตามวิธีเดินในบริเวณอันเต็มไปดวย
อันตรายสองฟาก ซึ่งทุกคนเขาใจดีอยูแลวโดยไมตองเตือน
             หนทางนัน บายลงสูเบื้องต่ําทางทิศใตเปนลําดับ สูงๆ ต่ําๆ เปนลอนคลื่น ผานไปใน
                       ้
ระหวางตนไมใหญที่ขึ้นเรียงรายอยูเปนระยะ       ไมมใครเดาถูกวาระดับของหนทางที่พอจะอาศัย
                                                        ี
เหยียบเดินไปไดนี้ มันมีขนาดกวางสักเพียงใด แตสังเกตเห็นคะหยิ่นใชความระมัดระวังอยางถี่ถวน
ที่สดุ
             บางขณะก็หยุดลังเล คิดและทดลองแหยเทาถวงน้ําหนักลงไปกอน เหมือนจะหยั่งดูวามัน
พอจะรับน้ําหนักไวไดหรือไม ทําใหไชยยันตและดาริน อดไมไดทจะหวนคิดไปถึงสภาพของบึง
                                                                     ี่
มรณะในหุบหมาหอนที่ผานมาแลว              ซึงตองอาศัยเดินไปตามขอบสันดินที่โผลเปนเกาะลักษณะ
                                            ่
เดียวกัน จะผิดกันแตเพียง...ครั้งนั้นสามารถจะมองเห็นน้าที่ลอมรอบอยูไดชด แตในครั้งนี้...ใบไม
                                                          ํ                ั
มันเปนเครื่องอําพรางตาปกคลุมไปหมด
             ไมมีใครพูดคําใด นอกจากเสียงสบถ...พึมพําดาคะหยิ่นไปตลอดทางของบุญคํา เพราะ
เห็นลักษณะการนําอยางเกงกาง เหมือนตัวคนนําเองไมสูจะแมนยําแนใจนัก ซึ่งคะหยินก็ไมได
                                                                                      ่
โตตอบอะไร นอกจากยิงฟนขาวแหง
             เกือบครึ่งชั่วโมงของทางเดิน อันเต็มไปดวยความลําบากยากเย็นนั้น ก็บรรลุถึงปารกทึบ
ที่ตนไมขึ้นกันเบียดเสียดหนาแนนเชนเดิม อันแสดงวาคงจะสุดขอบของบริเวณที่เปนปลักโคลน
ดานหนึ่งแลว ทั้งหมดแยกตัวออกจากการเดินเรียงแถวตามกัน สํารวจไปรอบๆ คะหยิ่นบนอะไรพํา
อยูในลําคอ สั่นหัวทําหนายุง นําเดินบุกปาฝารก ประเดี๋ยวโผลออกทางดานสัตวที่เริ่มจะเห็น
ประปราย ประเดี๋ยวก็แหวกพงเถาวัลยนามุดลอดไป สลับกันอยูเชนนั้น แตทิศทางสังเกตไดวา
                                          ํ
พยายามจะตัดสูเบื้องต่ําลงไปอีก
             รพินทรหันมากระซิบบอกนายจางทั้งสองใหทราบวา...ในขณะนี้ กําลังมุงลงสูหุบลึก
เบื้องลาง โดยพยายามเลาะขอบของบริเวณปลักโคลนดูด เพื่อจะหารองรอยโผลขนตําแหนงใด
ตําแหนงหนึ่งของมันใหได


[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1369

           ในที่สุดก็ลงมาถึงบริเวณกนหุบ อันเปนทีบรรจบของตีนเขาสองลูก รอบดานเต็มไปดวย
                                                  ่
โตรกเหวและซุมเถาวัลย สลับไปกับกลวยปาและเฟรนเห็นเขียวชอุมไปหมด อุดมไปดวยโขดหิน
ใหญนอย เรียงรายอยูระเกะระกะ ดานหนึงเปนเชิงเขาของอีกลูกหนึ่ง และเห็นทางน้าไหลเล็กๆ ซึ่ง
                                        ่                                      ํ
เซาะดินเวาแหวงลงมาจนดูเหมือนขั้นบันไดที่ใครมาทําไว ไตข้นไปยังกอนหินใหญสามลูกที่เรียง
                                                            ึ
ซอนกันอยูภายใตเชิงผา ลักษณะเหมือนถ้ําอันไมสูงขึ้นไปนัก ดอกวานบางชนิดสงกลิ่นมากรุนๆ
           
           คะหยินนําเดินเลาะลัดไปในระหวางซอกโขดหิน ที่ปกคลุมไปดวยตะไครและเถาวัลย
                 ่
เหลานั้น มันเปนทางเดินที่แทบจะไมผิดอะไรกับอุโมงค เพราะพันธุไมเลื้อยทีปกคลุมทึบแทน
                                                                             ่
หลังคา พอโผลพนซอกกอนหินใหญสองลูก อันมีลักษณะเหมือนปากประตูใหญ ก็หยุดซุบซิบ
อะไรกับพรานใหญอีกครั้ง
           จังหวะนีเ้ อง ดารินผูแทบจะหมดแรงเดินอีกตอไป เพราะความเหนื่อยออนก็ทรุดตัวลงนั่ง
กับพื้น เอาหลังพิงกอนหิน หลับตาพักนิ่งไปเอากําลังในระหวางการหารือ พอเปลือกตาปด ศีรษะ
เอนอยูกับกอนหิน หลอนก็มความรูสึกเหมือนอยากจะนอนหลับไปในทันทีนั้นดวยความอิดโรย ไม
                              ี
มีใครทันหันมาสังเกตเห็นหลอน แมแตไชยยันต...ผูบัดนี้ไปยืนรวมกลุมปรึกษาอยูกับพรานใหญ
                                                    
นอกจากแงซายเทานั้นที่จับตาดูแพทยหญิง นักมานุษยวิทยาสาวผูเปนนายอยูเงียบๆ

           พอทุกคนขยับกายจะเคลื่อนที่ตอไป อุงมืออันกํายําของเจาหนุมชาวดงผูลึกลับ ก็ลอยมา
จับแขนพรานใหญไว รพินทรหันขวับมาดวยความสงสัย เห็นแงซายมองตาอยูเงียบๆ ก็ขมวดคิว              ้
จองเหมือนจะถาม แตแลวเขาก็ชะงัก เมื่อเหลือบไปเห็นลักษณะของนายจางสาว ซึ่งหลับตาหนาซีด
อยู คนอื่นๆ ก็เหลียวมาพบพรอมกันในบัดนั้น
           ทั้งหมดพากันเคลื่อนเขามาใกลหลอน แตถึงเชนนั้นดารินก็ยังไมรูสึกตัว คงนั่งหลับตานิง่
เหมือนจะตกอยูในภวังคเชนนั้น รพินทรยมออกมาเล็กนอย ดวงตาอันเครงเครียดทั้งคูเปลี่ยนมาเปน
                                            ิ้
ออนโยน มองดูหลอนดวยความสงสาร แลวเหลือบไปที่ไชยยันต กระซิบเบาๆ
           “เราพักกันทีนสักครูเถิดครับ คุณหญิงคงจะเหนื่อยมากทีเดียว”
                        ่ ี่
           ไชยยันตถอนใจยาว มองดูเพื่อนสาวอยางเอ็นดูและเห็นใจ ไมกลาวคําใด ทรุดตัวลง
ใกลๆ ทั้งคณะก็เลยลงนั่งพักกันอยูที่น่นชัวขณะ อดีตนายทหารปนใหญเอื้อมมือมาจับที่ทอนขาอัน
                                       ั ่
เหยียดยาวของหลอนเขยา พรอมกับกระซิบเรียกเบาๆ
           ราชสกุลสาวสะดุง ลืมตาโพลงขึ้นอยางตกใจ พอมองเห็นไชยยันต หลอนก็ขยับตัวพรวด
พราดทําทาจะลุกขึ้นโดยเร็ว แตเพื่อนหนุมจับไหลกดไว ยิ้มให กระซิบ
           “เธอเหนื่อยมาก นอย นั่งพักเอาแรงสักประเดี๋ยวก็ได”
           ดารินกวาดตาก็มองเห็นพรรคพวกทุกคน พากันนั่งเรียงรายกันอยูเปนระยะ กําลังมองมา
ที่หลอนอยางเอื้อน้ําใจ หญิงสาวฝนยิ้มเจือนๆ ปาดแขนขึ้นเช็ดเหงื่อที่เกาะพราวอยูบนขนตา พูด
                                          ่
แหบๆ ออกมาจากลําคออันแหงผาก

[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1370

            “ขอโทษที ฉันเห็นกําลังปรึกษาหารือกันอยู ก็เลยถือโอกาสนั่งพักขา มันเลยเคลิ้มๆ หมด
ความรูสกไปไดยงไงก็ไมรู พอจะหายเหนือยแลวละ อยาเสียเวลาเลย ไปตอกันเถอะ”
          ึ          ั                    ่
            รพินทรปลดกระติกน้ําสงมาใหหลอน กลาวมาน้ําเสียงออนโยน
            “ไมเปนไรหรอกครับ คุณหญิง พวกเราก็เหนื่อยกันแทบแยทุกคน ไมใชคุณหญิงเหนือย       ่
คนเดียว เราพักกันสักครูดกวา ไมจําเปนจะตองรีบรอน”
                           ี
            หลอนหลบตาเขา พึมพําขอบใจ แลวรับกระติกน้ํามาเปดจุกออกดื่มกลั้วคอ ถอนใจยาว สี
หนาคอยดีขึ้นเล็กนอย พูดไมเต็มปากนัก
            “มัวชักชา เราอาจตามมันไมทันก็ได อยาลืมคติของเราเสีย นั่นก็คือ...อยาใหฉนตองเปน
                                                                                        ั
อุปสรรคถวงแผนการใดๆ ของเราทั้งสิ้น”
            พรานใหญสั่นศีรษะชาๆ ริมฝปากนั้นปรากฏรอยยิ้มนอยๆ ทําใหบังเกิดความแชมชื่นใน
ความรูสกของอีกฝายหนึ่งทีเ่ มินๆ หลบๆ
        ึ
            “ไมตองกังวลวาเราจะตามไมทันมันหรอกครับ ผมรับรองวากอนตะวันตกดินวันนี้ เรา
จะตองพบตัวมันแน ถาไมหลบอยูในกนหุบแถวนี้ ก็เห็นจะนอนกบดานอยูใตปลักโคลนอยางที่
คุณหญิงสงสัยนั่นแหละ คุณหญิงจะงีบสักขณะหนึ่งก็ไดนี่ครับ ผมใหเวลาถึงชั่วโมงเต็มๆ เราตกลง
ใจกันแลววาจะพักหุงหาอาหารกลางวันกันที่นี่แหละ คุณหญิงตื่นมาก็ไดทานอาหารเลย จากนัน             ้
คอยคนหารอยของมันตอไป”
            หญิงสาวมองตอบเขาดวยสายตาแสดงความขอบคุณ ริ้วเลือดชนิดหนึ่ง แลนขึ้นมาซาน
ผิวแกมอันซีดเซียว ทําใหแลดูสดชื่นขึ้น แลวหลอนก็เอนศีรษะพิงผนังหินหลับตาลงตามเดิม ไชย
ยันตเองก็เหยียดยาว ครึ่งนั่งครึ่งนอนพิงอยูกับกอนหิน ควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ คุยกับพรานใหญ
เบาๆ
            “สมมติวามันกบดานอยูใตปลักโคลนจริงๆ โดยไมยอมโผล เราจะทํายังไง?”
            “สบายเลยครับ ขอใหรูแนเทานั้น วามันหมกตัวอยูตรงตําแหนงไหน ระเบิดไนโตรยัดตูม
ลงไปสักลูก แบบเดียวกับระเบิดปลา ขี้ครานจะทะลึ่งพรวดขึ้นมาไมทน”     ั
            “เออ จริงซินะ โคลนมันมีความแนนเสียยิ่งกวาน้ําอีก เปนพาหนะนําความสั่นสะเทือน
ของแรงระเบิดไปไดดีนัก ผมชักแนใจเสียแลววา มันจมตัวหลบนิ่งอยูใตโคลนนั่นเอง มองไมเห็น
รองรอยสักนิดวามันจะโผลขึ้นมาทางไหน”
            “ก็ยังไมแนเหมือนกันครับ เพราะเรายังไมไดเดินสํารวจใหรอบบริเวณปลักโคลนหมด
ทุกดาน ถาสํารวจทั่วก็รไดทนที เพราะถาไมปรากฏวามันขึ้นที่ใด ก็แปลวามันอยูใตปลักนั่นเอง”
                         ู ั                                                   
            คะหยินสังเกตเห็นอาการของดารินที่นั่งพักหลับตาอยางหมดแรงอยู ก็จองดูดวยความ
                   ่
สงสัย ถามรพินทรขึ้นวา
            “นายหญิงของคะหยินเปนอะไรไป นายหญิงเหนื่อยหมดกําลังหรือ?”
                                ่
            จอมพรานทําหนาตาย บอกเรียบๆ วา

[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1371

           “แมมดผูมีอาคมแกกลาอยางนายหญิง ไมมวันเหนื่อยหรอกคะหยิ่น ตอใหพวกเราทุกคน
                                                      ี
หมดแรงแทบจะสิ้นใจ นายหญิงก็ยังมีกําลังอยูเสมอ”
           เจานักเลงชาวดอย นายบานหลมชางทําหนางง กะพริบตาถี่ๆ มองดูหนาเขา และหันไป
จับดู ‘แมมดคนสวย’ สลับกันอยูเชนนั้น ถามตอมา
           “แลวทําไมนายหญิงนั่งหลับตาอยูอยางนัน?”
                                                   ้
           “นายหญิงกําลังใชตาทิพยคนหาที่ซอนของงูยักษ เพื่อไมใหพวกเราเดินหากันใหเหนื่อย
                                       
แรง ประเดียวพอลืมตาขึ้นมา ก็บอกไดวางูยักษตวนันอยูที่ไหน เจาจงเฉยๆ ไวเถอะ”
            ๋                                   ั ้ 
           คะหยินลืมตาโพลง ครางอะไรอยูในลําคออยางตื่นเตนอัศจรรยใจ
                  ่
           บุญคํา จัน และแงซายหันหนาไปกลั้นหัวเราะ ไชยยันตสะกิดถามแงซายถึงการโตตอบ
ของทั้งสอง พอทราบความก็แทบจะปลอยกาก
           ตัวแมมดเองไมรูเรื่อง เพราะดูเหมือนจะเขาภวังคไปเสียแลว ดวยความออนเพลีย

           ดารินจะผล็อยงีบไปนานสักเทาใดไมทราบได มารูตัวสะดุงตื่นขึ้น เมื่อรูสึกวามีอะไรสัก
อยางหนึ่ง หยดแหมะลงมาที่หลังมือซึ่งประสานกันวางไวบนตัก สิ่งนั้นเปนลักษณะของเหลว
สัมผัสเย็นๆ อยางไรพิกล
           ทันทีที่ประสาทคืนมาสูตัว หูหลอนยังไดยินเสียงสนทนากันพึมพําจากรอบๆ ตัว อันเปน
เสียงของพรรคพวกที่รวมคณะนั่นเอง
                       
           หลอนลืมตาขึ้นมองไปที่หลังมือตนเอง อันไดรับการสัมผัสนั้น แลวก็ยังเกิดความพิศวง
ครามครัน ถูกแลว มันเปนของเหลวชนิดหนึ่ง สีคล้ําเหมือนโคลนเหลว หยดสักขนาดหัวแมมอ               ื
ปรากฏติดอยูที่หลังฝามือขวา อันไมไดสวมถุงหนังของหลอน เพราะถอดออกชั่วคราวขณะที่ลงนั่ง
               
พัก
           นักมานุษยวิทยาสาวกะพริบตาถี่ๆ กวาดตาไปยังผูรวมคณะทั้งหลาย เห็นนั่งแวดลอม
เรียงรายอยูเ ปนระยะรอบตัวหลอนเหมือนเดิม กําลังสูบบุหรี่คุยกันอยูเบาๆ โดยไมมีใครทันมา
สังเกตเห็นการลืมตาของหลอน จึงยกหลังมือขางนั้นขึ้นพิจารณาโดยใกล ถอดถุงมืออีกขางหนึ่ง
ออก เอานิ้วแตะขยี้ดู
           มันเปนโคลนเหลวจริงๆ นันแหละ มีสแดงชนิหนึ่งปะปนอยูในหยดโคลนนั้นอยูดวย
                                      ่             ี                                        
จางๆ หญิงสาวขมวดคิ้วยน แตแลวกอนที่สมองจะทันคิดเชนไรในปรากฏการณประหลาดนั่นเอง
อีกหยดหนึ่งก็หยดแปะลงมากระทบหลังมืออีกครั้ง คราวนี้มันไมใชโคลนเสียแลว แตเปนหยดเลือด
สดๆ!!
           ไมมีปญหา มันหยดลงมาจากเบื้องบนศีรษะของหลอนขณะนี้นั่นเอง!...
           ดารินกลั้นใจคอยๆ แหงนหนาขึ้นไปมองเบื้องบน อันเปนซุมกะทกรกและเถาเครือเล็กๆ
ที่ขึ้นพันแนนทึบอยูในระหวางยอดกอนหินใหญสองลูก          ซึ่งสูงจากระดับทีนั่งพักกันอยูขึ้นไป
                                                                              ่

[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1372

ประมาณ 7 เมตร ราวกับจะเปนหลังคาที่มุงไว ครั้งแรกที่สุดหลอนเห็นแตก่งใบเถาวัลย อันพันกัน
                                                                          ิ
ยุงเหยิงเปนกระเซิง ครั้นพินิจอยูอึดใจเดียว ก็มองเห็นแถบโคลนสีคล้ําเหมือนจะมีลําตนของไม
ใหญผุๆ พาดทอดขวางอยูในระหวางกอนหินสองลูกนั้น ตอมาก็เห็นปลองสีขาวเทาๆ ลักษณะเปน
                           
เกล็ดอยูในตําแหนงชองวางของเถาวัลยอีกตอนหนึ่ง
          
             เลือดอีกหยดหนึ่งปนไปกับโคลน ที่คางอยูตามกิ่งใบของเถาวัลยกหยดลงมาเปนคํารบ
                                                                              ็
สาม คราวนี้กระทบแกมของหลอนพอดี!
             ดาริน วราฤทธิ์ จองตะลึงคาง ช็อกนิ่งไปชั่วขณะ ตอมาความรูสึกบอกกับตนเองวา ได
พยายามขยับเขยื้อนกาย เพื่อใหเสียงบอกทุกคนที่รวมกลุมกันอยูใกลๆ ในขณะนี้ทราบถึงสิ่งที่
                                                                   
หลอนคนพบอยางบังเอิญนี้ แตมันไมมเี สียงใดๆ หลุดลอดผานลําคออันตีบตันออกมาได หูของ
หลอนยังคงสําเหนียกเสียงคุยกันพึมพําระหวางรพินทรกับไชยยันตเชนนั้น แขนขาที่พยายามจะ
กระดิก มันชาไปหมด เหมือนถูกผีอํา หรือมิฉะนั้นก็มอํานาจอันทรงมหิทธิฤทธิ์ชนิดหนึ่งเขามายึด
                                                        ี
ไว
             นานเทานาน ที่หญิงสาวตกอยูในภาวะเชนนี้...
             ครั้นแลว บนความพยายามตอสูอยางสุดขีด กับประสาททุกสวนทีกลายเปนอัมพาตไปนี้
                                                                            ่
แขนของหลอนคอยๆ ขยับควานเปะปะออกไปอยางหนักแสนหนัก ราวกับมีอะไรมาถวง ในที่สุดก็
เอื้อมไปถึงแผนหลังของใครคนหนึ่ง ซึ่งหลอนก็ไมทราบเหมือนกันวาใคร รูแตเพียงเปนคนทีใกล      ่
ที่สุด แลวก็สะกิด เสียงคงไมมีผานลําคอเชนเดิม
             ใครคนหนึ่งก็คือไชยยันต ซึ่งขณะนี้นั่งหันสีขางใหหลอน เขาหันกลับไปชาๆ อยางไม
สนใจอะไรนัก ขยับจะอาปากถามแตแลวก็ชะงักเพราะเห็นอาการของหญิงสาว...หนาของหลอนไม
มีสีเลือด ตาเหลือกโพลน กําลังแหงนเงยจองคางขึ้นไปเบื้องบน
             ไชยยันตเอะใจ แหงนขึ้นมองตาม บัดดลก็นั่งตัวแข็ง หัวใจดูเหมือนจะหยุดเตนไป
ชั่วขณะอีกคนหนึ่ง แลวสะกิดตอเบาๆ ที่รพินทรผูนั่งใชหมวกปดหนา เหมือนจะอาศัยงีบเอาแรงอยู
เหมือนกัน
             พรานใหญขยับตัว เสยปกหมวกขึน มองมาทางนายทหารปนใหญเหมือนจะถาม ไชย
                                              ้
ยันตกําลังตาเหลือกจองมาที่เขา ริมฝปากขยับหมุบหมิบเหมือนจะเอยเปนคําพูดอะไรออกมา แต
รพินทรฟงไมไดยน เขาฉงนเล็กนอย เอียงหนาเขามาใกล จึงไดยนเสียงที่แทบฟงไมรูเรื่องนั้นวา
                    ิ                                           ิ
             “ขางบน”
             จอมพรานแหงนขึ้นไปโดยเร็ว พริบตาที่จกษุรับภาพไดถนัด หัวใจของเขาก็วูบตกลงไป
                                                     ั
อยูที่ปลายเทา เย็นเฉียบตลอดไขสันหลัง ใหธรณีแยกไป ณ บัดนี้เถิด ไอราหูมหายักษที่กําลังติดตาม
ลา ทอดลําตัวสวนหนึ่งของมัน พาดอยูในระหวางโขดหินเหนือศีรษะที่ทุกคนกําลังหยุดนังพักอยูใต
                                                                                        ่         
ลําตัวของมันที่นอนสงบนิ่งอยูโดยไมรตัว!!
                                       ู


[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1373

            คงไมมีเรื่องของการจุดไตตาตอเรื่องใดในโลก ที่ทําใหขนหัวลุกเทากับเหตุการณที่ทั้งเจ็ด
                                         ํ
ชีวิตเผชิญอยูในขณะนี้...เจาอสูรดึกดําบรรพคงจะนอนสงบนิงขวางลําอยูบนโขดหินตําแหนงนี้มา
                                                           ่
กอนเปนเวลานานแลว ฝายมนุษยที่ตามลา...มะงุมมะงาหรายองคนหารอยของมันเขามา และแลวก็
มาหยุดพักปรึกษาหารือกันอยูใตทองของมันนั่นเอง!
            คนที่ไหวตัวสําเหนียกทันตอเหตุการณตอมา ไลเลี่ยกับรพินทรก็คือแงซาย หนุมชาวดง
พเนจร ลอบสะกิดโดยอาการบอกจัน ในขณะที่รพินทรสะกิดเตือนบุญคํา คงมีคะหยินคนเดียว        ่
เทานั้น ที่ประสาทสัมผัสชากวาทุกคน ยังเซอซาอยู เหลือบมาเห็นทุกคนพากันเงียบกริบไป แลว
เห็น ‘แมมดคนสวย’ ตื่นลืมตาโพลงขึ้นแลวก็ถามมาวา
            “นายหญิงลืมตาแลว นายหญิงบอกไดหรือยังวางูยักษอยูที่ไหน?”
            “นายหญิงบอกไดแลว คะหยิ่น”
            รพินทรกระซิบเบาๆ ยิ้มหรือแยกเขี้ยวก็บอกไมถูก
            “มันอยูที่ไหน?”
            “เงยขึ้นไปบนกบาลของเจา คะหยิน...”
                                             ่
            คะหยินเงยขึ้นไปชาๆ อยางไมเชื่อถือ นอกจากจะเห็นเปนเรื่องขบขัน นึกวาพรานใหญ
                   ่
เยา แตแลวพริบตานั้น ก็หงายแผละจากทาที่นั่งยองๆ อยู กนกระแทกลงกับพื้นดวยความตกใจขวัญ
หนีดีฝอแทบชักดิ้น
            บุญคําผูรวดเร็วตอเหตุการณ ก็กระโดดเขาตะครุบปากนายบานหลมชางไว กอนที่สิ่งใดๆ
จะหลุดลอดออกมาได กระซิบลอดไรฟนออกมา
            “เงียบ! ไอคะหยิ่น!...เอ็งขืนแหกปาก พวกเราตายหมดทุกคน!!”
            อึดใจนันเอง คะหยินก็ไดสติกลับคืนมา และสามารถเขาใจอะไรๆ ไดดีเทาๆ กับทุกคน
                     ้          ่
ตาเหลือกกลอกกลิ้งอยูไปมา เห็นแตตาขาว เหงื่อกาฬผุดเต็มหนา บุญคําสังเกตเห็นนายบานหลม
ชาง พอจะรูอะไรเปนอะไรแลว ก็คอยๆ คลายมือที่อุดปากออก
                                      

           บัดนี้ ทุกคนหันมาจองตากันเอง ดวยความรูสึกอันสุดที่จะบรรยายไดถก ดารินสรางจาก
                                                                            ู
ตะลึงแลว กายของหลอนสั่นเทาและโดยอาการบุยใบ หลอนชี้ไปที่หลังมือของตนเองที่มีหยดเลือด
ปนโคลนลงมากระทบ แลวชี้ไปเบื้องบน เปนความหมายแทนคําบอกวา หลอนรูสึกตัวลืมตาขึ้นมา
เห็น ก็เพราะหยดโคลนและเลือดนั้น
           รพินทรกัดริมฝปากแนน คอยๆ ยันกายขึนยืนชาๆ แหงนหนาจอง ทุกคนก็พลอยลุกขึ้น
                                                  ้
ตามอยางระมัดระวัง มันเปนปญหาคับขันฉุกเฉินขีดสุด ซึ่งจะตองอาศัยการตัดสินใจอันเฉียบพลัน
แขงกับเวลา และตองไมผิดพลาดดวย ทั้งเจ็ดชีวิตยืนอยูใตจมูกของมฤตยูโดยไมทันรูตัวลวงหนามา
                                                     
กอน


[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1374

              สวนที่วางพาดอยูนั้น เปนบริเวณใตทองกลางลําตัวตอนหนึ่ง และโดยตําแหนงอันเปน
เปาหมายใหเห็นถนัดชัดเจน ระยะใกลเผาขนที่สุดนี้ ธนูติดระเบิดของแงซายสามารถจะทําหนาที่
ของมันไดเต็มสภาพทีเดียว ปญหามันมีอยูแตวา...ถาไนโตรระเบิดขึนใตทอสวนนีของมัน อีกเจ็ด
                                                                           ้    ้
ชีวิตที่อยูภายใต ก็ยอมแหลกเปนจุณมหาจุณไปดวยอยางไมตองสงสัย
                                                               
              ทุกสายตาพุงมารวมจุดอยูที่เขาคนเดียว อยางยึดเปนที่พึ่ง...
              รพินทรก็ตัดสินใจในวินาทีนั้น ทําใบเปนสัญญาณใหทกคนคอยๆ ยองออกมายังปากทาง
                                                                    ุ
อันมีลักษณะเหมือนซุมประตู แลวชี้ไปยังเชิงเขาที่มีลักษณะเปนขั้นบันได นําขึ้นไปยังหมูโขดหิน
หนาปากถ้ําเล็กๆ ที่ผานกันมาแลวเมื่อกอนหยุดพัก ซึ่งขณะนี้ระยะหางออกไปประมาณ 100 เมตร
กระซิบเร็วปรือ    ๋
              “ทุกคน นอกจากผมกับแงซาย รีบวิ่งไปทีกลุมโขดหินหนาปากถ้ําบนเชิงเขาที่เห็นอยูน่น
                                                            ่                                  ั
เร็วที่สุด แลวหลบซอนอยูทนั่น มันเปนซอกหินแคบ ทางอับพอจะใชเปนกําบังไมใหหวมันลอดเขา
                                ี่                                                    ั
ไปได เอาละ รีบไปเดี๋ยวนี้ พยายามใหเบาและเงียบที่สุด ถามันไหวตัวเสียกอนจะลําบาก”
              “แลวคุณละ?”
              ไชยยันตละล่ําละลัก
              “ไมตองเปนหวง ผมกับแงซายจะยองเขาไปทางดานหัวของมัน...”
              “ไปดวยกันดีกวา เขาที่กําบังปลอดภัยไวกอน แลวใหแงซายยิงออกมาจากที่กําบังนัน”
                                                                                           ่
              ดารินทวงเร็วปรื๋อมาอีกคน พรานใหญสั่นหนา
              “ระยะนั้นมันไกลเกินไป แงซายยิงธนูไมถงเปาหมายที่ตองการแน...”
                                                              ึ        
              ไมทันจะขาดเสียงของเขา ก็ปรากฏเสียงปาลั่นอูมาราวกับเกิดพายุ ทั้งๆ ที่ลมสงบนิ่งไป
แลว ไมมเี คาของพายุเลยจนนิดเดียว เปนเสียงดังมาจากดงทึบในตอนลึกเขาไปของหุบ พรอมกับ
เสียงขูฟมาราวกับเสียงหัวรถจักรปลอยไอน้ํา ทุกคนแทบผงะหลัง
          ู
              “คูของมันตัวหนึ่ง กําลังตรงเขามาที่น!...”
                                                    ี่
              เสียงจันรองออกมาแทบไมเปนภาษาคน

           กอนที่ฝายมนุษยจะเคลื่อนไหวอยางไรตอไปนั้นเอง ก็มีเสียงฟูตอบออกมาจากเจาตัวที่
ถูกยิงเจ็บ และนอนพาดกอนหินเหนือศีรษะอยูในขณะนี้ ประหนึ่งจะเปนการสงเสียงเรียกรับคูของ
                                             
มัน ที่กําลังตรงดิ่งเขามาปานพายุสลาตัน แลวลําตัวสวนที่พาดอยูบนชะงอนหินทั้งสองดาน ก็เริม่
เคลื่อนไหวแชมชา ปรากฏเสียงหินลั่นครึกๆ และกิ่งใบเถาวัลยรวงพรูลงมา กอนหินยอมๆ ที่กองอยู
บนยอดโขดถลมรวงกรูเกลียว อันเกิดจากการไหวตัวนัน กลิ้งลงมายังกลุมของมนุษยทั้งเจ็ด ทียน
                                                     ้                                    ่ื
กระสับกระสายกันอยูภายใต จนถึงกับตองกระโดดหลบกันเปนพัลวัน




[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1375

              ดารินเกือบถูกหินลูกขนาดมะพราว หลนทับลงมากลางหลัง ดีแตแงซายผลักเซหลบ
ออกไปไดอยางหวุดหวิด ขณะเดียวกับที่รพินทรและไชยยันต ก็กมหัวหลงกอนเทาครก ที่กระดอน
ขลุกๆ ลงมาในระดับศีรษะ
              เสียงการเลื้อยมาของอีกตัวหนึ่ง...ใกลเขามาทุกขณะอยางรวดเร็ว ปะทะไมไรหกวินาศั
ครืนโครมอื้ออึงไปทั้งปา สวนเจาตัวเหนือศีรษะก็สงเสียงตอบเปนระยะอยูเชนนัน พลางขยับเคลื่อน
                                                                                   ้
ลําตัวไปๆ หยุดๆ ทีละนอย ยังไมพนจากโขดหินใหญคน้น           ู ั
              “ทําตามที่ผมสั่ง เร็วเขา! มันใกลเขามาเต็มทีแลว!”
                                                            ่
              เสียงเตือนดังมาจากรพินทรเปนครั้งสุดทาย และนั่นคือการปลุกสติของทุกคนใหกลับคืน
มา...เพื่อการตัดสินใจอยางหนึ่งในวินาทีคบขันขีดสุดนี้
                                                ั
              ไชยยันตกระชากแขนดารินออกวิ่งในทันทีนั้น             บายหนาตรงไปยังที่หมายอันอยูหาง
                                                                                                
ออกไป คะหยินก็โผนตามติดโดยมีบุญคํากับจันวิ่งตามไปเบื้องหลัง ทังหาคนตัดทางดานเล็กๆ สอง
                    ่                                                     ้
ฝงทางเปนพุมเถาวัลย และหมูหินเพื่อมุงขึนสูปากถ้ําเชิงเขาอยางแขงกับความเปนความตาย
                                                  ้
              พอฝายของไชยยันตเคลื่อนออกจากที่ รพินทรกับแงซายก็หันมามองหนากัน
              “คอยตามฉันไวทุกกาว อยาใหหางหรือแยกจากกันได”
              เขาสั่งเปนรถไฟดวน แลวเผนเขาซุมเถาวัลยรกดานซายมือ มุงเขายึดตนสักใหญ 6 คน
โอบตนหนึ่ง แงซายเปนเงาตามตัวอยางไมมีอะไรจะตองหวง คลองแคลวฉับไว ทันเขาทุกฝกาวยาง
จอมพรานควักบุหรี่ขึ้นมาจุด มือไมวายสัน เขาไมไดมีเจตนาที่จะสูบมัน แตเตรียมไวเพื่อศึกใหญใน
                                              ่
อีกไมก่อึดใจเบื้องหนา ศึกที่เขาไมสามารถบอกไดวามันจะลงเอยเอาในลักษณะใดแน ระหวางอสูร
          ี
ดึกดําบรรพผปราศจากตีนสองตัว กับมนุษยซึ่งเปรียบแลวเทากับลูกเขียดตัวกระจิดริดเจ็ดชีวิต
                 ู
              ตําแหนงทีเ่ คลื่อนมายึดใหมนี้ ทั้งสองยังไมสามารถกําหนดลําตัวของงูยกษตัวที่นอนนิ่ง
                                                                                      ั
อยูเมื่อครูน้ไดถนัดนัก คงเห็นแตเพียงสวนหนึ่งตามเดิมเทานั้น ที่พาดอยูบนโขดหินบดบังอยูในเงา
               ี
ทึบของเถาวัลย ปลายสองดานของมันไมทราบอยูที่ไหนแน เพราะความรกทึบของหมูไมที่บงอยู            ั
อยางไรก็ตามโดยระยะที่ถอยหางออกมาทีตนสัก และเปาหมายแมจะสังเกตไดในวงจํากัดเพียงแค
                                                    ่
นั้น มันก็เปนเปาหมายสําคัญพอเพียงที่จะเลือกเปนตําแหนงยิงได แงซายเอาลูกธนูขึ้นพาดสายใน
พริบตานั้นพรอมกับรองเรงมา
              “จุดชนวนเถอะ ผูกอง”
              รพินทรกดไหลอดีตรอยโทกองโจรกะเหรี่ยงไว เหลียวไปมาอยางรวดเร็ว เต็มไปดวย
อาการกระสับกระสาย
              “อยาเพิ่ง แงซาย ไอตัวนีไมสําคัญหรอก มันไปไหนไมรอดแลว เตรียมรับมือกับอีกตัวที่
                                         ้
กําลังพุงเขามากอนดีกวา มันยังแข็งแรงมีกาลังเต็มที่ เพราะไมไดถูกเจ็บอะไรเลย อันตรายที่สุด!”
                                                      ํ




[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
1376

            สิ้นเสียงของรพินทร ปาในละแวกรอบตัวก็มองเห็นชัดวาปนปวนขึน บรรดาซุมเถาวัลย
                                                                           ้
และยอดไมเตีย ลูระเนน ไหวครืนครันอยูไปมา ไอยกษเลื้อยมาเร็วยิงกวาน้ําปาในอัตราเคลื่อนไหว
                ้                                    ั              ่
อยางเต็มที่ของมัน
            และพริบตานันเอง...เงาของศีรษะอันมหึมาเหมือนภาพฝนราย ก็โผลวูบขึ้นมาจากหลัง
                           ้
พุมไมหางออกไปทางพงรกดานขวาประมาณ 30 เมตร จากตําแหนงที่ทั้งสองหลบซุมอยูโดยมีลํา
หวยขวางหนากั้นไว ระดับที่มันชูหัวพนยอดไมขึ้นมาราวๆ 3 วา มองเห็นอยางถนัดถนี่เกินความ
คาดฝนที่จะคํานวณไดวา...มันสูงจากระดับพื้นดินขึนมาสักเทาใด ราวกับสวนสูงของเสาโทรเลข
                                                   ้
ฉะนั้น เฉพาะที่มันตั้งคอชะเงอขึ้นมาโดยไมรวมถึงลําตัวสวนใหญ อยางนอยก็ไมต่ํากวาอีก 4 ใน 5
สวน ที่ราบอยูกับพื้น
                  
            ณ บัดนี้ สวนหัวอันนาเกลียดนากลัวนั้น หันสายไปรอบๆ โอนเอนไปมาเล็กนอย มันคง
มาพบคูของมันแลว และชะเงอตังหัวคนหาศัตรูซึ่งคงจะกระสากลิ่นอยูใกลๆ
                                  ้
            เห็นชัดถนัดตาเชนนี้ ทั้งรพินทรและแงซายก็เหมือนจะถูกสะกดใหเปนหินไปชั่วขณะ
มันจะเปนสัตวประเภทงูหรืออะไรก็สดที่จะลงความเห็นไดเสียแลว สําหรับสวนศีรษะที่เห็นอยูนี้
                                       ุ                                                      
เพราะสัณฐานลักษณะไมเหมือนกับงูชนิดใดในโลกที่เคยพบเห็นมา มันเปนรูปละมายสี่เหลี่ยมขาว
หลามตัด ยอดบนของศีรษะ มีอะไรชนิดหนึ่งตั้งแนวอยูเปนสัน คลายๆ หงอนไกชน ดวงตาทั้งคู
ใหญโปนทะลักเดนออกมานอกเบา ที่มขอบสีออกแดงจัด ลอมเปนวงกลมเหมือนตาปลาทอง
                                             ี
กระดิกกลิ้งเหลือบไปมาไดอยางนาสยอง เขี้ยวแหลมโคงทั้งคูโผลพนออกมาจากปากเหมือนงาของ
ตัววอลรัส ใตคางเปนแผนหนังหอยยานประดุจเหนียงอยูสองแถบ
            สิ่งที่พอจะบอกชัดไดถึงสัญชาติดั้งเดิม ก็คือลิ้นอันมีปลายสองแฉกทีพุงพนปากออกมา
                                                                             ่
แปลบปลาบเปนจังหวะ ลักษณะทาทางของการเลื้อยไปไดอยางรวดเร็ว และคลองแคลวประเปรียว
ก็ดี รวมทั้งการตั้งหัวชูคอขึ้นไปไดสูงมากจากระดับพืนราบก็ดี มันเปนคุณลักษณะของจงอาง
                                                        ้
มากกวาประเภทงูเหลือมซึ่งอืดอาดเชื่องชากวา
            ความตกตะลึงที่มองเห็นหนาตาของเจาอสูรรายตนนั้นกระจะตา ทําใหรพินทรลืมไป
ชั่วขณะวาเขามีหนาที่จดชนวนระเบิดใหแงซาย สัญชาตญาณพราน ทําใหตวัดไรเฟลประจํามือขึ้นสู
                         ุ
ไหล แตกอนที่นิ้วจะกระดิกนั่นเอง สติกคืนมาอีกครั้ง เพราะเสียงสําลักของแงซาย
                                           ็
            “ผูกอง! จุดชนวนใหผมเร็ว!!”
            จึงยื่นปลายบุหรี่ติดไฟเขาทีสายชนวนระเบิด อันติดอยูกับลูกธนูของแงซายทันที แตชา
                                         ่                        
ไปเสียแลว กอนที่ปลายบุหรี่จะทันสัมผัสกับสายชนวน เจาสัตวประหลาดตนนันก็พุงพรวดจากที่
                                                                               ้
เดิมอยางรวดเร็ว เสียงพุมไมหักวินาศอันเกิดจากลําตัวของมันฟาดทับและเลื้อยผานเปนพายุ ไมได
มุงเขาหารพินทรกับแงซายผูความจริงก็หางจากปลายจมูกของมันเทียบแลวเพียงแคคบ หากแตเลื้อย
                                                                                ื
บายหนาไปทางเชิงเขาดานทีคณะของไชยยันตกําลังวิ่งหลบเขาหาที่กําบัง
                                ่
            “มันเห็นพวกเราทางดานโนนแลว มันกําลังไล!”

[E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7
ดงมรณะ7

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

แหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติแหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติTongsamut vorasan
 
ไพรมหากาฬ ๔
ไพรมหากาฬ ๔ไพรมหากาฬ ๔
ไพรมหากาฬ ๔Tact Sparrow
 
ไพรมหากาฬ2
ไพรมหากาฬ2ไพรมหากาฬ2
ไพรมหากาฬ2krutew Sudarat
 
ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3krutew Sudarat
 
พระเวสสันดรรวม
พระเวสสันดรรวมพระเวสสันดรรวม
พระเวสสันดรรวมWataustin Austin
 
เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖
เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖
เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖Anchalee BuddhaBucha
 
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธาใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธาChinnakorn Pawannay
 
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )niralai
 
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12MilkOrapun
 
2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดียJitjaree Lertwilaiwittaya
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)B'Ben Rattanarat
 
จารึกอักษรบนกระดองเต่า
จารึกอักษรบนกระดองเต่าจารึกอักษรบนกระดองเต่า
จารึกอักษรบนกระดองเต่าSRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
 

Mais procurados (20)

แหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติแหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติ
 
ไพรมหากาฬ ๔
ไพรมหากาฬ ๔ไพรมหากาฬ ๔
ไพรมหากาฬ ๔
 
ไพรมหากาฬ2
ไพรมหากาฬ2ไพรมหากาฬ2
ไพรมหากาฬ2
 
แหล่
แหล่แหล่
แหล่
 
กลัวทำไม
กลัวทำไมกลัวทำไม
กลัวทำไม
 
ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3
 
พระเวสสันดรรวม
พระเวสสันดรรวมพระเวสสันดรรวม
พระเวสสันดรรวม
 
เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖
เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖
เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖
 
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธาใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
 
ครัวป่า
ครัวป่าครัวป่า
ครัวป่า
 
กลัวทำไม
กลัวทำไมกลัวทำไม
กลัวทำไม
 
แหล่ลา
แหล่ลาแหล่ลา
แหล่ลา
 
ครัวป่า
ครัวป่าครัวป่า
ครัวป่า
 
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12
 
2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
 
จารึกอักษรบนกระดองเต่า
จารึกอักษรบนกระดองเต่าจารึกอักษรบนกระดองเต่า
จารึกอักษรบนกระดองเต่า
 

Semelhante a ดงมรณะ7

นางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนงนางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนงtommy
 
ละอองทรายกรุ่นไอรัก Free
ละอองทรายกรุ่นไอรัก Freeละอองทรายกรุ่นไอรัก Free
ละอองทรายกรุ่นไอรัก FreePanda Jing
 
งูจ้าว
งูจ้าวงูจ้าว
งูจ้าวtommy
 
3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบ
3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบ3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบ
3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบtommy
 
ผีตายซาก
ผีตายซากผีตายซาก
ผีตายซากtommy
 
เพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬ
เพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬเพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬ
เพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬmonome
 
ไพรมหากาฬ1
ไพรมหากาฬ1ไพรมหากาฬ1
ไพรมหากาฬ1krutew Sudarat
 
พุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่นพุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่นPanda Jing
 
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึกเศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึกtommy
 
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1krubuatoom
 
Go 38
Go 38Go 38
Go 38tommy
 
บ้านผีสิง
บ้านผีสิงบ้านผีสิง
บ้านผีสิงtommy
 
สมพร
สมพรสมพร
สมพรNat Ty
 
ความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวนความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวนJoice Naka
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2B'Ben Rattanarat
 
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้Nongkran_Jarurnphong
 
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้Nongkran_Jarurnphong
 

Semelhante a ดงมรณะ7 (20)

นางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนงนางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนง
 
ละอองทรายกรุ่นไอรัก Free
ละอองทรายกรุ่นไอรัก Freeละอองทรายกรุ่นไอรัก Free
ละอองทรายกรุ่นไอรัก Free
 
งูจ้าว
งูจ้าวงูจ้าว
งูจ้าว
 
3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบ
3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบ3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบ
3เกลอ ตอนป่าช้าผีดิบ
 
ผีตายซาก
ผีตายซากผีตายซาก
ผีตายซาก
 
เพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬ
เพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬเพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬ
เพชรพระอุมา เล่มที่ 01 ตอน ไพรมหากาฬ
 
ไพรมหากาฬ1
ไพรมหากาฬ1ไพรมหากาฬ1
ไพรมหากาฬ1
 
พุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่นพุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่น
 
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึกเศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
 
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
 
Go 38
Go 38Go 38
Go 38
 
บ้านผีสิง
บ้านผีสิงบ้านผีสิง
บ้านผีสิง
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
สมพร
สมพรสมพร
สมพร
 
ความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวนความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวน
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
 
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
วรรณกรรมท้องถิ่นตำนานผาชู้
 

Mais de krutew Sudarat

แบบรูปและความสัมพันธ์
แบบรูปและความสัมพันธ์แบบรูปและความสัมพันธ์
แบบรูปและความสัมพันธ์krutew Sudarat
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2krutew Sudarat
 
แบบรูปและความสัมพันธ1
แบบรูปและความสัมพันธ1แบบรูปและความสัมพันธ1
แบบรูปและความสัมพันธ1krutew Sudarat
 
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1krutew Sudarat
 
การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ 2
การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๑ 2การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๑ 2
การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ 2krutew Sudarat
 
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3krutew Sudarat
 
สรุปสูตร ม.2
สรุปสูตร ม.2สรุปสูตร ม.2
สรุปสูตร ม.2krutew Sudarat
 
สรุปสูตร ม.1
สรุปสูตร ม.1สรุปสูตร ม.1
สรุปสูตร ม.1krutew Sudarat
 
ฝึกทักษะให้สมอง
ฝึกทักษะให้สมองฝึกทักษะให้สมอง
ฝึกทักษะให้สมองkrutew Sudarat
 
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้นข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้นkrutew Sudarat
 
เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน
เสียดายคนตายไม่ได้อ่านเสียดายคนตายไม่ได้อ่าน
เสียดายคนตายไม่ได้อ่านkrutew Sudarat
 

Mais de krutew Sudarat (15)

แบบรูปและความสัมพันธ์
แบบรูปและความสัมพันธ์แบบรูปและความสัมพันธ์
แบบรูปและความสัมพันธ์
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
 
ใบงาน 1
ใบงาน 1ใบงาน 1
ใบงาน 1
 
แบบรูปและความสัมพันธ1
แบบรูปและความสัมพันธ1แบบรูปและความสัมพันธ1
แบบรูปและความสัมพันธ1
 
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
 
การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ 2
การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๑ 2การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๑ 2
การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ 2
 
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3
 
สรุปสูตร ม.2
สรุปสูตร ม.2สรุปสูตร ม.2
สรุปสูตร ม.2
 
สรุปสูตร ม.1
สรุปสูตร ม.1สรุปสูตร ม.1
สรุปสูตร ม.1
 
ดงมรณะ5
ดงมรณะ5ดงมรณะ5
ดงมรณะ5
 
ฝึกทักษะให้สมอง
ฝึกทักษะให้สมองฝึกทักษะให้สมอง
ฝึกทักษะให้สมอง
 
Math m1 book2
Math m1 book2Math m1 book2
Math m1 book2
 
Math m1 book1
Math m1 book1Math m1 book1
Math m1 book1
 
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้นข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.ต้น
 
เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน
เสียดายคนตายไม่ได้อ่านเสียดายคนตายไม่ได้อ่าน
เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน
 

ดงมรณะ7

  • 2. 1363 52 รพินทรกวาดสายตาสํารวจภูมิประเทศลักษณะชอบกลนันอีกครั้ง แลวก็ตัดสินใจในทันที ้ นั้น “ผมกับคะหยินจะขามปลักใบไมที่ตนยูงตนนั้นกอน บางทีอาจไดรองรอยอะไรเพิ่มขึ้น” ่ “ตกลง” ไชยยันตพยักหนาอยางงายๆ ดวยความเชือมือ ่ พรานใหญหันไปสงภาษากับคะหยิ่น พรอมทั้งลวงเชือกไนลอนที่ตดอยูประจําในยาม ิ หลังโยนไปใหแงซาย จัน และบุญคํา ก็ปลดเชือกประจําตัวสมทบไปใหดวยทันที หัวหนาบานหลมชาง จัดการตอเชือกเหลานั้นเขาเปนเสนเดียวกัน ซึ่งไดความยาว ประมาณ 40 เมตร ไตเนินชันขึ้นไปยันโคนตนรัง อันจะใชเปนตนเชือกสําหรับยึด จัดการผูกติดกับ รากที่งอกโผลขึ้นมาตอนหนึง แตแลวทันทีน้นเอง คะหยิ่นผูกําลังงวนอยูกับการผูกเชือก ก็รอง ่ ั อุทานออกมาคําหนึ่ง มีอาการชะงักนิ่งไป ตาจองนิ่งลงไปตรงพื้นบริเวณโคนตนรัง รพินทรกับทุกคนในคณะ ไตตามขึ้นไปในทันทีดวยความสงสัยในอาการของคะหยิน  ่ พอขึ้นมาถึงบริเวณนั้นไชยยันตก็ครางเบาๆ บนพื้นซึ่งกลาดเกลื่อนไปดวยใบไมโคนตนรัง มีเลือดสดสีคล้ํากองอยู ราวกับใครมา เชือดวัวทั้งตัวทิ้งไวที่นน ฝูงแมลงวันตอมหึ่ง หยดไขขังแลเห็นเปนแนวขาวไปหมด กลิ่นมันคาว ั่ หืนๆ ผิดกับเลือดสัตวทุกชนิด กองเลือดเหลานี้ไมไดปรากฏอยูกับพืนเทานั้น ยังติดเปรอะเปนคราบ ้ อยูกับลําตนในระดับสูงเกินชวงศีรษะคนสูงขนาดแงซายขึ้นไปเกือบชวงแขน เหมือนควักสีจากถัง มาปายไว ตําแหนงที่คนพบใหมนี้มีจํานวนมากมายที่สุด นับตั้งแตออกมาตามรอย ยกเวนที่ทิ้งไวให เห็นในเขตหมูบาน อันเปนแดนประจัญบานระหวางมันกับคณะของเชษฐา  “ทําไมเลือดมันถึงมากองเอาเปนปลักอยูตรงนี้” ไชยยันตพึมพําขึ้นอยางแปลกใจ จอมพรานพิจารณาดูรองรอยเหลานั้นอยางถี่ถวนระมัดระวังตาเปนประกาย “มันมาหยุดเอาหัวเช็ดกับโคนตนรังนี่พกใหญทีเดียว กอนที่จะเลื้อยหายลงไปในทะเล ั ใบไมนั่น นีเ่ ปนรอยเลือดจากสวนหัวของมัน แสดงวาบาดแผลฉกรรจมาก เลือดจึงยังออกอยูเรื่อยๆ โดยไมมีการหยุด เบาใจไดแลวครับ ไอตัวนี้เห็นจะไมรอดแน ฝมือของคุณชายเชษฐากับพวกนัน ้ ทีเดียวแหละ” แลวเขาก็เอาลํากลองไรเฟล ชี้ใหไชยยันตกับดารินสังเกตไปยังตําแหนงรอยเลือดตอน หนึ่ง ซึ่งติดอยูกับตนรัง มันไมเพียงแตสีของเลือดเทานันที่ปรากฏ แตมีของเหลวใสสีขาวเปนเมือก  ้ เหนียว ติดปะปนอยูดวยมองเห็นชัด ของเหลวใสชนิดนีหยดเปนกอนกองอยูกับพืนดวย  ้ ้ [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 3. 1364 “ดูใหดีซิครับ ไอเจาสิ่งเหนียวใสลักษณะเปนเมือกที่ติดปนอยูกับเลือดนั่นดวยคืออะไร?” ทั้งสองจองพิจารณาดูสิ่งนั้นอยางประหลาดใจ ดารินทรุดตัวลงกับพืน หยิบกิ่งไมเล็กๆ ้ เขี่ยดูดวยอาการงงๆ แลวเมมริมฝปากเงยหนาขึ้น  “มันเปนอะไร นอย พอจะเดาถูกไหม?” ไชยยันตถามโดยเร็ว แพทยสาวลุกขึ้นยืนชาๆ ถอดถุงมือหนังขางหนึ่งออก ลงทุนใชนิ้วเปลาแตะวัตถุเหลวใส นั้นขยี้สมผัสดู หัวคิวขมวดยน ั ้ “เอ แปลก! บอกไมถกเหมือนกันวามันเปนอะไรกันแน แตลักษณะมันคลายๆ น้ําเมือกอยู ู ในเยื่อลูกนัยนตาประเภทมิวคัส” “ถางั้นไมมีปญหาอะไรเลย...” รพินทรพดโดยเร็ว แยกเขี้ยวยิ้ม ู “คุณชายเอาลูกปน .458 ยัดเขาไปในลูกตาขางซายของมัน น้ําเมือกขาวๆ นี่ จะตองเปน น้ําจากเยื่อลูกตาแน แปลวาตามันบอดไปขางหนึ่งแลว” “จริงดวย! นั่นจะตองเปนน้ําจากเยื่อลูกตาของมันที่ทะลักออกมา!!” อดีตนายทหารปนใหญ รองออกมาอยางยินดี “ใชแลวครับ บุญคําเห็นกับตา ลูกตาซายของมันเลือดฟูมไปทีเดียว แตตามันแตละขาง ใหญเทากระบุงเห็นจะได” บุญคํายืนยันมาอีกคนหนึ่ง ทั้งหมด สํารวจดูรอยเลือดตรงตําแหนงทีคนพบเปนครังลาสุดนั้นอีกครูเดียว รพินทรก็ ่ ้ ตบไหลคะหยินเปนสัญญาณเตือน เจานักเลงชาวดอยก็ผูกเอวตนเองไวดวยเชือกอีกขางหนึ่ง โดยมี ่  บุญคําทําหนาที่เปนคนคอยโรยสายเชือกผอนให จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนพังพาบกับพื้นของใบไม คอยๆ กระดิบตัวสายไปมาในลักษณะไมผดอะไรกับอาการเลื้อยของงูหางออกไปตามลําดับ มุงหนา ิ ไปยังตนยูงใหญ ที่ยืนตระหงานในระดับเทลาด 45 องศาต่ําลงไป ทุกคนสงบนิ่ง จองมองดูการเคลื่อนไหวไปของคะหยินดวยใจอันเตนระทึก และแทบจะ ่ ไมเชื่อสายตา รางของคะหยิ่นเคลื่อนหางออกไปเปนลําดับ กลางทะเลของใบไมอนมีลักษณะ ั ประหลาด ซึ่งจะดูดสิ่งมีชีวต ที่มีน้ําหนักตัวทุกชนิดใหจมหายลงไปภายใตอยางลึกลับทั้งๆ ที่มอง ิ ดวยสายตาผาดๆ วา นาจะเหยียบยางผานไปได ไอของอะไรชนิดหนึ่งระเหยกรุนเปนกลุมหมอก  ควันบางๆ ขึ้นมาจากผิวพืนเหลานั้น ปกคลุมไปทั่ว มองดูล้ลับชวนขนพองสยองเกลาอยางไรบอก ้ ี ไมถกู [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 4. 1365 ยิ่งหางออกไป สวนลางของลําตัวคะหยิ่นที่กระดิบไปนัน ก็ถูกกลุมใบไมมฤตยูกลืนไว ้ หมดสิ้น คงเห็นแนสวนศีรษะเทานันที่โผลกระดิบๆ อยู แลดูไมผิดอะไรกับลอยคอไปในน้ํา ทุกคน ้ เฝาจับมองดูดวยอาการหายใจไมทั่วทอง ประสาทเขม็งเกลียวตึงเครียด  บุญคํายึดปลายเชือกไวมั่นอยางเตรียมพรอมที่จะฉุดลาก นายบานหลมชางขึ้นมาอยางทัน การ หากพลาดพลั้งจมหายลงไปเชนไร แงซายและจันก็คอยเตรียมใหความรวมมืออยูคนละดาน ในที่สุด คะหยิ่นก็ไปถึงตนยูงตนที่หมายตาไวโดยสวัสดิภาพ ตะกายขลุกขลักอยูที่นั่นครู หนึ่ง ก็ลุกขึ้นยืนทามกลางการถอนใจโลงอกของคณะทุกคน นักเลงชาวดอยแกปลายเชือกที่รัดเอว อยูออกมัดติดกับตนยูง ขึงจนตึงเปนสะพานแลวโบกมือยิ้มรามา พรานใหญเหวียงไรเฟลขึ้นสะพายไหล รัดผาขาวมาเคียนเอวใหแนนกระชับ แลวหันมา ่ ทางไชยยันต “ทุกคนรอผมอยูฝงนี้กอน ถาผมโบกมือเปนสัญญาณ แปลวาใหทยอยขามตามกันไป ผม กับคะหยิ่นอาจขามกลับมาที่นี่ก็ได ถาไมไดรองรอยอะไรจากทางดานนั้น”  ไชยยันตตบไหลเขาแทนคําตอบ พรานใหญหันไปสั่งความกับแงซายและคนของเขาสอง สามคํา ก็ใชมือทั้งสองยึดสายเชือกที่โยงตึงเปนสะพานนั้นไวเปนหลัก คอยๆ ยางเทาตามปกติลงไป ยังพื้นที่เห็นปกคลุมอยูดวยใบไมนั้น กาวแรก มันลึกเพียงหนาแขง และรูสึกวาจะลึกลงไปอีกหากยังยืนอยูกบที่ พอกาวทีสอง ั ่ มันก็จมลงไปถึงหัวเขา สัมผัสเตือนใหทราบทันทีวา พืนเบื้องลางมันถาจะไมใชใบไมแหงเสียแลว ้ หากแตเปนโคลนเหลวเย็นเฉียบ เขาทดลองยืนนิ่งอยูกับที่อึดใจหนึ่ง ก็รูสึกวามันถูกดูดลึกลงไปจน เกือบถึงขาออน ขณะนั้นเอง คะหยินก็ตะโกนโบกไมโบกมือลั่นมา เตือนใหเขาทิ้งกายลงนอนราบ ่ กับพื้นใบไม และใหใชสายเชือกนั้นเหนี่ยวรั้งกายคืบหนาไป จอมพรานเหนียวสายเชือกดึงตัว ่ กลับคืนขึ้นฝงเดิม เพื่อถอนตัวขึ้นจากปลักดูดกอน แลวแหงนมองไปยังนายจางทั้งสอง ซึ่งยืนมองดู เขาดวยความสงสัย บอกเรียบๆ วา “ใบไมมันปกคลุมใหเห็นอยู 2-3 ฟุตเทานันเองครับ ขางลางเปนโคลนทั้งนั้น โคลนดูด ้ ดวย ผมสงสัยมาแตแรกแลววา ลําพังกองใบไมมันจะดูดใหจมลงไปไดยงไง ถาจําเปนตองตามผม ั ไปละก็ ระวังนะครับ อยาพยายามทิ้งน้ําหนักตัวในทายืนเปนอันขาด นอนไปเหมือนคะหยิ่น แลวก็ ยึดสายเชือกนีไวใหมั่น แถวนี้คงเปนหุบโคลนดูดทั้งนั้น” ้ ระหวางทีไชยยันต และดารินยังงงงัน ประหลาดใจในคําพูดของเขา รพินทรก็ทิ้งกายคว่ํา ่ หนา ครอมสายเชือกไวคอยๆ ใชขอไตสายเชือกตัดผานทะเลใบไม อันแทที่จริงมีปลักโคลนดูดซอน อยูภายใตออกไปอยางระมัดระวัง พักใหญจงไปถึงตําแหนงทีคะหยินยืนคอยอยูกอนแลว พรรคพวกทังหมดทางฝงนี้ เห็น ึ ่ ่ ้ เขาจับมือคะหยิ่นที่สงลงมาใหเหนียวกายขึ้นไป  ่ ทั้งสองดูเหมือนจะสํารวจไปรอบๆ และ [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 5. 1366 ปรึกษาหารือกันอยูครูใหญ ทามกลางความกระสับกระสายของไชยยันตและดาริน ตอมาจึงเห็นทั้ง รพินทรและคะหยิ่น ชวยกันโบกมือเปนสัญญาณใหขามตามไป บุญคําไดรบคําสั่งจากพรานใหญไวกอนแลว เกี่ยวกับการควบคุมจัดขบวนเคลื่อนยาย ก็ ั ตบหลังแงซายบุยปากใหขามเปนคนแรกสําหรับชุดหลัง ดารินถูกเตือนใหเปนคนถัดไป และไชย ยันตก็ขนาบหลังปดทายมา รวมเปนชุดสามคน โดยมีหญิงสาวอยูตรงกลาง เพื่อดูแลใหความ ปลอดภัยในกรณีที่อาจมีการพลาดพลั้งเกิดอุปทวเหตุ จันกับบุญคําคงยืนรอคอยอยูบนฝงที่เดิม จนกระทั่งทั้งสามคนที่ไตเปนแถวเรียงเดี่ยวตาม  กันไป เวนระยะหางกันเพียงชวงแขนเดียวบรรลุถึงฝงตรงขาม อันมีรพินทรกับคะหยิ่นคอยฉุดรับอยู จากนั้น จันจึงขามไปเปนคนรองสุดทาย เหลือบุญคําลาหลังอยูคนเดียว เมื่อจันไตเชือกลากตัวไปถึงขึ้นฝงเรียบรอย ตาพรานเฒากระดูกเหล็กก็แกปลายเชือกที่ผูก กับตนรังออกมัดติดเอว ลงนอนพังพาบกับพื้นใบไมอนเปนอาการเดียวกับทุกคน แลวโบกมือเปน ั สัญญาณกับคะหยิ่นใหสาวปลายเชือกอีกขางหนึ่งฉุดลากตัวไป แงซายกับจันก็ชวยกันออกแรงชัก  เพิ่มขึ้นอีกสองแรง ครั้นแลว ทั้ง 7 คนในคณะ ก็ขามมารวมกันอยูอีกดานหนึ่งไดครบจํานวนเรียบรอย ทันที ที่ข้นมาถึงโคนตนยูงใหญ 5 คนที่ตามมาทีหลัง ก็มองเห็นรอยของงูยกษตวนั้นอยางถนัดชัดเจน มี ึ ั ั รอยโคลนสดๆ เปรอะเลอะเปนทางกวางใหญ ผานตรงบริเวณดินแข็งโคนตนยูงดานหนึ่ง เปนชวง ระยะสิบกวาเมตร แลวก็หายลับไปใตพนใบไมอีกดาน บอกใหทราบวามันโผลขึ้นที่โคนตนยูงนี้ ื้ แลวเลื้อยผานบริเวณดินแข็งชวงสั้นๆ จากนั้นก็มุดหายลงไปใตผิวใบไมตามเดิม อันหมายถึงวา บริเวณทีหายไปนั้นจะตองเปนหลมโคลนเหมือนที่ไตผานกันมาแลว ่ ตางพุงสายตาไปยังพื้นตรงรอยที่มันอันตรธานไปอีกครั้งอยางคนหา “มันมุดจากตรงโนน มาโผลขึ้นหนอยหนึ่งตรงนี้ แลวก็ดําดินหายไปอีก ใหตายเถอะ! บริเวณนี้เห็นจะเปนปลักโคลนทั้งนั้น แวดลอมรอบดานทีเดียว” ไชยยันตกลาวออกมาแผวต่ําในลําคอ ขณะทีกวาดตาไปรอบๆ ดวยความเสียวสยอง ่ ระคนพรั่นใจอยางไรบอกไมถูก ภูมิประเทศที่เห็นมันชวนใหขนหัวลุก พรานใหญคงอยูในอาการขรึมสงบปกติของเขา จนอานไมออก ควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ เปนตัวแรก ภายในของเขาเริ่มอึดอัดกังวลใจ ชําเลืองแวบหนึ่งไปทางหญิงสาวอยางเปนหวง ราช สกุลสาวนักผจญภัยผูผิดเพศ บัดนี้ริมฝปากแหงผาก เหงื่อออกโชกเต็มตัว จนเสื้อลาสัตวเปยกชุม ราวกับอาบน้ํารัดแนบเนื้อเขามาเห็นทรวดทรงเดน ใบหนาขาวซีดดวยความเหนื่อยจัด การลงนอน ราบกับพื้นนําตัวเคลื่อนที่ไปดวยกําลังขอ โดยอาศัยเหนี่ยวสายเชือกลากตัวเอง มันเปนการออกแรงหนักที่สุดสําหรับผูหญิง [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 6. 1367 เขาอดที่จะพิศวงเสียไมไดวา...หลอนสามารถขามมาไดอยางไร และก็ไมไดปริปากคําใด แมแตคําเดียว นอกจากอากัปกิริยาและสีหนาเทานั้น ซึ่งหลอนหลบซอนไมไดถงความรูสึกภายใน ึ ขณะนี้ “ถูกอยางคุณไชยยันตวาแลวครับ” เขาหันไปตอบไชยยันตเบาๆ “แถวนี้เปนปลักโคลนทั้งนั้น มีบริเวณติดตอกันไปอยางกวางขวางชนิดยังเดาไมถูก วา มันมีขอบเขตกินแดนไปถึงไหนบาง คะหยิ่นเองก็ยังบอกไมไดเหมือนกัน ที่เราเห็นตนไมใหญยน ื ตนอยูเปนบริเวณดินแข็งสูงขึ้นมา ลักษณะเหมือนเกาะกลางบึงโคลนนั่นเอง เราเห็นจะตองเสียเวลา ตรวจคนหารอยของมัน และสํารวจพื้นที่ไปพรอมกันดวย” “ก็ไหนวาคะหยิ่นชํานาญภูมประเทศแถวนีดีไมใชหรือ?” ิ ้ รพินทรหัวเราะเบาๆ “เชื่อมันมากนักไมไดหรอกครับ ไอนี่มนขี้คุย แตถึงอยางไรมันก็รดีกวาพวกเราทุกคน ั ู สําหรับถิ่นนี้ และมีความสามารถเปนพิเศษในการเลื้อยขามปลักไปไดอยางงู ถึงอยางไรมันก็นําทาง เราได แตหมายถึงวา เราจะตองระมัดระวังตัวเอง และใชการวินจฉัยใครครวญของเราเองดวย” ิ “ลงปลักโคลนมันลอมรอบไปหมดอยางนี้ มิแปลวาเราตองไปกันโดยไตเชือกเปนระยะๆ ไปหรือ ก็คะหยิ่นบอกไวยังไงวา พอมาถึงที่นี่แลว พอจะมีทางเดิน” ดารินเอยขึ้นอยางกังวล สีหนาชักไมดนัก จะเขมแข็งทรหดอดทนสักปานใดก็ตาม หลอน ี เริ่มรูสึกทอแททอดอาลัยขึ้นเปนครั้งแรกเมือคิดวา การเคลื่อนที่ในระยะตอไป ตองใชวิธีอยางเมื่อครู ่ นี้ โดนเขาชวงระยะแรกหลอนก็เต็มกลืนแทบจะหมดกําลังลงกลางระยะทางอยูหลายครั้ง แตสูกด ั ฟนทนจนสุดฤทธิ์ความมานะ “นั่นซิ ไอลิงทโมนนี่ตมเราเสียแลวกระมัง หลอกใหพวกเราเลื้อยไปอยางมัน” ไชยยันตเสริมขึ้นเบาๆ ชําเลืองไปทางคะหยิ่นผูกําลังปองหนากวาดตาสังเกตไปรอบๆ ทิศ พรานใหญชี้มือไปทางดานใต อันเปนสันดินแข็งระดับเดียวกันกับโคนตนยูง บอกวา “คะหยินบอกวาทางที่พอจะเดินไปได ตองตัดไปทางนี้ครับ มันจะออมลงไปสูหุบตีนเขา ่ ลูกนี้ ผมคิดวาเราเดินไปตามสันเนินนีกอนดีกวา บางทีไปถึงหุบขางลาง อาจคะเนไดวาขอบของ ่  บริเวณปลักโคลนมันมีแนวอยูตรงไหนบาง พอชวยใหคานวณไดถูกวา มันจมตัวซอนอยูในปลัก ํ แหงนี้ตามที่คณหญิงวาแตแรก หรือวาขึ้นจากปลักหายหนาไปไหนอีก” ุ ระหวางนายจางทั้งสอง...ไมมีใครแสดงความเห็นอยางใดอีกทั้งสิ้น หมายถึงปลอยหนาที่ ตัดสินชี้ขาดแกพรานใหญผูเดียว รูปการมันสอใหทุกคนเห็นชัดวา การตามรอยเจางูยักษแทบไมผด ิ อะไรกันเลยกับการตามรอยไอแหวง ครั้งสุดทายในถ้ําใตน้ําตก เพราะภูมประเทศวิบากกันดารเต็ม ิ ไปดวยภยันตรายจากธรรมชาติรอบดานไมยิ่งหยอนไปกวากันเลย ครั้งนั้นทุกคนฝากความหวังไว กับแงซายผูทําหนาที่เปนมัคคุเทศก แตครั้งนี้คะหยิ่นอุปมาประหนึ่งเรือนํารอง... [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 7. 1368 และในระหวางแงซายกับคะหยิ่นแลว คนแรกยอมใหความเชื่อมั่นอบอุนแกผูถกนําได ู มากกวาคนหลัง ทวาก็ไมมีทางเลือกอยางอืน ่ ตลอดทั้งดงทึบอันแวดลอมไปดวยปลักโคลนมรณะ ยังคงปกคลุมไปดวยความเงียบสงัด ...มันเงียบเสียจนกระทั่งแทบไดยนเสียงหัวใจของแตละคนเตนไปในลักษณะตางๆ จันกับบุญคํา ิ ซุบซิบหารือกันเบาๆ แลวสอบถามพูดจากับคะหยิ่น มีแงซายคนเดียวเทานัน ที่ไมเอยคําใดกับใคร ้ ทั้งสิ้น เคาหนาสงบเย็นเยียบดุจภาพปนอยูเ ชนนั้น ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครัง ภายใตการนําของคะหยิน ผูจรดฝเทาลักษณะยองไปเบื้อง ้ ่ หนา การเดินเปนลักษณะเรียงเดี่ยวและซ้ํารอยของมัคคุเทศก ตามวิธีเดินในบริเวณอันเต็มไปดวย อันตรายสองฟาก ซึ่งทุกคนเขาใจดีอยูแลวโดยไมตองเตือน หนทางนัน บายลงสูเบื้องต่ําทางทิศใตเปนลําดับ สูงๆ ต่ําๆ เปนลอนคลื่น ผานไปใน ้ ระหวางตนไมใหญที่ขึ้นเรียงรายอยูเปนระยะ ไมมใครเดาถูกวาระดับของหนทางที่พอจะอาศัย ี เหยียบเดินไปไดนี้ มันมีขนาดกวางสักเพียงใด แตสังเกตเห็นคะหยิ่นใชความระมัดระวังอยางถี่ถวน ที่สดุ บางขณะก็หยุดลังเล คิดและทดลองแหยเทาถวงน้ําหนักลงไปกอน เหมือนจะหยั่งดูวามัน พอจะรับน้ําหนักไวไดหรือไม ทําใหไชยยันตและดาริน อดไมไดทจะหวนคิดไปถึงสภาพของบึง ี่ มรณะในหุบหมาหอนที่ผานมาแลว  ซึงตองอาศัยเดินไปตามขอบสันดินที่โผลเปนเกาะลักษณะ ่ เดียวกัน จะผิดกันแตเพียง...ครั้งนั้นสามารถจะมองเห็นน้าที่ลอมรอบอยูไดชด แตในครั้งนี้...ใบไม ํ ั มันเปนเครื่องอําพรางตาปกคลุมไปหมด ไมมีใครพูดคําใด นอกจากเสียงสบถ...พึมพําดาคะหยิ่นไปตลอดทางของบุญคํา เพราะ เห็นลักษณะการนําอยางเกงกาง เหมือนตัวคนนําเองไมสูจะแมนยําแนใจนัก ซึ่งคะหยินก็ไมได ่ โตตอบอะไร นอกจากยิงฟนขาวแหง เกือบครึ่งชั่วโมงของทางเดิน อันเต็มไปดวยความลําบากยากเย็นนั้น ก็บรรลุถึงปารกทึบ ที่ตนไมขึ้นกันเบียดเสียดหนาแนนเชนเดิม อันแสดงวาคงจะสุดขอบของบริเวณที่เปนปลักโคลน ดานหนึ่งแลว ทั้งหมดแยกตัวออกจากการเดินเรียงแถวตามกัน สํารวจไปรอบๆ คะหยิ่นบนอะไรพํา อยูในลําคอ สั่นหัวทําหนายุง นําเดินบุกปาฝารก ประเดี๋ยวโผลออกทางดานสัตวที่เริ่มจะเห็น ประปราย ประเดี๋ยวก็แหวกพงเถาวัลยนามุดลอดไป สลับกันอยูเชนนั้น แตทิศทางสังเกตไดวา ํ พยายามจะตัดสูเบื้องต่ําลงไปอีก รพินทรหันมากระซิบบอกนายจางทั้งสองใหทราบวา...ในขณะนี้ กําลังมุงลงสูหุบลึก เบื้องลาง โดยพยายามเลาะขอบของบริเวณปลักโคลนดูด เพื่อจะหารองรอยโผลขนตําแหนงใด ตําแหนงหนึ่งของมันใหได [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 8. 1369 ในที่สุดก็ลงมาถึงบริเวณกนหุบ อันเปนทีบรรจบของตีนเขาสองลูก รอบดานเต็มไปดวย ่ โตรกเหวและซุมเถาวัลย สลับไปกับกลวยปาและเฟรนเห็นเขียวชอุมไปหมด อุดมไปดวยโขดหิน ใหญนอย เรียงรายอยูระเกะระกะ ดานหนึงเปนเชิงเขาของอีกลูกหนึ่ง และเห็นทางน้าไหลเล็กๆ ซึ่ง ่ ํ เซาะดินเวาแหวงลงมาจนดูเหมือนขั้นบันไดที่ใครมาทําไว ไตข้นไปยังกอนหินใหญสามลูกที่เรียง ึ ซอนกันอยูภายใตเชิงผา ลักษณะเหมือนถ้ําอันไมสูงขึ้นไปนัก ดอกวานบางชนิดสงกลิ่นมากรุนๆ  คะหยินนําเดินเลาะลัดไปในระหวางซอกโขดหิน ที่ปกคลุมไปดวยตะไครและเถาวัลย ่ เหลานั้น มันเปนทางเดินที่แทบจะไมผิดอะไรกับอุโมงค เพราะพันธุไมเลื้อยทีปกคลุมทึบแทน ่ หลังคา พอโผลพนซอกกอนหินใหญสองลูก อันมีลักษณะเหมือนปากประตูใหญ ก็หยุดซุบซิบ อะไรกับพรานใหญอีกครั้ง จังหวะนีเ้ อง ดารินผูแทบจะหมดแรงเดินอีกตอไป เพราะความเหนื่อยออนก็ทรุดตัวลงนั่ง กับพื้น เอาหลังพิงกอนหิน หลับตาพักนิ่งไปเอากําลังในระหวางการหารือ พอเปลือกตาปด ศีรษะ เอนอยูกับกอนหิน หลอนก็มความรูสึกเหมือนอยากจะนอนหลับไปในทันทีนั้นดวยความอิดโรย ไม ี มีใครทันหันมาสังเกตเห็นหลอน แมแตไชยยันต...ผูบัดนี้ไปยืนรวมกลุมปรึกษาอยูกับพรานใหญ  นอกจากแงซายเทานั้นที่จับตาดูแพทยหญิง นักมานุษยวิทยาสาวผูเปนนายอยูเงียบๆ พอทุกคนขยับกายจะเคลื่อนที่ตอไป อุงมืออันกํายําของเจาหนุมชาวดงผูลึกลับ ก็ลอยมา จับแขนพรานใหญไว รพินทรหันขวับมาดวยความสงสัย เห็นแงซายมองตาอยูเงียบๆ ก็ขมวดคิว ้ จองเหมือนจะถาม แตแลวเขาก็ชะงัก เมื่อเหลือบไปเห็นลักษณะของนายจางสาว ซึ่งหลับตาหนาซีด อยู คนอื่นๆ ก็เหลียวมาพบพรอมกันในบัดนั้น ทั้งหมดพากันเคลื่อนเขามาใกลหลอน แตถึงเชนนั้นดารินก็ยังไมรูสึกตัว คงนั่งหลับตานิง่ เหมือนจะตกอยูในภวังคเชนนั้น รพินทรยมออกมาเล็กนอย ดวงตาอันเครงเครียดทั้งคูเปลี่ยนมาเปน ิ้ ออนโยน มองดูหลอนดวยความสงสาร แลวเหลือบไปที่ไชยยันต กระซิบเบาๆ “เราพักกันทีนสักครูเถิดครับ คุณหญิงคงจะเหนื่อยมากทีเดียว” ่ ี่ ไชยยันตถอนใจยาว มองดูเพื่อนสาวอยางเอ็นดูและเห็นใจ ไมกลาวคําใด ทรุดตัวลง ใกลๆ ทั้งคณะก็เลยลงนั่งพักกันอยูที่น่นชัวขณะ อดีตนายทหารปนใหญเอื้อมมือมาจับที่ทอนขาอัน ั ่ เหยียดยาวของหลอนเขยา พรอมกับกระซิบเรียกเบาๆ ราชสกุลสาวสะดุง ลืมตาโพลงขึ้นอยางตกใจ พอมองเห็นไชยยันต หลอนก็ขยับตัวพรวด พราดทําทาจะลุกขึ้นโดยเร็ว แตเพื่อนหนุมจับไหลกดไว ยิ้มให กระซิบ “เธอเหนื่อยมาก นอย นั่งพักเอาแรงสักประเดี๋ยวก็ได” ดารินกวาดตาก็มองเห็นพรรคพวกทุกคน พากันนั่งเรียงรายกันอยูเปนระยะ กําลังมองมา ที่หลอนอยางเอื้อน้ําใจ หญิงสาวฝนยิ้มเจือนๆ ปาดแขนขึ้นเช็ดเหงื่อที่เกาะพราวอยูบนขนตา พูด ่ แหบๆ ออกมาจากลําคออันแหงผาก [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 9. 1370 “ขอโทษที ฉันเห็นกําลังปรึกษาหารือกันอยู ก็เลยถือโอกาสนั่งพักขา มันเลยเคลิ้มๆ หมด ความรูสกไปไดยงไงก็ไมรู พอจะหายเหนือยแลวละ อยาเสียเวลาเลย ไปตอกันเถอะ” ึ ั ่ รพินทรปลดกระติกน้ําสงมาใหหลอน กลาวมาน้ําเสียงออนโยน “ไมเปนไรหรอกครับ คุณหญิง พวกเราก็เหนื่อยกันแทบแยทุกคน ไมใชคุณหญิงเหนือย ่ คนเดียว เราพักกันสักครูดกวา ไมจําเปนจะตองรีบรอน” ี หลอนหลบตาเขา พึมพําขอบใจ แลวรับกระติกน้ํามาเปดจุกออกดื่มกลั้วคอ ถอนใจยาว สี หนาคอยดีขึ้นเล็กนอย พูดไมเต็มปากนัก “มัวชักชา เราอาจตามมันไมทันก็ได อยาลืมคติของเราเสีย นั่นก็คือ...อยาใหฉนตองเปน ั อุปสรรคถวงแผนการใดๆ ของเราทั้งสิ้น” พรานใหญสั่นศีรษะชาๆ ริมฝปากนั้นปรากฏรอยยิ้มนอยๆ ทําใหบังเกิดความแชมชื่นใน ความรูสกของอีกฝายหนึ่งทีเ่ มินๆ หลบๆ ึ “ไมตองกังวลวาเราจะตามไมทันมันหรอกครับ ผมรับรองวากอนตะวันตกดินวันนี้ เรา จะตองพบตัวมันแน ถาไมหลบอยูในกนหุบแถวนี้ ก็เห็นจะนอนกบดานอยูใตปลักโคลนอยางที่ คุณหญิงสงสัยนั่นแหละ คุณหญิงจะงีบสักขณะหนึ่งก็ไดนี่ครับ ผมใหเวลาถึงชั่วโมงเต็มๆ เราตกลง ใจกันแลววาจะพักหุงหาอาหารกลางวันกันที่นี่แหละ คุณหญิงตื่นมาก็ไดทานอาหารเลย จากนัน ้ คอยคนหารอยของมันตอไป” หญิงสาวมองตอบเขาดวยสายตาแสดงความขอบคุณ ริ้วเลือดชนิดหนึ่ง แลนขึ้นมาซาน ผิวแกมอันซีดเซียว ทําใหแลดูสดชื่นขึ้น แลวหลอนก็เอนศีรษะพิงผนังหินหลับตาลงตามเดิม ไชย ยันตเองก็เหยียดยาว ครึ่งนั่งครึ่งนอนพิงอยูกับกอนหิน ควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ คุยกับพรานใหญ เบาๆ “สมมติวามันกบดานอยูใตปลักโคลนจริงๆ โดยไมยอมโผล เราจะทํายังไง?” “สบายเลยครับ ขอใหรูแนเทานั้น วามันหมกตัวอยูตรงตําแหนงไหน ระเบิดไนโตรยัดตูม ลงไปสักลูก แบบเดียวกับระเบิดปลา ขี้ครานจะทะลึ่งพรวดขึ้นมาไมทน” ั “เออ จริงซินะ โคลนมันมีความแนนเสียยิ่งกวาน้ําอีก เปนพาหนะนําความสั่นสะเทือน ของแรงระเบิดไปไดดีนัก ผมชักแนใจเสียแลววา มันจมตัวหลบนิ่งอยูใตโคลนนั่นเอง มองไมเห็น รองรอยสักนิดวามันจะโผลขึ้นมาทางไหน” “ก็ยังไมแนเหมือนกันครับ เพราะเรายังไมไดเดินสํารวจใหรอบบริเวณปลักโคลนหมด ทุกดาน ถาสํารวจทั่วก็รไดทนที เพราะถาไมปรากฏวามันขึ้นที่ใด ก็แปลวามันอยูใตปลักนั่นเอง” ู ั  คะหยินสังเกตเห็นอาการของดารินที่นั่งพักหลับตาอยางหมดแรงอยู ก็จองดูดวยความ ่ สงสัย ถามรพินทรขึ้นวา “นายหญิงของคะหยินเปนอะไรไป นายหญิงเหนื่อยหมดกําลังหรือ?” ่ จอมพรานทําหนาตาย บอกเรียบๆ วา [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 10. 1371 “แมมดผูมีอาคมแกกลาอยางนายหญิง ไมมวันเหนื่อยหรอกคะหยิ่น ตอใหพวกเราทุกคน ี หมดแรงแทบจะสิ้นใจ นายหญิงก็ยังมีกําลังอยูเสมอ” เจานักเลงชาวดอย นายบานหลมชางทําหนางง กะพริบตาถี่ๆ มองดูหนาเขา และหันไป จับดู ‘แมมดคนสวย’ สลับกันอยูเชนนั้น ถามตอมา “แลวทําไมนายหญิงนั่งหลับตาอยูอยางนัน?” ้ “นายหญิงกําลังใชตาทิพยคนหาที่ซอนของงูยักษ เพื่อไมใหพวกเราเดินหากันใหเหนื่อย  แรง ประเดียวพอลืมตาขึ้นมา ก็บอกไดวางูยักษตวนันอยูที่ไหน เจาจงเฉยๆ ไวเถอะ” ๋ ั ้  คะหยินลืมตาโพลง ครางอะไรอยูในลําคออยางตื่นเตนอัศจรรยใจ ่ บุญคํา จัน และแงซายหันหนาไปกลั้นหัวเราะ ไชยยันตสะกิดถามแงซายถึงการโตตอบ ของทั้งสอง พอทราบความก็แทบจะปลอยกาก ตัวแมมดเองไมรูเรื่อง เพราะดูเหมือนจะเขาภวังคไปเสียแลว ดวยความออนเพลีย ดารินจะผล็อยงีบไปนานสักเทาใดไมทราบได มารูตัวสะดุงตื่นขึ้น เมื่อรูสึกวามีอะไรสัก อยางหนึ่ง หยดแหมะลงมาที่หลังมือซึ่งประสานกันวางไวบนตัก สิ่งนั้นเปนลักษณะของเหลว สัมผัสเย็นๆ อยางไรพิกล ทันทีที่ประสาทคืนมาสูตัว หูหลอนยังไดยินเสียงสนทนากันพึมพําจากรอบๆ ตัว อันเปน เสียงของพรรคพวกที่รวมคณะนั่นเอง  หลอนลืมตาขึ้นมองไปที่หลังมือตนเอง อันไดรับการสัมผัสนั้น แลวก็ยังเกิดความพิศวง ครามครัน ถูกแลว มันเปนของเหลวชนิดหนึ่ง สีคล้ําเหมือนโคลนเหลว หยดสักขนาดหัวแมมอ ื ปรากฏติดอยูที่หลังฝามือขวา อันไมไดสวมถุงหนังของหลอน เพราะถอดออกชั่วคราวขณะที่ลงนั่ง  พัก นักมานุษยวิทยาสาวกะพริบตาถี่ๆ กวาดตาไปยังผูรวมคณะทั้งหลาย เห็นนั่งแวดลอม เรียงรายอยูเ ปนระยะรอบตัวหลอนเหมือนเดิม กําลังสูบบุหรี่คุยกันอยูเบาๆ โดยไมมีใครทันมา สังเกตเห็นการลืมตาของหลอน จึงยกหลังมือขางนั้นขึ้นพิจารณาโดยใกล ถอดถุงมืออีกขางหนึ่ง ออก เอานิ้วแตะขยี้ดู มันเปนโคลนเหลวจริงๆ นันแหละ มีสแดงชนิหนึ่งปะปนอยูในหยดโคลนนั้นอยูดวย ่ ี   จางๆ หญิงสาวขมวดคิ้วยน แตแลวกอนที่สมองจะทันคิดเชนไรในปรากฏการณประหลาดนั่นเอง อีกหยดหนึ่งก็หยดแปะลงมากระทบหลังมืออีกครั้ง คราวนี้มันไมใชโคลนเสียแลว แตเปนหยดเลือด สดๆ!! ไมมีปญหา มันหยดลงมาจากเบื้องบนศีรษะของหลอนขณะนี้นั่นเอง!... ดารินกลั้นใจคอยๆ แหงนหนาขึ้นไปมองเบื้องบน อันเปนซุมกะทกรกและเถาเครือเล็กๆ ที่ขึ้นพันแนนทึบอยูในระหวางยอดกอนหินใหญสองลูก ซึ่งสูงจากระดับทีนั่งพักกันอยูขึ้นไป ่ [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 11. 1372 ประมาณ 7 เมตร ราวกับจะเปนหลังคาที่มุงไว ครั้งแรกที่สุดหลอนเห็นแตก่งใบเถาวัลย อันพันกัน ิ ยุงเหยิงเปนกระเซิง ครั้นพินิจอยูอึดใจเดียว ก็มองเห็นแถบโคลนสีคล้ําเหมือนจะมีลําตนของไม ใหญผุๆ พาดทอดขวางอยูในระหวางกอนหินสองลูกนั้น ตอมาก็เห็นปลองสีขาวเทาๆ ลักษณะเปน  เกล็ดอยูในตําแหนงชองวางของเถาวัลยอีกตอนหนึ่ง  เลือดอีกหยดหนึ่งปนไปกับโคลน ที่คางอยูตามกิ่งใบของเถาวัลยกหยดลงมาเปนคํารบ ็ สาม คราวนี้กระทบแกมของหลอนพอดี! ดาริน วราฤทธิ์ จองตะลึงคาง ช็อกนิ่งไปชั่วขณะ ตอมาความรูสึกบอกกับตนเองวา ได พยายามขยับเขยื้อนกาย เพื่อใหเสียงบอกทุกคนที่รวมกลุมกันอยูใกลๆ ในขณะนี้ทราบถึงสิ่งที่  หลอนคนพบอยางบังเอิญนี้ แตมันไมมเี สียงใดๆ หลุดลอดผานลําคออันตีบตันออกมาได หูของ หลอนยังคงสําเหนียกเสียงคุยกันพึมพําระหวางรพินทรกับไชยยันตเชนนั้น แขนขาที่พยายามจะ กระดิก มันชาไปหมด เหมือนถูกผีอํา หรือมิฉะนั้นก็มอํานาจอันทรงมหิทธิฤทธิ์ชนิดหนึ่งเขามายึด ี ไว นานเทานาน ที่หญิงสาวตกอยูในภาวะเชนนี้... ครั้นแลว บนความพยายามตอสูอยางสุดขีด กับประสาททุกสวนทีกลายเปนอัมพาตไปนี้ ่ แขนของหลอนคอยๆ ขยับควานเปะปะออกไปอยางหนักแสนหนัก ราวกับมีอะไรมาถวง ในที่สุดก็ เอื้อมไปถึงแผนหลังของใครคนหนึ่ง ซึ่งหลอนก็ไมทราบเหมือนกันวาใคร รูแตเพียงเปนคนทีใกล ่ ที่สุด แลวก็สะกิด เสียงคงไมมีผานลําคอเชนเดิม ใครคนหนึ่งก็คือไชยยันต ซึ่งขณะนี้นั่งหันสีขางใหหลอน เขาหันกลับไปชาๆ อยางไม สนใจอะไรนัก ขยับจะอาปากถามแตแลวก็ชะงักเพราะเห็นอาการของหญิงสาว...หนาของหลอนไม มีสีเลือด ตาเหลือกโพลน กําลังแหงนเงยจองคางขึ้นไปเบื้องบน ไชยยันตเอะใจ แหงนขึ้นมองตาม บัดดลก็นั่งตัวแข็ง หัวใจดูเหมือนจะหยุดเตนไป ชั่วขณะอีกคนหนึ่ง แลวสะกิดตอเบาๆ ที่รพินทรผูนั่งใชหมวกปดหนา เหมือนจะอาศัยงีบเอาแรงอยู เหมือนกัน พรานใหญขยับตัว เสยปกหมวกขึน มองมาทางนายทหารปนใหญเหมือนจะถาม ไชย ้ ยันตกําลังตาเหลือกจองมาที่เขา ริมฝปากขยับหมุบหมิบเหมือนจะเอยเปนคําพูดอะไรออกมา แต รพินทรฟงไมไดยน เขาฉงนเล็กนอย เอียงหนาเขามาใกล จึงไดยนเสียงที่แทบฟงไมรูเรื่องนั้นวา ิ ิ “ขางบน” จอมพรานแหงนขึ้นไปโดยเร็ว พริบตาที่จกษุรับภาพไดถนัด หัวใจของเขาก็วูบตกลงไป ั อยูที่ปลายเทา เย็นเฉียบตลอดไขสันหลัง ใหธรณีแยกไป ณ บัดนี้เถิด ไอราหูมหายักษที่กําลังติดตาม ลา ทอดลําตัวสวนหนึ่งของมัน พาดอยูในระหวางโขดหินเหนือศีรษะที่ทุกคนกําลังหยุดนังพักอยูใต ่  ลําตัวของมันที่นอนสงบนิ่งอยูโดยไมรตัว!! ู [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 12. 1373 คงไมมีเรื่องของการจุดไตตาตอเรื่องใดในโลก ที่ทําใหขนหัวลุกเทากับเหตุการณที่ทั้งเจ็ด ํ ชีวิตเผชิญอยูในขณะนี้...เจาอสูรดึกดําบรรพคงจะนอนสงบนิงขวางลําอยูบนโขดหินตําแหนงนี้มา ่ กอนเปนเวลานานแลว ฝายมนุษยที่ตามลา...มะงุมมะงาหรายองคนหารอยของมันเขามา และแลวก็ มาหยุดพักปรึกษาหารือกันอยูใตทองของมันนั่นเอง! คนที่ไหวตัวสําเหนียกทันตอเหตุการณตอมา ไลเลี่ยกับรพินทรก็คือแงซาย หนุมชาวดง พเนจร ลอบสะกิดโดยอาการบอกจัน ในขณะที่รพินทรสะกิดเตือนบุญคํา คงมีคะหยินคนเดียว ่ เทานั้น ที่ประสาทสัมผัสชากวาทุกคน ยังเซอซาอยู เหลือบมาเห็นทุกคนพากันเงียบกริบไป แลว เห็น ‘แมมดคนสวย’ ตื่นลืมตาโพลงขึ้นแลวก็ถามมาวา “นายหญิงลืมตาแลว นายหญิงบอกไดหรือยังวางูยักษอยูที่ไหน?” “นายหญิงบอกไดแลว คะหยิ่น” รพินทรกระซิบเบาๆ ยิ้มหรือแยกเขี้ยวก็บอกไมถูก “มันอยูที่ไหน?” “เงยขึ้นไปบนกบาลของเจา คะหยิน...” ่ คะหยินเงยขึ้นไปชาๆ อยางไมเชื่อถือ นอกจากจะเห็นเปนเรื่องขบขัน นึกวาพรานใหญ ่ เยา แตแลวพริบตานั้น ก็หงายแผละจากทาที่นั่งยองๆ อยู กนกระแทกลงกับพื้นดวยความตกใจขวัญ หนีดีฝอแทบชักดิ้น บุญคําผูรวดเร็วตอเหตุการณ ก็กระโดดเขาตะครุบปากนายบานหลมชางไว กอนที่สิ่งใดๆ จะหลุดลอดออกมาได กระซิบลอดไรฟนออกมา “เงียบ! ไอคะหยิ่น!...เอ็งขืนแหกปาก พวกเราตายหมดทุกคน!!” อึดใจนันเอง คะหยินก็ไดสติกลับคืนมา และสามารถเขาใจอะไรๆ ไดดีเทาๆ กับทุกคน ้ ่ ตาเหลือกกลอกกลิ้งอยูไปมา เห็นแตตาขาว เหงื่อกาฬผุดเต็มหนา บุญคําสังเกตเห็นนายบานหลม ชาง พอจะรูอะไรเปนอะไรแลว ก็คอยๆ คลายมือที่อุดปากออก  บัดนี้ ทุกคนหันมาจองตากันเอง ดวยความรูสึกอันสุดที่จะบรรยายไดถก ดารินสรางจาก ู ตะลึงแลว กายของหลอนสั่นเทาและโดยอาการบุยใบ หลอนชี้ไปที่หลังมือของตนเองที่มีหยดเลือด ปนโคลนลงมากระทบ แลวชี้ไปเบื้องบน เปนความหมายแทนคําบอกวา หลอนรูสึกตัวลืมตาขึ้นมา เห็น ก็เพราะหยดโคลนและเลือดนั้น รพินทรกัดริมฝปากแนน คอยๆ ยันกายขึนยืนชาๆ แหงนหนาจอง ทุกคนก็พลอยลุกขึ้น ้ ตามอยางระมัดระวัง มันเปนปญหาคับขันฉุกเฉินขีดสุด ซึ่งจะตองอาศัยการตัดสินใจอันเฉียบพลัน แขงกับเวลา และตองไมผิดพลาดดวย ทั้งเจ็ดชีวิตยืนอยูใตจมูกของมฤตยูโดยไมทันรูตัวลวงหนามา  กอน [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 13. 1374 สวนที่วางพาดอยูนั้น เปนบริเวณใตทองกลางลําตัวตอนหนึ่ง และโดยตําแหนงอันเปน เปาหมายใหเห็นถนัดชัดเจน ระยะใกลเผาขนที่สุดนี้ ธนูติดระเบิดของแงซายสามารถจะทําหนาที่ ของมันไดเต็มสภาพทีเดียว ปญหามันมีอยูแตวา...ถาไนโตรระเบิดขึนใตทอสวนนีของมัน อีกเจ็ด ้  ้ ชีวิตที่อยูภายใต ก็ยอมแหลกเปนจุณมหาจุณไปดวยอยางไมตองสงสัย   ทุกสายตาพุงมารวมจุดอยูที่เขาคนเดียว อยางยึดเปนที่พึ่ง... รพินทรก็ตัดสินใจในวินาทีนั้น ทําใบเปนสัญญาณใหทกคนคอยๆ ยองออกมายังปากทาง ุ อันมีลักษณะเหมือนซุมประตู แลวชี้ไปยังเชิงเขาที่มีลักษณะเปนขั้นบันได นําขึ้นไปยังหมูโขดหิน หนาปากถ้ําเล็กๆ ที่ผานกันมาแลวเมื่อกอนหยุดพัก ซึ่งขณะนี้ระยะหางออกไปประมาณ 100 เมตร กระซิบเร็วปรือ ๋ “ทุกคน นอกจากผมกับแงซาย รีบวิ่งไปทีกลุมโขดหินหนาปากถ้ําบนเชิงเขาที่เห็นอยูน่น ่ ั เร็วที่สุด แลวหลบซอนอยูทนั่น มันเปนซอกหินแคบ ทางอับพอจะใชเปนกําบังไมใหหวมันลอดเขา ี่ ั ไปได เอาละ รีบไปเดี๋ยวนี้ พยายามใหเบาและเงียบที่สุด ถามันไหวตัวเสียกอนจะลําบาก” “แลวคุณละ?” ไชยยันตละล่ําละลัก “ไมตองเปนหวง ผมกับแงซายจะยองเขาไปทางดานหัวของมัน...” “ไปดวยกันดีกวา เขาที่กําบังปลอดภัยไวกอน แลวใหแงซายยิงออกมาจากที่กําบังนัน”  ่ ดารินทวงเร็วปรื๋อมาอีกคน พรานใหญสั่นหนา “ระยะนั้นมันไกลเกินไป แงซายยิงธนูไมถงเปาหมายที่ตองการแน...” ึ  ไมทันจะขาดเสียงของเขา ก็ปรากฏเสียงปาลั่นอูมาราวกับเกิดพายุ ทั้งๆ ที่ลมสงบนิ่งไป แลว ไมมเี คาของพายุเลยจนนิดเดียว เปนเสียงดังมาจากดงทึบในตอนลึกเขาไปของหุบ พรอมกับ เสียงขูฟมาราวกับเสียงหัวรถจักรปลอยไอน้ํา ทุกคนแทบผงะหลัง ู “คูของมันตัวหนึ่ง กําลังตรงเขามาที่น!...” ี่ เสียงจันรองออกมาแทบไมเปนภาษาคน กอนที่ฝายมนุษยจะเคลื่อนไหวอยางไรตอไปนั้นเอง ก็มีเสียงฟูตอบออกมาจากเจาตัวที่ ถูกยิงเจ็บ และนอนพาดกอนหินเหนือศีรษะอยูในขณะนี้ ประหนึ่งจะเปนการสงเสียงเรียกรับคูของ  มัน ที่กําลังตรงดิ่งเขามาปานพายุสลาตัน แลวลําตัวสวนที่พาดอยูบนชะงอนหินทั้งสองดาน ก็เริม่ เคลื่อนไหวแชมชา ปรากฏเสียงหินลั่นครึกๆ และกิ่งใบเถาวัลยรวงพรูลงมา กอนหินยอมๆ ที่กองอยู บนยอดโขดถลมรวงกรูเกลียว อันเกิดจากการไหวตัวนัน กลิ้งลงมายังกลุมของมนุษยทั้งเจ็ด ทียน ้ ่ื กระสับกระสายกันอยูภายใต จนถึงกับตองกระโดดหลบกันเปนพัลวัน [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 14. 1375 ดารินเกือบถูกหินลูกขนาดมะพราว หลนทับลงมากลางหลัง ดีแตแงซายผลักเซหลบ ออกไปไดอยางหวุดหวิด ขณะเดียวกับที่รพินทรและไชยยันต ก็กมหัวหลงกอนเทาครก ที่กระดอน ขลุกๆ ลงมาในระดับศีรษะ เสียงการเลื้อยมาของอีกตัวหนึ่ง...ใกลเขามาทุกขณะอยางรวดเร็ว ปะทะไมไรหกวินาศั ครืนโครมอื้ออึงไปทั้งปา สวนเจาตัวเหนือศีรษะก็สงเสียงตอบเปนระยะอยูเชนนัน พลางขยับเคลื่อน ้ ลําตัวไปๆ หยุดๆ ทีละนอย ยังไมพนจากโขดหินใหญคน้น ู ั “ทําตามที่ผมสั่ง เร็วเขา! มันใกลเขามาเต็มทีแลว!” ่ เสียงเตือนดังมาจากรพินทรเปนครั้งสุดทาย และนั่นคือการปลุกสติของทุกคนใหกลับคืน มา...เพื่อการตัดสินใจอยางหนึ่งในวินาทีคบขันขีดสุดนี้ ั ไชยยันตกระชากแขนดารินออกวิ่งในทันทีนั้น บายหนาตรงไปยังที่หมายอันอยูหาง  ออกไป คะหยินก็โผนตามติดโดยมีบุญคํากับจันวิ่งตามไปเบื้องหลัง ทังหาคนตัดทางดานเล็กๆ สอง ่ ้ ฝงทางเปนพุมเถาวัลย และหมูหินเพื่อมุงขึนสูปากถ้ําเชิงเขาอยางแขงกับความเปนความตาย ้ พอฝายของไชยยันตเคลื่อนออกจากที่ รพินทรกับแงซายก็หันมามองหนากัน “คอยตามฉันไวทุกกาว อยาใหหางหรือแยกจากกันได” เขาสั่งเปนรถไฟดวน แลวเผนเขาซุมเถาวัลยรกดานซายมือ มุงเขายึดตนสักใหญ 6 คน โอบตนหนึ่ง แงซายเปนเงาตามตัวอยางไมมีอะไรจะตองหวง คลองแคลวฉับไว ทันเขาทุกฝกาวยาง จอมพรานควักบุหรี่ขึ้นมาจุด มือไมวายสัน เขาไมไดมีเจตนาที่จะสูบมัน แตเตรียมไวเพื่อศึกใหญใน ่ อีกไมก่อึดใจเบื้องหนา ศึกที่เขาไมสามารถบอกไดวามันจะลงเอยเอาในลักษณะใดแน ระหวางอสูร ี ดึกดําบรรพผปราศจากตีนสองตัว กับมนุษยซึ่งเปรียบแลวเทากับลูกเขียดตัวกระจิดริดเจ็ดชีวิต ู ตําแหนงทีเ่ คลื่อนมายึดใหมนี้ ทั้งสองยังไมสามารถกําหนดลําตัวของงูยกษตัวที่นอนนิ่ง ั อยูเมื่อครูน้ไดถนัดนัก คงเห็นแตเพียงสวนหนึ่งตามเดิมเทานั้น ที่พาดอยูบนโขดหินบดบังอยูในเงา ี ทึบของเถาวัลย ปลายสองดานของมันไมทราบอยูที่ไหนแน เพราะความรกทึบของหมูไมที่บงอยู ั อยางไรก็ตามโดยระยะที่ถอยหางออกมาทีตนสัก และเปาหมายแมจะสังเกตไดในวงจํากัดเพียงแค ่ นั้น มันก็เปนเปาหมายสําคัญพอเพียงที่จะเลือกเปนตําแหนงยิงได แงซายเอาลูกธนูขึ้นพาดสายใน พริบตานั้นพรอมกับรองเรงมา “จุดชนวนเถอะ ผูกอง” รพินทรกดไหลอดีตรอยโทกองโจรกะเหรี่ยงไว เหลียวไปมาอยางรวดเร็ว เต็มไปดวย อาการกระสับกระสาย “อยาเพิ่ง แงซาย ไอตัวนีไมสําคัญหรอก มันไปไหนไมรอดแลว เตรียมรับมือกับอีกตัวที่ ้ กําลังพุงเขามากอนดีกวา มันยังแข็งแรงมีกาลังเต็มที่ เพราะไมไดถูกเจ็บอะไรเลย อันตรายที่สุด!” ํ [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee
  • 15. 1376 สิ้นเสียงของรพินทร ปาในละแวกรอบตัวก็มองเห็นชัดวาปนปวนขึน บรรดาซุมเถาวัลย ้ และยอดไมเตีย ลูระเนน ไหวครืนครันอยูไปมา ไอยกษเลื้อยมาเร็วยิงกวาน้ําปาในอัตราเคลื่อนไหว ้ ั ่ อยางเต็มที่ของมัน และพริบตานันเอง...เงาของศีรษะอันมหึมาเหมือนภาพฝนราย ก็โผลวูบขึ้นมาจากหลัง ้ พุมไมหางออกไปทางพงรกดานขวาประมาณ 30 เมตร จากตําแหนงที่ทั้งสองหลบซุมอยูโดยมีลํา หวยขวางหนากั้นไว ระดับที่มันชูหัวพนยอดไมขึ้นมาราวๆ 3 วา มองเห็นอยางถนัดถนี่เกินความ คาดฝนที่จะคํานวณไดวา...มันสูงจากระดับพื้นดินขึนมาสักเทาใด ราวกับสวนสูงของเสาโทรเลข ้ ฉะนั้น เฉพาะที่มันตั้งคอชะเงอขึ้นมาโดยไมรวมถึงลําตัวสวนใหญ อยางนอยก็ไมต่ํากวาอีก 4 ใน 5 สวน ที่ราบอยูกับพื้น  ณ บัดนี้ สวนหัวอันนาเกลียดนากลัวนั้น หันสายไปรอบๆ โอนเอนไปมาเล็กนอย มันคง มาพบคูของมันแลว และชะเงอตังหัวคนหาศัตรูซึ่งคงจะกระสากลิ่นอยูใกลๆ ้ เห็นชัดถนัดตาเชนนี้ ทั้งรพินทรและแงซายก็เหมือนจะถูกสะกดใหเปนหินไปชั่วขณะ มันจะเปนสัตวประเภทงูหรืออะไรก็สดที่จะลงความเห็นไดเสียแลว สําหรับสวนศีรษะที่เห็นอยูนี้ ุ  เพราะสัณฐานลักษณะไมเหมือนกับงูชนิดใดในโลกที่เคยพบเห็นมา มันเปนรูปละมายสี่เหลี่ยมขาว หลามตัด ยอดบนของศีรษะ มีอะไรชนิดหนึ่งตั้งแนวอยูเปนสัน คลายๆ หงอนไกชน ดวงตาทั้งคู ใหญโปนทะลักเดนออกมานอกเบา ที่มขอบสีออกแดงจัด ลอมเปนวงกลมเหมือนตาปลาทอง ี กระดิกกลิ้งเหลือบไปมาไดอยางนาสยอง เขี้ยวแหลมโคงทั้งคูโผลพนออกมาจากปากเหมือนงาของ ตัววอลรัส ใตคางเปนแผนหนังหอยยานประดุจเหนียงอยูสองแถบ สิ่งที่พอจะบอกชัดไดถึงสัญชาติดั้งเดิม ก็คือลิ้นอันมีปลายสองแฉกทีพุงพนปากออกมา ่ แปลบปลาบเปนจังหวะ ลักษณะทาทางของการเลื้อยไปไดอยางรวดเร็ว และคลองแคลวประเปรียว ก็ดี รวมทั้งการตั้งหัวชูคอขึ้นไปไดสูงมากจากระดับพืนราบก็ดี มันเปนคุณลักษณะของจงอาง ้ มากกวาประเภทงูเหลือมซึ่งอืดอาดเชื่องชากวา ความตกตะลึงที่มองเห็นหนาตาของเจาอสูรรายตนนั้นกระจะตา ทําใหรพินทรลืมไป ชั่วขณะวาเขามีหนาที่จดชนวนระเบิดใหแงซาย สัญชาตญาณพราน ทําใหตวัดไรเฟลประจํามือขึ้นสู ุ ไหล แตกอนที่นิ้วจะกระดิกนั่นเอง สติกคืนมาอีกครั้ง เพราะเสียงสําลักของแงซาย ็ “ผูกอง! จุดชนวนใหผมเร็ว!!” จึงยื่นปลายบุหรี่ติดไฟเขาทีสายชนวนระเบิด อันติดอยูกับลูกธนูของแงซายทันที แตชา ่  ไปเสียแลว กอนที่ปลายบุหรี่จะทันสัมผัสกับสายชนวน เจาสัตวประหลาดตนนันก็พุงพรวดจากที่ ้ เดิมอยางรวดเร็ว เสียงพุมไมหักวินาศอันเกิดจากลําตัวของมันฟาดทับและเลื้อยผานเปนพายุ ไมได มุงเขาหารพินทรกับแงซายผูความจริงก็หางจากปลายจมูกของมันเทียบแลวเพียงแคคบ หากแตเลื้อย  ื บายหนาไปทางเชิงเขาดานทีคณะของไชยยันตกําลังวิ่งหลบเขาหาที่กําบัง ่ “มันเห็นพวกเราทางดานโนนแลว มันกําลังไล!” [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee