SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 37
Baixar para ler offline
การสื บพันธุ์ของพืช
การสื บพันธุ์ (Reproduction)
           เป็ นกระบวนการที่สิ่งมีชีวิตสร้างสิ่ งมีชีวิตชนิดเดียวกันเพื่อดารง
 เผ่าพันธุ์ไว้ ซึ่งการสื บพันธุ์เป็ นสมบัติที่สาคัญประการหนึ่งของพืช
 โดยทัวไปจะแบ่งการสื บพันธุ์ของพืชออกเป็ นสองประเภท คือ การ
        ่
 สื บพันธุ์แบบอาศัยเพศ และการสื บพันธุ์แบบไม่ อาศัยเพศ
การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction)
   การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชเป็ นการสื บพันธุ์ที่เกิดจากการผสมกัน
   ระหว่างเซลล์สืบพันธุ์ เพศผู้ คือ สเปิ ร์ ม (Sperm) กับเซลล์สืบพันธุ์เพศ
   เมีย คือ ไข่ (Egg) ได้เป็ น เอมบริโอ (Embryo) ซึ่งจะเจริ ญเติบโตเป็ นพืช
   ต้นใหม่ที่ได้ลกษณะทางพันธุกรรมจากต้นพ่อและต้นแม่ ซึ่งโครงสร้าง
                  ั
   ของพืชส่ วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชดอก คือ ดอก
   (Flower) เป็ นอวัยวะสื บพันธุ์ (Reproductive organ)
ดอก คือ อวัยวะหรื อส่ วนของพืชที่เจริ ญเปลี่ยนแปลงมาจากใบและ
กิ่ง เพื่อทาหน้าที่ในการสื บพันธุ์ โดยทัวไปดอกจะมีก้านดอก (Peduncle)
                                        ่
                                                 ่
ทาหน้ าทีชูดอก ก้านดอกเป็ นส่ วนของดอกที่อยูติดกับ ลาต้นหรื อกิ่ง ตรง
           ่
ปลายก้ านดอกจะแผ่ ออกเป็ นส่ วนที่รองรับส่ วนต่ างๆของดอก เรียกว่ า
ฐานรองดอก (Receptacle) เราอาจแบ่งดอกออกเป็ น 2 กลุ่มดังนี้

                                     ่             ่
       1. ดอกเดียว คือ ดอกที่มีดอกอยูดอกเดียวติดอยูบนก้านชูดอก เช่น
                ่
                                                      ่
       2. ดอกช่ อ คือ ดอกที่มีดอกย่อยหลายๆดอกที่ติดอยูบนก้านชูดอก
       ย่อย
โครงสร้ างของดอก
    ดอก (Flower) เป็ นอวัยวะของพืชที่ทาหน้าที่ในการสื บพันธุ์ มี
ส่ วนประกอบ
    1. กลีบเลียง ทาหน้าที่ห่อหุมป้ องกันอันตรายให้กบส่ วนประกอบต่างๆ
              ้                 ้                      ั
    2. กลีบดอก ทาหน้าที่ ล่อแมลงให้มาผสมเกสร
    3. เกสรตัวผู้ ทาหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู ้ ประกอบด้วย อับเรณู และ
ก้านชูอบเรณู
        ั
    4. เกสรตัวเมีย ทาหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียหรื อไข่ ประกอบด้วย
ยอดเกสรตัวเมีย ก้านชูเกสรตัวเมีย และรังไข่
ยอดเกสรตัวเมีย
                         อับเรณู                    เกสรตัวเมีย (Pistil)
เกสรตัวผู้
                                                    ก้ านชูเกสรตัวเมีย
  ก้ านชูอับเรณู                                        รั งไข่




 กลีบดอก
                                                          กลีบเลียง
                                                                 ้

                                           ออวุล
             ฐานรองดอก
ประเภทของดอก สามารถแบ่งโดยใช้เกณฑ์ 2 แบบ ดังนี้
        1.แบ่ งโดยใช้ องค์ ประกอบของดอกเป็ นเกณฑ์ แบ่งได้เป็ น
ดอกสมบูรณ์ (Complete flower) หรื อดอกครบส่ วน คือ ดอกที่มี
ส่ วนประกอบของดอกครบทั้ง 4 ส่ วนในดอกเดียวกัน เช่น ชบา พูระหง่
กุหลาบ มะเขือ
ดอกไม่ สมบูรณ์ (Incomplete flower) หรื อดอกไม่ครบส่ วน คือ ดอกที่มี
ส่ วนประกอบของดอกไม่ครบทั้ง 4 ส่ วน เช่น ดอกหน้าวัว (ขาดกลีบเลี้ยงและ
กลีบดอก) ดอกบานเย็น (ขาดกลีบดอก)
The Structure of a Flower




                            •ดอกครบส่ วน (Complete flower) คือ ดอกไม้
                            ที่มีส่วนประกอบครบทั้ง 4 ส่ วน คือ กลีบเลียง
                                                                      ้
                            กลีบดอก เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย เช่น ชบา
                            กุหลาบ บัว มะเขือ ผักบุง อัญชัญ แค แพงพวย
                                                   ้
                            กฯลฯ                                    9
ประเภทของดอก สามารถแบ่งโดยใช้เกณฑ์ 2 แบบ ดังนี้
            1.แบ่ งโดยใช้ องค์ ประกอบของดอกเป็ นเกณฑ์ แบ่งได้เป็ น
•ดอกไม่ ครบส่ วน (Incomplete flower) คือ ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบไม่ ครบทั้ง 4
ส่ วน ซึ่งอาจขาดส่ วนหนึ่งส่ วนใดไปหรื อมากกว่าหนึ่งส่ วนก็ได้ เช่น ข้าว ข้าวโพด
ตาลึง เฟื่ องฟ้ า มะละกอ เงาะ มะพร้าว หญ้า บานเย็น กล้วยไม้ จาปา หน้าวัว เป็ นต้น
1.แบ่ งโดยใช้ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเป็ นเกณฑ์ แบ่งได้เป็ น
•ดอกสมบูรณ์ เพศ (Perfect flower) คือ ดอกทีมีท้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ใน
                                           ่ ั
ดอกเดียวกัน เช่น กุหลาบ ชบา บัว ถัว มะเขือ พริ ก เฟื่ องฟ้ า อัญชัญ แค ผักบุง
                                  ่                                         ้
แพงพวย ข้าว หญ้า จาปา มะลิ ฯลฯ
•ดอกไม่ สมบูรณ์ เพศ (Imperfect flower) คือ ดอกทีมีเฉพาะเกสรตัวผูหรื อเกสรตัว
                                                                 ้
เมียเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ข้าวโพด ตาลึง มะละกอ มะพร้าว หน้าวัว เงาะ ขนุน
บวบ แตงกวา ตาล ฯลฯ




                              ***ข้ อสั งเกต***
1.การผสมพันธุ์ของพืชดอก มี 2 ขั้นตอน
•การถ่ ายละอองเรณู (Pollination) คือ การที่ละอองเรณูไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย
เกิดได้ 2 แบบ คือ
     1.การถ่ ายละอองเรณูภายในดอกเดียวกัน (Self-pollination)
เป็ นการผสมตัวเองอาจจะเกิดจากการผสมภายในดอกเดียวกันหรื อคนละดอกแต่ตน                    ้
เดียวกันก็ได้ หรื ออาจต่างต้นกันแต่เป็ นพันธุ์บริ สุทธิ์ซ่ ึงมีจีนเหมือนกันเช่น ข้าว ซึ่ง
                             ่ ้
เป็ นพันธุ์เดียวกันและปลูกอยูดวยกัน
2. การถ่ ายละอองเรณูต่างดอกหรือข้ ามดอกกัน (Cross-pollination) เป็ นการถ่าย
   ละอองเรณูของพืชชนิดเดียวกันแต่ต่างต้นกันและมีคุณสมบัติทางพันธุกรรม
   ต่างกันคือ มีจีนไม่เหมือนกัน

ปัจจัยทีช่วยในการถ่ ายละอองเรณู ได้แก่ ลม น้ า สัตว์ คน ซึ่งการถ่ายละอองเรณู
        ่
สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
ปั จจัยบางประการที่ช่วยในการถ่ ายละอองเรณู
•การปฏิสนธิ (Fertilization) คือ การที่สเปิ ร์มนิวเคลียสเข้าไปผสมกับเซลล์ไข่ ซึ่งจะ
เกิดขึ้นภายหลังที่ละอองเรณูไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย ซึ่งมีข้นตอนดังนี้
                                                              ั
    1.การสร้ างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชดอก เซลล์ในอับเรณูจะสร้างละอองเรณู และ
    เซลล์ในออวุลจะสร้างไข่
การสร้ างละอองเรณูหรือเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้
         ภายในอับละอองเรณูจะมีเซลล์กลุ่มหนึ่งเรี ยกว่า เซลล์แม่ไมโครสปอร์หรื อ
ไมโครสปอร์มาเทอร์เซลล์ (microspore mother cell) ไมโครสปอร์
มาเทอร์เซลล์จะแบ่งตัวแบบไมโอซิสได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์เรี ยกว่า ไมโครสปอร์
(microspore) แต่ละโครโมโซมจะแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส 1 ครั้งได้ 2 นิวเคลียส
คือ เจเนเรทิฟนิวเครี ยส (generative nucleus) และทิวบ์นิวเคลียส (tube nucleus)
ต่อจากนั้นเซลล์จะมีการเปลี่ยนแปลงรู ปร่ างลักษณะภายนอกซึ่ง แตกต่างกันตาม
ชนิดของพืชซึ่งเรี ยกว่าละอองเรณูหรื อแกมีโทไฟต์เพศผู ้ (male gametophyte)
การสร้ างละอองเรณู
การสร้ างไข่ หรือเซลล์ สืบพันธ์ เพศเมีย
         ภายในรังไข่ มีออวุล (ovule) และภายในออวุลเนื้อเยือนิวซลลัส (nucellus)
                                                           ่
ซึ่งไปเจริ ญเป็ นเซลล์แม่ของเมกะสปอร์หรื อเมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์ (megaspore
mother cell) ซึ่งมีโครโมโซม 2n เมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์จะแบ่ งตัวแบบไมโอซิส
ได้ 4 เซลล์ แต่ละเซลล์เรี ยกว่า เมกะสปอร์ (megaspore) ซึ่งจะสลายไป 3 เซลล์ เซลล์
ที่เหลือจะขยายขึ้นแล้วมีการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซีส 3 ครั้ง ได้ 8 นิวเคลียส และ
จะมีการแยกย้ายของนิวเคลียสไปยังบริ เวณต่างๆ ของเซลล์ดงนี้    ั
                                                ่
(1) แอนติโพแดล (antipodal) มี 3 นิวเคลียส อยูตรงข้ามกับรู ไมโครไพล์ (micropile)
                                                     ่
(2) โพลาร์ นิวคลีไอ (polar nuclei) มี 2 นิวเคลียส อยูบริ เวณกลางเซลล์
                               ่
(3)ไข่ (egg) มี 1 นิวเคลียสอยูบิเวณรู ไมโครไพล์
                                            ่ ้
(4) ซินเนร์ จิด (synergid) มี 2 นิวเคลียสอยูดานข้างของไข่ เมกะสปอร์ระยะนี้เรี ยกว่า
ถุงเอมบริ โอ(embryo sac)หรื อแกมีโทไฟต์เพศเมีย (female sametophyte)
่
(1) แอนติโพแดล (antipodal) มี 3 นิวเคลียส อยูตรงข้ามกับรู ไมโครไพล์ (micropile)
                                                     ่
(2) โพลาร์ นิวคลีไอ (polar nuclei) มี 2 นิวเคลียส อยูบริ เวณกลางเซลล์
                               ่
(3)ไข่ (egg) มี 1 นิวเคลียสอยูบิเวณรู ไมโครไพล์
                                            ่ ้
(4) ซินเนร์ จิด (synergid) มี 2 นิวเคลียสอยูดานข้างของไข่ เมกะสปอร์ระยะนี้เรี ยกว่า
ถุงเอมบริ โอ(embryo sac)หรื อแกมีโทไฟต์เพศเมีย (female gametophyte)
การปฏิสนธิ (fertilization)
          เมื่อละอองเรณูตกลงสู่ ยอดเกสรตัวเมีย ละอองเรณูจะงอกท่ อยาว
เรี ยกว่า พอลเลนทิวบ์ (pollen tube) ลงสู่คอเกสรตัวเมีย ทิวบ์นิวเคลียสจะ
เคลื่อนตัวไปตามท่อในขณะที่เจเนเรทีฟนิวเคลียส จะแบ่งนิวเคลียสแบบไม
โทซีสได้สเปิ ร์มนิวเคลียส (sperm nucleus) 2 ตัว เข้าผสมกันนิวเคลียสของ
ไข่ได้ไซโกต (2n) ซึ่งจะเจริ ญเป็ นเอมบริ โอต่อไป ส่ วนอีกนิวเคลียสจะ
เจริ ญเป็ นเอนโดสเปิ ร์ มซึ่งเป็ นอาหารสาหรับเลี้ยงเอมบริ โอ การผสมซึ่งเกิด
จากการผสม 2 ครั้งนี้เรี ยกว่า การปฏิสนธิซอน (double fertilization) ซึ่ง
                                            ้
พบเฉพาะในพืชดอกเท่ านั้น
1.ลาดับขั้นตอนในการผสมพันธุ์ของพืชดอก
1.การเปลียนแปลงหลังการปฏิสนธิของพืชดอก ได้แก่
               ่
                                 ่
•ไข่ จะเจริ ญไปเป็ นเอมบริโอ อยูภายในเมล็ด
•รังไข่ จะเจริ ญไปเป็ นผล (Fruit)
•ผนังรังไข่ (Ovary wall) จะเจริ ญไปเป็ นเปลือกและเนือของผล (Pericarp)
                                                     ้
                                                              ่
•โพลาร์ นิวคลีไอ จะเจริ ญไปเป็ นเอนโดสเปิ ร์ ม (Endosperm) อยูภายใน
เมล็ด (Seed)
•ออวุล จะเจริ ญไปเป็ นเมล็ด
•เยือหุ้มออวุล (Integument) จะเจริ ญไปเป็ นเปลือกหุ้มเมล็ด (Seed coat)
    ่
•แอนติโพดัล (Antipodal) และซินเนอร์ จด (Synergid) จะสลายไป
                                        ิ
•กลีบเลียง กลีบดอก เกสรตัวผู้ ยอดเกสรตัวเมียและก้ านชู เกสรตัวเมีย จะ
         ้
เหี่ ยวแห้งร่ วงไป แต่ในดอกของพืชบางชนิดยังคงมีกลีบเลี้ยง และเกสรตัวผู้
ติดอยู่
Double fertilization
การเปลียนแปลงหลังการปฏิสนธิของพืชดอก
       ่
ผล
    โครงสร้ างของผล
    ผลส่ วนใหญ่เกิดจากการเจริ ญเติบโตของรังไข่ ภายหลังจากการปฏิสนธิ แต่กมี ็
                                            ็
ผลบางชนิดอาจเกิดได้โดยไม่ตองมีการปฏิสนธิกได้ ซึ่งผลชนิดนี้จะไม่มีเมล็ดหรื อมี
                           ้
แต่เมล็ดลีบไป ผลประกอบด้ วยส่วนที่สาคัญที่เจริญเปลี่ยนแปลงมาจากผนังรังไข่
(Ovary wall)
ผลเดียว (Simple fruit) คือ ผลที่เกิดจากรังไข่ อนเดียวที่อยู่
       ่                                                   ั
ภายในดอกเดียว ซึ่ งถ้าภายในรังไข่ มออวุลอันเดียวจะเจริญ
                                                 ี
ไปเป็ นผลเดียวทีมีเมล็ดเดียว เช่น มะยม มะม่วง เงาะ
               ่ ่
มะพร้าว ลาไย เป็ นต้น ถ้าภายในรังไข่ มหลายออวุลจะเจริญ
                                                     ี
ไปเป็ นผลเดียวทีมีหลายเมล็ด เช่น แตงโม องุ่น มะเขือ
                ่ ่
มะละกอ ส้ม ถัว ทุ รี ยน มังคุด มะขาม ละมุู่ด เป็ นต้น
ผลกลุ่ม (Aggregate fruit)เคือ ผลที่เกิดจากรังไข่หลายอันที่ยในภายในดอกเดียวกัน
                   ่
รังไข่แต่ละอันเมื่อได้รับการผสมแล้วจะเจริ ญไปเป็ นผลหนึ่งผล ทาให้มีลกษณะ
                                                                    ั
เหมือนผลหลายๆผลอยู่รวมกันเป็ นกลุ่ม หรือกระจุกบนฐานรองดอกเดียวกัน แต่ ไม่
หลอมรวมกัน เช่น ลูกจาก
หลายๆดอก โดยแต่ละดอกมีรังไข่อนเดียว รังไข่ของแต่ละ
                                  ั
ดอกเมื่อเจริ ญไปเป็ นผลจะเชื่อมรวมเป็ นเนื้อเดียวกันจนดู
คล้ายเป็ นผลเดี่ยว เช่น สับปะรด ขนุน สาเก ลูกยอ มะเดื่อ
เป็ นต้น
เมล็ด (seed)
• พืชส่ วนใหญ่ท่ีพบบนโลกเป็ นพวกที่ใช้เมล็ดในการสื บพันธุ์
• เมล็ด (seed) คือ โอวูล (ovule) ที่ได้รับการผสมและเจริ ญเต็มที่
  แล้ว
                                   ่
• โอวูล เป็ นอวัยวะหนึ่งของพืชอยูภายในรังไข่ (ovary) ภายใน
  โอวูลจะมีไข่ (egg) ซึ่งทาหน้าที่เป็ นเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย
เมล็ด (seed)
• เมล็ดประกอบไปด้ วย 3 ส่ วนทีสาคัญ ดังนี้
                                ่
• เปลือกหุ้มเมล็ด (seed coat or testa)
   –ไฮลัม (hilum)
   –ไมโครไพล์ (micropyle)
• เอนโดสเปิ ร์ ม (endosperm) เช่นในต้นมะพร้าว, ต้นตาล,
  ต้นหมาก น้ าและเนื้อภายในลูกของพืชพวกนี้คือ เอนโด
  สเปิ ร์ม
เมล็ด (seed)

• ต้ นอ่อน (embryo) ประกอบด้วยส่ วนต่างๆดังนี้
   – ยอดแรกเกิด (Plumule) เจริ ญไปเป็ นใบและ
      ยอด
   – ต้ นอ่อนเหนือใบเลียง (Epicotyl) เจริ ญไปเป็ นลา
                       ้
      ต้นส่ วนบน ใบ ดอก
    – ใบเลียง (Cotyledon) ในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมี 1 ใบ พืชใบเลี้ยงคู่มี 2 ใบ
            ้
      ทาหน้าที่ ย่อย ดูดซึม และสะสมอาหารจากเอนโดสเปิ ร์ม
    – ต้ นอ่อนใต้ ใบเลียง (Hypocotyl) เป็ นลาต้นส่ วนที่ถดจากใบเลี้ยงลงมา
                       ้                                 ั
    – รากแรกเกิด (Radicle) เจริ ญไปเป็ นรากแก้ว (Tap root or Primary
      root)
ยอดแรกเกิด
ต้ นอ่อนเหนือใบเลียง
                  ้


  ต้ นอ่อนใต้ ใบเลียง
                   ้
        รากแรกเกิด
การงอกของเมล็ด
• มี 2 แบบ คือ
• การงอกที่ใบเลียงชูขึนมาเหนือดิน
                   ้     ้
  พบในพืชใบเลี ้ยงคู่
• การงอกที่ใบเลียงจมอยู่ใต้ ดน
                     ้       ิ
  พบในพืชใบเลี ้ยงเดี่ยว
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ด
• นา ้
• ก๊ าซออกซิเจน
• อุณหภูมิ
• เมล็ดของพืชบางชนิดต้ องการแสงด้ วย จึงจะสามารถงอกได้ เช่ น
  เมล็ดยาสูบ, กาฝาก, ผักกาดหอม, ไทร เป็ นต้ น
Summary: Monocot vs. dicot




                             36
THE END

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )พัน พัน
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตบทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตTa Lattapol
 
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemsupreechafkk
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system kasidid20309
 
พฤติกรรมของสัตว์
พฤติกรรมของสัตว์พฤติกรรมของสัตว์
พฤติกรรมของสัตว์Nokko Bio
 
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12  การสังเคราะห์แสงบทที่ 12  การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสงPinutchaya Nakchumroon
 
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory systemชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory systemkasidid20309
 
โครงงานฉบับสมบูรณ์
โครงงานฉบับสมบูรณ์โครงงานฉบับสมบูรณ์
โครงงานฉบับสมบูรณ์0636830815
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)sudoooooo
 
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพyangclang22
 
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสงประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสงThanyamon Chat.
 
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชการแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชLi Yu Ling
 
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะเล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะmayureesongnoo
 
ข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะKodchaporn Siriket
 
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่Benjapron Seesukong
 
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสงเอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสงOui Nuchanart
 
สมบัติของสารพันธุกรรม
สมบัติของสารพันธุกรรมสมบัติของสารพันธุกรรม
สมบัติของสารพันธุกรรมWan Ngamwongwan
 

Mais procurados (20)

ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตบทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
 
translocation in plant
translocation in planttranslocation in plant
translocation in plant
 
พฤติกรรมของสัตว์
พฤติกรรมของสัตว์พฤติกรรมของสัตว์
พฤติกรรมของสัตว์
 
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12  การสังเคราะห์แสงบทที่ 12  การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
 
ส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอกส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอก
 
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory systemชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
 
โครงงานฉบับสมบูรณ์
โครงงานฉบับสมบูรณ์โครงงานฉบับสมบูรณ์
โครงงานฉบับสมบูรณ์
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
 
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
 
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสงประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
 
การเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคนการเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคน
 
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชการแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
 
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะเล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
 
ข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะ
 
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
 
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสงเอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง
 
สมบัติของสารพันธุกรรม
สมบัติของสารพันธุกรรมสมบัติของสารพันธุกรรม
สมบัติของสารพันธุกรรม
 

Destaque

การสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ของพืชการสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ของพืชchiralak
 
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)Pinutchaya Nakchumroon
 
ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้sawaddee
 
01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโต
01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโต01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโต
01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโตนราพร ผิวขำ
 
วงจรชีวิตแบบสลับของพืช
วงจรชีวิตแบบสลับของพืชวงจรชีวิตแบบสลับของพืช
วงจรชีวิตแบบสลับของพืชsuradet sritha
 
ใบพืชNet
ใบพืชNetใบพืชNet
ใบพืชNetAnana Anana
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกsomrutai
 
บท3การเจริญดอก
บท3การเจริญดอกบท3การเจริญดอก
บท3การเจริญดอกWichai Likitponrak
 
ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...
ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...
ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...Prachoom Rangkasikorn
 
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ดการเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ดNokko Bio
 
ใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1page
ใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1pageใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1page
ใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...
ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...
ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...Prachoom Rangkasikorn
 
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01Art Nan
 
3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)
3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)
3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)กมลรัตน์ ฉิมพาลี
 
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊สการคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊สThanyamon Chat.
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอกThanyamon Chat.
 
การสะท้อนและการหักเหของแสง
การสะท้อนและการหักเหของแสงการสะท้อนและการหักเหของแสง
การสะท้อนและการหักเหของแสงพัน พัน
 
ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้Anana Anana
 

Destaque (20)

การสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ของพืชการสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ของพืช
 
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
 
ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้
 
01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโต
01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโต01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโต
01 เมล็ดพืชและการเจริญเติบโต
 
k payang 2
k payang 2k payang 2
k payang 2
 
วงจรชีวิตแบบสลับของพืช
วงจรชีวิตแบบสลับของพืชวงจรชีวิตแบบสลับของพืช
วงจรชีวิตแบบสลับของพืช
 
ใบพืชNet
ใบพืชNetใบพืชNet
ใบพืชNet
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
 
บท3การเจริญดอก
บท3การเจริญดอกบท3การเจริญดอก
บท3การเจริญดอก
 
ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...
ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...
ใบความรู้+ทดสอบหลังเรียนเรือง แรงเสียดทาน+ป.5+278+dltvscip5+55t2sci p05 f22-1...
 
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ดการเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ด
 
ใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1page
ใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1pageใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1page
ใบความรู้+ส่วนประกอบของดอกไม้+ป.5+275+dltvscip5+54sc p05 f30-1page
 
ดอกตอนที่1
ดอกตอนที่1ดอกตอนที่1
ดอกตอนที่1
 
ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...
ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...
ใบความรู้+การสืบพันธุ์ของสัตว์(การปฏิสันธิ)2+ป.5+281+dltvscip5+55t2sci p05 f2...
 
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
 
3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)
3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)
3ชีววิทยาม. 5 เทอม 1 การบูรณาการภาษาอังกฤษ (ไฟล์ที่ 3)
 
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊สการคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
 
การสะท้อนและการหักเหของแสง
การสะท้อนและการหักเหของแสงการสะท้อนและการหักเหของแสง
การสะท้อนและการหักเหของแสง
 
ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้
 

Semelhante a การสืบพันธุ์ของพืช2

การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกNokko Bio
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกnokbiology
 
ชุดโลกของพืช เรื่
ชุดโลกของพืช  เรื่ชุดโลกของพืช  เรื่
ชุดโลกของพืช เรื่plernpit19
 
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชdnavaroj
 
ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้sawaddee
 
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ดการเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ดNokko Bio
 
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอก
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอกบทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอก
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอกWichai Likitponrak
 
โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้dnavaroj
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)Thitaree Samphao
 
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1Plant kingdom 1
Plant kingdom 1krunidhswk
 
ดอกไม้
ดอกไม้ดอกไม้
ดอกไม้choompu
 
การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2Coverslide Bio
 
องค์ประกอบของดอก
องค์ประกอบของดอกองค์ประกอบของดอก
องค์ประกอบของดอกKrupoonsawat
 
การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)Thitaree Samphao
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอกฟลุ๊ค ลำพูน
 

Semelhante a การสืบพันธุ์ของพืช2 (20)

การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
 
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช2การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช2
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกการสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
 
Plant
PlantPlant
Plant
 
ชุดโลกของพืช เรื่
ชุดโลกของพืช  เรื่ชุดโลกของพืช  เรื่
ชุดโลกของพืช เรื่
 
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
 
ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้
 
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ดการเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ด
 
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอก
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอกบทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอก
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอก
 
โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
 
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1Plant kingdom 1
Plant kingdom 1
 
Kingdom plantae
Kingdom plantaeKingdom plantae
Kingdom plantae
 
ดอกไม้
ดอกไม้ดอกไม้
ดอกไม้
 
การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2
 
องค์ประกอบของดอก
องค์ประกอบของดอกองค์ประกอบของดอก
องค์ประกอบของดอก
 
การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
 
การสืบพันธ์
การสืบพันธ์การสืบพันธ์
การสืบพันธ์
 
Lesson2 plantrepro2
Lesson2 plantrepro2Lesson2 plantrepro2
Lesson2 plantrepro2
 

การสืบพันธุ์ของพืช2

  • 1.
  • 3. การสื บพันธุ์ (Reproduction) เป็ นกระบวนการที่สิ่งมีชีวิตสร้างสิ่ งมีชีวิตชนิดเดียวกันเพื่อดารง เผ่าพันธุ์ไว้ ซึ่งการสื บพันธุ์เป็ นสมบัติที่สาคัญประการหนึ่งของพืช โดยทัวไปจะแบ่งการสื บพันธุ์ของพืชออกเป็ นสองประเภท คือ การ ่ สื บพันธุ์แบบอาศัยเพศ และการสื บพันธุ์แบบไม่ อาศัยเพศ
  • 4. การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction) การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชเป็ นการสื บพันธุ์ที่เกิดจากการผสมกัน ระหว่างเซลล์สืบพันธุ์ เพศผู้ คือ สเปิ ร์ ม (Sperm) กับเซลล์สืบพันธุ์เพศ เมีย คือ ไข่ (Egg) ได้เป็ น เอมบริโอ (Embryo) ซึ่งจะเจริ ญเติบโตเป็ นพืช ต้นใหม่ที่ได้ลกษณะทางพันธุกรรมจากต้นพ่อและต้นแม่ ซึ่งโครงสร้าง ั ของพืชส่ วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชดอก คือ ดอก (Flower) เป็ นอวัยวะสื บพันธุ์ (Reproductive organ)
  • 5. ดอก คือ อวัยวะหรื อส่ วนของพืชที่เจริ ญเปลี่ยนแปลงมาจากใบและ กิ่ง เพื่อทาหน้าที่ในการสื บพันธุ์ โดยทัวไปดอกจะมีก้านดอก (Peduncle) ่ ่ ทาหน้ าทีชูดอก ก้านดอกเป็ นส่ วนของดอกที่อยูติดกับ ลาต้นหรื อกิ่ง ตรง ่ ปลายก้ านดอกจะแผ่ ออกเป็ นส่ วนที่รองรับส่ วนต่ างๆของดอก เรียกว่ า ฐานรองดอก (Receptacle) เราอาจแบ่งดอกออกเป็ น 2 กลุ่มดังนี้ ่ ่ 1. ดอกเดียว คือ ดอกที่มีดอกอยูดอกเดียวติดอยูบนก้านชูดอก เช่น ่ ่ 2. ดอกช่ อ คือ ดอกที่มีดอกย่อยหลายๆดอกที่ติดอยูบนก้านชูดอก ย่อย
  • 6. โครงสร้ างของดอก ดอก (Flower) เป็ นอวัยวะของพืชที่ทาหน้าที่ในการสื บพันธุ์ มี ส่ วนประกอบ 1. กลีบเลียง ทาหน้าที่ห่อหุมป้ องกันอันตรายให้กบส่ วนประกอบต่างๆ ้ ้ ั 2. กลีบดอก ทาหน้าที่ ล่อแมลงให้มาผสมเกสร 3. เกสรตัวผู้ ทาหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู ้ ประกอบด้วย อับเรณู และ ก้านชูอบเรณู ั 4. เกสรตัวเมีย ทาหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียหรื อไข่ ประกอบด้วย ยอดเกสรตัวเมีย ก้านชูเกสรตัวเมีย และรังไข่
  • 7. ยอดเกสรตัวเมีย อับเรณู เกสรตัวเมีย (Pistil) เกสรตัวผู้ ก้ านชูเกสรตัวเมีย ก้ านชูอับเรณู รั งไข่ กลีบดอก กลีบเลียง ้ ออวุล ฐานรองดอก
  • 8. ประเภทของดอก สามารถแบ่งโดยใช้เกณฑ์ 2 แบบ ดังนี้ 1.แบ่ งโดยใช้ องค์ ประกอบของดอกเป็ นเกณฑ์ แบ่งได้เป็ น ดอกสมบูรณ์ (Complete flower) หรื อดอกครบส่ วน คือ ดอกที่มี ส่ วนประกอบของดอกครบทั้ง 4 ส่ วนในดอกเดียวกัน เช่น ชบา พูระหง่ กุหลาบ มะเขือ ดอกไม่ สมบูรณ์ (Incomplete flower) หรื อดอกไม่ครบส่ วน คือ ดอกที่มี ส่ วนประกอบของดอกไม่ครบทั้ง 4 ส่ วน เช่น ดอกหน้าวัว (ขาดกลีบเลี้ยงและ กลีบดอก) ดอกบานเย็น (ขาดกลีบดอก)
  • 9. The Structure of a Flower •ดอกครบส่ วน (Complete flower) คือ ดอกไม้ ที่มีส่วนประกอบครบทั้ง 4 ส่ วน คือ กลีบเลียง ้ กลีบดอก เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย เช่น ชบา กุหลาบ บัว มะเขือ ผักบุง อัญชัญ แค แพงพวย ้ กฯลฯ 9
  • 10. ประเภทของดอก สามารถแบ่งโดยใช้เกณฑ์ 2 แบบ ดังนี้ 1.แบ่ งโดยใช้ องค์ ประกอบของดอกเป็ นเกณฑ์ แบ่งได้เป็ น •ดอกไม่ ครบส่ วน (Incomplete flower) คือ ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบไม่ ครบทั้ง 4 ส่ วน ซึ่งอาจขาดส่ วนหนึ่งส่ วนใดไปหรื อมากกว่าหนึ่งส่ วนก็ได้ เช่น ข้าว ข้าวโพด ตาลึง เฟื่ องฟ้ า มะละกอ เงาะ มะพร้าว หญ้า บานเย็น กล้วยไม้ จาปา หน้าวัว เป็ นต้น
  • 11. 1.แบ่ งโดยใช้ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเป็ นเกณฑ์ แบ่งได้เป็ น •ดอกสมบูรณ์ เพศ (Perfect flower) คือ ดอกทีมีท้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ใน ่ ั ดอกเดียวกัน เช่น กุหลาบ ชบา บัว ถัว มะเขือ พริ ก เฟื่ องฟ้ า อัญชัญ แค ผักบุง ่ ้ แพงพวย ข้าว หญ้า จาปา มะลิ ฯลฯ •ดอกไม่ สมบูรณ์ เพศ (Imperfect flower) คือ ดอกทีมีเฉพาะเกสรตัวผูหรื อเกสรตัว ้ เมียเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ข้าวโพด ตาลึง มะละกอ มะพร้าว หน้าวัว เงาะ ขนุน บวบ แตงกวา ตาล ฯลฯ ***ข้ อสั งเกต***
  • 12.
  • 13. 1.การผสมพันธุ์ของพืชดอก มี 2 ขั้นตอน •การถ่ ายละอองเรณู (Pollination) คือ การที่ละอองเรณูไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย เกิดได้ 2 แบบ คือ 1.การถ่ ายละอองเรณูภายในดอกเดียวกัน (Self-pollination) เป็ นการผสมตัวเองอาจจะเกิดจากการผสมภายในดอกเดียวกันหรื อคนละดอกแต่ตน ้ เดียวกันก็ได้ หรื ออาจต่างต้นกันแต่เป็ นพันธุ์บริ สุทธิ์ซ่ ึงมีจีนเหมือนกันเช่น ข้าว ซึ่ง ่ ้ เป็ นพันธุ์เดียวกันและปลูกอยูดวยกัน
  • 14. 2. การถ่ ายละอองเรณูต่างดอกหรือข้ ามดอกกัน (Cross-pollination) เป็ นการถ่าย ละอองเรณูของพืชชนิดเดียวกันแต่ต่างต้นกันและมีคุณสมบัติทางพันธุกรรม ต่างกันคือ มีจีนไม่เหมือนกัน ปัจจัยทีช่วยในการถ่ ายละอองเรณู ได้แก่ ลม น้ า สัตว์ คน ซึ่งการถ่ายละอองเรณู ่ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
  • 16. •การปฏิสนธิ (Fertilization) คือ การที่สเปิ ร์มนิวเคลียสเข้าไปผสมกับเซลล์ไข่ ซึ่งจะ เกิดขึ้นภายหลังที่ละอองเรณูไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย ซึ่งมีข้นตอนดังนี้ ั 1.การสร้ างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชดอก เซลล์ในอับเรณูจะสร้างละอองเรณู และ เซลล์ในออวุลจะสร้างไข่
  • 17. การสร้ างละอองเรณูหรือเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ ภายในอับละอองเรณูจะมีเซลล์กลุ่มหนึ่งเรี ยกว่า เซลล์แม่ไมโครสปอร์หรื อ ไมโครสปอร์มาเทอร์เซลล์ (microspore mother cell) ไมโครสปอร์ มาเทอร์เซลล์จะแบ่งตัวแบบไมโอซิสได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์เรี ยกว่า ไมโครสปอร์ (microspore) แต่ละโครโมโซมจะแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส 1 ครั้งได้ 2 นิวเคลียส คือ เจเนเรทิฟนิวเครี ยส (generative nucleus) และทิวบ์นิวเคลียส (tube nucleus) ต่อจากนั้นเซลล์จะมีการเปลี่ยนแปลงรู ปร่ างลักษณะภายนอกซึ่ง แตกต่างกันตาม ชนิดของพืชซึ่งเรี ยกว่าละอองเรณูหรื อแกมีโทไฟต์เพศผู ้ (male gametophyte)
  • 19. การสร้ างไข่ หรือเซลล์ สืบพันธ์ เพศเมีย ภายในรังไข่ มีออวุล (ovule) และภายในออวุลเนื้อเยือนิวซลลัส (nucellus) ่ ซึ่งไปเจริ ญเป็ นเซลล์แม่ของเมกะสปอร์หรื อเมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์ (megaspore mother cell) ซึ่งมีโครโมโซม 2n เมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์จะแบ่ งตัวแบบไมโอซิส ได้ 4 เซลล์ แต่ละเซลล์เรี ยกว่า เมกะสปอร์ (megaspore) ซึ่งจะสลายไป 3 เซลล์ เซลล์ ที่เหลือจะขยายขึ้นแล้วมีการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซีส 3 ครั้ง ได้ 8 นิวเคลียส และ จะมีการแยกย้ายของนิวเคลียสไปยังบริ เวณต่างๆ ของเซลล์ดงนี้ ั ่ (1) แอนติโพแดล (antipodal) มี 3 นิวเคลียส อยูตรงข้ามกับรู ไมโครไพล์ (micropile) ่ (2) โพลาร์ นิวคลีไอ (polar nuclei) มี 2 นิวเคลียส อยูบริ เวณกลางเซลล์ ่ (3)ไข่ (egg) มี 1 นิวเคลียสอยูบิเวณรู ไมโครไพล์ ่ ้ (4) ซินเนร์ จิด (synergid) มี 2 นิวเคลียสอยูดานข้างของไข่ เมกะสปอร์ระยะนี้เรี ยกว่า ถุงเอมบริ โอ(embryo sac)หรื อแกมีโทไฟต์เพศเมีย (female sametophyte)
  • 20. ่ (1) แอนติโพแดล (antipodal) มี 3 นิวเคลียส อยูตรงข้ามกับรู ไมโครไพล์ (micropile) ่ (2) โพลาร์ นิวคลีไอ (polar nuclei) มี 2 นิวเคลียส อยูบริ เวณกลางเซลล์ ่ (3)ไข่ (egg) มี 1 นิวเคลียสอยูบิเวณรู ไมโครไพล์ ่ ้ (4) ซินเนร์ จิด (synergid) มี 2 นิวเคลียสอยูดานข้างของไข่ เมกะสปอร์ระยะนี้เรี ยกว่า ถุงเอมบริ โอ(embryo sac)หรื อแกมีโทไฟต์เพศเมีย (female gametophyte)
  • 21. การปฏิสนธิ (fertilization) เมื่อละอองเรณูตกลงสู่ ยอดเกสรตัวเมีย ละอองเรณูจะงอกท่ อยาว เรี ยกว่า พอลเลนทิวบ์ (pollen tube) ลงสู่คอเกสรตัวเมีย ทิวบ์นิวเคลียสจะ เคลื่อนตัวไปตามท่อในขณะที่เจเนเรทีฟนิวเคลียส จะแบ่งนิวเคลียสแบบไม โทซีสได้สเปิ ร์มนิวเคลียส (sperm nucleus) 2 ตัว เข้าผสมกันนิวเคลียสของ ไข่ได้ไซโกต (2n) ซึ่งจะเจริ ญเป็ นเอมบริ โอต่อไป ส่ วนอีกนิวเคลียสจะ เจริ ญเป็ นเอนโดสเปิ ร์ มซึ่งเป็ นอาหารสาหรับเลี้ยงเอมบริ โอ การผสมซึ่งเกิด จากการผสม 2 ครั้งนี้เรี ยกว่า การปฏิสนธิซอน (double fertilization) ซึ่ง ้ พบเฉพาะในพืชดอกเท่ านั้น
  • 23. 1.การเปลียนแปลงหลังการปฏิสนธิของพืชดอก ได้แก่ ่ ่ •ไข่ จะเจริ ญไปเป็ นเอมบริโอ อยูภายในเมล็ด •รังไข่ จะเจริ ญไปเป็ นผล (Fruit) •ผนังรังไข่ (Ovary wall) จะเจริ ญไปเป็ นเปลือกและเนือของผล (Pericarp) ้ ่ •โพลาร์ นิวคลีไอ จะเจริ ญไปเป็ นเอนโดสเปิ ร์ ม (Endosperm) อยูภายใน เมล็ด (Seed) •ออวุล จะเจริ ญไปเป็ นเมล็ด •เยือหุ้มออวุล (Integument) จะเจริ ญไปเป็ นเปลือกหุ้มเมล็ด (Seed coat) ่ •แอนติโพดัล (Antipodal) และซินเนอร์ จด (Synergid) จะสลายไป ิ •กลีบเลียง กลีบดอก เกสรตัวผู้ ยอดเกสรตัวเมียและก้ านชู เกสรตัวเมีย จะ ้ เหี่ ยวแห้งร่ วงไป แต่ในดอกของพืชบางชนิดยังคงมีกลีบเลี้ยง และเกสรตัวผู้ ติดอยู่
  • 26. ผล โครงสร้ างของผล ผลส่ วนใหญ่เกิดจากการเจริ ญเติบโตของรังไข่ ภายหลังจากการปฏิสนธิ แต่กมี ็ ็ ผลบางชนิดอาจเกิดได้โดยไม่ตองมีการปฏิสนธิกได้ ซึ่งผลชนิดนี้จะไม่มีเมล็ดหรื อมี ้ แต่เมล็ดลีบไป ผลประกอบด้ วยส่วนที่สาคัญที่เจริญเปลี่ยนแปลงมาจากผนังรังไข่ (Ovary wall)
  • 27. ผลเดียว (Simple fruit) คือ ผลที่เกิดจากรังไข่ อนเดียวที่อยู่ ่ ั ภายในดอกเดียว ซึ่ งถ้าภายในรังไข่ มออวุลอันเดียวจะเจริญ ี ไปเป็ นผลเดียวทีมีเมล็ดเดียว เช่น มะยม มะม่วง เงาะ ่ ่ มะพร้าว ลาไย เป็ นต้น ถ้าภายในรังไข่ มหลายออวุลจะเจริญ ี ไปเป็ นผลเดียวทีมีหลายเมล็ด เช่น แตงโม องุ่น มะเขือ ่ ่ มะละกอ ส้ม ถัว ทุ รี ยน มังคุด มะขาม ละมุู่ด เป็ นต้น ผลกลุ่ม (Aggregate fruit)เคือ ผลที่เกิดจากรังไข่หลายอันที่ยในภายในดอกเดียวกัน ่ รังไข่แต่ละอันเมื่อได้รับการผสมแล้วจะเจริ ญไปเป็ นผลหนึ่งผล ทาให้มีลกษณะ ั เหมือนผลหลายๆผลอยู่รวมกันเป็ นกลุ่ม หรือกระจุกบนฐานรองดอกเดียวกัน แต่ ไม่ หลอมรวมกัน เช่น ลูกจาก
  • 28. หลายๆดอก โดยแต่ละดอกมีรังไข่อนเดียว รังไข่ของแต่ละ ั ดอกเมื่อเจริ ญไปเป็ นผลจะเชื่อมรวมเป็ นเนื้อเดียวกันจนดู คล้ายเป็ นผลเดี่ยว เช่น สับปะรด ขนุน สาเก ลูกยอ มะเดื่อ เป็ นต้น
  • 29. เมล็ด (seed) • พืชส่ วนใหญ่ท่ีพบบนโลกเป็ นพวกที่ใช้เมล็ดในการสื บพันธุ์ • เมล็ด (seed) คือ โอวูล (ovule) ที่ได้รับการผสมและเจริ ญเต็มที่ แล้ว ่ • โอวูล เป็ นอวัยวะหนึ่งของพืชอยูภายในรังไข่ (ovary) ภายใน โอวูลจะมีไข่ (egg) ซึ่งทาหน้าที่เป็ นเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย
  • 30. เมล็ด (seed) • เมล็ดประกอบไปด้ วย 3 ส่ วนทีสาคัญ ดังนี้ ่ • เปลือกหุ้มเมล็ด (seed coat or testa) –ไฮลัม (hilum) –ไมโครไพล์ (micropyle) • เอนโดสเปิ ร์ ม (endosperm) เช่นในต้นมะพร้าว, ต้นตาล, ต้นหมาก น้ าและเนื้อภายในลูกของพืชพวกนี้คือ เอนโด สเปิ ร์ม
  • 31. เมล็ด (seed) • ต้ นอ่อน (embryo) ประกอบด้วยส่ วนต่างๆดังนี้ – ยอดแรกเกิด (Plumule) เจริ ญไปเป็ นใบและ ยอด – ต้ นอ่อนเหนือใบเลียง (Epicotyl) เจริ ญไปเป็ นลา ้ ต้นส่ วนบน ใบ ดอก – ใบเลียง (Cotyledon) ในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมี 1 ใบ พืชใบเลี้ยงคู่มี 2 ใบ ้ ทาหน้าที่ ย่อย ดูดซึม และสะสมอาหารจากเอนโดสเปิ ร์ม – ต้ นอ่อนใต้ ใบเลียง (Hypocotyl) เป็ นลาต้นส่ วนที่ถดจากใบเลี้ยงลงมา ้ ั – รากแรกเกิด (Radicle) เจริ ญไปเป็ นรากแก้ว (Tap root or Primary root)
  • 32. ยอดแรกเกิด ต้ นอ่อนเหนือใบเลียง ้ ต้ นอ่อนใต้ ใบเลียง ้ รากแรกเกิด
  • 33. การงอกของเมล็ด • มี 2 แบบ คือ • การงอกที่ใบเลียงชูขึนมาเหนือดิน ้ ้ พบในพืชใบเลี ้ยงคู่ • การงอกที่ใบเลียงจมอยู่ใต้ ดน ้ ิ พบในพืชใบเลี ้ยงเดี่ยว
  • 34.
  • 35. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ด • นา ้ • ก๊ าซออกซิเจน • อุณหภูมิ • เมล็ดของพืชบางชนิดต้ องการแสงด้ วย จึงจะสามารถงอกได้ เช่ น เมล็ดยาสูบ, กาฝาก, ผักกาดหอม, ไทร เป็ นต้ น