SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 13
Baixar para ler offline
ข้ อสอบ ชุ ดที่ 2
                            กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้ นมัธยมศึกษาปี ที่ 1
แบบปรนัย
คาชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว
1. เมื่อเรานาเซลล์ ของใบสาหร่ ายหางกระรอกและเซลล์ เยือหอมมาส่ องดูด้วยกล้ องจุลทรรศน์ เม็ดสี เขียวเล็ก ๆ ที่
                                                         ่
      พบในเซลล์ของใบสาหร่ ายหางกระรอกแต่ ไม่ พบในเซลล์เยือหอมคืออะไร
                                                               ่
      1 ผนังเซลล์
      2 นิวเคลียส
      3 เยือหุมเซลล์
             ่ ้
      4 คลอโรพลำสต์
2. ข้ อความใดอธิบายลักษณะของเซลล์ ได้ ถูกต้ อง
      1 กลุ่มของหน่วยสิ่ งมีชีวตที่มีโครงสร้ำงคล้ำยกัน
                                   ิ
      2 กลุ่มของหน่วยสิ่ งมีชีวตที่ทำหน้ำที่คล้ำยกัน
                                     ิ
      3 หน่วยเล็ก ๆ ซึ่ งเป็ นส่ วนประกอบพื้นฐำนของสิ่ งมีชีวต
                                                             ิ
      4 หน่วยเล็ก ๆ ของสิ่ งมีชีวตที่รวมตัวกันทำหน้ำที่เฉพำะอย่ำง
                                       ิ
3. เซลล์ใดต่ อไปนีไม่ มีนิวเคลียส
                   ้
      1 เซลล์ประสำท
      2 เซลล์เม็ดเลือดแดง
      3 เซลล์กล้ำมเนื้อลำย
      4 เซลล์กล้ำมเนื้อเรี ยบ
4. เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้ าทีอะไร่
      1 นำแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังปอด
      2 นำแก๊สออกซิ เจนจำกปอดไปยังอวัยวะต่ำง ๆ
      3 นำสำรที่เป็ นพิษต่อร่ ำงกำยไปกำจัดออกนอกเซลล์
      4 ขนส่ งแก๊สออกซิ เจนและแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังเซลล์ต่ำง ๆ
ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 5-8
               ้
5. หมายเลข 1 ในภาพคืออะไร
    1 ไรโบโซม
    2 นิวเคลียส
    3 ไมโทคอนเดรี ย
    4 กอลไจแอปพำรำตัส
6. หมายเลข 2 ในภาพคืออะไร
    1 ไรโบโซม
    2 นิวเคลียส
    3 ไมโทคอนเดรี ย
    4 กอลไจแอปพำรำตัส
7. หมายเลข 3 ในภาพคืออะไร
    1 ไรโบโซม
    2 นิวคลีโอลัส
    3 ไซโทพลำซึม
    4 ไมโทคอนเดรี ย
8. หมายเลข 4 ในภาพคืออะไร
    1 ไรโบโซม
    2 คลอโรพลำสต์
    3 ไมโทคอนเดรี ย
    4 กอลไจแอปพำรำตัส
9. คลอโรพลาสต์ ทาหน้ าที่อะไร
    1 ลำเลียงอำหำร
    2 ขับถ่ำยของเสี ย
    3 สร้ำงคำร์ โบไฮเดรต
    4 ควบคุมกำรทำงำนของเซลล์
10. เม็ดสี เขียวทีเ่ ป็ นอวัยวะสร้ างอาหารภายในเซลล์พชเรียกว่ าอะไร
                                                     ื
    1 นิวเคลียส
    2 คลอโรฟิ ลล์
    3 ไซโทพลำซึม
    4 คลอโรพลำสต์
11. ส่ วนประกอบสาคัญทีมีในเซลล์พชและเซลล์สัตว์คืออะไร
                          ่             ื
       1 ผนังเซลล์
       2 คลอโรฟิ ลล์
       3 เยือหุมเซลล์
             ่ ้
       4 คลอโรพลำสต์
12. ส่ วนประกอบใดทาให้ เซลล์ พชคงรู ปอยู่ได้
                                   ื
       1 ผนังเซลล์
       2 นิวเคลียส
       3 เยือหุมเซลล์
              ่ ้
       4 ไซโทพลำซึม
13. ขนรากดูดซับเกลือแร่ เข้ าสู่ เซลล์ โดยวิธีใด
       1 กำรแพร่
       2 ออสโมซิส
       3 กำรไหลซึม
       4 กำรลำเลียง
ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 14-15
                ้




14. จากรู ป ต้ องการทดลองเรื่องใด
    1 กำรแพร่
    2 กำรออสโมซิส
    3 กำรดูดซึ มของน้ ำ
    4 กำรกระจำยอนุ ภำคของน้ ำตำล
15. ถุงกระดาษแก้วมีคุณสมบัติเหมือนกับสิ่ งใด
    1 ผนังเซลล์
    2 ไซโทพลำซึม
    3 เยือเลือกซึ มผ่ำน
          ่
    4 เม็ดคลอโรพลำสต์
16.
                              จัดอุปกรณ์ การทดลองดังรู ป เมื่อเวลาผ่ านไป 35 นาที พบว่านาในบีกเกอร์ มีสีฟา
                                                                                        ้                ้
                              แต่ ระดับนาไม่ เพิมขึน ข้ อสรุ ปใดไม่ ถกต้ อง
                                         ้      ่ ้                  ู
                                   1 อัตรำกำรแพร่ ของจุนสี มำกกว่ำน้ ำ
                                   2 อัตรำกำรแพร่ ของน้ ำและจุนสี เท่ำกัน
                                   3 น้ ำแพร่ จำกภำยนอกเข้ำสู่ ภำยในถุงเซลโลเฟน
                                   4 อนุภำคของจุนสี แพร่ ออกมำสู่ ภำยนอกถุงเซลโลเฟน

17. ถ้ าเด็ดใบไม้ ในตอนเช้ ามืดมาทดสอบแปงจะพบหรือไม่ เพราะเหตุใด
                                         ้
    1 พบ เพราะพืชมีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง
    2 พบ เพราะพืชสะสมนาตาลไว้ในรู ปของแปง
                                ้               ้
    3 ไม่ พบ เพราะแปงถูกเปลี่ยนเป็ นนาตาล
                        ้              ้
    4 ไม่ พบ เพราะยังไม่ มีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง
    1 1
    2 3
    3 1 และ 2
    4 3 และ 4
18. ในการทดลองตรวจสอบแปงในใบไม้ เพราะเหตุใดจึงต้ องต้ มใบไม้ ในนาเดือดก่ อนนาไปทดลอง
                                  ้                              ้
    1 สกัดแป้ งออกมำ
    2 ทำให้ใบไม้ไม่แข็ง
    3 ทำลำยผนังเซลล์พืช
    4 สกัดคลอโรฟิ ลล์ออกจำกใบ
19. เมื่อทดสอบหาแปงบนใบพืชทีมีรอยด่ าง เช่ น ใบพลูด่างและใบชบาด่ าง พบว่ าตรงบริเวณทีไม่ มสีเขียวจะไม่ มี
                     ้           ่                                                   ่ ี
    แปง ข้ อสรุ ปใดถูกต้ อง
      ้
    1 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสง
                                             ้
    2 ใบพืชบริ เวณที่ไม่มีแป้ งเกิดจำกกำรไม่ได้รับแสง
    3 ใบพลูด่ำงและใบชบำด่ำงสังเครำะห์ดวยแสงไม่ได้
                                           ้
    4 กำรสังเครำะห์ดวยแสงไม่เกี่ยวข้องกับคลอโรฟิ ลล์
                          ้

20.




    จากรู ป การปิ ดกระดาษสี ดาบนใบผักบุ้งและตั้งทิงไว้ กลางสนามทีมแสงแดด เมื่อนาใบผักบุ้งไปตรวจสอบ
                                                   ้                  ่ ี
    พบว่ าไม่ พบแปงในผักบุ้งที่ปิดด้ วยกระดาษสี ดา ผลสรุ ปที่ได้ คออะไร
                   ้                                              ื
    1 พืชใช้คลอโรฟิ ลล์ในกำรสร้ำงอำหำร
    2 แสงเป็ นสิ่ งจำเป็ นในกำรสร้ำงอำหำรของพืช
    3 ผลิตผลจำกกำรสังเครำะห์ดวยแสงคือแป้ ง
                                        ้
    4 พืชใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ในกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง        ้
21. ข้ อความใดอธิบายการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืชได้ ถูกต้ อง
    1 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนเคมี
    2 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนจลน์
    3 เปลี่ยนพลังงำนศักย์เป็ นพลังงำนจลน์
    4 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนควำมร้อน
22. เมื่อใช้ สารละลายไอโอดีนหยดลงบนใบพืช ถ้ าบริเวณนั้นมีแปง สารละลายไอโอดีนจะเกิดการเปลียนแปลงใน
                                                                ้                           ่
    ลักษณะใด
    1 ขำว            น้ ำเงิน
    2 น้ ำตำล             ขำว
    3 น้ ำตำล             ม่วงแกมน้ ำเงิน
    4 ม่วงแกมน้ ำเงิน             น้ ำตำล
23. จากการทดสอบหาแปงในใบชบาด่ าง พบว่ าส่ วนสี ขาวของใบชบาด่ างไม่ มแปง ข้ อสรุ ปทีเ่ หมาะสมกับการ
                            ้                                                ี ้
    ทดลองนีคืออะไร
             ้
    1 กำรหำยใจเกิดขึ้นบริ เวณที่มีสีขำวของใบ
    2 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจำเป็ นต้องใช้แสง
                          ้
    3 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืช
                                              ้
    4 ใบเป็ นตำแหน่งสำคัญในกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืช    ้
24. นอกจากนาตาลแล้วสิ่ งใดเป็ นผลทีเ่ กิดจากการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืช
               ้
    1 แป้ ง ไขมัน
    2 ไขมัน โปรตีน
    3 น้ ำ แก๊สออกซิ เจน
    4 น้ ำ แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์
25. หากเรานาสาหร่ ายมาเลียงไว้ ในตู้ปลา โดยไม่ นาปลามาเลียงไว้ แล้ วปิ ดตู้เลียงปลาให้ สนิท พบว่ าสาหร่ ายทีอยู่ใน
                                  ้                         ้                 ้                             ่
    นาจะไม่ เจริญเติบโตเท่าทีควร ข้ อเท็จจริงนี้ยนยันผลเรื่องใด
      ้                               ่            ื
    1 พืชและสัตว์ตองพึ่งพำอำศัยกันจึงจะอยูรอด
                        ้                        ่
    2 พืชจะเจริ ญเติบโตได้ตองอำศัยแก๊สออกซิ เจน
                                        ้
    3 ผลกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจะเกิดแก๊สออกซิ เจน
                                    ้
    4 กำรสร้ำงอำหำรของพืชจำเป็ นต้องใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์
26. กิจกรรมใดช่ วยเพิมอัตราการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืช
                      ่
    1 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชก่อนฝนตก
    2 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชหลังฝนตก
    3 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงวัน
    4 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงคืน
27. กานต์ พบว่าพืชต้ องการแสงแดดในการสั งเคราะห์ ด้วยแสง แต่ เขาพบว่าเมล็ดถั่วเขียวงอกในภาชนะซึ่งไม่ ได้ รับ
    แสงแดดเลย เขาจึงสงสั ยว่ าอะไรเป็ นสาเหตุททาให้ ต้นถั่วเขียวงอกได้ เหตุผลใดดีทสุดในการตอบข้ อสงสั ยของ
                                                     ี่                              ี่
    กานต์
    1 เมล็ดจะงอกได้ดีถำมีปุ๋ยเพียงพอ
                              ้
    2 เมล็ดจะงอกได้ดีถำมีอุณหภูมิพอเหมำะ
                                ้
                   ่
    3 มีอำหำรอยูในเมล็ดพืชแล้ว เมล็ดพืชจึงงอกได้
    4 กำรงอกของเมล็ดพืชไม่จำเป็ นต้องอำศัยแสงแดด
28. การขาดธาตุใดทาให้ พชมีปริ มาณคลอโรฟิ ลล์ ลดลง
                           ื
    1 เหล็ก
    2 สังกะสี
    3 แคลเซียม
    4 แมกนีเซียม
29.                                       จากรู ป ผลสรุ ปใดถุกต้ อง
                                                1 แสงสว่ำงมีอิทธิ พลต่อกำรคำยน้ ำของพืช
                                                2 พืชคำยน้ ำออกทำงใบมำกกว่ำส่ วนอื่น ๆ
                                                                                    ่ ั
                                                3 พืชจะคำยน้ ำได้มำกหรื อน้อยขึ้นอยูกบควำมชื้นของอำกำศ
                                                4 แสงสว่ำง ควำมชื้น และอุณหภูมิมีอิทธิ พลต่อกำรคำยน้ ำของ
                          พืช
30. ใบไม้ มีเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ และเนือเยือลาเลียงอาหารอยู่ทใด
               ้ ่           ้               ้ ่                    ี่
    1 ผิวใบ
    2 เส้นใบ
    3 ใต้ปำกใบ
    4 ก้ำนใบเท่ำนั้น
31. เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ส่วนใหญ่ของพืชเป็ นเซลล์แบบใด
        ้ ่            ้
    1 เซลล์ที่มีชีวต ิ
    2 เซลล์ที่ตำยแล้ว
    3 เซลล์ที่มีนิวเคลียส
    4 เซลล์ที่มีไซโทพลำซึ ม
32. พืชชนิดใดไม่ มีการคายนา    ้
    1 บัว
    2 กล้วยไม้
    3 สำหร่ ำย
    4 กระบองเพชร
33. ข้ อความใดไม่ ใช่ ประโยชน์ ของการคายนาของพืช
                                              ้
    1 ช่วยให้กำรคำยน้ ำของพืชดีข้ ึน
    2 ช่วยให้ใบของพืชมีควำมชุ่มชื้น
    3 ช่วยลดอุณหภูมิภำยในลำต้นและใบ
    4 ช่วยให้กำรสังเครำะห์ดวยแสงเกิดขึ้นตลอดเวลำ
                                 ้
34. ความแตกต่ างของเนือเยือลาเลียงอาหารและเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ คืออะไร
                              ้ ่                 ้ ่          ้
       1 เซลล์ยงมีชีวต
                 ั ิ
       2 ไม่มีนิวเคลียส
       3 ลักษณะของท่อ
       4 ลักษณะของเซลล์
35. ตามใบไม้ มีเนือเยือลาเลียงนา-เกลือแร่ และเนือเยือลาเลียงอาหารอยู่ทใด
                   ้ ่            ้             ้ ่                   ี่
       1 ผิวใบ
       2 เส้นใบ
       3 ใต้ปำกใบ
       4 ก้ำนใบเท่ำนั้น
36. ทิศทางการลาเลียงอาหารของพืชส่ วนใหญ่มีทิศทางในลักษณะใด
       1 จากราก         ลาต้ น      กิง
                                      ่            ใบ
       2 จากใบ          กิง
                          ่         ลาต้ น         ราก
       3 จากใบ          กิง ่       ลาต้ น         กิง
                                                     ่        ดอก
       1 1 และ 2
       2 2 และ 3
       3 1 และ 3
       4 เฉพำะ 2
ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 37-40
               ้




37. ส่ วนประกอบของเกสรเพศผู้คืออะไร
    1 1, 2
    2 1, 3
    3 2, 3
    4 3, 4
38. ออวุลได้ แก่ หมายเลขใด และสิ่ งทีอยู่ในออวุลคืออะไร
                                       ่
    1 หมำยเลข 1 ละอองเรณู
    2 หมำยเลข 3 ละอองเรณู
    3 หมำยเลข 6 เซลล์ไข่
    4 หมำยเลข 7 เซลล์ไข่
39. เซลล์ สืบพันธุ์เพศผู้ถูกสร้ างขึนที่หมายเลขใด
                                     ้
    1 1
    2 2
    3 3
    4 4
40. การปฏิสนธิซ้อนมักเกิดขึนที่บริเวณหมายเลขใด
                                ้
    1 1 และ 3
    2 2 และ 4
    3 6 และ 7
    4 1, 2, 3 และ 4
41. การปฏิสนธิคือขั้นตอนใด
    1 เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย
    2 เมื่อละอองเรณูงอกหลอดแทงลงไปในรังไข่
    3 เมื่อนิวเคลียสของละอองเรณู ผสมกับเซลล์ไข่
    4 เมื่อนิวเคลียสของละอองเรณู ผสมกับเซลล์ไข่กลำยเป็ นเมล็ด
42. การปฏิสนธิของดอกไม้ เกิดขึนเมื่อใด
                                   ้
    1 ออวุลเจริ ญไปเป็ นเมล็ด
    2 ผนังรังไข่เจริ ญไปเป็ นเมล็ด
    3 ละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย
    4 สเปิ ร์ มเข้ำผสมกับไข่และโพลำร์ นิวเคลียส
43. ข้ อความใดไม่ ถกต้ องเกี่ยวกับการสื บพันธุ์แบบไม่ อาศัยเพศ
                     ู
    1 สื บพันธุ์ได้ดวยตัวเอง
                       ้
    2 ลูกที่เกิดมำมีลกษณะเหมือนพ่อแม่
                         ั
    3 ลูกที่เกิดมำจะมีลกษณะเหมือนกันทั้งหมด
                            ั
                              ้ั
    4 นิวเคลียสของเพศผูกบเพศเมียรวมตัวกัน
44. ถ้ าต้ องการเพาะพันธุ์มะม่ วงให้ ได้ พนธุ์ต่างไปจากเดิมควรใช้ วธีใด
                                            ั                      ิ
    1 ติดตำ
    2 ตอนกิ่ง
    3 ทำบกิ่ง
    4 เพำะเมล็ด
45. จุดเด่ นทีสาคัญของการใช้ พชทีได้ จากการตัดแต่ งยีนในการเพาะปลูกคืออะไร
                  ่               ื ่
    1 ลดกำรใช้ปุ๋ยเคมีและยำฆ่ำแมลง
    2 เพิมผลผลิตต่อไร่ มำกกว่ำพันธุ์ด้ งเดิม
              ่                                ั
    3 รำคำต่อหน่วยถูกกว่ำกำรใช้พนธุ์ด้ งเดิม
                                          ั ั
    4 ได้พืชพันธุ์ใหม่ท่ีทนต่อทุกสภำพภูมิอำกำศ
46. สารทีช่วยควบคุมปริมาณนาตาลในเลือดทีสามารถใช้ เทคโนโลยีชีวภาพช่ วยผลิตได้ แก่ อะไร
            ่                   ้                      ่
    1 อินซูลิน
    2 เอนไซม์
    3 กรดแอมิโน
    4 กรดนิวคลิอิก
47. การตัดแต่ งยีนสาหรับพืชบางชนิดเพือเพิมผลผลิตของพืชนั้น ฝ่ ายทีต่อต้ านการดาเนินงานลักษณะดังกล่าวนีมี
                                              ่ ่                       ่                             ้
    ข้ อห่ วงใยในเรื่องใดมากทีสุด
                              ่
    1 กำรกลำยของพันธุ์พืช
    2 วัฏจักรกำรเจริ ญเติบโต
    3 ผลข้ำงเคียงต่อผูบริ โภค
                          ้
    4 กำรขยำยพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิต
48. อะไรเป็ นจุดเด่ นทีสาคัญของการใช้ พชทีได้ จากการตัดแต่ งยีนในการเพาะปลูก
                        ่                          ื ่
    1 ลดกำรใช้ปุ๋ยและยำฆ่ำแมลง
    2 เพิ่มผลผลิตต่อไร่ มำกกว่ำพันธุ์ด้ งเดิม    ั
    3 รำคำต่อหน่วยถูกกว่ำกำรใช้พนธุ์ด้ งเดิม
                                           ั ั
    4 ได้พืชพันธุ์ใหม่ท่ีทนต่อทุกสภำพภูมิอำกำศ
49. การเคลือนไหวใดไม่ สัมพันธ์ กบทิศทางของสิ่ งเร้ า
                ่                   ั
    1 กำรเจริ ญของรำกเข้ำหำน้ ำ
    2 กำรหุบและบำนของดอกไม้
    3 กำรเจริ ญของยอดพืชเข้ำหำแสง
    4 กำรหันหำแสงของดอกทำนตะวัน
50. การเคลือนไหวของเซลล์ คุมเป็ นการตอบสนองต่ อสิ่ งใด
               ่
    1 อุณหภูมิ
    2 ควำมเต่ง
    3 กำรสัมผัส
    4 กำรสังเครำะห์ดวยแสง   ้
51. พฤติกรรมการตอบสนองของพืชทีเ่ กิดจากสิ่ งเร้ าภายนอกมีความสั มพันธ์ กบกระบวนการใดมากทีสุด
                                                                              ั          ่
    1 กำรหำยใจ
    2 กำรคำยน้ ำ
    3 กำรสังเครำะห์ดวยแสง     ้
    4 กำรลำเลียงน้ ำและอำหำร
52. ส่ วนประกอบที่ทาให้ เซลล์พชแตกต่ างจากเซลล์สัตว์คืออะไร
                                    ื
    1 ไซโทพลำซึ มกับไรโบโซม
                          ั
    2 เยือหุ มเซลล์กบนิวเคลียส
            ่ ้
                      ั
    3 ผนังเซลล์กบคลอโรพลำสต์
    4 ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส
53. เซลล์ พชมีอยู่ทส่วนใดของพืช
             ื     ี่
    1 ใบและลำต้น ที่อื่น ๆ ไม่มี
    2 ปลำยใบและปลำยรำกเท่ำนั้น
    3 ใบและลำต้นกับที่ปลำยรำกเท่ำนั้น
                 ่
    4 มีอยูทุกส่ วนของพืช เพรำะพืชมีเซลล์เป็ นส่ วนประกอบ
54. ส่ วนประกอบของเซลล์พชที่ทาหน้ าทีคล้ายยามคืออะไร
                                ื      ่
    1 ผนังเซลล์
    2 นิวเคลียส
    3 เยือหุมเซลล์
           ่ ้
         4 ไซโทพลำซึม
55. ความแตกต่ างของการแพร่ กับออสโมซิสคืออะไร
    1 ออสโมซิสเป็ นกำรเคลื่อนที่ของเยือบำง ๆ
                                         ่
    2 กำรแพร่ ไม่ตองผ่ำนเยือบำง ๆ แต่ออสโมซิ สต้องผ่ำนเยือบำง ๆ
                        ้         ่                        ่
    3 กำรแพร่ เกิดจำกสำรเคลื่อนที่จำกที่ที่มีโมเลกุลน้อยไปสู่ ที่ที่มีโมเลกุลมำกเท่ำนั้น
    4 ถูกทุกข้อ
56. สิ่ งทีไม่ ใช่ ปัจจัยทีสาคัญในกระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงคืออะไร
           ่               ่
    1 น้ ำ
    2 แสง
    3 ออกซิเจน
    4 คำร์บอนไดออกไซด์
57. ข้ อความใดถูกต้ อง
    1 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชเกิดขึ้นที่บริ เวณใบเท่ำนั้น
                             ้
    2 พืชส่ งอำหำรไปเลี้ยงส่ วนต่ำง ๆ ของลำต้นในรู ปของน้ ำตำล
    3 แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์เกิดจำกกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง          ้
    4 แก๊สออกซิ เจนเป็ นวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง      ้
58. กระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงมีความสั มพันธ์ กับสิ่ งใดมากทีสุด ่
    1 ปริ มำณแร่ ธำตุอำหำรที่จำเป็ นในพื้นดิน
    2 ปริ มำณอำหำรที่จำเป็ นต่อสิ่ งมีชีวตทุกชนิด
                                              ิ
                                          ่
    3 จำนวนพืชและสัตว์ที่อำศัยอยูในบริ เวณต่ำง ๆ
    4 กำรหมุนเวียนของแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์และแก๊สออกซิ เจน
59. กลุ่มเซลล์ ททาหน้ าทีเ่ ป็ นท่ อลาเลียงนาพบได้ ในส่ วนใดของพืช
                    ี่                      ้
    1 เฉพำะรำก
    2 รำกและลำต้น
    3 รำก ลำต้น และกิ่ง
    4 รำก ลำต้น กิ่ง และใบ
60. ส่ วนประกอบของดอกไม้ ถ้าเรียงจากชั้ นนอกสุ ดไปยังชั้ นในสุ ดได้ แก่ อะไร
    1 กลีบเลี้ยง กลีบดอก อับเรณู รังไข่
    2 กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู ้ เกสรเพศเมีย
    3 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู้ กลีบดอก กลีบเลี้ยง
    4 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ้ ก้ำนเกสรเพศผู ้ รังไข่
แบบอัตนัย
คาชี้แจง ตอบคำถำมต่อไปนี้ ให้ถูกต้อง
1. เพรำะเหตุใดพืชจึงต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่ วนอื่นในลำต้น


2. ในกำรสังเกตส่ วนประกอบของเซลล์ชนิดหนึ่งพบว่ำ เซลล์มีลกษณะเหลี่ยมประกอบด้วย นิวเคลียส ไซ
                                                        ั
โทพลำ-ซึ ม เยือหุ มเซลล์ และผนังเซลล์ จำกข้อมูลที่กำหนดให้เซลล์ชนิดนี้เป็ นเซลล์พืชหรื อเซลล์สตว์ เพรำะเหตุใด
              ่ ้                                                                             ั




เฉลย ข้ อสอบกลางภาค ชุดที่ 2
แบบปรนัย
1. 4 2. 3 3. 2 4. 4 5. 3 6. 1 7. 3 8. 2 9. 3 10. 4 11. 3 12. 3 13. 2
14. 2 15. 3 16. 3 17. 4 18. 4 19. 1 20. 2 21. 1 22. 3 23. 3 24. 3 25. 4 26. 3
27. 2 28. 1 29. 2 30. 2 31. 2 32. 3 33. 4 34. 1 35. 2 36. 1 37. 4 38. 3 39. 3
40. 3 41. 3 42. 4 43. 4 44. 4 45. 1 46. 1 47. 3 48. 1 49. 2 50. 2 51. 3 52. 3
53. 4 54. 3 55. 2 56. 3 57. 2 58. 4 59. 2 60. 2
แบบอัตนัย
1. พืชต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่วนอื่น ๆ เพรำะ
      1) น้ ำตำลละลำยน้ ำได้
      2) น้ ำตำลที่มีกำรย่อยจะมีอนุภำคเล็ก เช่น น้ ำตำลกลูโคส จะทำให้สะดวกต่อกำรแพร่
2. จำกข้อมูล เซลล์ชนิดนี้เป็ นเซลล์พืช เพรำะสังเกตเห็นผนังเซลล์ ซึ่ งเป็ นส่ วนประกอบที่จะพบ
ได้เฉพำะในเซลล์พืชเท่ำนั้น ไม่พบในเซลล์สตว์
                                        ั

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมPinutchaya Nakchumroon
 
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการเอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการBiobiome
 
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะกมลรัตน์ ฉิมพาลี
 
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอบทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอYaovaree Nornakhum
 
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิตเซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิตPopeye Kotchakorn
 
ใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกาย
ใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกายใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกาย
ใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกายAomiko Wipaporn
 
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบwebsite22556
 
เฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdna
เฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdnaเฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdna
เฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdnaWan Ngamwongwan
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะแบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะJariya Jaiyot
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมJariya Jaiyot
 
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมAomiko Wipaporn
 
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนSukanya Nak-on
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรมแผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรมWichai Likitponrak
 
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์Wann Rattiya
 
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)สำเร็จ นางสีคุณ
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 

Mais procurados (20)

แผนBioม.4 1
แผนBioม.4 1แผนBioม.4 1
แผนBioม.4 1
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการเอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
 
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
 
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
 
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอบทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
 
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิตเซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
ใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกาย
ใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกายใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกาย
ใบกิจกรรมที่ 5การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่างๆ ของร่างกาย
 
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
 
เฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdna
เฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdnaเฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdna
เฉลยแบบฝึกหัด17.5โครงสร้างdna
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
 
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะแบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
 
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
 
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรมแผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
 
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
 
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์
 

Destaque

Ppt. บาดทะยัก
Ppt. บาดทะยักPpt. บาดทะยัก
Ppt. บาดทะยักPrachaya Sriswang
 
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)Thitaree Samphao
 
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1Tatthep Deesukon
 
บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)
บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)
บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)Pinutchaya Nakchumroon
 
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์Kankamol Kunrat
 
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมนเฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมนWan Ngamwongwan
 
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ ระบบหายใจ
ระบบหายใจ Thitaree Samphao
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ Thitaree Samphao
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด Thitaree Samphao
 

Destaque (20)

สรุปเซลล์
สรุปเซลล์สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
 
Ppt. บาดทะยัก
Ppt. บาดทะยักPpt. บาดทะยัก
Ppt. บาดทะยัก
 
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
 
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม1
 
Rabies
RabiesRabies
Rabies
 
Fracture Clavicle
Fracture ClavicleFracture Clavicle
Fracture Clavicle
 
บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)
บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)
บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม (2)
 
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
 
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมนเฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
 
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ ระบบหายใจ
ระบบหายใจ
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
 
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
 
แรง (Force)
แรง (Force)แรง (Force)
แรง (Force)
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 
อาหารกับการดำรงชีวิต วิทยาศาสตร์ ม.2
อาหารกับการดำรงชีวิต วิทยาศาสตร์ ม.2อาหารกับการดำรงชีวิต วิทยาศาสตร์ ม.2
อาหารกับการดำรงชีวิต วิทยาศาสตร์ ม.2
 
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบหายใจ (Respiratory System)ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบหายใจ (Respiratory System)
 
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
 
ระบบประสาท (Nervous System)
ระบบประสาท (Nervous System)ระบบประสาท (Nervous System)
ระบบประสาท (Nervous System)
 
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
 

Semelhante a ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2

แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์Jinwara Sriwichai
 
Pat2 52 72
Pat2 52 72Pat2 52 72
Pat2 52 72june41
 
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)Lupin F'n
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)Phakhanat Wayruvanarak
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 02. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0sincerecin
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 02. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0Supisara Jaibaan
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์SiwadolChaimano
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 02. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0just2miwz
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ข้อสอบวิทยาศาสตร์
ข้อสอบวิทยาศาสตร์Phichak Penpattanakul
 
2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)
2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)
2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)teerachon
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์Suriyawaranya Asatthasonthi
 
ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์bowing3925
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1teerachon
 

Semelhante a ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2 (20)

Photosynthesis process
Photosynthesis processPhotosynthesis process
Photosynthesis process
 
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
 
Response to stimuli in plants
Response to stimuli in plantsResponse to stimuli in plants
Response to stimuli in plants
 
Basic cell
Basic cellBasic cell
Basic cell
 
Pat2 52 72
Pat2 52 72Pat2 52 72
Pat2 52 72
 
Pat2 2552
Pat2 2552Pat2 2552
Pat2 2552
 
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
 
Pat2 52-1
Pat2 52-1Pat2 52-1
Pat2 52-1
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย)
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 02. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 02. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 02. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์ (มัธยมปลาย) 0
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ข้อสอบวิทยาศาสตร์
ข้อสอบวิทยาศาสตร์
 
Onet science
Onet scienceOnet science
Onet science
 
2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)
2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)
2.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.6)
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
 
ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบ O-net - วิทยาศาสตร์
 
แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.1
 

Mais de สายฝน ต๊ะวันนา

ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาพรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาสายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553สายฝน ต๊ะวันนา
 
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน25502 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้นพรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้นสายฝน ต๊ะวันนา
 

Mais de สายฝน ต๊ะวันนา (20)

Hb5
Hb5Hb5
Hb5
 
5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)
5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)
5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)
 
4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)
4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)
4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)
 
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
 
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
 
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
 
พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
 
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาพรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
 
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
 
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน25502 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
 
อัตราว่าง
อัตราว่างอัตราว่าง
อัตราว่าง
 
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้นพรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
 
โมเมนต์
โมเมนต์โมเมนต์
โมเมนต์
 
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัมการเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
 
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัมการเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
 
ตัวชี้วัด วิทย์ม 3
ตัวชี้วัด วิทย์ม 3ตัวชี้วัด วิทย์ม 3
ตัวชี้วัด วิทย์ม 3
 
Sb2
Sb2Sb2
Sb2
 
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด d
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด dวิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด d
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด d
 
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด c
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด cวิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด c
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด c
 
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552
 

ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2

  • 1. ข้ อสอบ ชุ ดที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้ นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 แบบปรนัย คาชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว 1. เมื่อเรานาเซลล์ ของใบสาหร่ ายหางกระรอกและเซลล์ เยือหอมมาส่ องดูด้วยกล้ องจุลทรรศน์ เม็ดสี เขียวเล็ก ๆ ที่ ่ พบในเซลล์ของใบสาหร่ ายหางกระรอกแต่ ไม่ พบในเซลล์เยือหอมคืออะไร ่ 1 ผนังเซลล์ 2 นิวเคลียส 3 เยือหุมเซลล์ ่ ้ 4 คลอโรพลำสต์ 2. ข้ อความใดอธิบายลักษณะของเซลล์ ได้ ถูกต้ อง 1 กลุ่มของหน่วยสิ่ งมีชีวตที่มีโครงสร้ำงคล้ำยกัน ิ 2 กลุ่มของหน่วยสิ่ งมีชีวตที่ทำหน้ำที่คล้ำยกัน ิ 3 หน่วยเล็ก ๆ ซึ่ งเป็ นส่ วนประกอบพื้นฐำนของสิ่ งมีชีวต ิ 4 หน่วยเล็ก ๆ ของสิ่ งมีชีวตที่รวมตัวกันทำหน้ำที่เฉพำะอย่ำง ิ 3. เซลล์ใดต่ อไปนีไม่ มีนิวเคลียส ้ 1 เซลล์ประสำท 2 เซลล์เม็ดเลือดแดง 3 เซลล์กล้ำมเนื้อลำย 4 เซลล์กล้ำมเนื้อเรี ยบ 4. เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้ าทีอะไร่ 1 นำแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังปอด 2 นำแก๊สออกซิ เจนจำกปอดไปยังอวัยวะต่ำง ๆ 3 นำสำรที่เป็ นพิษต่อร่ ำงกำยไปกำจัดออกนอกเซลล์ 4 ขนส่ งแก๊สออกซิ เจนและแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังเซลล์ต่ำง ๆ ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 5-8 ้
  • 2. 5. หมายเลข 1 ในภาพคืออะไร 1 ไรโบโซม 2 นิวเคลียส 3 ไมโทคอนเดรี ย 4 กอลไจแอปพำรำตัส 6. หมายเลข 2 ในภาพคืออะไร 1 ไรโบโซม 2 นิวเคลียส 3 ไมโทคอนเดรี ย 4 กอลไจแอปพำรำตัส 7. หมายเลข 3 ในภาพคืออะไร 1 ไรโบโซม 2 นิวคลีโอลัส 3 ไซโทพลำซึม 4 ไมโทคอนเดรี ย 8. หมายเลข 4 ในภาพคืออะไร 1 ไรโบโซม 2 คลอโรพลำสต์ 3 ไมโทคอนเดรี ย 4 กอลไจแอปพำรำตัส 9. คลอโรพลาสต์ ทาหน้ าที่อะไร 1 ลำเลียงอำหำร 2 ขับถ่ำยของเสี ย 3 สร้ำงคำร์ โบไฮเดรต 4 ควบคุมกำรทำงำนของเซลล์ 10. เม็ดสี เขียวทีเ่ ป็ นอวัยวะสร้ างอาหารภายในเซลล์พชเรียกว่ าอะไร ื 1 นิวเคลียส 2 คลอโรฟิ ลล์ 3 ไซโทพลำซึม 4 คลอโรพลำสต์
  • 3. 11. ส่ วนประกอบสาคัญทีมีในเซลล์พชและเซลล์สัตว์คืออะไร ่ ื 1 ผนังเซลล์ 2 คลอโรฟิ ลล์ 3 เยือหุมเซลล์ ่ ้ 4 คลอโรพลำสต์ 12. ส่ วนประกอบใดทาให้ เซลล์ พชคงรู ปอยู่ได้ ื 1 ผนังเซลล์ 2 นิวเคลียส 3 เยือหุมเซลล์ ่ ้ 4 ไซโทพลำซึม 13. ขนรากดูดซับเกลือแร่ เข้ าสู่ เซลล์ โดยวิธีใด 1 กำรแพร่ 2 ออสโมซิส 3 กำรไหลซึม 4 กำรลำเลียง ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 14-15 ้ 14. จากรู ป ต้ องการทดลองเรื่องใด 1 กำรแพร่ 2 กำรออสโมซิส 3 กำรดูดซึ มของน้ ำ 4 กำรกระจำยอนุ ภำคของน้ ำตำล
  • 4. 15. ถุงกระดาษแก้วมีคุณสมบัติเหมือนกับสิ่ งใด 1 ผนังเซลล์ 2 ไซโทพลำซึม 3 เยือเลือกซึ มผ่ำน ่ 4 เม็ดคลอโรพลำสต์ 16. จัดอุปกรณ์ การทดลองดังรู ป เมื่อเวลาผ่ านไป 35 นาที พบว่านาในบีกเกอร์ มีสีฟา ้ ้ แต่ ระดับนาไม่ เพิมขึน ข้ อสรุ ปใดไม่ ถกต้ อง ้ ่ ้ ู 1 อัตรำกำรแพร่ ของจุนสี มำกกว่ำน้ ำ 2 อัตรำกำรแพร่ ของน้ ำและจุนสี เท่ำกัน 3 น้ ำแพร่ จำกภำยนอกเข้ำสู่ ภำยในถุงเซลโลเฟน 4 อนุภำคของจุนสี แพร่ ออกมำสู่ ภำยนอกถุงเซลโลเฟน 17. ถ้ าเด็ดใบไม้ ในตอนเช้ ามืดมาทดสอบแปงจะพบหรือไม่ เพราะเหตุใด ้ 1 พบ เพราะพืชมีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง 2 พบ เพราะพืชสะสมนาตาลไว้ในรู ปของแปง ้ ้ 3 ไม่ พบ เพราะแปงถูกเปลี่ยนเป็ นนาตาล ้ ้ 4 ไม่ พบ เพราะยังไม่ มีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง 1 1 2 3 3 1 และ 2 4 3 และ 4 18. ในการทดลองตรวจสอบแปงในใบไม้ เพราะเหตุใดจึงต้ องต้ มใบไม้ ในนาเดือดก่ อนนาไปทดลอง ้ ้ 1 สกัดแป้ งออกมำ 2 ทำให้ใบไม้ไม่แข็ง 3 ทำลำยผนังเซลล์พืช 4 สกัดคลอโรฟิ ลล์ออกจำกใบ
  • 5. 19. เมื่อทดสอบหาแปงบนใบพืชทีมีรอยด่ าง เช่ น ใบพลูด่างและใบชบาด่ าง พบว่ าตรงบริเวณทีไม่ มสีเขียวจะไม่ มี ้ ่ ่ ี แปง ข้ อสรุ ปใดถูกต้ อง ้ 1 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้ 2 ใบพืชบริ เวณที่ไม่มีแป้ งเกิดจำกกำรไม่ได้รับแสง 3 ใบพลูด่ำงและใบชบำด่ำงสังเครำะห์ดวยแสงไม่ได้ ้ 4 กำรสังเครำะห์ดวยแสงไม่เกี่ยวข้องกับคลอโรฟิ ลล์ ้ 20. จากรู ป การปิ ดกระดาษสี ดาบนใบผักบุ้งและตั้งทิงไว้ กลางสนามทีมแสงแดด เมื่อนาใบผักบุ้งไปตรวจสอบ ้ ่ ี พบว่ าไม่ พบแปงในผักบุ้งที่ปิดด้ วยกระดาษสี ดา ผลสรุ ปที่ได้ คออะไร ้ ื 1 พืชใช้คลอโรฟิ ลล์ในกำรสร้ำงอำหำร 2 แสงเป็ นสิ่ งจำเป็ นในกำรสร้ำงอำหำรของพืช 3 ผลิตผลจำกกำรสังเครำะห์ดวยแสงคือแป้ ง ้ 4 พืชใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ในกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้ 21. ข้ อความใดอธิบายการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืชได้ ถูกต้ อง 1 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนเคมี 2 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนจลน์ 3 เปลี่ยนพลังงำนศักย์เป็ นพลังงำนจลน์ 4 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนควำมร้อน 22. เมื่อใช้ สารละลายไอโอดีนหยดลงบนใบพืช ถ้ าบริเวณนั้นมีแปง สารละลายไอโอดีนจะเกิดการเปลียนแปลงใน ้ ่ ลักษณะใด 1 ขำว น้ ำเงิน 2 น้ ำตำล ขำว 3 น้ ำตำล ม่วงแกมน้ ำเงิน 4 ม่วงแกมน้ ำเงิน น้ ำตำล
  • 6. 23. จากการทดสอบหาแปงในใบชบาด่ าง พบว่ าส่ วนสี ขาวของใบชบาด่ างไม่ มแปง ข้ อสรุ ปทีเ่ หมาะสมกับการ ้ ี ้ ทดลองนีคืออะไร ้ 1 กำรหำยใจเกิดขึ้นบริ เวณที่มีสีขำวของใบ 2 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจำเป็ นต้องใช้แสง ้ 3 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืช ้ 4 ใบเป็ นตำแหน่งสำคัญในกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืช ้ 24. นอกจากนาตาลแล้วสิ่ งใดเป็ นผลทีเ่ กิดจากการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืช ้ 1 แป้ ง ไขมัน 2 ไขมัน โปรตีน 3 น้ ำ แก๊สออกซิ เจน 4 น้ ำ แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ 25. หากเรานาสาหร่ ายมาเลียงไว้ ในตู้ปลา โดยไม่ นาปลามาเลียงไว้ แล้ วปิ ดตู้เลียงปลาให้ สนิท พบว่ าสาหร่ ายทีอยู่ใน ้ ้ ้ ่ นาจะไม่ เจริญเติบโตเท่าทีควร ข้ อเท็จจริงนี้ยนยันผลเรื่องใด ้ ่ ื 1 พืชและสัตว์ตองพึ่งพำอำศัยกันจึงจะอยูรอด ้ ่ 2 พืชจะเจริ ญเติบโตได้ตองอำศัยแก๊สออกซิ เจน ้ 3 ผลกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจะเกิดแก๊สออกซิ เจน ้ 4 กำรสร้ำงอำหำรของพืชจำเป็ นต้องใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ 26. กิจกรรมใดช่ วยเพิมอัตราการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืช ่ 1 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชก่อนฝนตก 2 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชหลังฝนตก 3 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงวัน 4 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงคืน 27. กานต์ พบว่าพืชต้ องการแสงแดดในการสั งเคราะห์ ด้วยแสง แต่ เขาพบว่าเมล็ดถั่วเขียวงอกในภาชนะซึ่งไม่ ได้ รับ แสงแดดเลย เขาจึงสงสั ยว่ าอะไรเป็ นสาเหตุททาให้ ต้นถั่วเขียวงอกได้ เหตุผลใดดีทสุดในการตอบข้ อสงสั ยของ ี่ ี่ กานต์ 1 เมล็ดจะงอกได้ดีถำมีปุ๋ยเพียงพอ ้ 2 เมล็ดจะงอกได้ดีถำมีอุณหภูมิพอเหมำะ ้ ่ 3 มีอำหำรอยูในเมล็ดพืชแล้ว เมล็ดพืชจึงงอกได้ 4 กำรงอกของเมล็ดพืชไม่จำเป็ นต้องอำศัยแสงแดด
  • 7. 28. การขาดธาตุใดทาให้ พชมีปริ มาณคลอโรฟิ ลล์ ลดลง ื 1 เหล็ก 2 สังกะสี 3 แคลเซียม 4 แมกนีเซียม 29. จากรู ป ผลสรุ ปใดถุกต้ อง 1 แสงสว่ำงมีอิทธิ พลต่อกำรคำยน้ ำของพืช 2 พืชคำยน้ ำออกทำงใบมำกกว่ำส่ วนอื่น ๆ ่ ั 3 พืชจะคำยน้ ำได้มำกหรื อน้อยขึ้นอยูกบควำมชื้นของอำกำศ 4 แสงสว่ำง ควำมชื้น และอุณหภูมิมีอิทธิ พลต่อกำรคำยน้ ำของ พืช 30. ใบไม้ มีเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ และเนือเยือลาเลียงอาหารอยู่ทใด ้ ่ ้ ้ ่ ี่ 1 ผิวใบ 2 เส้นใบ 3 ใต้ปำกใบ 4 ก้ำนใบเท่ำนั้น 31. เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ส่วนใหญ่ของพืชเป็ นเซลล์แบบใด ้ ่ ้ 1 เซลล์ที่มีชีวต ิ 2 เซลล์ที่ตำยแล้ว 3 เซลล์ที่มีนิวเคลียส 4 เซลล์ที่มีไซโทพลำซึ ม 32. พืชชนิดใดไม่ มีการคายนา ้ 1 บัว 2 กล้วยไม้ 3 สำหร่ ำย 4 กระบองเพชร 33. ข้ อความใดไม่ ใช่ ประโยชน์ ของการคายนาของพืช ้ 1 ช่วยให้กำรคำยน้ ำของพืชดีข้ ึน 2 ช่วยให้ใบของพืชมีควำมชุ่มชื้น 3 ช่วยลดอุณหภูมิภำยในลำต้นและใบ 4 ช่วยให้กำรสังเครำะห์ดวยแสงเกิดขึ้นตลอดเวลำ ้
  • 8. 34. ความแตกต่ างของเนือเยือลาเลียงอาหารและเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ คืออะไร ้ ่ ้ ่ ้ 1 เซลล์ยงมีชีวต ั ิ 2 ไม่มีนิวเคลียส 3 ลักษณะของท่อ 4 ลักษณะของเซลล์ 35. ตามใบไม้ มีเนือเยือลาเลียงนา-เกลือแร่ และเนือเยือลาเลียงอาหารอยู่ทใด ้ ่ ้ ้ ่ ี่ 1 ผิวใบ 2 เส้นใบ 3 ใต้ปำกใบ 4 ก้ำนใบเท่ำนั้น 36. ทิศทางการลาเลียงอาหารของพืชส่ วนใหญ่มีทิศทางในลักษณะใด 1 จากราก ลาต้ น กิง ่ ใบ 2 จากใบ กิง ่ ลาต้ น ราก 3 จากใบ กิง ่ ลาต้ น กิง ่ ดอก 1 1 และ 2 2 2 และ 3 3 1 และ 3 4 เฉพำะ 2 ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 37-40 ้ 37. ส่ วนประกอบของเกสรเพศผู้คืออะไร 1 1, 2 2 1, 3 3 2, 3 4 3, 4
  • 9. 38. ออวุลได้ แก่ หมายเลขใด และสิ่ งทีอยู่ในออวุลคืออะไร ่ 1 หมำยเลข 1 ละอองเรณู 2 หมำยเลข 3 ละอองเรณู 3 หมำยเลข 6 เซลล์ไข่ 4 หมำยเลข 7 เซลล์ไข่ 39. เซลล์ สืบพันธุ์เพศผู้ถูกสร้ างขึนที่หมายเลขใด ้ 1 1 2 2 3 3 4 4 40. การปฏิสนธิซ้อนมักเกิดขึนที่บริเวณหมายเลขใด ้ 1 1 และ 3 2 2 และ 4 3 6 และ 7 4 1, 2, 3 และ 4 41. การปฏิสนธิคือขั้นตอนใด 1 เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย 2 เมื่อละอองเรณูงอกหลอดแทงลงไปในรังไข่ 3 เมื่อนิวเคลียสของละอองเรณู ผสมกับเซลล์ไข่ 4 เมื่อนิวเคลียสของละอองเรณู ผสมกับเซลล์ไข่กลำยเป็ นเมล็ด 42. การปฏิสนธิของดอกไม้ เกิดขึนเมื่อใด ้ 1 ออวุลเจริ ญไปเป็ นเมล็ด 2 ผนังรังไข่เจริ ญไปเป็ นเมล็ด 3 ละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย 4 สเปิ ร์ มเข้ำผสมกับไข่และโพลำร์ นิวเคลียส 43. ข้ อความใดไม่ ถกต้ องเกี่ยวกับการสื บพันธุ์แบบไม่ อาศัยเพศ ู 1 สื บพันธุ์ได้ดวยตัวเอง ้ 2 ลูกที่เกิดมำมีลกษณะเหมือนพ่อแม่ ั 3 ลูกที่เกิดมำจะมีลกษณะเหมือนกันทั้งหมด ั ้ั 4 นิวเคลียสของเพศผูกบเพศเมียรวมตัวกัน
  • 10. 44. ถ้ าต้ องการเพาะพันธุ์มะม่ วงให้ ได้ พนธุ์ต่างไปจากเดิมควรใช้ วธีใด ั ิ 1 ติดตำ 2 ตอนกิ่ง 3 ทำบกิ่ง 4 เพำะเมล็ด 45. จุดเด่ นทีสาคัญของการใช้ พชทีได้ จากการตัดแต่ งยีนในการเพาะปลูกคืออะไร ่ ื ่ 1 ลดกำรใช้ปุ๋ยเคมีและยำฆ่ำแมลง 2 เพิมผลผลิตต่อไร่ มำกกว่ำพันธุ์ด้ งเดิม ่ ั 3 รำคำต่อหน่วยถูกกว่ำกำรใช้พนธุ์ด้ งเดิม ั ั 4 ได้พืชพันธุ์ใหม่ท่ีทนต่อทุกสภำพภูมิอำกำศ 46. สารทีช่วยควบคุมปริมาณนาตาลในเลือดทีสามารถใช้ เทคโนโลยีชีวภาพช่ วยผลิตได้ แก่ อะไร ่ ้ ่ 1 อินซูลิน 2 เอนไซม์ 3 กรดแอมิโน 4 กรดนิวคลิอิก 47. การตัดแต่ งยีนสาหรับพืชบางชนิดเพือเพิมผลผลิตของพืชนั้น ฝ่ ายทีต่อต้ านการดาเนินงานลักษณะดังกล่าวนีมี ่ ่ ่ ้ ข้ อห่ วงใยในเรื่องใดมากทีสุด ่ 1 กำรกลำยของพันธุ์พืช 2 วัฏจักรกำรเจริ ญเติบโต 3 ผลข้ำงเคียงต่อผูบริ โภค ้ 4 กำรขยำยพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิต 48. อะไรเป็ นจุดเด่ นทีสาคัญของการใช้ พชทีได้ จากการตัดแต่ งยีนในการเพาะปลูก ่ ื ่ 1 ลดกำรใช้ปุ๋ยและยำฆ่ำแมลง 2 เพิ่มผลผลิตต่อไร่ มำกกว่ำพันธุ์ด้ งเดิม ั 3 รำคำต่อหน่วยถูกกว่ำกำรใช้พนธุ์ด้ งเดิม ั ั 4 ได้พืชพันธุ์ใหม่ท่ีทนต่อทุกสภำพภูมิอำกำศ 49. การเคลือนไหวใดไม่ สัมพันธ์ กบทิศทางของสิ่ งเร้ า ่ ั 1 กำรเจริ ญของรำกเข้ำหำน้ ำ 2 กำรหุบและบำนของดอกไม้ 3 กำรเจริ ญของยอดพืชเข้ำหำแสง 4 กำรหันหำแสงของดอกทำนตะวัน
  • 11. 50. การเคลือนไหวของเซลล์ คุมเป็ นการตอบสนองต่ อสิ่ งใด ่ 1 อุณหภูมิ 2 ควำมเต่ง 3 กำรสัมผัส 4 กำรสังเครำะห์ดวยแสง ้ 51. พฤติกรรมการตอบสนองของพืชทีเ่ กิดจากสิ่ งเร้ าภายนอกมีความสั มพันธ์ กบกระบวนการใดมากทีสุด ั ่ 1 กำรหำยใจ 2 กำรคำยน้ ำ 3 กำรสังเครำะห์ดวยแสง ้ 4 กำรลำเลียงน้ ำและอำหำร 52. ส่ วนประกอบที่ทาให้ เซลล์พชแตกต่ างจากเซลล์สัตว์คืออะไร ื 1 ไซโทพลำซึ มกับไรโบโซม ั 2 เยือหุ มเซลล์กบนิวเคลียส ่ ้ ั 3 ผนังเซลล์กบคลอโรพลำสต์ 4 ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส 53. เซลล์ พชมีอยู่ทส่วนใดของพืช ื ี่ 1 ใบและลำต้น ที่อื่น ๆ ไม่มี 2 ปลำยใบและปลำยรำกเท่ำนั้น 3 ใบและลำต้นกับที่ปลำยรำกเท่ำนั้น ่ 4 มีอยูทุกส่ วนของพืช เพรำะพืชมีเซลล์เป็ นส่ วนประกอบ 54. ส่ วนประกอบของเซลล์พชที่ทาหน้ าทีคล้ายยามคืออะไร ื ่ 1 ผนังเซลล์ 2 นิวเคลียส 3 เยือหุมเซลล์ ่ ้ 4 ไซโทพลำซึม 55. ความแตกต่ างของการแพร่ กับออสโมซิสคืออะไร 1 ออสโมซิสเป็ นกำรเคลื่อนที่ของเยือบำง ๆ ่ 2 กำรแพร่ ไม่ตองผ่ำนเยือบำง ๆ แต่ออสโมซิ สต้องผ่ำนเยือบำง ๆ ้ ่ ่ 3 กำรแพร่ เกิดจำกสำรเคลื่อนที่จำกที่ที่มีโมเลกุลน้อยไปสู่ ที่ที่มีโมเลกุลมำกเท่ำนั้น 4 ถูกทุกข้อ
  • 12. 56. สิ่ งทีไม่ ใช่ ปัจจัยทีสาคัญในกระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงคืออะไร ่ ่ 1 น้ ำ 2 แสง 3 ออกซิเจน 4 คำร์บอนไดออกไซด์ 57. ข้ อความใดถูกต้ อง 1 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชเกิดขึ้นที่บริ เวณใบเท่ำนั้น ้ 2 พืชส่ งอำหำรไปเลี้ยงส่ วนต่ำง ๆ ของลำต้นในรู ปของน้ ำตำล 3 แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์เกิดจำกกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้ 4 แก๊สออกซิ เจนเป็ นวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้ 58. กระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงมีความสั มพันธ์ กับสิ่ งใดมากทีสุด ่ 1 ปริ มำณแร่ ธำตุอำหำรที่จำเป็ นในพื้นดิน 2 ปริ มำณอำหำรที่จำเป็ นต่อสิ่ งมีชีวตทุกชนิด ิ ่ 3 จำนวนพืชและสัตว์ที่อำศัยอยูในบริ เวณต่ำง ๆ 4 กำรหมุนเวียนของแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์และแก๊สออกซิ เจน 59. กลุ่มเซลล์ ททาหน้ าทีเ่ ป็ นท่ อลาเลียงนาพบได้ ในส่ วนใดของพืช ี่ ้ 1 เฉพำะรำก 2 รำกและลำต้น 3 รำก ลำต้น และกิ่ง 4 รำก ลำต้น กิ่ง และใบ 60. ส่ วนประกอบของดอกไม้ ถ้าเรียงจากชั้ นนอกสุ ดไปยังชั้ นในสุ ดได้ แก่ อะไร 1 กลีบเลี้ยง กลีบดอก อับเรณู รังไข่ 2 กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู ้ เกสรเพศเมีย 3 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู้ กลีบดอก กลีบเลี้ยง 4 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ้ ก้ำนเกสรเพศผู ้ รังไข่
  • 13. แบบอัตนัย คาชี้แจง ตอบคำถำมต่อไปนี้ ให้ถูกต้อง 1. เพรำะเหตุใดพืชจึงต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่ วนอื่นในลำต้น 2. ในกำรสังเกตส่ วนประกอบของเซลล์ชนิดหนึ่งพบว่ำ เซลล์มีลกษณะเหลี่ยมประกอบด้วย นิวเคลียส ไซ ั โทพลำ-ซึ ม เยือหุ มเซลล์ และผนังเซลล์ จำกข้อมูลที่กำหนดให้เซลล์ชนิดนี้เป็ นเซลล์พืชหรื อเซลล์สตว์ เพรำะเหตุใด ่ ้ ั เฉลย ข้ อสอบกลางภาค ชุดที่ 2 แบบปรนัย 1. 4 2. 3 3. 2 4. 4 5. 3 6. 1 7. 3 8. 2 9. 3 10. 4 11. 3 12. 3 13. 2 14. 2 15. 3 16. 3 17. 4 18. 4 19. 1 20. 2 21. 1 22. 3 23. 3 24. 3 25. 4 26. 3 27. 2 28. 1 29. 2 30. 2 31. 2 32. 3 33. 4 34. 1 35. 2 36. 1 37. 4 38. 3 39. 3 40. 3 41. 3 42. 4 43. 4 44. 4 45. 1 46. 1 47. 3 48. 1 49. 2 50. 2 51. 3 52. 3 53. 4 54. 3 55. 2 56. 3 57. 2 58. 4 59. 2 60. 2 แบบอัตนัย 1. พืชต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่วนอื่น ๆ เพรำะ 1) น้ ำตำลละลำยน้ ำได้ 2) น้ ำตำลที่มีกำรย่อยจะมีอนุภำคเล็ก เช่น น้ ำตำลกลูโคส จะทำให้สะดวกต่อกำรแพร่ 2. จำกข้อมูล เซลล์ชนิดนี้เป็ นเซลล์พืช เพรำะสังเกตเห็นผนังเซลล์ ซึ่ งเป็ นส่ วนประกอบที่จะพบ ได้เฉพำะในเซลล์พืชเท่ำนั้น ไม่พบในเซลล์สตว์ ั