4. 4
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
ระดับของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศทุกประเภท ก็คือต้องประกอบด้วยกิจกรรม 3 อย่าง คือ ระบบต้องมีการนําเข้า
ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการแสดงผลลัพธ์ของข้อมูล
1. ระดับบุคคล
ระดับของการเกี่ยวข้องกับสารสนเทศในระดับบุคคลนั้น จะเป็นการที่แต่ละบุคคลในองค์กรจะ
สร้างและใช้สารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานส่วนตัวเท่านั้น เช่น การใช้โปรแกรม
ไมโครซอฟต์เวิร์ดในการพิมพ์เอกสาร การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ในงานนําเสนอ
สําหรับการสอนหรือบรรยาย โดยสามารถกรอกข้อความ ตาราง ภาพ ภาพเคลื่อนไหวและเสียง ที่ช่วย
ดึงดูดให้ผู้ฟังสนใจตลอดเวลา การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลล์กรอกข้อมูล คํานวณ สร้างกราฟ
และทํานายผลลัพธ์ของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
5. 5
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
ระดับของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ
2. ระดับกลุ่ม
ระดับของการเกี่ยวข้องกับสารสนเทศในระดับกลุ่มนั้น จะเป็นการที่กลุ่มของคนในองค์กรที่
ต้องทํางานร่วมกันจะสร้างและใช้สารสนเทศร่วมกัน ซึ่งจะส่งเสริมการดําเนินงานของกลุ่มให้มี
ประสิทธิภาพมากขึ้น
หลักการ คือ นําเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายระยะใกล้หรือ
ระยะไกล ทําให้มีการใช้ทรัพยากร ได้แก่ ข้อมูลและอุปกรณ์เทคโนโลยีพื้นฐานร่วมกัน
6. 6
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
ระดับของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ
3. ระดับองค์กร
ระดับของการเกี่ยวข้องกับสารสนเทศในระดับองค์กรนั้น จะเป็นการที่แผนกต่าง ๆ ในองค์กร
เช่น แผนการขายและการตลาด แผนการผลิต แผนกจัดซื้อ แผนกบุคคล แผนกการเงินและการบัญชี
เป็นต้น มีการสร้างและส่งผ่านสารสนเทศจากแผนกหนึ่งไปยังอีกแผนกหนึ่งได้โดยสร้างสารสนเทศใน
รูปแบบรายงาน หรือกราฟเพื่อให้ผู้บริหารนําไปประกอบการตัดสินใจได้
หลักการ คือ นําเครื่องคอมพิวเตอร์ของแผนกต่าง ๆ มาเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายเพื่อให้เกิด
การใช้ข้อมูลร่วมกัน
สิ่งที่สําคัญของระบบสารสนเทศระดับกลุ่มและระดับองค์กร คือ การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เป็น
เครือข่ายทั้งภายในองค์กรและการเชื่อมโยงภายนอกองค์กร เพื่อให้มีการสื่อสารและส่งข้อมูลถึงกันได้
อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
10. 10
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
การใช้งานทีง่าย(User Friendliness) การพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบัน มีการออกแบบ
ส่วนประสานงานกับผู้ใช้เพื่อช่วยเหลือ และสนับสนุนการทํางานให้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ
คนที่ไม่คุ้นเคยเรื่องเทคโนโลยีมากนัก หรือที่เรียกว่า user-friendliness นั่นเอง
การเปลี่ยนอะตอมเป็นบิต(Bits versus Atoms) ทิศทางของความนิยมและการกระจาย
ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการใช้งานโดยเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นับได้ว่า
เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการหันเหกิจกรรมที่ใช้ "อะตอม" เช่นการส่งเอกสารที่เป็นกระดาษ ไปสู่การ
ใช้"บิต"มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันจะเห็นว่าหลายองค์กรปรับเปลี่ยนการใช้งาน ที่มุ่งเน้นสู่สํานักงานแบบไร้
กระดาษ(paperless office) กันบ้างแล้ว
สื่อผสม(Multimidia) เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเผยแพร่สารสนเทศ ที่เป็นแบบ
สื่อผสมมากขึ้น ประกอบด้วยสา(รสนเทศที่อยู่ในรูปแบบตัวอักษร ภาพกราฟฟิก เสียง ภาพนิ่ง
รวมถึงภาพเคลื่อนไหวต่างๆเข้าด้วยกัน
เวลาและภูมิศาสตร์ (Time S Distance) วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศทําให้
มนุษย์สามารถเอาชนะเงื่อนไขด้าน"เวลา" และ"ภูมิศาสตร์"ได้เป็นอย่างมาก เช่น การประชุมทางไกล
สําหรับองค์การที่มีขนาดใหญ่และมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ หากต้องการจัดประชุมโดยให้ผู้บริหารทุกสาขา
เดินทางมายังสํานักงานใหญพร้อมกัน อาจทําได้ไม่สะดวกหรือจัดเวลาไม่ตรงกัน การประชุมแบบ
ทางไกลสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ หรือการใช้รับสัญญาณดาวเทียม เพื่อถ่ายทอดสัญญาณ
รายการเพื่อการศึกษาให้กับโรงเรียนชนบทที่ห่างไกล(tele-education) โดยที่นักเรียนไม่จําเป็นต้องเข้า
มาแสวงความรุ้ในเมืองใหญ่ ก็สามารถได้แหล่งความรู้ที่เหมือนๆกัน เป็นการลดปัญหาในเรื่อง
ภูมิศาสตร์
11. 11
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
เทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ
ด้านเศรษฐกิจ
เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทในด้านเศรษฐกิจโดยสามารถนํามาประยุกต์ใช้ประโยชน์และเพิ่ม
ขีดสามารถในการแข่งขันทั้งภาคการผลิตและบริการ ภาคการเงินการคลังทั้งภายใน ประเทศ และเพื่อ
การส่งออก อีกทั้งยังประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด
ย่อม เช่น
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) หมายถึง การดําเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่
เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือ
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการดําเนินธุรกิจการค้าหรือการซื้อขายบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โดยผู้ซื้อ (Customer) สามารถดําเนินการ เลือกสินค้าคํานวณเงิน ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้
วงเงินในบัตรเครดิตได้โดยอัตโนมัติ ผู้ขาย (Business)สามารถนําเสนอสินค้า ตรวจสอบ
วงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า รับเงินชําระค่าสินค้า ตัดสินค้าจากคลังสินค้า และประสานงานไป
ยังผู้จัดส่งสินค้าโดยอัตโนมัติ กระบวนการดังกล่าวจะดําเนินการเสร็จสิ้นบนระบบเครือข่าย
12. 12
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
เทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ
ด้านสังคม
ด้านสังคม ช่วยให้พัฒนาสังคมให้เกิดการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ เช่นโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตามพระราชดําริชองสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เข้าไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคมได้มี
คอมพิวเตอร์ใช้ เช่นโรงเรียนชนบท คนป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล ผู้ต้องขัง และคนตาบอดที่สามารถ
อ่านหนังสือได้ด้วยระบบ DAISY ( Digital Accessible Information System)
13. 13
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
เทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ
ด้านการศึกษา
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction) มีหลายรูปแบบเช่น Drill
and Practice, Linear Program , Branching Program, Simulation, Game, Multimedia,
Intelligence CAI
.การศึกษาทางไกล (Distance Learning) ซึ่งจัดได้หลายรูปแบบ เช่น การใช้วิทยุ โทรทัศน์ การ
สื่อสารโดยใช้ระบบแพร่ภาพผ่านดาวเทียม (Direct to Home : DTH) หรือระบบการแระชุมทางไกล (Video
Teleconference)
.เครือข่ายการศึกษา (Education Network) ซึ่งเป็นการนําเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาใช้ ซึ่งมี
บริการในหลายรูปแบบ เช่น Electronic Mail , File Transfer Protocol, Telnet , World Wide Web
เป็นต้น เครื่องข่ายคอมพิวเตอร์จะสามารถให้ผู้เรียนได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่มีจํานวนมากมายที่
เชื่อมโยงในเครือข่ายทั่วโลก
.การใช้งานในห้องสมุด (Electronic Library) เป็นการประยุกต์ใช้ในการสืบค้นข้อมูลหนังสือ
วารสาร หรือบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ ผลงานการวิจัย
การใช้งานในห้องปฏิบัติการ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการจําลองสถานการณ์ (Simulation)
การใช้ในงานประจําและงานบริหาร (Computer Manage Instruction) เป็นการประยุกต์ใช้ในสํานักงาน
เพื่อช่วยในการบริหาร จัดการ ทําให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็วและแม่นยํา การตัดสินใจในการดําเนินการ
ต่างๆ ย่อมเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
14. 14
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
เทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ
ด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม
ด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เมื่อพิจารณาเครือข่ายการสื่อสารทั่วไปจากอดีต
จนถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่ามนุษย์ใช้อุปกรณ์การสื่อสารแบบพกพามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากวิทยุเรียกตัว
(pager) ซึ่งเป็นเครื่องรับข้อความ มาเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้ได้ถูกพัฒนาจนสามารถใช้
งานด้านอื่นๆได้ นอกจากการพูดคุยธรรมดา โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่สามารถใช้ถ่ายรูป ฟังเพลง ฟังวิทยุ ดู
โทรทัศน์ บันทึกงานสั้นๆ โทรศัพท์บางรุ่นมีลักษณะเป็นเครื่องช่วยงานส่วนบุคคล (Personal Digital
Assistant : PDA) ซึ่งสามารถเชื่อต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ อีกทั้งยังมีหน้าจอแบบสัมผัส ทําให้สะดวกต่อการใช้
งานมากขึ้น บางรุ่นมีอุปกรณ์สไตลัส (stylus) คือใช้ปากกาป้อนข้อมูลทางหน้าจอ บางรุ่นสามารถสั่งการด้วย
เสียง ตัวอย่างอุปกรณ์สื่อสารและสารสนเทศแบบพกพา
15. 15
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
เทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ
ด้านสาธาณสุข
ด้านสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนํามาใช้เริ่มต้งแต่การทําทะเบียนคนไข้ การ
รักษาพยาบาลทั่วไป ตลอดจนการวินิจฉัยและรักษาโรคต่างๆ ได้อย่ารวดเร็วและแม่นยํา นอกจากนี้ยังใช้ใน
ห้องทดลอง การศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์ รักษาคนไข้ด้วยระบบการรักษาทางไกลตลอดเวลาผ่าน
เครือข่ายการสื่อสาร เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ ( EMI scanner ) ถูก
นํามาใช้ถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติในสมอง เช่น ดูเนื้องอกพยาธิเลือดออกในสมอง และ
ต่อมาได้พัฒนาให้ถ่ายภาพหน้าตัดได้ทั่วร่างกาย เรียกชื่อว่า ซีเอที ( CAT-Computerized Axial
Tomography scanner: CAT scanner ) ใช้วิธีฉายแสงเป็นจังหวะไปรอบๆ ร่างกายของมนุษย์ ถ่าย
เอ็กซเรย์และเครื่องรับแสงเอกซเรย์ที่อยู่ตรงข้ามจะเปลี่ยนแสงเอ็กซเรย์ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้ าเก็บไว้ในจาน
แม่เหล็ก จากนั้นจะนําสัญญาณไฟฟ้ าเหล่านี้เข้าไปวิเคราะห์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และแสดงผลลัพธ์เป็น
ภาพทางจอโทรทัศน์หรือพิมพ์ภาพออกมาทางเครื่องพิมพ์ ตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
16. 16
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
เทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ
ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
ด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีประโยชน์ในด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เช่น ระบบป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม หรือภาพถ่ายทางอากาศร่วมกับการจดเก็บ
รักษาข้อมูลระดับนํ้าทะเล ความสูงของคลื่นจากระบบเรดาร์ เป็นการศึกษาเพื่อหาสาเหตุ และนําข้อมูลมา
วางแผนและสร้างระบบเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแต่ละแห่งได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบผสม (hybrid engine) เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมก็ต้องใช้เทคโนโลยี
เพื่อควบคุมให้เครื่องยนต์ลดการเผาไหม้นํ้ามันเชื้อเพลิง เป็นการช่วยลดมลภาวะจากก๊าซ-ไนโตรเจนออกไซด์
ไฮโดรคาร์บอน และก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ที่ทําให้เกิดภาวะโลกร้อน ตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารช่วยรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
17. 17
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย
เมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2545 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ ระยะ
พ.ศ.2544 – 2553 ของประเทศไทยได้เสนอเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และความเชื่อมโยงระหว่าง
ยุทธศาสตร์กับการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้เพื่อใช้และสร้างภูมิ
ปัญญาของคนไทยที่จะทําให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งและความสามารถเพื่อใช้และสร้างภูมิปัญญา
ของคนไทยที่จะทําให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งและความสามารถที่จะรับการท้าทายของการแข่งขัน
ในระบบเศรษฐกิจใหม่ของสังคมโลกาภิวัฒน์ได้อย่างเต็มที่
กรอบนโยบายมี 3 เรื่อง คือ
1. ความท้าทายในยุคโลกาภิวัฒน์
2. สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้
3. ประเทศไทยในทศวรรษแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 21
นโยบายฯ นี้มีสาระโดยรวมว่า เทคโนโลยีใหม่ที่รวมคอมพิวเตอร์ สารสนเทศ และการสื่อสาร
)โทรคมนาคม(เรียกว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) Information and Communications
Technology หรือ ICT) ได้ก่อให้เกิดกิจรรมใหม่ๆ ในทางเศรษฐกิจและสังคมอันส่งผลต่อการดํารงอยู่
และการพัฒนาของประเทศต่างๆ ในโลกที่แตกต่างจากอดีตอย่างมาก จนเป็นที่ยอมรับกันว่าใน
ศตวรรษที่ 21 (เริ่มจาก ค .ศ. 2001 หรือ พ .ศ. 2544 เป็นต้นไป (จะเกิดเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า
เศรษฐกิจแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้) Knowledge – based Learning Economy) และจะมีผล
ทําให้ประเทศไทยซึ่งมีทรัพยากรบุคคล อันมีความรู้เป็นพื้นฐานสามารถจะพัฒนาลํ้าหน้าประเทศอื่นๆ
ที่ด้อยในส่วนนี้อย่างมาก
18. 18
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย
กรอบนโยบายนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะทําให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายสําคัญ 3 ประการ คือ
1. เพิ่มขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือพัฒนาประเทศ โดยมีเป้าหมายในการ
เลื่อนสถานภาพของประเทศไทยจากประเทศ ในกลุ่มผู้ตามมีพลวัต (dynamic adopters) อันดับต้นๆ
ไปสู่ประเทศ ในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพเป็นผู้นํา (potential leaders) อันดับต้นๆ โดยใช้ดัชนี
ผลสัมฤทธิ์ทางเทคโนโลยีของสํานักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เป็นเครื่องมือประเมิน
วัด
2. เพิ่มจํานวนแรงงานความรู้ของประเทศจากประมาณร้อยละ 12 ของแรงงานทั้งหมดให้เป็นร้อย
ละ 30 ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยของแรงงานความรู้ของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD) ใน พ.ศ. 2544 ตามสถิติ
ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
3. พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเพิ่มสัดส่วนของมูลค่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการใช้ความรู้
เป็นพื้นฐานให้มีมูลค่าถึงร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP)
จากวิสัยทัศน์และนโยบายดังกล่าว นําไปสู่การกําหนดกลยุทธ์การพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่
สําคัญไว้ 5 กลุ่ม คือ
1. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านภาครัฐ (e – Government)
2. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านพาณิชย์ (e – Commerce)
3. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม (e – Industry)
4. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านการศึกษา (e – Education)
5. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านสังคม (e – Society)
19. 19
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย
เป้าหมายและยุทธศาสตร์การพัฒนาใน นโยบาย IT 2010
ด้านภาครัฐ )e – Govemment) มีเป้าหมายในการนํา ICT มาพัฒนาและปรับปรุง
ระบบงานบริหารที่สําคัญทุกประเภทของส่วนงานของรัฐ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใน พ .ศ. 2547
และพัฒนาบริการที่ให้แก่สาธารณชนให้ได้ครบทุกขั้นตอนใน พ .ศง 2553
ด้านพาณิชย์ )e – Cbommerce) มีเป้าหมายมุ่งสร้างประโยชน์โดยรวมในกิจการพาณิชย์
ของประเทศ ทั้งในความสามารถในการแข่งขันของคนไทย และการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สําหรับ
ธุรกิจส่งออก การค้าและบริการ
ด้านอุตสาหกรรม )e – Industry) มีเป้าหมายในการส่งเสริมและพัฒนาการใช้และการ
ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศของภาคเอกชน เพื่อให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้ความรู้เป็น
ทรัพยากรสําคัญ ใน พ .ศ. 2553
ด้านสังคม )e – Society) มีเป้าหมายที่จะลดความเหลื่อมลํ้าของสังคม อันเป็นผล
เนื่องมาจากความเหลื่อมลํ้าในการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้ ซึ่งหมายถึงการพัฒนาให้คุณภาพชีวิต
ของประชาชนทั่วไปดีขึ้น
ด้านการศึกษา (e – Education) มีเป้าหมายในการสร้างความพร้อมของทรัพยากรมนุษย์
ทั้งหมดของประเทศ เพื่อช่วยกันพัฒนาให้เกิดสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ