Mais conteúdo relacionado
Mais de Prachaya Sriswang (20)
คอตีบ+1
- 7. สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้ 38.5-39.0 องศาเซลเซียส หายใจหอบ
คอบุ๋ม ชีพจรเต้นเร็ว
คอ พบแผ่นฝ้ าสีขาวปนเทา
ต่อมน้าเหลืองที่คอมักจะโต
บางคนอาจมีอาการคอบวมมาก คล้ายๆ คอวัว
เรียกว่า “อาการคอวัว”
21-Jul-14 7
- 12. การป้ องกันตนเอง
การมีสุขนิสัยที่ดีในการป้ องกันโรค คือ กิน
ร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือ
สถานที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค
สวมหน้ากากอนามัย
21-Jul-14 12
- 15. การฉีดวัคซีนสามารถป้ องกันการเกิดโรคและลดอัตราการเสียชีวิตได้
อย่างชัดเจน
วัคซีนป้ องกันโรคบาดทะยัก คอตีบ สามารถป้ องกันการเกิดโรคและการเสียชีวิตได้ 100%
วัคซีนหัด คางทูม สามารถป้ องกันการเกิดโรคได้ 99.99% ลดการเสียชีวิตได้ 100%
วัคซีนโปลิโอสามารถป้ องกันการเกิดโรคและการเสียชีวิตได้ 100% โดยวัคซีนเหล่านี้จะ
ฉีดให้กับเด็กและหญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่ได้มีการฉีดซ้าในกลุ่มผู้ใหญ่
ดังนั้นจาเป็นต้องได้รับวัคซีนซ้าในผู้ใหญ่ด้วย
คอตีบระบาดผู้ใหญ่ แนะฉีดวัคซีนซ้า
ศ.นพ.สมิง เก่าเจริญ ประธานอนุกรรมการแนวทางเวชปฏิบัติและ
การจัดการความรู้ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
21-Jul-14 15
- 19. 3.กลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ
มากกว่า 65 ปีขึ้นไป
ควรฉีดซ้าวัคซีนบาดทะยักและคอตีบ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้ องกัน
นิวโมค็อกคัส หรือวัคซีนป้ องกันการติด
รุนแรงในผู้ป่วยโรคปอดบวม
สาหรับคาแนะนาการให้วัคซีนสาหรับผู้ใหญ่และ
ผู้สูงอายุ
21-Jul-14 19
- 23. โรคคอตีบ โรคที่หายไปจากประเทศไทยนานกว่า
17 ปี กลับมาระบาดอีกครั้ง ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่
ผ่านมา
พื้นที่การระบาดเริ่มจากจังหวัดภาคอีสาน โดย
เฉพาะที่จังหวัดเลย พบผู้ป่วยมากกว่า 50 ราย จาก
87 ราย ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน
โรคคอตีบระบาดหนักภาคอีสาน
21-Jul-14 23
- 24. โรคคอตีบระบาดหนักภาคอีสาน
วันที่ 20 ต.ค. 55 จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ แพทย์
เผย พบผู้ป่วยคอตีบแล้ว 13 ราย ในหนองบัวลาภู
ผลจากการเฝ้ าระวังการระบาดของเจ้าหน้าที่ แนะ
ประชาชนหากพบผู้ป่วย เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ ไม่มีน้ามูก
แนะให้ตรวจโรคคอตีบ โดยเฉพาะในรายที่มีแผ่นฝ้ าขาว
ในลาคอ และให้พบแพทย์หากรักษาไม่ทันโอกาสเสียชีวิต
มากขึ้น
21-Jul-14 24
- 25. โรคคอตีบระบาดหนักภาคอีสาน
'โรคคอตีบ' ระบาดหนักในภาคอีสาน เผย 3 เดือนยอด
ผู้ป่วยพุ่ง 87 ราย แนะสาธารณะสุขอาเภอจับตา
แรงงานย้ายถิ่น ตั้งเป้ าปี56 กวาดล้างหมด
11 ต.ค.55 นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
สถานการณ์การระบาดของโรคคอตีบในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคอีสาน เพิ่มสูงขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง ปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มเป็น 87 รายแล้ว จังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่
จ.เลย มีผู้ป่วยมากถึง 50 ราย รองลงมาได้แก่ เพชรบูรณ์ 10 ราย หนองบัวลาภู
8 ราย และจังหวัดอื่นๆอีกจังหวัดละ 2-3 ราย
21-Jul-14 25
- 26. โรคคอตีบระบาดหนักภาคใต้
วันที่ 28 พ.ย. 55 พบผู้ป่วยสงสัยว่าน่าจะป่วยเป็นโรค
คอตีบ 3 ราย ซึ่งทั้ง 3 รายเป็นพี่น้องกัน อาศัยในครอบครัว
เดียวกัน 9 คน คนแรกเป็นเพศหญิงอายุ 1 ปี 1 เดือน (เสียชีวิต
ต่อมา 24 พ.ย.55) คนที่ 2 เพศหญิงอายุ 2 ปีเศษ และคนที่ 3 อายุ
9 ปี ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขนอม โรงพยาบาลสิชล และ
ส่งต่อโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มีการควบคุมเฝ้ าระวัง
โรคในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคคอตีบอย่าง
ใกล้ชิดและดาเนินการป้ องกันไม่ให้เกิดการระบาด
21-Jul-14 26
Notas do Editor
- สำคัญ…เชื้อคอตีบสามารถปล่อยสารพิษ ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และประสาทอักเสบได้
โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ มักเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 ของการเจ็บป่วย ทำให้มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ถ้ารุนแรงอาจเกิดภาวะหัวใจวาย และอาจถึงตายอย่างเฉียบพลัน
ประสาทอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นอัมพาต
นอกจากนี้ ยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ปอดอักเสบ ไตทำงานผิดปกติ
- สำคัญ…เชื้อคอตีบสามารถปล่อยสารพิษ ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และประสาทอักเสบได้
โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ มักเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 ของการเจ็บป่วย ทำให้มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ถ้ารุนแรงอาจเกิดภาวะหัวใจวาย และอาจถึงตายอย่างเฉียบพลัน
ประสาทอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นอัมพาต
นอกจากนี้ ยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ปอดอักเสบ ไตทำงานผิดปกติ
- วันที่ 28 พ.ย. 55 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีฯ กล่าวว่า จากการติดตามเฝ้าระวังโรคคอตีบของ จ.นครศรีฯ พบผู้ป่วยสงสัยว่าน่าจะป่วยเป็นโรคคอตีบ ถึง 3 ราย ซึ่งทั้ง 3 รายเป็นพี่น้องกัน อาศัยในครอบครัวเดียวกัน 9 คน คนแรกเป็นเพศหญิงอายุ 1 ปี 1 เดือน (เสียชีวิตต่อมา 24 พ.ย.55) คนที่ 2 เพศหญิงอายุ 2 ปีเศษ และคนที่ 3 อายุ 9 ปี ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขนอม โรงพยาบาลสิชล และส่งต่อโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จึงได้สั่งการให้ผู้รับผิดชอบควบคุมเฝ้าระวังโรคในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคคอตีบอย่างใกล้ชิดและดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด
พร้อมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันโรคคอตีบให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างทั่วถึง แพทย์หญิงอุทุมพร ยังได้ฝากเตือนไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครองว่า การให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ นับว่าเป็นวิธีที่ดีสุด ปัจจุบันกะทรวงสาธารณสุขได้กำหนดการให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคคอตีบ 5 ครั้ง โดยให้รูปของวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ –ไอกรน-บาดทะยัก และตับอักเสบบี 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2,4,6 เดือน และให้ในรูปของวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ-ไอกรน-บาดทะยัก อีก 2 ครั้งเมื่ออายุ 1 ปีครึ่งและ 4 ปี และให้วัคซีนเสริมคอตีบ-บาดทะยัก แก่เด็กนักเรียน ป.1 และป.6 หากได้รับครบตามเกณฑ์ที่กล่าวมา จะสามารถป้องกันโรคคอตีบได้เต็มที่ประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกจนเกินไป แต่ควรช่วยกัน ป้องกันและดูแลคนในครอบครัว หากพบคนในครอบครัวมีอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย เจ็บคอหายใจลำบาก เหนื่อยหอบให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจ วินิจฉัยและรักษาต่อไป
- ระยะฟักตัวของโรคอยู่ระหว่าง 2-5 วัน อาจจะนานกว่านี้ได้ เชื้อจะอยู่ในลำคอของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่บางครั้งอาจนานถึงหลายเดือนได้ ผู้ที่ได้รับการรักษาเต็มที่เชื้อจะหมดไป ภายใน 1 สัปดาห์
- สรุปสถานการณ์ผู้ป่วยโรคคอตีบเขตตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ 10 และ 12ณ 20 พฤศจิกายน 2555...ผู้ป่วยยืนยัน (Confirmed case) 31 รายผู้ป่วยน่าจะเป็น (Probable case ) 2 รายผู้ป่วยสงสัย (Suspected case) 10 รายพาหะ (Carrier) 73 รายที่นำเสนอสถานการณ์ ข้อมูลผู้ป่วยโรคคอตีบ นี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ให้ บุคคล ที่ ไม่ทราบสถานการณ์ที่แท้จริง ได้ รับทราบ รวมไปถึง เพื่อ เตือนภัย ให้ทุกท่านได้รู้ถึง "พื้นที่เสี่ยง" ว่าพบผู้ป่วยที่ อำเภอ และ จังหวัด ใดบ้าง ซึ่งเป็นข้อมูลทางระบาดวิทยาที่สำคัญในการสอบสวนโรค ในการสอบถามว่า ผุ้ป่วยสงสัยได้ไปพื้นที่เสี่ยง หรือ ไม่ หาก ไม่ได้ไป มี บุคคล ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงมาเยี่ยม มาหา หรือไม่ ส่วนในภาพรวมประเทศ ผมจะพยายามศึกษา และ รวบรวมข้อมูลครับ...นำเสนอให้ท่านได้ ทราบ เพื่อช่วยกันเฝ้าระวังต่อไป
- ระยะฟักตัวของโรคอยู่ระหว่าง 2-5 วัน อาจจะนานกว่านี้ได้ เชื้อจะอยู่ในลำคอของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่บางครั้งอาจนานถึงหลายเดือนได้ ผู้ที่ได้รับการรักษาเต็มที่เชื้อจะหมดไป ภายใน 1 สัปดาห์
- จากอาการและอาการแสดง หลังระยะฟักตัวจะเริ่มมีอาการไข้ต่ำๆ มีอาการคล้ายหวัดในระยะแรก มีอาการไอเสียงก้อง เจ็บคอ เบื่ออาหาร ในเด็กโตอาจจะบ่นเจ็บคอคล้ายกับคออักเสบ บางรายอาจจะพบต่อมน้ำเหลืองที่คอโตด้วย เมื่อตรวจดูในคอพบแผ่นเยื่อสีขาวปนเทาติดแน่นอยู่บริเวณทอนซิล และบริเวณลิ้นไก่ แผ่นเยื่อนี้เกิดจากพิษที่ออกมาทำให้มีการทำลายเนื้อเยื่อ และทำให้มีการตายของเนื้อเยื่อทับซ้อนกันเกิดเป็นแผ่นเยื่อ (membrane) ติดแน่นกับเยื่อบุในลำคอ