SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 32
Baixar para ler offline
โปรแกรมการศึกษาพิเศษ
       คณะครุศาสตร์
หมายถึง
การจัดการศึกษาที่จดขึ้นให้กบเด็กที่
                  ั        ั
      มีความต้องการพิเศษ
หมายถึง
      การศึ ก ษาที่ เ ด็ ก ที่ มี ค วามต้อ งการ
พิ เศษได้เ รีย นรวมกับ เด็ กปกติ ตง แต่ แรก
                                       ั้
เข้า เพื่อให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เรียน
ใกล้บานในชุมชนของตนเองเช่นเดียวกันกับเด็ก
      ้
ทัวไป
  ่
เพื่อสนับสนุนให้เด็กที่มความต้องการ
                             ี
พิเศษเรียนอยูในโรงเรียนปกติและอยูใน
              ่                     ่
สภาพ แวดล้อมที่มเี พื่อน ๆ รุ่นราวคราว
เดียวกัน  ความยุตธรรมทางสังคม
                       ิ
• ประกอบไปด้วย     เปาหมาย / จ ุดประสงค์ /
                    ้
  เนื้อหา / วิธีสอนและการประเมินผล
• สาหรับเด็กที่มความต้องการพิเศษที่ไม่สามารถ
                 ี
  เรียนตามหลักสูตรได้เราจะต้องปรับเปลี่ยนการ
  สอนและสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับ
  ความต้องการพิเศษของเด็ก
หมายถึง
      สิ่งที่หลักสูตรกาหนดไว้เพื่อให้ผเู้ รียนเกิด
การเรียนรู้ / องค์ความรูที่กาหนดไว้เพื่อให้
                            ้
ผูเ้ รียนบรรลุ
หมายถึง
สิ่งที่กาหนดทิศทางให้ผเู้ รียนไปสู่
 เปาหมายที่กาหนดในหลักสูตร
    ้
จะเป็ นตัวกาหนดพฤติกรรมที่เด็กแสดงออก
ลักษณะจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ดี
   มีการกาหนดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่เด็ก
   แสดงออกอย่างแน่นอน
   มีการกาหนดเวลาชัดเจน
   มีความคาดหวังผลที่ออกมาและมีเกณฑ์
   ความสาเร็จ อย่างชัดเจน
หมายถึง
องค์ความรูที่หลักสูตรกาหนดไว้
          ้
         ประกอบด้วย
  เนือหาแกนและเนือหาเสริม
     ้           ้
หมายถึง
    กลวิธที่ผสอนกาหนดขึนเพื่อให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้
         ี ู้              ้
การสอนเด็กที่มความต้องการพิเศษจะใช้วิธีการสอน
               ี
เหมือนกับการสอนเด็กปกติ หากแต่ในการจัดการศึกษา
พิเศษจะมีวิธีการสอนที่เป็ นการสอนเฉพาะอีก 3 วิธี คือ
     การสอนโดยร่วมมือกัน
     การสอนเด็กที่มความสามารถต่างระดับกัน
                   ี
     การสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน
แบ่งออกเป็ น 3 ระดับ ได้แก่
1. หลักสูตรการศึกษาระดับก่อนการศึกษาขันพื้นฐาน
                                      ้

2. หลักสูตรระดับประถมศึกษา

3. หลักสูตรระดับมัธยมศึกษา
เป็ นไปตามขันตอนการจัดหลักสูตร
                 ้
สถานศึกษาที่กาหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาขัน
                                        ้
พื้นฐานพ.ศ. 2544 และต้องจัดให้สอดคล้อง
เหมาะสมกับความต้องการพิเศษและระดับ
ความสามารถของเด็กที่มความต้องการพิเศษ
                      ี
แต่ละคน
การจัดหลักสูตรให้กบเด็กที่มความ
                   ั       ี
ต้องการพิเศษต้องรู้ ความต้องการ
พิเศษของเด็ก

ส่วนเนือหาที่จะนามาใช้สอนจะต้องรู้
       ้
ความสามารถพื้นฐานของเด็ก
การปรับเปาหมาย
                  ้
•เป็ นการปรับเปลี่ยนหลักการ ความคาด
 หวังที่ผสอนได้กาหนดเป็ นองค์ความรูไ้ ว้ใน
         ู้
 หลักสูตรสาหรับเด็กที่มความต้องการ
                        ี
 พิเศษแต่ละคน
เป็ นการกาหนดพฤติกรรมที่พึงประสงค์
เงือนไขและเกณฑ์ความสาเร็จให้เหมาะสมกับความ
    ่
ต้องการพิเศษของเด็กแต่ละคน อาจจะมีการปรับ
บางจุดประสงค์ออกแล้วกาหนดจุดประสงค์ใหม่
ขึนมาแทนหรืออาจปรับเปลี่ยนเงือนไขความสาเร็จ
  ้                          ่
ให้งายขึน
      ่ ้
ครูจะต้องรูพื้นฐานและลักษณะเฉพาะของเด็กที่มี
               ้
ความต้องการพิเศษแต่ละคนก่อน ได้แก่
      ข้อมูลประสบการณ์เดิมของเด็ก
      ความรูและทักษะที่มอยู่ในขณะนัน
            ้           ี          ้
      ความสนใจพิเศษของเด็ก
      เจตคติและความรูสกในเชิงบวกหรือเชิงลบ
                     ้ึ
ระดับก่อนการศึกษาขันพื้นฐาน
                       ้
     ยึดหลักสูตรของเด็กปกติเป็ นหลัก เนื้อหาจะ
เกี่ยวกับการพัฒนาด้านร่างกาย กล้ามเนื้อมัด
ใหญ่/มัดเล็ ก การสื่อความหมาย / ทักษะการ
ช่ ว ยเหลื อ ตนเอง / ทั ก ษะทางสั ง คมและการ
แสดงออก
หลักสูตรจะเน้นวิชาการมากกว่าระดับ
            ก่อนการศึกษาขันพื้นฐาน
                          ้
         สาระการเรียนรูภาษาไทย
                       ้
• พื้นฐานความรูเ้ กียวกับพยัญชนะและคาต่างๆ
                    ่
  ที่เด็กพบเห็นตามสถานที่ตางๆ รวมทัง การ
                             ่           ้
  ฟั ง พูด อ่านและเขียน เพื่อช่วยให้เด็กสามารถ
  สื่อความหมายในชีวิตประจาวันได้
สาระการเรียนรคณิตศาสตร์
                   ู้
• การเรียนรูทกษะพื้นฐาน ในการนับ การ
              ้ ั
  เปรียบเทียบ การจาแนก การบวก การลบ
  การนับเงิน การใช้เงินประเภทต่างๆ เพื่อให้
  เด็กสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันและนาไปสู่
  การเรียนรูใ้ นทักษะอื่นๆได้ตามความจาเป็ น
สาระการเรียนรสงคมศึกษา
                   ู้ ั
• เรื่องทัวๆไปที่เกียวข้องกับการใช้ชวิตอยูใน
          ่         ่               ี    ่
  สังคม เช่น สมาชิกครอบครัว / การเดินทางใน
  ชุมชน / ปฏิบตตามกฎระเบียบต่างๆของ
               ั ิ
  สังคม
สาระการเรียนรพลศึกษา
                   ู้
• เป็ นการออกกาลังกายเพื่อช่วยให้เด็กมี
  พัฒนาการของร่างกาย จิตใจและอารมณ์ที่ดี
  ขึน ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรูการอยูร่วมกับ
    ้                          ้     ่
  ผูอื่น รวมทังการปฏิบตตามกฎเกณฑ์กติกา
      ้       ้         ั ิ
  ต่างๆ
สาระการเรียนรศิลปะ
                     ู้
• เป็ นการช่วยให้เด็กเกิดการพัฒนาความคิด
  และจินตนาการได้กว้างไกล เช่น กิจกรรม
  การลากเส้น การปั้ น การระบายสี เป็ นต้น
สาระการเรียนรงานบ้าน
                   ู้
• เกียวกับการดูแลบ้านและการใช้อปกรณ์
     ่                            ุ
  ต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อฝึ กฝนให้เด็กมีความ
  รับผิดชอบจนเกิดทักษะการปฏิบตงานอย่าง
                                 ั ิ
  เหมาะสมเพื่อเตรียมอาชีพต่อไป
เน้นการจัดการเรียนรูแบบโครงงานหรือฝก
                             ้                ึ
วิชาชีพให้มากขึ้น โดยมุงเน้นตามความสามารถ
                           ่
ความถนัดและความต้องการพิเศษของผูเ้ รียนแต่ละ
คน ทังในด้านอาชีพและการศึกษาเฉพาะทางและความ
      ้
ต้องการของท้องถิ่นที่ผเู้ รียนอาศัยอยู่ตลอดจน
การศึกษาต่อของผูเ้ รียน
จะใช้เทคนิควิธีการสอนทัวไปในสาระการ
                             ่
เรียนรูที่ไม่ตองใช้ทกษะทางสติปัญญามากและอาจ
       ้      ้     ั
ใช้เทคนิควิธีเฉพาะสาหรับเด็กที่มความต้องการ
                                ี
พิเศษที่มีขอจากัดมาก ซึ่งก่อนจะนาหลักสูตรมา
            ้
สอนควรทาการวิเคราะห์ และพิจารณาถึงความ
เหมาะสมก่อน
ควรใช้สื่ อ การสอนที่เ ป็ นของจริ ง และมี
ความเป็ นรูปธรรมมากกว่านามธรรม เพื่อเป็ น
ตั ว น าความรู้ จ ากครู ส่ ู นั ก เรี ย นได้ อ ย่ า ง
เหมาะสม
ทาได้ในทุกขันตอนของการเรียน
            ้
การสอน
เพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนของ
ครูมากกว่าเพื่อการตัดสินผลการ
เรียนรูของผูเ้ รียน
       ้
(Individualized Education Program : IEP)
• เป็ นการปรับหลักสูตรสาหรับเด็กที่มีความ
  ต้องการพิเศษ เพื่อกาหนดแนวทางการจัด
  การศึ กษาที่ส อดคล้อ งกับความต้อ งการ
  จาเป็ นพิเศษ
(PL94–142)
กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา

กาหนดให้มแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ
          ี
บุคคล(IEP) ให้กบเด็กที่มความต้องการพิเศษ
               ั        ี
หมายถึง
     การหาความสามารถของเด็กแต่ละคน
ที่สามารถทากิจกรรมต่างๆได้ดวยตนเอง
                           ้
เพื่อการวางแผนการศึกษา หรือปรับ
หลักสูตรให้เหมาะสม
 หลักสูตรที่ใช้ในการจัดการศึกษาสาหรับเด็กที่มีความ
  ต้อ งการพิ เ ศษในชั้ น เรี ย นรวม จ าเป็ นต้อ งอาศั ย
  หลักสูตรการศึกษาทัวไป แต่ตองมีการปรับหลักสูตร
                         ่       ้
  ให้ส อดคล้อ งกั บ ความต้อ งการพิ เ ศษ หรื อ ระดั บ
  ความสามารถของเด็กที่มีความต้องการพิเศษแต่ละ
  คน เพื่ อ ให้เ ด็ ก ประสบความส าเร็ จ ในการเรี ย น
  สามารถนาความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวันได้
 การปรับหลักสูตรจะปรับตามโครงสร้างของหลักสูตร
  ได้แ ก่ การปรับ เปาหมาย การปรับ จุด ประสงค์ของ
                    ้
  การเรียน การปรับสาระการเรียนรู้ การปรับวิธีการ
  สอน และการปรับการประเมินผล
 การปรั บ หลั ก สูต รให้ส อดคล้อ งกั บ ความต้อ งการ
  หรื อ ระดับความสามารถของเด็ กที่มีความต้อ งการ
  พิเศษแต่ละคน ซึ่งเรียกว่าแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ
  บุคคล (IEP)

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553
แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553
แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553Kobwit Piriyawat
 
นำเสนอ23สิงหาคม
นำเสนอ23สิงหาคมนำเสนอ23สิงหาคม
นำเสนอ23สิงหาคมAtima Teraksee
 
การจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนananphar
 
หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑rampasri
 
วิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตรวิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตรnakkee
 
Developing
DevelopingDeveloping
DevelopingKru Oon
 
ประวัติมนตรี
ประวัติมนตรีประวัติมนตรี
ประวัติมนตรีMontree Jareeyanuwat
 
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3ทศพล พรหมภักดี
 
การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...
การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...
การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...Kobwit Piriyawat
 

Mais procurados (11)

Id plan
Id planId plan
Id plan
 
แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553
แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553
แผนการพัฒนาตนเอง นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์ ปีการศึกษา 2553
 
นำเสนอ23สิงหาคม
นำเสนอ23สิงหาคมนำเสนอ23สิงหาคม
นำเสนอ23สิงหาคม
 
การจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอน
 
หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑
 
วิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตรวิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตร
 
Developing
DevelopingDeveloping
Developing
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
ประวัติมนตรี
ประวัติมนตรีประวัติมนตรี
ประวัติมนตรี
 
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3
 
การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...
การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...
การขับเคลื่อนโรงเรียนนนทรีวิทยา สู่ระบบโรงเรียนมาตรฐานสากล โดย ครูกอบวิทย์ พิ...
 

Semelhante a เรียนรวมบทที่ 3 [1 54]

บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7benty2443
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7nattawad147
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524gam030
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7wanneemayss
 
9789740336006
97897403360069789740336006
9789740336006CUPress
 
สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบ
สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบ
สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบtunyapisit
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยChaya Kunnock
 
ภารกิจ ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจ ระดับครูผู้ช่วยภารกิจ ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจ ระดับครูผู้ช่วยAekapong Hemathulin
 
ความรู้ด้านเทคนิควิธีสอน
ความรู้ด้านเทคนิควิธีสอนความรู้ด้านเทคนิควิธีสอน
ความรู้ด้านเทคนิควิธีสอนMonthon Sorakraikitikul
 
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียน
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียนร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียน
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียนNattayaporn Dokbua
 
คู่มือกรรมการโรงเรียน 55
คู่มือกรรมการโรงเรียน 55คู่มือกรรมการโรงเรียน 55
คู่มือกรรมการโรงเรียน 55Montree Jareeyanuwat
 
ภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วยภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วยBlade HurthurtHurt
 

Semelhante a เรียนรวมบทที่ 3 [1 54] (20)

7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
9789740336006
97897403360069789740336006
9789740336006
 
อาชีพครู
อาชีพครูอาชีพครู
อาชีพครู
 
สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบ
สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบ
สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ พรบ
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
 
ภารกิจ ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจ ระดับครูผู้ช่วยภารกิจ ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจ ระดับครูผู้ช่วย
 
ความรู้ด้านเทคนิควิธีสอน
ความรู้ด้านเทคนิควิธีสอนความรู้ด้านเทคนิควิธีสอน
ความรู้ด้านเทคนิควิธีสอน
 
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียน
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียนร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียน
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา เนื้อหาโรงเรียน
 
คู่มือกรรมการโรงเรียน 55
คู่มือกรรมการโรงเรียน 55คู่มือกรรมการโรงเรียน 55
คู่มือกรรมการโรงเรียน 55
 
ภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วยภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วย
 

เรียนรวมบทที่ 3 [1 54]

  • 3. หมายถึง การศึ ก ษาที่ เ ด็ ก ที่ มี ค วามต้อ งการ พิ เศษได้เ รีย นรวมกับ เด็ กปกติ ตง แต่ แรก ั้ เข้า เพื่อให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เรียน ใกล้บานในชุมชนของตนเองเช่นเดียวกันกับเด็ก ้ ทัวไป ่
  • 4. เพื่อสนับสนุนให้เด็กที่มความต้องการ ี พิเศษเรียนอยูในโรงเรียนปกติและอยูใน ่ ่ สภาพ แวดล้อมที่มเี พื่อน ๆ รุ่นราวคราว เดียวกัน  ความยุตธรรมทางสังคม ิ
  • 5. • ประกอบไปด้วย เปาหมาย / จ ุดประสงค์ / ้ เนื้อหา / วิธีสอนและการประเมินผล • สาหรับเด็กที่มความต้องการพิเศษที่ไม่สามารถ ี เรียนตามหลักสูตรได้เราจะต้องปรับเปลี่ยนการ สอนและสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับ ความต้องการพิเศษของเด็ก
  • 6. หมายถึง สิ่งที่หลักสูตรกาหนดไว้เพื่อให้ผเู้ รียนเกิด การเรียนรู้ / องค์ความรูที่กาหนดไว้เพื่อให้ ้ ผูเ้ รียนบรรลุ
  • 8. จะเป็ นตัวกาหนดพฤติกรรมที่เด็กแสดงออก ลักษณะจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ดี มีการกาหนดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่เด็ก แสดงออกอย่างแน่นอน มีการกาหนดเวลาชัดเจน มีความคาดหวังผลที่ออกมาและมีเกณฑ์ ความสาเร็จ อย่างชัดเจน
  • 9. หมายถึง องค์ความรูที่หลักสูตรกาหนดไว้ ้ ประกอบด้วย เนือหาแกนและเนือหาเสริม ้ ้
  • 10. หมายถึง กลวิธที่ผสอนกาหนดขึนเพื่อให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้ ี ู้ ้ การสอนเด็กที่มความต้องการพิเศษจะใช้วิธีการสอน ี เหมือนกับการสอนเด็กปกติ หากแต่ในการจัดการศึกษา พิเศษจะมีวิธีการสอนที่เป็ นการสอนเฉพาะอีก 3 วิธี คือ การสอนโดยร่วมมือกัน การสอนเด็กที่มความสามารถต่างระดับกัน ี การสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน
  • 11. แบ่งออกเป็ น 3 ระดับ ได้แก่ 1. หลักสูตรการศึกษาระดับก่อนการศึกษาขันพื้นฐาน ้ 2. หลักสูตรระดับประถมศึกษา 3. หลักสูตรระดับมัธยมศึกษา
  • 12. เป็ นไปตามขันตอนการจัดหลักสูตร ้ สถานศึกษาที่กาหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาขัน ้ พื้นฐานพ.ศ. 2544 และต้องจัดให้สอดคล้อง เหมาะสมกับความต้องการพิเศษและระดับ ความสามารถของเด็กที่มความต้องการพิเศษ ี แต่ละคน
  • 13. การจัดหลักสูตรให้กบเด็กที่มความ ั ี ต้องการพิเศษต้องรู้ ความต้องการ พิเศษของเด็ก ส่วนเนือหาที่จะนามาใช้สอนจะต้องรู้ ้ ความสามารถพื้นฐานของเด็ก
  • 14. การปรับเปาหมาย ้ •เป็ นการปรับเปลี่ยนหลักการ ความคาด หวังที่ผสอนได้กาหนดเป็ นองค์ความรูไ้ ว้ใน ู้ หลักสูตรสาหรับเด็กที่มความต้องการ ี พิเศษแต่ละคน
  • 15. เป็ นการกาหนดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ เงือนไขและเกณฑ์ความสาเร็จให้เหมาะสมกับความ ่ ต้องการพิเศษของเด็กแต่ละคน อาจจะมีการปรับ บางจุดประสงค์ออกแล้วกาหนดจุดประสงค์ใหม่ ขึนมาแทนหรืออาจปรับเปลี่ยนเงือนไขความสาเร็จ ้ ่ ให้งายขึน ่ ้
  • 16. ครูจะต้องรูพื้นฐานและลักษณะเฉพาะของเด็กที่มี ้ ความต้องการพิเศษแต่ละคนก่อน ได้แก่ ข้อมูลประสบการณ์เดิมของเด็ก ความรูและทักษะที่มอยู่ในขณะนัน ้ ี ้ ความสนใจพิเศษของเด็ก เจตคติและความรูสกในเชิงบวกหรือเชิงลบ ้ึ
  • 17. ระดับก่อนการศึกษาขันพื้นฐาน ้ ยึดหลักสูตรของเด็กปกติเป็ นหลัก เนื้อหาจะ เกี่ยวกับการพัฒนาด้านร่างกาย กล้ามเนื้อมัด ใหญ่/มัดเล็ ก การสื่อความหมาย / ทักษะการ ช่ ว ยเหลื อ ตนเอง / ทั ก ษะทางสั ง คมและการ แสดงออก
  • 18. หลักสูตรจะเน้นวิชาการมากกว่าระดับ ก่อนการศึกษาขันพื้นฐาน ้ สาระการเรียนรูภาษาไทย ้ • พื้นฐานความรูเ้ กียวกับพยัญชนะและคาต่างๆ ่ ที่เด็กพบเห็นตามสถานที่ตางๆ รวมทัง การ ่ ้ ฟั ง พูด อ่านและเขียน เพื่อช่วยให้เด็กสามารถ สื่อความหมายในชีวิตประจาวันได้
  • 19. สาระการเรียนรคณิตศาสตร์ ู้ • การเรียนรูทกษะพื้นฐาน ในการนับ การ ้ ั เปรียบเทียบ การจาแนก การบวก การลบ การนับเงิน การใช้เงินประเภทต่างๆ เพื่อให้ เด็กสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันและนาไปสู่ การเรียนรูใ้ นทักษะอื่นๆได้ตามความจาเป็ น
  • 20. สาระการเรียนรสงคมศึกษา ู้ ั • เรื่องทัวๆไปที่เกียวข้องกับการใช้ชวิตอยูใน ่ ่ ี ่ สังคม เช่น สมาชิกครอบครัว / การเดินทางใน ชุมชน / ปฏิบตตามกฎระเบียบต่างๆของ ั ิ สังคม
  • 21. สาระการเรียนรพลศึกษา ู้ • เป็ นการออกกาลังกายเพื่อช่วยให้เด็กมี พัฒนาการของร่างกาย จิตใจและอารมณ์ที่ดี ขึน ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรูการอยูร่วมกับ ้ ้ ่ ผูอื่น รวมทังการปฏิบตตามกฎเกณฑ์กติกา ้ ้ ั ิ ต่างๆ
  • 22. สาระการเรียนรศิลปะ ู้ • เป็ นการช่วยให้เด็กเกิดการพัฒนาความคิด และจินตนาการได้กว้างไกล เช่น กิจกรรม การลากเส้น การปั้ น การระบายสี เป็ นต้น
  • 23. สาระการเรียนรงานบ้าน ู้ • เกียวกับการดูแลบ้านและการใช้อปกรณ์ ่ ุ ต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อฝึ กฝนให้เด็กมีความ รับผิดชอบจนเกิดทักษะการปฏิบตงานอย่าง ั ิ เหมาะสมเพื่อเตรียมอาชีพต่อไป
  • 24. เน้นการจัดการเรียนรูแบบโครงงานหรือฝก ้ ึ วิชาชีพให้มากขึ้น โดยมุงเน้นตามความสามารถ ่ ความถนัดและความต้องการพิเศษของผูเ้ รียนแต่ละ คน ทังในด้านอาชีพและการศึกษาเฉพาะทางและความ ้ ต้องการของท้องถิ่นที่ผเู้ รียนอาศัยอยู่ตลอดจน การศึกษาต่อของผูเ้ รียน
  • 25. จะใช้เทคนิควิธีการสอนทัวไปในสาระการ ่ เรียนรูที่ไม่ตองใช้ทกษะทางสติปัญญามากและอาจ ้ ้ ั ใช้เทคนิควิธีเฉพาะสาหรับเด็กที่มความต้องการ ี พิเศษที่มีขอจากัดมาก ซึ่งก่อนจะนาหลักสูตรมา ้ สอนควรทาการวิเคราะห์ และพิจารณาถึงความ เหมาะสมก่อน
  • 26. ควรใช้สื่ อ การสอนที่เ ป็ นของจริ ง และมี ความเป็ นรูปธรรมมากกว่านามธรรม เพื่อเป็ น ตั ว น าความรู้ จ ากครู ส่ ู นั ก เรี ย นได้ อ ย่ า ง เหมาะสม
  • 27. ทาได้ในทุกขันตอนของการเรียน ้ การสอน เพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนของ ครูมากกว่าเพื่อการตัดสินผลการ เรียนรูของผูเ้ รียน ้
  • 28. (Individualized Education Program : IEP) • เป็ นการปรับหลักสูตรสาหรับเด็กที่มีความ ต้องการพิเศษ เพื่อกาหนดแนวทางการจัด การศึ กษาที่ส อดคล้อ งกับความต้อ งการ จาเป็ นพิเศษ
  • 30. หมายถึง การหาความสามารถของเด็กแต่ละคน ที่สามารถทากิจกรรมต่างๆได้ดวยตนเอง ้ เพื่อการวางแผนการศึกษา หรือปรับ หลักสูตรให้เหมาะสม
  • 31.  หลักสูตรที่ใช้ในการจัดการศึกษาสาหรับเด็กที่มีความ ต้อ งการพิ เ ศษในชั้ น เรี ย นรวม จ าเป็ นต้อ งอาศั ย หลักสูตรการศึกษาทัวไป แต่ตองมีการปรับหลักสูตร ่ ้ ให้ส อดคล้อ งกั บ ความต้อ งการพิ เ ศษ หรื อ ระดั บ ความสามารถของเด็กที่มีความต้องการพิเศษแต่ละ คน เพื่ อ ให้เ ด็ ก ประสบความส าเร็ จ ในการเรี ย น สามารถนาความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวันได้
  • 32.  การปรับหลักสูตรจะปรับตามโครงสร้างของหลักสูตร ได้แ ก่ การปรับ เปาหมาย การปรับ จุด ประสงค์ของ ้ การเรียน การปรับสาระการเรียนรู้ การปรับวิธีการ สอน และการปรับการประเมินผล  การปรั บ หลั ก สูต รให้ส อดคล้อ งกั บ ความต้อ งการ หรื อ ระดับความสามารถของเด็ กที่มีความต้อ งการ พิเศษแต่ละคน ซึ่งเรียกว่าแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บุคคล (IEP)