Enviar pesquisa
Carregar
งานนำเสนอ1 คอม
•
0 gostou
•
932 visualizações
Passawan' Koohar
Seguir
Denunciar
Compartilhar
Denunciar
Compartilhar
1 de 29
Baixar agora
Baixar para ler offline
Recomendados
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
nuknook
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
nuknook
งานกลุ่มมคอม
งานกลุ่มมคอม
Edz Chatchawan
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
Kru.Mam Charoensansuay
ความหมายของผังงาน
ความหมายของผังงาน
9inglobin
ใบความรู้ที่2 การวิเคราะห์ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
ใบความรู้ที่2 การวิเคราะห์ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
คีตะบลู รักคำภีร์
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
เสย ๆๆๆๆ
Recomendados
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
nuknook
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
nuknook
งานกลุ่มมคอม
งานกลุ่มมคอม
Edz Chatchawan
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
Kru.Mam Charoensansuay
ความหมายของผังงาน
ความหมายของผังงาน
9inglobin
ใบความรู้ที่2 การวิเคราะห์ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
ใบความรู้ที่2 การวิเคราะห์ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
คีตะบลู รักคำภีร์
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
เสย ๆๆๆๆ
ใบความรู้ ที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรม
ใบความรู้ ที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรม
mr.somsak phoolpherm
ส่วนจัดการสื่อประสานผู้ใช้(User interface-management)
ส่วนจัดการสื่อประสานผู้ใช้(User interface-management)
tumetr
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรม
Fon Edu Com-sci
บทที่ 2
บทที่ 2
pianojrtk
บทที่ 2
บทที่ 2
pianojrtk
การรวบรวมความต้องการ
การรวบรวมความต้องการ
skiats
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Onrutai Intanin
Chapter4
Chapter4
ชาติสยาม ชาติสยาม
Lesson3 devenlopment-program
Lesson3 devenlopment-program
วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี
20140605ใบความรู้ การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
20140605ใบความรู้ การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
Warapang Plodplong
หลักการพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม
หลักการพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม
Inam Chatsanova
ความหมายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
พัน พัน
โครงงานคอมพิวเตอร์22
โครงงานคอมพิวเตอร์22
tangmottmm
Lesson5 devenlopment-program
Lesson5 devenlopment-program
วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
peter dontoom
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
mcf_cnx1
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
Todsapol Aryuyune
บทที่ 3 การวิเคราะห์ระบบและการออกแบบระบบ
บทที่ 3 การวิเคราะห์ระบบและการออกแบบระบบ
Sarawut Panchon
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
Todsapol Aryuyune
Photoshop cs
Photoshop cs
สุวิทย์ ดวงดี
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
Mais conteúdo relacionado
Mais procurados
ใบความรู้ ที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรม
ใบความรู้ ที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรม
mr.somsak phoolpherm
ส่วนจัดการสื่อประสานผู้ใช้(User interface-management)
ส่วนจัดการสื่อประสานผู้ใช้(User interface-management)
tumetr
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรม
Fon Edu Com-sci
บทที่ 2
บทที่ 2
pianojrtk
บทที่ 2
บทที่ 2
pianojrtk
การรวบรวมความต้องการ
การรวบรวมความต้องการ
skiats
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Onrutai Intanin
Chapter4
Chapter4
ชาติสยาม ชาติสยาม
Lesson3 devenlopment-program
Lesson3 devenlopment-program
วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี
20140605ใบความรู้ การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
20140605ใบความรู้ การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
Warapang Plodplong
หลักการพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม
หลักการพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม
Inam Chatsanova
ความหมายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
พัน พัน
โครงงานคอมพิวเตอร์22
โครงงานคอมพิวเตอร์22
tangmottmm
Lesson5 devenlopment-program
Lesson5 devenlopment-program
วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
peter dontoom
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
mcf_cnx1
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
Todsapol Aryuyune
บทที่ 3 การวิเคราะห์ระบบและการออกแบบระบบ
บทที่ 3 การวิเคราะห์ระบบและการออกแบบระบบ
Sarawut Panchon
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
Todsapol Aryuyune
Photoshop cs
Photoshop cs
สุวิทย์ ดวงดี
Mais procurados
(20)
ใบความรู้ ที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรม
ใบความรู้ ที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรม
ส่วนจัดการสื่อประสานผู้ใช้(User interface-management)
ส่วนจัดการสื่อประสานผู้ใช้(User interface-management)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรม
บทที่ 2
บทที่ 2
บทที่ 2
บทที่ 2
การรวบรวมความต้องการ
การรวบรวมความต้องการ
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Chapter4
Chapter4
Lesson3 devenlopment-program
Lesson3 devenlopment-program
20140605ใบความรู้ การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
20140605ใบความรู้ การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
หลักการพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม
หลักการพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม
ความหมายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์22
โครงงานคอมพิวเตอร์22
Lesson5 devenlopment-program
Lesson5 devenlopment-program
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 3 การวิเคราะห์ระบบและการออกแบบระบบ
บทที่ 3 การวิเคราะห์ระบบและการออกแบบระบบ
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 5 : หลักการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
Photoshop cs
Photoshop cs
Semelhante a งานนำเสนอ1 คอม
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
ใบความรู้ การเขียนโปรแกรม
ใบความรู้ การเขียนโปรแกรม
คุณครู ผู้น่ารัก
บทที่ 1
บทที่ 1
Little PumPim
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
MMp'New Aukkaradet
บทที่ 1
บทที่ 1
Little PumPim
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
Meaw Sukee
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2
จงฉีกกระชาก อาชิโซกิจิโซ
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2
จงฉีกกระชาก อาชิโซกิจิโซ
Lesson 4 (misson)
Lesson 4 (misson)
จงฉีกกระชาก อาชิโซกิจิโซ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ABELE Snvip
ผังงาน (Flowchart)
ผังงาน (Flowchart)
Theruangsit
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
Paweena Kittitongchaikul
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
Paweena Kittitongchaikul
คอมทรงสัก1
คอมทรงสัก1
Mussawan Jongjaroen
System development life cycle sdlc
System development life cycle sdlc
Kapook Moo Auan
System Development Life Cycle S D L C
System Development Life Cycle S D L C
Kapook Moo Auan
กำเนิดภาษาซี
กำเนิดภาษาซี
เทวัญ ภูพานทอง
Sallai pro
Sallai pro
yamakushi
Chapter 1
Chapter 1
Programming Techniques and Algorithms
Semelhante a งานนำเสนอ1 คอม
(20)
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ การเขียนโปรแกรม
ใบความรู้ การเขียนโปรแกรม
บทที่ 1
บทที่ 1
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
บทที่ 1
บทที่ 1
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)
Lesson 4 (misson)
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผังงาน (Flowchart)
ผังงาน (Flowchart)
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
กระบวนการสารสนเทศ [โหมดความเข้ากันได้]
คอมทรงสัก1
คอมทรงสัก1
System development life cycle sdlc
System development life cycle sdlc
System Development Life Cycle S D L C
System Development Life Cycle S D L C
กำเนิดภาษาซี
กำเนิดภาษาซี
Sallai pro
Sallai pro
Chapter 1
Chapter 1
งานนำเสนอ1 คอม
1.
2.
ขั้นตอนการแก้ ปัญหา การถ่ ายทอดความคิดในการแก้
ไขปัญหา
3.
ความหมาย กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process)
คือ ขั้นตอนการแก้ปัญหาหรื อตอบสนองต่อความต้องการซึ่งจะ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากทรัพยากรให้เป็ นผลผลิตหรื อผลลัพธ์ระบบ เทคโนโลยีโดยก่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอย ตามที่มนุษย์ตองการและ ้ เปลี่ยนแปลงการเพิ่มประสิ ทธิภาพในการทากิจกรรมต่างๆของ มนุษย์ เพราะมนุษย์มีความต้องการในการสร้างสิ่ งอานวยความสะดวก ต่างๆในการดารงชีวิต
4.
ขั้นตอนการแก้ไขปัญหา
วิธีการแก้ ปัญหาอย่ างเป็ นระบบ มีข้นตอน คือ ั ขันตอนที่ 1 วิเคราะห์ ปัญหาและกาหนดรายละเอียดของ ้ ปัญหา ขันตอนที่ 2 วางแผนในการแก้ ปัญหา ้ ขันตอนที่ 3 ดาเนินการแก้ ปัญหา ้ ขันตอนที่ 4 การตรวจสอบและปรับปรุง ้
5.
ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ปญหาและกาหนดรายละเอียดของปัญหา
ั จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้ คือการทาความเข้าใจกับปัญหาเพื่อแยก ให้ออกว่าข้อมูลที่กาหนดมาในปัญหาหรื อเงื่อนไขของปัญหาคืออะไร และ สิ่ งที่ตองการคืออะไร อีกทั้งวิธีการที่ใช้ประมวลผล ในการวิเคราะห์ปัญหา ้ ใด กล่าวโดยสรุ ปมีองค์ประกอบในการวิเคราะห์ ดังนี้ 1. การระบุขอมูลเข้า ได้แก่ การพิจารณาข้อมูลและเงื่อนไขที่กาหนด ้ มาในปัญหา 2. การระบุขอมูลออก ได้แก่ การพิจารณาเป้ าหมายหรื อสิ่ งที่ตองหา ้ ้ คาตอบ 3. การกาหนดวิธีประมวลผล ได้แก่ การพิจารณาขั้นตอนวิธีหา คาตอบหรื อข้อมูลออก
6.
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนในการแก้ปญหา
ั ขั้นตอนนี้จาเป็ นต้องอาศัยประสบการณ์ของผูแก้ปัญหาเป็ น ้ หลัก ขั้นตอนนี้จะเริ่ มจากการเลือกเครื่ องมือที่ใช้ในการแก้ปัญหา โดย พิจารณาความเหมาะสมระหว่างเครื่ องมือกับเงื่อนไขต่างๆ ของปัญหาซึ่ง หมายรวมถึงความสามารถของเครื่ องมือในการแก้ปัญหาดังกล่าว และสิ่ งที่ สาคัญคือความคุนเคยในการใช้งานเครื่ องมือนั้นๆ ของผูแก้ปัญหา ้ ้
7.
ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการแก้ปญหา
ั ขั้นตอนนี้เป็ นขั้นตอนที่ตองลงมือแก้ปัญหาโดยใช้เครื่ องมือที่ได้ ้ เลือกไว้ข้นตอนนี้กเ็ ป็ นการใช้โปรแกรมสาเร็ จหรื อใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เขียน ั โปรแกรมแก้ปัญหา ขั้นตอนนี้ตองอาศัยความรู ้เกี่ยวกับเครื่ องมือที่เลือกใช้ซ่ ึง ้ ผูแก้ปัญหาต้องศึกษาให้เข้าใจและเชี่ยวชาญ ในขณะที่ดาเนินการหากพบ ้ ็ แนวทางที่ดีกว่าที่ออกแบบไว้กสามารถปรับเปลี่ยนได้ การแก้ ปัญหาด้ วยกระบวนการสารสนเทศ หลักการแก้ปัญหาตามวิธีวิทยาศาสตร์ หลักการแก้ปัญหาตามวิธีการทางวิศวกรรม วิธีการแก้ปัญหาแบบสร้างสรรค์
8.
ขั้นตอนที่ 4 การตรวจสอบและปรับปรุง
หลังจากที่ลงมือแก้ปัญหาแล้ว ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการนี้ ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง โดยผูแก้ปัญหาต้องตรวจสอบว่าขั้นตอนวิธีที่สร้างขึ้น ้ สอดคล้องกับรายละเอียดของปัญหา ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเข้า และข้อมูลออก เพื่อให้มนใจว่าสามารถรองรับข้อมูลเข้าได้ในทุกกรณี อย่างถูกต้องและ ั่ สมบูรณ์ แบ่งได้เป็ น 2 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจสอบและ การตรวจสอบโดย ปรับปรุงโดย ผู้ใช้ งานจริง ผู้ออกแบบ
9.
การตรวจสอบและ
การตรวจสอบโดย ปรับปรุงโดย ผู้ใช้งานจริง ผู้ออกแบบ ควรกระทำระหว่ำง ตรวจสอบภำยหลัง กำรดำเนินงำนและ กำรดำเนินงำน ภำยหลังกำร เสร็จสิ ้นแล้ ว โดย ดำเนินงำนเสร็จสิ ้น จัดเก็บข้ อมูลจำก แล้ ว ผู้ใช้ งำนโดยตรง
10.
การถ่ายทอดความคิดในการแก้ไขปัญหาด้วย
อัลกอริทม [ Algorithm ] ึ อัลกอริทม (Algorithm) คือ กระบวนการ การทางานที่ใช้การ ึ ตัดสิ นใจ โดยนาหลักเหตุผลและคณิ ตศาสตร์มาช่วยเลือกวิธีการหรื อ ขั้นตอนการดาเนินงานต่อไป จนกระทังถึงขั้นตอนสุ ดท้าย เป็ นวิธีการที่ใช้ ่ แยกย่อยและเรี ยงลาดับขั้นตอนของกระบวนการในการทางานต่างๆ เพื่อเพิ่ม ประสิ ทธิภาพในการค้นหาและแก้ไขปัญหา
11.
อัลกอริ ทึมที่ดีจะต้องได้ผลลัพธ์ตรงกับความต้องการเสมอ ควรมีลกษณะดังนี้
ั มีควำมถูกต้ องแม่นยำ เข้ ำใจได้ ง่ำยและชัดเจน มีขนตอนหลักและขันตอนย่อย ั้ ้
12.
เครื่ องมือที่ใช้ในการจาลองความคิดมักจะประกอบขึ้นด้วย เครื่ องหมายที่แตกต่างกันหลายอย่าง
แต่พอสรุ ปได้เป็ น 2 ลักษณะ คือ 1. การจาลองความคิดเป็ นข้ อความหรือคาบรรยาย (Algorithm) เป็ น การเขียนเค้าโครงด้วยการบรรยายเป็ นภาษาที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน เพื่อให้ ทราบถึงขั้นตอนการทางานของการแก้ปัญหาแต่ละตอน ในบางครั้งอาจใช้ คาสังของภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมก็ได้ ่ 2. การจาลองความคิดเป็ นสั ญลักษณ์ หรือผังงาน (Flowchart) สัญลักษณ์ คือ เครื่ องหมายรู ปแบบต่างๆ ซึ่งใช้สาหรับสื่ อสาร ความหมายให้เข้าใจตรงกัน สถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริ กา ได้กาหนด สัญลักษณ์ไว้เป็ นมาตรฐานแล้ว สามารถนาไปใช้ได้ตามความเหมาะสม ต่อไป
13.
การเขียนรหัสจาลอง
รหัสลาลองหรื อ pseudocode เป็ นคาบรรยายที่เขียนแสดง ขั้นตอนวิธี(algorithm) ของการเขียนโปรแกรม โดยใช้ภาษาที่กะทัดรัด สื่ อสารกับโปรแกรมเมอร์ผเู ้ ขียนโปรแกรม โดยอาจใช้ภาษาที่ใช้ทวไปและ ั่ อาจมีภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมประกอบ แต่ไม่มีมาตรฐานแน่นอนใน การเขียน pseudocode และไม่สามารถนาไปทางานบนคอมพิวเตอร์ โดยตรง(เพราะไม่ใช่คาสังในภาษาคอมพิวเตอร์) และไม่ข้ ึนกับ ่ ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง นิยมใช้ pseudocode แสดง algorithm มากกว่าใช้ผงงาน เพราะผังงานอาจไม่แสดงรายละเอียดมาก ั นักและใช้สญลักษณ์ซ่ ึงทาให้ไม่สะดวกในการเขียน เช่นโปรแกรมใหญ่ ๆ ั
14.
มักจะประกอบด้วยคาสังต่างๆที่ใกล้เคียงกับภาษาคอมพิวเตอร์ที่
่ ใช้ในการเขียนโปรแกรมจริ งๆ เช่น begin…end, if…else, do…while, while, for, read และ print การเขียนรหัส จาลองจะต้องมีการวางแผนสาหรับการอ้างอิงถึงข้อมูลต่างๆที่จะใช้ใน โปรแกรมด้วยการสร้างตัวแปร โดยใช้เครื่ องหมายเท่ากับ (=) แทนการ กาหนดค่าให้กาหนดตัวแปรนั้นๆ การเขียนผังงาน ผังงาน (flowchart) คือ แผนภาพซึ่งแสดงลาดับขั้นตอน ของการทางาน โดยแต่ละขั้นตอนจะถูกแสดงโดยใช้สญลักษณ์ซ่ ึงมี ั ความหมายบ่งบอกว่า ขั้นตอนนั้น ๆ มีลกษณะการทางาน ทาให้ง่ายต่อ ั ความเข้าใจ ว่าในการทางานนั้นมีข้นตอนอะไรบ้าง และมีลาดับอย่างไร ั
15.
16.
ประเภทของผังงาน 1. ผังงานระบบ (system
flowchart) เป็ นผังซึ่งแสดงขอบเขต และลาดับขั้นตอนการทางานของระบบหนึ่ง ๆ 2. ผังงานโปรแกรม (Program flowchart) เป็ นผังงานซึ่งแสดงลาดับขั้นตอนการทางานของโปรแกรมหนึ่ง ๆ การใช้ สัญลักษณ์ จะใช้สญลักษณ์ที่เป็ นรู ปภาพแทนคาสังการทางานโดยจะไม่ใช้ ั ่ คาอธิบายลักษณะการทางาน มีลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลตั้งแต่ เริ่ มต้นไปสิ้ นสุ ดโปรแกรม
17.
ตัวอย่ างสั ญลักษณ์
สัญลักษณ์ ความหมาย เริ่มต้ น/สิ ้นสุด รับข้ อมูลเข้ ำ/แสดงผล รับข้ อมูลเข้ ำจำกมนุษย์ แสดงผลลัพธ์บนกระดำนด้ วย เครื่ องพิมพ์ กำรประมวลผล
18.
สัญลักษณ์
ความหมาย จุดต่อเนื่องภำยในหน้ ำ เดียวกันของผังงำน จุดต่อเนื่องที่อยูคนละหน้ ำ ่ ของผังงำนเดียวกัน ลูกศรแสดงลำดับกำรทำงำน
19.
โครงสร้ างการเขียนผังงาน
เป็ นรู ปแบบพื้นฐานของการเขียนผังงาน เนื่องจากเขียนได้ง่าย และนาไปใช้งานมากี่สุด 1.โครงสร้ างแบบเป็ นลาดับ (Sequence Structure) โครงสร้างลักษณะนี้เป็ นโครงสร้าง พื้นฐานของผังงาน และเป็ นลักษณะ ขั้นตอนการทางานที่พบมากที่สุด คือ ทางานทีละขั้นตอนลาดับ
20.
2.โครงสร้ างแบบมีตัวเลือก (Selection Structure) โครงสร้างการทางานแบบมีการเลือกมี รู
ปแบบที่ซบซ้อนกว่าโครงสร้างแบบเป็ น ั ลาดับรู ปแบบที่ง่ายที่สุดของโครงสร้างแบบ นี้คือ การเลือกแบบมีทางออก 2 ทาง ในการ เลือกแบบมีทางออก 2 ทาง นี้จะมีทางออก จากสัญลักษณ์การตัดสิ นใจเพียง 2 ทาง คือ ใช่หรื อไม่ใช่ เท่านั้น (แต่ระบบการเขียนผัง งานระบบ อนุญาตให้มีทางออกจากการ ตัดสิ นใจได้มากกว่า 2 ทาง)
21.
3.โครงสร้ างแบบทาซ้า (Iteration
Structure) โครงสร้างการทางานแบบทาซ้ า จะทางานแบบเดียวกันซ้ าไปเรื่ อย ๆ ในขณะที่ยงเป็ นไปตามเงื่อนไขหรื อเงื่อนไขเป็ นจริ ง จนกระทั้งเงื่อนไข ั เป็ นเท็จจึงทางานอื่นต่อไป
22.
ประโยชน์ ของผังงาน • ช่วยให้สามารถทาความเข้าใจลาดับขั้นตอนการทางานของโปรแกรม
หรื อระบบใด ๆได้อย่างรวดเร็ ว • ช่วยแสดงลาดับขั้นตอนการทางาน ทาให้สามารถเขียนโปรแกรมได้ อย่างเป็ นระบบไม่สบสน นอกจากนี้ผงงานยังเป็ นอิสระต่อภาษาที่ใช้ใน ั ั การ เขียนโปรแกรม กล่าวคือจากผังงานเดียวกันสามารถนาไปเขียน โปรแกรมด้วยภาษาใดก็ได้ • ช่วยในการตรวจสอบ และแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย เมื่อเกิด ข้อผิดพลาด ช่วยให้การดัดแปลง แก้ไข ทาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ ว • ช่วยให้ผอ่ืนสามารถศึกษาการทางานของโปรแกรมได้อย่างง่าย และ ู้ รวดเร็ วมากขึ้น
23.
การเขียนโปรแกรม
ผังงานโปรแกรมสามารถนามาใช้เขียนโปรแกรม โดยในการเขียน ่ โปรแกรมสามารถเลือกใช้ภาษาได้หลายภาษา ไม่วาจะเป็ นภาษาแอสเซมบลี ภาษาเบสิ ก ภาษาซี ภาษาปาสคาล ภาษาโคบอล ภาษาฟอร์แทรน หรื อภาษา อื่น ๆ ซึ่งแต่ละภาษาก็มีรูปแบบไวยากรณ์ของภาษาที่ใช้แตกต่างกันออกไป แต่โดยทัวไปแล้วจะมีรูปแบบหรื อโครงสร้างของคาสังที่คล้ายกัน โดยทัวไป ่ ่ ่ ทุกคาสังจะมีคาสังพื้นฐานต่อไปนี้ ่ ่ • คาสังการรับข้อมูลเข้า และการแสดงผล ่ • คาสังการกาหนดค่า ่ • คาสังการเปรี ยบเทียบเงื่อนไข ่ • คาสังการทาซ้ าหรื อการวนลูป ่
24.
คาถาม 1.กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงอะไร ก.การทางานตามขั้นตอนทีกาหนด
่ ข.ขั้นตอนการแก้ ปัญหาหรือตอบสนองต่ อความต้ องการ ค.กระบวนการจัดการกับข้ อมูลข่ าวสาร ง.การจัดการแบบลายุค้ 2.การแก้ ปัญหาด้ วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศมีกี่ ขั้นตอน ก.3 ข.4 ค.5 ง.6
25.
3.การวิเคราะห์ ปัญหาและกาหนดรายละเอียดของปัญหามี องค์ ประกอบดังต่
อไปนี้ ยกเว้ นข้ อใด ก.การกาหนดวิธีประมวลผล ข.การระบุข้อมูลออก ค.การระบุข้อมูลเข้ า ง.การวิเคราะห์ ข้อมูล 4.การพิจารณาข้ อมูลและเงือนไขทีกาหนดมาในปัญหา อยู่ ่ ่ ในองค์ ประกอบใดของการวิเคราะห์ ข้อมูล ก.การระบุข้อมูลเข้ า ข.การระบุข้อมูลออก ค.การกาหนดวิธีประมวลผล ง.ก และ ข ถูกต้ อง
26.
5. ข้ อใดไม่
ใช่ โครงสร้ างการเขียนผังงาน ก.โครงสร้ างแบบลาดับ ข.โครงสร้ างแบบทางเลือก ค.โครงสร้ างแบบซ้าซ้ อน ง.โครงสร้ างแบบทาซ้า 6.อัลกอริทมทีดต้องมีผลลัพธ์ ทดควรมีคุณสมบัตยกเว้ นข้ อ ึ ่ ี ี่ ี ิ ใด ก.ความแม่ นยาถูกต้ อง ข.มีข้นตอนหลักและขั้นตอนย่ อย ั ค.เข้ าใจง่ ายและชัดเจน ง.มีข้นตอนทีผลลัพธ์ ออกมาหลายคาตอบไม่ ใช่ คาตอบ ั ่ เหมือนเดิมทุกครั้ง
27.
7.สั ญลักษณ์ ทใช้
ในการเขียนผังงาน มีไว้ เพืออะไร ี่ ่ ก.แสดงขั้นตอนการทางาน ข.ความสวยงาม ค.การจัดการข้ อมูล ง.ลาดับข้ อมูล 8.การเขียนโปรแกรม โครงสร้ างของคาสั่ งทีคล้ ายกัน ่ โดยทัวไปทุกคาสั่ งจะมีคาสั่ งพืนฐานต่ อไปนียกเว้ นข้ อใด ่ ้ ้ ก.คาสั่ งการรับข้ อมูลเข้ า และการแสดงผล ข.คาสั่ งการทาซ้าหรือการวนลูป ค.คาสั่ งการเปรียบเทียบเงือนไข ่ ง.คาสั่ งการประเมินผลข้ อมูล
28.
9.การตรวจสอบและปรับปรุงโดยผู้ออกแบบควร ดาเนินงานเวลาใด ก.หลังการดาเนินงานเสร็จสิ้นแล้ ว ข.ควรกระทาระหว่ างการดาเนินงานและภายหลังการ ดาเนินงานเสร็จสิ้นแล้
ว ค.ระหว่ างการดาเนินงาน ง.ไม่ มีข้อใดถูกต้ อง 10.การเขียนโครงสร้ างแบบลาดับควรมีวธีการเขียนอย่ างไร ิ ก.เขียนเป็ นลาดับขั้นจากบนลงล่ าง หรือ ซ้ ายไปขวาเท่ านั้น ข.เขียนเป็ นลาดับขั้นตอน จากขวาไปซ้ ายเท่ านั้น ค.เขียนแบบแสดงเงือนไข มีสองทางเลือก ่ ง.เขียนเป็ นลาดับ ไล่ ลงมาแล้ วแยกออกเป็ นสองทาง แบบ สองตัวเลือก
29.
จัดทาโดย นางสาว ชุ ติมณฑน์
เอียมศรีทรัพย์ ่ เลขที่ 16 นางสาว ธิพรัตน์ เนื่องภิรมย์ เลขที่ 17 นางสาว แพรพลอย พรหมชนะ เลขที่ 18 นางสาว ภาสวัณ คูหา เลขที่ 19 นาวสาว วรรณนิลา ชนะใจวัฒนา เลขที่ 20 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/5
Baixar agora