Mais conteúdo relacionado
Semelhante a เนื้อเยื่อ (20)
Mais de Oui Nuchanart (20)
เนื้อเยื่อ
- 4. เนื้อเยื่อของพืช (plant tissue)
พืชเปนสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ประกอบดวยเซลล (cell)
หลายๆเซลลรวมกลุมทํางานรวมกัน กลุมของเซลลที่มาทํางาน
รวมกันนีเ้ ราเรียกเนือเยื่อ(tissue)
้
เนือเยื่อพืชแบงเปน 2 ประเภท (ตามความสามารถในการแบงตัว)ไดแก
้
1.เนือเยื่อเจริญ (meristematic tissues)
้
2.เนือเยื่อถาวร (permanent tissues)
้
- 5. เนื้อเยื่อเจริญ (meristematic tissues)
คือ กลุมของเซลลที่มีการเจริญและแบงตัวแบบไมโทซีส
(mitosis) อยูตลอดเวลา
ลักษณะของเนือเยื่อเจริญ
้
ขนาดเล็ก ผนังบาง เซลลแตละชนิดอยูชิดติดกันมาก
ไมมีชองวางระหวางเซลล (intercellular space)
- 6. ตําแหนงที่พบในสวนตาง ๆ ของพืช
1. เนือเยื่อเจริญสวนปลาย (apical meristem)
้
คือเนือเยื่อที่อยูบริเวณปลายยอด (shoot tip ) หรือปลายราก
้
(root tip) ของพืช เมื่อมีการแบงตัวเพิ่มจํานวนเซลลจะทําให
รากและลําตนยืดยาวออก เพิ่มความสูงใหกับตนพืช เปนการ
เจริญขั้นแรก (Primary growth)
- 8. 2. เนื้อเยื่อเจริญเหนือขอ (intercalary meristem)
คือเนือเยื่อที่อยูบริเวณเหนือขอ หรือโคนของปลองในพืช
้
ใบเลี้ยงเดี่ยว เชน ออย ไผ ขาวโพด หรือหญา เปนตน เมื่อมี
การแบงตัวจะชวยใหปลองยาวขึ้น
- 10. 3. เนื้อเยื่อเจริญดานขาง
(lateral meristem หรือ axillary meristem)
คือ เนือเยื่อเจริญที่แบงตัวออกดานขางของลําตนหรือราก
้
เมื่อแบงตัวแลวจะทําใหลําตน ราก ขยายขนาดออกทางดานขาง
หรือมีขนาดใหญขึ้น เปนการเจริญขั้นที่ 2 (Secondary growth)
บางคนอาจเรียกเนือเยื่อเจริญดานขางนี้วา แคมเบียม (cambium)
้
แบงเปน 2 ชนิดคือ
- 11. Vascular cambium
Vascular cambium
พบในรากและลําตนพืชใบเลี้ยงคู และพืชใบ
เลี้ยงเดียวบางชนิด เชน หมากผู
่
หมากเมีย ศรนารายณ
ที่มาhttp://www.cfr.washington.edu/Classes.ESC.200/lectures/concepts/specialbiology1.htm
- 12. cork cambium หรือ Phellogen
Cork cambium
ใหกําเนิดคอรก หรือเฟลเลมหุมรอบ
รากและลําตนพืชใบเลี้ยงคูที่มีอายุมาก
ที่มา http://www.sbs.utexas.edu/mauseth/weblab/webchap17bark/17.1-5.htm
- 13. เนื้อเยื่อถาวร (permanent tissues)
หมายถึงกลุมของเซลลที่ในสภาพปกติไมมการแบงตัว
ี
โดยเซลลเหลานีเ้ จริญเปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อเจริญอีก
้
ทีหนึ่ง แบงออกเปน 2 ประเภท คือ
1. เนือเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (Simple permanent tissue)
้
2. เนือเยื่อถาวรเชิงซอน(Compount permanent tissue)
้
- 14. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว
ประกอบดวยกลุมเซลลชนิดเดียวกัน มารวมกัน
เพื่อทําหนาที่อยางเดียวกัน แบงออกได 2 ประเภท
ไดแก
1. เนือเยื่อปองกัน (Protective tissue)
้
2. เนือเยื่อพื้น (Ground tissue)
้
- 15. เนื้อเยื่อปองกัน
ทําหนาที่ปองกันอันตรายรวมทั้งการสูญเสียน้ํา มักอยู
นอกสุดของราก ลําตน และใบ แบงออกเปน 2 ประเภท
คือ
- เอพิเดอรมิส (Epidermis)
- คอรก (Cork) หรือ เฟลเลม (Phellem)
- 16. เอพิเดอรมิส (Epidermis)
epidermis
• ปกปองคุมครองเนื้อเยื่อตาง ๆ
• รูปสี่เหลี่ยมผืนผา
• ผิวดานนอก มีสารขี้ผึ้งพวก
คิวติน (cutin) ฉาบอยูเพื่อชวย
ปองกันการระเหยของน้ํา
• ชั้นของคิวตินนีเ้ รียกวา
คิวติเคิล (cuticle)
ที่มา http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/root.html
- 17. หนาที่ของเอพิเดอรมิส
1. ใหความแข็งแรงและชวยปองกันอันตรายใหกับเนื้อเยื่อ
ที่อยูถัดไป
2. ชวยปองกันไมใหน้ําซึมผานเขาไปในรากมากเกินไป
เพราะจะทําใหรากเนา
3. เจริญเปลี่ยนแปลงไปเปน ขนราก เซลลคุม ขนและตอม
- 21. คอรก หรือเฟลเลม
เกิดจากการแบงตัวของคอรกแคมเบียม หรือเฟลเจน
เมื่อคอรกเติบโตเต็มที่แลว โพรโทพลาสซึมและเยื่อหุมเซลล
จะสลายไป เหลือเฉพาะผนังเซลลที่มีซูเบอริน และคิวติเคิล สะสม
ซึ่งน้ําจะไมสามารถผานได เนื้อเยื่อชั้นคอรกรวมกับเฟลโลเจน
และเฟลโลเดริ์ม เรียกรวมวา เพอริเดิรม (Peridrem)
- 23. เนื้อเยื่อพื้น
เปนองคประกอบในราก ลําตน ใบ ดอก และเปนตัวกลาง
ใหเนื้อเยื่ออื่น ๆ แทรกตัวอยู มีหลายประเภท ไดแก
- 24. พาเรงคิมา (parenchyma)
พบไดแทบทุกสวนของอวัยวะพืช
รูปรางหลายแบบ บางเซลล
คอนขางกลม รี ทรงกระบอกหรือ
เปนเหลี่ยม มีชองวางระหวางเซลล
(intercellular space)
ชองวางระหวางเซลล
ที่มา http://botit.botany.wisc.edu/images/130/Cells_&_Tissues/Celery_Petiole/Parenchyma.html
- 26. พาเรงคิมา (parenchyma)
ชองอากาศ
(air space)
สะสมแปง
ที่มา http://botit.botany.wisc.edu/images/130/Cells_&_Tissues/Celery_Petiole/Parenchyma.html
- 27. หนาที่ของพาเรงคิมา
1. สะสมน้ําและอาหารพวกแปง โปรตีน และไขมัน
2. ในลําตนพืชออน ๆ ทําหนาที่สังเคราะหดวยแสง
3. ในพืชตระกูลถั่วจะอยูรวมเปนกลุมที่โคนกานใบทําหนาที่เกี่ยวกับ
การหุบใบ กางใบในรอบวัน
4. ในพืช ซี-3 พืช ซี-4 บางชนิดพาเรงคิมาจะเจริญลอมรอบมัด
ทอลําเลียง ถาภายในมีคลอโรพลาสตก็จะสังเคราะหดวยแสงดวย
5. ใบพืชบางชนิดจะเจริญเปลี่ยนไปเปนตอมสรางสาร เชน สรางน้ํามัน
6. พาเรงคิมาในมัดทอลําเลียงจะทําหนาที่ลําเลียงอาหาร
7. ในกานใบและเสนกลางใบของพืชบางชนิด เชน พุทธรักษา
เปลี่ยนไปเปน แอเรงคิมา (Aerenchyma)
- 29. คอลเลงคิมา (collenchyma)
ลักษณะของคอลเลงคิมา
ที่มา http://www.science.smith.edu/~mmarcotr/Hortwebpage- fall/handouts/figures-
overheads/anatomyfigures.htm
- 30. สเกลอเรงคิมา (sclerenchyma)
ผนังเซลลหนามากสารที่มาฉาบ
เปนสารพวกลิกนิน (lignin)
เปนโครงกระดูกหรือโครงราง
ของพืช จําแนกออกเปน 2 ชนิด
- 32. สเกลอรีด (scleried) รูปรางสั้นและปอม อาจกลมหรือ
เปนเหลี่ยม ผนังเซลลหนา มักพบ
ตามที่แข็งมาก ๆ เชน
กะลามะพราว เมล็ดพุทรา
- 33. เอนโดเดอรมิส (Endodermis)
Endodermis
สวนใหญพบในรากพืชใบเลี้ยง
เดี่ยว เซลลเรียงตัวเปนแนวเดียว
ผนังเซลลบาง มีสารพวก
ซูเบอริน คิวติน หรือลิกนิน
มาสะสมเปนแถบทําใหผนัง
เซลลหนา เปนแถบ ซึ่งจะกีด
ขวางน้ําและอาหารไมใหผานได
สะดวก
ที่มา http://botit.botany.wisc.edu/images/130/Root/Monocot_Roots/Zea_Root/Endodermis_vasc_tissue
- 34. หนาที่ของเอนโดเดอรมิส
1. ปองกันเนื้อเยื่อสวนที่อยูถัดเขาไปขางใน
2. เปนทางผานของน้ํา เกลือแร อาหาร และกีดขวางการ
ลําเลียงสารดังกลาว
- 35. เนื้อเยื่อถาวรเชิงซอน
ประกอบดวยกลุมเซลลหลายชนิดมาทํางานรวมกัน ซึ่งเนื้อเยื่อ
ถาวรเชิงซอนแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก เนื้อเยื่อที่ทําหนาที่
ลําเลียงน้ํา แรธาตุ เรียกวาไซเลม (xylem) และเนื้อเยื่อลําเลียง
อาหาร เรียกวา โฟลเอม (phloem)
- 36. ไซเลม (xylem)
ลําเลียงน้ําและแรธาตุ
ประกอบดวย
1. vessel
2. tracheid
3. xylem fiber
4. xylem parenchyma
ที่มา https://webspace.utexas.edu/harms/VEVI3/transport.html
- 37. เทรคีด (Tracheid)
รูปรางยาว หัวทายคอนขาง
แหลม ผนังเซลลหนามี
สารพวกลิกนินสะสม ผนัง
มีรูพรุนที่เรียกวา pit
ที่มา http://facweb.furman.edu/~lthompson/bgy34/plantanatomy/plant_cells.htm
- 38. เวสเซล (Vessel)
• คลายทอยาวๆ ทีประกอบดวยทอ
่
สั้นๆหลายๆทอมาตอกัน
• ทอสั้นแตละทอเรียกวา vessel
member หรือ vessel element
• ผนังหนาเปนสารพวกลิกนินมา
สะสม มีชองทะลุถึงกัน ซึ่งมี
ลักษณะเปนรอยปรุหรือรูพรุนที่
เรียกวา perforation plate
ที่มา http://www.dbdmart.com/lifesigngatc/product.php?cat=88432&lang=en
- 39. ไซเลมไฟเบอร (xylem fiber)
ผนังหนา รูปรางยาวเรียว หัวทายแหลม มีลักษณะคลายเสนใย
เปนเซลลที่ตายแลว แตยังคงทําหนาที่ใหความแข็งแรงแกพืชเทานั้น
- 40. ไซเลม พาเรงคิมา (xylem parenchyma)
เปนเซลลที่ยังมีชีวิตอยูเพียงเซลลเดียว ในเนื้อเยื่อไซเลม
มีผนังบาง แตเมื่อแกแลวจะมีสารลิกนินมาสะสม ทําใหผนังหนาขึ้น
ปกติจะเรียงตัวในแนวตั้งแตบางกลุมจะเรียงตัวตามขวาง หรือตามแนว
รัศมี ทําหนาที่ลําเลียงน้ําและเกลือแรไปตามดานขาง เรียกวา ไซเลมเรย
(xylem ray)
- 43. ซีพทิวบ (sieve tube)
มีรูปรางยาว ปลายทั้ง 2
ดานคอนขางแหลม มีรูเล็ก
คลายตะแกรง เรียกวา
ซีพเพลท (Sieve plate)
บริเวณรูเล็ก ๆ ซีพเอเรีย
ซีพทิวบเมมเบอรหลาย ๆ
เซลลมาเรียงตอกันเปนทอ
ยาวๆ เรียกวา ซีพทิวบ
(Sieve tube)
- 46. เซลลคอมพาเนียน (Companion cell)
เซลลมีขนาดเล็ก รูปรางเรียวยาว
ปลายแหลม มีนิวเคลียสขนาดใหญ
เห็นไดชัดเจน มีกําเนิดจากเซลล
ตนกําเนิดเดียวกับซีพทิวบเมมเบอร
ที่มา http://www.school.net.th/library/create-web/10000/science/10000-5830.html
- 47. โฟลเอมพาเรงคิมา (Phloem parenchyma)
เหมือนกับพาเรงคิมาทั่วไป
เปนเซลลที่มีชีวิต
ปกติลาเลียงอาหารในแนวดิ่ง
ํ
บางกลุมลําเลียงในแนวรัศมี
ขวางลําตนและราก
เรียกวา โฟลเอมเรย
ที่มา http://www.answers.com/topic/pericycle
- 48. โฟลเอมไฟเบอร (Phloem fiber)
เปนเซลลไมมีชีวิตชนิดเดียวในเนื้อเยื่อโฟลเอม ใหความ
แข็งแรงแกพืชเทานั้น
ที่มา http://www.sbs.utexas.edu/mauseth/weblab/webchap11stem/11.5-15.htm