SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 18
1
รายอแน
‫بعد...؛‬‫و‬ ‫هللا‬ ‫رسول‬ ‫عىل‬ ‫سالم‬‫ل‬‫ا‬‫و‬ ‫الصالة‬‫و‬ ‫امحلدهلل‬
ก า ร ถื อ ศี ล อ ด สุ น น ะ ฮ์ 6
วันในเดือนเชาวาลถือเป็นสุนนะฮ์ตามที่มีปรากฏในอัลหะดีษที่รายงานโดยอะบูอัยยูบ
อัลอันศอรี (เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ) ว่า
“ผู้ใดถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน แล้วตามมาด้วยการถือศีลอดอีก 6 วันในเดือน
เชาวาล เท่ากับเขาถือศีลอดตลอดทั้งปี” [บันทึกโดย มุสลิม, เลขที่ 1164]
ส่วนเมื่อถือศีลอดสุนนะฮ์ในเดือนเชาวาลครบ 6 วันแล้ว ในวันถัดมาคือวันที่ 8
เดือนเชาวาลชาวม ลายูถือเอาเป็ นวัน รายอแน (รายอ อันนั ม -อีดบวชหก )
ก็คงถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่มิใช่เรื่องของศาสนา เพราะคาว่า ฮารีรายอแน คงเรียกตามภาษา
อี ด ต า ม ศ า ส น บั ญ ญั ติ ( ٌّ‫ي‬ ِ‫ع‬ ْ‫ر‬َ‫ٌٌّّش‬‫د‬ْ‫ي‬ ِ‫ع‬ ) นั้ น ห ม า ย ถึ ง
วันสาคัญทางศาสนาที่มีกรณีเกี่ยวเนื่องกับการประกอบศาสนกิจเสร็จสิ้นแล้วมีการแสดงความยิ
น ดี ป ร า โ ม ท ย์ เ ช่ น อี ดิ ล ฟิ ฏ ร์ แ ล ะ วั น อ ะ เ ร า ะ ฟ ะ ฮ์
ซึ่งเป็นอีดสาหรับผู้ประกอบพิธีหัจญ์ซึ่งไปร่วมชุมนุมในการวุกุฟที่อะเราะฟะฮ์ อีดิลอัฎหา
ห รื อ อี ด หั จ ญี ร ว ม ถึ ง วั น ตั ช รี ก อี ก 3 วั น เ ป็ น ต้ น
อีดตามนัยนี้ เป็นเรื่องของศาสนามีข้อควรปฏิบัติอันเป็นเรื่องของการประกอบศาสนกิจ
(อิบาดะฮ์) เช่น การละหมาดอีด การจ่ายซะกาตุลฟิฏร์ การฟังคุตบะฮ์ การเชือดอุฎหิยะฮ์
(กุรบาน) และการห้ามถือศีลอดในวันอีดทั้งสอง ฯลฯ
ดั ง นั้ น ก า ร เ รี ย ก “ร อ ย อ แ น ” ห รื อ อี ด ห ก
ถ้ า เรี ย ก ต า ม ค ว าม ห ม า ย ท างภ า ษ าแ ล ะ ป ร ะ เพ ณี ก็ เป็ น สิ่งที่ ท า ไ ด้
แต่ถ้าเรียกตามความหมายที่ศาสนาบัญญัติเอาไว้ (อิศฏิลาหี้ ย์) ก็ถือว่าเป็นการอุตริกรรม
(บิดอะฮ์) เพราะเป็ นสิ่งที่ไม่มีในหลักการของศาสนา ไม่มี สุนนะฮ์ระบุว่าในวันที่ 8
เดือ นเชาวาล ห ลังจากถื อศีลอด 6 วัน ครบแล้ วให้ ถือเอาวันนั้ นเป็ นวันอี ด
การไปกาหนดเช่นนั้นทั้งๆ ที่ไม่มีตัวบทรับรองจึงถือเป็นอุตริกรรม (บิดอะฮ์)
2
ในประเทศอียิปต์ก็มีเรื่องในทานองนี้ คือ เรียกวันออกบวช 6 ว่า “อีดิลอับรอร”
(ٌِّ‫رار‬ْ‫ب‬َ‫أل‬‫ا‬ٌٌّّ‫د‬ْ‫ي‬ِ‫)ع‬ โด ยผู้ คนจะไปรวม ตัวกัน ที่มั สญิ ดอัลหุ สัยน์ หรือมั สญิ ดซัยนั บ
แล้วก็มีการกลับไปทาอาหารพิเศษ เช่น ข้าวหุงกับนมรับประทานกันที่บ้าน ชัยค์มุหัมมัด
อั บ ดุ ส ส ะ ล า ม คิ ฎิ ร อั ช ชุ ก็ อ ย รี ก ล่ า ว ว่ า
การกระทาดังกล่าวเป็นอุตริกรรมและท่านเรียกอีดนี้ว่า “อีดิลฟุจญาร” หมายถึงอีดของคนชั่ว
ไม่ใช่ “อีดิลอับรอร” คือ อีดของคนดี
[มุหัมมัด อับดุสสะลาม คิฎิร อัชชุก็อยรี, “อัสสุนัน วัลมุบตะดะอาตฯ” หน้า 163]
อิบนุตัยมียะฮ์ กล่าวว่า
“ส่วน ก าร ยึด ช่ วงเวลาใด ช่วงเว ลาห นึ่ งว่าเป็ น ช่ว งเวลาที่ ป ระ เสริ ฐ
น อ ก เห นื อ ไ ป จ า ก ช่ ว งเว ล า ที่ มี ร ะ บุ ไว้ แ บ บ อ ย่ า งท า งศ าส น า เช่ น
บางคืนในเดือนเราะบีอุลเอาวัลที่เรียกว่า 'คืน เมาลิด' หรือบางคืนในเดือนเราะญับ
หรือวันที่ 18 ของเดือนซุลหิจญะฮ์ หรือศุกร์แรกของเดือนเราะญับ หรือวันที่ 8
เ ดื อ น เ ช า ว า ล ซึ่ ง ผู้ ไ ร้ ค ว า ม รู้ เ รี ย ก มั น ว่ า 'อี ดิ ล อั บ ร อ ร '
ล้วนแล้วแต่เป็นบิดอะฮ์อุตริกรรมที่บรรดาสะลัฟ (ชนยุคแรก) ไม่ได้สนับสนุนให้กระทา
3
และพวกเขาก็ไม่เคยปฏิบัติ วัลลอฮุสุบหานะฮุวะตะอาลาอะอ์ลัม” [อิบนุตัยมียะฮ์, “มัจญ์มูอ์
อัลฟะตาวา” เล่ม 25 หน้า 298 และ “อัลอิคติยาร อัลฟิกฮียะฮ์” หน้า 199]
อิ บ นุ ห ะ ญั ร อั ล ฮั ย ต ะ มี ก ล่ า ว ว่ า “เ ป็ น ที่ ชั ด เ จ น ยิ่ ง ว่ า
ไ ม่ อ นุ ญ า ต ใ ห้ ผู้ ใ ด ยึ ด มั่ น แ ล ะ ศ รั ท ธ า ว่ า วั น ที่ 8
ของเดือนเชาวาลเป็นวันอีดที่มีถูกบัญญัติไว้ในอิสลาม ดั่งเช่นวันอีดิลฟิ ฏร์และอีดิลอัฎหา
ยิ่ ง ก ว่ า นั้ น อุ ล ะ ม า อ์ บ า ง ท่ า น ถึ ง กั บ ร ะ บุ ว่ า
ไม่อนุญาตให้เรียกวันนั้นว่าวันอีดที่ควรแก่การแสดงออกด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ของวันอีด
เช่ น ก า รสว ม เสื้ อ ผ้ า ที่ สวย งาม ก ารจั ด เลี้ ย งอ าห า รที่ ห ลา ก ห ลาย ช นิ ด
และการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เฉกเช่นการปฏิบัติในวันอีดิลฟิฏร์และอีดิลอัฎหา”
[อิบนุหะญัร อัลฮัยตะมี, “อัลฟะตาวา อัลกุบรอ อัลฟิกฮียะฮ์” เล่ม 1 หน้า 272]
ชัยค์มุหัมมัด อิบนุศอลิห์ อัลอุษัยมีน กล่าวว่า
‫نون‬‫يظ‬‫ناس‬‫ل‬‫ا‬‫بعض‬ ‫ن‬‫أ‬‫ار‬‫ر‬‫ب‬‫ال‬ ‫يد‬‫ع‬ ‫نه‬‫و‬ّ‫م‬‫س‬‫ي‬‫و‬ ‫يد‬‫ع‬ ‫نه‬‫أ‬‫نون‬‫يظ‬‫شهر‬‫ل‬‫ا‬‫هذا‬ ‫من‬‫ثامن‬‫ل‬‫ا‬‫يوم‬‫ل‬‫ا‬
،‫يح‬‫بصح‬ ‫ليس‬‫وهذا‬‫جيوز‬ ‫ال‬ ‫و‬‫أ‬‫يامه‬‫ص‬‫جيوز‬‫هل‬ ‫ل‬‫سأ‬‫ي‬ ‫بعضهم‬ ‫ن‬‫ا‬ ‫حىت‬‫نه‬‫و‬‫ك‬ ‫تقاد‬‫ع‬‫ا‬ :‫عين‬‫أ‬
‫ال‬‫و‬‫ش‬ ‫من‬‫ثامن‬‫ل‬‫ا‬‫يوم‬‫ل‬‫فا‬ ،‫يح‬‫بصح‬ ‫ليس‬‫ا‬ً‫يد‬‫ع‬‫يوم‬ ‫هو‬ ‫منا‬‫ا‬‫و‬ ‫للفجار‬ ‫وال‬ ‫ار‬‫ر‬‫ب‬‫لل‬ ‫ا‬ً‫يد‬‫ع‬ ‫ليس‬
‫ة‬ّ‫ي‬‫ع‬‫رش‬‫ل‬‫ا‬ ‫ياد‬‫ع‬‫ال‬ ‫ن‬‫ل‬ ‫ا؛‬ً‫بد‬‫أ‬ ‫يد‬‫لع‬‫ا‬ ‫شعائر‬ ‫من‬ٌ‫ء‬‫يش‬‫فيه‬ ‫ث‬ َ‫حيد‬‫ن‬‫أ‬‫جيوز‬‫وال‬،‫ايم‬‫ال‬‫سائر‬‫ك‬
،‫اها‬‫و‬‫س‬ ‫يد‬‫ع‬ ‫سالم‬‫اال‬ ‫يف‬ ‫ليس‬‫و‬ ،‫امجلعة‬ ‫يد‬‫ع‬‫و‬ ‫حضى‬‫ال‬ ‫يد‬‫ع‬‫و‬ ‫الفطر‬ ‫يد‬‫ع‬ :‫ثالثة‬
“ มุ ส ลิ ม บ า ง ค น มี ค ว า ม เ ชื่ อ ว่ า วั น ที่ 8
ข อ ง เ ดื อ น เ ช า ว า ล เ ป็ น วั น อี ด แ ล ะ พ ว ก เ ข า เ รี ย ก วั น นี้ ว่ า
"อีดิลอับรอร"จนถึงกับมีบางคนในหมู่พวกเขาถามว่า "อนุญาตให้ถือศีลอดในวันนี้ หรือไม่
4
เพราะวันนี้ เป็นวันอีดิลอับรอร?" ความเชื่อที่ว่าวันนี้ เป็ นวันอีดไม่ถูกต้องเพราะวันที่ 8
ของเดือนเชาวาลไม่ได้เป็นวันอีดสาหรับผู้ปฏิบัติดี (อับรอร) หรือผู้ปฏิบัติไม่ดี (ฟุจญาร)
แต่มันเป็ นเพียงวันธรรมดาๆ วันหนึ่งที่ไม่อนุญาตให้มีการอุตริด้วยพิธีกรรมต่างๆ
ที่เป็ นสัญลักษณ์ของวันอีดเป็ นอันขาด และจงอย่าละทิ้ งการถือศีลอดในวันนั้ น
แ ละจ งอ ย่ าอุ ต ริ ด้ วย ก าร จั ด เลี้ ย งอ าห าร ต่ างๆ แ ละ ก ารให้ บ ริ จ าค ท าน
เพราะแท้จริงบัญญัติวันอีดในอิสลามมีเพียง 3 วันเท่านั้น นั่นคือ อีดิลฟิ ฏร์ อีดิลอัฎหา
และอีดวันศุกร์ และจะไม่มีวันอีดในอิสลามอื่นจากนั้น”
binothaimeen.net/content/108
ละหมาดตัสบีห์
ละหมาดตัสบีห์เป็นละหมาดสุนัตชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบปฏิบัติแตกต่างไปจากละหมาดโ
ดยทั่วๆ ไป
และหะดีษเกี่ยวกับละหมาดตัสบีห์ก็เป็นหะดีษที่ค่อนข้างมีปัญหาในด้านสายรายงาน
ด้ ว ย เ ห ตุ นี้
บรรดานักวิชาการจึงมีทัศนะขัดแย้งกันอย่างมากเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของหะดีษเรื่องละหมา
ดตัสบีห์
อิบนุ ลเญ าซี กล่าวว่า หะดีษเรื่องละห มาด ตัสบีห์ เป็ น หะดี ษเมาฎู อ์
หรือหะดีษที่ถูกกุขึ้นมา [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 596]
อิมามอันนะวะวี ได้กล่าวว่า อัลอุก็อยลี, อิบนุลอะเราะบี และนักวิชาการอื่นๆ กล่าวว่า
ไม่ มี ห ะดี ษ เศ า ะหี้ ห์ แ ล ะห ะดี ษ ห ะสั น เล ย ใ น เรื่ อ ง ล ะห ม าด ตั ส บี ห์
(คือเป็นหะดีษเฎาะอีฟทั้งหมด) [“‫ح‬‫ع‬‫أ‬‫مو‬‫أ‬‫ج‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 4 หน้า 55]
แ ต่ ตั ว อิ ม า ม อั น น ะ ว ะ วี เอ ง ก ลั บ ลั งเล แ ล ะ สั บ ส น ใ น เรื่ อ ง นี้
โดยท่านได้กล่าวสอดคล้องกับคากล่าวของนักวิชาการข้างต้นว่า หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์
เป็นหะดีษเฎาะอีฟ [“‫ح‬‫ع‬‫أ‬‫مو‬‫أ‬‫ج‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 4 หน้า 5]
แต่ขณะเดียวกันท่านกลับกล่าวใน “ ِ‫َات‬‫غ‬ُّ‫ل‬‫ل‬‫ا‬َ‫و‬ ِ‫ء‬‫أ‬ ‫أ‬‫ْس‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ذ‬‫أ‬َ‫”َت‬ ว่า หะดีษเรื่องละหมาด
ตั ส บี ห์ เป็ น ห ะดี ษ ห ะสั น แ ละ ใน “ ‫ح‬‫ر‬ َ‫َك‬ ‫أ‬‫ذ‬ َ‫ل‬ َ‫ا‬” ข อ งท่ า น ห น้ า 168-169
ก็โน้มเอียงไปในด้านการยอมรับความหะสันของละหมาดตัสบีห์นี้
5
เช่ น เ ดี ย ว กั บ อิ บ นุ ห ะ ญั ร อั ล อั ส เ ก า ะ ล า นี ที่ ก ล่ า ว ว่ า
สายรายงานของหะดีษเรื่อละหมาดตัสบีห์ทั้งหมด เป็ นสายรายงานที่เฎาะอีฟ [“ ‫ح‬‫ص‬‫أ‬‫ي‬ِ‫خ‬‫أ‬‫ل‬َ‫ت‬
ِ ‫أ‬‫ِي‬‫ب‬َ‫ح‬‫أ‬‫ل‬‫”ا‬ เล่ม 2 หน้า 7]
แ ต่ ท่ า น ก ลั บ ก ล่ า ว ใ น ลั ก ษ ณ ะ “โ น้ ม เ อี ย ง ”
ไปในทางยอมรับหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์โดยปรากฏใน “ِ‫ر‬َ‫َك‬‫أ‬‫ف‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ج‬ِ‫ئ‬‫ا‬َ‫ت‬َ‫ن‬” และ “‫ةح‬َ‫ر‬ِّ‫ف‬َ‫ك‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ال‬ َ‫ص‬ِ‫خ‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬”
แ ละได้ ย อ ม รั บ ห ะ ดี ษ อ ย่ าง “ชั ด เจน ” ใน “ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ث‬‫أ‬‫ي‬ ِ‫اد‬ َ‫ح‬ َ‫أ‬ ‫أ‬‫ن‬ َ‫ع‬ ٌ‫ة‬َ‫ب‬ِ‫و‬ ‫أ‬‫ج‬ َ‫أ‬” ว่ า
หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ เป็ นหะดีษหะสันลิฆ็อยริฮิ
อัลอัลบานีย์ [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ة‬ َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫”ُت‬ เล่ม 1 หน้ า 419]; อะห์มัด มุหัมมัด ชากิร
[“ ‫ح‬‫ع‬ِ‫ام‬َ‫ج‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬‫ح‬‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ح‬ َّ‫لص‬‫ح‬‫ا‬ ” เล่ม 2 หน้า 352] และมุบาร็อกปูรี [“ ‫أ‬‫ى‬ ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้ า 601]
กล่าวสอดคล้องกันว่า ภาพรวมของหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ ถือเป็ นหะดีษหะสัน
อะบูบักร์ อัลอาญิรี, อะบูมุหัมมัด อับดุรเราะหี้ ม อัลมิศรี, อะบุลหะสัน อัลมุก็อดดิซี
ถือว่า หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ เป็ นหะดีษเศาะหี้ ห์ ดังคากล่าวของอัลมุนซิรี
[“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 598]
ก่ อ น ที่ จ ะ วิ เค ร า ะ ห์ ข้ อ เท็ จ จ ริ ง ข อ งค ว า ม ขั ด แ ย้ ง ข้ า ง ต้ น
ก็จะให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบเนื้อหาของหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ดังต่อไปนี้
มีรายงานว่า ท่านนะบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวแก่ลุงของท่าน
คือท่านอับบาส บินอับดุลมุฏฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
6
“ลุงจ๋ า! นี้ แ น่ ะ ฉั น จ ะ ม อ บ ให้ ลุ ง 10 ป ระ ก าร เมื่ อ ลุ งป ฏิ บั ติ มั น
พ ร ะ อ ง ค์ อั ล ล อ ฮ์ ก็ จ ะ ท ร ง อ ภั ย โ ท ษ ใ ห้ ลุ ง ใ น บ า ป ข อ ง ลุ ง
ทั้ งต อ น เริ่ม ต้ น แ ละต อ น สุด ท้ าย ขอ งมัน , ทั้ งให ม่ แ ละทั้ งเก่ าขอ งมัน ,
ทั้งที่ผิดพลาดและที่เจตนาของมัน, ทั้งเล็กและทั้งใหญ่ของมัน, ทั้งที่ลับและที่แจ้งของมัน
(นี่แหละคือการอภัยโทษ) 10 ประการ (ที่ฉันกล่าวไว้ และวิธีการที่จะให้ได้มาซึ่งการอภัยโทษ
10 ป ร ะ ก า ร ดั ง ก ล่ า ว ก็ คื อ ) ใ ห้ ลุ งล ะ ห ม า ด 4 ร็อ ก อ ะ ฮ์ ใ น ทุ ก ๆ
ร็อกอะฮ์ให้ อ่านฟาติหะฮ์และอ่านสูเราะฮ์ เมื่อลุงอ่านสูเราะฮ์เสร็จในร็อกอะฮ์แรกแล้ว
ก็ให้ กล่าวในขณะกาลังยืนตรง (ก่อนรุกูอ์) ว่า “สุบหานัลลอฮ์, วัลหัมดุลิลลาฮ์,
ว ะ ล า อิ ล า ฮ ะ อิ ล ลั ล ล อ ฮ์ , วั ล ล อ ฮุ อั ก บั ร ” 15 ค รั้ ง ,
ต่ อ ม าให้ ลุ งก้ ม รุ กู อ์ แ ละ ให้ ก ล่ าว อ ย่างนั้ น ใน ข ณ ะ รุกู อ์ 10 ค รั้ ง, ต่ อ ม า
ให้ เงยศีรษะขึ้ นและกล่าวมันขณะยืนตรง (อิอ์ติดาล) อีก 10 ครั้ง, ต่อมาก็ให้ ลงสุญูด
7
(ค รั้ ง แ ร ก ) แ ล ะ ใ ห้ ก ล่ า ว มั น (ใ น ข ณ ะ สุ ญู ด ) 10 ค รั้ ง ,
ต่อมาให้เงยศีรษะขึ้นจากสุญูดและให้อ่านมัน (ขณะนั่งพักระหว่างสองสุญูด) 10 ครั้ง,
ต่อมาก็ให้ ลงสุญูด (ครั้งที่สอง) และให้ อ่านมัน (ขณะกาลังสุญูด) อีก 10 ครั้ง,
ต่อมาก็ให้เงยขึ้นจากสุญูด (ขึ้นมานั่งก่อนลุกขึ้นยืนทาร็อกอะฮ์ที่สอง) และให้อ่านมัน
(ขณะนั่ง) อีก 10 ครั้ง, รวมแล้วเป็ น 75 ครั้งในแต่ละร็อกอะฮ์, ให้ลุงทาอย่างนั้นใน 4
ร็อกอะฮ์ หากลุงมี ความสามารถ ก็ให้ ลุงกระทามั นทุ กๆ วัน, หากไม่ สามารถ
ก็ให้ ทามันสัปดาห์ละครั้ง, หากไม่สามารถ ก็ให้ทามันเดือนละครั้ง, หากไม่สามารถ
ก็ให้ทามันปีละครั้ง, และหากไม่สามารถอีก ก็ให้ลุงทามันสัก 1 ครั้งในชั่วชีวิตลุงก็ได้”
[บันทึกโดย อะบูดาวูด หะดีษที่ 1297; อิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1387; อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่
1216 และอัลหากิม ใน “ ‫ح‬‫ك‬َ‫ر‬ ‫دأ‬َ‫ت‬ ‫أ‬‫مس‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 1 หน้า 463 โดยรายงานมาจากอิบนุอับบาส
เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา]
อธิบาย-วิเคราะห์
ความจริงหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์นี้มีรายงานมาหลายกระแสจากเศาะหาบะฮ์จานวน
10 ท่าน ดังจะได้กล่าวต่อไป
นั กวิชาการหะดีษได้ ตรวจสอบดูแล้ วป รากฏ ว่า ทุ กๆ ก ระแสของมั น
ไ ม่ มี ก ร ะ แ ส ใ ด เ ล ย ที่ จ ะ ถู ก ต้ อ ง ส ม บู ร ณ์ ใ น ตั ว เ อ ง ,
ทว่าแต่ละกระแสล้วนมีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งสิ้น
แ ต่ ก ระแ สข้ างต้ น นี้ ซึ่งเป็ น สาน วน จาก ก ารบั น ทึ ก ข อ งอ ะบู ด าวู ด
ถือเป็ นกระแสรายงานที่ดีที่สุดของหะดีษเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีสายรายงานดังต่อไปนี้
1. อับดุรเราะห์มาน บินบุชร์ บินอัลหะกัม อันนัยสาบูรี
2. มูสา บินอับดุลอะซีซ
3. อัลหะกัม บินอะบาน
4. อิกริมะฮ์
5. อับดุลลอฮ์ อิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา
6. ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
8
อัลมุนซิรี ได้กล่าวใน “ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ه‬‫أ‬َّ‫الَّت‬َ‫و‬ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫غ‬‫أ‬َّ‫لَّت‬َ‫ا‬” ของท่านว่า
“อะบูบักร์ บุ ตรชายของอะบูดาวูดกล่าวว่า ฉันได้ยินบิดาของฉันกล่าวว่า :
ในเรื่องละหมาดตัสบีห์นั้น ไม่มีหะดีษใดที่ถูกต้องนอกจากบทนี้ เพียงบทเดียว, และมุสลิม
บิ น อั ล หั จ ญ า จ ญ์ (เจ้ า ข อ งห ะ ดี ษ เศ า ะ หี้ ห์ มุ ส ลิ ม ) ก ล่ า ว ว่ า :
ไ ม่ ป ร า ก ฏ มี ส า ย ร า ย ง า น ใ ด ใ น ห ะ ดี ษ (ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์ )
นี้ ที่จะสวยงามยิ่งไปกว่าสายรายงานนี้ อีกแล้ว (ท่านหมายถึงการรายงานของอิกริมะฮ์
จากอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ดังข้างต้น)” [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 598]
อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี ได้กล่าวใน “‫ح‬‫ة‬َ‫ر‬ِّ‫ف‬َ‫ك‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ال‬ َ‫ص‬ِ‫خ‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” ว่า
“บรรดาผู้ รายงานของสายรายงานห ะดีษ บทนี้ ไม่ มี ปั ญ หา! อิ กริมะฮ์
ได้รับการยอมรับจากบุคอรี, อัลหะกัม ก็พอจะเชื่อถือได้, มูสา บินอับดุลอะซีซ ถูกยะห์ยา
บิ น ม ะ อี น ก ล่ า ว วิ จ า ร ณ์ ว่ า ฉั น เ ห็ น ว่ า เ ข า ไ ม่ มี ปั ญ ห า ใ ด ๆ
และอันนะสาอีก็กล่าวในลักษณะเดียวกัน, อะลี บิน อัลมะดีนี กล่าว (วิจารณ์) ว่า
ส า ย ร า ย ง า น นี้ เ ป็ น ห นึ่ ง จ า ก เ งื่ อ น ไ ข ข อ ง ห ะ ดี ษ ห ะ สั น
เนื่องจากมันมีหลักฐานยืนยันมากมายที่ช่วยสนับสนุนให้มันมีน้าหนักมากยิ่งขึ้น” [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬
‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 599]
นี่ คื อ
มุมมองของนักวิชาการผู้มีชื่อเสียงหลายท่านเกี่ยวกับสายรายงานของหะดีษข้างต้น
แต่ข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการแล้ว สายรายงานของหะดีษบทนี้ ไม่อาจเรียกได้ว่า
เป็ นสายรายงานที่เศาะหี้ ห์ หรือสายรายงานที่หะสันได้เลย
9
ทั้งนี้ เพราะผู้รายงานลาดับที่ 2 คือ มูสา บิน อับดุลอะซีซ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 175)
และผู้รายงานลาดับที่ 3 คือ อัลหะกัม บินอะบาน (เสียชีวิต ฮ.ศ. 154) นั้ น แม้ทั้ง 2
ท่ าน นั้ น จ ะเป็ น ผู้ ที่ พ อ จะเชื่ อ ถื อ ได้ ( ٌ‫ق‬ ‫أ‬‫و‬ ‫دح‬ َ‫)ص‬ แ ต่ มู สาก็ยั งถู ก วิ จาร ณ์ ว่ า
มีความบกพร่องในด้านความทรงจา (ِ‫ظ‬‫أ‬‫ف‬ِ‫ح‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ء‬ ِّ َ‫س‬ ), และอัลหะกัมก็ยังถูกวิจารณ์ว่า
มีความผิดพลาด ( ‫َا‬‫ه‬‫أ‬‫و‬َ‫أ‬ٌ‫م‬ ) อยู่บ้าง [โปรดดู “ ِ‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ذ‬‫أ‬َّ‫الَّت‬ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ر‬‫أ‬‫ق‬َ‫ت‬” เล่ม 2 หน้า 285-286 และเล่ม
1 หน้า 190]
ผู้ ราย งาน ที่ มี ค วาม บ ก พ ร่อ งด้ าน ค วาม ท ร งจ าแ ละค วาม ผิ ด พ ลาด
มิใช่คุณสมบัติของผู้รายงานของหะดีษเศาะหี้ห์หรือหะดีษหะสัน
อาจจะกล่าวได้เพียงแค่ว่า สายรายงานหะดีษข้างต้นนั้นมีคุณสมบัติ “ใกล้เคียง”
สายรายงานของหะดีษหะสันมากที่สุดเท่านั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากความบกพร่องในด้านความทรงจาหรือความผิดพลาดอยู่บ้าง
ต า ม ห ลั ก วิ ช า ก า ร ห ะ ดี ษ ถื อ ว่ า เป็ น ข้ อ บ ก พ ร่ อ งเ พี ย งเล็ ก น้ อ ย
ซึ่งอาจจะได้รับการเสริมและสนับสนุนจากรายงานอื่นให้มีน้าหนักน่าเชื่อถือขึ้นมาได้
และตามข้อเท็จจริงดังได้กล่าวมาแล้วก็คือ หะดีษบทนี้ ได้รับการสนับสนุน!
เพ ราะมี การรายงาน ม าโดย เศาะห าบ ะฮ์ อื่น ๆ รวม ทั้ งห ม ด เป็ น 10 ท่ าน
(ด้วยสายรายงานที่ต่อเนื่อง) ดังต่อไปนี้
1. รายงานมาจากอับดุลลอฮ์ อิบนุอับบาส ร.ฎ. ดังการบันทึกข้างต้น
2. รายงานมาจากอัลฟัฎล์ อิบนุอับบาส ร.ฎ. [บันทึกโดยอะบูนุอัยม์ อัลอัศบะฮานีย์
ใน “ ‫ح‬‫ن‬َ‫َب‬ ‫أ‬‫ر‬‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ل‬‫ح‬‫ا‬َ ‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬َّ‫ت‬‫ح‬‫م‬ ”]
3. รายงานมาจากอับดุลลอฮ์ บินอัมร์ บินอัลอาศ ร.ฎ. (บันทึกโดยอะบูดาวูด หะดีษที่
1298 และอิบนุชาฮีน ใน “ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫غ‬‫أ‬َّ‫لَّت‬َ‫ا‬”]
4. รายงานมาจากอะบูรอฟิอ์ ร.ฎ. คนรับใช้ของท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
วะสัลลัม [บันทึกโดยอัตติรมิซี หะดีษที่ 482 และอิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1386]
5. รายงานมาจากอิบนุอุมัร ร.ฎ. [บันทึกโดยอัลหากิม ใน “ ‫ح‬‫ك‬َ‫ر‬‫دأ‬َ‫ت‬ ‫أ‬‫مس‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 4 หน้า
464]
6. รายงานมาจากอัลอับบาส ร.ฎ. [บันทึกโดยอะบูนุอัยม์ อัลอัศบะฮานี ใน
“َ ‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬َّ‫ت‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ح‬‫ا‬ ‫ح‬‫ن‬َ‫َب‬ ‫أ‬‫ر‬‫ح‬‫ق‬”]
7. รายงานมาจากอะลี อิบนุอะบีฏอลิบ ร.ฎ. [บันทึกโดยอัดดาเราะกุฏนี]
8. รายงานมาٌّจากญะอ์ฟัร อิบนุอะบีฏอลิบ ร.ฎ. [บันทึกโดยอิบรอฮีม บินอะห์มัด
บินญะอ์ฟัร อัลฆ็อรกี ใน “ ِ‫ئ‬‫ا‬َ‫و‬َ‫ف‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬‫دح‬ ”]
10
9. รายงานมาจากอับดุลลอฮ์ บินญะอ์ฟัร ร.ฎ. [บันทึกโดยอัดดาเราะกุฏนี]
10. รายงานมาจากอุมมุสะละมะฮ์ ร.ฎ. [บันทึกโดยอะบูนุอัยม์ อัลอัศบะฮานีย์ ใน
“َ ‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬َّ‫ت‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ح‬‫ا‬ ‫ح‬‫ن‬َ‫َب‬ ‫أ‬‫ر‬‫ح‬‫ق‬”]
นอกจากนี้หะดีษเรื่องการละหมาดตัสบีห์ ยังถูกรายงานมา “ด้วยสายรายงานที่มุรสัล”
จากตาบิอีนอีกหลายท่าน ดังการบันทึกของอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ة‬َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫”ُت‬
เล่ ม 2 ห น้ า 1782] (ห ะ ดี ษ มุ ร สั ล คื อ ห ะ ดี ษ ซึ่ งต า บิ อี น ผู้ ร า ย งา น
มิ ได้ ระบุ นามเศาะหาบะฮ์ที่เป็ น คนกลางระหว่างตัวเขากับท่าน เราะสูลุลลอฮ์
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไว้ด้วย)
อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี ได้กล่าวในการตอบปัญหาหะดีษเรื่องการละหมาดตัสบีห์ว่า
“และที่ถูกต้องก็คือ มัน (หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์) อยู่ในระดับหะดีษหะสัน
อันเนื่องมาจากมันมีกระแสรายงานมาจานวนมาก ซึ่งทาให้กระแสแรกของมัน (คือกระแสของ
อิบนุอับบาส ร.ฎ. ข้างต้น) มีน้าหนักแข็งแรงขึ้นมาได้” [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫ُت‬ِ‫ة‬َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ” เล่ม 2 หน้า
1782]
ชัยค์อะห์มัด มุหัมมัด ชากิร นักวิชาการหะดีษชาวอียิปต์ ได้กล่าวว่า
“และแน่นอน เราได้อธิบายให้ทราบแล้วถึงสถานภาพผู้รายงานของสายรายงานหะดีษ
นี้ (ห มายถึงห ะดีษ ละหม าด ตัสบี ห์ ที่บั น ทึก โดยอัต ติรมิ ซี ห ม ายเลข 482)
และจากการอธิบายนั้นทาให้เป็นที่ชัดเจนว่า หะดีษนี้ เป็ นหะดีษหะสัน” [“ ‫ح‬‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ح‬ َّ‫لص‬‫ح‬‫ا‬ ‫ح‬‫ع‬ِ‫م‬‫ا‬َ‫ج‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬”
ซึ่งเป็นหนังสืออธิบาย หะดีษอัตติรมิซี เล่ม 2 หน้า 352]
มุบาร็อกปูรี นักวิชาการหะดีษชาวอินเดีย ได้กล่าวว่า
“นักวิชาการมีความเห็นขัดแย้งกันในประเด็นที่ว่า หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์นั้น
เป็ นหะดีษเศาะหี้ ห์, หรือหะดีษหะสัน, หรือหะดีษเฎาะอีฟ, หรือหะดีษเมาฎูอ์?
11
ซึ่งตามรูปการณ์ที่ปรากฏสาหรับฉันก็คือ สถานภาพของมันไม่ลดต่าไปกว่าหะดีษหะสัน (คือ
อย่างน้อยต้องเป็นหะดีษหะสัน)” [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 601]
และชัยค์อัลอัลบานี นักวิชาการหะดีษผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุดในปัจจุบัน
ได้กล่าวว่า
“ในสายรายงานของหะดีษบทนี้ มีชื่อมูสา บิน อับดุลอะซีซ ซึ่งรายงานมาจากอัลหะกัม
บินอะบาน ทั้งสองท่านนี้ เฎาะอีฟในด้านความทรงจา, อัลหากิมได้บ่งชี้ใน “ ‫كح‬َ‫ر‬‫دأ‬َ‫ت‬ ‫أ‬‫مس‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” (เล่ม
1 ห น้ า 463), ร ว ม ทั้ ง อั ซ ซ ะ ฮ ะ บี ด้ ว ย ว่ า
(ห ะ ดี ษ เรื่อ งละ ห ม าด ตั สบี ห์ จ าก ก าร รา ย งาน ข อ ง อิ บ นุ อั บ บ า ส ร .ฎ .)
เป็ นหะดีษที่มีน้าหนักเพราะได้รับการสนับสนุนจากกระแสอื่น, นี่คือ ความถูกต้อง!
เพราะหะดีษเรื่องนี้ มีรายงานมาเป็นจานวนมากมายหลายกระแส และยังมีหลักฐานยืนยัน
(ٌ‫د‬ِ‫اه‬ َ‫)ش‬ อีกจานวนม าก ซึ่งผู้ ที่ได้ ประสบพ บ เห็ นมั น ย่อมจะฟั น ธงได้ เลยว่า
หะดีษนี้มีพื้นฐานและที่มาที่ไป . . .” [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ة‬َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫”ُت‬ เล่ม 1 หน้า 419]
อย่างไรก็ตามชัยค์อับดุลอะซีซ บินอับดุลลอฮ์ บินบาซ ได้มีทัศนะว่า :
บรรดานักวิชาการได้มีความเห็นขัดแย้งกันในหะดีษเกี่ยวกับละหมาดตัสบีห์
และที่ถูกต้องนั้ น ไม่เศาะหี้ ห์ เพราะเป็นหะดีษที่ตัวบทเพี้ ยนและมุงกัร (ถูกปฏิเสธ)
12
และขัดแย้งกับบรรดาหะดีษเศาะหี้ ห์ที่เป็นที่รู้กันจากท่านนะบี ในการละหมาดสุนนะฮ์,
ละหมาดซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงบัญญัติให้แก่บ่าวของพระองค์ ในการรุกูอ์ของมัน, การสุญูดของมัน
และอื่นจากนั้ น และเพราะเหตุนี้ ที่ถูกต้องคือ คาพูดของผู้ที่กล่าวว่า ไม่ เศาะหี้ ห์
ดังที่เราได้ระบุ ไว้แล้ว และ เพราะว่า บรรดาสายรายงานของมันทั้ งหมดเฎาะอีฟ
(อ่อนหลักฐาน) วัลลอฮุวะลียุตเตาฟีก [“‫متنوعة‬ ‫ومقاالت‬ ‫فتاوى‬ ‫”مجموع‬ เล่ม 11 หน้า 426]
อีกทั้งชัยค์มุหัมมัด บินศอลิห์ อัลอุษัยมีน ก็มีทัศนะว่า :
และสาหรับการละหมาดตัสบีห์นั้น ที่ถูกต้อง มันไม่ใช่สุนนะฮ แต่ทว่ามันเป็นบิดอะฮ์
และหะดีษที่ท่านได้ระบุในคาถามของท่านนั้น (หะดีษที่บันทึกโดยอะบูดาวูด เลขที่ 1297)
ไม่เศาะหี้ ห์ อิมามอะห์มัด ขออัลลอฮ์เมตตาต่อท่าน ได้กล่าวว่า “การละหมาดตัสบีห์
ไม่ ได้ ท าให้ ข้ าพ เจ้ าภู มิ ใ จ ” มี ผู้ ถ าม ว่า “ ท าไม ห รือ ?” ท่ าน ก ล่ าว ว่ า
“ในนั้ นไม่มี หะดีษเศาะหี้ ห์ เลย” และท่านได้ สะบัดมื อของท่าน เหมื อนกั บว่า
มันเป็ นสิ่งต้องห้ าม และอิมามอันนะวาวี กล่าวว่า หะดีษของมันเฎาะอีฟ
และในนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงระเบียบการละหมาดที่เป็นที่รู้กัน และ อัลอุก็อยลีกล่าวว่า
ในมัน (ละหมาดตัสบีห์) ไม่มีหะดีษที่มั่นคง และอะบูบักร์ อิบนุลอะเราะบี กล่าวว่า “ในมัน
ไม่มีหะดีษเศาะหี้ห์ และไม่มีหะดีษหะสัน”
[“‫ميي‬‫لعث‬‫ا‬ ‫صاحل‬ ‫بن‬ ‫محمد‬ ‫يخ‬‫الش‬ ‫فضيةل‬ ‫ورسائل‬ ‫فتاوى‬ ‫”مجموع‬ เล่ม 14 หน้า 329]
13
14
อัลกอ ฎี หุ สัยน์ เจ้ าขอ งต ารา “อั ต ต ะฮ์ ซี บ ” และ “อัต ต ะติ ม ม ะฮ์ ”
ตลอดจนอัรรูยานีระบุไว้ในตอนท้ายบท อัลญะนาอิซ จากตารา “อัลบะหฺร์” ของท่านว่า
ส่งเสริมให้ละหมาด ตัสบีห์เนื่องจากมีหะดีษรายงานมา ซึ่งอิมามอันนะวาวี (ร.ฮ.) กล่าวว่า
ในการส่งเสริมให้ละหมาดตัสบีห์นี้มีประเด็นต้องพิจารณาเพราะหะดีษละหมาดตัสบีห์นั้นอ่อน
(เฎาะอีฟ) และในการละหมาดตัสบีห์มีการเปลี่ยนระเบียบของการละหมาดที่รู้กัน
ดั ง นั้ น จึ ง ส ม ค ว ร ว่ า อ ย่ า ไ ด้ ก ร ะ ท า โ ด ย ไ ม่ มี ห ะ ดี ษ
และหะดีษของการละหมาดตัสบีห์นั้นไม่มั่นคง (ไม่เศาะหี้ ห์) คือ หะดีษที่รายงานโดย อิบนุ
อับบาส ว่า ท่านเราะสูล (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม) ได้กล่าวแก่ท่านอัลอับบาสว่า :
(อัลหะดีษ) . . . รายงานโดย อะบูดาวูด, อิบนุมาญะฮ์, อิบนุคุซัยมะฮ์ในเศาะหี้ ห์ของเขา
15
และคนอื่นๆ และอัตติรมิซีรายงานเอาไว้ จากริวายะฮ์ของอะบีรอฟิอ์ด้วยความหมาย
อัตติรมิ ซีกล่าวว่า : ถู กรายงานจากท่านน ะบี (ศ็อลลัลลอฮุ อ ะลัยฮิ วะสัลลัม )
ใน ก าร ละ ห ม าด ตั สบี ห์ ม าก ก ว่ าห นึ่ งห ะ ดี ษ แ ละ อั ต ติ ร มิ ซี ก ล่ าวว่ า :
โดยส่วนใหญ่แล้วไม่เศาะหี้ห์
และอิบนุลมุบาร็อก และอีกหลายคนจากนักวิชาการมีความเห็นในเรื่องการละหมาด
ตัสบีห์และกล่าวถึงความประเสริฐเอาไว้ “อัลอุก็อยลี กล่าวว่า : ในการละหมาดตัสบีห์ไม่มี
หะดีษที่มั่ นคงเลย และอะบูบักร์ อิบนุลอะเราะบี และคนอื่นๆ ก็กล่าวไว้เช่นนี้
ว่าในเรื่องนี้ไม่มีหะดีษเศาะหี้ ห์และหะสันรายงานมา วัลลอฮุอะอ์ลัม” [“‫املهذب‬ ‫رشح‬ ‫”اجملموع‬
เล่ม 3 หน้า 546-547]
ชัยค์มุหัมมัด นะญีบ อัลมุฏีอีย์ กล่าวไว้ในเชิงอรรถใต้เส้นเล่มและหน้าเดียวกันนี้ว่า
อิ บ นุ ลเญ าซี ได้ ก ล่าวห ะดี ษ นี้ ไว้ ใน ต ารา “อั ล เม าฎู อ าต ” ข อ งเข า
และอิบ นุ หะญั รกล่าวว่า : สายรายงานหะดีษ ของอิบ นุ อับ บาสไม่ เป็ นอะไร
อยู่ในข่ายเงื่อนไขของหะดีษหะสัน เพราะมีสายรายงานอื่นๆ มาเสริม และอิบนุ ลเญาซี
ทาเสียด้วยการระบุหะดีษเรื่องการละหมาด ตัสบีห์เอาไว้ในตารา “อัลเมาฎูอาต”
และอัสสะยูฏีกล่าวไว้ใน “อัลละอาลิอ์” โดยถ่ายทอดจากอิบนุ หะญัรว่า “จริงๆ
แ ล้ ว สาย ราย งา น ทั้ งห ม ด ข อ งห ะ ดี ษ ละ ห ม า ด ตั สบี ห์ เฎ า ะอี ฟ ( อ่ อ น )
และแท้จริงหะดีษของอิบนุอับบาสนั้นใกล้เคียงจากเงื่อนไขของหะดีษหะสันนอกเสียจากว่าเป็น
ห ะ ดี ษ ช าซ (ٌّ‫ذ‬ ‫ا‬َ‫)ش‬ เนื่ อ งจา ก รา ยงาน โด ย รุ น แ ร งไม่ มี สาย ร าย งาน เสริ ม
แ ล ะ ยื น ยั น ที่ อ ยู่ ใ น ข่ า ย ก า ร พิ จ า ร ณ า
และรูป ของการละห มาดตั สบี ห์ ก็ค้ าน กั บ รูป แ บ บ ของการละหม าดทั่ วไป
และแท้จริงมีนักปราชญ์บางท่านได้แต่งตาราในการยืนยันว่าอยู่ในระดับหะสันหลายเล่มด้วยกัน
” [เชิงอรรถ “‫املهذب‬ ‫رشح‬ ‫”اجملموع‬ เล่ม 3 หน้า 547]
16
สัยยิด สาบิก ก็ระบุเรื่องการละหมาดตัสบีห์เอาไว้ในหนังสือ “ฟิกฮุสสุนนะฮ์” ของท่าน
และอ้างถึง อัลหาฟิ ซ ว่า : แท้จริง อัลหะดีษนี้ ถูกรายงานจากสายรายงานจานวนมาก
และจากกลุ่มหนึ่งจากชนรุ่นเศาะหาบะฮ์
ชั ย ค์ อั ล อั ล บ า นี
ก็ไม่ได้ติงระดับของสายรายงานหะดีษที่เป็นหลักฐานในการละหมาดตัสบีห์ที่สัยยิด สาบิก
ระบุเอาไว้ เพียงแต่ติงการออกชื่อ อัลหาฟิ ซ ว่า สัยยิด สาบิก ไม่ระบุให้ชัดเจนว่า อัลหาฟิ ซ
ที่อ้างถึงคือ อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี หรือไม่ เพราะอัลหาฟิ ซที่ถูกอ้างถึงในเรื่องนี้ คือ
อัลหาฟิซ อัลมุนซิรี ซึ่งถ้อยความที่ถูกกล่าวถึงใน “ฟิ กฮุสสุนนะฮ์” อยู่ในตารา “อัตตัรฆีบฯ”
(1/238) [“‫نة‬‫الس‬ ‫فقه‬ ‫عىل‬ ‫التعليق‬ ‫يف‬ ‫املنة‬ ‫”متام‬ หน้า 260]
แสดงให้เห็นว่า ชัยค์อัลอัลบานีก็ยอมรับระดับของสายรายงานในเรื่องการละหมาด
ตัสบีห์ นี่คือประเด็นเกี่ยวกับหลักฐานของการละหมาดตัสบีห์
ส่ว น ป ร ะเด็น ที่ พี่ น้ อ งมุ สลิ ม ม ลายู ใน 3 จั งห วั ด ช าย แ ด น ภ าค ใ ต้
ละหมาดตัสบีห์ในยามเช้าของวันรายอแนที่มัสญิดแบบบัรญะมาอะฮ์นั้นก็คงถือตามนักวิชาการ
ที่ให้น้าหนักกับหลักฐานในเรื่องการละหมาดตัสบีห์ที่มีระดับหะสัน เนื่องจากมีสายรายงานมาก
[“‫الطالبي‬ ‫عانة‬‫”ا‬ เล่ ม 1 ห น้ า 299] แ ละมี อ านิ สงค์ ผลบุ ญ ที่ ห าที่ สิ้ น สุด ไม่ ได้
คื อ มี บุ ญ ม าก ห าก ได้ ละห ม าด นี้ จน ก ระ ทั่ งนั ก วิ ชาก ารบ างท่ าน ร ะบุ ว่ า
“จะไม่รับฟังถึงความประเสริฐยิ่งใหญ่ของการละหมาดตัสบีห์และจะละทิ้งการละหมาดนี้นอกจ
ากคนที่กระทาเบาความในเรื่องศาสนา” [“‫الطالبي‬ ‫نة‬‫ا‬‫ع‬‫”ا‬ เล่ม 1 หน้า 300]
ซึ่ ง ก า ร ก ล่ า ว ใ น ท า น อ ง นี้ ดู จ ะ เ ป็ น สิ่ ง ที่ ไ ม่ บั ง ค ว ร นั ก
เพราะอิมามอันนะวาวีและอีกหลายท่านก็ไม่ให้น้าหนักกับสายรายงานของหะดีษที่เป็นหลักฐาน
17
ใ น เ รื่ อ ง ก า ร ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์
จึงกลายเป็นว่าอิมามอันนะวาวีและนักวิชาการอีกหลายท่านกระทาเบาความในเรื่องศาสนาหรือ
อ ย่ า ง ไ ร ? แ ต่ ที่ ค่ อ น ข้ า ง แ น่ ใ จ ไ ด้ ก็ คื อ
พี่น้องมุสลิมมลายูเห็นด้วยกับคาพูดในทานองนี้แต่มุ่งหมายถึงเรื่องการมีผลบุญมากมายจึงให้
ความสาคัญ
ที นี้ ป ร ะ เ ด็ น มั น อ ยู่ ต ร ง ที่ ว่ า
การละหมาดตัสบีห์นั้ นมีสุนนะฮ์ให้ละหมาดแบบญะมาอะฮฺหรือไม่ ? คาตอบก็คือ
ไม่ มี สุน น ะฮ์ ให้ ก ระ ท าแ บ บ ญ ะม าอ ะฮฺ [“‫الطالبي‬ ‫عانة‬‫”ا‬ เล่ม 1 ห น้ า 299]
และถ้ าไม่ มี สุนนะฮ์ ให้ กระทาแ บบญ ะมาอะฮฺแล้วไปกระทาแบบญ ะมาอะฮ์
เช่ น นี้ ก าร ละห ม าด จ ะ ใช้ ได้ ห รือ ไม่ ? ใน ต ารา “ อั น นิ ฮ า ยะ ฮ์ ” ร ะบุ ว่ า
“ถ้าหากละหมาดแบบญะมาอะฮฺก็ไม่ถือว่ามักรูฮ์ แต่เห็นต่างกันว่าจะได้ผลบุญหรือไม่?
ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าได้ อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่ได้ [อ้างแล้ว เล่ม 1 หน้า 284]
ใ น ต า ร า “ อั ล มั จ ญ์ มู อ์ ฯ ”
ก็ระบุว่าถ้าหากละหมาดแบบญะมาอะฮฺก็ถือว่าการละหมาดนั้นใช้ได้ [“‫املهذب‬ ‫رشح‬ ‫”اجملموع‬ เล่ม
3 หน้ า 499] อย่างไรก็ตามการปฏิบัติในสิ่งที่ไม่มี สุนนะฮ์ ให้ กระทาในทานองนี้
เรีย กว่า “คิ ลาฟุ ลเอ าล า” ซึ่ งห ม ายค วาม ว่าค้ าน กับ สิ่งที่ ดี ก ว่าห รือ ดีที่ สุด
แต่ไม่ถึงมักรูฮ์ตามกฎเกณฑ์ในมัซฮับ อันนี้ ว่าถึงการละหมาดตัสบีห์แบบญามาอะฮฺ
ต่อ ม าก็คื อ ป ระเด็น ก ารก าห น ด เวลาแ ละสาเห ตุ ข องก ารละห ม าด ตั สบี ห์
คือไปกาหนดว่าถ้าออกอีดรายอแน ก็จะละหมาดตัสบีห์กัน เวลาก็คือวันที่ 8 เชาวาล
ห รื อ ใ น ท า น อ ง เ ดี ย ว กั น คื อ
ค่าคืนสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอนที่หลายมัสญิดละหมาดตัสบีห์กัน
ในตารา “อัลอิห์ ยาอ์ฯ” ของอิมามอัลเฆาะซาลี ระบุ ว่า “การละหมาดนี้
(ห ม ายถึ งละห ม าด ตั สบี ห์ มี ร่องรอ ยถู ก รายงาน ม าตาม ป ระ เด็น ข อ งมั น
และจะไม่ถูกจากัดด้วยเวลาและสาเหตุ” [อ้างจาก “‫الطالبي‬ ‫نة‬‫ا‬‫ع‬‫”ا‬ เล่ม 1 หน้ า 299]
อิ ม า ม อิ บ นุ ห ะ ญั ร อั ล ฮั ย ต ะ มี ก ล่ า ว ว่ า :
“สิ่ ง ที่ ป ร า ก ฏ ชั ด เ จ น จ า ก ค า พู ด ข อ ง บ ร ร ด า นั ก วิ ช า ก า ร คื อ
ก า ร ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์ เ ป็ น ก า ร ล ะ ห ม า ด สุ น น ะ ฮ์ มุ ฏ ล ะ เ ก า ะ ฮ์
จึ ง ห ะ ร อ ม ที่ จ ะ ก ร ะ ท า ใ น เ ว ล า ที่ ห้ า ม ล ะ ห ม า ด
แ ล ะ ป ร ะ เด็ น ที่ ว่ า ก า ร ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์ เป็ น ล ะ ห ม า ด แ บ บ มุ ฏ ลั ก
ก็คือเป็นการละหมาดที่ไม่มีเงื่อนไขผูกพันด้วยกับเวลาหนึ่งเวลาใด และสาเหตุหนึ่งสาเหตุใด .
. . และเป็ นที่รู้กันว่าการละหมาดตัสบีห์ เป็ นสุนนะฮ์ มุ ฏละเกาะฮฺ
18
ก็คือจะไม่ถูกชดใช้ (เกาะฎออ์) เพราะเป็นการละหมาดที่ไม่มีเวลาที่ถูกกาหนดแน่นอน . . .”
[“‫الفقهية‬ ‫الكربى‬ ‫”الفتاوى‬ เล่ม 1 หน้า 271]
ดั งนั้ น เมื่ อ ไ ป ก า ห น ด วั น เว ล า แ ล ะ ส า เห ตุ ( คื อ อ อ ก บ ว ช 6)
ในการละหมาดตัสบีห์ก็ถือว่าเป็นการกระทาที่ไม่มีสุนนะฮ์ที่ชัดเจนและเจาะจงในเรื่องระบุมาก็เ
ข้าข่ายว่า คิลาฟุสสุนนะฮ์ คือค้านกับสุนนะฮ์ แต่ไม่ถึงขั้นว่าทาไม่ได้หรือละหมาดไม่เศาะห์
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าไม่กาหนดวันหรือเวลาที่จะละหมาดประเภทแบบนี้ก็คงไม่ได้กระทากัน
จึงไม่พ้นว่าต้องมีนัดละหมาดตัสบีห์กัน ซึ่งถ้ามีเจตนาว่าถือเอาสะดวกก็คงไม่เสียหายอันใด
แต่ถ้ ากาหนดกัน จน เป็ น กิจจะลักษณ ะเลยว่าถ้ าวันออกอีดบวช 6 รายอแน
จะต้องละหมาดตัสบีห์เสมอไป ก็จะเข้าข่ายค้านกับสุนนะฮ์ได้
สรุปแล้ว หะดีษเรื่องการละหมาดตัสบีห์ – ตามทัศนะของผู้เขียน – ถือว่าเป็ น
“ห ะ ดี ษ ห ะ สั น ลิ ฆ็ อ ย ริ ฮิ ”
คือเป็นหะดีษที่สวยงามเพราะได้รับการสนับสนุนจากหะดีษกระแสอื่นๆ อีกจานวนมาก
ดังข้อมูลที่ได้นาเสนอไปแล้วนั้น
ส่วนในเรื่องเวลาการปฏิบัติละหมาดตัสบีห์ ตามหะดีษซึ่งรายงานมาโดยอับดุลลอฮ์
บินอัมร์ บินอัลอาศ ร.ฎ. ดังที่บันทึกโดยอะบูดาวูด หะดีษที่ 1298 ระบุว่า ท่านนะบี
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม ได้แนะนาให้ ละหมาดตัสบีห์หลังจากตะวันคล้อย
(ก่อนละหมาดซุฮ์ริ)
ถ้าหากปฏิบัติในเวลาดังกล่าวไม่ได้ ก็ให้ละหมาดในตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็ได้
ดังข้อความตอนท้ายของหะดีษบทนั้น
และวิธีละหมาดตัสบีห์ตามรูปการณ์ที่ปรากฏในหะดีษของอิบนุอับบาส ร.ฎ.
ที่ผ่ าน มาก็คือ ให้ล ะห ม าด ทั้ ง 4 ร็อ กอะฮ์โดย ให้ สะลามเพี ย งค รั้ งเดี ย ว
ไม่ว่าจะเป็นการละหมาดตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน ดังคากล่าวของมุบาร็อกปูรี [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬
‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 595]
‫اب‬‫و‬‫َبلص‬ ‫عمل‬‫أ‬ ‫وهللا‬

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

โปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind mapโปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind mapChainarong Maharak
 
ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...
ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...
ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...krutitirut
 
ใบความรู้ สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้  สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheetใบความรู้  สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้ สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheetPrachoom Rangkasikorn
 
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้เทวัญ ภูพานทอง
 
แบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี งานบ้าน 10 ข้อ
แบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี  งานบ้าน 10 ข้อแบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี  งานบ้าน 10 ข้อ
แบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี งานบ้าน 10 ข้อโรงเรียนอนุบาลระนอง
 
สารคดีชีวประวัติ มารี คูรี
สารคดีชีวประวัติ มารี คูรีสารคดีชีวประวัติ มารี คูรี
สารคดีชีวประวัติ มารี คูรีdokdai
 
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์คุณานนต์ ทองกรด
 
บทสวดมนต์ประจำวัน
บทสวดมนต์ประจำวันบทสวดมนต์ประจำวัน
บทสวดมนต์ประจำวันPanda Jing
 
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้Ploykarn Lamdual
 
ความเป็นครู กลุ่มที่ 1 d12
ความเป็นครู  กลุ่มที่ 1 d12ความเป็นครู  กลุ่มที่ 1 d12
ความเป็นครู กลุ่มที่ 1 d12Aon Lalita
 
หน่วยที่ 3 การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้
หน่วยที่ 3  การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้หน่วยที่ 3  การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้
หน่วยที่ 3 การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้ขนิษฐา ทวีศรี
 
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3niralai
 
ใบความรู้ สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้  สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheetใบความรู้  สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้ สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheetPrachoom Rangkasikorn
 
ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4page
ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4pageภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4page
ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4pagePrachoom Rangkasikorn
 
คู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทองคู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทองniralai
 
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3เกษสุดา สนน้อย
 

Mais procurados (20)

โปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind mapโปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind map
 
ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...
ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...
ตารางวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่...
 
บทที่ ๑
บทที่ ๑บทที่ ๑
บทที่ ๑
 
ใบความรู้ สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้  สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheetใบความรู้  สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้ สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheet
 
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2
 
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
 
แบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี งานบ้าน 10 ข้อ
แบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี  งานบ้าน 10 ข้อแบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี  งานบ้าน 10 ข้อ
แบบทดสอบวัดมาตรฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี งานบ้าน 10 ข้อ
 
สารคดีชีวประวัติ มารี คูรี
สารคดีชีวประวัติ มารี คูรีสารคดีชีวประวัติ มารี คูรี
สารคดีชีวประวัติ มารี คูรี
 
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม1
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม1เอกสารประกอบการเรียนเล่ม1
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม1
 
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
 
16
1616
16
 
บทสวดมนต์ประจำวัน
บทสวดมนต์ประจำวันบทสวดมนต์ประจำวัน
บทสวดมนต์ประจำวัน
 
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
 
ความเป็นครู กลุ่มที่ 1 d12
ความเป็นครู  กลุ่มที่ 1 d12ความเป็นครู  กลุ่มที่ 1 d12
ความเป็นครู กลุ่มที่ 1 d12
 
หน่วยที่ 3 การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้
หน่วยที่ 3  การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้หน่วยที่ 3  การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้
หน่วยที่ 3 การเขียนเรื่องจากคำที่กำหนดให้
 
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
 
ใบความรู้ สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้  สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheetใบความรู้  สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet
ใบความรู้ สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet
 
ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4page
ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4pageภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4page
ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา2+585+55t2his p05 f01-4page
 
คู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทองคู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทอง
 
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
 

Destaque

حكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلامية
حكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلاميةحكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلامية
حكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلاميةOm Muktar
 
حقيقة دعوة الأخوان المسلمين
حقيقة دعوة الأخوان المسلمين  حقيقة دعوة الأخوان المسلمين
حقيقة دعوة الأخوان المسلمين Om Muktar
 
شيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلام
شيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلامشيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلام
شيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلامOm Muktar
 
توضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمان
توضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمانتوضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمان
توضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمانOm Muktar
 
The Ash’aris in the Scales of Ahl us-Sunnah
The Ash’aris in the Scales of Ahl us-SunnahThe Ash’aris in the Scales of Ahl us-Sunnah
The Ash’aris in the Scales of Ahl us-SunnahOm Muktar
 
دفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمن
دفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمندفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمن
دفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمنOm Muktar
 
A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!
A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!
A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!Om Muktar
 
مدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسية
مدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسيةمدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسية
مدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسيةOm Muktar
 
الاستغاثة في الرد على البكري
الاستغاثة في الرد على البكريالاستغاثة في الرد على البكري
الاستغاثة في الرد على البكريOm Muktar
 
التكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيلي
التكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيليالتكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيلي
التكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيليOm Muktar
 
Capital V #5 The Dynamic Identity of Nexus
Capital V #5 The Dynamic Identity of NexusCapital V #5 The Dynamic Identity of Nexus
Capital V #5 The Dynamic Identity of NexusLPEA
 
Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...
Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...
Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...LPEA
 
Popular Things to do in India
Popular Things to do in IndiaPopular Things to do in India
Popular Things to do in IndiaIndia Mall
 
Energy-Catalogue
Energy-CatalogueEnergy-Catalogue
Energy-CatalogueRalph A.
 
Winter Destinations of India Tours
Winter Destinations of India ToursWinter Destinations of India Tours
Winter Destinations of India ToursIndia Mall
 
Summer Destinations India Tours
Summer Destinations India ToursSummer Destinations India Tours
Summer Destinations India ToursIndia Mall
 
Golden triangle tour india
Golden triangle tour indiaGolden triangle tour india
Golden triangle tour indiaIndia Mall
 
Question 1 media evaluation (memory stick)
Question 1 media evaluation (memory stick)Question 1 media evaluation (memory stick)
Question 1 media evaluation (memory stick)harrydarling777
 
India Tours beaches of Odisha
India Tours beaches of OdishaIndia Tours beaches of Odisha
India Tours beaches of OdishaIndia Mall
 

Destaque (20)

حكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلامية
حكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلاميةحكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلامية
حكم الصلح مع اليهود في ضوء الشريعة الإسلامية
 
حقيقة دعوة الأخوان المسلمين
حقيقة دعوة الأخوان المسلمين  حقيقة دعوة الأخوان المسلمين
حقيقة دعوة الأخوان المسلمين
 
شيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلام
شيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلامشيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلام
شيخ الإسلام ابن تيمية والولاية السياسية الكبرى في الإسلام
 
توضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمان
توضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمانتوضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمان
توضيح وبيان من الشيخ عبد الله الغنيمان
 
The Ash’aris in the Scales of Ahl us-Sunnah
The Ash’aris in the Scales of Ahl us-SunnahThe Ash’aris in the Scales of Ahl us-Sunnah
The Ash’aris in the Scales of Ahl us-Sunnah
 
دفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمن
دفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمندفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمن
دفاع أهل السنة والإيمان عن حديث خلق آدم على صورة الرحمن
 
A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!
A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!
A Call from the Towers About the Ignorance of Yusuf Bowers!
 
مدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسية
مدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسيةمدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسية
مدارك النظر في السياسة بين التطبيقات الشرعية والانفعالات الحماسية
 
الاستغاثة في الرد على البكري
الاستغاثة في الرد على البكريالاستغاثة في الرد على البكري
الاستغاثة في الرد على البكري
 
التكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيلي
التكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيليالتكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيلي
التكفير وضوابطه ـ الشيخ إبراهيم الرحيلي
 
Capital V #5 The Dynamic Identity of Nexus
Capital V #5 The Dynamic Identity of NexusCapital V #5 The Dynamic Identity of Nexus
Capital V #5 The Dynamic Identity of Nexus
 
Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...
Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...
Capital V #4 Creating a Hub for Innovation: Roundtable Venture Capital in Lux...
 
Popular Things to do in India
Popular Things to do in IndiaPopular Things to do in India
Popular Things to do in India
 
Energy-Catalogue
Energy-CatalogueEnergy-Catalogue
Energy-Catalogue
 
Winter Destinations of India Tours
Winter Destinations of India ToursWinter Destinations of India Tours
Winter Destinations of India Tours
 
Summer Destinations India Tours
Summer Destinations India ToursSummer Destinations India Tours
Summer Destinations India Tours
 
Golden triangle tour india
Golden triangle tour indiaGolden triangle tour india
Golden triangle tour india
 
Question 1 media evaluation (memory stick)
Question 1 media evaluation (memory stick)Question 1 media evaluation (memory stick)
Question 1 media evaluation (memory stick)
 
India Tours beaches of Odisha
India Tours beaches of OdishaIndia Tours beaches of Odisha
India Tours beaches of Odisha
 
the-ugly-truth (1)
the-ugly-truth (1)the-ugly-truth (1)
the-ugly-truth (1)
 

Semelhante a รายอแน-ออกอีดบวช 6, ละหมาดตัสบีห์

กุนูตศุบหฺ
กุนูตศุบหฺกุนูตศุบหฺ
กุนูตศุบหฺsunnahstudent
 
ละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมาน
ละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมานละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมาน
ละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมานsunnahstudent
 
(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมาน
(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมาน(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมาน
(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมานsunnahstudent
 
วิเคราะห์ฮะดีษ
วิเคราะห์ฮะดีษวิเคราะห์ฮะดีษ
วิเคราะห์ฮะดีษMuttakeen Che-leah
 
Th twaijiriy fadhail_alsiyam
Th twaijiriy fadhail_alsiyamTh twaijiriy fadhail_alsiyam
Th twaijiriy fadhail_alsiyamLoveofpeople
 
เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)
เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)
เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)Om Muktar
 
Th faisal siyam_makna_hukum_fadail
Th faisal siyam_makna_hukum_fadailTh faisal siyam_makna_hukum_fadail
Th faisal siyam_makna_hukum_fadailLoveofpeople
 
หลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรม
หลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรมหลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรม
หลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรมIslamic Invitation
 
ผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัช
ผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัชผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัช
ผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัชKumobarick Achiroki
 
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีม
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีมตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีม
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีมWarakorn Pradabyat
 
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิตTongsamut vorasan
 
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิตWataustin Austin
 
บาลี 03 80
บาลี 03 80บาลี 03 80
บาลี 03 80Rose Banioki
 

Semelhante a รายอแน-ออกอีดบวช 6, ละหมาดตัสบีห์ (16)

กุนูตศุบหฺ
กุนูตศุบหฺกุนูตศุบหฺ
กุนูตศุบหฺ
 
ละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมาน
ละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมานละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมาน
ละหมาดตะรอวีหฺ เขียนโดย อารีฟีน แสงวิมาน
 
(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมาน
(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมาน(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมาน
(ล่าสุดฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ละหมาดตะรอวีห์ โดย อาริฟีน แสงวิมาน
 
Pramote tarorveah
Pramote tarorveahPramote tarorveah
Pramote tarorveah
 
วิเคราะห์ฮะดีษ
วิเคราะห์ฮะดีษวิเคราะห์ฮะดีษ
วิเคราะห์ฮะดีษ
 
Th twaijiriy fadhail_alsiyam
Th twaijiriy fadhail_alsiyamTh twaijiriy fadhail_alsiyam
Th twaijiriy fadhail_alsiyam
 
Pramote maolid
Pramote maolidPramote maolid
Pramote maolid
 
เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)
เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)
เข้าเดือน ออกอีด (ภาษาไทย)
 
Th faisal siyam_makna_hukum_fadail
Th faisal siyam_makna_hukum_fadailTh faisal siyam_makna_hukum_fadail
Th faisal siyam_makna_hukum_fadail
 
Mazhab
MazhabMazhab
Mazhab
 
หลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรม
หลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรมหลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรม
หลากหลายคำถามที่นำชาวชีอะฮฺสู่สัจธรรม
 
ผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัช
ผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัชผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัช
ผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์จากอัลลอฮให้อยู่ใต้ร่มเงาของอรัช
 
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีม
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีมตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีม
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัตตะฮ์รีม
 
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
 
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
1 03+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาค+สมาสและตัทธิต
 
บาลี 03 80
บาลี 03 80บาลี 03 80
บาลี 03 80
 

Mais de Om Muktar

الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلمالردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلمOm Muktar
 
بلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنىبلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنىOm Muktar
 
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفيةالدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفيةOm Muktar
 
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوانالتاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوانOm Muktar
 
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...Om Muktar
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่Om Muktar
 
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...Om Muktar
 
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)Om Muktar
 
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)Om Muktar
 
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبيةأمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبيةOm Muktar
 
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلاميةOm Muktar
 
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمةOm Muktar
 
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذيعقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذيOm Muktar
 
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطيالأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطيOm Muktar
 
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...Om Muktar
 
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقديةالإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقديةOm Muktar
 
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقدمنهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقدOm Muktar
 
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويممنهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويمOm Muktar
 
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدةالإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدةOm Muktar
 
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباريمنهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباريOm Muktar
 

Mais de Om Muktar (20)

الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلمالردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
 
بلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنىبلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنى
 
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفيةالدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
 
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوانالتاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
 
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
 
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
 
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
 
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
 
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبيةأمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
 
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
 
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
 
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذيعقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
 
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطيالأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
 
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
 
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقديةالإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
 
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقدمنهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
 
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويممنهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
 
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدةالإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
 
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباريمنهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
 

รายอแน-ออกอีดบวช 6, ละหมาดตัสบีห์

  • 1. 1 รายอแน ‫بعد...؛‬‫و‬ ‫هللا‬ ‫رسول‬ ‫عىل‬ ‫سالم‬‫ل‬‫ا‬‫و‬ ‫الصالة‬‫و‬ ‫امحلدهلل‬ ก า ร ถื อ ศี ล อ ด สุ น น ะ ฮ์ 6 วันในเดือนเชาวาลถือเป็นสุนนะฮ์ตามที่มีปรากฏในอัลหะดีษที่รายงานโดยอะบูอัยยูบ อัลอันศอรี (เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ) ว่า “ผู้ใดถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน แล้วตามมาด้วยการถือศีลอดอีก 6 วันในเดือน เชาวาล เท่ากับเขาถือศีลอดตลอดทั้งปี” [บันทึกโดย มุสลิม, เลขที่ 1164] ส่วนเมื่อถือศีลอดสุนนะฮ์ในเดือนเชาวาลครบ 6 วันแล้ว ในวันถัดมาคือวันที่ 8 เดือนเชาวาลชาวม ลายูถือเอาเป็ นวัน รายอแน (รายอ อันนั ม -อีดบวชหก ) ก็คงถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่มิใช่เรื่องของศาสนา เพราะคาว่า ฮารีรายอแน คงเรียกตามภาษา อี ด ต า ม ศ า ส น บั ญ ญั ติ ( ٌّ‫ي‬ ِ‫ع‬ ْ‫ر‬َ‫ٌٌّّش‬‫د‬ْ‫ي‬ ِ‫ع‬ ) นั้ น ห ม า ย ถึ ง วันสาคัญทางศาสนาที่มีกรณีเกี่ยวเนื่องกับการประกอบศาสนกิจเสร็จสิ้นแล้วมีการแสดงความยิ น ดี ป ร า โ ม ท ย์ เ ช่ น อี ดิ ล ฟิ ฏ ร์ แ ล ะ วั น อ ะ เ ร า ะ ฟ ะ ฮ์ ซึ่งเป็นอีดสาหรับผู้ประกอบพิธีหัจญ์ซึ่งไปร่วมชุมนุมในการวุกุฟที่อะเราะฟะฮ์ อีดิลอัฎหา ห รื อ อี ด หั จ ญี ร ว ม ถึ ง วั น ตั ช รี ก อี ก 3 วั น เ ป็ น ต้ น อีดตามนัยนี้ เป็นเรื่องของศาสนามีข้อควรปฏิบัติอันเป็นเรื่องของการประกอบศาสนกิจ (อิบาดะฮ์) เช่น การละหมาดอีด การจ่ายซะกาตุลฟิฏร์ การฟังคุตบะฮ์ การเชือดอุฎหิยะฮ์ (กุรบาน) และการห้ามถือศีลอดในวันอีดทั้งสอง ฯลฯ ดั ง นั้ น ก า ร เ รี ย ก “ร อ ย อ แ น ” ห รื อ อี ด ห ก ถ้ า เรี ย ก ต า ม ค ว าม ห ม า ย ท างภ า ษ าแ ล ะ ป ร ะ เพ ณี ก็ เป็ น สิ่งที่ ท า ไ ด้ แต่ถ้าเรียกตามความหมายที่ศาสนาบัญญัติเอาไว้ (อิศฏิลาหี้ ย์) ก็ถือว่าเป็นการอุตริกรรม (บิดอะฮ์) เพราะเป็ นสิ่งที่ไม่มีในหลักการของศาสนา ไม่มี สุนนะฮ์ระบุว่าในวันที่ 8 เดือ นเชาวาล ห ลังจากถื อศีลอด 6 วัน ครบแล้ วให้ ถือเอาวันนั้ นเป็ นวันอี ด การไปกาหนดเช่นนั้นทั้งๆ ที่ไม่มีตัวบทรับรองจึงถือเป็นอุตริกรรม (บิดอะฮ์)
  • 2. 2 ในประเทศอียิปต์ก็มีเรื่องในทานองนี้ คือ เรียกวันออกบวช 6 ว่า “อีดิลอับรอร” (ٌِّ‫رار‬ْ‫ب‬َ‫أل‬‫ا‬ٌٌّّ‫د‬ْ‫ي‬ِ‫)ع‬ โด ยผู้ คนจะไปรวม ตัวกัน ที่มั สญิ ดอัลหุ สัยน์ หรือมั สญิ ดซัยนั บ แล้วก็มีการกลับไปทาอาหารพิเศษ เช่น ข้าวหุงกับนมรับประทานกันที่บ้าน ชัยค์มุหัมมัด อั บ ดุ ส ส ะ ล า ม คิ ฎิ ร อั ช ชุ ก็ อ ย รี ก ล่ า ว ว่ า การกระทาดังกล่าวเป็นอุตริกรรมและท่านเรียกอีดนี้ว่า “อีดิลฟุจญาร” หมายถึงอีดของคนชั่ว ไม่ใช่ “อีดิลอับรอร” คือ อีดของคนดี [มุหัมมัด อับดุสสะลาม คิฎิร อัชชุก็อยรี, “อัสสุนัน วัลมุบตะดะอาตฯ” หน้า 163] อิบนุตัยมียะฮ์ กล่าวว่า “ส่วน ก าร ยึด ช่ วงเวลาใด ช่วงเว ลาห นึ่ งว่าเป็ น ช่ว งเวลาที่ ป ระ เสริ ฐ น อ ก เห นื อ ไ ป จ า ก ช่ ว งเว ล า ที่ มี ร ะ บุ ไว้ แ บ บ อ ย่ า งท า งศ าส น า เช่ น บางคืนในเดือนเราะบีอุลเอาวัลที่เรียกว่า 'คืน เมาลิด' หรือบางคืนในเดือนเราะญับ หรือวันที่ 18 ของเดือนซุลหิจญะฮ์ หรือศุกร์แรกของเดือนเราะญับ หรือวันที่ 8 เ ดื อ น เ ช า ว า ล ซึ่ ง ผู้ ไ ร้ ค ว า ม รู้ เ รี ย ก มั น ว่ า 'อี ดิ ล อั บ ร อ ร ' ล้วนแล้วแต่เป็นบิดอะฮ์อุตริกรรมที่บรรดาสะลัฟ (ชนยุคแรก) ไม่ได้สนับสนุนให้กระทา
  • 3. 3 และพวกเขาก็ไม่เคยปฏิบัติ วัลลอฮุสุบหานะฮุวะตะอาลาอะอ์ลัม” [อิบนุตัยมียะฮ์, “มัจญ์มูอ์ อัลฟะตาวา” เล่ม 25 หน้า 298 และ “อัลอิคติยาร อัลฟิกฮียะฮ์” หน้า 199] อิ บ นุ ห ะ ญั ร อั ล ฮั ย ต ะ มี ก ล่ า ว ว่ า “เ ป็ น ที่ ชั ด เ จ น ยิ่ ง ว่ า ไ ม่ อ นุ ญ า ต ใ ห้ ผู้ ใ ด ยึ ด มั่ น แ ล ะ ศ รั ท ธ า ว่ า วั น ที่ 8 ของเดือนเชาวาลเป็นวันอีดที่มีถูกบัญญัติไว้ในอิสลาม ดั่งเช่นวันอีดิลฟิ ฏร์และอีดิลอัฎหา ยิ่ ง ก ว่ า นั้ น อุ ล ะ ม า อ์ บ า ง ท่ า น ถึ ง กั บ ร ะ บุ ว่ า ไม่อนุญาตให้เรียกวันนั้นว่าวันอีดที่ควรแก่การแสดงออกด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ของวันอีด เช่ น ก า รสว ม เสื้ อ ผ้ า ที่ สวย งาม ก ารจั ด เลี้ ย งอ าห า รที่ ห ลา ก ห ลาย ช นิ ด และการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เฉกเช่นการปฏิบัติในวันอีดิลฟิฏร์และอีดิลอัฎหา” [อิบนุหะญัร อัลฮัยตะมี, “อัลฟะตาวา อัลกุบรอ อัลฟิกฮียะฮ์” เล่ม 1 หน้า 272] ชัยค์มุหัมมัด อิบนุศอลิห์ อัลอุษัยมีน กล่าวว่า ‫نون‬‫يظ‬‫ناس‬‫ل‬‫ا‬‫بعض‬ ‫ن‬‫أ‬‫ار‬‫ر‬‫ب‬‫ال‬ ‫يد‬‫ع‬ ‫نه‬‫و‬ّ‫م‬‫س‬‫ي‬‫و‬ ‫يد‬‫ع‬ ‫نه‬‫أ‬‫نون‬‫يظ‬‫شهر‬‫ل‬‫ا‬‫هذا‬ ‫من‬‫ثامن‬‫ل‬‫ا‬‫يوم‬‫ل‬‫ا‬ ،‫يح‬‫بصح‬ ‫ليس‬‫وهذا‬‫جيوز‬ ‫ال‬ ‫و‬‫أ‬‫يامه‬‫ص‬‫جيوز‬‫هل‬ ‫ل‬‫سأ‬‫ي‬ ‫بعضهم‬ ‫ن‬‫ا‬ ‫حىت‬‫نه‬‫و‬‫ك‬ ‫تقاد‬‫ع‬‫ا‬ :‫عين‬‫أ‬ ‫ال‬‫و‬‫ش‬ ‫من‬‫ثامن‬‫ل‬‫ا‬‫يوم‬‫ل‬‫فا‬ ،‫يح‬‫بصح‬ ‫ليس‬‫ا‬ً‫يد‬‫ع‬‫يوم‬ ‫هو‬ ‫منا‬‫ا‬‫و‬ ‫للفجار‬ ‫وال‬ ‫ار‬‫ر‬‫ب‬‫لل‬ ‫ا‬ً‫يد‬‫ع‬ ‫ليس‬ ‫ة‬ّ‫ي‬‫ع‬‫رش‬‫ل‬‫ا‬ ‫ياد‬‫ع‬‫ال‬ ‫ن‬‫ل‬ ‫ا؛‬ً‫بد‬‫أ‬ ‫يد‬‫لع‬‫ا‬ ‫شعائر‬ ‫من‬ٌ‫ء‬‫يش‬‫فيه‬ ‫ث‬ َ‫حيد‬‫ن‬‫أ‬‫جيوز‬‫وال‬،‫ايم‬‫ال‬‫سائر‬‫ك‬ ،‫اها‬‫و‬‫س‬ ‫يد‬‫ع‬ ‫سالم‬‫اال‬ ‫يف‬ ‫ليس‬‫و‬ ،‫امجلعة‬ ‫يد‬‫ع‬‫و‬ ‫حضى‬‫ال‬ ‫يد‬‫ع‬‫و‬ ‫الفطر‬ ‫يد‬‫ع‬ :‫ثالثة‬ “ มุ ส ลิ ม บ า ง ค น มี ค ว า ม เ ชื่ อ ว่ า วั น ที่ 8 ข อ ง เ ดื อ น เ ช า ว า ล เ ป็ น วั น อี ด แ ล ะ พ ว ก เ ข า เ รี ย ก วั น นี้ ว่ า "อีดิลอับรอร"จนถึงกับมีบางคนในหมู่พวกเขาถามว่า "อนุญาตให้ถือศีลอดในวันนี้ หรือไม่
  • 4. 4 เพราะวันนี้ เป็นวันอีดิลอับรอร?" ความเชื่อที่ว่าวันนี้ เป็ นวันอีดไม่ถูกต้องเพราะวันที่ 8 ของเดือนเชาวาลไม่ได้เป็นวันอีดสาหรับผู้ปฏิบัติดี (อับรอร) หรือผู้ปฏิบัติไม่ดี (ฟุจญาร) แต่มันเป็ นเพียงวันธรรมดาๆ วันหนึ่งที่ไม่อนุญาตให้มีการอุตริด้วยพิธีกรรมต่างๆ ที่เป็ นสัญลักษณ์ของวันอีดเป็ นอันขาด และจงอย่าละทิ้ งการถือศีลอดในวันนั้ น แ ละจ งอ ย่ าอุ ต ริ ด้ วย ก าร จั ด เลี้ ย งอ าห าร ต่ างๆ แ ละ ก ารให้ บ ริ จ าค ท าน เพราะแท้จริงบัญญัติวันอีดในอิสลามมีเพียง 3 วันเท่านั้น นั่นคือ อีดิลฟิ ฏร์ อีดิลอัฎหา และอีดวันศุกร์ และจะไม่มีวันอีดในอิสลามอื่นจากนั้น” binothaimeen.net/content/108 ละหมาดตัสบีห์ ละหมาดตัสบีห์เป็นละหมาดสุนัตชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบปฏิบัติแตกต่างไปจากละหมาดโ ดยทั่วๆ ไป และหะดีษเกี่ยวกับละหมาดตัสบีห์ก็เป็นหะดีษที่ค่อนข้างมีปัญหาในด้านสายรายงาน ด้ ว ย เ ห ตุ นี้ บรรดานักวิชาการจึงมีทัศนะขัดแย้งกันอย่างมากเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของหะดีษเรื่องละหมา ดตัสบีห์ อิบนุ ลเญ าซี กล่าวว่า หะดีษเรื่องละห มาด ตัสบีห์ เป็ น หะดี ษเมาฎู อ์ หรือหะดีษที่ถูกกุขึ้นมา [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 596] อิมามอันนะวะวี ได้กล่าวว่า อัลอุก็อยลี, อิบนุลอะเราะบี และนักวิชาการอื่นๆ กล่าวว่า ไม่ มี ห ะดี ษ เศ า ะหี้ ห์ แ ล ะห ะดี ษ ห ะสั น เล ย ใ น เรื่ อ ง ล ะห ม าด ตั ส บี ห์ (คือเป็นหะดีษเฎาะอีฟทั้งหมด) [“‫ح‬‫ع‬‫أ‬‫مو‬‫أ‬‫ج‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 4 หน้า 55] แ ต่ ตั ว อิ ม า ม อั น น ะ ว ะ วี เอ ง ก ลั บ ลั งเล แ ล ะ สั บ ส น ใ น เรื่ อ ง นี้ โดยท่านได้กล่าวสอดคล้องกับคากล่าวของนักวิชาการข้างต้นว่า หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ เป็นหะดีษเฎาะอีฟ [“‫ح‬‫ع‬‫أ‬‫مو‬‫أ‬‫ج‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 4 หน้า 5] แต่ขณะเดียวกันท่านกลับกล่าวใน “ ِ‫َات‬‫غ‬ُّ‫ل‬‫ل‬‫ا‬َ‫و‬ ِ‫ء‬‫أ‬ ‫أ‬‫ْس‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ذ‬‫أ‬َ‫”َت‬ ว่า หะดีษเรื่องละหมาด ตั ส บี ห์ เป็ น ห ะดี ษ ห ะสั น แ ละ ใน “ ‫ح‬‫ر‬ َ‫َك‬ ‫أ‬‫ذ‬ َ‫ل‬ َ‫ا‬” ข อ งท่ า น ห น้ า 168-169 ก็โน้มเอียงไปในด้านการยอมรับความหะสันของละหมาดตัสบีห์นี้
  • 5. 5 เช่ น เ ดี ย ว กั บ อิ บ นุ ห ะ ญั ร อั ล อั ส เ ก า ะ ล า นี ที่ ก ล่ า ว ว่ า สายรายงานของหะดีษเรื่อละหมาดตัสบีห์ทั้งหมด เป็ นสายรายงานที่เฎาะอีฟ [“ ‫ح‬‫ص‬‫أ‬‫ي‬ِ‫خ‬‫أ‬‫ل‬َ‫ت‬ ِ ‫أ‬‫ِي‬‫ب‬َ‫ح‬‫أ‬‫ل‬‫”ا‬ เล่ม 2 หน้า 7] แ ต่ ท่ า น ก ลั บ ก ล่ า ว ใ น ลั ก ษ ณ ะ “โ น้ ม เ อี ย ง ” ไปในทางยอมรับหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์โดยปรากฏใน “ِ‫ر‬َ‫َك‬‫أ‬‫ف‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ج‬ِ‫ئ‬‫ا‬َ‫ت‬َ‫ن‬” และ “‫ةح‬َ‫ر‬ِّ‫ف‬َ‫ك‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ال‬ َ‫ص‬ِ‫خ‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” แ ละได้ ย อ ม รั บ ห ะ ดี ษ อ ย่ าง “ชั ด เจน ” ใน “ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ث‬‫أ‬‫ي‬ ِ‫اد‬ َ‫ح‬ َ‫أ‬ ‫أ‬‫ن‬ َ‫ع‬ ٌ‫ة‬َ‫ب‬ِ‫و‬ ‫أ‬‫ج‬ َ‫أ‬” ว่ า หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ เป็ นหะดีษหะสันลิฆ็อยริฮิ อัลอัลบานีย์ [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ة‬ َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫”ُت‬ เล่ม 1 หน้ า 419]; อะห์มัด มุหัมมัด ชากิร [“ ‫ح‬‫ع‬ِ‫ام‬َ‫ج‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬‫ح‬‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ح‬ َّ‫لص‬‫ح‬‫ا‬ ” เล่ม 2 หน้า 352] และมุบาร็อกปูรี [“ ‫أ‬‫ى‬ ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้ า 601] กล่าวสอดคล้องกันว่า ภาพรวมของหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ ถือเป็ นหะดีษหะสัน อะบูบักร์ อัลอาญิรี, อะบูมุหัมมัด อับดุรเราะหี้ ม อัลมิศรี, อะบุลหะสัน อัลมุก็อดดิซี ถือว่า หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ เป็ นหะดีษเศาะหี้ ห์ ดังคากล่าวของอัลมุนซิรี [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 598] ก่ อ น ที่ จ ะ วิ เค ร า ะ ห์ ข้ อ เท็ จ จ ริ ง ข อ งค ว า ม ขั ด แ ย้ ง ข้ า ง ต้ น ก็จะให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบเนื้อหาของหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์ดังต่อไปนี้ มีรายงานว่า ท่านนะบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวแก่ลุงของท่าน คือท่านอับบาส บินอับดุลมุฏฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
  • 6. 6 “ลุงจ๋ า! นี้ แ น่ ะ ฉั น จ ะ ม อ บ ให้ ลุ ง 10 ป ระ ก าร เมื่ อ ลุ งป ฏิ บั ติ มั น พ ร ะ อ ง ค์ อั ล ล อ ฮ์ ก็ จ ะ ท ร ง อ ภั ย โ ท ษ ใ ห้ ลุ ง ใ น บ า ป ข อ ง ลุ ง ทั้ งต อ น เริ่ม ต้ น แ ละต อ น สุด ท้ าย ขอ งมัน , ทั้ งให ม่ แ ละทั้ งเก่ าขอ งมัน , ทั้งที่ผิดพลาดและที่เจตนาของมัน, ทั้งเล็กและทั้งใหญ่ของมัน, ทั้งที่ลับและที่แจ้งของมัน (นี่แหละคือการอภัยโทษ) 10 ประการ (ที่ฉันกล่าวไว้ และวิธีการที่จะให้ได้มาซึ่งการอภัยโทษ 10 ป ร ะ ก า ร ดั ง ก ล่ า ว ก็ คื อ ) ใ ห้ ลุ งล ะ ห ม า ด 4 ร็อ ก อ ะ ฮ์ ใ น ทุ ก ๆ ร็อกอะฮ์ให้ อ่านฟาติหะฮ์และอ่านสูเราะฮ์ เมื่อลุงอ่านสูเราะฮ์เสร็จในร็อกอะฮ์แรกแล้ว ก็ให้ กล่าวในขณะกาลังยืนตรง (ก่อนรุกูอ์) ว่า “สุบหานัลลอฮ์, วัลหัมดุลิลลาฮ์, ว ะ ล า อิ ล า ฮ ะ อิ ล ลั ล ล อ ฮ์ , วั ล ล อ ฮุ อั ก บั ร ” 15 ค รั้ ง , ต่ อ ม าให้ ลุ งก้ ม รุ กู อ์ แ ละ ให้ ก ล่ าว อ ย่างนั้ น ใน ข ณ ะ รุกู อ์ 10 ค รั้ ง, ต่ อ ม า ให้ เงยศีรษะขึ้ นและกล่าวมันขณะยืนตรง (อิอ์ติดาล) อีก 10 ครั้ง, ต่อมาก็ให้ ลงสุญูด
  • 7. 7 (ค รั้ ง แ ร ก ) แ ล ะ ใ ห้ ก ล่ า ว มั น (ใ น ข ณ ะ สุ ญู ด ) 10 ค รั้ ง , ต่อมาให้เงยศีรษะขึ้นจากสุญูดและให้อ่านมัน (ขณะนั่งพักระหว่างสองสุญูด) 10 ครั้ง, ต่อมาก็ให้ ลงสุญูด (ครั้งที่สอง) และให้ อ่านมัน (ขณะกาลังสุญูด) อีก 10 ครั้ง, ต่อมาก็ให้เงยขึ้นจากสุญูด (ขึ้นมานั่งก่อนลุกขึ้นยืนทาร็อกอะฮ์ที่สอง) และให้อ่านมัน (ขณะนั่ง) อีก 10 ครั้ง, รวมแล้วเป็ น 75 ครั้งในแต่ละร็อกอะฮ์, ให้ลุงทาอย่างนั้นใน 4 ร็อกอะฮ์ หากลุงมี ความสามารถ ก็ให้ ลุงกระทามั นทุ กๆ วัน, หากไม่ สามารถ ก็ให้ ทามันสัปดาห์ละครั้ง, หากไม่สามารถ ก็ให้ทามันเดือนละครั้ง, หากไม่สามารถ ก็ให้ทามันปีละครั้ง, และหากไม่สามารถอีก ก็ให้ลุงทามันสัก 1 ครั้งในชั่วชีวิตลุงก็ได้” [บันทึกโดย อะบูดาวูด หะดีษที่ 1297; อิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1387; อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 1216 และอัลหากิม ใน “ ‫ح‬‫ك‬َ‫ر‬ ‫دأ‬َ‫ت‬ ‫أ‬‫مس‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 1 หน้า 463 โดยรายงานมาจากอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา] อธิบาย-วิเคราะห์ ความจริงหะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์นี้มีรายงานมาหลายกระแสจากเศาะหาบะฮ์จานวน 10 ท่าน ดังจะได้กล่าวต่อไป นั กวิชาการหะดีษได้ ตรวจสอบดูแล้ วป รากฏ ว่า ทุ กๆ ก ระแสของมั น ไ ม่ มี ก ร ะ แ ส ใ ด เ ล ย ที่ จ ะ ถู ก ต้ อ ง ส ม บู ร ณ์ ใ น ตั ว เ อ ง , ทว่าแต่ละกระแสล้วนมีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งสิ้น แ ต่ ก ระแ สข้ างต้ น นี้ ซึ่งเป็ น สาน วน จาก ก ารบั น ทึ ก ข อ งอ ะบู ด าวู ด ถือเป็ นกระแสรายงานที่ดีที่สุดของหะดีษเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีสายรายงานดังต่อไปนี้ 1. อับดุรเราะห์มาน บินบุชร์ บินอัลหะกัม อันนัยสาบูรี 2. มูสา บินอับดุลอะซีซ 3. อัลหะกัม บินอะบาน 4. อิกริมะฮ์ 5. อับดุลลอฮ์ อิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา 6. ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
  • 8. 8 อัลมุนซิรี ได้กล่าวใน “ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ه‬‫أ‬َّ‫الَّت‬َ‫و‬ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫غ‬‫أ‬َّ‫لَّت‬َ‫ا‬” ของท่านว่า “อะบูบักร์ บุ ตรชายของอะบูดาวูดกล่าวว่า ฉันได้ยินบิดาของฉันกล่าวว่า : ในเรื่องละหมาดตัสบีห์นั้น ไม่มีหะดีษใดที่ถูกต้องนอกจากบทนี้ เพียงบทเดียว, และมุสลิม บิ น อั ล หั จ ญ า จ ญ์ (เจ้ า ข อ งห ะ ดี ษ เศ า ะ หี้ ห์ มุ ส ลิ ม ) ก ล่ า ว ว่ า : ไ ม่ ป ร า ก ฏ มี ส า ย ร า ย ง า น ใ ด ใ น ห ะ ดี ษ (ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์ ) นี้ ที่จะสวยงามยิ่งไปกว่าสายรายงานนี้ อีกแล้ว (ท่านหมายถึงการรายงานของอิกริมะฮ์ จากอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ดังข้างต้น)” [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 598] อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี ได้กล่าวใน “‫ح‬‫ة‬َ‫ر‬ِّ‫ف‬َ‫ك‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ال‬ َ‫ص‬ِ‫خ‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” ว่า “บรรดาผู้ รายงานของสายรายงานห ะดีษ บทนี้ ไม่ มี ปั ญ หา! อิ กริมะฮ์ ได้รับการยอมรับจากบุคอรี, อัลหะกัม ก็พอจะเชื่อถือได้, มูสา บินอับดุลอะซีซ ถูกยะห์ยา บิ น ม ะ อี น ก ล่ า ว วิ จ า ร ณ์ ว่ า ฉั น เ ห็ น ว่ า เ ข า ไ ม่ มี ปั ญ ห า ใ ด ๆ และอันนะสาอีก็กล่าวในลักษณะเดียวกัน, อะลี บิน อัลมะดีนี กล่าว (วิจารณ์) ว่า ส า ย ร า ย ง า น นี้ เ ป็ น ห นึ่ ง จ า ก เ งื่ อ น ไ ข ข อ ง ห ะ ดี ษ ห ะ สั น เนื่องจากมันมีหลักฐานยืนยันมากมายที่ช่วยสนับสนุนให้มันมีน้าหนักมากยิ่งขึ้น” [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 599] นี่ คื อ มุมมองของนักวิชาการผู้มีชื่อเสียงหลายท่านเกี่ยวกับสายรายงานของหะดีษข้างต้น แต่ข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการแล้ว สายรายงานของหะดีษบทนี้ ไม่อาจเรียกได้ว่า เป็ นสายรายงานที่เศาะหี้ ห์ หรือสายรายงานที่หะสันได้เลย
  • 9. 9 ทั้งนี้ เพราะผู้รายงานลาดับที่ 2 คือ มูสา บิน อับดุลอะซีซ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 175) และผู้รายงานลาดับที่ 3 คือ อัลหะกัม บินอะบาน (เสียชีวิต ฮ.ศ. 154) นั้ น แม้ทั้ง 2 ท่ าน นั้ น จ ะเป็ น ผู้ ที่ พ อ จะเชื่ อ ถื อ ได้ ( ٌ‫ق‬ ‫أ‬‫و‬ ‫دح‬ َ‫)ص‬ แ ต่ มู สาก็ยั งถู ก วิ จาร ณ์ ว่ า มีความบกพร่องในด้านความทรงจา (ِ‫ظ‬‫أ‬‫ف‬ِ‫ح‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ء‬ ِّ َ‫س‬ ), และอัลหะกัมก็ยังถูกวิจารณ์ว่า มีความผิดพลาด ( ‫َا‬‫ه‬‫أ‬‫و‬َ‫أ‬ٌ‫م‬ ) อยู่บ้าง [โปรดดู “ ِ‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ذ‬‫أ‬َّ‫الَّت‬ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ر‬‫أ‬‫ق‬َ‫ت‬” เล่ม 2 หน้า 285-286 และเล่ม 1 หน้า 190] ผู้ ราย งาน ที่ มี ค วาม บ ก พ ร่อ งด้ าน ค วาม ท ร งจ าแ ละค วาม ผิ ด พ ลาด มิใช่คุณสมบัติของผู้รายงานของหะดีษเศาะหี้ห์หรือหะดีษหะสัน อาจจะกล่าวได้เพียงแค่ว่า สายรายงานหะดีษข้างต้นนั้นมีคุณสมบัติ “ใกล้เคียง” สายรายงานของหะดีษหะสันมากที่สุดเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากความบกพร่องในด้านความทรงจาหรือความผิดพลาดอยู่บ้าง ต า ม ห ลั ก วิ ช า ก า ร ห ะ ดี ษ ถื อ ว่ า เป็ น ข้ อ บ ก พ ร่ อ งเ พี ย งเล็ ก น้ อ ย ซึ่งอาจจะได้รับการเสริมและสนับสนุนจากรายงานอื่นให้มีน้าหนักน่าเชื่อถือขึ้นมาได้ และตามข้อเท็จจริงดังได้กล่าวมาแล้วก็คือ หะดีษบทนี้ ได้รับการสนับสนุน! เพ ราะมี การรายงาน ม าโดย เศาะห าบ ะฮ์ อื่น ๆ รวม ทั้ งห ม ด เป็ น 10 ท่ าน (ด้วยสายรายงานที่ต่อเนื่อง) ดังต่อไปนี้ 1. รายงานมาจากอับดุลลอฮ์ อิบนุอับบาส ร.ฎ. ดังการบันทึกข้างต้น 2. รายงานมาจากอัลฟัฎล์ อิบนุอับบาส ร.ฎ. [บันทึกโดยอะบูนุอัยม์ อัลอัศบะฮานีย์ ใน “ ‫ح‬‫ن‬َ‫َب‬ ‫أ‬‫ر‬‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ل‬‫ح‬‫ا‬َ ‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬َّ‫ت‬‫ح‬‫م‬ ”] 3. รายงานมาจากอับดุลลอฮ์ บินอัมร์ บินอัลอาศ ร.ฎ. (บันทึกโดยอะบูดาวูด หะดีษที่ 1298 และอิบนุชาฮีน ใน “ ‫ح‬‫ب‬‫أ‬‫ي‬ِ‫غ‬‫أ‬َّ‫لَّت‬َ‫ا‬”] 4. รายงานมาจากอะบูรอฟิอ์ ร.ฎ. คนรับใช้ของท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม [บันทึกโดยอัตติรมิซี หะดีษที่ 482 และอิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1386] 5. รายงานมาจากอิบนุอุมัร ร.ฎ. [บันทึกโดยอัลหากิม ใน “ ‫ح‬‫ك‬َ‫ر‬‫دأ‬َ‫ت‬ ‫أ‬‫مس‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” เล่ม 4 หน้า 464] 6. รายงานมาจากอัลอับบาส ร.ฎ. [บันทึกโดยอะบูนุอัยม์ อัลอัศบะฮานี ใน “َ ‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬َّ‫ت‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ح‬‫ا‬ ‫ح‬‫ن‬َ‫َب‬ ‫أ‬‫ر‬‫ح‬‫ق‬”] 7. รายงานมาจากอะลี อิบนุอะบีฏอลิบ ร.ฎ. [บันทึกโดยอัดดาเราะกุฏนี] 8. รายงานมาٌّจากญะอ์ฟัร อิบนุอะบีฏอลิบ ร.ฎ. [บันทึกโดยอิบรอฮีม บินอะห์มัด บินญะอ์ฟัร อัลฆ็อรกี ใน “ ِ‫ئ‬‫ا‬َ‫و‬َ‫ف‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬‫دح‬ ”]
  • 10. 10 9. รายงานมาจากอับดุลลอฮ์ บินญะอ์ฟัร ร.ฎ. [บันทึกโดยอัดดาเราะกุฏนี] 10. รายงานมาจากอุมมุสะละมะฮ์ ร.ฎ. [บันทึกโดยอะบูนุอัยม์ อัลอัศบะฮานีย์ ใน “َ ‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬َّ‫ت‬‫ح‬‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ح‬‫ا‬ ‫ح‬‫ن‬َ‫َب‬ ‫أ‬‫ر‬‫ح‬‫ق‬”] นอกจากนี้หะดีษเรื่องการละหมาดตัสบีห์ ยังถูกรายงานมา “ด้วยสายรายงานที่มุรสัล” จากตาบิอีนอีกหลายท่าน ดังการบันทึกของอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ة‬َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫”ُت‬ เล่ ม 2 ห น้ า 1782] (ห ะ ดี ษ มุ ร สั ล คื อ ห ะ ดี ษ ซึ่ งต า บิ อี น ผู้ ร า ย งา น มิ ได้ ระบุ นามเศาะหาบะฮ์ที่เป็ น คนกลางระหว่างตัวเขากับท่าน เราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไว้ด้วย) อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี ได้กล่าวในการตอบปัญหาหะดีษเรื่องการละหมาดตัสบีห์ว่า “และที่ถูกต้องก็คือ มัน (หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์) อยู่ในระดับหะดีษหะสัน อันเนื่องมาจากมันมีกระแสรายงานมาจานวนมาก ซึ่งทาให้กระแสแรกของมัน (คือกระแสของ อิบนุอับบาส ร.ฎ. ข้างต้น) มีน้าหนักแข็งแรงขึ้นมาได้” [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫ُت‬ِ‫ة‬َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ” เล่ม 2 หน้า 1782] ชัยค์อะห์มัด มุหัมมัด ชากิร นักวิชาการหะดีษชาวอียิปต์ ได้กล่าวว่า “และแน่นอน เราได้อธิบายให้ทราบแล้วถึงสถานภาพผู้รายงานของสายรายงานหะดีษ นี้ (ห มายถึงห ะดีษ ละหม าด ตัสบี ห์ ที่บั น ทึก โดยอัต ติรมิ ซี ห ม ายเลข 482) และจากการอธิบายนั้นทาให้เป็นที่ชัดเจนว่า หะดีษนี้ เป็ นหะดีษหะสัน” [“ ‫ح‬‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ح‬ َّ‫لص‬‫ح‬‫ا‬ ‫ح‬‫ع‬ِ‫م‬‫ا‬َ‫ج‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” ซึ่งเป็นหนังสืออธิบาย หะดีษอัตติรมิซี เล่ม 2 หน้า 352] มุบาร็อกปูรี นักวิชาการหะดีษชาวอินเดีย ได้กล่าวว่า “นักวิชาการมีความเห็นขัดแย้งกันในประเด็นที่ว่า หะดีษเรื่องละหมาดตัสบีห์นั้น เป็ นหะดีษเศาะหี้ ห์, หรือหะดีษหะสัน, หรือหะดีษเฎาะอีฟ, หรือหะดีษเมาฎูอ์?
  • 11. 11 ซึ่งตามรูปการณ์ที่ปรากฏสาหรับฉันก็คือ สถานภาพของมันไม่ลดต่าไปกว่าหะดีษหะสัน (คือ อย่างน้อยต้องเป็นหะดีษหะสัน)” [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 601] และชัยค์อัลอัลบานี นักวิชาการหะดีษผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุดในปัจจุบัน ได้กล่าวว่า “ในสายรายงานของหะดีษบทนี้ มีชื่อมูสา บิน อับดุลอะซีซ ซึ่งรายงานมาจากอัลหะกัม บินอะบาน ทั้งสองท่านนี้ เฎาะอีฟในด้านความทรงจา, อัลหากิมได้บ่งชี้ใน “ ‫كح‬َ‫ر‬‫دأ‬َ‫ت‬ ‫أ‬‫مس‬‫أ‬‫ل‬َ‫ا‬” (เล่ม 1 ห น้ า 463), ร ว ม ทั้ ง อั ซ ซ ะ ฮ ะ บี ด้ ว ย ว่ า (ห ะ ดี ษ เรื่อ งละ ห ม าด ตั สบี ห์ จ าก ก าร รา ย งาน ข อ ง อิ บ นุ อั บ บ า ส ร .ฎ .) เป็ นหะดีษที่มีน้าหนักเพราะได้รับการสนับสนุนจากกระแสอื่น, นี่คือ ความถูกต้อง! เพราะหะดีษเรื่องนี้ มีรายงานมาเป็นจานวนมากมายหลายกระแส และยังมีหลักฐานยืนยัน (ٌ‫د‬ِ‫اه‬ َ‫)ش‬ อีกจานวนม าก ซึ่งผู้ ที่ได้ ประสบพ บ เห็ นมั น ย่อมจะฟั น ธงได้ เลยว่า หะดีษนี้มีพื้นฐานและที่มาที่ไป . . .” [“ِ‫ح‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫م‬‫أ‬‫ل‬‫ا‬ ِ‫ة‬َ‫َك‬ ‫أ‬‫ش‬ِ‫م‬ ‫ح‬‫ق‬‫أ‬‫ي‬ِ‫ق‬‫أ‬َ‫”ُت‬ เล่ม 1 หน้า 419] อย่างไรก็ตามชัยค์อับดุลอะซีซ บินอับดุลลอฮ์ บินบาซ ได้มีทัศนะว่า : บรรดานักวิชาการได้มีความเห็นขัดแย้งกันในหะดีษเกี่ยวกับละหมาดตัสบีห์ และที่ถูกต้องนั้ น ไม่เศาะหี้ ห์ เพราะเป็นหะดีษที่ตัวบทเพี้ ยนและมุงกัร (ถูกปฏิเสธ)
  • 12. 12 และขัดแย้งกับบรรดาหะดีษเศาะหี้ ห์ที่เป็นที่รู้กันจากท่านนะบี ในการละหมาดสุนนะฮ์, ละหมาดซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงบัญญัติให้แก่บ่าวของพระองค์ ในการรุกูอ์ของมัน, การสุญูดของมัน และอื่นจากนั้ น และเพราะเหตุนี้ ที่ถูกต้องคือ คาพูดของผู้ที่กล่าวว่า ไม่ เศาะหี้ ห์ ดังที่เราได้ระบุ ไว้แล้ว และ เพราะว่า บรรดาสายรายงานของมันทั้ งหมดเฎาะอีฟ (อ่อนหลักฐาน) วัลลอฮุวะลียุตเตาฟีก [“‫متنوعة‬ ‫ومقاالت‬ ‫فتاوى‬ ‫”مجموع‬ เล่ม 11 หน้า 426] อีกทั้งชัยค์มุหัมมัด บินศอลิห์ อัลอุษัยมีน ก็มีทัศนะว่า : และสาหรับการละหมาดตัสบีห์นั้น ที่ถูกต้อง มันไม่ใช่สุนนะฮ แต่ทว่ามันเป็นบิดอะฮ์ และหะดีษที่ท่านได้ระบุในคาถามของท่านนั้น (หะดีษที่บันทึกโดยอะบูดาวูด เลขที่ 1297) ไม่เศาะหี้ ห์ อิมามอะห์มัด ขออัลลอฮ์เมตตาต่อท่าน ได้กล่าวว่า “การละหมาดตัสบีห์ ไม่ ได้ ท าให้ ข้ าพ เจ้ าภู มิ ใ จ ” มี ผู้ ถ าม ว่า “ ท าไม ห รือ ?” ท่ าน ก ล่ าว ว่ า “ในนั้ นไม่มี หะดีษเศาะหี้ ห์ เลย” และท่านได้ สะบัดมื อของท่าน เหมื อนกั บว่า มันเป็ นสิ่งต้องห้ าม และอิมามอันนะวาวี กล่าวว่า หะดีษของมันเฎาะอีฟ และในนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงระเบียบการละหมาดที่เป็นที่รู้กัน และ อัลอุก็อยลีกล่าวว่า ในมัน (ละหมาดตัสบีห์) ไม่มีหะดีษที่มั่นคง และอะบูบักร์ อิบนุลอะเราะบี กล่าวว่า “ในมัน ไม่มีหะดีษเศาะหี้ห์ และไม่มีหะดีษหะสัน” [“‫ميي‬‫لعث‬‫ا‬ ‫صاحل‬ ‫بن‬ ‫محمد‬ ‫يخ‬‫الش‬ ‫فضيةل‬ ‫ورسائل‬ ‫فتاوى‬ ‫”مجموع‬ เล่ม 14 หน้า 329]
  • 13. 13
  • 14. 14 อัลกอ ฎี หุ สัยน์ เจ้ าขอ งต ารา “อั ต ต ะฮ์ ซี บ ” และ “อัต ต ะติ ม ม ะฮ์ ” ตลอดจนอัรรูยานีระบุไว้ในตอนท้ายบท อัลญะนาอิซ จากตารา “อัลบะหฺร์” ของท่านว่า ส่งเสริมให้ละหมาด ตัสบีห์เนื่องจากมีหะดีษรายงานมา ซึ่งอิมามอันนะวาวี (ร.ฮ.) กล่าวว่า ในการส่งเสริมให้ละหมาดตัสบีห์นี้มีประเด็นต้องพิจารณาเพราะหะดีษละหมาดตัสบีห์นั้นอ่อน (เฎาะอีฟ) และในการละหมาดตัสบีห์มีการเปลี่ยนระเบียบของการละหมาดที่รู้กัน ดั ง นั้ น จึ ง ส ม ค ว ร ว่ า อ ย่ า ไ ด้ ก ร ะ ท า โ ด ย ไ ม่ มี ห ะ ดี ษ และหะดีษของการละหมาดตัสบีห์นั้นไม่มั่นคง (ไม่เศาะหี้ ห์) คือ หะดีษที่รายงานโดย อิบนุ อับบาส ว่า ท่านเราะสูล (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม) ได้กล่าวแก่ท่านอัลอับบาสว่า : (อัลหะดีษ) . . . รายงานโดย อะบูดาวูด, อิบนุมาญะฮ์, อิบนุคุซัยมะฮ์ในเศาะหี้ ห์ของเขา
  • 15. 15 และคนอื่นๆ และอัตติรมิซีรายงานเอาไว้ จากริวายะฮ์ของอะบีรอฟิอ์ด้วยความหมาย อัตติรมิ ซีกล่าวว่า : ถู กรายงานจากท่านน ะบี (ศ็อลลัลลอฮุ อ ะลัยฮิ วะสัลลัม ) ใน ก าร ละ ห ม าด ตั สบี ห์ ม าก ก ว่ าห นึ่ งห ะ ดี ษ แ ละ อั ต ติ ร มิ ซี ก ล่ าวว่ า : โดยส่วนใหญ่แล้วไม่เศาะหี้ห์ และอิบนุลมุบาร็อก และอีกหลายคนจากนักวิชาการมีความเห็นในเรื่องการละหมาด ตัสบีห์และกล่าวถึงความประเสริฐเอาไว้ “อัลอุก็อยลี กล่าวว่า : ในการละหมาดตัสบีห์ไม่มี หะดีษที่มั่ นคงเลย และอะบูบักร์ อิบนุลอะเราะบี และคนอื่นๆ ก็กล่าวไว้เช่นนี้ ว่าในเรื่องนี้ไม่มีหะดีษเศาะหี้ ห์และหะสันรายงานมา วัลลอฮุอะอ์ลัม” [“‫املهذب‬ ‫رشح‬ ‫”اجملموع‬ เล่ม 3 หน้า 546-547] ชัยค์มุหัมมัด นะญีบ อัลมุฏีอีย์ กล่าวไว้ในเชิงอรรถใต้เส้นเล่มและหน้าเดียวกันนี้ว่า อิ บ นุ ลเญ าซี ได้ ก ล่าวห ะดี ษ นี้ ไว้ ใน ต ารา “อั ล เม าฎู อ าต ” ข อ งเข า และอิบ นุ หะญั รกล่าวว่า : สายรายงานหะดีษ ของอิบ นุ อับ บาสไม่ เป็ นอะไร อยู่ในข่ายเงื่อนไขของหะดีษหะสัน เพราะมีสายรายงานอื่นๆ มาเสริม และอิบนุ ลเญาซี ทาเสียด้วยการระบุหะดีษเรื่องการละหมาด ตัสบีห์เอาไว้ในตารา “อัลเมาฎูอาต” และอัสสะยูฏีกล่าวไว้ใน “อัลละอาลิอ์” โดยถ่ายทอดจากอิบนุ หะญัรว่า “จริงๆ แ ล้ ว สาย ราย งา น ทั้ งห ม ด ข อ งห ะ ดี ษ ละ ห ม า ด ตั สบี ห์ เฎ า ะอี ฟ ( อ่ อ น ) และแท้จริงหะดีษของอิบนุอับบาสนั้นใกล้เคียงจากเงื่อนไขของหะดีษหะสันนอกเสียจากว่าเป็น ห ะ ดี ษ ช าซ (ٌّ‫ذ‬ ‫ا‬َ‫)ش‬ เนื่ อ งจา ก รา ยงาน โด ย รุ น แ ร งไม่ มี สาย ร าย งาน เสริ ม แ ล ะ ยื น ยั น ที่ อ ยู่ ใ น ข่ า ย ก า ร พิ จ า ร ณ า และรูป ของการละห มาดตั สบี ห์ ก็ค้ าน กั บ รูป แ บ บ ของการละหม าดทั่ วไป และแท้จริงมีนักปราชญ์บางท่านได้แต่งตาราในการยืนยันว่าอยู่ในระดับหะสันหลายเล่มด้วยกัน ” [เชิงอรรถ “‫املهذب‬ ‫رشح‬ ‫”اجملموع‬ เล่ม 3 หน้า 547]
  • 16. 16 สัยยิด สาบิก ก็ระบุเรื่องการละหมาดตัสบีห์เอาไว้ในหนังสือ “ฟิกฮุสสุนนะฮ์” ของท่าน และอ้างถึง อัลหาฟิ ซ ว่า : แท้จริง อัลหะดีษนี้ ถูกรายงานจากสายรายงานจานวนมาก และจากกลุ่มหนึ่งจากชนรุ่นเศาะหาบะฮ์ ชั ย ค์ อั ล อั ล บ า นี ก็ไม่ได้ติงระดับของสายรายงานหะดีษที่เป็นหลักฐานในการละหมาดตัสบีห์ที่สัยยิด สาบิก ระบุเอาไว้ เพียงแต่ติงการออกชื่อ อัลหาฟิ ซ ว่า สัยยิด สาบิก ไม่ระบุให้ชัดเจนว่า อัลหาฟิ ซ ที่อ้างถึงคือ อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานี หรือไม่ เพราะอัลหาฟิ ซที่ถูกอ้างถึงในเรื่องนี้ คือ อัลหาฟิซ อัลมุนซิรี ซึ่งถ้อยความที่ถูกกล่าวถึงใน “ฟิ กฮุสสุนนะฮ์” อยู่ในตารา “อัตตัรฆีบฯ” (1/238) [“‫نة‬‫الس‬ ‫فقه‬ ‫عىل‬ ‫التعليق‬ ‫يف‬ ‫املنة‬ ‫”متام‬ หน้า 260] แสดงให้เห็นว่า ชัยค์อัลอัลบานีก็ยอมรับระดับของสายรายงานในเรื่องการละหมาด ตัสบีห์ นี่คือประเด็นเกี่ยวกับหลักฐานของการละหมาดตัสบีห์ ส่ว น ป ร ะเด็น ที่ พี่ น้ อ งมุ สลิ ม ม ลายู ใน 3 จั งห วั ด ช าย แ ด น ภ าค ใ ต้ ละหมาดตัสบีห์ในยามเช้าของวันรายอแนที่มัสญิดแบบบัรญะมาอะฮ์นั้นก็คงถือตามนักวิชาการ ที่ให้น้าหนักกับหลักฐานในเรื่องการละหมาดตัสบีห์ที่มีระดับหะสัน เนื่องจากมีสายรายงานมาก [“‫الطالبي‬ ‫عانة‬‫”ا‬ เล่ ม 1 ห น้ า 299] แ ละมี อ านิ สงค์ ผลบุ ญ ที่ ห าที่ สิ้ น สุด ไม่ ได้ คื อ มี บุ ญ ม าก ห าก ได้ ละห ม าด นี้ จน ก ระ ทั่ งนั ก วิ ชาก ารบ างท่ าน ร ะบุ ว่ า “จะไม่รับฟังถึงความประเสริฐยิ่งใหญ่ของการละหมาดตัสบีห์และจะละทิ้งการละหมาดนี้นอกจ ากคนที่กระทาเบาความในเรื่องศาสนา” [“‫الطالبي‬ ‫نة‬‫ا‬‫ع‬‫”ا‬ เล่ม 1 หน้า 300] ซึ่ ง ก า ร ก ล่ า ว ใ น ท า น อ ง นี้ ดู จ ะ เ ป็ น สิ่ ง ที่ ไ ม่ บั ง ค ว ร นั ก เพราะอิมามอันนะวาวีและอีกหลายท่านก็ไม่ให้น้าหนักกับสายรายงานของหะดีษที่เป็นหลักฐาน
  • 17. 17 ใ น เ รื่ อ ง ก า ร ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์ จึงกลายเป็นว่าอิมามอันนะวาวีและนักวิชาการอีกหลายท่านกระทาเบาความในเรื่องศาสนาหรือ อ ย่ า ง ไ ร ? แ ต่ ที่ ค่ อ น ข้ า ง แ น่ ใ จ ไ ด้ ก็ คื อ พี่น้องมุสลิมมลายูเห็นด้วยกับคาพูดในทานองนี้แต่มุ่งหมายถึงเรื่องการมีผลบุญมากมายจึงให้ ความสาคัญ ที นี้ ป ร ะ เ ด็ น มั น อ ยู่ ต ร ง ที่ ว่ า การละหมาดตัสบีห์นั้ นมีสุนนะฮ์ให้ละหมาดแบบญะมาอะฮฺหรือไม่ ? คาตอบก็คือ ไม่ มี สุน น ะฮ์ ให้ ก ระ ท าแ บ บ ญ ะม าอ ะฮฺ [“‫الطالبي‬ ‫عانة‬‫”ا‬ เล่ม 1 ห น้ า 299] และถ้ าไม่ มี สุนนะฮ์ ให้ กระทาแ บบญ ะมาอะฮฺแล้วไปกระทาแบบญ ะมาอะฮ์ เช่ น นี้ ก าร ละห ม าด จ ะ ใช้ ได้ ห รือ ไม่ ? ใน ต ารา “ อั น นิ ฮ า ยะ ฮ์ ” ร ะบุ ว่ า “ถ้าหากละหมาดแบบญะมาอะฮฺก็ไม่ถือว่ามักรูฮ์ แต่เห็นต่างกันว่าจะได้ผลบุญหรือไม่? ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าได้ อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่ได้ [อ้างแล้ว เล่ม 1 หน้า 284] ใ น ต า ร า “ อั ล มั จ ญ์ มู อ์ ฯ ” ก็ระบุว่าถ้าหากละหมาดแบบญะมาอะฮฺก็ถือว่าการละหมาดนั้นใช้ได้ [“‫املهذب‬ ‫رشح‬ ‫”اجملموع‬ เล่ม 3 หน้ า 499] อย่างไรก็ตามการปฏิบัติในสิ่งที่ไม่มี สุนนะฮ์ ให้ กระทาในทานองนี้ เรีย กว่า “คิ ลาฟุ ลเอ าล า” ซึ่ งห ม ายค วาม ว่าค้ าน กับ สิ่งที่ ดี ก ว่าห รือ ดีที่ สุด แต่ไม่ถึงมักรูฮ์ตามกฎเกณฑ์ในมัซฮับ อันนี้ ว่าถึงการละหมาดตัสบีห์แบบญามาอะฮฺ ต่อ ม าก็คื อ ป ระเด็น ก ารก าห น ด เวลาแ ละสาเห ตุ ข องก ารละห ม าด ตั สบี ห์ คือไปกาหนดว่าถ้าออกอีดรายอแน ก็จะละหมาดตัสบีห์กัน เวลาก็คือวันที่ 8 เชาวาล ห รื อ ใ น ท า น อ ง เ ดี ย ว กั น คื อ ค่าคืนสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอนที่หลายมัสญิดละหมาดตัสบีห์กัน ในตารา “อัลอิห์ ยาอ์ฯ” ของอิมามอัลเฆาะซาลี ระบุ ว่า “การละหมาดนี้ (ห ม ายถึ งละห ม าด ตั สบี ห์ มี ร่องรอ ยถู ก รายงาน ม าตาม ป ระ เด็น ข อ งมั น และจะไม่ถูกจากัดด้วยเวลาและสาเหตุ” [อ้างจาก “‫الطالبي‬ ‫نة‬‫ا‬‫ع‬‫”ا‬ เล่ม 1 หน้ า 299] อิ ม า ม อิ บ นุ ห ะ ญั ร อั ล ฮั ย ต ะ มี ก ล่ า ว ว่ า : “สิ่ ง ที่ ป ร า ก ฏ ชั ด เ จ น จ า ก ค า พู ด ข อ ง บ ร ร ด า นั ก วิ ช า ก า ร คื อ ก า ร ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์ เ ป็ น ก า ร ล ะ ห ม า ด สุ น น ะ ฮ์ มุ ฏ ล ะ เ ก า ะ ฮ์ จึ ง ห ะ ร อ ม ที่ จ ะ ก ร ะ ท า ใ น เ ว ล า ที่ ห้ า ม ล ะ ห ม า ด แ ล ะ ป ร ะ เด็ น ที่ ว่ า ก า ร ล ะ ห ม า ด ตั ส บี ห์ เป็ น ล ะ ห ม า ด แ บ บ มุ ฏ ลั ก ก็คือเป็นการละหมาดที่ไม่มีเงื่อนไขผูกพันด้วยกับเวลาหนึ่งเวลาใด และสาเหตุหนึ่งสาเหตุใด . . . และเป็ นที่รู้กันว่าการละหมาดตัสบีห์ เป็ นสุนนะฮ์ มุ ฏละเกาะฮฺ
  • 18. 18 ก็คือจะไม่ถูกชดใช้ (เกาะฎออ์) เพราะเป็นการละหมาดที่ไม่มีเวลาที่ถูกกาหนดแน่นอน . . .” [“‫الفقهية‬ ‫الكربى‬ ‫”الفتاوى‬ เล่ม 1 หน้า 271] ดั งนั้ น เมื่ อ ไ ป ก า ห น ด วั น เว ล า แ ล ะ ส า เห ตุ ( คื อ อ อ ก บ ว ช 6) ในการละหมาดตัสบีห์ก็ถือว่าเป็นการกระทาที่ไม่มีสุนนะฮ์ที่ชัดเจนและเจาะจงในเรื่องระบุมาก็เ ข้าข่ายว่า คิลาฟุสสุนนะฮ์ คือค้านกับสุนนะฮ์ แต่ไม่ถึงขั้นว่าทาไม่ได้หรือละหมาดไม่เศาะห์ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าไม่กาหนดวันหรือเวลาที่จะละหมาดประเภทแบบนี้ก็คงไม่ได้กระทากัน จึงไม่พ้นว่าต้องมีนัดละหมาดตัสบีห์กัน ซึ่งถ้ามีเจตนาว่าถือเอาสะดวกก็คงไม่เสียหายอันใด แต่ถ้ ากาหนดกัน จน เป็ น กิจจะลักษณ ะเลยว่าถ้ าวันออกอีดบวช 6 รายอแน จะต้องละหมาดตัสบีห์เสมอไป ก็จะเข้าข่ายค้านกับสุนนะฮ์ได้ สรุปแล้ว หะดีษเรื่องการละหมาดตัสบีห์ – ตามทัศนะของผู้เขียน – ถือว่าเป็ น “ห ะ ดี ษ ห ะ สั น ลิ ฆ็ อ ย ริ ฮิ ” คือเป็นหะดีษที่สวยงามเพราะได้รับการสนับสนุนจากหะดีษกระแสอื่นๆ อีกจานวนมาก ดังข้อมูลที่ได้นาเสนอไปแล้วนั้น ส่วนในเรื่องเวลาการปฏิบัติละหมาดตัสบีห์ ตามหะดีษซึ่งรายงานมาโดยอับดุลลอฮ์ บินอัมร์ บินอัลอาศ ร.ฎ. ดังที่บันทึกโดยอะบูดาวูด หะดีษที่ 1298 ระบุว่า ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม ได้แนะนาให้ ละหมาดตัสบีห์หลังจากตะวันคล้อย (ก่อนละหมาดซุฮ์ริ) ถ้าหากปฏิบัติในเวลาดังกล่าวไม่ได้ ก็ให้ละหมาดในตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็ได้ ดังข้อความตอนท้ายของหะดีษบทนั้น และวิธีละหมาดตัสบีห์ตามรูปการณ์ที่ปรากฏในหะดีษของอิบนุอับบาส ร.ฎ. ที่ผ่ าน มาก็คือ ให้ล ะห ม าด ทั้ ง 4 ร็อ กอะฮ์โดย ให้ สะลามเพี ย งค รั้ งเดี ย ว ไม่ว่าจะเป็นการละหมาดตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน ดังคากล่าวของมุบาร็อกปูรี [“ ‫أ‬‫ى‬ِ‫ذ‬َ‫و‬‫أ‬‫ح‬َ ‫أ‬‫ال‬ ‫ح‬‫ة‬َ‫ف‬‫أ‬ ‫ح‬‫”ُت‬ เล่ม 2 หน้า 595] ‫اب‬‫و‬‫َبلص‬ ‫عمل‬‫أ‬ ‫وهللا‬