3. รายละเอียดโครงงาน
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) น้ามันลองทากอย
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) THE LONGTAGOY OIL
ประเภทโครงงาน ประเภทสิ่งประดิษฐ์
ชื่อผู้ท้าโครงงาน นางสาว ศิริปราณ จรรย์สบศรี เลขที่ 22 ชัน ม.6/4
ื
นางสาว วรรณวิมล ขันจันทร์ เลขที่ 27 ชัน ม.6/4
ชื่อทีปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
่
ระยะเวลาด้าเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556

4. ชื่อผู้ท้าโครงงาน
1. นางสาว ศิริปราณ จรรย์สืบศรี
เลขที่ 22 ชัน ม.6 ห้อง 4
2. นางสาว
วรรณวิมล ขันจันทร์
เลขที่ 27 ชัน ม.6 ห้อง 4

5. ชื่ออาจารย์ทปรึกษาโครงงาน
ี่
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์

6. ที่มาและความส้าคัญของโครงงาน
ปัจจุบันปัญหาการท้างานหนักหรือการนั่งเล่นคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานท้าให้มี
อาการปวดเมื่อยมากขึน ขณะนีไม่ใช่เพียงผู้สูงอายุเท่านั่นที่เกิดปัญหานีเพราะมี
ทังเด็กๆและผู้ใหญ่ทคอยนั่งเล่นคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานโดยไม่พักผ่อนหรือ
ี่
ออกก้าลังกายเลย ผู้จัดท้าจึงคิดพัฒนาต่อยอดน้ามันทีสกัดจากเมล็ดล้าไยเพื่อ
่
แก้ปัญหาอาการปวดเมื่อยของคนทุกเพศทุกวัยพร้อมทังเติมแต่งกลิ่นหอมเพื่อ
เพิ่มความน่าสนใจให้กับสิ่งประดิษฐ์ชินนี

7. วัตถุประสงค์
1.พัฒนา น้ามันที่สกัดมาจากเมล็ดล้าไย ทาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย
2.ให้ผลผลิตพืนบ้าน ที่สามารถท้าได้ง่ายๆ ให้เกิดการแพร่หลายในภายใน
ท้องถิ่น เพื่อคนในชุมชน
3.แก้ปญหาอาการปวดเมื่อย ไขข้อกระดูกเสือม
ั
่

8. ขอบเขตโครงงาน
การจัดท้าโครงงานน้ามันลองทากอยจัดขึนเพื่อพัฒนา
น้ามันจากลองกานอยและสร้างผลิตภัณฑ์ให้ดีขึนและ
ใช้ในการศึกษาเท่านัน ไม่ได้มุงหวังผลก้าไร
่

9. หลักการและทฤษฎี
ศ.ดร.อุษณีย์ เปิดเผยว่า ผลจากการที่เกษตรกรน้าล้าไยไปแปรรูป
อบแห้งเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งหลังกระบวนการดังกล่าว จะมีเมล็ดเหลืออยู่มาก
โดยทัวไปการท้าลายส่วนใหญ่จะใช้วิธี “เผาทิง” และจากการศึกษาข้อมูล
่
พบว่า ในเมล็ดล้าไยจะมีสาระส้าคัญ ได้แก่ สารฟลาโวนอยด์อีกหลายๆ ชนิด
มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันกระบวนการเกิดโรคมะเร็งล้าไส้ใหญ่
และยับยังการสลายกระดูกอ่อน

10. จากคุณประโยชน์ดังกล่าว ทีมวิจัยจึงน้าเมล็ดทีผ่านการอบแห้งเหลือ
่
ทิงแล้วน้าเข้าสูกระบวนการสกัดตาม วิธี โดยใช้เมล็ดล้าไย 1 กิโลกรัม ได้
่
ประมาณ 20 กรัม โดยใช้เวลา 3-4 วัน กระทั่งได้สารลองกานอยด์ (สารไกล
โคส-อะมิโนไกล-แคน และกรดไฮยารูโลนิค) ทีสามารถยับยังการสลายสาร
่
องค์ประกอบพืนฐานของกระดูกอ่อนได้ดี อีกทังยังยับยังเอนไซม์แมทริกซ์
เมทัลโลโปรทีเนสทีสลายกระดูกอ่อน เป็นการยืดอายุกระดูกอ่อน ไม่ให้เกิดการ
่
สึกหรอก่อนควร

11. ศ.ดร. อุษณีย์ วินิจเขตค้านวณ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ
คณะแพทยศาสตร์

12. วิธีด้าเนินงาน
แนวทางการด้าเนินงาน
1.ประชุมและก้าหนดหัวเรื่องโครงงาน
2.วิเคราะห์ขอมูลและแบ่งหน้าที่ให้สมาชิกแต่ละคน
้
3.จัดหาซืออุปกรณ์
4.ลงมือปฏิบัติ
5.น้าผลิตภัณฑ์มาใช้งาน
6.ค้านวณหาก้าไร

13. เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. ถังหมัก
2. เมล็ดล้าไยอบแห้ง
3. แอลกอฮอลล์
งบประมาณ
แอลกอฮอลล์ 1 ลิตร
เมล็ดล้าไย 1 กิโลกรัม
รวม
80 บาท
10 บาท
90 บาท

14. ขันตอนการท้า
1.น้าเมล็ดล้าไยผสมใส่กับแอลกอฮอล์ ในถังหมัก
อัตราส่วน เมล็ดล้าไย 1 กิโลกรัม ต่อ แอลกอฮอล์ 1 ลิตร

15. • 2.หมักเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์

16. • 3. หมักสมุนไพรเพิ่ม ประกอบด้วย ปูเลย ไพร ข่า และขมิน
• โดยสับสมุนไพรให้ละเอียด
• ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

17. ปูเลย
ข่า
ขมิน
ไพร

18. เทผลิตภัณฑ์ใส่ขวด

19. • 4.ใส่กลิ่นราเวนเดอร์

20. • ทดสอบกลิ่นให้มีกลิ่นพอเหมาะ ไม่ฉุนจนเกินไป

21. รูปผลิตภัณฑ์

22. สรรพคุณ
1.แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนือ
2.แก้ปัญหาโรคไขข้อกระดูก
3.ต้านอนุมูลอิสระ
4.ยับยังการสลายกระดูกอ่อน
เป็นการยืดอายุกระดูกอ่อน ไม่ให้เกิดการสึกหรอก่อนควร

23. ผลทีคาดว่าจะได้รบ
่
ั
ได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อย
สรุปโครงงาน
สถานทีด้าเนินการ
่
-บ้านนักเรียน 15 ถ.หมื่นด้ามพร้าคต ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
-โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เชียงใหม่
กลุมสาระการเรียนรู้ที่เกียวข้อง
่
่
คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ศิลปะ และวิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง
บริษัท พรีมา เฮิร์บ (ประเทศไทย) จ้ากัด.ครีมนวดสารสกัดเมล็ดล้าไย.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก :
่
http://www.longanoid.biz/.(วันที่ค้นข้อมูล : 19 พฤศจิกายน 2556).

24. ภาคผนวก

25. ตอนหมักเมล็ดล้าไย

26. กลิ่นราเวนเดอร์

27. ผลิตภัณฑ์