Mais conteúdo relacionado
Mais de Noot Ting Tong (20)
เธเธฃเธฐเน€เธ เธ—เธเธญเธเนเธเธฃเธเธเธฒเธเธเธญเธกเธ เธงเน€เธ•เธญเธฃ
- 1. ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
มีองค์ประกอบดังนี้
1. เป็ นกิจกรรมการเรี ยนให้นกเรี ยนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบติดวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทาง
ั ั ั
ทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรื อจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรี ยนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรื อเป็ นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็ น
ภาคเรี ยน หรื อมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรื อใหญ่
3. นักเรี ยนเป็ นผูพิจารณาริ เริ่ มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบติดวยตนเอง
้ ั ้
ตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรี ยนเป็ นผูเ้ สนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบติงานและการแปลผล
ั
รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึ กษา เพื่อดาเนินงานร่ วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู ้ ความสามารถของนักเรี ยนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้ง
การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
- 2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
1.โครงงานพัฒนาสื่ อเพื่อการศึกษา
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่ อเพื่อ
การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรี ยนหรื อหน่วยการเรี ยน ซึ่ งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึ กหัด
บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุ่มการ
สอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์การสอน ซึ่ งอาจเป็ นการ
พัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ผเู ้ รี ยนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถ
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผูเ้ รี ยนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มา
เป็ นหัวข้อในการพัฒนาสื่ อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์
ระบบสุ ริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญ
ของประเทศไทย เป็ นต้น
- 3. 2.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งาน
จริ งในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร
ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุคนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้
จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่ งอาจเป็ นการคิดสร้างสิ่ งของ
่
ขึ้นใหม่ หรื อปรับปรุ งเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยูแล้วให้มีประสิ ทธิภาพสู งขึ้น โครงงาน
ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผูใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
้
ออกแบบ และพัฒนาสิ่ งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรื อทดสอบคุณภาพ
ของสิ่ งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุ งแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผเู ้ รี ยนต้องใช้ความรู ้
เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 4. 3.โครงงานพัฒนาเกม
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์ เกมเพื่อความรู ้หรื อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกม
ที่พฒนาควรจะเป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน
ั
ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผเู ้ ล่น พร้อมทั้งให้
ความรู ้สอดแทรกไปด้วย ผูพฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่
้ ั
่ ั่
มีอยูทวไป และนามาปรับปรุ งหรื อพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู ้
เล่นกลุ่มต่างๆ
- 5. 4.โครงงานพัฒนาเครื่ องมือ
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่ องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่ วนใหญ่
จะอยูในรู ปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรู ป ซอฟต์แวร์ พมพ์งาน และซอฟต์แวร์ ช่วยการมอง
่ ิ
วัตถุในมุมต่างๆ เป็ นต้น สาหรับซอฟต์แวร์ เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็ นโปรแกรมประมวล
คา ซึ่ งจะเป็ นเครื่ องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ส่ วนซอฟต์แวร์ การ
วาดรู ป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรู ปบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ให้เป็ นไปได้
โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่ งของ อาทิ
เช่น ผูใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็ นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์
้
คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็ นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่าง
สะดวก
- 6. 5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ
ซึ่ งเป็ นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริ งได้ เช่น การจุดระเบิด เป็ นต้น และเป็ น
โครงงานที่ผทาต้องศึกษารวบรวมความรู ้ หลักการ ข้อเท็จจริ ง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้ งใน
ู้
่
เรื่ องที่ตองการศึกษาแล้วเสนอเป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่ งอาจอยูในรู ปของสู ตร
้
สมการ หรื อคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีดวยคอมพิวเตอร์ ให้ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้ก็
้
จะเปลี่ยนไปตามสู ตรหรื อสมการนั้น ซึ่ งจะทาให้ผเู ้ รี ยนมีความเข้าใจได้ดียงขึ้น การทาโครงงาน
่ิ
่ ู้
ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยูที่ผทาต้องมีความรู ้ในเรื่ องนั้นๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลอง
ทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่ องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่ องพฤติกรรมของปลาปิ รันย่า
และการทดลองเรื่ องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้น
credit::http://namkwanmay.wordpress.com/
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/314100