บทที่ 2

1. LOGO
บทที่ 2
การจัดตั้งธุรกิจ

2. ประเภทของธุรกิจ
แนวคิดที่ 1 แบ่งตามวิธีการประกอบธุรกิจ
แนวคิดที่ 2 แบ่งตามผลผลิต
แนวคิดที่ 3 แบ่งตามวิธีการได้เงิน
แนวคิดที่ 4 แบ่งตามบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย

3. รูปแบบการประกอบธุรกิจ
1. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว
2. ห้างหุ้นส่วน P11-P110
3. บริษัทจากัด P111-P120
4. บริษัทมหาชนจากัด P121-P130
5. กิจการร่วมค้า
6. แฟรนไชส์ P131-P149
ส่ง 29 กุมภาพันธ์ 2559
ณ ห้อง เรียน ชั้น 3 อาคาร 31 (รับงานวันเดียวเท่านั้น)

4. การศึกษาปัญหาก่อนการเริ่มธุรกิจ
 การจัดตั้งธุรกิจรูปแบบที่ต้องการนั้นยากหรือง่าย
 เจ้าของธุรกิจจะต้องรับผิดชอบเพียงไร
 ต้องการเงินลงทุนเท่าไรเพื่อเริ่มกิจการ
 หาทุนเพิ่มระหว่างดาเนินกิจการได้หรือไม่ เพียงไร
 มีกฎหมายบังคับสาหรับธุรกิจประเภทนั้นๆหรือไม่ อย่างไร
 ธุรกิจประเภทนั้นไม่อยู่ในข่ายบังคับของกฎหมายเพียงไร
 การมอบโอนอานาจและหน้าที่ให้แก่พนักงานชั้นผู้น้อยจะมีแผน
ดาเนินการอย่างไร
www.themegallery.com

5. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว
ลักษณะของธุรกิจ
การลงทุนไม่มากนัก
การดาเนินธุรกิจมีขอบเขตไม่กว้างขวางมากนัก
มุ่งให้บริการแก่เฉพาะลูกค้าที่มีรสนิยมเป็นการส่วนตัว
มีความเสี่ยงน้อย

6. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว
ข้อดี ข้อเสีย
การจัดตั้งและเลิกกิจการทาได้ง่าย มีทุนจากัด
การดาเนินงานมีอิสระ รับผิดชอบต่อความเสียหายเพียงผู้เดียว
กฎหมายระเบียบข้อบังคับมีน้อย มีความรู้ ความสามารถที่จากัด
การควบคุมพนักงานทาได้ง่าย ขาดความต่อเนื่องของกิจการหากเจ้าของ
กิจการประสบปัญหา
ป้องกันความลับได้ดี
www.themegallery.com

7. ห้างหุ้นส่วน (Partnership)
คือ ธุรกิจที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปทาสัญญาร่วมกัน โดยจะแบ่ง
กาไรจากกิจการตามสัดส่วนที่ตกลงกัน

8. ประเภทของห้างหุ้นส่วน
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1) ห้างหุ้นส่วนสามัญ
2) ห้างหุ้นส่วนจากัด
• จากัดความรับผิดชอบ
• ไม่จากัดความรับผิดชอบ
www.themegallery.com

9. ประเภทของห้างหุ้นส่วน (ต่อ)
1. ห้างหุ้นส่วนสามัญ
 ห้างหุ้นส่วนประเภทซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะต้องรับผิดชอบในหนี้ร่วมกันโดยไม่
จากัดจานวน
 ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องนาเงิน ทรัพย์สิน หรือแรงงาน อย่างหนึ่งอย่างใดมา
ลงทุน
 ถ้าในสัญญามิได้ตกว่าว่าให้ใครเป็นผู้จัดการ กฎหมายให้ถือว่าผู้เป็นหุ้นส่วนทุก
คน สามารถจัดการห้างหุ้นส่วนนั้นได้ทุกคน

10. ประเภทของห้างหุ้นส่วน(ต่อ)
 กฎหมายไม่ได้บังคับว่าห้างหุ้นส่วนสามัญต้องจดทะเบียน แต่ถ้าจดจะมีสภาพเป็น
นิติบุคคล และต้องใช้คาว่า ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ประกอบชื่อห้างเสมอ
 ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียน มีสภาพเป็นบุคคลธรรมดา
 ต้องขอยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ภายใน 30 วัน นับต้องแต่วันเริ่มประกอบการ
 การใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนนั้น ไม่บังคับว่าจะต้องมีคาว่า ห้าง
หุ้นส่วน หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ประกอบชื่อ จะใช้ชื่ออย่างไรก็ได้ เช่น ห้างเสรีชัย
หรือ เสรีชัย เป็นต้น
www.themegallery.com

11. ประเภทของห้างหุ้นส่วน (ต่อ)
2. ห้างหุ้นส่วนจากัด คือ ห้างหุ้นส่วนประเภทที่กฎหมายบังคับให้จด
ทะเบียนเสมอไป แบ่งตามความรับผิดชอบในหนี้สินของหุ้นส่วนเป็น
2 ประเภท
2.1 จากัดความรับผิดชอบ
 รับผิดชอบเพียงจานวนที่ลงหุ้นเท่านั้น
 หุ้นส่วนพวกนี้ไม่มีสิทธิเข้าจัดการงานของห้าง
 ไม่มีสิทธินาชื่อของตนมาเรียกเป็นชื่อห้าง
 ทุนที่นามาลงจะต้องเป็นเงินหรือทรัพย์สินเท่านั้น
www.themegallery.com

12. ประเภทของห้างหุ้นส่วน (ต่อ)
2.2 ไม่จากัดความรับผิดชอบ
 ผู้เป็นหุ้นส่วนต้องรับผิดชอบหนี้สินของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จากัดจานวน
 หุ้นส่วนมีสิทธิเข้าจัดการงานของห้างได้
www.themegallery.com

13. การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน
o ทาให้ห้างหุ้นส่วนมีสภาพเป็นนิติบุคคล
o ได้ประโยชน์ในการเสียภาษี
o มีเอกสารและหลักฐานต่างๆอยู่กับทางราชการ
o ผลประโยชน์ของห้างหุ้นส่วน

14. แสดงการเปรียบเทียบ
ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนจากัด
ไม่ต้องจดทะเบียน ต้องจดทะเบียน
ถ้าจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคล เป็นนิติบุคคล
รับผิดชอบหนี้โดยไม่จากัดจานวน รับผิดชอบหนี้จากัด
ห้างหุ้นส่วนประเภทเดียว คือ ประเภท
รับผิดชอบไม่จากัด
หุ้นส่วนมี 2 ประเภท คือ รับผิดชอบจากัด
และ รับผิดชอบไม่จากัด
หุ้นส่วนทุกคนเข้ามาจัดการงานของห้างได้ หุ้นส่วนประเภทรับผิดชอบไม่จากัดเท่านั้นที่
สามารถเข้ามาจัดการงานของห้างได้
www.themegallery.com

15. การประกอบธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วน
ข้อดี ข้อเสีย
• มีเงินทุนมาก • ทุนจากัดถ้ามีหุ้นส่วนน้อย
• การจัดตั้งและเลิกกิจการไม่ยุ่งยาก • อาจมีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์
• กิจการเจริญเติบโต • ไม่กล้าที่จะขยายกิจการ เพราะความ
รับผิดชอบไม่จากัด
• มีเครดิตสูงกว่าธุรกิจเจ้าของคนเดียว • หุ้นถอนได้ยาก จนกว่าจะเลิกกิจการ
• มีกฎหมายและกฎระเบียบควบคุมการ
ดาเนินงาน
• อายุการดาเนินการห้างหุ้นส่วนไม่
แน่นอน

16. การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
สัญญาการจัดตั้งห้างหุ้นส่วน ควรมีข้อความระบุตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้
 ชื่อของห้างหุ้นส่วน
 ชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วน
 ที่อยู่ของผู้เป็นหุ้นส่วน
 สถานที่ตั้งของห้างหุ้นส่วน ลักษณะและกิจการที่จะกระทา
 กาหนดเวลาหรือายุของสัญญา
www.themegallery.com

17. การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน (ต่อ)
 จานวนเงินทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนนามาลงทุน
 เงินเดือนของผู้เป็นหุ้นส่วนที่เข้ามาดาเนินการ
 การเฉลี่ยกาไรและขาดทุน
 วิธีการรับหุ้นส่วนใหม่และวิธีเลิกล้มห้างหุ้นส่วน
 หน้าที่และสิทธิผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคน
www.themegallery.com

18. บริษัทจากัด (Corporation)
คือ องค์กรธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นด้วยการแบ่งทุนเป็นหน่วยเล็กๆ
เรียกว่า “หุ้น” ซึ่งแต่ละหุ้นจะมีมูลค่าเท่าๆ กัน
บริษัทจากัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
 บริษัทจากัด
 บริษัทมหาชนจากัด

19. ลักษณะสาคัญของบริษัทจากัด
o ต้องมีผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 3 คน
o มูลค่าของหุ้นมีมูลค่าเท่าๆ กัน ไม่ต่ากว่าหุ้นละ 5 บาท
o มีคาว่า บริษัท นาหน้าชื่อ และต่อท้ายด้วยคาว่า จากัด เสมอ
o การดาเนินงานของบริษัทเป็นหน้าที่ของกรรมการบริษัท
o ผู้ถือหุ้นเป็นผู้กาหนดนโยบายของบริษัท
o บริษัทจะออก ใบหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้น

20. บริษัทจากัด (Corporation)
ข้อดี ข้อเสีย
o ระดมทุนได้มาก o การจัดตั้งมีความยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายสูง
o ความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นมีจากัด o การบริหารงานขาดประสิทธิภาพ
o บริษัทจากัดมีความมั่นคง o เสียภาษีสูงกว่าการประกอบธุรกิจรูปแบบอื่น
o หุ้นสามารถเปลี่ยนมือได้ o มีข้อจากัดทางกฎหมายมาก
o สามารถขยายทุนได้ง่าย o อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ถือหุ้น
ได้
o การจัดการมีประสิทธิภาพ

21. การจัดตั้งบริษัทจากัด
1) มีผู้ริเริ่มก่อตั้ง ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ทาหนังสือบริคณห์สนธิแล้วนาไป
จดทะเบียนต่อนายทะเบียน
2) จัดการให้หุ้นของบริษัทมีผู้ลงชื่อจองครบ
3) ผู้เริ่มก่อตั้งนัดผู้ซื้อหุ้นประชุมใหญ่ ซึ่งเรียกว่า “การประชุมก่อตั้งบริษัท”
4) มอบกิจการให้กรรมการที่เลือกตั้งขึ้นมาดาเนินการต่อไป
5) กรรมการบริษัทจัดการเรียกเงินค่าหุ้นจากผู้ซื้อหุ้น ร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้น
6) กรรมการบริษัทต้องไปจดทะเบียนบริษัทภายใน 3 เดือนนับแต่วันประชุม
ก่อตั้งบริษัท

22. ชนิดของหุ้น
หุ้นสามัญ
ผู้ถือหุ้นสามัญมีลักษณะเป็นเจ้าของกิจการ และมีสิทธิในการออก
เสียงในการดาเนินงานของบริษัท ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนในรูปของ
เงินปันผล จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลกาไรของกิจการ
หุ้นบุริมสิทธิ
ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีลักษณะกึ่งหนี้กึ่งทุน ไม่มีสิทธิในการออกเสียง
ในการดาเนินงานของบริษัท และจะได้รับผลตอบแทนในรูปของ
เงินปันผลในอัตราคงที่ หากเลิกกิจการมีสิทธิได้รับทรัพย์สินคืนก่อนผู้ถือ
หุ้นสามัญ

23. บริษัทมหาชนจากัด
ลักษณะของบริษัทมหาชนจากัด
บริษัทมหาชนจากัด คือ บริษัทซึ่งตั้งขึ้นด้วยประสงค์ที่จะเสนอขาย
หุ้นต่อประชาชน โดยผู้ถือหุ้นมีความรับผิดจากัดไม่เกินจานวนเงินค่าหุ้น
ที่ต้องชาระ

24. โครงสร้างของบริษัทมหาชนจากัด
• จานวนผู้ถือหุ้น มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป
• ทุนจดทะเบียน ไม่มีการกาหนดจานวนทุนจดทะเบียนขั้นต่าไว้
• มูลค่าหุ้นและการชาระเงินค่าหุ้น หุ้นของบริษัทมหาชนจากัดแต่ละ
หุ้นจะต้องมีมูลค่าเท่าๆ กัน และต้องชาระค่าหุ้นครั้งเดียวเต็มมูลค่า
หุ้น
• จานวนกรรมการ ต้องมีจานวนกรรมการของบริษัทไม่น้อยกว่า
5 คน และกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งต้องมีที่อยู่ในประเทศไทย
www.themegallery.com

25. การเลิกดาเนินงานของบริษัทมหาชนจากัด
o ผู้ถือหุ้นลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจานวนเสียง
ทั้งหมด
o บริษัทล้มละลาย
o ศาลมีคาสั่งให้เลิกกิจการ

26. กิจการร่วมค้า (Joint venture)
 การลงทุนประกอบธุรกิจระหว่างบริษัทกับบริษัท หรือบริษัทกับห้าง
หุ้นส่วน อาจเป็นบริษัทต่างประเทศมาลงทุนร่วมกันกับบริษัท
ภายในประเทศ
 ผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องรับผิดชอบในหนี้ที่เกิดขึ้นโดยไม่จากัด
 มีลักษณะเป็นการประกอบธุรกิจในระยะสั้น เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว
กิจการจะสลายตัวไป

27. ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)
 ธุรกิจที่ประกอบด้วยบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายผู้ที่เป็นเจ้าของ
สิทธิหรือผู้ให้สิทธิ (Franchisor) และผู้ซื้อสิทธิ (Franchisee)
 ทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันว่า ผู้ซื้อสิทธิจะดาเนินการขายสินค้าหรือบริการ
ภายใต้เครื่องหมายการค้า ชื่อสินค้า เทคโนโลยี และระบบการ
ดาเนินงานของผู้ให้สิทธิ
 ผู้ให้สิทธิเป็นผู้กาหนดมาตรการในการดาเนินงานที่เป็นมาตรฐาน
เดียวกัน โดยผ่านการถ่ายทอด การฝึกอบรม และการควบคุม
 ผู้ซื้อสิทธิจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับเจ้าของสิทธิเพื่อเป็นค่าลิขสิทธิ์
ในการใช้สิทธิเป็นการตอบแทน
www.themegallery.com

28. องค์ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์
องค์ประกอบที่สาคัญ 3 ประการ
1. องค์ประกอบเกี่ยวกับการใช้สิทธิ
1.1 การใช้ชื่อ สัญลักษณ์ (Logo) ของร้าน และการใช้ตราสินค้า (Brand) ของ
ตัวสินค้า หรือบริการของแฟรนไชส์
1.2 การนาผลิตภัณฑ์หรือรูปแบบบริการทั้งหมด หรือการดาเนินการผลิตตาม
สูตรกรรมวิธี หรือเทคนิคของเจ้าของสิทธิ เพื่อจาหน่ายหรือบริการภายใต้ชื่อ
สัญลักษณ์ ตราเดียวกับของเจ้าของสิทธิ
1.3 ผู้ซื้อสิทธิจะต้องดาเนินงานภายใต้ระบบการบริหารงานจากเจ้าของสิทธิ
1.4 ผู้ซื้อสิทธิ จะได้รับสิทธิในการบริหารร้าน ณ สถานที่ และระยะเวลาตามที่ได้
ตกลงในสัญญา
www.themegallery.com

29. องค์ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ (ต่อ)
2. องค์ประกอบเกี่ยวกับการดาเนินงาน โดยผู้ซื้อสิทธิจะต้องปฏิบัติตาม
ขั้นตอน วิธีการ และแบบแผนในการดาเนินงาน การจัดการ การผลิต
และการจาหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายสัญลักษณ์ทางการค้าที่
เจ้าของสิทธิกาหนดตามสัญญาข้อตกลง
3. องค์ประกอบเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการขอสิทธิมี 3 ลักษณะ ดังนี้
3.1 ค่าสิทธิของแฟรนไชส์ (Franchie Fee)
3.2 ค่าธรรมเนียมความจงรักภักดี (Royalty Fee)
3.3 ค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอื่นๆ (Advertising Fee)
www.themegallery.com

30. Franchisees
ยอดฮิตที่ได้รับการติดต่อสนใจลงทุน
 อันดับที่ 1 เซเว่น-อีเลฟเว่น ค่าแฟรนไชส์ 1,500,000 บาท
 อันดับที่ 2 ปังสด ขนมปังนมสด ค่าแฟรนไชส์ 25,000 บาท
 อันดับที่ 3 เฟรชมาร์ท ค่าแฟรนไชส์ 790,000 บาท
 อันดับที่ 4 เอ็มมิลล์ นมสดแท้ๆ 100% ค่าแฟรนไชส์ 44,500 บาท
 อันดับที่ 5 ร้านน้องฟ้าบริการ ค่าแฟรนไชส์ 9,900 บาท
ที่มา: www.thaifranchisecenter.com
www.themegallery.com