SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 39
Baixar para ler offline
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com11ธันวาคม 2557
by 
Scott D. Anthony, 
David S. Duncan, 
and Pontus M.A. Siren 
Scott D. Anthony is the managing partner of Innosight, an innovation consultancy. He is based 
in Singapore. 
David S. Duncan is a senior partner at Innosight, based in Lexington, Massachusetts. 
Pontus M.A. Siren is a principal in Innosight’s Singapore office. 
From Harvard Business Review December 2014
 Most companies don’t have multimillion-dollar innovation 
budgets—but they can still build smart, evidence-driven, 
affordable innovation systems.
Most executives will admit thattheir companies don’t innovatein a reliable, orderly way. Toomany breakthroughs happen onlybecause of serendipity or individualheroism. Great ideas remain lockedinside employees’ heads, and theconcepts that are developed oftenaren’t the most promising. Butthere is a way to make innovationmore systematic—without massiveinvestments, restructuring, or evena single hire. In this article threeconsultants explain how a companycan build a “minimum viable”innovation function, in just threemonths, by doing the following: 
Day 1–30: Define your innovationbuckets, looking at how muchgrowth innovations in your corecanproduce and how much will need tocome from new-growthinitiatives. 
Day 20–50: Zero in on a fewstrategic opportunities, after talkingto customers to identify growingneeds that match your capabilities. 
Day 20–70: Dedicate asmall team to begin developinginnovations. 
Day 45–90: Set up a committeeto shepherd projects, borrowingventure capitalists’ best practices. 
Drawing on the experiences ofa financial services firm, a waterutility, a hospital, and a 100-yearoldnonprofit, the authors describehow to use this approach to buildsystems that ensure that goodideas are encouraged, identified,shared, prioritized, resourced, anddeveloped.
แทบทุกบริษัทมีการสร้างนวัตกรรม 
แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่ทาอย่างเป็นระบบ 
นวัตกรรมที่ประสบความสาเร็จมักจะมีเส้นทางที่มองไม่เห็น และ ต้องอาศัยการกระทาที่กล้าหาญของแต่ละบุคคลหรือเกิดจาก ความบังเอิญ 
ปัญหาคือ ความคิดที่ดี ๆ ยังคงอยู่ในหัวของพนักงาน ความคิด ริเริ่มทางนวัตกรรมใช้เวลายาวเกินไป และความคิดนั้นบางที ไม่ได้สนองความสาคัญเชิงกลยุทธ์
"ระบบการสร้างนวัตกรรมขั้นพื้นฐาน" (Minimum viable innovation system=MVIS) หมายถึงพื้นฐานของการเริ่มต้นที่มี ความน่าเชื่อถือ ในการสร้างนวัตกรรมที่เน้นกลยุทธ์ 
MVISจะทาให้แน่ใจได้ว่า ความคิดที่ดีจะได้รับการสนับสนุน มี การใช้ร่วมกัน มีการทบทวน จัดลาดับความสาคัญ มีการจัดสรร ทรัพยากร มีการพัฒนา ได้รับรางวัล และทาให้มีชื่อเสียงโด่งดัง 
เป็นวิธีที่ไม่จาเป็นต้องใช้เวลาหลายปีในการทางาน ไม่ต้อง เปลี่ยนแปลงวิธีที่องค์กรทางานขั้นพื้นฐานและไม่ต้องเปลี่ยน การจัดสรรทรัพยากรอย่างมีนัยสาคัญ
สี่ขั้นตอนพื้นฐานใน 90 วัน 
วันที่ 1 ถึงวันที่ 30: กาหนดถังนวัตกรรม (DAY 1 TO 30: Define Your Innovation Buckets) 
วันที่ 20 ถึง 50: เลือกโอกาสเชิงกลยุทธ์ 2-3 ประการ (DAY20 TO 50: Zero In on a Few Strategic Opportunity Areas) 
วันที่ 20 ถึง 70 คัดเลือกทีมขนาดเล็กในการพัฒนานวัตกรรม (DAY 20 TO 70: Form a Small, Dedicated Team to Develop the Innovations) 
วันที่ 45 ถึง 90: สร้างกลไกเพื่อให้โครงการเดินหน้า(DAY 45 TO 90: Create a Mechanism to Shepherd Projects)
วันที่ 1 ถึงวันที่ 30: กาหนดถังนวัตกรรม 
พูดอย่างกลยุทธ์ นวัตกรรมมีทั้งหมดสองถัง 
ถังที่หนึ่ง นวัตกรรมที่ขยายธุรกิจในปัจจุบัน ไม่ว่าจะโดยการ เสริมสร้างข้อเสนอที่มีอยู่ หรือโดยการปรับปรุงการดาเนินงาน ภายใน 
ถังที่สอง นวัตกรรมที่สร้างการเจริญเติบโตใหม่ โดยเข้าถึงกลุ่ม ลูกค้าใหม่หรือตลาดใหม่ ซึ่งมักจะผ่านรูปแบบธุรกิจใหม่ 
เราจะเรียกถังแรกว่า นวัตกรรมหลัก(core innovations) และถัง ที่สองว่า นวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต(new-growthinnovations)
โครงการนวัตกรรมหลัก หมายถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงใน ระดับพื้นฐาน ที่เชื่อมโยงกับกลยุทธ์และการบริหารจัดการใน ปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่อยู่ภายในโครงสร้างธุรกิจหลักของ องค์กร 
โครงการนวัตกรรมหลัก เป็นโครงการที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทน อย่างรวดเร็ว มีความสาคัญในอนาคตอันใกล้ และจะต้องได้รับ การสนับสนุนในระดับพื้นฐาน
โครงการนวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต เป็นการริเริ่มการ เจริญเติบโต โดยนาเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่กับลูกค้าที่มีอยู่ หรือเป็น การขยายผลิตภัณฑ์เข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่อยู่ติดกันหรือตลาด ทางภูมิศาสตร์ใหม่ หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นต้นฉบับที่ดี กว่าเดิม 
การมีช่องว่างขนาดใหญ่การเจริญเติบโตจากธุรกิจหลักของคุณ ทาให้ต้องอาศัยนวัตกรรมที่จะต้องมีเพิ่มอีก และจะต้องใช้เวลา ในการรับรู้รายได้อย่างมีนัยสาคัญจากช่องว่างนั้น
คุณสามารถใช้เวลาสองสัปดาห์ ในการประมาณการประโยชน์ที่ จะได้จากขนาดของช่องว่างนั้น สาหรับรายได้และผลกาไรในอีก ห้าปีข้างหน้า เปรียบเทียบกับเป้าหมายของคุณจากการ ดาเนินงานด้วยวิธีปัจจุบันของคุณในปีที่ห้า 
ซึ่งจะทาให้สามารถเปรียบเทียบค่าพื้นฐานของการใช้ เวลา ความพยายาม และทรัพยากร ในการมุ่งเน้นไปที่ นวัตกรรมหลัก (core innovations) และ นวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต (new-growth innovations) ว่าควรเป็นอย่างละเท่าใด
เมื่อช่องว่างการเจริญเติบโตของคุณมีขนาดใหญ่พอสมควรคุณ อาจต้องมีการแบ่งความพยายามเจริญเติบโตใหม่ของคุณ เพื่อ การจับคู่สิ่งเหล่านั้นไปยังทิศทางที่เป็นไปได้ที่แตกต่างกัน สาหรับการเติบโตในอนาคต 
เราขอแนะนาให้กาหนดไม่เกิน 3 ประการ
วันที่ 20 ถึงวันที่ 50: เลือกโอกาสเชิงกลยุทธ์ 2-3ประการ 
MVIS ทาให้การใช้ทรัพยากรที่จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพจาก การใช้ช่องทางนวัตกรรม โดยเน้นการสร้างนวัตกรรมในจานวน ที่เล็กน้อย ของโอกาสเชิงกลยุทธ์ 
สิ่งเหล่านี้จะเหมาะสมกับภายในถังนวัตกรรมใหม่เพื่อการ เจริญเติบโต และดูเหมือนมีขนาดใหญ่พอที่จะได้ประโยชน์จาก ช่องว่างการเจริญเติบโต
คุณมีวิธีการเลือกอย่างไร? คุณสามารถใช้เวลาเป็นเดือนหรือปี ใน การดาเนินการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม แต่เราไม่แนะนาให้ทา 
เราขอแนะนาให้ใช้เวลาสามสัปดาห์ของการวิจัย ด้วยความช่วยเหลือ ของผู้บริหารที่คุณคาดหวังว่าจะมีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรม พวกเขาจะต้องหาความต้องการลูกค้าที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จากลูกค้าอย่างน้อย12 คน ความต้องการเหล่านั้นอาจจะเป็นรากฐาน ของนวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต และเป็นการตรวจสอบการ พัฒนาใหม่รอบ ๆ อุตสาหกรรมของคุณด้วย 
นอกจากนี้ จงใช้เวลามองหานวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต ภายในองค์กรของคุณ บางครั้งอาจจะมีบางวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ที่ยังไม่ได้รับความสนใจอย่างเหมาะสมจากผู้บริหารระดับสูง
ถัดไปร้องขอให้สมาชิกของทีมผู้บริหารอาวุโส อยู่ในห้องประชุม ตลอดช่วงบ่าย เพื่อแบ่งปันผลการวิจัย และจะไม่เลิกจนกว่าพวกเขา จะมีการระบุ โอกาสเชิงกลยุทธ์ 3 ประการต่อไปนี้คือ: 
1.สิ่งที่ลูกค้าในอนาคตจานวนมากต้องการ ที่ยังไม่มีใครตอบสนองได้ เป็นอย่างดี 
2.เทคโนโลยีที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงได้อย่างง่ายขึ้น ถูกลง สะดวกขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจ กฎระเบียบ หรือทางสังคม ที่ ทวีความต้องการมากขึ้น 
3.ความสามารถพิเศษของบริษัท ที่คู่แข่งไม่สามารถคัดลอกได้ง่าย ที่ จะทาให้คุณได้เปรียบในการคว้าโอกาสนี้
หากคุณรวมทั้งสามเกณฑ์ดังกล่าวเข้าด้วยกัน คุณสามารถ หลีกเลี่ยงกับดักนวัตกรรมได้ เช่น การใฝ่หาโอกาสหลอก ๆ เพียงเพราะมันดูเหมือนยิ่งใหญ่ เพื่อต้องการหาว่ามีเงินอยู่ในนั้น ที่ไหนสักแห่ง หรือเดินเข้าสู่ตลาดใหม่ที่คุณไม่มีความได้เปรียบ เชิงกลยุทธ์
การระบุโอกาสเชิงกลยุทธ์ เป็นการนาพลังของพนักงานมุ่งไป ข้างหน้า แทนที่จะเล่นกับความคิดที่อยู่นอกองค์กร 
นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดการเสียสละเวลาของพวกเขา หลังจาก ที่ผ่านทุกข้อพิสูจน์แล้วว่า เป็นสิ่งที่คุณจะไม่ทา(not going to do)
วันที่ 20 ถึง 70 เลือกทีมขนาดเล็กในการพัฒนานวัตกรรม 
ระบบนวัตกรรมขั้นพื้นฐาน (MVIS)ที่จะทางานได้ ต้องมีคนอย่าง น้อยหนึ่งคน (และมักจะมากกว่า) ที่ตื่นขึ้นทุกเช้าจนถึงเข้านอน ทุกคืน คิดแต่เรื่องนวัตกรรม (ไม่ควรจะเป็นคุณ แต่ควรจะเป็น คนที่ต้องมารายงานกับคุณในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุน และคุณก็มี ส่วนในความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน) 
ไม่มีความจาเป็นที่จะต้องรับสมัครกองทัพ
โดยทั่วไป เราแนะนาให้เริ่มต้นให้ทา 2 ข้อของโอกาสทาง ยุทธศาสตร์ที่ระบุไว้ 
แต่ทีมควรสารองโอกาสไว้อีก 6 ข้อ ในกรณีที่ชุดแรกไม่ได้ผล มากกว่าการมีหน้าที่สร้างนวัตกรรมขนาดใหญ่ เพื่อแสดงให้เห็น ถึงการดารงอยู่ของตัวเอง 
ที่เราแนะนาให้สร้างขีดความสามารถในการจัดการอย่างน้อย 2 ความคิดในครั้งเดียว เนื่องจากจะต้องมีการแก้ไข และอาจจะ ประสบความล้มเหลว
สองอุปสรรคที่ทาให้บริษัทกลัว : 
การขาดทรัพยากร (ให้หาทรัพยากรเพิ่ม (Free up resource) หากคุณพบปัญหานี้ ก็ถึงเวลาที่จะนาการสร้างนวัตกรรมของคุณ ออกมาจากเงามืด) และ 
ขาดผู้ที่มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ MVIS (ให้เรียนรู้โดยการทา (Learn by doing) หากองค์กรของคุณเพิ่งเริ่มต้นมุ่งเน้นไปที่ นวัตกรรม ก็ไม่น่าแปลกที่ทีมงานทุกคนที่คุณแต่งตั้ง ยังไม่มี ประสบการณ์กับมันมากนัก)
การเพิ่มทรัพยากรให้ (Free up resources) 
ให้เสนอรายชื่อทุกการสร้างนวัตกรรมที่มีความสาคัญ โดยพยายาม ระบุตลาดเป้าหมายของแต่ละความคิด ประเมินขนาดของโอกาสและ สินค้าคงคลัง ทรัพยากรที่ทุ่มเทในขณะนี้ ซึ่งตอบสนองการเสริมสร้าง กลยุทธ์หลักของคุณ และมุ่งเน้นโอกาสเชิงกลยุทธ์ 
มันควรจะค่อนข้างง่ายที่จะระบุโครงการที่ไม่สาคัญที่แย่งใช้ ทรัพยากรของคุณ 
ผู้นาระดับสูงควรยกย่องและชมเชยความกล้าหาญของเจ้าของ โครงการอื่น ที่เสียสละโครงการของตน เพื่อโครงการที่มุ่งเน้นการ เจริญเติบโตในอนาคตขององค์กร
เรียนรู้โดยการทา (Learn by doing) เป็นอย่างไร? 
ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์เราแนะนาให้ใช้รายการตรวจสอบ ขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่า เราไม่ได้ข้ามขั้นตอนที่สาคัญ(ดูที่ท้ายการ นาเสนอเรื่อง "เราทาตามวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดหรือไม่" (Are We Following the Best Practices)?) 
ทีมงานควรมีวรรณกรรมของการปฏิบัติที่ดีที่สุดของนักนวัตกรรม และรายการตรวจสอบของตัวเองแขวนบนผนัง (สาหรับหนังสือเล่ม โปรดของเราโปรดดูท้ายบทความ"ชั้นวางหนังสือของนักนวัตกรรม" (An Innovator’s Bookshelf) สมาชิกในทีมจะได้พัฒนาทักษะของพวก เขาผ่านการแก้ปัญหา ในขณะที่พวกเขาทางานไปด้วย
วันที่ 45 ถึง 90: สร้างกลไกเพื่อให้โครงการเดินหน้า 
หากคุณมีระบบการวางแผนและการจัดทางบประมาณที่มี ประสิทธิภาพ ให้ใช้ได้กับนวัตกรรมหลัก (core innovations) เท่านั้น 
แต่นวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต (new-growth innovations) ต้องใช้วิธีการที่ยืมมาจากการปฏิบัติของการร่วมทุน (venture capital practices) 
เริ่มต้นโดยการสร้างกลุ่มผู้นาอาวุโสที่มีอิสระในการตัดสินใจเกี่ยวกับ การเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนเส้นทาง ของโครงการนวัตกรรมใหม่และ ไม่ควรซ้าคณะกรรมการบริหารในปัจจุบัน ที่สมาชิกในกลุ่มเคยชินกับ ความคิดการวางแผนขององค์กรแบบเดิม ๆ เพราะการอภิปราย เกี่ยวกับนวัตกรรม ควรหมายถึงการบรรลุเป้าหมายในระยะยาว
ในการกากับดูแลโครงการ บุคคลกลุ่มนี้ควรคัดลอก 3 ขั้นตอน มาตรฐานการดาเนินการร่วมทุน (Venture Capital = VC): 
1. พันธมิตรร่วมทุน(Venture capital partners) มักจะไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับโอกาสในการลงทุน ในความเป็นจริง VCsที่มีความเก๋า พอ จะบอกคุณว่า การลงทุนที่ดีที่สุดคือลงทุนในสิ่งที่สุดขั้วมาก ที่สุด ทุกโครงการใน MVISของคุณควรได้รับการสนับสนุนจาก ผู้บริหารระดับสูงหรือแชมป์ที่เชื่อมั่นลึกซึ้ง แต่คุณไม่ควรต้องรอ การได้รับอนุมัติทุกครั้ง ในการจะก้าวไปข้างหน้า
2. การตัดสินใจที่จะลงทุนในตอนเริ่มต้น ควรมีการพิจารณา อย่างระมัดระวัง แต่ส่วนมากการตัดสินใจเรื่องการใช้จ่าย จะ ขึ้นกับผู้บริหารสูงสุด (CEO) การสร้างนวัตกรรมขององค์กร ควร มีเกณฑ์กาหนดจานวนเงินลงทุนที่ทีมงานของโครงการสามารถ ใช้จ่ายได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากผู้นา 
3. เงินทุนที่สาคัญของ VCไม่จาเป็นไปตามรอบงบประมาณ เพราะ เป็นการแก้ปัญหาความเสี่ยงที่สาคัญที่ควรจะได้รับการ ลงทุนเพิ่มเติม และเมื่อมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น คณะร่วมทุนจะมี การประชุมภายใน 36 ชั่วโมง เพื่อการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
คณะผู้ร่วมทุนในกิจการ (Venture capitalists) ไม่จาเป็นต้อง กังวลกับเรื่องการบูรณาการในองค์กรขนาดใหญ่ 
เพราะทีมนาองค์กร มีความรับผิดชอบในการเสริมสร้าง ทั้ง ความสามารถและการสร้างสรรค์นวัตกรรม ขององค์กร 
ในขณะที่วิธีการ MVISหลีกเลี่ยงการทางานที่ยากลาบากในการ จัดการประสิทธิภาพการทางาน งบประมาณ และการบริหารผู้ส่ง มอบ แต่ก็มีข้อเสียคือ ต้องมีผู้นาระดับสูงที่จะมีส่วนร่วมใน ประเด็นเหล่านั้นเป็นการเฉพาะกิจ (ad hoc basis)
ในตอนท้ายของ 90 วัน คุณควรมีการจัดตั้งถังนวัตกรรม ที่ระบุ โอกาสเชิงกลยุทธ์ มีทีมที่ได้เริ่มต้นในโครงการแรก และมีการ สร้างกลไกเพื่อเพิ่มความเร็วในการทางาน 
เมื่อคุณมี MVISและเห็นสัญญาณว่าโครงการเริ่มออกดอกออกผล (ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือนแรก หรืออาจใช้เวลานาน ขึ้นอยู่ กับสถานการณ์) ก็ถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ขั้นแรก ให้พิจารณาองค์ประกอบของ MVISที่ทางานได้ดี แล้วทาให้เป็น ระบบมากขึ้นอย่างเป็นทางการ แม้ว่าความพยายามดังกล่าวรู้สึกเหมือน คลาน แต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตตามธรรมชาติของ นวัตกรรม ซึ่งเป็นความสามารถขององค์กร 
ประการที่สอง พิจารณาหน้าที่พิเศษที่จะดาเนินการต่อไป ในองค์กรขนาดเล็ก อาจจะกาหนดให้คนเพียงคนเดียวที่จะทาหน้าที่เป็น แมวมอง (scout) เพื่อ รู้ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาด องค์กรขนาดใหญ่ อาจสร้างทีมพัฒนาธุรกิจ ที่มองหาโอกาสที่จะสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายการ เจริญเติบโต หรือรูปแบบกลุ่ม เพื่อดาเนินการวิจัยตลาดชาติพันธุ์ หรือพัฒนา เทคนิคการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว 
ท้ายที่สุด การทางาน MVISควรจะเน้นการแก้อุปสรรคใหญ่ในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมภายในองค์กร ซึ่งมักจะเป็น งบประมาณขององค์กร แรงจูงใจ และ ระบบการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบเพื่อธุรกิจปัจจุบัน ไม่ได้สร้างสาหรับวันพรุ่งนี้ การปรับระบบเหล่านั้น เป็นเรื่องที่มีความท้าทาย มาก แต่เป็นสิ่งสาคัญที่จะส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม
สามคาแนะนา 
1. โปรดจาไว้ว่า "S" ใน MVISย่อมาจากระบบคุณไม่สามารถ เลือกที่จะทาขั้นตอนใดตอนหนึ่งของระบบ ทาตามทุกอย่าง หรือไม่ทาอะไรเลย 
2. ที่ไม่สามารถละเว้นได้คือบุคลากรหากคุณยังไม่มีใครคิด มุ่งเน้นไปที่การเจริญเติบโตใหม่อย่างเต็มที่ คุณก็ตัดสินใจที่จะ ไม่ให้ความสาคัญกับการเจริญเติบโตใหม่ 
3. วิธีที่คุณปฏิบัติต่อความล้มเหลวสาคัญกว่าวิธีการที่คุณให้ รางวัลกับประสบความสาเร็จ การซ่อนหรือกลัวความล้มเหลว จะ ทาลายโครงการในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
การสร้าง MVISไม่ได้เปลี่ยนคุณเป็น Pixarหรือ Amazonได้อย่าง น่าอัศจรรย์ แต่มันจะช่วยให้คุณมีความก้าวหน้าในการเพิ่มการ คาดการณ์และผลผลิตของการลงทุนที่สาคัญ ต่อการเติบโตใน อนาคตอย่างเป็นรูปธรรม (Creating an MVIS won’t miraculously turn you into Pixar or Amazon, but it will help you make tangible progress in increasing the predictability and productivity of critical investments in future growth.)
เราได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ดีที่สุดหรือไม่? 
1. มีการพัฒนานวัตกรรมโดยทีมขนาดเล็ก ประกอบด้วยผู้ที่มี ประสบการณ์ หรือผู้ที่มีความพร้อมที่จะเรียนรู้หรือไม่? 
2. มีทีมงานที่ใช้เวลาโดยตรงกับลูกค้าพอที่จะหาความคาดหวังเพื่อ ความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งหรือไม่? 
3. ในการพิจารณาวิธีการใหม่ในการให้บริการลูกค้าเหล่านั้น ทีมได้ ตรวจสอบกับอุตสาหกรรม และประเทศอื่นๆ หรือไม่? 
4. ทีมสามารถกาหนดลูกค้ารายแรกอย่างชัดเจน และเส้นทางไปถึงราย อื่น ๆ หรือไม่? 
5. ความคิดของทีมสอดคล้องโอกาสเชิงกลยุทธ์ของบริษัท และข้อ ได้เปรียบที่น่าสนใจหรือไม่?
6. มีรายละเอียดรูปแบบธุรกิจใหม่ที่นาเสนอหรือไม่? 
7. ทีมมีสมมติฐานที่เกี่ยวกับวิธีการสร้างรายได้หรือไม่? 
8. สมาชิกในทีมได้ระบุทุกสิ่งที่เป็นจริงสาหรับสมมติฐานนี้หรือไม่? 
9. ทีมมีแผนสาหรับการทดสอบความไม่แน่นอนเหล่านั้นทั้งหมด โดยเริ่มจากสิ่งที่สาคัญที่สุดหรือไม่? แต่ละการทดสอบมี วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน สมมติฐานการคาดการณ์ที่เฉพาะเจาะจง และแผนปฏิบัติการทางยุทธวิธีหรือไม่? 
10. ค่าใช้จ่ายคงที่ ต่าพอที่จะอานวยความสะดวกในการแก้ไข หรือไม่? 
11. ทีมแสดงให้เห็นถึงอคติต่อการกระทา โดยสร้างต้นแบบอย่าง รวดเร็วหรือไม่?
GENERAL OVERVIEW 
The Innovator’s Solution, Clayton M. Christensen and Michael E. Raynor, Harvard Business School Press, 2003 
Creativity, Inc., Ed Catmullwith Amy Wallace, Random House, 2014 
Playing to Win, A.G. Lafleyand Roger L. Martin, Harvard Business Review Press, 2013 
Innovation and Entrepreneurship, Peter F. Drucker, Harper & Row, 1985 
Only the Paranoid Survive, Andrew S. Grove, Currency, 1996 
The Innovator’s Extinction, David E. Ulmer, Create Space Publishing, 2012 
Seizing the White Space, Mark W. Johnson, Harvard Business Press, 2010
HOW-TO BOOKS DEVELOPING IDEAS 
Where Good Ideas Come From, Steven Johnson, Riverhead, 2010 
Business Model Generation, Alexander Osterwalderand Yves Pigneur, John Wiley & Sons, 2010 
Borrowing Brilliance, David KordMurray, Gotham Books, 2009 
Made to Stick, Chip Heath and Dan Heath, Random House, 2007
ASSESSING AND TESTING IDEAS 
The High-Velocity Edge, Steven J. Spear, McGraw-Hill, 2009 
The Other Side of Innovation, Vijay Govindarajanand Chris Trimble, Harvard Business Review Press, 2010 
Discovery-Driven Growth, Rita Gunther McGrath and Ian C. Macmillan, Harvard Business Press, 2009 
The Lean Startup, Eric Ries, Crown Business, 2011 
The Four Steps to the Epiphany, Steve Blank, K&S Ranch, 2005 
The First Mile, Scott D. Anthony, Harvard Business Review Press, 2014
BUILDING CAPABILITIES 
Building a Growth Factory, Scott D. Anthony and David S. Duncan, Harvard Business Review Press, 2012 
The Innovator’s DNA, Jeff Dyer, Hal Gregersen, and Clayton M. Christensen, Harvard Business Review Press, 2011
Chinese Proverb

Mais conteúdo relacionado

Destaque

สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์
สพฐ
 
สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์
setthapong
 

Destaque (16)

Baldrige awareness series 11 systems perspective มุมมองอย่างเป็นระบบ
Baldrige awareness series 11   systems perspective มุมมองอย่างเป็นระบบBaldrige awareness series 11   systems perspective มุมมองอย่างเป็นระบบ
Baldrige awareness series 11 systems perspective มุมมองอย่างเป็นระบบ
 
สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์
 
Innovation Journey 20141028@BU
Innovation Journey 20141028@BUInnovation Journey 20141028@BU
Innovation Journey 20141028@BU
 
Creativity and innovation 20120730 pea
Creativity and innovation 20120730 peaCreativity and innovation 20120730 pea
Creativity and innovation 20120730 pea
 
03 real practice to nis วิเชียร สุขสร้อย สนช
03 real practice to nis วิเชียร สุขสร้อย สนช03 real practice to nis วิเชียร สุขสร้อย สนช
03 real practice to nis วิเชียร สุขสร้อย สนช
 
สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์
 
Innovation and new product development นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่
Innovation and new product development นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่Innovation and new product development นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่
Innovation and new product development นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่
 
Summary of CIM 23052015 BUS7150
Summary of CIM 23052015 BUS7150Summary of CIM 23052015 BUS7150
Summary of CIM 23052015 BUS7150
 
Innovation journey 20150402 07 day#2
Innovation journey 20150402 07 day#2Innovation journey 20150402 07 day#2
Innovation journey 20150402 07 day#2
 
Creativity & business innovation development 28082014@KU
Creativity & business innovation development 28082014@KUCreativity & business innovation development 28082014@KU
Creativity & business innovation development 28082014@KU
 
Kant innovation process 2
Kant innovation process 2Kant innovation process 2
Kant innovation process 2
 
Innovation journey 20150402 07 Day#1
Innovation journey 20150402 07 Day#1Innovation journey 20150402 07 Day#1
Innovation journey 20150402 07 Day#1
 
Business Model Innovation by Trick of the Trade
Business Model Innovation by Trick of the TradeBusiness Model Innovation by Trick of the Trade
Business Model Innovation by Trick of the Trade
 
Innovation Journey 20151003-04 NIDA
Innovation Journey 20151003-04 NIDAInnovation Journey 20151003-04 NIDA
Innovation Journey 20151003-04 NIDA
 
Innovation Journey 20150407 Day#3
Innovation Journey 20150407 Day#3Innovation Journey 20150407 Day#3
Innovation Journey 20150407 Day#3
 
ศิลปะแบบ Op-Art (TH)
ศิลปะแบบ Op-Art (TH)ศิลปะแบบ Op-Art (TH)
ศิลปะแบบ Op-Art (TH)
 

Semelhante a Innovation on the fly การสร้างนวัตกรรมชั่วพริบตา

High performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศ
High performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศHigh performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศ
High performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศ
maruay songtanin
 
Culture of experimentation วัฒนธรรมการทดลอง
Culture of experimentation วัฒนธรรมการทดลองCulture of experimentation วัฒนธรรมการทดลอง
Culture of experimentation วัฒนธรรมการทดลอง
maruay songtanin
 
Communication innovation swu week#3
Communication innovation swu week#3Communication innovation swu week#3
Communication innovation swu week#3
pantapong
 
The right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ
The right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะThe right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ
The right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ
maruay songtanin
 
10 Tips for Effective Leadership: 10 กลเม็ดผู้นำ .pdf
10 Tips for Effective Leadership:  10 กลเม็ดผู้นำ .pdf10 Tips for Effective Leadership:  10 กลเม็ดผู้นำ .pdf
10 Tips for Effective Leadership: 10 กลเม็ดผู้นำ .pdf
maruay songtanin
 
Managing change การบริหารการเปลี่ยนแปลง
Managing change การบริหารการเปลี่ยนแปลงManaging change การบริหารการเปลี่ยนแปลง
Managing change การบริหารการเปลี่ยนแปลง
maruay songtanin
 

Semelhante a Innovation on the fly การสร้างนวัตกรรมชั่วพริบตา (20)

Innovation Design Methods
Innovation Design MethodsInnovation Design Methods
Innovation Design Methods
 
High performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศ
High performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศHigh performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศ
High performance culture การสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศ
 
Beware the next big thing
Beware the next big thingBeware the next big thing
Beware the next big thing
 
Entrepreneurship : New Venture Creation
Entrepreneurship : New Venture CreationEntrepreneurship : New Venture Creation
Entrepreneurship : New Venture Creation
 
Culture of experimentation วัฒนธรรมการทดลอง
Culture of experimentation วัฒนธรรมการทดลองCulture of experimentation วัฒนธรรมการทดลอง
Culture of experimentation วัฒนธรรมการทดลอง
 
Growth Mindset กรอบความคิดแบบเติบโต.pdf
Growth Mindset กรอบความคิดแบบเติบโต.pdfGrowth Mindset กรอบความคิดแบบเติบโต.pdf
Growth Mindset กรอบความคิดแบบเติบโต.pdf
 
(Oishi Group) Business Strategy for Entrepreneur
(Oishi Group) Business Strategy for Entrepreneur(Oishi Group) Business Strategy for Entrepreneur
(Oishi Group) Business Strategy for Entrepreneur
 
Communication innovation swu week#3
Communication innovation swu week#3Communication innovation swu week#3
Communication innovation swu week#3
 
Learning innovative Design101
Learning innovative Design101Learning innovative Design101
Learning innovative Design101
 
523
523523
523
 
NIA-Khon Kaen curriculum development
NIA-Khon Kaen curriculum developmentNIA-Khon Kaen curriculum development
NIA-Khon Kaen curriculum development
 
2.budgeting&project management by kanniga
2.budgeting&project management by kanniga2.budgeting&project management by kanniga
2.budgeting&project management by kanniga
 
Baldrige awareness series 7 managing for innovation การจัดการเพื่อสร้างนวัต...
Baldrige awareness series 7   managing for innovation การจัดการเพื่อสร้างนวัต...Baldrige awareness series 7   managing for innovation การจัดการเพื่อสร้างนวัต...
Baldrige awareness series 7 managing for innovation การจัดการเพื่อสร้างนวัต...
 
The agile executive ทีมบริหารที่คล่องตัว
The agile executive ทีมบริหารที่คล่องตัวThe agile executive ทีมบริหารที่คล่องตัว
The agile executive ทีมบริหารที่คล่องตัว
 
Chapter 12 design thinking in product
Chapter 12 design thinking in productChapter 12 design thinking in product
Chapter 12 design thinking in product
 
The right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ
The right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะThe right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ
The right to win กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ
 
Case Study : Customer Centric & Lead User 2
Case Study : Customer Centric & Lead User 2Case Study : Customer Centric & Lead User 2
Case Study : Customer Centric & Lead User 2
 
10 Tips for Effective Leadership: 10 กลเม็ดผู้นำ .pdf
10 Tips for Effective Leadership:  10 กลเม็ดผู้นำ .pdf10 Tips for Effective Leadership:  10 กลเม็ดผู้นำ .pdf
10 Tips for Effective Leadership: 10 กลเม็ดผู้นำ .pdf
 
Managing change การบริหารการเปลี่ยนแปลง
Managing change การบริหารการเปลี่ยนแปลงManaging change การบริหารการเปลี่ยนแปลง
Managing change การบริหารการเปลี่ยนแปลง
 
Lean Startup Intensive Workshop (Thai)
Lean Startup Intensive Workshop (Thai)Lean Startup Intensive Workshop (Thai)
Lean Startup Intensive Workshop (Thai)
 

Mais de maruay songtanin

หงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdf
หงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdfหงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdf
หงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdf
maruay songtanin
 
7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf
7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf
7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf
maruay songtanin
 
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
maruay songtanin
 
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
 
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
maruay songtanin
 
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
maruay songtanin
 
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
maruay songtanin
 
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
maruay songtanin
 
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfOperational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
maruay songtanin
 

Mais de maruay songtanin (20)

หงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdf
หงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdfหงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdf
หงส์ดำ Black Swan - The Impact of the Highly Improbable.pdf
 
7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf
7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf
7 proven leadership principles หลักการผู้นำ 7 ประการ.pdf
 
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
 
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
 
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
 
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfOperational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
 
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
 
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 

Innovation on the fly การสร้างนวัตกรรมชั่วพริบตา

  • 1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com11ธันวาคม 2557
  • 2. by Scott D. Anthony, David S. Duncan, and Pontus M.A. Siren Scott D. Anthony is the managing partner of Innosight, an innovation consultancy. He is based in Singapore. David S. Duncan is a senior partner at Innosight, based in Lexington, Massachusetts. Pontus M.A. Siren is a principal in Innosight’s Singapore office. From Harvard Business Review December 2014
  • 3.  Most companies don’t have multimillion-dollar innovation budgets—but they can still build smart, evidence-driven, affordable innovation systems.
  • 4. Most executives will admit thattheir companies don’t innovatein a reliable, orderly way. Toomany breakthroughs happen onlybecause of serendipity or individualheroism. Great ideas remain lockedinside employees’ heads, and theconcepts that are developed oftenaren’t the most promising. Butthere is a way to make innovationmore systematic—without massiveinvestments, restructuring, or evena single hire. In this article threeconsultants explain how a companycan build a “minimum viable”innovation function, in just threemonths, by doing the following: Day 1–30: Define your innovationbuckets, looking at how muchgrowth innovations in your corecanproduce and how much will need tocome from new-growthinitiatives. Day 20–50: Zero in on a fewstrategic opportunities, after talkingto customers to identify growingneeds that match your capabilities. Day 20–70: Dedicate asmall team to begin developinginnovations. Day 45–90: Set up a committeeto shepherd projects, borrowingventure capitalists’ best practices. Drawing on the experiences ofa financial services firm, a waterutility, a hospital, and a 100-yearoldnonprofit, the authors describehow to use this approach to buildsystems that ensure that goodideas are encouraged, identified,shared, prioritized, resourced, anddeveloped.
  • 5.
  • 6. แทบทุกบริษัทมีการสร้างนวัตกรรม แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่ทาอย่างเป็นระบบ นวัตกรรมที่ประสบความสาเร็จมักจะมีเส้นทางที่มองไม่เห็น และ ต้องอาศัยการกระทาที่กล้าหาญของแต่ละบุคคลหรือเกิดจาก ความบังเอิญ ปัญหาคือ ความคิดที่ดี ๆ ยังคงอยู่ในหัวของพนักงาน ความคิด ริเริ่มทางนวัตกรรมใช้เวลายาวเกินไป และความคิดนั้นบางที ไม่ได้สนองความสาคัญเชิงกลยุทธ์
  • 7. "ระบบการสร้างนวัตกรรมขั้นพื้นฐาน" (Minimum viable innovation system=MVIS) หมายถึงพื้นฐานของการเริ่มต้นที่มี ความน่าเชื่อถือ ในการสร้างนวัตกรรมที่เน้นกลยุทธ์ MVISจะทาให้แน่ใจได้ว่า ความคิดที่ดีจะได้รับการสนับสนุน มี การใช้ร่วมกัน มีการทบทวน จัดลาดับความสาคัญ มีการจัดสรร ทรัพยากร มีการพัฒนา ได้รับรางวัล และทาให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นวิธีที่ไม่จาเป็นต้องใช้เวลาหลายปีในการทางาน ไม่ต้อง เปลี่ยนแปลงวิธีที่องค์กรทางานขั้นพื้นฐานและไม่ต้องเปลี่ยน การจัดสรรทรัพยากรอย่างมีนัยสาคัญ
  • 8. สี่ขั้นตอนพื้นฐานใน 90 วัน วันที่ 1 ถึงวันที่ 30: กาหนดถังนวัตกรรม (DAY 1 TO 30: Define Your Innovation Buckets) วันที่ 20 ถึง 50: เลือกโอกาสเชิงกลยุทธ์ 2-3 ประการ (DAY20 TO 50: Zero In on a Few Strategic Opportunity Areas) วันที่ 20 ถึง 70 คัดเลือกทีมขนาดเล็กในการพัฒนานวัตกรรม (DAY 20 TO 70: Form a Small, Dedicated Team to Develop the Innovations) วันที่ 45 ถึง 90: สร้างกลไกเพื่อให้โครงการเดินหน้า(DAY 45 TO 90: Create a Mechanism to Shepherd Projects)
  • 9. วันที่ 1 ถึงวันที่ 30: กาหนดถังนวัตกรรม พูดอย่างกลยุทธ์ นวัตกรรมมีทั้งหมดสองถัง ถังที่หนึ่ง นวัตกรรมที่ขยายธุรกิจในปัจจุบัน ไม่ว่าจะโดยการ เสริมสร้างข้อเสนอที่มีอยู่ หรือโดยการปรับปรุงการดาเนินงาน ภายใน ถังที่สอง นวัตกรรมที่สร้างการเจริญเติบโตใหม่ โดยเข้าถึงกลุ่ม ลูกค้าใหม่หรือตลาดใหม่ ซึ่งมักจะผ่านรูปแบบธุรกิจใหม่ เราจะเรียกถังแรกว่า นวัตกรรมหลัก(core innovations) และถัง ที่สองว่า นวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต(new-growthinnovations)
  • 10. โครงการนวัตกรรมหลัก หมายถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงใน ระดับพื้นฐาน ที่เชื่อมโยงกับกลยุทธ์และการบริหารจัดการใน ปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่อยู่ภายในโครงสร้างธุรกิจหลักของ องค์กร โครงการนวัตกรรมหลัก เป็นโครงการที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทน อย่างรวดเร็ว มีความสาคัญในอนาคตอันใกล้ และจะต้องได้รับ การสนับสนุนในระดับพื้นฐาน
  • 11. โครงการนวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต เป็นการริเริ่มการ เจริญเติบโต โดยนาเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่กับลูกค้าที่มีอยู่ หรือเป็น การขยายผลิตภัณฑ์เข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่อยู่ติดกันหรือตลาด ทางภูมิศาสตร์ใหม่ หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นต้นฉบับที่ดี กว่าเดิม การมีช่องว่างขนาดใหญ่การเจริญเติบโตจากธุรกิจหลักของคุณ ทาให้ต้องอาศัยนวัตกรรมที่จะต้องมีเพิ่มอีก และจะต้องใช้เวลา ในการรับรู้รายได้อย่างมีนัยสาคัญจากช่องว่างนั้น
  • 12. คุณสามารถใช้เวลาสองสัปดาห์ ในการประมาณการประโยชน์ที่ จะได้จากขนาดของช่องว่างนั้น สาหรับรายได้และผลกาไรในอีก ห้าปีข้างหน้า เปรียบเทียบกับเป้าหมายของคุณจากการ ดาเนินงานด้วยวิธีปัจจุบันของคุณในปีที่ห้า ซึ่งจะทาให้สามารถเปรียบเทียบค่าพื้นฐานของการใช้ เวลา ความพยายาม และทรัพยากร ในการมุ่งเน้นไปที่ นวัตกรรมหลัก (core innovations) และ นวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต (new-growth innovations) ว่าควรเป็นอย่างละเท่าใด
  • 13. เมื่อช่องว่างการเจริญเติบโตของคุณมีขนาดใหญ่พอสมควรคุณ อาจต้องมีการแบ่งความพยายามเจริญเติบโตใหม่ของคุณ เพื่อ การจับคู่สิ่งเหล่านั้นไปยังทิศทางที่เป็นไปได้ที่แตกต่างกัน สาหรับการเติบโตในอนาคต เราขอแนะนาให้กาหนดไม่เกิน 3 ประการ
  • 14. วันที่ 20 ถึงวันที่ 50: เลือกโอกาสเชิงกลยุทธ์ 2-3ประการ MVIS ทาให้การใช้ทรัพยากรที่จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพจาก การใช้ช่องทางนวัตกรรม โดยเน้นการสร้างนวัตกรรมในจานวน ที่เล็กน้อย ของโอกาสเชิงกลยุทธ์ สิ่งเหล่านี้จะเหมาะสมกับภายในถังนวัตกรรมใหม่เพื่อการ เจริญเติบโต และดูเหมือนมีขนาดใหญ่พอที่จะได้ประโยชน์จาก ช่องว่างการเจริญเติบโต
  • 15. คุณมีวิธีการเลือกอย่างไร? คุณสามารถใช้เวลาเป็นเดือนหรือปี ใน การดาเนินการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม แต่เราไม่แนะนาให้ทา เราขอแนะนาให้ใช้เวลาสามสัปดาห์ของการวิจัย ด้วยความช่วยเหลือ ของผู้บริหารที่คุณคาดหวังว่าจะมีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรม พวกเขาจะต้องหาความต้องการลูกค้าที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จากลูกค้าอย่างน้อย12 คน ความต้องการเหล่านั้นอาจจะเป็นรากฐาน ของนวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต และเป็นการตรวจสอบการ พัฒนาใหม่รอบ ๆ อุตสาหกรรมของคุณด้วย นอกจากนี้ จงใช้เวลามองหานวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต ภายในองค์กรของคุณ บางครั้งอาจจะมีบางวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ที่ยังไม่ได้รับความสนใจอย่างเหมาะสมจากผู้บริหารระดับสูง
  • 16. ถัดไปร้องขอให้สมาชิกของทีมผู้บริหารอาวุโส อยู่ในห้องประชุม ตลอดช่วงบ่าย เพื่อแบ่งปันผลการวิจัย และจะไม่เลิกจนกว่าพวกเขา จะมีการระบุ โอกาสเชิงกลยุทธ์ 3 ประการต่อไปนี้คือ: 1.สิ่งที่ลูกค้าในอนาคตจานวนมากต้องการ ที่ยังไม่มีใครตอบสนองได้ เป็นอย่างดี 2.เทคโนโลยีที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงได้อย่างง่ายขึ้น ถูกลง สะดวกขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจ กฎระเบียบ หรือทางสังคม ที่ ทวีความต้องการมากขึ้น 3.ความสามารถพิเศษของบริษัท ที่คู่แข่งไม่สามารถคัดลอกได้ง่าย ที่ จะทาให้คุณได้เปรียบในการคว้าโอกาสนี้
  • 17. หากคุณรวมทั้งสามเกณฑ์ดังกล่าวเข้าด้วยกัน คุณสามารถ หลีกเลี่ยงกับดักนวัตกรรมได้ เช่น การใฝ่หาโอกาสหลอก ๆ เพียงเพราะมันดูเหมือนยิ่งใหญ่ เพื่อต้องการหาว่ามีเงินอยู่ในนั้น ที่ไหนสักแห่ง หรือเดินเข้าสู่ตลาดใหม่ที่คุณไม่มีความได้เปรียบ เชิงกลยุทธ์
  • 18. การระบุโอกาสเชิงกลยุทธ์ เป็นการนาพลังของพนักงานมุ่งไป ข้างหน้า แทนที่จะเล่นกับความคิดที่อยู่นอกองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดการเสียสละเวลาของพวกเขา หลังจาก ที่ผ่านทุกข้อพิสูจน์แล้วว่า เป็นสิ่งที่คุณจะไม่ทา(not going to do)
  • 19. วันที่ 20 ถึง 70 เลือกทีมขนาดเล็กในการพัฒนานวัตกรรม ระบบนวัตกรรมขั้นพื้นฐาน (MVIS)ที่จะทางานได้ ต้องมีคนอย่าง น้อยหนึ่งคน (และมักจะมากกว่า) ที่ตื่นขึ้นทุกเช้าจนถึงเข้านอน ทุกคืน คิดแต่เรื่องนวัตกรรม (ไม่ควรจะเป็นคุณ แต่ควรจะเป็น คนที่ต้องมารายงานกับคุณในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุน และคุณก็มี ส่วนในความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน) ไม่มีความจาเป็นที่จะต้องรับสมัครกองทัพ
  • 20. โดยทั่วไป เราแนะนาให้เริ่มต้นให้ทา 2 ข้อของโอกาสทาง ยุทธศาสตร์ที่ระบุไว้ แต่ทีมควรสารองโอกาสไว้อีก 6 ข้อ ในกรณีที่ชุดแรกไม่ได้ผล มากกว่าการมีหน้าที่สร้างนวัตกรรมขนาดใหญ่ เพื่อแสดงให้เห็น ถึงการดารงอยู่ของตัวเอง ที่เราแนะนาให้สร้างขีดความสามารถในการจัดการอย่างน้อย 2 ความคิดในครั้งเดียว เนื่องจากจะต้องมีการแก้ไข และอาจจะ ประสบความล้มเหลว
  • 21. สองอุปสรรคที่ทาให้บริษัทกลัว : การขาดทรัพยากร (ให้หาทรัพยากรเพิ่ม (Free up resource) หากคุณพบปัญหานี้ ก็ถึงเวลาที่จะนาการสร้างนวัตกรรมของคุณ ออกมาจากเงามืด) และ ขาดผู้ที่มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ MVIS (ให้เรียนรู้โดยการทา (Learn by doing) หากองค์กรของคุณเพิ่งเริ่มต้นมุ่งเน้นไปที่ นวัตกรรม ก็ไม่น่าแปลกที่ทีมงานทุกคนที่คุณแต่งตั้ง ยังไม่มี ประสบการณ์กับมันมากนัก)
  • 22. การเพิ่มทรัพยากรให้ (Free up resources) ให้เสนอรายชื่อทุกการสร้างนวัตกรรมที่มีความสาคัญ โดยพยายาม ระบุตลาดเป้าหมายของแต่ละความคิด ประเมินขนาดของโอกาสและ สินค้าคงคลัง ทรัพยากรที่ทุ่มเทในขณะนี้ ซึ่งตอบสนองการเสริมสร้าง กลยุทธ์หลักของคุณ และมุ่งเน้นโอกาสเชิงกลยุทธ์ มันควรจะค่อนข้างง่ายที่จะระบุโครงการที่ไม่สาคัญที่แย่งใช้ ทรัพยากรของคุณ ผู้นาระดับสูงควรยกย่องและชมเชยความกล้าหาญของเจ้าของ โครงการอื่น ที่เสียสละโครงการของตน เพื่อโครงการที่มุ่งเน้นการ เจริญเติบโตในอนาคตขององค์กร
  • 23. เรียนรู้โดยการทา (Learn by doing) เป็นอย่างไร? ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์เราแนะนาให้ใช้รายการตรวจสอบ ขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่า เราไม่ได้ข้ามขั้นตอนที่สาคัญ(ดูที่ท้ายการ นาเสนอเรื่อง "เราทาตามวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดหรือไม่" (Are We Following the Best Practices)?) ทีมงานควรมีวรรณกรรมของการปฏิบัติที่ดีที่สุดของนักนวัตกรรม และรายการตรวจสอบของตัวเองแขวนบนผนัง (สาหรับหนังสือเล่ม โปรดของเราโปรดดูท้ายบทความ"ชั้นวางหนังสือของนักนวัตกรรม" (An Innovator’s Bookshelf) สมาชิกในทีมจะได้พัฒนาทักษะของพวก เขาผ่านการแก้ปัญหา ในขณะที่พวกเขาทางานไปด้วย
  • 24. วันที่ 45 ถึง 90: สร้างกลไกเพื่อให้โครงการเดินหน้า หากคุณมีระบบการวางแผนและการจัดทางบประมาณที่มี ประสิทธิภาพ ให้ใช้ได้กับนวัตกรรมหลัก (core innovations) เท่านั้น แต่นวัตกรรมใหม่เพื่อการเจริญเติบโต (new-growth innovations) ต้องใช้วิธีการที่ยืมมาจากการปฏิบัติของการร่วมทุน (venture capital practices) เริ่มต้นโดยการสร้างกลุ่มผู้นาอาวุโสที่มีอิสระในการตัดสินใจเกี่ยวกับ การเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนเส้นทาง ของโครงการนวัตกรรมใหม่และ ไม่ควรซ้าคณะกรรมการบริหารในปัจจุบัน ที่สมาชิกในกลุ่มเคยชินกับ ความคิดการวางแผนขององค์กรแบบเดิม ๆ เพราะการอภิปราย เกี่ยวกับนวัตกรรม ควรหมายถึงการบรรลุเป้าหมายในระยะยาว
  • 25. ในการกากับดูแลโครงการ บุคคลกลุ่มนี้ควรคัดลอก 3 ขั้นตอน มาตรฐานการดาเนินการร่วมทุน (Venture Capital = VC): 1. พันธมิตรร่วมทุน(Venture capital partners) มักจะไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับโอกาสในการลงทุน ในความเป็นจริง VCsที่มีความเก๋า พอ จะบอกคุณว่า การลงทุนที่ดีที่สุดคือลงทุนในสิ่งที่สุดขั้วมาก ที่สุด ทุกโครงการใน MVISของคุณควรได้รับการสนับสนุนจาก ผู้บริหารระดับสูงหรือแชมป์ที่เชื่อมั่นลึกซึ้ง แต่คุณไม่ควรต้องรอ การได้รับอนุมัติทุกครั้ง ในการจะก้าวไปข้างหน้า
  • 26. 2. การตัดสินใจที่จะลงทุนในตอนเริ่มต้น ควรมีการพิจารณา อย่างระมัดระวัง แต่ส่วนมากการตัดสินใจเรื่องการใช้จ่าย จะ ขึ้นกับผู้บริหารสูงสุด (CEO) การสร้างนวัตกรรมขององค์กร ควร มีเกณฑ์กาหนดจานวนเงินลงทุนที่ทีมงานของโครงการสามารถ ใช้จ่ายได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากผู้นา 3. เงินทุนที่สาคัญของ VCไม่จาเป็นไปตามรอบงบประมาณ เพราะ เป็นการแก้ปัญหาความเสี่ยงที่สาคัญที่ควรจะได้รับการ ลงทุนเพิ่มเติม และเมื่อมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น คณะร่วมทุนจะมี การประชุมภายใน 36 ชั่วโมง เพื่อการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
  • 27. คณะผู้ร่วมทุนในกิจการ (Venture capitalists) ไม่จาเป็นต้อง กังวลกับเรื่องการบูรณาการในองค์กรขนาดใหญ่ เพราะทีมนาองค์กร มีความรับผิดชอบในการเสริมสร้าง ทั้ง ความสามารถและการสร้างสรรค์นวัตกรรม ขององค์กร ในขณะที่วิธีการ MVISหลีกเลี่ยงการทางานที่ยากลาบากในการ จัดการประสิทธิภาพการทางาน งบประมาณ และการบริหารผู้ส่ง มอบ แต่ก็มีข้อเสียคือ ต้องมีผู้นาระดับสูงที่จะมีส่วนร่วมใน ประเด็นเหล่านั้นเป็นการเฉพาะกิจ (ad hoc basis)
  • 28. ในตอนท้ายของ 90 วัน คุณควรมีการจัดตั้งถังนวัตกรรม ที่ระบุ โอกาสเชิงกลยุทธ์ มีทีมที่ได้เริ่มต้นในโครงการแรก และมีการ สร้างกลไกเพื่อเพิ่มความเร็วในการทางาน เมื่อคุณมี MVISและเห็นสัญญาณว่าโครงการเริ่มออกดอกออกผล (ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือนแรก หรืออาจใช้เวลานาน ขึ้นอยู่ กับสถานการณ์) ก็ถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
  • 29. ขั้นแรก ให้พิจารณาองค์ประกอบของ MVISที่ทางานได้ดี แล้วทาให้เป็น ระบบมากขึ้นอย่างเป็นทางการ แม้ว่าความพยายามดังกล่าวรู้สึกเหมือน คลาน แต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตตามธรรมชาติของ นวัตกรรม ซึ่งเป็นความสามารถขององค์กร ประการที่สอง พิจารณาหน้าที่พิเศษที่จะดาเนินการต่อไป ในองค์กรขนาดเล็ก อาจจะกาหนดให้คนเพียงคนเดียวที่จะทาหน้าที่เป็น แมวมอง (scout) เพื่อ รู้ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาด องค์กรขนาดใหญ่ อาจสร้างทีมพัฒนาธุรกิจ ที่มองหาโอกาสที่จะสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายการ เจริญเติบโต หรือรูปแบบกลุ่ม เพื่อดาเนินการวิจัยตลาดชาติพันธุ์ หรือพัฒนา เทคนิคการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุด การทางาน MVISควรจะเน้นการแก้อุปสรรคใหญ่ในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมภายในองค์กร ซึ่งมักจะเป็น งบประมาณขององค์กร แรงจูงใจ และ ระบบการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบเพื่อธุรกิจปัจจุบัน ไม่ได้สร้างสาหรับวันพรุ่งนี้ การปรับระบบเหล่านั้น เป็นเรื่องที่มีความท้าทาย มาก แต่เป็นสิ่งสาคัญที่จะส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม
  • 30. สามคาแนะนา 1. โปรดจาไว้ว่า "S" ใน MVISย่อมาจากระบบคุณไม่สามารถ เลือกที่จะทาขั้นตอนใดตอนหนึ่งของระบบ ทาตามทุกอย่าง หรือไม่ทาอะไรเลย 2. ที่ไม่สามารถละเว้นได้คือบุคลากรหากคุณยังไม่มีใครคิด มุ่งเน้นไปที่การเจริญเติบโตใหม่อย่างเต็มที่ คุณก็ตัดสินใจที่จะ ไม่ให้ความสาคัญกับการเจริญเติบโตใหม่ 3. วิธีที่คุณปฏิบัติต่อความล้มเหลวสาคัญกว่าวิธีการที่คุณให้ รางวัลกับประสบความสาเร็จ การซ่อนหรือกลัวความล้มเหลว จะ ทาลายโครงการในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
  • 31. การสร้าง MVISไม่ได้เปลี่ยนคุณเป็น Pixarหรือ Amazonได้อย่าง น่าอัศจรรย์ แต่มันจะช่วยให้คุณมีความก้าวหน้าในการเพิ่มการ คาดการณ์และผลผลิตของการลงทุนที่สาคัญ ต่อการเติบโตใน อนาคตอย่างเป็นรูปธรรม (Creating an MVIS won’t miraculously turn you into Pixar or Amazon, but it will help you make tangible progress in increasing the predictability and productivity of critical investments in future growth.)
  • 32.
  • 33. เราได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ดีที่สุดหรือไม่? 1. มีการพัฒนานวัตกรรมโดยทีมขนาดเล็ก ประกอบด้วยผู้ที่มี ประสบการณ์ หรือผู้ที่มีความพร้อมที่จะเรียนรู้หรือไม่? 2. มีทีมงานที่ใช้เวลาโดยตรงกับลูกค้าพอที่จะหาความคาดหวังเพื่อ ความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งหรือไม่? 3. ในการพิจารณาวิธีการใหม่ในการให้บริการลูกค้าเหล่านั้น ทีมได้ ตรวจสอบกับอุตสาหกรรม และประเทศอื่นๆ หรือไม่? 4. ทีมสามารถกาหนดลูกค้ารายแรกอย่างชัดเจน และเส้นทางไปถึงราย อื่น ๆ หรือไม่? 5. ความคิดของทีมสอดคล้องโอกาสเชิงกลยุทธ์ของบริษัท และข้อ ได้เปรียบที่น่าสนใจหรือไม่?
  • 34. 6. มีรายละเอียดรูปแบบธุรกิจใหม่ที่นาเสนอหรือไม่? 7. ทีมมีสมมติฐานที่เกี่ยวกับวิธีการสร้างรายได้หรือไม่? 8. สมาชิกในทีมได้ระบุทุกสิ่งที่เป็นจริงสาหรับสมมติฐานนี้หรือไม่? 9. ทีมมีแผนสาหรับการทดสอบความไม่แน่นอนเหล่านั้นทั้งหมด โดยเริ่มจากสิ่งที่สาคัญที่สุดหรือไม่? แต่ละการทดสอบมี วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน สมมติฐานการคาดการณ์ที่เฉพาะเจาะจง และแผนปฏิบัติการทางยุทธวิธีหรือไม่? 10. ค่าใช้จ่ายคงที่ ต่าพอที่จะอานวยความสะดวกในการแก้ไข หรือไม่? 11. ทีมแสดงให้เห็นถึงอคติต่อการกระทา โดยสร้างต้นแบบอย่าง รวดเร็วหรือไม่?
  • 35. GENERAL OVERVIEW The Innovator’s Solution, Clayton M. Christensen and Michael E. Raynor, Harvard Business School Press, 2003 Creativity, Inc., Ed Catmullwith Amy Wallace, Random House, 2014 Playing to Win, A.G. Lafleyand Roger L. Martin, Harvard Business Review Press, 2013 Innovation and Entrepreneurship, Peter F. Drucker, Harper & Row, 1985 Only the Paranoid Survive, Andrew S. Grove, Currency, 1996 The Innovator’s Extinction, David E. Ulmer, Create Space Publishing, 2012 Seizing the White Space, Mark W. Johnson, Harvard Business Press, 2010
  • 36. HOW-TO BOOKS DEVELOPING IDEAS Where Good Ideas Come From, Steven Johnson, Riverhead, 2010 Business Model Generation, Alexander Osterwalderand Yves Pigneur, John Wiley & Sons, 2010 Borrowing Brilliance, David KordMurray, Gotham Books, 2009 Made to Stick, Chip Heath and Dan Heath, Random House, 2007
  • 37. ASSESSING AND TESTING IDEAS The High-Velocity Edge, Steven J. Spear, McGraw-Hill, 2009 The Other Side of Innovation, Vijay Govindarajanand Chris Trimble, Harvard Business Review Press, 2010 Discovery-Driven Growth, Rita Gunther McGrath and Ian C. Macmillan, Harvard Business Press, 2009 The Lean Startup, Eric Ries, Crown Business, 2011 The Four Steps to the Epiphany, Steve Blank, K&S Ranch, 2005 The First Mile, Scott D. Anthony, Harvard Business Review Press, 2014
  • 38. BUILDING CAPABILITIES Building a Growth Factory, Scott D. Anthony and David S. Duncan, Harvard Business Review Press, 2012 The Innovator’s DNA, Jeff Dyer, Hal Gregersen, and Clayton M. Christensen, Harvard Business Review Press, 2011