Mais conteúdo relacionado
Semelhante a การลำเลียงอาหารของพืช (20)
การลำเลียงอาหารของพืช
- 1. การลาเลยงอาหารของพช
ํ ี ื
จุดประสงค์ การเรียนรู้ เพื่อให้ นกเรียนสามารถ
ั
1. สืบค้ นข้ อมูล อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับ
กระบวนการลําเลียงอาหารของพืช
2. วิเคราะห์ และอธิบายทิศทางและกลไกการ
ลําเลียงอาหารของพืชจากการศึกษาของ
นักวิทยาศาสตร์
- 2. การลําเลียงอาหารเป็ นกระบวนการที่สําคัญในพืช เพราะ
อาหารที่พืชสร้ างขึ ้นมาจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ส่วนใหญ่จะเกิดขึ ้นที่ใบ ได้ สารอาหาร คือ นํ ้าตาล ซึงจะถูก
่
ลําเลียงไปยังส่วนต่างๆ ของพืชเพื่อใช้ ในกระบวนการเมแทบอลิ
ซึม และพืชก็จะเปลี่ยนนํ ้าตาลที่เหลือใช้ ไว้ ในรูปของแปง แต่
้
พบว่าบริ เวณต่างๆ ของพืชนอกจากใบแล้ วยังมีสารอาหารที่พืช
สร้ างมาในรู ปของนํ ้าตาล แปง และสารประกอบอื่นๆ สะสมอยู่
้
เช่น รากของมันเทศ มันสําปะหลัง เป็ นต้ น ทังๆ ที่รากไม่มีการ
้
สังเคราะห์ด้วยแสงเกิดขึ ้น แสดงว่าต้ องมีการลําเลียงนํ ้าตาลไป
ยังส่วนต่างๆ ของพืช
- 4. การค้ นคว้ าเกียวกับการลําเลียงอาหารของพืช
่
นักวิทยาศาสตร์ ที่ได้ ทดลองเรื่ องการลําเลียงอาหารของพืช คอ ื
1. มลพิจิ (Malpighi) โดยการควันลําต้ นพืชใบเลี ้ยงคออก
ั ่ ู่
ตังแต่เปลือกไม้ ออกจนถึงชัน แคมเบยม เม่ือปล่อยให้ พืช
้ ้ ี
เจริ ญระยะหนึงพบว่าเปลือกของต้ นไม้ เหนือรอยควันจะพองออก
่ ่
- 6. 2. เมสันและมัสเคล (Mason และ Maskell) ได้ ศกษาการ ึ
ทดลองของมลพิจิ แล้ วมีความเห็นว่าการควันเปลือกไม้ ไม่มีผลต่อ
ั ่
การคายนํ ้าของพืช เนื่องจากไซเลมยังสามารถลําเลียงนํ ้าได้ สวน
่
เปลือกต้ นไม้ ที่อยูเ่ หนือรอยควันพองออก เนื่องจากมีการสะสมของ
่
นํ ้าตาลที่ไม่สามารถลําเลียงผ่านมายังด้ านล่างของลําต้ นได้ ส่วน
บริ เวณที่อยูด้านล่างรอยควันสารละลายนํ ้าตาลก็จะเบาบางลง
่ ่
เรื่ อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ลําต้ นบริ เวณเหนือรอยควันจะเจริ ญกว่า
่
บริ เวณ ใต้ รอยควัน แสดงว่า นํ ้าตาลถูกลําเลียงจากใบลงมา
่
ด้ านล่างนันเอง
่
- 7. 3. มีผ้ ศกษาการลําเลียงนํ ้าตาลในพืชโดยใช้ ธาตุกมมันตภาพรังสี
ู ึ ั
ซ่งได้ แก่ 14C ที่เป็ นองค์ประกอบของคาร์ บอนไดออกไซด์
ึ
โดยเตรี ยมคาร์ บอนไดออกไซด์ในรูปของสารละลาย แล้ วตอมา ่
คาร์ บอนไดออกไซด์ ก็จะระเหยเป็ นแก๊ ส ซึ่งพืชจะดูดนําไปใช้ ใน
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
หลังจากการทดลองให้ ได้ รับแสงเป็ นเวลา 35 นาที แล้ วนํา
เนื ้อเยื่ อต่างๆ มาทําให้ แห้ งโดยการแช่แข็ง และตัดเป็ นแผ่นบางๆ
นําไปวางบนแผ่นฟิ ลม์ถ่ายรูปในห้ องมืด เพื่อตรวจสอบนํ ้าตาลที่มี
14C
- 9. จากการทดลอง ก. พบนํ ้าตาลที่มี 14C ที่สวนล่างของพืช
่
การทดลอง ข. จะพบ 14C ที่สวนยอดของพืช สวนการทดลอง ค.
่ ่
พบ 14C ที่สวนบนและส่วนล่างของพืช หรื อทุกส่วนของพืช ส่วน
่
ใหญ่จะพบ 14C ในซีฟทิวบ์ จากการทดลอง พืชใช้
คาร์ บอนไดออกไซด์ ที่รับเข้ ามาทางปากใบเพื่อใช้ ในการสร้าง
อาหาร อาหารที่พืชสร้ างขึ ้นจะมีการลําเลียงไปยังแหล่งที่สร้ างได้
น้อย เช่น ยอด หรื อแหล่งที่สร้ างไม่ได้ เช่น ราก
การลําเลียงจะลําเลียงทางโฟลเอม มีทิศทางทังขึ ้นและลง แตกต่าง
็ ้
จากการลําเลียงนํ ้าและธาตุอาหารที่ลําเลียงทางไซเลม และมี
ทิศทางลําเลียงขึ ้นจากรากไปสูยอดและใบ
่
- 10. 4. ซมเมอร์แมน (M.H. Zimmerman) ได้ ทําการทดลองโดย
ิ
ใช้ เพลี ้ยอ่อน ให้ เพลี ้ยอ่อนแทงงวงเข้ าไปดูดของเหลวจากโฟลเอม
็
ของพืช พบว่ามีของเหลวไหลมาออกทางก้ นของเพลี ้ยอ่อน
จากนัน ซมเมอร์แมนก็ได้ วางยาสลบ และตัดหัวของเพลี ้ยอ่อนออก
้ ิ
ของเหลวจาก โฟลเอมก็ยงคงไหลออกมาตามงวงของเพลี ้ยอ่อนอยู่
็ ั
เมื่อเอาของเหลวที่ไหลออกจากงวงไปวิเคราะห์พบว่า ส่วนใหญ่
เป็ น นํ ้าตาลซูโครส และสารอื่นๆ เช่น กรดอะมิโน ฮอร์ โมน และธาตุ
อาหาร
- 11. ถ้าใช้ซูโครสท่ มี C เป็ นองค์ ประกอบ แล้ วให้ เพลย
ี ี้
อ่ อนแทงงวงเข้ าไปที่ท่อโฟลเอ็มตาแหน่งต่าง ๆ สามารถหา
ํ
อตราการเคล่ ือนท่ ของนําตาลในโฟลเอ็มได้ พบว่านําตาล
ั ี ้ ้
ในโฟลเอ็มเคล่ ือนท่ ี มีความเร็วประมาณ 100 เซนติเมตร
- 12. เพราะเหตุที่นํ ้าตาลในโฟลเอ็มเคลื่อนที่ด้วยความเร็ ว จึงมี
ผ้ สงสัยว่า การเคลื่อนที่ของนํ ้าตาลในโฟลเอ็มนันคงไม่ใช่การ
ู ้
แพร่แบบธรรมดา และไม่ใช่การไหลเวียนของไซโทพลาซม ึ
สําหรับกลไกของการลําเลียงอาหารทาง โฟลเอมนัน อาจอธิบาย
็ ้
ได้ ตาม สมมติฐานการไหลของมวลสาร (Mass flow
hypothesis)
- 13. 1. สมมติฐานการไหลของมวลสาร หรือสมมติฐานของมน ช์ ึ
สมมติฐานการไหลของมวลสาร (Mass flow hypothesis)
เป็ นสมมติฐานที่เสนอโดย มึนซ์ (Munch) นักสรี รวิทยาพืช
ชาวเยอรมนได้ เสนอสมมติฐานการลําเลียงอาหารในโฟลเอ็มวา
ั ่
เกิดจากความแตกต่างของแรงดัน โดยเซลล์ของใบ ซ่งทําการ ึ
สังเคราะห์ด้วยแสงได้ นํ ้าตาล ทําให้ มีความเข้ มข้ นของนํ ้าตาลสูง
นํ ้าตาลจึงถูกลําเลียงไปเซลล์ข้างเคยง
ี
- 14. ทําให้ มีความเข้ มข้ นของนํ ้าตาลสูงตามไปด้ วยอย่างรวดเร็ ว และจะ
มีการลําเลียงนํ ้าตาลไปยังเซลล์ตอๆ ไปจนถงโฟลเอม แล้ วเกิด
่ ึ ็
แรงดันให้ โมเลกุลนํ ้าตาลเคลื่อนไปตามโฟลเอ็ม ไปยงเนื ้อเย่ือท่ีมี
ั
ความเข้ มข้ นของนํ ้าตาลน้ อยกว่า เช่น เซลล์ที่ราก ลําต้ น หรื อ
ปลายยอด นํ ้าตาลยังคงเคลื่อนที่ตอไปได้ ตราบใดที่ความเข้ มข้ น
่
ของนํ ้าตาลยังแตกต่างกันอยู่
- 17. สมมติฐานการไหลของมวลสาร (Mass-flow
hypothesis หรือ Bulk flow hypothesis) หรือการ
หลเนื่องจากแรงดัน เป็ นสมมติฐานที่ใช้ อธิบายการลําเลียง
สารอาหารผ่าน โฟลเอ็ม โดยมีการทดลองที่สนับสนุนสมมติฐานนี ้
ได้ การไหลของสารอาหารใน โฟลเอ็มจากแหล่งผลิตหรื อแหล่ง
สร้ าง (Source) ไปยังแหล่งรับ หรื อแหล่งใช้ (Sink)
แหล่งผลิตในพืช หมายถึงใบหรื อส่วนของพืชที่สร้ างอาหาร
แหล่งรับ หมายถึงส่วนของพืชที่ใช้ และสะสมอาหาร ได้ แก่ ราก
ยอด ลําต้ น ผล ท่ีชนมีโซฟิ ลล์ของใบพืชเกิดกระบวนการ
ั้
สังเคราะห์ด้วยแสงได้ นํ ้าตาลกลูโคส
- 18. การลําเลียงอาหารในโฟลเอม เกิดจากความแตกต่างของ
็
แรงดันนํ ้า หรื อแรงดันเต่งหรื อแรงดัน ออสโมติก ระหว่างต้ นทาง
หรือแหล่งผลิต กับปลายทางหรื อแหล่งรับ พืชมีทอสําหรับลําเลียง
่
นํ ้าและแร่ธาตุ กับอาหารที่พืชสร้ างขึ ้น แยกกันโดยนํ ้าและแร่ธาตุ
ส่งไปตามไซเลม อาหารส่งไปตามโฟลเอม ส่วนทางด้ านข้ างนันทัง้
็ ้
สอง มีเรย์(Ray) ส่งออกไปเลี ้ยงเซลล์ที่อยูข้าง ๆได้ ทําให้ พืชมี
่
การเจริ ญเติบโตออกไปได้ ทงทางด้ านบน ด้ านล่าง และด้ านข้ าง
ั้
- 19. สารละลายในซีฟทิวบ์เคลื่อนผ่านซีฟทิวบ์ที่เรี ยงติดกันจาก
แผ่นใบ เข้ าสูก้านใบ กิ่ง และ ลําต้ นของพืชตามลําดับ
่
สารอาหารที่ผลิตได้ จะเคลื่อนตัวจากใบไปยังส่วนต่างๆ เพื่อใช้ หรือ
สะสม เช่น สะสมที่ราก ดังนันที่ใบจึงมีความเข้ มข้ นของ
้
สารอาหารสูงกว่าบริ เวณราก การลําเลียงจึงเกิดขึ ้นอย่างตอเน่ือง ่
จากใบสูราก ที่เซลล์รากมีการเปลี่ยนนํ ้าตาลเป็ นแปงซึงไม่ละลาย
่ ้ ่
นํ ้า ดังนันปริ มาณนํ ้าตาลในรากจึงตํ่าอยูเ่ สมอ การลําเลียง
้
สารอาหารจึงเกิดขึ ้นได้ เรื่ อยๆ ส่วนนํ ้าที่ลําเลียงมาด้ วยก็จะแพร่
จากซีฟทิวบ์เข้ าสไซเลมหรื อเซลล์ข้างๆ ได้
ู่
- 21. ความเร็ วของการลําเลียงขึ ้นอยูกบแรงดันภายในท่อต้ นทาง
่ ั
คือ ที่ใบ และ ท่อปลายทาง คือ ที่ราก ถ้าที่ใบมีแรงดันภายในโฟล
เอมมาก(สังเคราะห์ด้วยแสงมากสร้ างนํ ้าตาลมาก) และท่ีรากมี
็
แรงดันภายในโฟลเอ็มน้อย (มีการใช้ นํ ้าตาล และสะสมแปงมาก)
้
การลําเลียงอาหารก็จะเกิดขึ ้นได้ เร็ว
นอกจากนี ้ อณหภมิท่ีพอเหมาะ แก๊ สออกซิเจน แก๊ ส
ุ ู
คาร์ บอนไดออกไซด์ นํ ้า และแสงสวาง กเป็นปัจจยสาคญในการ
่ ็ ั ํ ั
ลําเลียงสารอาหารของพชด้ วย
ื
- 22. การเกิดแคลโลส (callose) ซึงเป็ นพอลิกแซกคาไรด์ของกลูโคส
่
เกาะผนังของซีฟทิวบ์ทําให้ ช่องลําเลียงแคบลง ก็ทําให้ การลําเลียง
อาหารช้ าลงด้ วย ปกติภายในซีฟทิวบ์ มีเส้ นใยโปรตีนที่เรี ยงตัว
ตามแนวยาวจากปลายด้ านหนึงไปยังปลายอีกด้ านหนึงทําให้
่ ่
สารอาหารเคลื่อนย้ ายสะดวก เพราะเส้ นใยโปรตีนเรี ยงตัวอย่างมี
ระเบียบ
- 23. สรุปแบบจาลองการลาเลียงสารอาหาร
ํ ํ
ในใบพืชเป็ นแหล่งสร้ างนํ ้าตาลกลูโคสจากกระบวนการ
สังเคราะห์ด้วยแสง แล้ วนํ ้าตาลกลูโคสถูกลําเลียงออกมาในไซ
โทพลาซึม แล้ วเปลี่ยนเป็ นนํ ้าตาลซูโครสก่อนเข้ าสูโฟลเอ็ม
่
จากนันนํ ้าตาลซูโครสเคลื่อนย้ ายไปในซีฟทิวบ์ของโฟลเอ็ม โดย
้
วิธีการลําเลียงแบบใช้ พลังงาน(active transport) ทําให้
ความเข้มข้นของสารละลายในซีฟทิวบ์ต้นทางสูงขึ ้น นํ ้าจากเซลล์
ข้ างเคียงออสโมซสเข้ ามา ทําให้ ซีฟทิวบ์มีแรงดันเพิ่มขึ ้น ซึงจะไปดัน
ิ ่
ให้ สารละลายนํ ้าตาลซูโครสลําเลียงไปตามท่อโฟลเอมจนถึงซฟ
็ ี
ทิวบ์ปลายทาง