Mais conteúdo relacionado
Semelhante a การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (12)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
- 3. คณะผู้จัดทาโครงงาน
• จัดทาโดย
– นางสาวกฤตพร สุดสงวน เลขที่ 17 ชั้น ม.6 ห้อง 13
– นางสาวธมนวรรณ เข็มทอง เลขที่ 1 ชั้น ม.6 ห้อง 13
• อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
– ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
– ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม คุณครูธีรเทพ ซูข่า
- 4. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
• การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาติตะวันตกเกิดขึ้นในศตวรรษที่
14-15 เริ่มขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งส่งผลกระทบกับโลกของเราเป็นอย่างมากเพราะว่าใน
อดีตมีนักคิดมากมายในยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการที่เป็นพื้นฐานความคิดของงานศิลปะใน
ปัจจุบัน การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการก่อให้ผลงานมรดกโลกของเรามากและงานศิลปะ
บางอย่างยังเป็นพื้นฐานของวัฒนธรรมบางวัฒนธรรมด้วย แนวคิดหลักในยุคนี้คือ
มนุษยธรรมและธรรมชาติ ซึ่งทาให้คนเราเชื่อศาสนาน้อยลงและเริ่มที่จะรู้จักชีวิตและธรรม
มาชาติมากขึ้น และปรับตัวเรียนรู้กับตัวเองและธรรมชาติจนเกิดเป็นศิลปวัฒนธรรมขึ้นมา
เหตุผลที่เลือกที่จะทาโครงงานนี้คือเพื่อที่จะให้ทราบถึงความเป็นจริงเกี่ยวกับที่มาของศิลปะ
และวิทยาการต่างๆ เรื่องการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการเป็นเนื้อหาประวัติศาสตร์สาหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 และเป็นเนื้อหาที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 ใช้ในการสอบเข้า
มหาวิทยาลัยอีกด้วย ซึ่งการเลือกที่จะทาเรื่องนี้นอกจากจะได้เผยแพร่ความเป็นมาของศิลปะ
ในปัจจุบัน ยังได้ความรู้และลายละเอียดเกี่ยวกับการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการเพื่อนาไปเป็น
ความรู้เพื่อการศึกษาและการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคตอีกด้วย
- 7. หลักการและทฤษฎี
• จากการที่ได้ศึกษาเรื่อง การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ซึ่งเป็นเนื้อหาในวิชาสังคม
ศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 นั้นทาให้ได้ความรู้
เกี่ยวกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์มากขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ
ที่มาศิลปะที่มีอยู่ในปัจจุบันว่ามีความเป็นมาอย่างไร เหตุใดจึงเกิดศิลปะพวกนี้
ขึ้นในสังคมโลกของเรา ซึ่งความรู้ในอดีตส่งผลทาให้ปัจจุบันนี้เกิดความ
ศิลปะเช่นวันนี้ได้
- 16. การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (RENAISSANCE)
• แปลว่า เกิดใหม่ (REBIRTH) หมายถึง การนาเอาศิลปวิทยาการของ กรีก
และโรมันมาศึกษาใหม่ ทาให้ศิลปวิทยาการกรีก-โรมันเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง
หนึ่ง เป็นสมัยที่ ชาวยุโรปเกิดความกระตือรือร้นสนใจอารยธรรมกรีก-
โรมัน จึงถือว่าเป็นยุคเจริญรุ่งเรืองที่ ชาวยุโรปมีสิทธิและเสรีภาพ ช่วงเวลานี้
จึงถือว่าเป็นขบวนการขั้นสุดท้ายที่จะปลดปล่อยยุโรปจาก สังคมในยุคกลาง
ที่เคยถูกจากัดโดยกฏเกณฑ์และข้อบังคับของคริสต์ศาสนาสาเหตุและความ
เป็นมาของการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
- 18. สาเหตุและความเป็นมาของการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
• ความเจริญทางเศรษฐกิจและการเกิดรัฐชาติในปลายยุคกลาง ทาให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งด้านองค์กรทางการเมือง องค์กรทางเศรษฐกิจซึ่งต้อง
ใช้ความรู้ความ สามารถมาบริหารจัดการ แต่การศึกษาแบบเดิมเน้นปรัชญาทาง
ศาสนาและสังคมในระบบฟิวดัล จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสังคม
ได้ ดังนั้นนักปราชญ์สาขาต่างๆ จึงหันมาศึกษา อารยธรรมกรีกและโรมัน เช่น
นักกฎหมายศึกษากฎหมายโรมันโบราณเพื่อนามาใช้พิพากษาคดี ทางการค้า นัก
รัฐศาสตร์ศึกษาตาราทางการเมือง เพื่อนามาใช้ในการทูตและความสัมพันธ์ระหว่าง
ประเทศ รวมทั้งนักประวัติศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ ก็ค้นหา
ความจริงและสนใจ ศึกษาอารยธรรมกรีก-โรมันเช่นกัน เป็นต้น
- 21. ผลงานสาคัญ
• วรรณคดีประเภทคลาสสิก
– นิคโคโล มาเคียเวลลี
– ฟรานเซสโก เพทราร์ก
– วิลเลียม เช็กสเปียร์
• ศิลปกรรม
– ไมเคิลแอนเจโล บูโอนาร์โรตี
– เลโอนาร์โด ดา วินชี
– ราฟาเอล
• ด้านวิทยาการความเจริญอื่นๆ
– ด้านดาราศาสตร์
– ด้านการพิมพ์
- 23. วรรณคดีประเภทคลาสสิก
• นักมนุษยนิยมที่กระตุ้น จินตนาการของชาวยุโรปให้มาสนใจงานวรรณคดี
และปรัชญา ได้รับการ ยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งมนุษยนิยม คือ ฟรานเซสโก
เพทราร์ก (FRANCESCO PETRARCA : ค.ศ. 1304-1374) ชาวอิตาลี ผู้ซึ่ง
ชี้ความ งดงามของภาษาละตินและการใช้ภาษาละตินให้ถูกต้อง ผู้ที่สนใจและ
นิยมงานเขียนวรรณคดีประเภทคลาสสิกจะค้นคว้าศึกษางานของ ปราชญ์
สมัยโรมันตามห้องสมุดของวัดและโบสถ์วิหารในยุโรป แล้วนา มาคัดลอก
รวมทั้งนาวรรณคดีและแนวคิดของปรัชญากรีกมาแปลเป็น ภาษาละติน
เผยแพร่ทั่วไป
- 24. วรรณคดีประเภทคลาสสิก
• นิคโคโล มาเคียเวลลี (NICCOLO MACHIAVELLI : ค.ศ. 1469-1527)
เรื่องเจ้าผู้ครอง นคร (THE PRINCE) กล่าวถึงลักษณะการเป็นผู้ปกครอง
รัฐที่ดี และ เซอร์ธอมัส มอร์ (SIR THOMAS MORE : ค.ศ. 1478-1536)
เขียนเรื่อง ยูโทเปีย (UTOPIA) กล่าวถึงเมืองในอุดมคติที่ปราศจากความ
เลวร้าย ซึ่งผลงานของนักมนุษยนิยมเหล่านี้นาไปสู่การต่อต้านการปกครอง
และ วิธีปฏิบัติของคริสตจักรที่ขัดต่อคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งส่งผลทาให้เกิดการ
ปฏิรูปศาสนาขึ้นใน ค.ศ. 1517 ส่วนงานวรรณกรรมที่เป็นบทละคร
- 28. ศิลปกรรม
• ไมเคิลแอนเจโล บูโอนาร์โรตี (MICHELANGELO BUONARROTI : ค.ศ.
1475-1564) เป็นศิลปินที่มีผลงานทั้งด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และ
สถาปัตยกรรม ผลงานประติมากรรมที่ สาคัญและมีชื่อเสียง คือ รูปสลัก
เดวิด (DAVID) เป็นชายหนุ่มเปลือยกาย และปิเอตา (PIETA) เป็นรูปสลัก
พระมารดากาลังประคองพระเยซูในอ้อมพระกร ส่วน ผลงานจิตรกรรมที่มี
ชื่อเสียง คือ จิตรกรรมฝาผนังที่เขียนไว้บน เพดานและฝาผนังของโบสถ์ซี
สติน (SISTINE CHAPEL) ในมหาวิ หารเซนต์ปีเตอร์ ที่กรุงโรม ที่มี
ลักษณะงดงามมาก
- 30. ศิลปกรรม
• ภาพปีเอตะ(Pietà) ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร
• เป็นรูปสลักจากหินอ่อนบริสุทธิ์รูปพระแม่มาร์รีย์ประคอง
อุ้มร่างพระเยซูที่เพิ่งอัญเชิญลงจากไม้กางเขน ซึ่งคาว่า
ปีเอตะ(Pietà) ในภาษาอิตาลีมีความหมายว่า ความสงสาร
ผลงงานประติมากรรมดังกล่าวเป็นผลงานหนึ่งในชื้นเอก
ของมีเกลันเจโล ดี โลโดวีโก บูโอนาร์โรตี ซีโมนี
(Michelangelo di Lodovico Buonarroti Simoni)
- 31. ศิลปกรรม
• มหาวิหารนักบุญเปโตร
• เมื่ออายุได้ 30 ปี ไมเคิลแองเจนโล ถูกเชิญไปยังกรุงโรมเพื่อให้ออกแบบหลุมฝัง
พระศพของ สมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 ซึ่งใช้เวลาถึง 40 ปี หลังจาก
นั้นไมเคิลแองเจนโลได้แสดงอัจฉริยภาพทางการออกแบบ โดยการเป็นสถาปนิก
คนสาคัญในการสร้างวิหารนักบุญเปโตร(Basilica of Saint Peter) รู้จักกันใน
นาม Basilica di San Pietro in Vaticano หรือ เซนต์ปีเตอร์สบาซิลิกา
(Saint Peter's Basilica) เป็นวิหารใหญ่และสาคัญที่สุดในนครวาติกัน โดย
จุดสูงสุดของโดมสามารถมองเห็นทัศนียภาพของกรุงโรมได้โดยรอบ สามารถจุคน
ได้ถึง 60,000 คน และยังเป็นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งในคริสตจักร
โรมันคาทอลิก ซึ่งวิหารนักบุญเปโตรถือเป็นงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกเลย
ทีเดียว
- 33. ศิลปกรรม
• ภาพการตัดสินครั้งสุดท้าย ณ ชาเปลซิสติน นครรัฐวาติกัน
• ในช่วงบั้นปลายชีวิตของไมเคิลแองเจนโลยังได้สร้างผลงานจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงมี
ชื่อว่า การตัดสินครั้งสุดท้าย (The Last Judgment) ซึ่งเป็นภาพจิตรกรรมฝา
ผนังบนเพดานของโบสถ์น้อยซิสติน (Sistine Chapel ceiling) ซึ่งได้รับการ
ว่าจ้างจากสมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 โดยเป็นที่ตั้งของห้องประชุมพระ
สันตะปาปาและสถานที่ที่ใช้ในการทาพิธีทางศาสนาของพระสันตะปาปาอีกด้วย
การเขียนภาพจิตรกรรม การตัดสินครั้งสุดท้าย นั้นใช้เทคนิคที่เรียกว่า Fresco
คือการวาดภาพลงบนผิวปูนเปียกเพื่อสีซึมลงไปในเนื้อปูนจะทาให้สีติดทนนานและ
ไม่ร่อนออกมานั่นเอง โดยภาพ การตัดสินครั้งสุดท้าย ประกอบด้วยรูปภาพย่อย
กว่า 400 รูปภาพ มีขนาด 48×44 ฟุต เลยทีเดียว
- 35. ศิลปกรรม
• ไมเคิลแองเจนโล เสียชีวิตในปี 1564 ด้วยอายุ 90 ปี มีคากล่าวจากมเด็จ
พระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 ว่า "ทรงยินดีบั่นทอนชีวิตของท่านลง เพื่อแลกกับชีวิต
ของมิเกลันเจโลให้ยืนยาวออกไปอีก" แสดงให้เห็นว่าตลอดชั่วชีวิตของไมเคิล
แองเจนโลนั้น ได้รังสรรค์ผลงานศิลปะที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาไว้มาก ไม่ว่าจะเป็น
ประติมากรรม สถาปัตยกรรม จิตรกรรม ซึ่งต่างก็เป็นผลงานที่มีคุณค่าต่อ
มนุษยชาติมากมาย
มองย้อนกลับไปยังตัวเราในวันนี้เราทาตัวมีค่าพอให้คุณยกย่องเพียงใด ทรัพย์สินที่
มีก็เป็นเพียงของนอกกาย สิ่งที่จะดารงอยู่สืบไปคือผลงานและคุณความดี ใครจะรู้
ว่าในอนาคตคุณอาจจะเป็น ศิลปิน นักคิด นักกวี หรือบุคคลที่มีชื่อก้องโลกก็
เป็นได้
- 36. ศิลปกรรม
• เลโอนาร์โด ดา วินชี (LEONARDO DA VINCI : ค.ศ. 1452-1519) เป็น
ศิลปินที่มี ผลงานเป็นเลิศในสาขาต่างๆ ภาพเขียนที่มีชื่อเสียง คือ ภาพ
อาหารมื้อสุดท้าย (THE LAST SUPPER) ซึ่งเป็นภาพพระเยซูกับสาวกนั่งที่
โต๊ะอาหารก่อนที่พระเยซูจะถูกนาไปตรึงไม้กางเขน และภาพโมนาลิซ่า
(MONALISA) เป็นภาพหญิงสาวที่มีรอยยิ้มปริศนากับบรรยากาศของ
ธรรมชาติ
- 37. ศิลปกรรม
• เทคนิคการเขียนกลับทาง (Mirror Writing)
• เทคนิคการเขียนตัวอักษรย้อนกลับทิศทางจากตัวหลังไปตัวหน้าของดาวินชี
สร้างข้อถกเถียงให้กับนักวิชาการจนถึงวันนี้ ว่า เป็นวิธีการเข้ารหัสแบบ
โบราณที่เขาสร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นๆ ลอบอ่านและขโมยข้อมูลใน
บันทึกส่วนตัว หรือจริงๆแล้วเป็นเพียงเพราะดาวินชี “ถนัดซ้าย” จึงคิดวิธี
เขียนกลับหลังแบบนี้เพื่อไม่ให้น้าหมึกเปื้อนมือกันแน่
- 39. ศิลปกรรม
• ชุดดาน้า (Scuba Gear)
• ผลพวงจากการที่ดาวินชีหลงใหลในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล
เป็นที่มาของการออกแบบอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสาหรับการ
ดาน้าขึ้นมาหลาย ชนิดในจานวนนี้ รวมถึงเรือดาน้า และชุดประ-
ดาน้าที่ตัวชุดทาจากหนังและเชื่อมต่อกับท่อและโลหะทรงกลมซึ่งทา
หน้าที่เป็นเหมือนสนอร์เกิ้ล หรือหน้ากากดาน้ายุคปัจจุบัน
นอกจากนั้น ชุดดาน้าชุดนี้ยังมีถุงเก็บปัสสาวะด้วย
แสดงให้เห็นถึงความรอบคอมในการออกแบบ
- 40. ศิลปกรรม
• สะพานชักรอก (The Revolving Bridge)
• ดาวินชีออกแบบสะพานสาหรับใช้ในการเคลื่อนพลผ่านพื้นที่ในสมรภูมิ
ทุรกันดาร ต่างๆ เช่น การยกพลข้ามแม่น้า ตัวสะพานดังกล่าวมีระบบชัก
รอกและสายพาน ทาให้ทหารกางออกมาใช้งานและชักรอกเก็บได้อย่าง
รวดเร็ว เป็นหนึ่งในเครื่องจักรทุ่นแรงอีกหลายชนิดจากการคิดค้นของดาวิน
ชี
- 41. ศิลปกรรม
• เครื่องร่อน (The Winged Gilder)
• ภายในคลังจินตนาการอันไม่มีที่สิ้นสุดของดาวินชีนั้น
มี “เครื่องกลบินได้” รวมอยู่ด้วยเป็นจานวนมาก
รวมถึง “เครื่องร่อน” ซึ่งตรงบริเวณปีกมีแผ่นบังคับ
เปิด-ปิดควบคุมทิศทางได้หรือที่ปัจจุบันเรียก ว่า
“แฟลบ” และในตัวเครื่องร่อนยังมีเกียร์ควบคุม
ความเร็วที่นั่งติดอยู่ด้วย
- 42. ศิลปกรรม
• ปืนใหญ่ 3 ลากล้อง (The Triple-Barreled Cannon)
• แม้ประวัติของดาวินชีจะเกลียดสงคราม มีลักษณะเป็น “นักคิด” มากกว่า
“นักรบ” แต่ในใจของเขาก็ยังฝันถึงการคิดค้นงานด้านวิศวกรรม หนทาง
เดียวที่จะทาเช่นนั้นได้ คือ การออกแบบอาวุธสงครามเพราะได้รับการ
สนับสนุนจากผู้มีอานาจมากที่สุด หนึ่งในผลงานการออกแบบอาวุธ ได้แก่
ปืนใหญ่ที่มีอานุภาพที่มีลากล้องติดกันถึง 3 กระบอก เหมือนกับที่เห็นใน
ภาพ
- 44. ศิลปกรรม
• สกรูบิน (The Aerial Screw)
• ถึงแม้นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะลงความเห็นตรงกันว่ามันไม่มีทางที่เจ้า
อุปกรณ์ชิ้นนี้จะบินขึ้นจากพื้นได้ แต่ “เฮลิคอปเตอร์” ใน แบบของดาวินชีก็
ยังคงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในผลงานที่โด่งดังที่สุดของเขา เครื่องกลที่ชวนให้
สงสัยนี้ดูเหมือนว่าจะถูกออกแบบให้ทางานโดยใช้คนสี่คนมาหมุน มันพร้อม
กัน รวมทั้งน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากกังหันลมซึ่งเป็นของเล่นที่นิยมกัน
ใน สมัยนั้นด้วย
- 46. ศิลปกรรม
• เมืองในอุดมคติ (The Ideal City)
• ยุคสมัยหนึ่ง ดาวินชีอาศัยอยู่ในนครมิลานท่ามกลางสภาพการแพร่ระบาด
ของโรคร้าย เขาจึงคิดออกแบบผังเมืองใหม่ให้มีความสะอาด เป็นระเบียบ
ถูกสุขอนามัย อาทิ เขียนแบบให้เมืองในอุดมคติเมื่อหลายร้อยปีก่อนแห่งนี้มี
“ระบบระบายอากาศ” เพื่อดึงอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเมือง และมีระบบระบาย
น้าเสีย
- 48. ศิลปกรรม
• รถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (The Self-Propelled Car)
• แน่นอนว่ารถที่ดาวินชีพยายามสร้างไม่สามารถวิ่งเร็วหลายร้อยกิโลเมตรต่อ
ชั่วโมงเหมือนรถเฟอร์รารี่ แต่ถ้าคิดว่าเป็นรถที่อยู่ในสมัยนั้นก็ต้องจัดว่า
ไฮเทคล้ายุคสุดๆ เพราะรถที่มีตัวถึงทาจากไม้คันนี้ สามารถแล่นขับเคลื่อน
ด้วยตัวมันเองด้วยแรงส่งและการทางานอย่างสัมพันธ์กัน ระหว่างสปริงและ
เกียร์ที่ล้อ เมื่อปี 2547 นักวิทยาศาสตร์ประจาพิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์
ทดลองสร้างแบบจาลองรถรุ่นนี้ ตามแบบที่ดาวินชีร่างเอาไว้และพบว่าวิ่งได้
จริง
- 50. ศิลปกรรม
• แนวคิดเกี่ยวกับธรณีวิทยา (Geologic Time)
• นักคิดส่วนมากในสมัยของดาวินชีนั้นมีความเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ว่าซาก
ฟอสซิลของพวกหอย ปู ปลาหมึกต่างๆที่พบบนยอดเขานั้นเป็นสิ่งที่
หลงเหลือจากการเกิดน้าท่วมครั้ง ใหญ่ แต่ดาวินชีกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาตั้ง
ข้อสงสัยไว้ (ซึ่งก็ถูกเสียด้วย) ว่าภูเขาเหล่านั้นจะต้องเคยเป็นชายฝั่งมาก่อน
ก่อนที่จะค่อยๆยกตัวสูงขึ้นๆในเวลาต่อมา (wow!!)
- 52. ศิลปกรรม
• วิทรูเวียนแมน (The Vitruvian Man)
• เชื่อว่าชาวโลกน้อยคนนักที่จะไม่เคยผ่านตากับภาพวาดของบุรุษผู้นี้ นั่นก็คือ
ภาพ “วิทรูเวียน แมน” ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ดาวินชีศึกษาสัดส่วนกายวิภาค
มนุษย์อย่างละเอียด จนพิสูจน์ทฤษฎีบทของ “วิทรูเวียน” ผู้เป็นสถาปนิกยุค
จักรวรรดิโรมันได้สาเร็จว่า “ร่างคนยืนกางแขนขาจะตกเป็นรูปทรงเรขาคณิต
ที่สมบูรณ์เสมอ” และนับเป็นการเปิดประตูสู่ศาสตร์กายวิภาคครั้งสาคัญ
- 55. ศิลปกรรม
• ราฟาเอล (RAPHAEL : ค.ศ. 1483-1520) เป็นจิตรกรที่วาดภาพเหมือนจริง
ภาพที่มี ชื่อเสียง คือ ภาพพระมารดาและพระบุตร พร้อมด้วยนักบุญจอห์น
(MADONNA AND CHILD WITH ST. JOHN)
- 56. ศิลปกรรม
• The School of Athens
• ภาพวาดส่วนมากของราฟาเอลเน้นความงามที่เกิดจากรูปร่างของมนุษย์ ที่
แสดงอารมณ์หลากหลายต่าง ๆ กันออกมา การใช้สีนิยมสีสดคล้ายกับงาน
ศิลปะในสมัยไบแซนทีน แต่กายวิภาคมีความงดงาม อ่อนช้อย ทั้งชายและ
หญิง และเด็กเล็ก ท่าทางของบุคคลในภาพแสดงออกเหมือนเคลื่อนไหวได้
สร้างอารมณ์ให้แก่ผู้ชมได้เป็นอย่างดี ภาพเขียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ
“โรงเรียนเอเธนส์” (The School of Athens) เป็นภาพที่เกี่ยวกับนักปรัชญา
กรีกหลายคน รวมทั้งตัวราฟาเอลด้วย
- 58. ศิลปกรรม
• Sistine Madonna
• ราฟาเอล แสดงให้พวกเรามองเห็นภาพผู้คนเท่าที่เป็นอยู่จริง ไม่ใช่ภาพที่ทา
กันเป็นแบบแผนอย่างที่ รูเบนส์ และ ฟานไตด์ เขียนกัน ภาพแม่พระอุ้มพระ
บุตรหลายภาพที่เขาเขียนขึ้นในกรุงโรม มีความงดงามยิ่งกว่าภาพที่เขาเคย
เขียนไว้ในนครฟลอเรนซ์เสียอีก บางทีภาพ "ซิสตินมะดอนนา" อาจเป็น
ภาพเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาเรื่องนี้ทั้งหมดก็เป็นได้
- 60. ศิลปกรรม
• Portrait of Pope Julius II (Raphael)
• ราฟาเอล เริ่มจะกลายเป็นจิตรกรที่มีงานยุ่งมากขึ้น เขาได้เสร็จภาพเขียนไป
อีกชุดหนึ่ง เป็นภาพเขียนสาหรับพระสันตปาปาจูเลียสที่ 2 อยู่ในห้องเฮลิโด
รุส ภาพเหล่านี้แสดงถึงความกล้าหาญด้านการรบทัพจับศึกของพระ
สันตปาปาในทางทหาร และแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าได้ช่วยสนับสนุนพระองค์
ให้ประสบชัยชนะได้อย่างไรด้วย
- 62. ศิลปกรรม
• Raphael's Creation of the World
• ภาพเขียน ลา ฟอร์นารินาโดยราฟาเอลงานจิตรกรรมของราฟาเอลในระยะ
หลังมีความเรียบง่ายและมีความใหญ่โตมากขึ้น แต่ยังคงรักษาความมีชีวิตชีวา
ของงานยุคต้นของตนเองไว้ได้ งานของราฟาเอลที่แสดงถึงความงามของ
ผู้หญิงนับได้ว่าเป็นผลงานที่มีอิทธิพลต่อศิลปินกลุ่มนีโอคลาสสิกเป็นอย่าง
มาก
- 64. ศิลปกรรม
• Madonna del Granduca
• ในสมัยนี้ได้เกิดความก้าวหน้าทางการวาดเขียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งการวาดภาพบนฝาผนังแบบเฟรสโก (Fresco) ซึ่งเป็นวิธีวาดภาพบนผนัง
ปูนเปียกให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนผนังปูนแห้ง มิฉะนั้นจะต้องคอยพรมน้าให้
พื้นผนังปูนเปียกอยู่เสมอ เพื่อว่าจะได้ง่ายต่อการดูดซึมซับของสี วิธีการแบบ
นี้ไม่สะดวกต่อการเก็บรายละเอียด แต่ให้ความคงทนถาวรเป็นเยี่ยม
- 70. ผลของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ
• ความสนใจในโลกปัจจุบัน ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชาวยุโรปยังคงนับถือ
ศรัทธาใน พระเจ้า แต่จากการได้รับอิทธิพลจากแนวคิดแบบมนุษยนิยม ทา
ให้ชาวยุโรปมีแนวคิดในการ ดาเนินชีวิตในโลกปัจจุบันให้ดีและสร้างสิ่งต่างๆ
เพื่อความสุขและความมั่นคงให้แก่ตน ทั้งหมดนี้ สะท้อนในงานศิลปกรรม
ต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อนสนองความพึงพอใจของตนเอง เช่น สร้างบ้าน เรือน
อย่างวิจิตรสวยงาม การมีรูปปั้นประดับอาคารบ้านเรือน การวาดภาพเหมือน
ของมนุษย์ เป็นต้น
- 71. • ความต้องการแสวงหาความรู้ การที่มนุษย์ต้องการหาความรู้และความ
สะดวกสบาย ให้แก่ชีวิต ทาให้ต้องมีการคิดสร้างสรรค์ผลงานและวิทยาการ
ต่างๆ ดังนั้นมนุษย์ในสมัยฟื้นฟู ศิลปวิทยาการ จึงมีการส่งเสริมและ
สนับสนุนการศึกษา การคิคค้น การทดลอง การพิพากษ์ วิจารณ์อย่างมี
เหตุผล เป็นผลให้วิทยาการด้านต่างๆ พัฒนามากขึ้น สภาพสังคมของมนุษย์
ในสมัย นี้คือการตื่นตัวในการค้นหาความจริงของโลก ทาให้มนุษย์ต้องการ
แสวงหาความรู้และสารวจดิน แดนต่างๆ อันนาไปสู่การปฏิรูปศาสนา การ
สารวจทางทะเล และการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ใน เวลาต่อมา
ผลของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ
- 72. แหล่งอ้างอิง
• นัตติกาล เสมใจ. ๒๕๕๗. การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ. (ออนไลน์).
แหล่งที่มา : https://suphannigablog.wordpress.com/. ๑๒ มกราคม
๒๕๕๗
• พิภักดิ์ ประเสริฐ์. ๒๕๕๕. การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ. (ออนไลน์).
แหล่งที่มา : http://www.slideshare.net/sudoooooo/renaissance-
41379445 . ๑๒ มกราคม ๒๕๕๗
•