3. ถอด
คํา
ประพันธ์

4. อนึงเล่ าโจทก์ กล่ าวยกโทษแพทย์ อนมี ั
ปรีชารู้ คมภีร์
ั เหตุฉันใดแก้ มิฟัง
คําเฉลยแก้ ปุจฉา รู้ รักษาก็จริงจัง
ด้ วยโรคเหลือกําลัง จึงมิฟังในการยา
เมืออ่ อนรักษาได้ แก่ แล้ วไซร้ ยากดนักหนา
ไข้ นันอุปมา เหมือนเพลิงป่ าไหม้ ลุกลาม

5. ความหมาย
ตอนที ๔๔
อีกอย่างมีค่ากล่าวหาแพทย์ทีมีความสามรถในการเรียนรู ้
ทําไมพูดให้แก่ความเข้าใจผิดก็ไม่ฟังกัน
ตอนที ๔๕
ถามมาก็รูตอบเรืองการรักษาได้เป็ นเรืองจริงเพราะว่าโรค
้
ร้ายแรงเกินความสามารถจึ งดือยารักษาไม่หาย
ตอนที ๔๖
เมือเป็ นน้อยรักษาหายได้ เป็ นมาก รักษาหายยากมากไข้ที
หนักแล้วนัน เปรียบเหมือนไฟป่ าทีลุกลามได้รวดเร็วและ
กว้าง

7. คุณค่าด้ านเนือหา
จะเป็ นการกล่าวถึงแพทย์ทมีความรู้
ี
ความสามารถ ความเข้ าใจ ในการเรียนรู้
ต่างๆ ในสิงทีเรียนมาในสมัยก่อนเพือทีจะ
นํามารักษาโรคทีร้ ายแรงต่างๆได้ มารักษาผู้ป่วย
แม้ ว่าโรคทีร้ ายแรงก็ยังสามารถนํายาเหล่านีมา
เยือรังเอาไว้ ได้

8. กลวิธีการแต่ง
คัมภีรฉนทศาสตร์เป็ นเป็ นหนังสือทีจัดเป็ นตํารามีเนือหา
์ ั
เฉพาะด้าน การนําเสนอใช้โวหารอธิบายส่วนใหญ่ แต่เมือจะ
กล่าวถึงเรืองทีเป็ นนามธรรมผูเ้ ขียนจึ งเลือกใช้อุปมาโวหารหรือ
บทเปรียบเทียบ ซึ งช่วยให้ผูอ่านเข้าใจความหมายได้ง่ายและทํา
้
ให้เห็นภาพบทประพันธ์ชดเจนมากขึน
ั
ตัวอย่างเช่น
คําเฉลยแก้ปุจฉา รู ้รักษาก็จริ งจัง
ด้วยโรคเหลือกําลัง จึงมิฟังในการยา

9. คุณค่าด้ านวรรณศิลป์

10. คุณค่าด้านวรรณศิลป์
การสรรคํา ผูแต่งได้เลือกใช้คําทีสือความคิด ความเข้าใจ คือ การ
้
ใช้ถอยคําทีเหมาะกับเนือเรืองและบุคคลในเรือง กวีเลือกใช้คําที
้
สามารถถ่ายทอดความรูให้เข้าใจได้อย่างตรงไปตรงมา
้
ดังตัวอย่าง
อนึงเล่ าโจทก์ กล่ าวยกโทษแพทย์อนมี ั
ปรีชารู้คัมภีร์ เหตุฉันใดแก้ มิฟัง
คําเฉลยแก้ ปุจฉา รู้รักษาก็จริงจัง
ด้ วยโรคเหลือกําลัง จึงมิฟังในการยา
เมืออ่ อนรักษาได้ แก่ แล้ วไซร้ ยากดนักหนา
ไข้ นันอุปมา เหมือนเพลิงป่ าไหม้ ลุกลาม

11. การใช้สานวนไทย
ํ
มีการใช้สํานวนไทยประกอบการอธิบาย ช่วยให้
เข้าใจเนือความได้ชดเจนยิงขึน
ั
ดังตัวอย่าง
เมืออ่อนรักษาได้ แก่แล้วไซร้ ยากดนักหนา
ไข้ นันอุปมา เหมือนเพลิงป่ าไหม้ ลุกลาม

12. คุณค่า
ด้ าน
สังคม

13. คุณค่าด้านสังคม
สามารถสะท้อนให้เห็นในสังคมได้ว่าการทีเราจะรักษาโรค ต่างๆ นันได้
จะต้องมาพร้อมกับการทีเราได้มีการเรียนรู ้ ความสามารถ สามารถนํามารักษา
โรค ต่างๆ ของคนในปั จจุบนได้และยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการ
ั
ของคนในสังคมได้ว่าคนในปั จจุบนต้องการแพทย์
ั
ตัวอย่างเช่น
อนึงเล่าโจทก์ กล่าวยกโทษแพทย์ อนมี
ั
ปรีชารู้ คมภีร์
ั เหตุฉันใดแก้มฟัง ิ
คําเฉลยแก้ปุจฉา รู้ รักษาก็จริงจัง
ด้ วยโรคเหลือกําลัง จึงมิฟังในการยา

14. คําศัพท์
คัมภีร์ หมายถึง ตํารา, หนังสือ, คู่มือ
ไซร้ หมายถึง อย่างนัน, เช่นนัน, ทีเดียว
อุปมา หมายถึง เปรียบเทียบ
ปรีชา หมายถึง ความสามารถ, ปั ญญาสามารถ,
ความรอบรู ้
ปุจฉา หมายถึง ถาม, สอบถาม
แพทย์ หมายถึง หมอรักษาโรค

15. สรุปได้ว่า
ความเจริญทางด้านการแพทย์ของคนไทยในอดีตเป็ นสิงที
ควรเรียนรูและศึกษา เพราะเกิดจากการสังสมจาก
้
สติปัญญาและประสบการณ์ทีมีการพิสูจน์ผ่านมาแล้วแพทย์
และเภสัชกรไทยสามารถนําองค์ความรูจากตําราแพทย์
้
ศาสตร์สงเคราะห์นีไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยไม่ตองจด ้
ทะเบียนใหม่ ย่อมเป็ นหลักฐานยืนยันได้ว่า ความจากตํารา
แพทย์เล่มนียงสามารถนําไปใช้ในชีวิตประจํ าวันได้จริง
ั
นอกจากความรูทางด้านการแพทย์แล้ว คัมภีร ์ ฉันทศาสตร์
้
แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์นียงสอนเกียวกับจรรยาบรรณแพทย์
ั
ซึงเป็ นสิงสําคัญจํ าเป็ นอย่างยิงสําหรับผูประกอบอาชีพแพทย์
้

16. จบการ
นําเสนอ
ขอบคุณ
ค่ะ