Fiveaesthetic It is a global medical aesthetic company dedicated to the development of innovative and innovative medical aesthetic centers. อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ https://fiveaesthetic.com/

1. Laura Fat
Laura Fat
คืออะไร?
Laura Fat (LAURA Firming and Smooth) คือ ผลิตภัณฑ์เซรั่มพรีเมี่ยมจากประเทศเกาหลี ไม่แสบ
ไม่ปวด ไม่บวม สลายไขมันขั้นเทพ พร้อมยกกระชับ เห็นผลชัดเจนและรวดเร็ว Laura Fat
ได้รับรองความปลอดภัยจาก KFDA จากประเทศเกาหลี และ อย.จากประเทศไทย
Laura Fat ประกอบด้วยอะไรบ้างและช่วยเรื่องอะไร?
 Kelp Bladderwrack สาหร่ายสีน้าตาล 2 สายพันธุ์ที่ช่วยการขจัดไขมัน
ช่วยปรับสมดุลของระบบเผาผลาญ
 L-Arginine ช่วยให้เซลล์ผิวยกกระชับ ไม่หย่อยคล้อย
 Amino Peptides ช่วยให้ผิวเฟิร์มตึงกระชับ ผิวไม่แห้ง
 Tyrosine ป้ องกันการเกิดเซลลูไลท์
 Camitine
มีประสิทธิภาพในการลาเลียงและส่งผ่านกรดไขมันเข้าสู่กระบวนการเผาผลาญและสร้างพลังงานให้
แก่ร่างกาย
 Vismnadine ยับยังการทางานของเอมไซม์ ช่วยให้เซลล์สลายไขมันไม่ถูกทาลาย
ไปทางานร่วมกับคาร์นิทีน ในการสลายไขมัน

2. Laura Fat กี่วันถึงเห็นผล?
 สลายไขมันภายใน 3-7 วัน
 ลดขนาดไขมันได้ถึง 1-2 ซม. ใน 7 วัน
 ช่วยยกกระชับทันที
 ไม่แสบ ไม่บวม
ข้อควรระวังก่อนใช้ยา Laura Fat
 ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
 ห้ามในผู้ป่วยมีโรคประจาตัว มะเร็งทุกประเภท โรคเลือดทุกประเภท
 หามในผู้ป่วยใช้ยาละลายลิ่มเลือด หรือกิน Aspirin เป็นประจา (หากกิน NSAID เพื่อแก้ปวด
พิจารณาตามแพทย์เห็นสมควร)
 ห้ามใช้บริเวณที่มีการอักเสบอยู่ก่อนหน้า ควรรอให้การอักเสบหรือติดเชื้อหายก่อน
ถึงพิจารณาใช้ยา
วิธีลดแก้ม ลดอย่างไร ลดได้แค่ไหน?

3. 1.เลือกรับประทานอาหาร
วิธีลดแก้มอย่างแรก คือ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดแป้ งและน้าตาลที่นาไปสู่การสะสมไขมัน
หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารไขมันสูง ของหวาน อาหารรสจัด อาหารเค็ม
และอาหารแช่แข็งที่มีโซเดียมสูง ถ้ากินมากเกินไปจะทาให้บวมน้า ตัวบวม หน้าบวม แก้มย้วยได้
เพราะร่างกายกักเก็บน้าไว้ใต้ผิวหนัง ใช้ในการกาจัดโซเดียมออกจากร่างกาย
2.ปรับการนอน
วิธีลดแก้มอย่างต่อมา คือ การนอนที่ถูกต้อง แม้จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อการลดแก้ม แต่ก็ช่วยให้คนที่มีแก้ม
หน้าไม่บวมไปมากกว่าเดิม ควรหนุนหมอนในระดับที่พอดี ไม่สูงหรือต่าจนเกินไป
และปรับท่านอนให้เหมาะสม ไม่ควรนอนคว่าหน้า เพราะความชื้นจะมากองอยู่บริเวณใบหน้า
เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทาให้หน้าบวมหลังตื่นนอน

4. 3.ดื่มน้าเปล่าให้เพียงพอต่อวัน
วิธีลดแก้มอย่างต่อมา คือ การดื่มน้าอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจึงเป็นสิ่งสาคัญ เพื่อลดอาการบวมน้า ลดแก้ม
และไม่ทาให้หน้าบวม
4.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
วิธีลดแก้มอย่างต่อมา คือ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์
เพราะทาให้ความเข้มข้นของเลือดสูงขึ้น ร่างกายต้องดึงเอาน้าจากส่วนอื่น ๆ
ในร่างกายมาเพื่อเจือจางแอลกอฮอล์ในเลือด ปรับสมดุล และป้ องกันภาวะขาดน้า
โดยจะกักเก็บสารองน้าเอาไว้ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและแก้ม ทาให้หน้าบวม แก้มป่องมากขึ้น
5.การเป่าลูกโป่ง
วิธีลดแก้มอย่างต่อมา คือ การเป่าลูกโป่ง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณแก้มให้ตึงกระชับ
เวลาที่ใช้ปากเป่าลมเข้าไป จะรู้สีกถึงการขยายออกของกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม

5. เป็นอีกหนึ่งวิธีการออกกาลังกายกล้ามเนื้อใบหน้า ลดแก้มได้ ทาประมาณ 10 ครั้งต่อวัน
ร่วมกับวิธีลดแก้มแบบอื่น ๆ
6.การปรับทรงผมและการแต่งหน้า
วิธีลดแก้มอย่างต่อมา คือ การใช้ทรงผมและการแต่งหน้าช่วยอาพรางให้แก้มดูเล็กลง สาหรับคนที่หน้ากลม
แก้มเยอะ แก้มป่อง การมัดผมเปิดใบหน้า ไม่ปิดแก้ม อาจทาให้ไม่มั่นใจ
หลายคนแก้ปัญหาด้วยการเอาผมมาปกปิดบริเวณแก้มทั้งสองข้างไว้
หรือใช้เทคนิคการแต่งหน้าช่วยอาพราง เช่น คอนทัวร์หรือเฉดดิ้งหนัก ๆ เพิ่มเพื่อมิติใบหน้า
ทาให้แก้มเล็กลง ใบหน้าดูเรียวขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดแก้มที่ดีอย่างหนึ่ง
วิธีลดเหนียง
วิธีไหนเหมาะ?

6. 1.เมโสแฟตเหนียง
การฉีดแฟตเหนียง เป็นวิธีลดเหนียงยอดฮิตอันดับต้นๆ เพราะเป็นวิธีช่วยสลายไขมันได้อย่างตรงจุด
โดยการฉีดเมโสแฟต
จะเป็นการฉีดตัวยาที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเข้าไปช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คาง
ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมในปริมาณน้อย – ปานกลาง โดยหลังฉีดเสร็จจะเห็นผลลัพธ์ที่ประมาณ 20-
30% ควรมีการกลับมาฉีดซ้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
2.ดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียง (Double Chin Liposuction) คือ
การใช้อุปกรณ์และท่อขนาดเล็กดูดไขมันส่วนเกินออกมา
โดยจะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางในปริมาณที่มาก
และยังมีความยืดหยุ่นของผิวที่ดีการดูดไขมันถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีลดเหนียงแบบเร่งด่วนที่เห็นผลชัดเจนได้
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทาว่าผิวใต้คางดูกระชับขึ้น เหนียงลดลง แต่ทั้งนี้ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น 2-3 วัน
และต้องทากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อป้ องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

7. 3.Ulthera ลดเหนียง
วิธีลดเหนียงด้วยการทา Ulthera หรือ Ultherapy
เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ส่งไปถึงชั้น SMAS
โดยการทางานจะคล้ายกับ Hifu แต่ทั้งนี้การทา Ulthera
จะมีการส่งพลังงานที่แม่นยากว่าและช่วยยกกระชับเหนียง ผิวหย่อนคล้อยที่ทาให้กรอบหน้าไม่ชัด
รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่าการทา Hifu
แต่ทั้งนี้ก็มาพร้อมกับราคาที่สูงกว่าการทา Hifu ลดเหนียงด้วยนั่นเอง
โดยหลังทาจะเห็นถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่ประมาณ 1-3 เดือน และจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
4.Thermage ลดเหนียง
วิธีลดเหนียงด้วยการทา Thermage เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio frequency)
เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนสูงลงไปถึงชั้นผิวหนังกาพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน
ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิวพร้อมสลายไขมันส่วนเกินใต้คางไปพร้อมกัน
โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณ 1-3 เดือน และอยู่ได้นาน 6 เดือนไปจนถึง 1 ปี
ทั้งนี้จะเหมาะกับคนที่มีเหนียงจากการมีปริมาณไขมันสะสมเยอะ
และจะไม่เหมาะกับผู้ที่ไขมันสะสมบริเวณใต้คางน้อย

8. 5.ผ่าตัดลดเหนียง
ผ่าตัดลดเหนียง หรือผ่าตัดกระชับเหนียง
คือการศัลยกรรมผ่าตัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางที่สะสมทาให้เกิดเป็นเหนียง
และสามารถช่วยยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใต้คางและคอที่หย่อนคล้อย
เป็นวิธีลดเหนียงได้อย่างถาวร และเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางในปริมาณที่มาก
แต่ข้อเสียคือจะมีรอยแผลเปิดบริเวณใต้คาง ซึ่งจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย
อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากดูแลตัวเองหลังทาได้ไม่ดีพอ
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติด้วยตัวเอง
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติเป็นวิธีที่ทาได้ด้วยตนเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยสูง
แต่ทั้งนี้ต้องปฏิบัติอย่างสม่าเสมอและใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์
1. ออกกาลังกายลดเหนียง ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกาย
2. บริหารกล้ามเนื้อด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งสามารถช่วยลดเหนียงได้ค่ะ
แต่ทั้งนี้ต้องระมัดระวังอย่าเคี้ยวบ่อยมากเกินไป เพราะอาจทาให้เกิดปัญหากรามใหญ่แทนได้
3. ควบคุมอาหาร รับประทานอาการที่มีประโยชน์ ลดอาหารที่มีไขมันสูง มีน้าตาลสูง
เพื่อลดการก่อตัวและสะสมของไขมัน
5 วิธีลดไขมัน เลือกวิธีไหนดี?

9. 1.ลดแป้ งและน้าตาล
หลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ว่าที่เราอ้วนเพราะกินอาหารมันๆ และของทอด ซึ่งจริงๆ
อย่ามองข้ามอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสีอย่างข้าวขาว ขนมปัง รวมถึงของหวานอย่าง
เครื่องดื่มต่างๆ ที่ใส่น้าตาลในปริมาณสูง และขนมต่างๆ ด้วย
หลักการทางานง่ายๆ ของร่างกาย คือการที่เรากินแป้ งและน้าตาลเข้าไปเกินความจาเป็นของร่างกาย
ร่างกายจึงนาแป้ งและน้าตาลที่เรากินเข้าไปมากเกินไป ไปสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายในรูปแบบของ
“ไขมันส่วนเกิน”
วิธีลดไขมันง่ายๆ ที่จะทาให้ร่างกายเอาไขมันส่วนเกินที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้
คือการลดการสะสมเพิ่มเติมของแป้ งและน้าตาล
เมื่อถึงจุดที่ร่างกายรู้สึกถึงการได้รับแป้ งและน้าตาลน้อยลงกว่าปกติ
ร่างกายจึงเริ่มดึงเอาไขมันส่วนเกินตามร่างกายต่างๆ มาใช้งานนั่นเอง
2.กินอาหารรวบมื้อ
ใครที่ไม่เคยปล่อยให้ปากและกระเพาะอาหารว่างจากอาหารเกิน 2-3 ชม. เลย นั่นแหละ
คือสาเหตุที่ทาให้อ้วน วิธีลดไขมันง่ายๆลองรวบมื้ออาหารเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวันให้เหลือไม่เกินวันละ 3
มื้อดู ขนมขบเคี้ยว ผลไม้ต่างๆ ที่เคยหยิบมากินช่วงสายๆ บ่ายๆ หรือก่อนนอน
ให้รวบไปกินพร้อมกันหลังมื้ออาหารหลักอย่างมื้อเช้า กลางวัน หรือมื้อเย็นแทน
ลดการกินจุบจิบระหว่างวันลง

10. 3.กาหนดเวลาที่จะหยุดกิน
หลังจากที่เราพยายามรวบมื้ออาหาร ไม่กินมื้อเล็กมื้อน้อยพร่าเพรื่อแล้ว วิธีลดไขมันต่อมา
คือการปล่อยให้ช่วงเวลาหนึ่งของร่างกายเข้าสู่ภาวะ “อด” บ้าง
ก็ช่วยให้ร่างกายดึงพลังงานไขมันสะสมในร่างกายมาใช้ได้ด้วย การทา IF (Intermittent Fasting)
คือการกาหนดช่วงเวลาในการกินอาหาร-งดมื้ออาหาร สูตรเวลาที่เป็นที่นิยมกันคือ 16/8 หมายถึง
กินอาหารได้ 8 ชั่วโมง งดมื้ออาหารไป 16 ชั่วโมง
โดยเราสามารถเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับไลฟ
์ สไตล์ของเราได้
(แต่แนะนาให้เป็นช่วงเวลาที่ตรงกับนาฬิกาของร่างกาย คือกินในช่วงที่ควรกิน งดในช่วงที่ควรงด)
หากใครที่ทาสูตรเวลา 16/8 แล้วทนหิวไม่ไหว จะเริ่มจาก 12/12 ก่อนก็ได้ เช่น กินอาหารได้ในช่วง
8.00-20.00 น. เท่านั้น (แปลว่างดกินมื้อดึกหรืออาหารก่อนนอน) จากนั้นค่อยๆ ขยับเวลา
เพิ่มเวลาในการ “งด” อาหารให้นานขึ้น ขยับเวลาในการกินให้สั้นลงทีละชั่วโมงๆ
เท่านี้การงดมื้ออาหารในช่วงเวลาหนึ่งๆ ก็จะง่ายขึ้น
เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาเอาไขมันส่วนเกินในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานระหว่างวัน
4.การสร้างกล้ามเนื้อ
ปริมาณมวลกล้ามเนื้อในร่างกายเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งชี้ว่าร่างกายของเราเผาผลาญพลังงานได้มากน้อยแค่ไห
น หากมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
วิธีลดไขมันด้วยการออกกาลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง จะช่วยให้เมื่อเรากลับไปกินอาหารเหมือนเดิม
จะไม่อ้วนง่ายเหมือนแต่ก่อน เพราะเราจะเริ่มมีกล้ามเนื้อและระบบเผาผลาญพลังงานดี

11. 5.ออกกาลังกายแบบคาร์ดิโอ
เราทุกคนจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าเราควรออกกาลังกาย 30-45 นาทีขึ้นไป เพื่อให้ลดน้าหนักอย่างได้ผล
แต่อันที่จริงแล้ว เราอาจแบ่งเวลาเป็น 15 นาทีเวทเทรนนิ่ง 15 นาทีคาร์ดิโอได้ หากคุณทาตาม
วิธีลดไขมันข้อ 1-4 จนได้น้าหนักที่ใกล้เคียงกับที่ต้องการ (น้าหนักปกติ ไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไป)
ร่างกายของคุณเริ่มคุ้นชินกับการดึงเอาพลังงานไขมันสะสมมาใช้แทนพลังงานจากอาหารประเภทแป้ งและ
น้าตาลที่เคยได้แล้ว การออกกาลังกายแบบคาร์ดิโอเพียง 10-15
นาทีก็ช่วยให้คุณลดน้าหนักอย่างได้ผลและปลอดภัยได้แล้ว
ฉีดหน้าเรียว ฉีดอะไรดี?

12. 1.ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
เป็นการฉีดหน้าเรียวอย่างหนึ่ง ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าเหมาะกับใคร ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงมีปัญหาคางสั้น
คางตัด คางบุ๋ม ทาให้ดูคล้ายใบหน้าผู้ชาย สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คางจะทาให้หน้าดูละมุนขึ้น
หน้าวีเชฟ ดูเรียวยาวมากขึ้น
2.ฉีดโบหน้าเรียว
ฉีดโบท็อกหน้าเรียว เป็นการฉีดหน้าเรียวที่เหมาะกับคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ
เมื่อฉีดแล้วจะทาให้กล้ามเนื้อเล็กลง หน้าเรียวขึ้น
นิยมทาร่วมกับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย หรือโบท็อกทั่วหน้า ก็จะให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับผิวร่วมด้วย

13. 3.ฉีดเมโสแฟตปรับรูปหน้า
เป็นการฉีดหน้าเรียวที่เหมาะสาหรับคนที่กรามใหญ่จากไขมันที่สะสมบนใบหน้า ซึ่งทาให้ใบหน้าดูเหลี่ยม
หน้าบาน แก้มใหญ่ สามารถฉีดเมโสแฟต เพื่อลดไขมันเฉพาะจุดได้ เช่น ฉีดแฟตแก้ม ฉีดแฟตเหนียง
ปรับรูปหน้าโดยรวมให้เรียวสวยขึ้น สามารถทาควบคู่กับการฉีดโบท็อกเก็บกรอบหน้า
จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น
นอกจากการฉีดแล้ว ปัจจุบันยังมีเครื่องมือทันสมัย
เช่น Hifu/ Ulthera / Thermage ที่สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้
สามารถปรึกษาหมอเพื่อขอคาแนะนาและวางแผนการรักษาร่วมกันได้
ฉีดลดเหนียง ฉีดอะไรดี กี่วันเห็นผล?

14. ฉีดลดเหนียง ฉีดอะไรดี?
การฉีด เมโสแฟต ที่กาลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ที่มักจะได้ยินบ่อยๆว่า ฉีดลดเหนียง ฉีดแฟตสลายแก้มใหญ่
หรือ ฉีดแฟตสลายต้นแขน เป็นต้น การฉีดเมโสแฟตคือการฉีดสลายไขมัน
โดยการทางานของการฉีดเมโสแฟตก็คือ สารสกัดจากธรรมชาติที่จะเข้าไปช่วยให้ไขมันแตกตัว
และช่วยในการยกกระชับผิวหนังบริเวณจุดที่ฉีดเข้าไป
ฉีดบริเวณแก้มเพื่อ ลดแก้ม หรือฉีดบริเวณเหนียงเพื่อ ลดเหนียง โดยแพทย์จะทาการฉีดเข้าไปยังชั้นไขมั
นใต้ผิวหนัง เพื่อจัดการกับไขมันส่วนเกิน และปรับผิวหนังให้กระชับได้ตามที่ต้องการ
ฉีดลดเหนียง เห็นผลจริงไหม?
การฉีดลดเหนียงจะเห็นผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุดจะต้องดูหลายๆ อย่าง สิ่งที่สาคัญคือ การเลือกคลินิก
ดูว่ามาตรฐานของคลินิกว่าคลินิกนั้นๆ มีมาตรฐานที่ดีหรือเปล่า มีรีวิวที่น่าเชื่อถือหรือไม่
คุณหมอที่ฉีดลดเหนียงให้เราเป็นใคร หมอจริงหรือหมอกระเป๋ า
เพราะการฉีดแฟตก็ต้องมีความชานาญเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ใครฉีดก็ได้ เพราะฉีดไปอาจจะไม่เห็นผลก็ได้

15. รวมไปถึงยี่ห้อที่ใช้ในการ ฉีดแฟต หากทั้งหมดที่กล่าวมายังไม่ได้มาตรฐาน แน่นอนว่า
ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการฉีดลดเหนียงก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพ ไขมันส่วนเกินไม่สลายหรือไม่เห็นผล
ดังนั้นการเลือกคลินิกจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย สาคัญมาก โดยเฉพาะคลินิก ต้องมีมาตรฐาน
ทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แก้ไขปัญหาเคสบายเคส เจาะปัญหาของคนไข้อย่างตรงจุด
พร้อมให้คาแนะนาและการดูแลเป็นอย่างดี
ฉีดลดเหนียง กี่วันเห็นผล?
ฉีดลดเหนียง จะเริ่มเห็นผลตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ทาประมาณ 10 – 15 %
เเละจะสังเกตเห็นผลลัพธ์ชัดเจนอยู่ที่ประมาณ1 – 3 สัปดาห์
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 – 3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูเเลตัวเอง
การฉีดเมโสเเฟตไม่เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันบริเวณเเก้มและเหนียงมาก ๆ หรืออาจจะต้องฉีด 4 – 5
ครั้ง
กรณีถ้าเจอตัวยาไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่าน อย. สารที่ฉีดเข้าไปอาจทาให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเราได้
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรเลือก Laura Fat ที่ได้รับมาตรฐานจากเกาหลี