Mais conteúdo relacionado
Semelhante a ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก (20)
Mais de คีตะบลู รักคำภีร์ (18)
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
- 1. ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
นักเรียนทราบไหมครับว่า คอมพิวเตอร์กราฟิก หมายถึงอะไร ?
ปัจจุบันภาพกราฟิกมีบทบาทกับงานด้านต่างๆ เป็นอย่างมาก เช่น งาน
นาเสนอข้อมูลในรูปแบบของ เส้นกราฟ กราฟแท่ง แผนภูมิการใช้ภาพกราฟิ ก
ประกอบการโฆษณาสินค้าต่าง ๆ การสร้างเว็บเพจ การสร้างสื่อการสอน (CAI)
การสร้างการ์ตูน การสร้างโลโก และงานออกแบบต่าง ๆ เป็นต้น โดยภาพกราฟิก
จะทาให้งานมีความสวยงามน่าสนใจยิ่งขึ้น
ความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก
กราฟิก หมายถึง ศิลปะแขนงหนึ่งซึ่งใช้สื่อความหมายด้วยเส้น สัญลักษณ์ รูปวาด ภาพถ่าย กราฟ
แผนภูมิ การ์ตูน ฯลฯ เพื่อให้สามารถสื่อความหมายข้อมูลได้ถูกต้องตรงตามที่ผู้สื่อสารต้องการ
คอมพิวเตอร์กราฟิก หมายถึง การสร้าง การตกแต่งแก้ไข หรือการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพ โดยใช้
เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดการ
กราฟิกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ เป็นภาพที่พบเห็นโดยทั่วไป เช่น ภาพถ่าย รูปวาด สัญลักษณ์
การ์ตูนต่าง ๆ ในโทรทัศน์ เช่น ชินจัง โดเรม่อน
ภาพกราฟิกแบบ 3 มิติ เป็นภาพกราฟิกที่ใช้โปรแกรมสร้างภาพ 3 มิติ เช่น 3D max, Maya
ทาให้ได้ภาพที่มีสีและแสงเงาเหมือนจริง เหมาะสาหรับการออกแบบและสถาปัตยกรรม
เช่น การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง ก้านกล้วย
ภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ
ภาพกราฟิกแบบ 3 มิติ
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 1
- 2. ประวัติและความเป็นมาของคอมพิวเตอร์กราฟิก
ในปี ค.ศ. 1940 คอมพิวเตอร์จะแสดงภาพกราฟิกโดยใช้เครื่องพิมพ์ โดยรูปภาพที่ได้จะเป็นภาพที่
เกิดจากการใช้ตัวอักษรมาประกอบกัน
ในปี ค.ศ. 1950 สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเซสต์ ( Massachusetts Institue Technology : MIT]
ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหลอดภาพ CRT(CathodeRayTube)เป็นส่วนแสดงผลแทนเครื่องพิมพ์เนื่องจากมี
ความต้องการที่จะให้การติดต่อระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มีความเร็วยิ่งขึ้น ในปี ค.ศ. 1950 ระบบ
SAGE (Semi - Automatic Ground Environment) ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาสามารถแปลงสัญญาณ
จากเรดาร์ ให้เป็นภาพบนจอคอมพิวเตอร์ได้ ระบบนี้เป็นระบบกราฟิก เครื่องแรกที่ใช้ปากกาแสง ( Light
Pen : เป็นอุปกรณ์สาหรับรับข้อมูลชนิดหนึ่ง) สาหรับการเลือกสัญลักษณ์ บนจอภาพได้
ในปี ค.ศ. 1950 - 1960 มีการทาวิจัยเรื่องเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์เป็นจานวนมาก ซึ่งต่อมาได้
กลายเป็นต้นแบบของระบบคอมพิวเตอร์กราฟิกสมัยใหม่ ตัวอย่างเช่น ในปี ค.ศ. 1963 วิทยานิพนธ์ปริญญา
เอกของ อีวาน ซูเธอร์แลนด์ ( Ivan Sutherland) เป็นการพัฒนาระบบการวาดเส้น ซึ่งผู้ใช้สามารถกาหนดจุด
บนจอภาพได้โดยตรงโดยการใช้ปากกาแสง จากนั้นระบบกราฟิกจะสามารถลากเส้นเชื่อมจุดต่างๆ เหล่านี้
เข้าด้วยกัน กลายเป็นภาพโครงสร้างรูปหลายเหลี่ยม
ปี ค.ศ. 1968 บริษัท เทคโทรนิกส์ ( Tektronix) ได้ผลิตจอภาพแบบเก็บภาพไว้ได้จนกว่าต้องการจะ
ลบ ( Storage - Tube CRT) ซึ่งระบบนี้ไม่ต้องการหน่วยความจาและระบบการวาดซ้า จึงทาให้ราคาถูกลง
มาก บริษัทตั้งราคาขายไว้เพียง 15,000 ดอลลาร์เท่านั้น จอภาพแบบนี้จึงเป็นที่นิยมกันมากในช่วงเวลา 5 ปี
ต่อมา
สาหรับซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกก็ได้มีการพัฒนาควบคู่มากับฮาร์ดแวร์เช่นกัน ซึ่งมีการเริ่มต้นจาก
อีวาน ซูเธอร์แลนด์ ผู้ซึ่งได้ออกแบบวิธีการหลักๆ รวมทั้งโครงสร้างข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์ กราฟิก
ต่อมาก็มี สตีเฟน คูน ( Steven Coons, 1966) และ ปิแอร์ เบเซอร์ ( Pierre Bazier , 1972) ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับ
การสร้างเส้นโค้งและภาพพื้นผิว ทาให้ปัจจุบันเราสามารถสร้างภาพ 3 มิติ ได้สมจริงสมจังมากขึ้น ในช่วง
10 ปีต่อมาได้มการพัฒนาวิธีการสร้างภาพมากมายสาหรับใช้ในระบบคอมพิวเตอร์กราฟิก และปัจจุบันเราก็
ี
ได้เห็นผลงานที่สวยงามและแปลกตา ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาวิจัยต่างๆ ในอดีตนั่นเอง
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 2
- 3. ชนิดภาพกราฟิกที่ใช้ในคอมพิวเตอร์
ภาพที่ปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ เกิดจากจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ ของสี ที่เราเรียกว่า พิกเซล มาประกอบ
กันเป็นภาพขนาดต่างๆ พิกเซล (Pixel) มาจากคาว่า Picture และคาว่า Element แปลตรงตัว ก็คือ
องค์ประกอบที่รวมกันเกิดเป็นภาพ สรุปได้ว่า พิกเซล คือ จุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เป็นองค์ประกอบรวมกันเป็น
ภาพ ซึ่งภาพที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มี 2 แบบคือ
แบบ Vector
แบบ Raster/Bitmap
แบบ Vector
เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการคานวณ ซึ่งภาพจะมี
ความเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง รูปทรง เมื่อมีการขยาย
ภาพความละเอียดของภาพจะไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster
ภาพกราฟิกแบบ Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัตยกรรมตกแต่งภายใน และการออกแบบต่าง ๆ เช่น
การออกแบบรถยนต์ การออกแบบอาคาร การสร้างการ์ตูน เป็นต้น
ภาพกราฟิกแบบ Vector ที่ขยายใหญ่ขน ความละเอียดของภาพจะไม่ลดลง
ึ้
แบบ Raster/Bitmap
ภาพกราฟิกแบบ Raster หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แบบ Bitmap เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียง
ตัวของจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลากหลายสี ที่เรียกว่า พิกเซล ในการสร้างภาพ กราฟิกแบบ Raster จะต้อง
กาหนดจานวนพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้าง ถ้ากาหนดจานวนพิกเซลน้อย เมื่อขยายภาพให้มีขนาดใหญ่
ขึ้น จะทาให้มองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หรือถ้ากาหนดจานวนพิกเซลมากก็จะทาให้แฟ้มภาพมี
ขนาดใหญ่
ภาพกราฟิกแบบ Raster ที่ขยายใหญ่ขน จะมองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยม
ึ้
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 3
- 4. รูปแบบของไฟล์
กราฟิกไฟล์สาหรับอินเทอร์เน็ต
ไฟล์กราฟิกที่สนับสนุนระบบอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันมี 3 ไฟล์หลัก ๆ คือ
1. ไฟล์สกุล GIF ( Graphics Interlace File)
2. ไฟล์สกุล JPG ( Joint Photographer's Experts Group)
3. ไฟล์สกุล PNG ( Portable Network Graphics)
1. ไฟล์สกุล GIF (Graphics Interlace File)
เป็นไฟล์กราฟิกมาตรฐานที่ทางานบนอินเทอร์เน็ต มักจะใช้เมื่อ
- ต้องการไฟล์ที่มีขนาดเล็ก
- จานวนสีและความละเอียดของภาพไม่สูงมากนัก
- ต้องการพื้นแบบโปร่งใส
- ต้องการแสดงผลแบบโครงร่างก่อน แล้วค่อยแสดงผลแบบละเอียด
- ต้องการนาเสนอภาพแบบภาพเคลื่อนไหว
จุดเด่น
- มีขนาดไฟล์ต่า
- สามารถทาพื้นของภาพให้เป็นพื้นแบบโปร่งใสได้ (Transparent)
- มีระบบแสดงผลแบบหยาบและค่อยๆ ขยายไปสู่ละเอียดในระบบ Interlace
- มีโปรแกรมสนับการสร้างจานวนมาก
- เรียกดูได้กับ Graphics Browser ทุกตัว
- ความสามารถด้านการนาเสนอแบบภาพเคลื่อนไหว ( Gif Animation)
จุดด้อย
- แสดงสีได้เพียง 256 สี
ตัวอย่างภาพที่มีนามสกุล .gif
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 4
- 5. 2. ไฟล์สกุล JPG (Joint Photographer’s Experts Group)
เป็นอีกไฟล์หนึ่งที่นิยมใช้บน Internet มักใช้กรณี
- ภาพที่ต้องการนาเสนอมีความละเอียดสูง และใช้สีจานวนมาก (สนับสนุนถึง 24 bit color)
- ต้องการบีบไฟล์ตามความต้องการของผู้ใช้
- ไฟล์ชนิดนี้มักจะใช้กับภาพถ่ายที่นามาสแกน และต้องการนาไปใช้บนอินเทอร์เน็ต เพราะให้
ความคมชัดและความละเอียดของภาพสูง
จุดเด่น
- สนับสนุนสีได้ถึง 24 bit
- สามารถกาหนดค่าการบีบไฟล์ได้ตามที่ต้องการ
- มีระบบแสดงผลแบบหยาบและค่อยๆ ขยายไปสูละเอียดในระบบ Progressive
่
- มีโปรแกรมสนับสนุนการสร้างจานวนมาก
- เรียกดูได้กับ Graphics Browser ทุกตัว
- ตั้งค่าการบีบไฟล์ได้ ( compress files)
จุดด้อย
- ทาให้พื้นของรูปโปร่งใสไม่ได้
ตัวอย่างภาพที่มีนามสกุล .jpeg
3. ไฟล์สกุล PNG (Portable Network Graphics)
จุดเด่น
- สนับสนุนสีได้ถึงตามค่า True color (16 bit, 32 bit หรือ 64 bit)
- สามารถกาหนดค่าการบีบไฟล์ได้ตามที่ต้องการ
- มีระบบแสดงผลแบบหยาบและค่อยๆ ขยายไปสู่ละเอียด ( Interlace)
- สามารถทาพื้นโปร่งใสได้
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 5
- 6. จุดด้อย
- หากกาหนดค่าการบีบไฟล์ไว้สูง จะใช้เวลาในการคลายไฟล์สูงตามไปด้วย แต่ขนาดของไฟล์จะมี
ขนาดต่า
- ไม่สนับสนุนกับ Graphic Browser รุ่นเก่า
- ความละเอียดของภาพและจานวนสีขึ้นอยู่กับ Video Card
- โปรแกรมสนับสนุนในการสร้างมีน้อย
โครงสร้างของสี
ระบบสี
(Color Model)
ระบบสี
ระบบสี
Additive
Subtractive
ระบบสี Additive
สีในระบบ Additive ประกอบด้วยสีหลัก 3 สี (เช่นเดียวกับแม่สี) คือ สีแดง (Red) สีเขียว (Green)
และ สีน้าเงิน (Blue) เรียกรวมกันว่า RGB ซึ่งมีรูปแบบการผสมสีของ RGB ดังนี้
การผสมกันของแม่สีทั้งสาม
1. ถ้าแม่สีมีค่าเท่ากัน มาผสมกันเป็นคู่ จะได้ผลดังนี้
1 Red
+1 Blue
= Magenta
1 Blue
+1 Green
=Cyan
1 Green
+1 Red
=Yellow
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 6
- 7. 2. ถ้าแม่สีมีค่าเท่ากัน มาผสมทั้ง 3 สี จะได้ผลดังนี้
1 Red
+1Blue
+1 Green
=White
3. ถ้าแม่สีมีค่าไม่เท่ากัน ผสมกัน จะได้สีต่างๆ กันไป เช่น
2 Red
+1 Green
=Orange
2 Green
+1 Red
=Lime
1 Blue
+1 Green
+4 Red
=Brown
ระบบสี Subtractive
ระบบสี Subtractive มีลักษณะที่ตรงข้ามกับ Additive โดยสีแต่ละสีจะได้จากการลบสีต่างๆ ออกไป
จากระบบ ดังนั้น หากไม่มีการแสดงสีใดๆ จะแสดงผลเป็นสีขาว ขณะที่การแสดงสีทุกสี จะปรากฏเป็นสีดา
และสีหลัก หรือแม่สีของระบบนี้ จะประกอบด้วย สีฟ้า (Cyan) สีม่วงแดง (Magenta) และสีเหลือง (Yellow)
หรือระบบ CMY เป็นระบบสีที่ใช้กับงานสิ่งพิมพ์ ซึ่งมักจะรวมเอาสีดา มาเป็นแม่สีด้วย จึงเรียกว่าระบบ
CMYK (Cyan, Magenta, Yellow, blacK) นั่นเอง
ตัวอย่างการผสมสี
CYAN INK
MAGENTA INK
YELLOW INK
BLACK INK
ALL INKS
100% CYAN
-
100% YELLOW
-
GREEN
100% CYAN
-
100% YELLOW
25% BLACK
DARK GREEN
-
100% MAGENTA
100% YELLOW
-
RED
-
100% MAGENTA
100% YELLOW
25% BLACK
DARK RED
100% CYAN
50% MAGENTA
-
-
BLUE
50% CYAN
75% MAGENTA
100% YELLOW
-
BROWN
45% CYAN
30% MAGENTA
30% YELLOW
-
GRAY
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 7
- 8. ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก
1. Photo Retouching
โปรแกรมที่เหมาะสาหรับการแก้ไข ตกแต่งภาพ และ ทาเอฟเฟกต์ให้กับภาพที่ได้สร้างขึ้นมาแล้ว ซึ่ง
อาจจะ มาจากภาพถ่ายจริง ได้แก่ Adobe PhotoShop, Corel Photopaint, PaintShop
2. Graphic Illustrator
โปรแกรมสาหรับการออกแบบงานกราฟิก หรืองาน Lay out ซึ่งเป็นงานสองมิติ มีการเขียนรูปใน
ลักษณะการเน้น เส้นเน้นรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งไม่ใช่รูปถ่าย ได้แก่ Adobe Illustrator, CorelDraw
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 8
- 9. 3. Computer Aided Design
โปรแกรมสาหรับการเขียนภาพที่แสดงออกถึงมิติ ขนาด ที่ ให้ความชัดเจนของวัตถุที่ต้องการสร้าง
ขึ้นมา ได้แก่ Auto CAD, Prodesign
4. 3D Photo Realistic
โปรแกรมที่สามารถสร้างภาพสามมิติ ที่มีมวลและปริมาตร และมีคุณสมบัติของพื้นผิว จนเกิดความ
สมจริงของแสง และเงา ได้แก่ 3D studio MAX, Auto CAD 3D
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 9
- 10. 5. Presentation
โปรแกรมกราฟิก สาหรับช่วยในการนาเสนองาน ใน ลักษณะเป็นสไลค์ประกอบคาบรรยาย มีการ
สร้างภาพ กราฟฟิกที่ดูแล้วเข้าใจง่ายขึ้น เช่น กราฟชนิดต่าง ๆ หรือการสร้างแผนผังการจัดองค์กรโปรแกรม
ประเภทนี้ ส่วนมากใช้ในงานธุรกิจ
6. Animation
เป็นโปรแกรมสร้างภาพเคลื่อนไหวตามลาดับ โปรแกรมจะ แสดงภาพเป็นลาดับให้แลดูเหมือน
ภาพเคลื่อนไหว โดย อาจมีเทคนิคต่างๆ ประกอบการแสดงภาพเช่น การซ้อนภาพ , เลื่อนภาพ, การเลื่อน
ภาพให้หายไปได้ และ การ แปลงภาพ รวมถึงมีลักษณะการโต้ตอบกับผู้ใช้ด้วย
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 10
- 11. คุณสมบัติของงานกราฟิก
1) งานกราฟิกเข้าใจได้ง่าย มีงานจานวนมากที่แสดงด้วยภาพจะทาให้เข้าใจถึงเรื่องที่ต้องการสื่อ
ความหมายได้ง่ายกว่าการอธิบายด้วยภาษาพูดและภาษาเขียน เพราะภาพกราฟิกมีความชัดเจนเรียบง่าย และ
สามารถเน้นจุดที่ ต้องการได้ เช่ น การใช้ภาพ แผนที่บอกสถานที่ การออกแบบผลิตภัณฑ์อุ ตสาหกรรม
แผนภูมิต่างๆ
แผนที่แสดงด้วยภาพกราฟิก
2) งานกราฟิ ก ดึ งดู ดความสนใจ
งานกราฟิ ก มีความสะดุดตา น่าเชื่อถือ สามารถใช้ส ร้าง
ความสาคัญ และทาให้ตระหนักถึงสิ่งที่ควรเอาใจใส่ จึงใช้ดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าการบอกเล่า เช่น ในการ
โฆษณาสินค้าจะใช้งานกราฟิกที่มีสีสันสะดุดตาและการจัดวางที่เหมาะสมเพื่อจูงใจให้ลูกค้าเกิดความสนใจ
สินค้านั้น ๆ การนาเสนอผลงานหรือข้อมูลต่าง ๆ ถ้าใช้ภาพกราฟิกประกอบการช่วยให้ผู้ฟังไม่เบื่อ เกิดความ
เข้าใจ และสนใจติดตามตลอดการนาเสนอ
ภาพโฆษณา สินค้า
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 11
- 12. 3) งานกราฟิกช่วยให้จดจาได้มากและเร็วกว่า เนื่องจากมนุษย์จะจาข้อมูลในลักษณะที่เป็นภาพได้
ดีกว่าตัวเลขหรือข้อความ การประยุกต์ใช้งานกราฟิกในการเรียนรู้หรือ การศึกษาจะช่วยให้ผู้เรียนสรุป
ความรู้ได้เป็นอย่างดี ผู้เรียนจึงสามารถจดจาสิ่งต่าง ๆ ได้มากและเร็วกว่า เช่น การใช้ภาพอธิบายการเกิ ด
สุริยุปราคาการใช้ภาพสัตว์สอนให้เด็กรู้จักชื่อสัตว์ชนิดต่าง ๆ การใช้ภาพกราฟิกอธิบายการส่งสินค้าออกที่
ทารายได้เข้าประเทศ
ภาพอธิบายการเกิดสุริยุปราคา
บทบาทและความสาคัญของงานกราฟิก
1) ความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการ มนุษย์ประสบความสาเร็จในการค้นพบความจริง และ
กระบวนการทางธรรมชาติมากมาย ความรู้ที่ค้นพบใหม่นี้ ต้องการวิธีการและกระบวนการในการเก็บ
บันทึก การจา และเผยแพร่ การใช้งานกราฟิกช่วยจะทาให้ได้ข้อมูลที่สามารถสื่อสารความหมายให้เข้าใจได้
ง่ายและรวดเร็ว และชัดเจนถูกต้อง เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้ภาษาพูดและภาษาเขียน
2) ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ทาให้เกิด
เครื่องมือสาหรับสร้างงานกราฟิกที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถผลิตงานได้ รวดเร็ว มีปริมาณมาก ง่าย
ต่อการใช้งาน ราคาถูกลง และเผยแพร่ได้สะดวกกว้างไกล โดยเฉพาะการใช้คอมพิวเตอร์ในงาน
กราฟิก และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
3) จานวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น และความเป็นโลกไร้พรมแดน ประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น อย่าง
รวดเร็ว การคมนาคมที่สามารถเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกด้วยเวลาไม่มากนัก และ การสื่อสารที่มีเครือข่าย
ครอบคลุมทั่วโลก ทาให้เกิดความจาเป็นต่อการสื่อความหมายทางไกลระหว่างบุคคล และการสื่อ
ความหมายกับประชากรกลุ่มใหญ่ในมุมต่าง ๆ ของโลก เพื่อดาเนินการถ่ายทอดความรู้ แลกเปลี่ยน
วัฒนธรรม ความร่วมมือทางวิชาการ ธุรกิจ และอื่น ๆ งานกราฟิกจึงเป็นเครื่องผ่อนแรงให้การสื่อ
ความหมาย สามารถสื่อสารได้เข้าใจง่ายและถูกต้องในเวลาสั้น
4) ความแตกต่างระว่างบุคคล บุคคลแต่ละคนมีความแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ เช่น ความคิด ความ
เข้าใจ ความสามารถ อัตราการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ และอื่น ๆ ความแตกต่างเหล่านี้ทาให้การสื่อความหมาย
ด้วยภาษาพูดและภาษาเขียนในบางครั้งไม่สามารถสร้างความเข้าใจได้ง่ายนัก การใช้งานกราฟิกเข้าช่วยจะ
ทาให้ง่ายต่อการสื่อความหมาย เพิ่มประสิทธิภาพของการคิดในบุคคลที่มีความแตกต่างได้เป็นอย่างดี
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา กราฟิกและเทคโนโลยีสื่อประสม ม.6 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
หน้า 12