SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 18
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายเกิดเสียงโดยการทำให้สายสั่นสะเทือน  มีทั้งการดีด เช่น ลูท ฮาร์ป แมนโดลิน และแบนโจ ส่วนเครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลินเช่น ไวโอลิน วิโอลา เชลโล และดับเบิลเลส เกิดเสียงได้ทั้งการดีด และการสีโดยใช้คันชัก สายของเครื่องดนตรีประเภทนี้ มีทังสายที่ทำมาจากเส้นลวด เส้นเอ็น หรือเส้นไหม นำมาขึงให้ตึง ความดังของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัสดุที่นำมาใช้ทำกะโหลกเครื่องดนตรี กะโหลกทำหน้าที่เป็นตัวขยายเสียงที่เกิดขึ้นจากการสั่นสะเทือนของสาย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย  ที่นำมาใช้ในการประสมวงดนตรีในปัจจุบันมีดังนี้ เครื่องสายที่ใช้คันสี ( Bow) ไวโอลิน  ( violin) วิโอลา  ( viola)    เชลโล  ( cello) ดับเบิลเบส ( Double bass)     ดับเบิลเบส ( Double Bass)   
ไวโอลิน ( Violin)   เป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็กที่สุด มีเสียงสูงใช้วางบนบ่าไวโอลินคันหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยแผ่นไม้หลายชิ้น แต่ละชิ้นเลือก มาจากไม้ชนิดต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นส่วนต่าง ๆ ของซอ ด้านหน้าใช้ไม้พรุช  ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนมีลายละเอียดด้านหลังใช้ไม้เมเปิ้ล  ไวโอลินประกอบด้วยสาย  4  สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่  5  เพอร์เฟค คือ เสียง  G-D-A-E  สายต่ำสุดเทียบเสียง  G  ต่ำถัดจาก  Middle C  สายทั้งสี่มีความยาวเท่ากัน แต่ระดับเสียงแตกต่างกันตามขนาดไวโอลินขนาดมาตรฐานจะมีความยาวทั้งสิ้น  23.5  นิ้ว คันชักยาว  29  นิ้ว ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง  ( Melodic Instrument)  มีเสียงแหลมสดใส ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีถ้าต้องการจะเล่นให้เสียงหวาน เศร้า ก็ทำได้ โดยใช้เทคนิคการเล่นแบบต่าง ๆ 
วิโอลา ( Viola)    มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาดใหญ่กว่าไวโอลิน ประมาณหนึ่งในห้า มีความยาวทั้งสิ้น  26.5  นิ้ว วิโอลาประกอบด้วยสาย  4  สาย ตั้งเสียงต่ำกว่า ไวโอลินลงไปอีกคู่  5  เพอร์เฟค คือ  C-G-D-A  มีเสียงทุ้มและนุ่มนวลกว่าไวโอลิน แต่ไม่มีบทบาทเด่น เหมือนไวโอลิน การเล่นเครื่องดนตรีไวโอลินและวิโอลานี้ผู้เล่นจะใช้มือซ้ายจับที่คอของเครื่อง โดยให้คอของ เครื่องอยู่ในร่องระหว่างหัวแม่มือกับนิ้วชี้ นิ้วทั้งสี่  ( ยกเว้นหัวแม่มือ )  ทำหน้าที่กดลงบนสายเพื่อเปลี่ยน ระดับเสียง ด้านท้ายของเครื่องวางบนไหล่ซ้ายของผู้เล่น และผู้เล่นจะใช้คางหนีบกระชับ จับตัวเครื่อง ด้วยมือซ้ายและใช้มือขวาจับคันชักในการสี
     เชลโล ( Cello)    มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มีขนาดโตกว่ามาก คือความ ยาวประมาณ  48.5  นิ้ว ขณะเล่นต้องนั่งเก้าอี้ เอาเครื่องไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างหันหน้าเครื่องออก เทคนิคการเล่นเหมือนกับไวโอลินสายทั้งสี่เสียงต่ำกว่าวิโอลา  1  ช่วงคู่  8  คือ  C-G-D-A  เสียงของเชลโล  นุ่มนวล แสดงอารมณ์เศร้าสร้อย
  ดับเบิลเบส ( Double Bass)   เป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลไวโอลิน มี  ความยาวประมาณ  74  นิ้ว ผู้บรรเลงต้องยืนเล่น เสียงของดับเบิลเบส ต่ำสุดแสดงถึงความมีอำนาจ  ความกลัว ความลึกลับ สายทั้งสี่ตั้งเสียงห่างกันเป็นคู่  4  เพอร์เฟค คือ  E- A- D- G
วิธีเล่นเครื่องสาย      ผู้ประพันธ์เพลงจะกำหนดวิธีการเล่นไว้ในบทเพลง โดยใช้ภาษาอิตาเลียน คำสั่งที่พบบ่อยๆเช่น      พิชซิกาโต ( Pizzicato)  คือใช้นิ้วดีดสายแทนคันชัก      ดับเบิลสต๊อปปิ้ง  ( Double stopping) คือเล่นคู่กัน  2  สายพร้อมกัน      คอนซอร์ดิโน  ( Con sordino)  คือใส่เครื่องเก็บเสียงทำให้เสียงเบา      เทรมโมโล ( Trenolo)  คือการรัวคันสีบนโน้ตตัวเดียวอย่างรวดเร็ว      ฮาร์โมนิค ( Harmonic) คือการใช้นิ้วแตะที่สายอย่างแผ่วเบา      พอร์ทัลเมนโต ( Portalmento)  คือการรูดนิ้วไปบนสายจากเสียงหนึ่งไปอีกเสียงหนึ่ง      คอลลิอาโน  ( col liano)  คือการใช้ด้านที่เป็นไม้ ของคันสีเคาะหรือสี  บนสาย
เครื่องสายที่ใช้ดีด  ( Plucked Strings)      เป็นเครืองดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยใช้นิ้วดีดสาย หรือใช้พลาสติกบางๆที่เรียกว่า  ( Pick)  ดีดสายแทนนิ้ว     ฮาร์พ ( Harp)  หรือพิณ  ฮาร์พเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่มากชนิดหนึ่งมีสายประมาณ  46-47  สายและมีที่เหยียบเพื่อเปลี่ยนเสียงไปได้หลายเสียง  คอนเสิร์ทฮาร์พมีขนาดใหญ่และหนักมากผู้เล่นต้องยืนเล่น ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย 
1)  ฮาร์พ  ( Harp)  ฮาร์พเป็นพิณโบราณขนาดใหญ่ มีประวัติเก่าแก่มาก ชาวอียิปต์ โบราณใช้ฮาร์พเป็นเครื่องดนตรีสำคัญในราชสำนักของฟาโรห์ ในยุโรปสมัยกลางฮาร์พเป็นเครื่องดนตรี ที่ได้รับความนิยมจากชาวไอริช และเวลส์ เป็นอย่างมาก ฮาร์พมีลักษณะเป็นโครงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านบนโค้งงอสวยงาม มีสายขึงอยู่ทั้งหมด  47  สาย ช่วงเสียงกว้าง  6 ?  Octaves  บันไดเสียงพื้นฐานของฮาร์พเป็น  Cb Major  ที่ฐานของฮาร์พ จะ มีกระเดื่อง  7  อัน สำหรับเหยียบ  ( ประจำทั้ง  7  เสียง )  ถ้าเหยียบจมลงครั้งหนึ่งสายจะดึงขึ้นทำให้เสียงสูง ขึ้นครึ่งเสียง ถ้าเหยียบอีกเป็นครั้งที่สองสายจะตึงขึ้นอีกทำให้เสียงสูงขึ้นอีกทำให้ผู้เล่น เล่นเพลงได้ทุก บันไดเสียงในการบรรเลงฮาร์พผู้เล่นจะต้องนั่งลงให้ไหล่ขวาชิดกับตัวฮาร์พใช้นิ้วมือทั้งสอง ยกเว้นนิ้ว ก้อยดีดสาย เสียงของฮาร์พเบาและนุ่มนวลกว่าเปียโนมากปัจจุบันฮาร์พใช้บรรเลงในวงดนตรีประเภทออร์เคสตราเท่านั้น
2.   ลูท  ( Lute)   เป็นพิณชนิดหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องสายประเภทดีด ลูทมีรูปทรง เหมือนผลส้มผ่าซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับกีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกันมากแต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้รับความนิยม  
3. กีตาร์  ( Guitar)   กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่แพร่หลายมากในปัจจุบันมีรูปร่างคล้ายคลึงกับ พิณลูทแต่ผิดกันตรงที่รูปร่างแบนกว่าในปัจจุบันมีความสำคัญทั้งในวงดนตรีประเภทสตริง แจ๊สร็อค เป็นต้น กีตาร์ประกอบด้วยสาย  6  สาย โดยตั้งระดับเสียงต่ำไปหาสูง ในแต่ละสายดังนี้  E,A,D,G,B,E  ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่งธรรมดา หรือกีตาร์ไฟฟ้านอกจากนี้เครื่องสายประเภทดีดยังมีแมนโดลิน แบนโจ ซึ่งเป็นเครื่องสายประเภทดีดที่มีรูป ร่างคล้ายกีตาร์ แต่มิได้นำมาใช้ในวงดนตรีมากนักส่วนมากใช้ในดนตรีของชาวพื้นเมืองแถบลาติน อเมริกาอย่างไรก็ตามทั้งแมนโดลิน และแบนโจก็เป็นผลการวิวัฒนาการของลูทนั่นเอง
4)  แมนโดลิน  ( Mandolin)   เป็นเครื่องดนตรีตระกูลลูท มีสาย  4  คู่  (8 สาย )  หรือ  6  คู่  (12 สาย )  ตั้งเสียงเท่ากันเป็นคู่ มีลูกบิดคล้ายกีตาร์ใช้ในการตั้งเสียง และมีนม  ( Feat)  รองรับสาย เวลา เล่นจะใช้นิ้วมือซ้ายจับตัวแมนโดลินและใช้มือขวาดีด ลักษณะการดีดคล้ายการดีดกีตาร์โดยใช้ปิ๊ค  ( Pick)  เสียงที่เกิดจากแมนโดลินมีความไพเราะเป็นเสียงที่มีคุณภาพ เร้าอารมณ์ได้ดีโดยเฉพาะอารมณ์ โศกเศร้าเกี่ยวกับความรัก แมนโดลินมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอิตาลี เป็นเครื่องดนตรีที่ชาวอิตาเลียนนิยม กันแพร่หลาย ในปี ค . ศ . 1713  ได้มีผู้นำเอาแมนโดลินมาเล่นผสมในวงคอนเสิร์ตใน
5)  แบนโจ  ( Banjo)   เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มต้นที่มีผู้นำมาเล่นอยู่ในแถบ แอฟริกาตะวันตก  ( Western Africa)  เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็นที่แพร่หลาย ในหมู่อเมริกันนิโกร วิธีการเล่นคล้ายกับกีตาร์
เครื่องเป่าลมไม้ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้แบ่งออกเป็น  2  พวก คือพวกขลุ่ยและปี่ ถ้าเป็นประเภทขลุ่ยจะไม่มีลิ้น เป่าลมผ่านท่อในลักษณะของการผิว เช่น ฟลุท ปิคโคโล รีคอร์เดอร์  ,  ประเภทปี่ ต้องเป่าลมผ่านลิ้น ซึ่งมีลิ้นเดี่ยว เช่น คลาริเนต แซ็กโซโฟน และลิ้นคู่ เช่น บาสซูน โอโบ เป็นต้น
   โอโบ  ( Oboe)  โอโบ คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ โอโบและเครื่องดนตรีอื่น ๆ ในตระกูลโอโบ เช่น บาสซูนและอิงลิชฮอนร์นเป็นเครื่องดนตรีจำพวกลิ้นคู่ ลำตัวโอโบเป็นรูปทรงกรวยทำด้วยไม้ แบ่งเป็น   3  ท่อน เวลาจะใช้ต้องต่อเข้าด้วยกัน มีรูสำหรับใช้นิ้วปิดเปิด  6  รู และมีคีย์โลหะบุนวม ต่อเป็นระบบกลไกเชื่อมโยงสำหรับปิดเปิดรูอีกด้วย คุณภาพเสียงของโอโบมีความแหลมเสียดแทงและมีลักษณะเป็นเสียงนาสิก
   บาสซูน  ( Bassoon)   คือเครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ อยู่ในตระกูลโอโบ มีลิ้นคู่ มีเสียงต่ำ บาสซูนเป็นเครื่องดนตรีสำคัญอีกเครื่องหนึ่ง ในวงควอเต็ทสำหรับเครื่องลมไม้ ซึ่งประกอบขึ้นด้วย ฟลุท คลาริเนต โอโบ และบาสซูน คุณภาพเสียงของบาสซูนในช่วงเสียงสูงจะแหลมเสียงในช่วงกลางจะทีบ กลวง ไม่หนักแน่น ส่วนมากแล้ว มักจะใช้เสียงของบาสซูนถึงความตลกขบขัน
ฟลุท  ( Flute)    คือ ขลุ่ยชนิดหนึ่งเป็นเครื่องดนตรีอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ ฟลุทมีท่อกลวงเกิดเสียงโดยการเป่าลมผ่านช่องลมของปากเป่า ผู้เล่นต้องถือฟลุทให้ขนานกับพื้นฟลุทในระยะแรกทำด้วยไม้ ปัจจุบัน ฟลุทนิยมทำด้วยโลหะ คุณภาพเสียงของฟลุทในระดับเสียงสูงมีเสียงแจ่มใส เสียงในระดับต่ำมีความนุ่มนวล 
  ปิคโคโล  ( Piccolo)   คือ เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ อยู่ในตระกูลฟลุท ปิคโคโล มีระดับเสียงสูงกว่าฟลุทอยู่  1  ช่วงคู่แปด มีขนาดเล็กกว่าฟลุท  4  เท่า จึงทำให้มีคุณภาพเสียงที่สดใสและแหลมมาก เสียงในระดับต่ำของปิคโคโลจะดังไม่ชัดเจน ปิคโคโลจึงเหมาะที่จะใช้ในการเล่นในระดับเสียงกลางและเสียงสูงมากกว่าในระดับเสียงต่ำ เครื่องดนตรีที่มีเสียงแหลมเหมือนปิคโคโล ซึ่งอยู่ในตระกูลฟลุทมีอีกหลายชนิด เช่น เรคอร์เดอร์ เป็นต้น
  เรคอร์เดอร์  ( Recorder)    คือเครื่องดนตรีเก่าแก่ จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ พัฒนาจากยุคกลางจนถึงศตวรรษที่  18  เรคอร์เดอร์มีรูปสำหรับใช้นิ้วปิดเปิด  8  รู ลำตัวจะเป็นทรงกรวย ทำด้วยไม้หรือพลาสติก มีปากเป่าลักษณะเหมือนกับนกหวีด คุณภาพเสียงของเรคอร์เดอร์ จะนุ่มนวล บางเบา

Mais conteúdo relacionado

Semelhante a เครื่องสาย 2

เครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทยเครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทยlove5710
 
บทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศนบทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศนpeter dontoom
 
บทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรีบทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรีpeter dontoom
 
แคนอีสาน
แคนอีสานแคนอีสาน
แคนอีสานVeenatSeemuang
 
ชื่อของเครื่องดนตรีสากล
ชื่อของเครื่องดนตรีสากลชื่อของเครื่องดนตรีสากล
ชื่อของเครื่องดนตรีสากลleemeanshun minzstar
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคguestec5984
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคguestec5984
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคguestec5984
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคguest98f4132
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคguest03bcafe
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคguestec5984
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคguestec5984
 
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมอำนาจ ศรีทิม
 
คีตกวีเอกของโลก.pdf
คีตกวีเอกของโลก.pdfคีตกวีเอกของโลก.pdf
คีตกวีเอกของโลก.pdfpinglada
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdfใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdfPingladaPingladaz
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdfใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdfpinglada
 

Semelhante a เครื่องสาย 2 (20)

เครื่องดนตรีสากล
เครื่องดนตรีสากลเครื่องดนตรีสากล
เครื่องดนตรีสากล
 
เครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทยเครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทย
 
บทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศนบทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศน
 
TeST
TeSTTeST
TeST
 
บทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรีบทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรี
 
แคนอีสาน
แคนอีสานแคนอีสาน
แคนอีสาน
 
เสียงในภาษาไทย
เสียงในภาษาไทยเสียงในภาษาไทย
เสียงในภาษาไทย
 
ชื่อของเครื่องดนตรีสากล
ชื่อของเครื่องดนตรีสากลชื่อของเครื่องดนตรีสากล
ชื่อของเครื่องดนตรีสากล
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาคเครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค
 
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
 
คีตกวีเอกของโลก.pdf
คีตกวีเอกของโลก.pdfคีตกวีเอกของโลก.pdf
คีตกวีเอกของโลก.pdf
 
ดนตรีอีสานเหนือ
ดนตรีอีสานเหนือดนตรีอีสานเหนือ
ดนตรีอีสานเหนือ
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdfใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdfใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล.pdf
 

เครื่องสาย 2

  • 1. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายเกิดเสียงโดยการทำให้สายสั่นสะเทือน  มีทั้งการดีด เช่น ลูท ฮาร์ป แมนโดลิน และแบนโจ ส่วนเครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลินเช่น ไวโอลิน วิโอลา เชลโล และดับเบิลเลส เกิดเสียงได้ทั้งการดีด และการสีโดยใช้คันชัก สายของเครื่องดนตรีประเภทนี้ มีทังสายที่ทำมาจากเส้นลวด เส้นเอ็น หรือเส้นไหม นำมาขึงให้ตึง ความดังของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัสดุที่นำมาใช้ทำกะโหลกเครื่องดนตรี กะโหลกทำหน้าที่เป็นตัวขยายเสียงที่เกิดขึ้นจากการสั่นสะเทือนของสาย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย  ที่นำมาใช้ในการประสมวงดนตรีในปัจจุบันมีดังนี้ เครื่องสายที่ใช้คันสี ( Bow) ไวโอลิน ( violin) วิโอลา ( viola)  เชลโล ( cello) ดับเบิลเบส ( Double bass)    ดับเบิลเบส ( Double Bass)  
  • 2. ไวโอลิน ( Violin)   เป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็กที่สุด มีเสียงสูงใช้วางบนบ่าไวโอลินคันหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยแผ่นไม้หลายชิ้น แต่ละชิ้นเลือก มาจากไม้ชนิดต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นส่วนต่าง ๆ ของซอ ด้านหน้าใช้ไม้พรุช  ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนมีลายละเอียดด้านหลังใช้ไม้เมเปิ้ล  ไวโอลินประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง  G-D-A-E สายต่ำสุดเทียบเสียง G ต่ำถัดจาก Middle C สายทั้งสี่มีความยาวเท่ากัน แต่ระดับเสียงแตกต่างกันตามขนาดไวโอลินขนาดมาตรฐานจะมีความยาวทั้งสิ้น 23.5 นิ้ว คันชักยาว 29 นิ้ว ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง ( Melodic Instrument) มีเสียงแหลมสดใส ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีถ้าต้องการจะเล่นให้เสียงหวาน เศร้า ก็ทำได้ โดยใช้เทคนิคการเล่นแบบต่าง ๆ 
  • 3. วิโอลา ( Viola)   มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาดใหญ่กว่าไวโอลิน ประมาณหนึ่งในห้า มีความยาวทั้งสิ้น 26.5 นิ้ว วิโอลาประกอบด้วยสาย 4 สาย ตั้งเสียงต่ำกว่า ไวโอลินลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ C-G-D-A มีเสียงทุ้มและนุ่มนวลกว่าไวโอลิน แต่ไม่มีบทบาทเด่น เหมือนไวโอลิน การเล่นเครื่องดนตรีไวโอลินและวิโอลานี้ผู้เล่นจะใช้มือซ้ายจับที่คอของเครื่อง โดยให้คอของ เครื่องอยู่ในร่องระหว่างหัวแม่มือกับนิ้วชี้ นิ้วทั้งสี่ ( ยกเว้นหัวแม่มือ ) ทำหน้าที่กดลงบนสายเพื่อเปลี่ยน ระดับเสียง ด้านท้ายของเครื่องวางบนไหล่ซ้ายของผู้เล่น และผู้เล่นจะใช้คางหนีบกระชับ จับตัวเครื่อง ด้วยมือซ้ายและใช้มือขวาจับคันชักในการสี
  • 4.     เชลโล ( Cello)   มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มีขนาดโตกว่ามาก คือความ ยาวประมาณ 48.5 นิ้ว ขณะเล่นต้องนั่งเก้าอี้ เอาเครื่องไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างหันหน้าเครื่องออก เทคนิคการเล่นเหมือนกับไวโอลินสายทั้งสี่เสียงต่ำกว่าวิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คือ C-G-D-A เสียงของเชลโล นุ่มนวล แสดงอารมณ์เศร้าสร้อย
  • 5.   ดับเบิลเบส ( Double Bass)   เป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลไวโอลิน มี  ความยาวประมาณ 74 นิ้ว ผู้บรรเลงต้องยืนเล่น เสียงของดับเบิลเบส ต่ำสุดแสดงถึงความมีอำนาจ  ความกลัว ความลึกลับ สายทั้งสี่ตั้งเสียงห่างกันเป็นคู่ 4 เพอร์เฟค คือ E- A- D- G
  • 6. วิธีเล่นเครื่องสาย     ผู้ประพันธ์เพลงจะกำหนดวิธีการเล่นไว้ในบทเพลง โดยใช้ภาษาอิตาเลียน คำสั่งที่พบบ่อยๆเช่น     พิชซิกาโต ( Pizzicato) คือใช้นิ้วดีดสายแทนคันชัก     ดับเบิลสต๊อปปิ้ง ( Double stopping) คือเล่นคู่กัน 2 สายพร้อมกัน     คอนซอร์ดิโน ( Con sordino) คือใส่เครื่องเก็บเสียงทำให้เสียงเบา     เทรมโมโล ( Trenolo) คือการรัวคันสีบนโน้ตตัวเดียวอย่างรวดเร็ว     ฮาร์โมนิค ( Harmonic) คือการใช้นิ้วแตะที่สายอย่างแผ่วเบา     พอร์ทัลเมนโต ( Portalmento) คือการรูดนิ้วไปบนสายจากเสียงหนึ่งไปอีกเสียงหนึ่ง     คอลลิอาโน ( col liano) คือการใช้ด้านที่เป็นไม้ ของคันสีเคาะหรือสี บนสาย
  • 7. เครื่องสายที่ใช้ดีด ( Plucked Strings)     เป็นเครืองดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยใช้นิ้วดีดสาย หรือใช้พลาสติกบางๆที่เรียกว่า ( Pick) ดีดสายแทนนิ้ว     ฮาร์พ ( Harp) หรือพิณ  ฮาร์พเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่มากชนิดหนึ่งมีสายประมาณ 46-47 สายและมีที่เหยียบเพื่อเปลี่ยนเสียงไปได้หลายเสียง  คอนเสิร์ทฮาร์พมีขนาดใหญ่และหนักมากผู้เล่นต้องยืนเล่น ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย 
  • 8. 1) ฮาร์พ ( Harp)  ฮาร์พเป็นพิณโบราณขนาดใหญ่ มีประวัติเก่าแก่มาก ชาวอียิปต์ โบราณใช้ฮาร์พเป็นเครื่องดนตรีสำคัญในราชสำนักของฟาโรห์ ในยุโรปสมัยกลางฮาร์พเป็นเครื่องดนตรี ที่ได้รับความนิยมจากชาวไอริช และเวลส์ เป็นอย่างมาก ฮาร์พมีลักษณะเป็นโครงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านบนโค้งงอสวยงาม มีสายขึงอยู่ทั้งหมด 47 สาย ช่วงเสียงกว้าง 6 ? Octaves บันไดเสียงพื้นฐานของฮาร์พเป็น Cb Major ที่ฐานของฮาร์พ จะ มีกระเดื่อง 7 อัน สำหรับเหยียบ ( ประจำทั้ง 7 เสียง ) ถ้าเหยียบจมลงครั้งหนึ่งสายจะดึงขึ้นทำให้เสียงสูง ขึ้นครึ่งเสียง ถ้าเหยียบอีกเป็นครั้งที่สองสายจะตึงขึ้นอีกทำให้เสียงสูงขึ้นอีกทำให้ผู้เล่น เล่นเพลงได้ทุก บันไดเสียงในการบรรเลงฮาร์พผู้เล่นจะต้องนั่งลงให้ไหล่ขวาชิดกับตัวฮาร์พใช้นิ้วมือทั้งสอง ยกเว้นนิ้ว ก้อยดีดสาย เสียงของฮาร์พเบาและนุ่มนวลกว่าเปียโนมากปัจจุบันฮาร์พใช้บรรเลงในวงดนตรีประเภทออร์เคสตราเท่านั้น
  • 9. 2.  ลูท ( Lute)   เป็นพิณชนิดหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องสายประเภทดีด ลูทมีรูปทรง เหมือนผลส้มผ่าซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับกีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกันมากแต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้รับความนิยม  
  • 10. 3. กีตาร์ ( Guitar)   กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่แพร่หลายมากในปัจจุบันมีรูปร่างคล้ายคลึงกับ พิณลูทแต่ผิดกันตรงที่รูปร่างแบนกว่าในปัจจุบันมีความสำคัญทั้งในวงดนตรีประเภทสตริง แจ๊สร็อค เป็นต้น กีตาร์ประกอบด้วยสาย 6 สาย โดยตั้งระดับเสียงต่ำไปหาสูง ในแต่ละสายดังนี้ E,A,D,G,B,E  ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่งธรรมดา หรือกีตาร์ไฟฟ้านอกจากนี้เครื่องสายประเภทดีดยังมีแมนโดลิน แบนโจ ซึ่งเป็นเครื่องสายประเภทดีดที่มีรูป ร่างคล้ายกีตาร์ แต่มิได้นำมาใช้ในวงดนตรีมากนักส่วนมากใช้ในดนตรีของชาวพื้นเมืองแถบลาติน อเมริกาอย่างไรก็ตามทั้งแมนโดลิน และแบนโจก็เป็นผลการวิวัฒนาการของลูทนั่นเอง
  • 11. 4) แมนโดลิน ( Mandolin)   เป็นเครื่องดนตรีตระกูลลูท มีสาย 4 คู่ (8 สาย ) หรือ 6 คู่  (12 สาย ) ตั้งเสียงเท่ากันเป็นคู่ มีลูกบิดคล้ายกีตาร์ใช้ในการตั้งเสียง และมีนม ( Feat) รองรับสาย เวลา เล่นจะใช้นิ้วมือซ้ายจับตัวแมนโดลินและใช้มือขวาดีด ลักษณะการดีดคล้ายการดีดกีตาร์โดยใช้ปิ๊ค  ( Pick) เสียงที่เกิดจากแมนโดลินมีความไพเราะเป็นเสียงที่มีคุณภาพ เร้าอารมณ์ได้ดีโดยเฉพาะอารมณ์ โศกเศร้าเกี่ยวกับความรัก แมนโดลินมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอิตาลี เป็นเครื่องดนตรีที่ชาวอิตาเลียนนิยม กันแพร่หลาย ในปี ค . ศ . 1713 ได้มีผู้นำเอาแมนโดลินมาเล่นผสมในวงคอนเสิร์ตใน
  • 12. 5) แบนโจ ( Banjo)   เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มต้นที่มีผู้นำมาเล่นอยู่ในแถบ แอฟริกาตะวันตก ( Western Africa) เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็นที่แพร่หลาย ในหมู่อเมริกันนิโกร วิธีการเล่นคล้ายกับกีตาร์
  • 13. เครื่องเป่าลมไม้ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้แบ่งออกเป็น 2 พวก คือพวกขลุ่ยและปี่ ถ้าเป็นประเภทขลุ่ยจะไม่มีลิ้น เป่าลมผ่านท่อในลักษณะของการผิว เช่น ฟลุท ปิคโคโล รีคอร์เดอร์ , ประเภทปี่ ต้องเป่าลมผ่านลิ้น ซึ่งมีลิ้นเดี่ยว เช่น คลาริเนต แซ็กโซโฟน และลิ้นคู่ เช่น บาสซูน โอโบ เป็นต้น
  • 14.    โอโบ ( Oboe)  โอโบ คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ โอโบและเครื่องดนตรีอื่น ๆ ในตระกูลโอโบ เช่น บาสซูนและอิงลิชฮอนร์นเป็นเครื่องดนตรีจำพวกลิ้นคู่ ลำตัวโอโบเป็นรูปทรงกรวยทำด้วยไม้ แบ่งเป็น  3 ท่อน เวลาจะใช้ต้องต่อเข้าด้วยกัน มีรูสำหรับใช้นิ้วปิดเปิด 6 รู และมีคีย์โลหะบุนวม ต่อเป็นระบบกลไกเชื่อมโยงสำหรับปิดเปิดรูอีกด้วย คุณภาพเสียงของโอโบมีความแหลมเสียดแทงและมีลักษณะเป็นเสียงนาสิก
  • 15.    บาสซูน ( Bassoon)   คือเครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ อยู่ในตระกูลโอโบ มีลิ้นคู่ มีเสียงต่ำ บาสซูนเป็นเครื่องดนตรีสำคัญอีกเครื่องหนึ่ง ในวงควอเต็ทสำหรับเครื่องลมไม้ ซึ่งประกอบขึ้นด้วย ฟลุท คลาริเนต โอโบ และบาสซูน คุณภาพเสียงของบาสซูนในช่วงเสียงสูงจะแหลมเสียงในช่วงกลางจะทีบ กลวง ไม่หนักแน่น ส่วนมากแล้ว มักจะใช้เสียงของบาสซูนถึงความตลกขบขัน
  • 16. ฟลุท ( Flute)   คือ ขลุ่ยชนิดหนึ่งเป็นเครื่องดนตรีอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ ฟลุทมีท่อกลวงเกิดเสียงโดยการเป่าลมผ่านช่องลมของปากเป่า ผู้เล่นต้องถือฟลุทให้ขนานกับพื้นฟลุทในระยะแรกทำด้วยไม้ ปัจจุบัน ฟลุทนิยมทำด้วยโลหะ คุณภาพเสียงของฟลุทในระดับเสียงสูงมีเสียงแจ่มใส เสียงในระดับต่ำมีความนุ่มนวล 
  • 17.   ปิคโคโล ( Piccolo)   คือ เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ อยู่ในตระกูลฟลุท ปิคโคโล มีระดับเสียงสูงกว่าฟลุทอยู่ 1 ช่วงคู่แปด มีขนาดเล็กกว่าฟลุท 4 เท่า จึงทำให้มีคุณภาพเสียงที่สดใสและแหลมมาก เสียงในระดับต่ำของปิคโคโลจะดังไม่ชัดเจน ปิคโคโลจึงเหมาะที่จะใช้ในการเล่นในระดับเสียงกลางและเสียงสูงมากกว่าในระดับเสียงต่ำ เครื่องดนตรีที่มีเสียงแหลมเหมือนปิคโคโล ซึ่งอยู่ในตระกูลฟลุทมีอีกหลายชนิด เช่น เรคอร์เดอร์ เป็นต้น
  • 18.   เรคอร์เดอร์ ( Recorder)   คือเครื่องดนตรีเก่าแก่ จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ พัฒนาจากยุคกลางจนถึงศตวรรษที่ 18 เรคอร์เดอร์มีรูปสำหรับใช้นิ้วปิดเปิด 8 รู ลำตัวจะเป็นทรงกรวย ทำด้วยไม้หรือพลาสติก มีปากเป่าลักษณะเหมือนกับนกหวีด คุณภาพเสียงของเรคอร์เดอร์ จะนุ่มนวล บางเบา