SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 10
Baixar para ler offline
รายงานสรุป
การเกิดเหตุฉุกเฉินทางรังสีบริเวณอาคารคลังสินคาทาอากาศยานสุวรรณภูมิ

                       วันที่ 25 ธันวาคม 2552




                                โดย

                   สํานักงานปรมาณูเพือสันติ (ปส.)
                                     ่

              กระทรวงวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (วท.)
คํานํา

        ดวยวันที่ 25 ธันวาคม 2552 ไดเกิดเหตุฉุกเฉินทางรังสี บริเวณอาคารคลังสินคา บริษัท บางกอก ไฟลท
เซอรวิส (บีเอฟเอส คารโก) ทาอากาศยานสุวรรณภูมิ สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร
และเทคโนโลยี (วท.) ซึ่ ง เป น หน ว ยงานหลั ก ของประเทศในการกํ า กั บ ดู แ ลความปลอดภั ย การใช ส าร
กัมมันตรังสีและพลังงานนิวเคลียร และดําเนินการกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสาธารณภัยทางรังสีในภายประเทศ จึงได
จัดสงเจาหนาที่เขาทําการตรวจสอบบริเวณดังกลาว เพื่อระงับและบรรเทาภัยรวมถึงลดความหวาดวิตกของ
ประชาชนและผูปฏิบัติงานบริเวณนั้น ซึ่งจากผลการตรวจสอบไมพบสิ่งผิดปกติใดๆ โดยการปฏิบัติงานในครั้ง
นี้สําเร็จลุลวงไปดวยดี เนื่องจากไดรับการติดตอประสานงานอยางทันทีและมีประสิทธิภาพของหนวยงานที่เกิด
เหตุ หนวยงานภาครัฐที่เกี่ยวของ ทําใหเหตุการณในครั้งนี้ไมมีผูไดรับอันตราย และสามารถสรางความเชื่อมั่น
ให แ ก ป ระชาชนในระยะเวลารวดเร็ ว เนื่ อ งจากท า อากาศยานสุ ว รรณภู มิ เป น ท า อากาศยานขนาดใหญ
มีผูโดยสาร และเจาหนาที่ตางๆ เปนจํานวนมาก หากไมสามารถสรางความเชื่อมั่นใหแกประชาชนอาจทําใหเกิด
ความหวาดวิตก และสงผลกระทบตอประเทศก็เปนได

        สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ ขอขอบพระคุณหนวยงานตางๆ ที่ประสานงานในการดําเนินการระงับและ
บรรเทาภัย จนเหตุการณตางๆ กลับคืนสูสภาวะปกติ มา ณ โอกาสนี้




                                                     สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ

                                                           28 ธันวาคม 2552
รายงานสรุปเหตุฉุกเฉินทางรังสีบริเวณอาคารคลังสินคาทาอากาศยานสุวรรณภูมิ

        ดวยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2552 เวลาประมาณ 8.45 น. นายภาคภูมิ อรามรุญ นักฟสิกสรังสี กลุมเตรียม
ความพรอมประสานงานกรณีฉุกเฉินทางรังสี สํานักกํากับดูแลความปลอดภัยทางรังสี สํานักงานปรมาณูเพื่อ
สันติ (ปส.) ไดรับแจงทางหมายเลขฉุกเฉินทางรังสี (08 9200 6243) จากเจาหนาที่ของบริษัท บางกอก ไฟลท
เซอรวิส (บีเอฟเอส คารโก) วาไดเกิดรังสีรั่วไหลของพัสดุหีบหอที่มีการขนสงมาทางเครื่องบิน ซึ่งไดมีการเก็บ
ไวที่หองเก็บสินคาวัตถุอันตราย อาคารคลังสินคาบริษัท บีเอฟเอส บริเวณจุดฟรีโซน ทาอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยไมทราบวาเปนสารกัมมันตรังสีชนิดใด และเมื่อเจาหนาที่บริษัทฯใชเครื่องสํารวจรังสีที่ทางบริษัทมีอยูนั้น
สามารถวัดระดับรังสีได 50 มิลลิซีเวิรตตอชั่วโมง ในเบื้องตนนายภาคภูมิ ซึ่งเปนผูรับแจงเหตุดังกลาว ไดให
คําแนะนําในการดําเนินการ โดยใหเจาหนาที่ของบริษัทฯ ทําการปดหองดังกลาว พรอมทั้งปดระบบระบาย
อากาศ และใชเครื่องมือที่มีอยูทําการตรวจวัดผูที่เขาไปทําการขนยายหีบหอและใหทําการจํากัดเขตเจาหนาที่ที่
เกี่ยวของเพื่อปองกันการเปรอะเปอนของสารกัมมันตรังสี เพราะยังไมทราบวาเปนสารกัมมันตรังสีที่สามารถมี
การรั่วไหลหรือมีการแพรกระจายไดหรือไม

        เมื่อเวลา 8.50 น. นายภาคภูมิ ไดรับการประสานงานเพิ่มเติมจากเจาหนาที่ของกรมควบคุมมลพิษ วาเมื่อ
เวลาประมาณ 7.23 น. กรมควบคุมมลพิษไดรับแจงจากเจาหนาที่บริษัท บีเอฟเอส วาไดเกิดเหตุรั่วไหลของสาร
กัมมันตรังสีที่อาคารคลังสินคาของบริษัทฯ บริเวณจุดฟรีโซน ทาอากาศยานสุวรรณภูมิ และหลังจากนั้นไม
นานเจาหนาที่ของบริษัทฯ ไดโทรศัพทแจงขอมูลเพิ่มเติมวา หีบหอดังกลาวไดมีการขนสงสารกัมมันตรังสี ชนิด
อิริเดียม-192 (Ir-192) ซึ่งเปนสารกัมมันตรังสีแบบปดผนึก

        เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. นายกิตติศักดิ์ ชินอุดมทรัพย ผูอํานวยการสํานักกํากับดูแลความปลอดภัยทาง
รังสี ไดจัดสงเจาหนาที่ของสํานักงานกํากับดูแลความปลอดภัยทางรังสีจํานวน 4 นาย คือ

        กลุมเตรียมความพรอมประสานงานกรณีฉุกเฉินทางรังสี (กตฉ.)
        1. นายภาคภูมิ อรามรุญ                     นักฟสิกสรังสี ปฏิบัติการ
        กลุมกํากับดูแลความปลอดภัยการใชรังสีทางการอุตสาหกรรม (กปอ.)
        1. นายรชต สุทธศิริ                        นักฟสิกสรังสี ชํานาญการ
        2. นางสาวนัทฐิยา วงศศราพันธชัย          เจาหนาที่วิทยาศาสตร
        3. นายคมศักดิ์ หนุนเพชร                   นักวิทยาศาสตรนิวเคลียร
ทั้งนี้ไดนําเครื่องมือที่ใชสํารวจระดับรังสี (Survey Meter) ชุดตรวจสอบการรั่วไหลและการเปรอะ
เปอนของสารกัมมันตรังสี และชุดปองกันการเปรอะเปอนทางรังสี ไปใชในการปฏิบัติงานประเมินสถานการณ
และระงับเหตุเบื้องตน ณ สถานที่เกิดเหตุดังกลาว

          เวลา 9.45 น. โดยประมาณ เจาหนาที่ ปส.ไดเดินทางไปถึงในที่เกิดเหตุ พบเจาหนาที่ของบริษัท บีเอฟ
เอส ทําการปดการเขาออกบริเวณทางเขาออกดานนอกอาคารคลังสินคา พรอมดวยรถดับเพลิงจํานวนหนึ่งและ
อุปกรณชําระลางการเปรอะเปอนเคลื่อนที่บริเวณทางเขาออกของอาคาร โดยมีเจาหนาที่จากบริษัท การทาอากาศ
ยานไทย จํากัด (มหาชน) ไดรวมปฏิบัติการในพื้นที่ดวย จากนั้นเจาหนาที่ไดมีการมอบเอกสารการขนสงพบวา
วั ส ดุ กั ม มั น ตรั ง สี ดั ง กล า ว คื อ อิ ริ เ ดี ย ม – 192 มี จํ า นวน 2 หี บ ห อ โดยหี บ ห อ ที่ 1 มี ค วามแรงรั ง สี 4,047.8
กิกะเบคเคอเรล (GBq) หรือ 109.4 คูรี่ (Ci) และหีบหอที่ 2 มีความแรงรังสี 34,176.7 GBq หรือ 923.7 Ci ซึ่ง
จากการประเมินของเจาหนาที่ ปส. แลว ทําใหทราบวาสารดังกลาวเปนสารกัมมันตรังสีแบบปดผนึก หมายความ
วา เปนสารกัมมันตรังสีที่ถูกหอหุมดวยวัสดุที่มีความคงทนถาวรและมีความแข็งแรง จึงทําใหไมมีโอกาสที่จะมี
การเปรอะเปอนได เจาหนาที่ของ ปส. จึงไมจําเปนที่จะตองสวมใสชุดปองกันการเปรอะเปอนทางรังสี

          จากนั้นเจาหนาที่ไดทําการเปดเครื่องสํารวจรังสีและเดินเขาไปภายในอาคาร พบวาคาการวัดระดับรังสี
เทากับระดับรังสีพื้นหลัง (Background) หรือระดับรังสีในธรรมชาติ และเมื่อถึงบริเวณหองเก็บวัสดุกัมมันตรังสี
ดังกลาว ซึ่งเปนหองที่เก็บวัตถุอันตราย เจาหนาที่บริษัท บีเอฟเอส ไดมีการปดหองโดยไมใหผูที่เกี่ยวของเขาไป
และเมื่อทําการวัดดวยเครื่องสํารวจรังสีบริเวณหนาหองขณะประตูปดอยู ระดับรังสีมีคาเทากับระดับรังสีพื้น
หลัง จากนั้นเจาหนาที่ ปส. ไดใหเจาหนาที่ของบริษัท บีเอฟเอส ทําการเปดหองและเขาทําการตรวจสอบ พบวา
หีบหอที่ 1 ที่มีการหอหุมดวยกลองกระดาษและหอหุมดวยพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง มีการฉีกขาดบริเวณกลอง
กระดาษและมีรอยบุบเล็กนอย ดังรูปที่ 1 รูปที่ 2 และรูปที่ 3 สวนหีบหอที่ 2 ถูกหอหุมดวยสเตนเลสและไมมี
รอยบุบหรือเสียหายแตอยางใด โดยหีบหอทั้งสองวางอยูในบริเวณเดียวกัน

          เจาหนาที่ไดใชเครื่องมือสํารวจรังสี วัดระดับรังสีโดยไมมีการเคลื่อนยาย ในระยะตางๆ ดังนี้

                    ที่ระยะสัมผัสหีบหอ วัดได 50 มิลลิเรนตเกินตอชั่วโมง (mR/h)
                    ที่ระยะ 1 ฟุตหางจากหีบหอ วัดได 20 mR/h
                    ที่ระยะ 1 เมตรหางจากหีบหอ วัดได 3 mR/h
จากนั้ น ทํ า การวั ด ความเปรอะเป อ นทางรั ง สี บ นพื้ น ผิ ว โดยใช วิ ธี ก ารวั ด การเปรอะเป อ นโดยอ อ ม
(Indirect Method หรือ Smear Test) ไมพบการเปรอะเปอนแตอยางใด

        ดังนั้นเจาหนาที่ ปส. จึงไดประเมินและทําการตรวจสอบระดับรังสีอยางละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยทํา
การตรวจสอบแตละหีบหอ ซึ่งเจาหนาที่ ปส. ไดทําการเคลื่อนยายหีบหอที่ 1 ที่มีความชํารุดภายนอกหีบหอ
ออกมาวัด โดยใชเครื่องสํารวจรังสี พบวา
        หีบหอที่ 1       ระดับรังสีที่ระยะสัมผัสหีบหอ วัดได 14 mR/h
                          ระดับรังสีที่ระยะ 1 ฟุตหางจากหีบหอ วัดได 2 mR/h
                          ระดับรังสีที่ระยะ 1 เมตรหางจากหีบหอ วัดได 0.6 mR/h
        จากนั้นทําการวัดระดับรังสีหีบหอที่ 2 ซึ่งไมมีการชํารุดของหีบหอภายนอก พบวา
        หีบหอที่ 2       ระดับรังสีที่ระยะสัมผัสหีบหอ วัดได 70 mR/h
                          ระดับรังสีที่ระยะ 1 ฟุตหางจากหีบหอ วัดได 18 mR/h
                          ระดับรังสีที่ระยะ 1 เมตรหางจากหีบหอ วัดได 4 mR/h
        จากการประเมินคาระดับรังสีทั้งหมดสามารถสรุปไดวา ถาคิดระดับรังสีที่ 70 mR/h ซึ่งเปนคาที่วัดได
สูงสุดของหีบหอทั้งสองที่ทําการตรวจวัด ผูปฏิบัติงานสามารถอยู ณ ระยะสัมผัสสารกัมมันตรังสี เปนเวลา
ประมาณ 1 ชั่วโมงตอสัปดาห โดยไมเปนอันตราย และถาประเมินระดับรังสีของหีบหอที่ 1 ที่มีความชํารุด
บริเวณหีบหอภายนอก ผูปฏิบัติงานสามารถอยูในระยะสัมผัสสารกัมมันตรังสี เปนเวลาประมาณ 7 ชั่วโมงตอ
สัปดาห โดยไมเปนอันตราย [คิดจากระดับรังสีสูงสุดที่กฎหมายกําหนด คือ 50 มิลลิซีเวิรตตอป (mSv/ป) หรือ
100 mR/สัปดาห]

                 เมื่อทําการเปรียบเทียบกับเอกสารที่ใชในการขนสงสารกัมมันตรังสีทั้งสองหีบหอ โดยใช
Transport Index (T.I.) ซึ่งเปนคาระดับรังสีปกติที่ตรวจวัดระดับรังสีของหีบหอที่ระยะ 1 เมตร โดยสามารถสรุป
คาทั้งหมดไดดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 แสดงรายละเอียดของหีบหอในการขนสง และการเปรียบเทียบคาระดับรังสีจากเอกสารขนสงและคา
  ระดับรังสีที่เจาหนาที่สํานักงานฯวัดไดจริง

                                                            ชนิดฉลากรังสี        คา        ระดับรังสีที่    สรุปความ
                                   ชื่อวัสดุ     ความแรง
หีบหอ         ลักษณะ                                        ที่ใชสําหรับ   Transport      วัดไดระยะ 1     ผิดปกติที่
                               กัมมันตรังสี       (GBq)
                                                              การขนสง       Index (T.I.)      เมตร           เกิดขึ้น
  1      เปนหีบหอที่มี    มีรอยบุบและมี        4,047.8    YELLOW II            0.6            0.6         ไมพบความ
         ลักษณะภายนอก       รอยฉีกขาดเพียง
                                                                                                             ผิดปกติ
         เปนกลองกระดาษ เล็กนอยภายนอก
         ถูกหอหุมดวย     หีบหอ
         พลาสติกดานนอก
  2      เปนหีบหอที่      สภาพภายนอก           34,176.9   YELLOW III            4              4          ไมพบความ
         หอหุมดวยสเตน    ปกติ
                                                                                                             ผิดปกติ
         เลส


           เวลาประมาณ 11.00 น. เจาหนาที่ ปส. ไดแจงใหเจาหนาที่ของบริษัท บีเอฟเอส และเจาหนาที่ของบริษัท
  ทาอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) วาไมพบความผิดปกติของหีบหอทั้งหมดที่บรรจุสารกัมมันตรังสี อิริเดียม-
  192 แตอยางใด จากนั้นทางบริษัท บีเอฟเอส จึงเปดพื้นที่ใหมีการใชงานบริเวณดังกลาวตามปกติ และยกเลิก
  ภาวะฉุกเฉินทางรังสีในเวลาดังกลาว
           เวลา 13.30 น. นายชัยวัฒน ตอสกุลแกว เลขาธิการสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ ไดเดินทางไปตรวจสอบ
  บริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันวาสถานการณตางๆ บริเวณอาคารคลังสินคาไดเขาสูสภาวะปกติ โดย
  ไดรับการรายงานสรุปจากเจาหนาที่ บริษัท บีเอฟเอส และเจาหนาที่ ปส. วาเหตุการณทั้งหมดไดกลับคืนสู
  สภาวะปกติและบริษัท ผูนําเขาสารกัมมันตรังสีไดมาขอรับหีบหอดังกลาวเปนที่เรียบรอยแลว โดยนายชัยวัฒน
  ใชเวลาในการตรวจสอบบริเวณอาคารคลังสินคาโดยละเอียดประมาณ 1 ชั่วโมง จนมั่นใจวาทุกอยางเขาสูสภาวะ
  ปกติจึงเดินทางกลับ
           อนึ่ง จากการตรวจสอบในระบบฐานขอมูลการนําเขาวัสดุกัมมันตรังสีอิริเดียม-192 (Ir-192) ซึ่งบรรจุใน
  Gamma Projector รุน Delta 880 ซึ่งเปนอุปกรณถายภาพดวยรังสีแกมมา ดําเนินการนําเขาโดย บริษัท เอนซิส
เทคโนโลยี จํากัด ซึ่งบริษัทดังกลาวเปนผูแทนนําเขาใหกับ บริษัทนีโอ สกิล จํากัด โดยไดรับใบอนุญาตใหนําเขา
ถูกตอง
          สําหรับสารกัมมันตรังสีอิริเดียม-192 (Ir-192) นั้น มีคาครึ่งชีวิต 73.83 วัน มีการสลายตัวใหรังสีบีตา
และรังสีแ กมมา โดยในประเทศไทยมี การนําอิริเ ดีย ม-192 มาเป น อุปกรณใ นการถา ยภาพด ว ยรังสีแ กมมา
(Gamma Radiography) เปนเทคนิคหนึ่งในการตรวจสอบโดยไมทําลาย (nondestructive testing, NDT) ซึ่งเปน
วิธีการในตรวจสอบคุณภาพ เพื่อหาขอบกพรองหรือตําหนิของวัสดุทางอุตสาหกรรม NDT เชน การตรวจหา
รอยบกพรองหรือตําหนิในในทอที่มีความหนาเทียบเทาเหล็ก 12 - 55 มิลลิเมตร เปนตน

                                 -------------------------------------------------------
รูปที่ 1 สภาพหีบหอบริเวณภายในอาคารเก็บสินคา




รูปที่ 2 ภาพหีบหอที่บรรจุวสดุกัมมันตรังสีที่มีความชํารุดเสียหายบริเวณภายนอก
                           ั
รูปที่ 3 รายละเอียดขอมูลภายนอกหีบหอทีขนสงวัสดุกัมมันตรังสี
                                                      ่




รูปที่ 4 ลักษณะภายในของเครื่อง Gamma Radiography Projector ซึ่งภายในบรรจุวัสดุกัมมันตรังสี
                                   อิริเดียม-192 (Ir-192)
แจงเหตุฉุกเฉินทางรังสี
กลุมเตรียมความพรอมประสานงานกรณีฉุกเฉินทางรังสี
       สํานักกํากับดูแลความปลอดภัยทางรังสี
        โทรศัพท 0 2596 7600 เวลาราชการ
          089 200 6243 ตลอด 24 ชั่วโมง
              โทรสาร 0 2562 0086
           อีเมล rad_emer@oaep.go.th

Mais conteúdo relacionado

Mais de ห้องสมุดพลังงานปรมาณู สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

Mais de ห้องสมุดพลังงานปรมาณู สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (20)

40 ปี นิวเคลียร์กับสังคมไทย
40 ปี นิวเคลียร์กับสังคมไทย40 ปี นิวเคลียร์กับสังคมไทย
40 ปี นิวเคลียร์กับสังคมไทย
 
อัญมณีฉายรังสี
อัญมณีฉายรังสีอัญมณีฉายรังสี
อัญมณีฉายรังสี
 
ทำอย่างไรเมื่อได้รับรังสีสูง
ทำอย่างไรเมื่อได้รับรังสีสูงทำอย่างไรเมื่อได้รับรังสีสูง
ทำอย่างไรเมื่อได้รับรังสีสูง
 
เครื่องวัดทางรังสี
เครื่องวัดทางรังสีเครื่องวัดทางรังสี
เครื่องวัดทางรังสี
 
การถ่ายภาพด้วยรังสี
การถ่ายภาพด้วยรังสีการถ่ายภาพด้วยรังสี
การถ่ายภาพด้วยรังสี
 
ข้อแนะนำในการจัดการกากกัมมันตรังสี
ข้อแนะนำในการจัดการกากกัมมันตรังสีข้อแนะนำในการจัดการกากกัมมันตรังสี
ข้อแนะนำในการจัดการกากกัมมันตรังสี
 
ศูนย์วิจัยและพัฒนาธาตุหายาก
ศูนย์วิจัยและพัฒนาธาตุหายากศูนย์วิจัยและพัฒนาธาตุหายาก
ศูนย์วิจัยและพัฒนาธาตุหายาก
 
ศูนย์ฉายรังสีอาหาร
ศูนย์ฉายรังสีอาหารศูนย์ฉายรังสีอาหาร
ศูนย์ฉายรังสีอาหาร
 
สรุปผลการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2552
สรุปผลการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2552สรุปผลการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2552
สรุปผลการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2552
 
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 6
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 6ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 6
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 6
 
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 5
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 5ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 5
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 5
 
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 4
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 4ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 4
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 4
 
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 3
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 3ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 3
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 3
 
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 2
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 2ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 2
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 2
 
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 1
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 1ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 1
ข่าว พปส. ปีที่ 2 ฉบับที่ 1
 
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 16 ฉบับที่ 3-4
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 16 ฉบับที่ 3-4นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 16 ฉบับที่ 3-4
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 16 ฉบับที่ 3-4
 
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 2
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 2นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 2
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 2
 
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 1
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 1นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 1
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 1
 
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 14 ฉบับที่ 3-4
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 14 ฉบับที่ 3-4นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 14 ฉบับที่ 3-4
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 14 ฉบับที่ 3-4
 
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 3 4
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 3 4นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 3 4
นิวเคลียร์ปริทัศน์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 3 4
 

สรุปเหตุฉุกเฉินทางรังสีสุวรรณภูมิ

  • 1. รายงานสรุป การเกิดเหตุฉุกเฉินทางรังสีบริเวณอาคารคลังสินคาทาอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 25 ธันวาคม 2552 โดย สํานักงานปรมาณูเพือสันติ (ปส.) ่ กระทรวงวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (วท.)
  • 2. คํานํา ดวยวันที่ 25 ธันวาคม 2552 ไดเกิดเหตุฉุกเฉินทางรังสี บริเวณอาคารคลังสินคา บริษัท บางกอก ไฟลท เซอรวิส (บีเอฟเอส คารโก) ทาอากาศยานสุวรรณภูมิ สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร และเทคโนโลยี (วท.) ซึ่ ง เป น หน ว ยงานหลั ก ของประเทศในการกํ า กั บ ดู แ ลความปลอดภั ย การใช ส าร กัมมันตรังสีและพลังงานนิวเคลียร และดําเนินการกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสาธารณภัยทางรังสีในภายประเทศ จึงได จัดสงเจาหนาที่เขาทําการตรวจสอบบริเวณดังกลาว เพื่อระงับและบรรเทาภัยรวมถึงลดความหวาดวิตกของ ประชาชนและผูปฏิบัติงานบริเวณนั้น ซึ่งจากผลการตรวจสอบไมพบสิ่งผิดปกติใดๆ โดยการปฏิบัติงานในครั้ง นี้สําเร็จลุลวงไปดวยดี เนื่องจากไดรับการติดตอประสานงานอยางทันทีและมีประสิทธิภาพของหนวยงานที่เกิด เหตุ หนวยงานภาครัฐที่เกี่ยวของ ทําใหเหตุการณในครั้งนี้ไมมีผูไดรับอันตราย และสามารถสรางความเชื่อมั่น ให แ ก ป ระชาชนในระยะเวลารวดเร็ ว เนื่ อ งจากท า อากาศยานสุ ว รรณภู มิ เป น ท า อากาศยานขนาดใหญ มีผูโดยสาร และเจาหนาที่ตางๆ เปนจํานวนมาก หากไมสามารถสรางความเชื่อมั่นใหแกประชาชนอาจทําใหเกิด ความหวาดวิตก และสงผลกระทบตอประเทศก็เปนได สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ ขอขอบพระคุณหนวยงานตางๆ ที่ประสานงานในการดําเนินการระงับและ บรรเทาภัย จนเหตุการณตางๆ กลับคืนสูสภาวะปกติ มา ณ โอกาสนี้ สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ 28 ธันวาคม 2552
  • 3. รายงานสรุปเหตุฉุกเฉินทางรังสีบริเวณอาคารคลังสินคาทาอากาศยานสุวรรณภูมิ ดวยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2552 เวลาประมาณ 8.45 น. นายภาคภูมิ อรามรุญ นักฟสิกสรังสี กลุมเตรียม ความพรอมประสานงานกรณีฉุกเฉินทางรังสี สํานักกํากับดูแลความปลอดภัยทางรังสี สํานักงานปรมาณูเพื่อ สันติ (ปส.) ไดรับแจงทางหมายเลขฉุกเฉินทางรังสี (08 9200 6243) จากเจาหนาที่ของบริษัท บางกอก ไฟลท เซอรวิส (บีเอฟเอส คารโก) วาไดเกิดรังสีรั่วไหลของพัสดุหีบหอที่มีการขนสงมาทางเครื่องบิน ซึ่งไดมีการเก็บ ไวที่หองเก็บสินคาวัตถุอันตราย อาคารคลังสินคาบริษัท บีเอฟเอส บริเวณจุดฟรีโซน ทาอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยไมทราบวาเปนสารกัมมันตรังสีชนิดใด และเมื่อเจาหนาที่บริษัทฯใชเครื่องสํารวจรังสีที่ทางบริษัทมีอยูนั้น สามารถวัดระดับรังสีได 50 มิลลิซีเวิรตตอชั่วโมง ในเบื้องตนนายภาคภูมิ ซึ่งเปนผูรับแจงเหตุดังกลาว ไดให คําแนะนําในการดําเนินการ โดยใหเจาหนาที่ของบริษัทฯ ทําการปดหองดังกลาว พรอมทั้งปดระบบระบาย อากาศ และใชเครื่องมือที่มีอยูทําการตรวจวัดผูที่เขาไปทําการขนยายหีบหอและใหทําการจํากัดเขตเจาหนาที่ที่ เกี่ยวของเพื่อปองกันการเปรอะเปอนของสารกัมมันตรังสี เพราะยังไมทราบวาเปนสารกัมมันตรังสีที่สามารถมี การรั่วไหลหรือมีการแพรกระจายไดหรือไม เมื่อเวลา 8.50 น. นายภาคภูมิ ไดรับการประสานงานเพิ่มเติมจากเจาหนาที่ของกรมควบคุมมลพิษ วาเมื่อ เวลาประมาณ 7.23 น. กรมควบคุมมลพิษไดรับแจงจากเจาหนาที่บริษัท บีเอฟเอส วาไดเกิดเหตุรั่วไหลของสาร กัมมันตรังสีที่อาคารคลังสินคาของบริษัทฯ บริเวณจุดฟรีโซน ทาอากาศยานสุวรรณภูมิ และหลังจากนั้นไม นานเจาหนาที่ของบริษัทฯ ไดโทรศัพทแจงขอมูลเพิ่มเติมวา หีบหอดังกลาวไดมีการขนสงสารกัมมันตรังสี ชนิด อิริเดียม-192 (Ir-192) ซึ่งเปนสารกัมมันตรังสีแบบปดผนึก เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. นายกิตติศักดิ์ ชินอุดมทรัพย ผูอํานวยการสํานักกํากับดูแลความปลอดภัยทาง รังสี ไดจัดสงเจาหนาที่ของสํานักงานกํากับดูแลความปลอดภัยทางรังสีจํานวน 4 นาย คือ กลุมเตรียมความพรอมประสานงานกรณีฉุกเฉินทางรังสี (กตฉ.) 1. นายภาคภูมิ อรามรุญ นักฟสิกสรังสี ปฏิบัติการ กลุมกํากับดูแลความปลอดภัยการใชรังสีทางการอุตสาหกรรม (กปอ.) 1. นายรชต สุทธศิริ นักฟสิกสรังสี ชํานาญการ 2. นางสาวนัทฐิยา วงศศราพันธชัย เจาหนาที่วิทยาศาสตร 3. นายคมศักดิ์ หนุนเพชร นักวิทยาศาสตรนิวเคลียร
  • 4. ทั้งนี้ไดนําเครื่องมือที่ใชสํารวจระดับรังสี (Survey Meter) ชุดตรวจสอบการรั่วไหลและการเปรอะ เปอนของสารกัมมันตรังสี และชุดปองกันการเปรอะเปอนทางรังสี ไปใชในการปฏิบัติงานประเมินสถานการณ และระงับเหตุเบื้องตน ณ สถานที่เกิดเหตุดังกลาว เวลา 9.45 น. โดยประมาณ เจาหนาที่ ปส.ไดเดินทางไปถึงในที่เกิดเหตุ พบเจาหนาที่ของบริษัท บีเอฟ เอส ทําการปดการเขาออกบริเวณทางเขาออกดานนอกอาคารคลังสินคา พรอมดวยรถดับเพลิงจํานวนหนึ่งและ อุปกรณชําระลางการเปรอะเปอนเคลื่อนที่บริเวณทางเขาออกของอาคาร โดยมีเจาหนาที่จากบริษัท การทาอากาศ ยานไทย จํากัด (มหาชน) ไดรวมปฏิบัติการในพื้นที่ดวย จากนั้นเจาหนาที่ไดมีการมอบเอกสารการขนสงพบวา วั ส ดุ กั ม มั น ตรั ง สี ดั ง กล า ว คื อ อิ ริ เ ดี ย ม – 192 มี จํ า นวน 2 หี บ ห อ โดยหี บ ห อ ที่ 1 มี ค วามแรงรั ง สี 4,047.8 กิกะเบคเคอเรล (GBq) หรือ 109.4 คูรี่ (Ci) และหีบหอที่ 2 มีความแรงรังสี 34,176.7 GBq หรือ 923.7 Ci ซึ่ง จากการประเมินของเจาหนาที่ ปส. แลว ทําใหทราบวาสารดังกลาวเปนสารกัมมันตรังสีแบบปดผนึก หมายความ วา เปนสารกัมมันตรังสีที่ถูกหอหุมดวยวัสดุที่มีความคงทนถาวรและมีความแข็งแรง จึงทําใหไมมีโอกาสที่จะมี การเปรอะเปอนได เจาหนาที่ของ ปส. จึงไมจําเปนที่จะตองสวมใสชุดปองกันการเปรอะเปอนทางรังสี จากนั้นเจาหนาที่ไดทําการเปดเครื่องสํารวจรังสีและเดินเขาไปภายในอาคาร พบวาคาการวัดระดับรังสี เทากับระดับรังสีพื้นหลัง (Background) หรือระดับรังสีในธรรมชาติ และเมื่อถึงบริเวณหองเก็บวัสดุกัมมันตรังสี ดังกลาว ซึ่งเปนหองที่เก็บวัตถุอันตราย เจาหนาที่บริษัท บีเอฟเอส ไดมีการปดหองโดยไมใหผูที่เกี่ยวของเขาไป และเมื่อทําการวัดดวยเครื่องสํารวจรังสีบริเวณหนาหองขณะประตูปดอยู ระดับรังสีมีคาเทากับระดับรังสีพื้น หลัง จากนั้นเจาหนาที่ ปส. ไดใหเจาหนาที่ของบริษัท บีเอฟเอส ทําการเปดหองและเขาทําการตรวจสอบ พบวา หีบหอที่ 1 ที่มีการหอหุมดวยกลองกระดาษและหอหุมดวยพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง มีการฉีกขาดบริเวณกลอง กระดาษและมีรอยบุบเล็กนอย ดังรูปที่ 1 รูปที่ 2 และรูปที่ 3 สวนหีบหอที่ 2 ถูกหอหุมดวยสเตนเลสและไมมี รอยบุบหรือเสียหายแตอยางใด โดยหีบหอทั้งสองวางอยูในบริเวณเดียวกัน เจาหนาที่ไดใชเครื่องมือสํารวจรังสี วัดระดับรังสีโดยไมมีการเคลื่อนยาย ในระยะตางๆ ดังนี้ ที่ระยะสัมผัสหีบหอ วัดได 50 มิลลิเรนตเกินตอชั่วโมง (mR/h) ที่ระยะ 1 ฟุตหางจากหีบหอ วัดได 20 mR/h ที่ระยะ 1 เมตรหางจากหีบหอ วัดได 3 mR/h
  • 5. จากนั้ น ทํ า การวั ด ความเปรอะเป อ นทางรั ง สี บ นพื้ น ผิ ว โดยใช วิ ธี ก ารวั ด การเปรอะเป อ นโดยอ อ ม (Indirect Method หรือ Smear Test) ไมพบการเปรอะเปอนแตอยางใด ดังนั้นเจาหนาที่ ปส. จึงไดประเมินและทําการตรวจสอบระดับรังสีอยางละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยทํา การตรวจสอบแตละหีบหอ ซึ่งเจาหนาที่ ปส. ไดทําการเคลื่อนยายหีบหอที่ 1 ที่มีความชํารุดภายนอกหีบหอ ออกมาวัด โดยใชเครื่องสํารวจรังสี พบวา หีบหอที่ 1 ระดับรังสีที่ระยะสัมผัสหีบหอ วัดได 14 mR/h ระดับรังสีที่ระยะ 1 ฟุตหางจากหีบหอ วัดได 2 mR/h ระดับรังสีที่ระยะ 1 เมตรหางจากหีบหอ วัดได 0.6 mR/h จากนั้นทําการวัดระดับรังสีหีบหอที่ 2 ซึ่งไมมีการชํารุดของหีบหอภายนอก พบวา หีบหอที่ 2 ระดับรังสีที่ระยะสัมผัสหีบหอ วัดได 70 mR/h ระดับรังสีที่ระยะ 1 ฟุตหางจากหีบหอ วัดได 18 mR/h ระดับรังสีที่ระยะ 1 เมตรหางจากหีบหอ วัดได 4 mR/h จากการประเมินคาระดับรังสีทั้งหมดสามารถสรุปไดวา ถาคิดระดับรังสีที่ 70 mR/h ซึ่งเปนคาที่วัดได สูงสุดของหีบหอทั้งสองที่ทําการตรวจวัด ผูปฏิบัติงานสามารถอยู ณ ระยะสัมผัสสารกัมมันตรังสี เปนเวลา ประมาณ 1 ชั่วโมงตอสัปดาห โดยไมเปนอันตราย และถาประเมินระดับรังสีของหีบหอที่ 1 ที่มีความชํารุด บริเวณหีบหอภายนอก ผูปฏิบัติงานสามารถอยูในระยะสัมผัสสารกัมมันตรังสี เปนเวลาประมาณ 7 ชั่วโมงตอ สัปดาห โดยไมเปนอันตราย [คิดจากระดับรังสีสูงสุดที่กฎหมายกําหนด คือ 50 มิลลิซีเวิรตตอป (mSv/ป) หรือ 100 mR/สัปดาห] เมื่อทําการเปรียบเทียบกับเอกสารที่ใชในการขนสงสารกัมมันตรังสีทั้งสองหีบหอ โดยใช Transport Index (T.I.) ซึ่งเปนคาระดับรังสีปกติที่ตรวจวัดระดับรังสีของหีบหอที่ระยะ 1 เมตร โดยสามารถสรุป คาทั้งหมดไดดังตารางที่ 1
  • 6. ตารางที่ 1 แสดงรายละเอียดของหีบหอในการขนสง และการเปรียบเทียบคาระดับรังสีจากเอกสารขนสงและคา ระดับรังสีที่เจาหนาที่สํานักงานฯวัดไดจริง ชนิดฉลากรังสี คา ระดับรังสีที่ สรุปความ ชื่อวัสดุ ความแรง หีบหอ ลักษณะ ที่ใชสําหรับ Transport วัดไดระยะ 1 ผิดปกติที่ กัมมันตรังสี (GBq) การขนสง Index (T.I.) เมตร เกิดขึ้น 1 เปนหีบหอที่มี มีรอยบุบและมี 4,047.8 YELLOW II 0.6 0.6 ไมพบความ ลักษณะภายนอก รอยฉีกขาดเพียง ผิดปกติ เปนกลองกระดาษ เล็กนอยภายนอก ถูกหอหุมดวย หีบหอ พลาสติกดานนอก 2 เปนหีบหอที่ สภาพภายนอก 34,176.9 YELLOW III 4 4 ไมพบความ หอหุมดวยสเตน ปกติ ผิดปกติ เลส เวลาประมาณ 11.00 น. เจาหนาที่ ปส. ไดแจงใหเจาหนาที่ของบริษัท บีเอฟเอส และเจาหนาที่ของบริษัท ทาอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) วาไมพบความผิดปกติของหีบหอทั้งหมดที่บรรจุสารกัมมันตรังสี อิริเดียม- 192 แตอยางใด จากนั้นทางบริษัท บีเอฟเอส จึงเปดพื้นที่ใหมีการใชงานบริเวณดังกลาวตามปกติ และยกเลิก ภาวะฉุกเฉินทางรังสีในเวลาดังกลาว เวลา 13.30 น. นายชัยวัฒน ตอสกุลแกว เลขาธิการสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ ไดเดินทางไปตรวจสอบ บริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันวาสถานการณตางๆ บริเวณอาคารคลังสินคาไดเขาสูสภาวะปกติ โดย ไดรับการรายงานสรุปจากเจาหนาที่ บริษัท บีเอฟเอส และเจาหนาที่ ปส. วาเหตุการณทั้งหมดไดกลับคืนสู สภาวะปกติและบริษัท ผูนําเขาสารกัมมันตรังสีไดมาขอรับหีบหอดังกลาวเปนที่เรียบรอยแลว โดยนายชัยวัฒน ใชเวลาในการตรวจสอบบริเวณอาคารคลังสินคาโดยละเอียดประมาณ 1 ชั่วโมง จนมั่นใจวาทุกอยางเขาสูสภาวะ ปกติจึงเดินทางกลับ อนึ่ง จากการตรวจสอบในระบบฐานขอมูลการนําเขาวัสดุกัมมันตรังสีอิริเดียม-192 (Ir-192) ซึ่งบรรจุใน Gamma Projector รุน Delta 880 ซึ่งเปนอุปกรณถายภาพดวยรังสีแกมมา ดําเนินการนําเขาโดย บริษัท เอนซิส
  • 7. เทคโนโลยี จํากัด ซึ่งบริษัทดังกลาวเปนผูแทนนําเขาใหกับ บริษัทนีโอ สกิล จํากัด โดยไดรับใบอนุญาตใหนําเขา ถูกตอง สําหรับสารกัมมันตรังสีอิริเดียม-192 (Ir-192) นั้น มีคาครึ่งชีวิต 73.83 วัน มีการสลายตัวใหรังสีบีตา และรังสีแ กมมา โดยในประเทศไทยมี การนําอิริเ ดีย ม-192 มาเป น อุปกรณใ นการถา ยภาพด ว ยรังสีแ กมมา (Gamma Radiography) เปนเทคนิคหนึ่งในการตรวจสอบโดยไมทําลาย (nondestructive testing, NDT) ซึ่งเปน วิธีการในตรวจสอบคุณภาพ เพื่อหาขอบกพรองหรือตําหนิของวัสดุทางอุตสาหกรรม NDT เชน การตรวจหา รอยบกพรองหรือตําหนิในในทอที่มีความหนาเทียบเทาเหล็ก 12 - 55 มิลลิเมตร เปนตน -------------------------------------------------------
  • 8. รูปที่ 1 สภาพหีบหอบริเวณภายในอาคารเก็บสินคา รูปที่ 2 ภาพหีบหอที่บรรจุวสดุกัมมันตรังสีที่มีความชํารุดเสียหายบริเวณภายนอก ั
  • 9. รูปที่ 3 รายละเอียดขอมูลภายนอกหีบหอทีขนสงวัสดุกัมมันตรังสี ่ รูปที่ 4 ลักษณะภายในของเครื่อง Gamma Radiography Projector ซึ่งภายในบรรจุวัสดุกัมมันตรังสี อิริเดียม-192 (Ir-192)
  • 10. แจงเหตุฉุกเฉินทางรังสี กลุมเตรียมความพรอมประสานงานกรณีฉุกเฉินทางรังสี สํานักกํากับดูแลความปลอดภัยทางรังสี โทรศัพท 0 2596 7600 เวลาราชการ 089 200 6243 ตลอด 24 ชั่วโมง โทรสาร 0 2562 0086 อีเมล rad_emer@oaep.go.th