Mais conteúdo relacionado
Semelhante a การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย (20)
การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย
- 5. แบบทดสอบวัดความถนัด
คือ มุ่งวัดสมรรถภาพสูงสุดทางสมองของมนุษย์ เพื่อหา
ถนัด แบบทดสอบชนิดนี้ใช้เพื่อพยากรณ์ หรือทานายในอนาคตของ
ผู้เรียน โดยอาศัยข้อเท็จจริงในสภาพปัจจุบันเป็นรากฐาน โดย
แบบทดสอบนี้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
แบบทดสอบวัดความถนัดทางการเรียน เช่น ภาษา การ
คานวณ เป็นต้น
แบบทดสอบวัดความถนัดพิเศษ หรือความถนัดเฉพาะอย่าง
เช่น ดนตรี ศิลปะ
จาแนกตามพฤติกรรมที่ต้องการวัด
- 9. 5 แบบทดสอบเพื่อวัดเชาว์ปัญญา
คือ แบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถทั่วๆ ไป เช่น วัดความสามารถในการ
คิด การเรียนรู้และประสบการณ์มาใช้กับสถานการณ์ เช่น การแก้ปัญหา
คณิตศาสตร์
6 แบบทดสอบเพื่อวัดบุคลิกภาพ
เป็ นแบบทดสอบที่ใช้วัดบุคลิกภาพ หรือการปรับตนเองของบุคคลในสังคม
7 แบบทดสอบเพื่อวัดความสนใจในอาชีพ
ใช้วัดความสนใจในอาชีพ รวมถึงความสนใจที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน
ของคน
จาแนกตามลักษณะของการใช้ประโยชน์
- 14. • แบบทดสอบปากเปล่า อาศัยการถาม - ตอบ
• แบบทดสอบให้เขียน เช่น แบบจากัดคาตอบ และไม่จากัด
คาตอบ
• แบบทดสอบให้ปฏิบัติ เช่น การประดิษฐ์ งานบ้าน เป็ นต้น
จาแนกตามรูปแบบการตอบ
- 15. แบบทดสอบปรนัย เป็ นแบบทดสอบที่มีกฎเกณฑ์ตายตัว มีการกาหนด
คาตอบมาล่วงหน้า ใครตรวจก็มีผลคะแนนเท่ากัน โดยวัดความสามารถ
เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเรื่องเดียวกัน
แบบทดสอบอัตนัย การตรวจให้คะแนนขึ้นอยู่กับความรู้สึก ความคิดเห็น
ของผู้ตรวจเป็ นสาคัญ เหมาะสาหรับวัดความสามารถทางสมองขั้นสูง
จาแนกตามลักษณะของการตรวจให้คะแนน
- 19. ข้อดี
เหมาะสาหรับใช้วัดความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหา
สร้างง่าย
ถ้าผู้สร้างระมัดระวังในการสร้างและตรวจสอบดีแล้ว ข้อสอบนั้นจะมี
ความเที่ยงสูง และตรงเชิงเนื้อหา
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบถูกผิด
- 21. • เป็นข้อสอบเลือกตอบประเภทหนึ่ง ประกอบด้วยสอง คอลัมภ์ ทาง
ซ้ายมือมักเป็นกลุ่มคา โดยมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับทางขวามือ
• เหมาะสาหรับวัดพฤติกรรมขั้น ความรู้ความจา เกี่ยวกับข้อเท็จจริง
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกัน
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบจับคู่
- 23. ข้อเสนอแนะ
เนื้อหาที่นามาสร้างควรเป็ นเอกพันธ์คือเป้ นเรื่องราวเดียวกันหมด
คาถามกับคาตอบควรเกี่ยวข้องกัน
คาถามกับคาตอบควรมีจานวนไม่เท่ากัน
ใช้ข้อความที่สั้นกะทัดรัด
ในแต่ละตอนควรมีคาถามอย่างน้อย 6 ข้อ และไม่เกิน 12 ข้อ
คอลัมภ์คาถามและคาตอบควรอยู่ในหน้าเดียวกัน
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบจับคู่
- 26. เป็ นข้อสอบที่มีคาตอบตายตัว ผู้สอบต้องคาและนาคาตอบสั้นๆ
มาตอบ เช่น และ หรือ และคาศัพท์ต่างๆ เป็ นต้น
เหมาะสาหรับการวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยขั้นความรู้ ความจา
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเติมคา หรือเติมคาตอบสั้น
- 28. ข้อเสนอแนะ
ควรใช้คาถามที่มุ่งให้คาตอบที่ตอบด้วยวลี กลุ่มคา เป็ นคาตอบสั้นๆ
ตายตัว
ลีกเลี่ยงการใช้กลุ่มคาจากตารา
ข้อคาถามควรวัดเฉพาะเนื้อหาที่สาคัญและวัดเพียงประเด็นเดียว
คาถามที่ถามต้องชัดเจน
ควรเว้นช่องว่างให้ตอบอย่างเพียงพอ
หลีกเลี่ยงคาถามที่ชี้แนะคาตอบ
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเติมคา หรือเติมคาตอบสั้น
- 31. โดยมีการกาหนดให้มีส่วนสาคัญสองส่วนคือ ตัวคาถาม และส่วนที่
เป็ นคาตอบหรือตัวเลือก โดยคาตอบจะเพียงตาเลือกเดียว ส่วนที่
เหลือจะเป็ นตัวเลือกที่ผิด หรือตัวลวง ซึ่งมีมากกว่าหนึ่งคาตอบ
สามารถวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยในระดับต่างๆ ตั้งแต่ง่ายจนถึงขั้น
ซับซ้อน
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
- 34. แบบให้เลือกคาตอบที่ดีที่สุด
ตัวอย่างเช่น ข้อใดคือสิ่งที่สาคัญที่สุดในการดารงชีวิตของมนุษย์
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
ตัวอย่างการสร้างแบบทดสอบปรนัยแบบเลือกตอบ แบบให้เลือกคาตอบที่ดีที่สด
คาชี้แจง จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สด
1. ข้อใดเป็นคณภาพที่สาคัญที่สดของเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล
(ก.) ความตรง ข. ความเที่ยง
ค. ความยากง่าย ง. อานาจจาแนก
จ. ความเป็นปรนัย
- 40. ข้อเสนอแนะในการสร้างข้อสอบแบบเลือกตอบ กรณีการเขียนข้อความ
รูปแบบคาถามต้องเป็ นประโยคที่สมบูรณ์ มีใจความในตัวประโยค
ใช้คาที่มีความหมายชัดเจน
ไม่ควรใช้ประโยคปฏิเสธในตัวคาถาม หรือไม่ก็ควรเน้นให้ชัดเจน
ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับระดับผู้ตอบ
ไม่ใช้คาถามที่แนะนาคาตอบ
กรณีที่คาถามมีคาตอบที่ถูกหลายคาตอบ ให้ผู้ตอบเลือกคาตอบที่ถูกที่สุด
อย่าให้ข้อสอบข้อหนึ่งชี้แนะคาตอบในข้ออื่นๆ
ไม่ลอกประโยคจากตารามาเขียนเป็ นข้อสอบแต่ควรเรียงใหม่
รูปแบบคาถามของข้อสอบแบบเลือกตอบ
คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์
- 41. ข้อเสนอแนะในการสร้างข้อสอบแบบเลือกตอบ กรณีการเขียนตัวเลือก
ควรมีคาตอบถูกเพียงคาตอบเดียว และผู้เชี่ยวชาญในวิชานั้นเห็นชอบเป็นเอกฉันท์
ตัวเลือกทุกตัวต้องมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคาตอบถูกต้องสมเหตุสมผล
ข้อความในตัวเลือกทุกตัว ควรมีอิสระจากกัน
ตัวเลือกใช้คาซ้ากันควรนามาไว้ในคาถาม
ใช้ตัวเลือกปลายเปิดให้เหมาะสม เช่น ถูกทุกข้อ เพราะจะทาให้ง่ายต่อการค้นหา
จริง
ตาแหน่งของตัวถูกควรมีจานวนเท่าๆ กัน และไม่ควรจัดเรียงเป็นระบบ
พยายามเขียนตัวเลือกให้ยาวพอๆกัน
รูปแบบคาถามของข้อสอบแบบเลือกตอบ
คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์
- 43. ข้อจากัดของข้อสอบแบบเลือกตอบ
เปิ ดโอกาสให้ผู้สอบเดาคาตอบได้
ข้อสอบออกยากและเสียเวลาในการออกข้อสอบมาก
ผู้ออกข้อสอบควรมีความรู้ความสามารถในการออกข้อสอบ
ผู้ออกข้อสอบต้องมีความรู้ในเนื้อหานั้นๆ
ไม่เหมาะสาหรับการวัดความคิดสร้างสรรค์ หรือการวักการปฏิบัติต่างๆ
สิ้นเปลืองงบประมาณมากกว่าข้อสอบชนิดอื่นๆ
รูปแบบคาถามของข้อสอบแบบเลือกตอบ
คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์