Mais conteúdo relacionado
Semelhante a ความหลากหลายทางชีวภาพ (20)
Mais de Supaluk Juntap (11)
ความหลากหลายทางชีวภาพ
- 2. ความหลากหลายทาง
ชีวภาพ
ความหลาก
หลาย
ทางชีวภาพ
การจัดหมวด
หมู่
ของสิ่งมีชีวิต
ความหลาก
หลาย
ของพืชและ
สัตว์
ความหลาก
หลายทาง
ชีวภาพกับการ
ดำารงชีวิต
เทคโนโลยี
ชีวภาพ
- 4. ความหมายของความ
หลากหลายทางชีวภาพ
• ความหลากหลายของสิ่งมชีีวิตชนิดต่างๆ ที่ดำารงชีวิตอยใู่น
แหล่งที่อยู่อาศัยเดียวกันหรือแตกต่างกัน
• สิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันจะมีความแตกต่างกันในด้านชนิดและ
จำานวน หรือทางสายพันธุกรรม
- 13. การจำาแนก
สิ่งมีชีวิต
การจำาแนกสิ่งมีชีวิตตามลักษณะทาง
ธรรมชาติ
อาศัยลักษณะทางธรรมชาติ ลักษณะภายนอกหรือลักษณะ
ต่างๆ ทสีั่งเกตเหน็ได้
เช่น ลักษณะทางกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา การเจริญ
เติบโตของตัวอ่อน เป็นต้น
ปลา ซาลามานเดอร์ กระต่าย มนุษย์
การจำาแนกสิ่งมีชีวิตโดยอาศัยลักษณะทาง
พันธุกรรม
อาศัยลักษณะทางพันธุกรรมและการถ่ายทอดลักษณะทาง
- 14. ลักษณะที่ใช้ในการจัด
จำาแนกสิ่งมีชีวิต
• ลักษณะภายนอกและโครงสร้างภายในของ
ร่างกาย: ใช้แบ่งสิ่งมชีีวิตออกเป็นกลุ่มใหญๆ่
• แบบแผนของการเจริญเติบโต: ใช้หลักง่ายๆ คือ สิ่งมี
ชีวิตใดที่มลีักษณะของตัวอ่อนคล้ายคลึงกันมาก ย่อมมี
วิวัฒนาการใกล้กันมากด้วย
• ซากดึกดำาบรรพ์: สิ่งมีชีวิตใดที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด
กัน ย่อมมซีากดึกดำาบรรพ์คล้ายคลึงกัน และอาจทำาให้
ทราบถงึบรรพบุรุษของสิ่งมชีีวิตนั้นๆ ด้วย
- 15. • โครงสร้างของเซลล์และออร์แกเนลล์: เป็นการศึกษา
ในระดับเซลล์และส่วนประกอบของเซลล์
• สรีรวิทยาและการสังเคราะห์สารเคมี: สิ่งมีชีวิตแต่ละ
ชนิดจะมโีครงสร้างทางสรีรวิทยาต่างกัน ดังนนั้การ
สังเคราะหส์ารต่างๆ ในร่างกายย่อมต่างกันด้วย
• ลักษณะทางพันธุกรรม: เป็นวิธีที่มีกระบวนการซับซ้อน
และยุ่งยาก
- 16. เกณฑ์ในกำรจัด
จำำแนกสิ่งมีชีวิต
• ไดโคโตมสัคีย์ เป็นเครื่องมอืที่ใช้จัดจำำแนกสิ่งมชีีวิตออก
เป็นกลุ่มย่อย โดยพิจำรณำโครงสร้ำงที่แตกต่ำงกนัเป็นคู่ๆ
ทลีะลักษณะ ซงึ่ทำำใหก้ำรพิจำรณำง่ำยขึ้น
• สิ่งมีชีวิตแต่ละกลุ่มจะมีไดโคโตมัสคีย์ที่ใช้แยกกลุ่มย่อย
ของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ
1.ก. มี
ขน..................................................................................
.......................................ดูข้อ 2.
ข. ไม่มี
ขน..................................................................................
................................ดูข้อ 3.
2.ก. ขนเป็น
เส้น.............................................................................สั
ตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ข. ขนเป็นแผงแบบขน
1. ก. มี
ขน..................................................................................
.......................................ดูข้อ 2.
ข. ไม่มี
ขน..................................................................................
................................ดูข้อ 3.
2. ก. ขนเป็น
เส้น.............................................................................สั
ตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ข. ขนเป็นแผงแบบขน
- 17. คำโรลัส ลินเนียส นักธรรมชำติวิทยำชำวสวีเดน ได้
ริเริ่มกำรจัดจำำแนกสิ่งมชีีวิต โดยกำรคัดเลือกประเภททมีี่
ควำมใกล้เคียงกันไว้ด้วยกัน ซึ่งจะเริ่มจำกขอบเขตทกี่ว้ำง
แล้วค่อยๆ แคบลง
อำณำจักร (Kingdom)
ไฟลัม (Phylum) หรือดิวิชัน
(Division)
คลำส (Class)
ออร์เดอร์ (Order)
แฟมิลี (Family)
จีนัส (Genus)
สปีชีส์
(Species)
ลำำดับในกำรจัด
จำำแนกสิ่งมีชีวิต
- 18. ชอื่สำมัญ
ชื่อของ
สิ่งมีชีวิต
•ชื่อทเี่รียกกันทวั่ไป ตำมลักษณะหรือรูปร่ำงของสิ่งมชีีวิต
ชนิดนนั้ ตัวอย่ำงเช่น ดำวทะเล ว่ำนหำงจระเข้ ทำกบก
เป็นต้น
ชื่อวิทยำศำสตร์
•ชื่อที่กำำหนดขึ้นตำมหลักสำกลและเป็นที่ยอมรับกันในกลุ่ม
นักวิทยำศำสตร์ ซึ่ง
คำโรลัส ลินเนียส เป็นผู้ริเริ่มกำรใช้ชื่อวิทยำศำสตร์ โดย
กำำหนดให้สิ่งมีชวีิตทกุชนิดประกอบด้วยชื่อ 2 ชื่อ โดยชื่อ
หน้ำ คือ ชื่อสกุล และชื่อหลัง คือ คำำระบุชนิด
•กำรเรียกชื่อดังกล่ำวเรียกว่ำ กำรตั้งชื่อแบบทวินำม
- 20. โลมำปำกขวด ชื่อ
วิทยำศำสตร์:
Tursiops truncatus
(Montagu, 1821)
ไก่ฟ้ำพญำลอ ชื่อ
วิทยำศำสตร์:
Lophura diardi
(Bonaparte, 1856)
ลิงแสม ชื่อวิทยำศำสตร์:
Macaca fascicularis
(Raffles, 1821)
- 21. แนวคิดกำรจัด
จำำแนกสิ่งมีชีวิต
อำริสโตเติล
จัดจำำแนกสงิ่มชีีวิต ออกเป็น
2 กลุ่มใหญ่
1. กลุ่มพืช ใช้อำยุและ
ควำมสูงเป็นเกณฑ์ แบ่งออก
เป็น 3 กลุ่ม คือ ไมยื้นต้น
ไมพ้มุ่ และไมล้้มลุก
2. กลุ่มสัตว์ ใช้สีของ
เลือดเป็นเกณฑ์ แบ่งออกเป็น
2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มเีลือดสีแดง
และกลุ่มทไี่มม่เีลือดสีแดง
- 22. เอิร์นสต์ แฮคเกล
จัดจำำแนกสิ่งมชีีวิต เป็น 3
อำณำจักร
1. อำณำจักรพืช คือ
พวกที่สำมำรถสร้ำงอำหำรเอง
ได้ และเคลื่อนทดี่้วยตัวเองไม่
ได้
2. อำณำจักรสัตว์ คือ
พวกที่ไม่สำมำรถสร้ำงอำหำร
เองได้ และเคลื่อนที่ด้วยตัวเอง
ได้
3. อำณำจักรโพรทิสตำ
คือ พวกทกี่ำ้ำกึ่งระหว่ำงพืชและ
- 23. เฮอร์เบิร์ต โคปแลนด์
จัดจำำแนกสิ่งมชีีวิต เป็น 4
อำณำจักร
1. อำณำจักรมอเนอรำ
คือ สิ่งมชีีวิตทมี่เีซลล์แบบโพร
แคริโอต (ไมม่เียื่อหุ้มนิวเคลียส)
ได้แก่ แบคทเีรีย และสำหร่ำยสี
เขียวแกมนำ้ำเงิน
2. อำณำจักรโพรทิสตำ
คือ สิ่งมชีีวิตที่มเีซลล์แบบยูแคริ
โอต (มเียอื่หมุ้นิวเคลียส) แต่
เซลล์ยังไม่รวมกลุ่มกันเป็น
เนอื้เยอื่และอวัยวะ ได้แก่ โพร
โตซัว รำ สำหร่ำย และรำ
4.อำณำจักรสัตว์ คือ สิ่งมชีีวิตที่มเีซลล์แบบยูแคริ
โอต ไมส่ำเมมำอืรก
ถสังเครำะหด์้วยแสงได้ จึงต้องได้รับ
3. อำณำจักรพืช คือ สิ่งมี
ชีวิตที่มเีซลล์แบบยูแคริโอต ซึ่ง
อำหำรจำกมชีีวิตอื่น
- 24. รอเบิร์ต วิตเทเกอร์
จัดจำำแนกสิ่งมชีีวิต เป็น 5
อำณำจักร ซึ่งเป็นทนีิ่ยมใน
ปัจจุบัน
1. อำณำจักรมอเนอรำ
คล้ำยกับแนวคิดของโคปแลนด์
2. อำณำจักรโพรทิสตำ
คือ กลุ่มสิ่งมชีีวิตทมีี่ลักษณะ
แตกต่ำงกันมำก และมลีักษณะ
กำ้ำกึ่งระหว่ำพืชและสตัว์
3. อำณำจักรฟังไจ คือ
กลุ่มสิ่งมชีีวิตที่ ไมส่ำมำรถสร้ำง
อำหำรเองได้ ได้รับอำหำรจำก
กำรดูดซึมจำกภำยนอก โดย
กำรปล่อยเอนไซม์ไปย่อย
4.อำณำจักรพืช คือ กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ำย
กับแนวคิดของโคปแลนด์
5.อำณำจักรสัตว์ คือ กลุ่มสิ่งมชีีวิตทมี่ลีักษณะ
คล้ำยกับแนวคิดของโคปแลนด์
อำหำรภำยนอกเซลล์
- 27. พืชที่ไม่มีท่อลำำเลียง
• เป็นพืชทมี่ขีนำดเล็ก ไมมี่รำก ลำำต้น ใบทแี่ทจ้ริง แต่มี
โครงสร้ำงทที่ำำหน้ำทเี่สมอืนรำก ลำำต้น และใบ
• ชอบขึ้นในทชีุ่มชื้น และอำกำศค่อนข้ำงเย็น
• เป็นพืชทมี่คีวำมสำำคัญต่อระบบนิเวศ เนอื่งจำกช่วยให้
ควำมชุ่มชื้นแก่ดิน
• ได้แก่ มอสส์ ลิเวอร์เวิร์ต และฮอร์นเวิร์ต
- 28. พืชที่มีท่อลำำเลียง
• เป็นพืชทมี่วีิวัฒนำกำรสูงกว่ำพืชทไี่ม่มที่อลำำเลียง ส่วน
ใหญ่มรีำก ลำำต้น และใบเจริญดี
• สำมำรถปรับตัว และอำศัยอยู่บนบกได้ดี
• มเีนอื้เยื่อลำำเลียงนำ้ำและแร่ธำตุ และเนื้อเยื่อลำำเลียงอำหำร
• แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
– พืชที่มีท่อลำำเลียงและไม่มีเมล็ด
– พืชที่มีท่อลำำเลียงและเมล็ดไม่มีรังไข่ห่อหุ้ม
– พืชที่มีท่อลำำเลียงและเมล็ดมีรังไข่ห่อหุ้ม
- 29. พืชที่มีท่อลำำเลียงและไม่มีเมล็ด
• มวีงชีวิตแบบสลับ คือ มรีะยะสปอร์โรไฟต์และแกมโีทไฟต์
สลับกันไป
• มีสปอร์เป็นโครงสร้ำงที่ใช้ในกำรสืบพันธุ์
• ตัวอย่ำงเช่น หวำยทะนอย สำมร้อยยอด หญ้ำถอดปล้อง
สนหำงม้ำ แหนแดง ย่ำนลิเภำ เฟิร์นใบมะขำม เฟิร์น
กำ้นดำำ จอกหหูนู ผักแว่น เป็นต้น
- 31. พืชที่มีท่อลำำเลียงและเมล็ดมีรังไข่
ห่อหุ้ม
• เป็นพืชทมี่วีิวัฒนำกำรสูงสุด มรีำก
ลำำต้น ใบทแี่ทจ้ริง
• มเีนอื้เยื่อลำำเลียงนำ้ำและแร่ธำตุ และ
เนื้อเยื่อลำำเลียงอำหำร เจริญดีมำก
• มีดอกเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ที่
เปลี่ยนแปลงมำจำกลำำต้นและใบ จึง
เรียกว่ำ พืชดอก
• เมล็ดมรีังไข่หอ่หุ้ม มกีำรสบืพันธุ์ที่
เรียกว่ำ ปฏสินธิซ้อน
• ตัวอย่ำงเช่น กุหลำบ ทำนตะวัน
ชบำ มะมว่ง ทเุรียน แตงโม ข้ำวโพด
ข้ำว ไผ่ เป็นต้น
- 39. ควำมหลำกหลำยของพืช
และสัตว์ในท้องถิ่น
ประเทศไทยเป็นแหล่งที่มี
ควำมหลำกหลำยของพืชและ
สัตว์สูงมำกแหง่หนงึ่ของโลก ซึ่ง
มสีำเหตุสำำคัญมำจำกปัจจัย ดังนี้
•ตั้งอยใู่นเขตโซนร้อน เหนือ
เส้นศูนย์สตูร และอยตูิ่ดทะเล จึง
มีสภำพอำกำศที่เหมำะสมต่อกำร
เจริญเติบโตและกำรแพร่พันธุ์
ของสงิ่มชีีวิตหลำยชนิด
•สภำพภูมิประเทศในแต่ละ
ภมูภิำคจะมคีวำมแตกต่ำงกัน ซึ่ง
เอื้อให้เกิดควำมหลำกหลำยของ
สิ่งมีชีวิต
•ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลำงกำรก
ระจำยพันธุ์ของพืชและสัตว์จำก
ประเทศเพื่อนบ้ำน ทั้งจำก
- 41. กำรสูญเสียควำมหลำก
หลำยทำงชีวภำพ
ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติ
ทำำใหเ้กิดกำรแยกสำยวิวัฒนำกำรของสิ่งมชีีวิตต่ำงๆ กำร
หลีกหนีจำกแหล่งทอี่ยู่เดิม กำรหมนุเวียนของสิ่งมชีีวิตใหม่
ทดแทนสิ่งมีชีวิตทอี่ำศัยอยเู่ดิม เช่น แผ่นดินแยกจำกกัน
กำรเกิดแผ่นดินไหว นำ้ำแข็งขั้วโลกละลำย เป็นต้น
- 47. ตัวอย่างสมุนไพรที่นำามาใช้รักษาโรคหรือบรรเทา
สมุนไพร อาการเจส็บรรปพ่วคยุณ
กะเพรา นำา
ใบมาต้มแลว้กรองเอานำ้าดมื่ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
ปวดท้อง
ขิง ใช้
เหง้าสดทุบให้แตกแล้วต้มเอานำ้าดมื่ แก้อาการทอ้งอืด
ท้องเฟอ้ ปวดท้อง และคลื่นไส้ อาเจียน
ใช้
เหง้าฝนกับนำ้ามะนาว ใช้กวาดคอบ่อยๆ แก้ไอ ขับเสมหะ
ขนึ้ฉ่าย ใช้
ต้นสดต้มกบันำ้าดมื่ หรือใช้ประกอบอาหารรับประทาน
ช่วยขับปัสสาวะ
ใช้
ต้นสดนำามาตำา คนั้เอาแต่นำ้าผสมกบันำ้าผงึ้ หรือใช้
ประกอบอาหารรับประทานช่วย
ลดความดัน
ชาจีน นำา
ใบแห้งชงนำ้าร้อนแก้กระหายนำ้า ทำาให้ชุ่มคอ กระตุ้น
หัวใจ ขับปัสสาวะ แก้ปวดเมอื่ยตามร่างกาย ท้องร่วง งวง
นอน
กา
กใบชา ใช้พอกแผลที่เกดิจากนำ้าร้อนลวกไฟไหม้
ตะไคร้ใช้
รับประทาน ช่วยขับลม ขับเหงอื่ แก้โรคนิ่ว ท้องอืด ทอ้ง
เฟอ้ จุกเสียด ช่วยลดความดันโลหิต แกไ้ข้
- 48. ตัวอย่างจุลินทรีย์ที่นำามาใช้ผลิตสารปฏิชีวนะเพื่อ
จุลินทรีย์ยาปฏิชีใวนชะ้รักษาโรค สรรพคุณ
Streptomyc
streptomyci
es griseus
n
ทำาลายเชื้อวัณโรค เชื้อแบคทีเรีย
ในลำาไส้
Streptomyc
es
venezuelae
chloramphe
nicol
ทำาลายเชื้อไทฟอยด์ เยื่อหุ้มสมอง
อักเสบ
Streptomyc
es fradiae
neomycin รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจาก
แบคทีเรีย
Bacillus
brevis
tyrothricin เป็นส่วนประกอบในนำ้ายาบ้วนปาก
Bacillus
polymyxa
polymycin รักษาอาการเคืองตา
Penicillium
sp.
penicilin ทำาลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำาให้เกิด
หนอง
Propionbact
doxycylin ทำาลายเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ
- 53. ด้านการ
แพทย์
การผสมในหลอดแก้ว
เป็นการปฏิสนธิระหว่างไข่และ
อสุจิ โดยการนำาไข่ออกมาจาก
มดลูกไปผสมกับเชื้ออสุจิในห้อง
ปฏบิัติการ ก่อนทจี่ะนำาตัวอ่อน
กลับไปฝังในมดลูกอีกครั้ง
การทำากิฟต์
เป็นการนำาอสุจิและเซลล์ไข่ใส่
เข้าไปใน
ทอ่รังไข่ เพอื่ใหเ้กิดการปฏสินธิ
ขึ้นเองตามธรรมชาติ
- 54. ด้าน
เกษตรกร
รม
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
เป็นการนำาชิ้นส่วนของพืชมา
เพาะเลี้ยงบนอาหารสงัเคราะห์
ซึ่งมีสารอาหารที่เหมาะสมต่อการ
เจริญเติบโตของพืช ซึ่งช่วย
ประหยัดพนื้ที่ เวลา และแรงงาน
- 56. ด้าน
อุตสาหกร
รม
การผลิตไวน์
เป็นการผลิตแอลกอฮอล์จากพืช
ด้วยกระบวนการเปลี่ยนนำ้าตาล
ในพืชให้เป็นแอลกอฮอล์ โดย
การหมกัผลไมด้้วยยีสต์
การผลิตสารเคมีบาง
ชนิด
เป็นการนำาเทคนิคการเพาะเลี้ยง
เนื้อเยื่อ
มาทำาให้พืชบางชนิดที่สามารถ
ผลิตสารเคมี
ที่มีคุณสมบัติเป็นยาที่เป็น
- 58. • เป็นการนำาความรู้ทางด้านลำาดับ
ข้อมูลทาง
พันธุกรรมในสายดีเอ็นเอมา
ประยุกต์ใช้ทางด้านนิติเวชเพื่อ
การสืบสวนหาอาชญากร ซึ่งวิธี
นี้ช่วยให้ชี้ตัวบุคคลได้อย่างถูก
ต้องและแมน่ยำา
• การตรวจดีเอ็นเอ ทำาได้โดย
ส่งตัวอย่างเข้าเครื่อง
หาลำาดับดีเอ็นเอและใช้เครื่อง
คอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผล ซึ่ง
คอมพิวเตอร์จะแสดงรหัสดีเอ็นเอ
เป็นแทง่ๆ เรียงกัน เรียกว่า
ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ
ด้าน
นิติเว
ช
- 59. สรุปทบทวนประจำา
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
• ความหลากหลายทางชีวภาพ คือ ความหลากหลายของสิ่ง
มีชีวิตต่างๆ ที่ดำารงอยใู่นแหล่งอาศัยเดียวกันหรือแตกต่าง
กนั
• การจำาแนกสงิ่มีชีวิต จะใช้ไดโคโตมัสคีย์ ซึ่งเป็นคู่มือใน
การแบ่งกลุ่มย่อยของสิ่งมีชีวิต โดยเปรียบเทียบความแตก
ต่างทีละคู่ของโครงสร้างทีละลักษณะ
• ชอื่ของสงิ่มีชีวิต มี 2 แบบ คือ ชื่อสามัญ เป็นชอื่ที่เรียก
กนัทั่วไป และชื่อวิทยาศาสตร์
ซึ่งเป็นชื่อที่กำาหนดขึ้นตามหลักสากลและเป็นที่ยอมรับกัน
ทั่วไป
• ความหลากหลายของพืช ใช้ลักษณะเนื้อเยอื่ท่อลำาเลียงเป็น
เกณฑ์ ซงึ่สามารถจำาแนกพืชออกเป็น 2 กลุ่ม คือ พืชที่
ไม่มีท่อลำาเลียง และพืชที่มีท่อลำาเลียง
• ความหลากหลายของสัตว์ ใช้การมีกระดูกสนัหลังเป็น
เกณฑ์ ซงึ่สามารถจำาแนกสัตว์ออกเป็น กลุ่ม คือ สัตว์