Recomendados
Mais conteúdo relacionado
Semelhante a พื้นฐานชีวิต 22.pptx
Semelhante a พื้นฐานชีวิต 22.pptx (20)
Mais de SunnyStrong
Mais de SunnyStrong (20)
พื้นฐานชีวิต 22.pptx
- 2. สารบัญ อี้จิงปรัชญาแห่งวิชาฮวงจุ้ย :(I Ching Feng shui Philosophy) 4 อะไรคือหัวใจของอี้จิง? 53 ขงเบ ้งดูดาว...สวย ๆ 66 แม็กโครไบโอติกส์ (macrobiotics) 83 เรื่องการแบ่งผังบ ้าน เพื่อใส่ดาว (9 ยุค) ลงในผังสาหรับวิเคราะห์ ตาแหน่งพลังงานฮวงจุ้ย 92 ธาตุในจักรวาลที่สาคัญ 144 รักแรกของสุนทรภู่ 155 ฤกษ์ยาม 64 ข่วย 169 ที่มาที่ไป ฤกษ์ยาม 64 ข่วย 207 “พ่อ แม่ ฟ้า ดิน คน” ของข่วย 217 หลักการและองค์ประกอบของ ฤกษ์ยาม 64 ข่วย 227 ความสัมพันธ์ใน ฤกษ์ยาม 64 ข่วย 245 LOCALRY: ไขรหัสคาแถลงผู้พิพากษาคณากร ทาไมต ้องพูดถึงขนนก? ทาไมต ้องเอาหัวใจใส่ตาชั่ง? 268 คอลัมน์ รู้ไปโม ้ด : เทพีจัสติซ 284 ขงจื๊อ เขียนไว ้ใน ตารา สิบปีก (十翼) 297
- 3. เนื้อหาในเล่ม 22 อี้จิง ดวงจีน ฮวงจุ้ย แพทย์จีน หยิน-หยาง 64 ข่วย ชี่/ปราณ 5 ธาตุ ฤกษ์ยาม ขงจื๊อ โหงวเฮ ้ง ปา-กว ้า 八卦 四象 五行
- 4. อี้จิงปรัชญาแห่งวิชาฮวงจุ้ย : (I Ching Feng shui Philosophy) http://www.sumnakcharang.com/huangjui2.php
- 5. อี้จิง มาจากคา 2 คา คือ • อี้ แปลว่า เปลี่ยนแปลง • จิง แปลว่า ปรากฎการณ์ที่เคลื่อนไหว ตลอดเวลา เพื่อรักษาสมดุล
- 6. ดังนั้น สมดุลที่มีการเปลี่ยนแปลง เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา กลับไปกลับมาอย่างไม่จบ ในธรรมชาติ สามารถอธิบายได ้ จากการเปรียบเทียบของสิ่งที่ตรงกันข ้าม แต่ขาดจากกันไม่ได ้ เพื่อรักษาสมดุล • เช่น แกนตราชั่ง ไม่ให ้เอียงไปด ้านใดด ้านหนึ่ง โดยเราต ้องมีของ 2 ด ้าน เพื่อรักษาสมดุล ธรรมชาติก็เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
- 7. 2 ขั้ว พลังเอี้ยง พลังอิม พระอาทิตย์ พระจันทร์ แสงสว่าง ความมืด ความดี ความชั่ว หยุดนิ่ง เคลื่อนไหว แข็ง อ่อน ขั้วบวก ขั้วลบ ขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต ้ บวก ลบ ชาย หญิง ซ ้าย ขวา
- 8. และเมื่อทั้งสองสิ่งตรงข ้ามกันมา รวมกัน เกิดการผสมผสานกัน จึงจะเกิดความสมดุลขึ้น และ สองสิ่งที่ตรงข ้ามกันนั้น ก็คือ อิมเอี้ยง นั้นเอง • เมื่อพลังอิมเอี้ยง รวมตัวกัน เมื่อนั้นจึงมีการเคลื่อนไหว ทาให ้เกิดการที่โลกหมุนรอบตัวเอง และเกิดฤดูกาล
- 10. อิมเอี้ยงหรือ อินหยางนั้น ตามบันทึกโบราณ • ได ้กล่าวไว ้ว่า จักรพรรดิ์ ฝู-ชี ผู้ปกครองในสมัยนั้น ( ประมาณ กว่า 4700 ปีก่อน ) เป็นผู้บัญญัติ รูปสัญลักษณ์ เส ้นขาด - - และเส ้นเต็ม – ขึ้นมาใช ้ เป็นรากฐานของศาสตร์ อี้จิง
- 11. คัมภีร์อี้จิง บนกระดองเต่า กล่าวถึงจักรวาล ธรรมชาติ สรรพสิ่ง ล ้วนมีการเปลี่ยนแปลง อยู่เสมอ • หยินและหยาง เป็นต ้นเหตุแห่งสรรพสิ่ง
- 12. ยุคศตวรรษที่ 20 มีชาวบ ้านซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ ้าน เสี่ยวถุน • บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของ เมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ได ้นากระดองเต่าและกระดูก สัตว์ที่เก็บได ้ มาขายในตลาดจานวนมาก https://www.blockdit.com/posts/5d4bf789d4d4795d92d65a0e
- 13. และมีนักวิชาการมาพบเข ้าโดย บังเอิญ • เขาสังเกตเห็นตัวอักษรโบราณที่ถูกสลักไว ้บน กระดองเต่า จึงนามันมาศึกษา และพบว่า ตัวอักษรโบราณเหล่านี้ ถูกประดิษฐ์ขึ้นในสมัยราชวงศ ์ซาง มีอายุ1,700 - 1,100 ปีก่อนคริสต์ศักราช • พวกเขาจึงสรุปว่า บริเวณหมู่บ ้านเสี่ยวถุน คือที่ตั้งของเมืองยิน ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของราชวงศ์ซาง
- 14. และได ้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เครื่องทองสัมฤทธิ์ กระดูกสัตว์ รวมถึงกระดองเต่า ที่ถูกสลักตัวอักษรโบราณเอาไว ้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1928 ก็มีการขุดค ้นที่บริเวณหมู่บ ้าน เสี่ยวถุน เรื่อยมา
- 15. เจี๋ยกู่เหวิน • ปัจจุบัน มีกระดองเต่าและกระดูกสัตว์ จานวนมากกว่า 160,000 ชิ้นที่ถูกค ้นพบ • บางชิ้นยังมีสภาพสมบูรณ์ และได ้ยังพบตัวอักษรโบราณ ที่ถูกแกะสลักไว ้บนกระดองเต่า อีกมากกว่า5,000ตัวอักษร เรียกว่า อักษรเจี๋ยกู่เหวิน
- 16. • นอกจากนี้ กระดองเต่าที่ค ้นพบบางส่วน คือ กระดองเต่าเสี่ยงทาย ที่ใช ้ในการเสี่ยงทาย ก่อนทาสงคราม ของกษัตริย์อีกด ้วย • โดยจะแกะสลักเรื่องที่จะเสี่ยงทายไว ้บนกระดองเต่า จากนั้นก็นาไปเผาไฟจนกระดองนั้นเริ่มร ้าว แล ้วจึงนารอยร ้าวบนกระดองเต่ามาทานาย
- 17. นักวิชาการได ้ศึกษา และถอดความหมายของตัวอักษร ได ้ประมาณ 3,000 ตัว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่สามารถถอดความหมายได ้ • จากการศึกษาวิจัยตัวอักษรโบราณบนกระดองเต่าครั้ง นี้ ทาให ้ได ้รู้ถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้น ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม
- 18. ราชวงศ์ซาง • ถือเป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของจีน • แต่หลักฐานทางโบราณคดี พิสูจน์ว่า จีนได ้พัฒนาเข ้าสู้สมัยอารยธรรม ตั้งแต่ราชวงศ์ซางแล ้ว
- 19. ต่อมาจึงมีการศึกษาฮวงจุ้ย ว่าด ้วยการปรับสมดุลของคนและธรรมชาติ จึงก่อให ้เกิดคา 2 คา คือ อิม - เอี้ยง ที่ประกอบด ้วย สิ่ง 2 สิ่ง ที่ตรงข ้ามกันแต่คู่กันเสมอ ผสมผสานกันพึ่งพาซึ่งกัน สลับสับเปลี่ยน กลมกลืนกันได้เป็ นหนึ่งเดียว เป็ นวัฏจักร http://www.sumnakcharang.com/huangjui2.php
- 20. ดังนั้น กฎของอิมเอี้ยง คือความเปลี่ยนแปลงสร ้าง ผลกระทบต่อกัน เปรียบได ้เช่น สภาวะ น้าขึ้นน้าลง กับดวงจันทร์
- 21. ความสัมพันธ์ของสัญลักษณ์ อิม เอี้ยง มีดังตารางตัวอย่างดังนี้ สภาวะ เอี้ยง อิม เพศ ชาย หญิง ดาวเกี่ยวกับโลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ จักรวาล ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ฤดูกาล ร ้อน หนาว อุณหภูมิ ความร ้อน ความเย็น เวลา กลางวัน กลางคืน ไฟฟ้า ขั้วบวก ขั้วลบ โลก ฟ้า ดิน แสง สว่าง มืด ชีวิต ตาย ( เสียชีวิต ) เป็น ( มีชีวิต ) การสถิต เกิด ดับ ด ้าน นอก ใน ความ จริง เท็จ ร่างกาย ภายนอก ภายใน คาตอบ ถูก ผิด ที่อาศัย บ ้านคนเป็น หลุมศพ ( บ ้านคนตาย )
- 23. อี้จิง หรือคัมภีร์อี้ หรือคัมภีร์อนิจจลักษณ์ • เป็นคัมภีร์เก่าแก่ของจีนโบราณ ที่ว่าด ้วยเรื่อง “เปลี่ยน” (อี้ แปลว่าเปลี่ยน, จิง แปลว่า คัมภีร์) • ซึ่งปราชญ์ได ้สร ้างคัมภีร์เล่มนี้ขึ้นไว ้ เพื่อให ้ใช ้เป็นคู่มือดาเนินชีวิต ให ้สอดคล ้องกับ ธรรมชาติ สอดคล ้องกับฟ้า-ดิน (สวรรค์-โลก) • โดยอาศัยการ เปลี่ยน ไป-มาระหว่างอิม-เอี้ยง เป็นหลักสาคัญที่ใช ้ในการพยากรณ์ และวางแนวทางแห่งการดาเนินชีวิตให ้ราบรื่น มั่นคง https://sinsae.com/i-ching/ 易經
- 25. อี้จิง (易經) คือคัมภีร์แห่งความ เปลี่ยนแปลง • คาว่า อี้ (易) แปลว่า การเปลี่ยนแปลง • ส่วนคาว่า จิง (經) แปลว่า คัมภีร์
- 27. ซึ่งชี้ว่า ทุกสิ่งต ้องเปลี่ยนแปลง เช่น จากอิมเป็นเอี้ยง และจากเอี้ยงเป็นอิม (จากแข็งเป็นอ่อน จากอ่อนเป็นแข็ง, จากทุกข์เป็นสุขและจากสุขเป็นทุกข์ ฯลฯ) • หาก มนุษย์ สามารถเข ้าถึงกฎนี้ได ้ ชีวิตของมนุษย์ ก็จะราบรื่นและดาเนินไป สอดคล ้องกับธรรมชาติ สอดคล ้องกับเจตจานงของสวรรค์-โลก (ฟ้า-ดิน) นั่นเอง
- 28. จิง (經) ในภาษาสันสกฤต ตรงกับคาว่า สุตรา (พระสูตร) • แปลว่า เชือกหรือเส ้นด ้ายที่มัดของเข ้าด ้วยกัน คานี้จึงมีความหมายว่า กฎหรือสูตร https://www.blockdit.com/posts/60d2df9b9626b30c6f564 96e
- 29. สูตรมาจากรากศัพท์ siv ภาษาละตินคือ suere ภาษาอังกฤษคือ sew • ทั้งหมดแปลว่า การเย็บ • ก็มีความหมายถึงหนังสือ ในทางพุทธ หมายถึง พระสูตรที่บันทึกคาสอนของพระพุทธเจ ้า • อี้จิง (易經) เป็นภูมิปัญญาของจีนโบราณ เป็นผลงานการศึกษาของปราชญ์สมัยต่าง ๆ มากว่า ห ้าพันปี ลึกซึ้ง เข ้าใจยาก
- 30. ในสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต ้ ทรงสั่งฆ่านักปราชญ์จานวนมาก และเผาหนังสือจานวน มหาศาล • อี้จิง (易經) ก็เป็นหนึ่งในหนังสือที่ถูกสั่งเผาทิ้ง ข ้อหา “เป็นเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมายาศาสตร์” • แต่โชคดีที่ อี้จิง (易經) รอดจากการถูกเผามาได ้ และผ่านกาลเวลามาหลายพันปี โดยที่โลกตะวันตกไม่เคยรู้ความดารงอยู่ของมันมา ก่อน • จนกระทั่ง มิชชันนารีโปรเตสแตนต์ ชาวเยอรมัน ริชาร์ด วิลเฮล์ม แปล อี้จิง (易經) เป็นภาษาเยอรมันในปี ค.ศ. 1924
- 31. จะเข ้าใจอี้จิง ก็ต ้องรู้ประวัติที่มา ก่อน • เริ่มที่ตานานสร ้างมนุษย์ของจีน ของกษัตริย์ฝูซี (伏羲) กับพระขนิษฐา หนี่วา (女媧)
- 32. ตานานเล่าว่าเบื้องนั้น บนสวรรค์ เทพเพลิงกับเทพน้า ทาสงครามกัน • เทพน้าพ่ายแพ ้ หนีไปและชนภูเขาใหญ่ที่ค้าฟ้าจนพังลง เป็นผลให ้ท ้องฟ้าเกิดรอยรั่ว บังเกิดลมพายุ ไฟไหม ้ป่ า และน้าท่วมโลก • หนี่วา ตัดสินพระทัยซ่อมท ้องนภา โดยหลอมก้อนหินห้าสีห้าชนิด แล ้วนาหินนั้นไปอุด ฟ้า ทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ
- 33. ด ้วยคาบัญชาจากสวรรค์ • กษัตริย์ฝูซี (伏羲) ทรงเสกสร ้างชาวจีน จากดินเหนียวขึ้นมา ให ้กาเนิดหลักการและศาสตร์ต่าง ๆ เช่น การจับปลา การล่าสัตว์ การแต่งงาน
- 34. ตานานเล่าว่า โลกในยุคแรก ยังไม่มีศีลธรรมหรือระเบียบสังคม • มนุษย์รู้จักแต่แม่ของพวกเขา ไม่รู้จักพ่อ • เมื่อหิวก็แสวงหาอาหาร เมื่อท ้องอิ่มก็ทิ้งเศษอาหารที่ เหลือ • พวกเขาเสพอาหารอย่างตะกรุมตะกราม ทั้งหนังและขน ดื่มเลือดสัตว์ นุ่งห่มหนังสัตว์ • ฝูซี (伏羲) ทรงรวบรวมมนุษย์เป็นกลุ่มก ้อน วางกฎ แห่งมนุษยชาติ ทรงประดิษฐ์อักษรจีน จากภาพนิมิตที่เห็นจากลายบนหลังเต่าตัวหนึ่ง ที่ผุดขึ้นจากแม่น้า
- 35. ลายบนหลังเต่าตัวนี้เอง ก็เป็นต ้นกาเนิดของสัญลักษณ์อี้จิง (易經) ได ้แก่ ไตรลักษณ์และฉักกลักษณ์ • ไตรลักษณ์ (trigrams) มีหน้าตาเป็นเส ้นขนานสามเส้นซ ้อนกัน • ส่วน ฉักกลักษณ์ (hexagrams) คือไตรลักษณ์หนึ่งคู่ ซ ้อนกันเป็นเส ้นขนาน หกเส้น
- 37. เส ้นทึบ แทนหยาง เส ้นขาด แทนหยิน แต่ละ ไตรลักษณ์ แทนคุณสมบัติต่าง ๆ ของสรรพสิ่งในจักรวาล • ประกอบด ้วย สวรรค์ ทะเลสาบ ไฟ ฟ้าร ้อง ลม น้า ภูเขา และโลก
- 38. เส ้นล่างสุด เป็น หยาง • สวรรค์ (乾) คือท ้องฟ้า กลางวัน พลังงาน การ สร ้างสรรค์ เพราะสวรรค์เป็นจุดสร ้างสรรค์ของจักรวาล (เรียกว่า The Creative) • ทะเลสาบ (兌) คือความร่าเริง ความเต็ม แหล่งน้าเป็น ศูนย์ชีวิต • ไฟ (離) คือความร ้อนและแสงสว่าง หมายถึงปัญญา • ฟ้าร ้อง (震) คือพลังที่ทาให ้สรรพสิ่งเติบโต
- 39. เส ้นล่างสุด เป็น หยิน • ลม (巽) คือพลังที่พัดแทรกทั้งโลก หมายถึงความ อ่อนโยน • น้า (坎) คือความลึกล้า อันตราย • ภูเขา (艮) คือความสงบนิ่ง • โลก (坤) คือการยอมรับ ความอ่อนแอ เพราะมันเป็นพลังรับของจักรวาล (เรียกว่า The Receptive)
- 40. นี่ก็คือ ‘ภาษา’ ของอี้จิง • ที่เมื่อนามารวมกันเป็นวงกลม ก็คือสัญลักษณ์ที่เรียกว่า ป้ากั้ว (八卦) ซึ่งคนไทยคุ้นเคย เพราะคนจีนอพยพนาเข ้ามา
- 41. ตามบันทึกประวัติศาสตร์ ผู้เขียนและปรับปรุงศาสตร์อี้จิงที่ สาคัญ มี 4 คน • คนแรกคือกษัตริย์ฝูซี • คนที่สองคือ โจวเหวินหวัง • คนที่สามคือ โจวกงตัน โอรสของโจวเหวินหวัง • คนที่สี่คือ ขงจื๊อ
- 42. พระเจ ้าโจวเหวิน พระเจ ้าโจวเหวิน (อังกฤษ: King Wen of Zhou) • เป็นกษัตริย์จีนในราชวงศ์โจว • อยู่ในช่วงระหว่างปลายราชวงศ์ชาง แม ้ว่า โจวอู่หวัง พระราชโอรสของพระองค์ ได ้ยกทัพมาปราบพระเจ้าซางโจ้ว กษัตริย์แห่งราชวงศ์ชางพระองค์สุดท ้าย แล ้วสถาปนาราชวงศ์โจวขึ้น • แต่พระเจ ้าโจวเหวิน ก็ได ้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สถาปนาก่อตั้งราชวงศ์โจว https://bit.ly/3f6fmDw
- 44. เวลานั้นรัฐโจว ใต ้การปกครองของ จิหลี่ • แข็งแกร่งจนทรราชแห่งราชวงศ ์ซัง พระนามกษัตริย์โจ้ว ทรงระแวงและกลัวการลุกฮือ ส่งคนไปลอบสังหาร จิหลี่ • โอรสของ จิหลี่ นาม โจวเหวินหวัง ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อมา
- 45. โจวเหวินหวัง ทรงฉลาดปราดเปรื่อง ปกครองบ ้านเมืองโดยธรรม • ทรงทาไร่ทานาเช่นเดียวกับสามัญชน • ยกเลิกระบบทาส • ทาให ้ทรราชแห่งราชวงศ์ซัง ทรงกลัวว่าจะแย่งชิงอานาจ และบงการให ้โจวเหวินหวัง ไปทางานในวังของ กษัตริย์โจ ้ว • และต่อมาก็จับ โจวเหวินหวัง ขังคุกนานเจ็ดปี
- 46. ในช่วงที่ถูกจองจานี่เอง • โจวเหวินหวัง ทรงศึกษาตาราอี้จิงและขยายความคิดกว ้างจากเดิม • ทรงคิดค ้นหลักการเรียงแผนภูมิแบบใหม่ โดยรวมเอาเรื่องดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สรีรศาสตร์ เวลา ฤดูกาล การค ้า การเมือง ความสัมพันธ์ในสังคมเข ้าไปด ้วย • ต่อมาก็ทรงถูกปล่อยพระองค์
- 48. โจวเหวินหวัง มีพระโอรสหลายองค์ ที่โดดเด่นคือโจวกงตัน กับ โจวกง อู่
- 49. หลังจาก โจวกงอู่ ขึ้นครองราชย์ ทรงยกทัพบุกเมืองหลวงของซัง สาเร็จ • โจวกงอู่ เป็นกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์โจว ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ปกครองแผ่นดินจีนยาวนานที่สุด และเป็นยุครุ่งเรืองแห่งปรัชญาจีน • ยุคนี้เอง กาเนิดเล่าจื๊อ ผู้ก่อตั้งลัทธิเต๋า กับขงจื๊อ ผู้ก่อตั้งลัทธิขงจื๊อ (Confucianism)
- 51. โจวกงอู่ ครองราชย์ได ้สามปีก็สวรรคต โจวกงตัน ขึ้นเป็นผู้สาเร็จราชการ เลี้ยงพระโอรสของโจวกงอู่ จนเจริญพระชนมายุเพื่อให ้เป็นกษัตริย์พระองค์ต่อไป • ระหว่างนั้นก็ศึกษาและพัฒนาฉักกลักษณ์ ที่พระบิดา ทรงทาค ้างไว ้
- 52. ขงจื๊อ เอง ก็ใช ้เวลาหลายปี ศึกษาชาระปรับปรุงตาราอี้จิง และเป็นคนเขียนงานอี้จิ งบางส่วนด ้วย • อาจกล่าวได ้ว่าอี้จิงที่เราใช ้กันในปัจจุบัน คือ ฉบับของขงจื๊อ นั่นเอง ขงจื๊อ บอกว่าเสียดายที่มิอาจมีชีวิตยืนยาวอีกสักห ้าสิบปี จะได ้ศึกษาอี้จิงมากกว่านี้ • ศิษย์ต่าง ๆ ของขงจื๊อ ช่วยกันศึกษาเพิ่มเติมและเผยแพร่งานอี้จิงไปทั่ว
- 53. อะไรคือหัวใจของอี้จิง? หาก เราชาแหละ คาว่า อี้ (易) • จะเห็นว่ามันประกอบด ้วยสอง อักษรย่อย คือ อาทิตย์ (日) และ จันทร์ ( 月) https://www.blockdit.com/posts/60d2df9b9626b30c6f5 6496e อาทิตย์ (日) จันทร์ (月)
- 54. อาทิตย์กับจันทร์ ในคาว่า อี้ (易) กินความกว ้างกว่าเรื่องดาราศาสตร์ อาทิตย์ เป็นสัญลักษณ์ของ หยาง จันทร์ เป็นสัญลักษณ์ของ หยิน • พลังหยางกับหยิน เป็นจักรกลที่ขับเคลื่อน จักรวาล • หยางกับหยิน กาหนดฤดูกาล • อาทิตย์ ก่อให ้เกิดชีวิต • จันทร์ หมุนรอบโลก ก่อให ้เกิดกระแสน้า ขึ้นน้าลง
- 55. หยางกับหยิน ปรับตัวหากันอย่างกลมกลืนเสมอ • เมื่อหยางเพิ่ม หยินก็ลด • การหมุนวนของหยินกับหยาง เป็นที่มาของสัญลักษณ์ไท่จี๋ถู (太極圖) ซึ่งน่าจะเป็นโลโก ้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
- 56. ไท่จี๋ แปลว่า ความเป็นที่สุด ถู แปลว่า ภาพหรือแผนภูมิ • ไท่จี๋ถู (太極圖) จึงแปลว่าแผนภูมิแห่งความ เป็นที่สุด
- 57. จีนโบราณ เชื่อว่าต ้นกาเนิดของสรรพสิ่งใน จักรวาลคือ ไท่จี๋ หรือความเป็นหนึ่ง ไท่จี๋ นี้ ประกอบด ้วยพลังสองสายเชื่อมต่อกัน • สายหนึ่งคือหยาง • สายหนึ่งคือหยิน สร ้างสรรค์สรรพสิ่งในจักรวาล
- 59. บนพื้นที่ขาวดาบนรูปไท่จี๋ถู มีจุดกลมดาขาวเล็ก ๆ จุดกลมทั้งคู่ หมายถึง เมล็ดพันธุ ์แห่งการ เปลี่ยนแปลง • เมล็ดพันธุ์แห่งความเป็นหยิน และหยาง เปลี่ยนกลับกันไปมาได ้
- 63. อี้จิง (易經 ) เห็นว่า ชีวิตมนุษย์ต ้อง สัมพันธ์ กับความเปลี่ยนแปลงของหยางกับหยิน • เส ้นทางแห่งธรรมชาติ ก็คือเส ้นทางของจักรวาล เรียกว่าเป็น ‘ทางที่เป็นไปอย่างนั้น’ • เส้นทาง ในภาษาจีนเรียกว่า เต๋า (道) • อี้จิง (易經 ) ก็คือกระจกสะท ้อนให ้เห็นวิถีทางแห่งการ เปลี่ยนแปลงแห่งจักรวาลนี้
- 64. เส้นทาง ในภาษาจีนเรียกว่า เต๋า ( 道)
- 65. อี้จิง (易經 ) มองว่า การเปลี่ยนแปลง เป็นกระบวนการอย่างหนึ่ง • จักรวาลที่ดูนิ่ง ๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หรือหากใช ้คาของอี้จิง ก็คือ สวรรค์มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา • มันเป็นการแปรผันไปมาระหว่างสองขั้ว คือหยินกับห ยาง ตัวตนกับความว่างเปล่า บวกกับลบ แข็งกับอ่อน สวรรค์กับโลก ฯลฯ • รูปต่าง ๆ ที่สลับเปลี่ยนกลับไปมา จากรูปแบบหนึ่งไป อีกรูปแบบหนึ่ง เปลี่ยนสภาวะกันไปมา ความซับซ ้อนกับความเรียบ ง่าย
- 67. ในอดีตกาล นักปราชญ์ชาวจีน เริ่มศึกษาค ้นคว ้าเรื่องดวงดาว และกาหนดให ้ดาวเป็นตัวแทนของเทพเจ ้า • แต่ต่อมาในสมัยราชวงศ์ฮั่น ราว ๆ ปี ค.ศ. 130 นักปราชญ์นามว่า “จังเหิง” (Zhang Heng) ผู้รอบรู้ในสาขาวิชาการต่าง ๆ ทั้งดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และ วรรณคดี
- 68. นักปราชญ์นามว่า “จังเหิง” (Zhang Heng) ได ้อธิบายว่า ดวงจันทร์ นั้น มีลักษณะกลม • โดยสังเกตว่าแสงจากดวงอาทิตย์นั้น ทาให ้ดวงจันทร์มีทั้งซีกด ้านมืดและด ้านสว่าง • นอกจากนี้ เขายังเข ้าใจในปรากฏการณ์ จันทรุปราคา สุริยุปราคา อีกด ้วย • เร็วกว่าทวีปยุโรปถึง 1,000 กว่าปี ที่กว่าจะเชื่อว่าโลกกลม ต ้องรอให ้กาลิเลโอ และแมกแจลแลน พิสูจน์
- 69. Zhang Heng (ค.ศ. 130)
- 70. ทฤษฎีโลกแบน
- 71. นักดาราศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติเอเชียหรือ ยุโรป • ล ้วนศึกษาดาราศาสตร์ ในแง่ของวิทยาศาสตร์ความเป็นเหตุเป็นผล • รวมไปถึงเรื่องของไสยศาสตร์และความเชื่อด ้าน โชคชะตา
- 73. ในเรื่องสามก๊ก มักมีการพูดถึงดาราศาสตร์ ในแง่ของความเชื่อเรื่อง ดาวประจาตัว • เพราะมักจะมีเหตุการณ์ทานองที่ว่า ดาวประจาตัวร่วงหล่นจากฟากฟ้า หรือเลือนรางหมองหม่น ชีวิตใกล ้ดับสูญ อะไรทานองนี้เป็นต ้น • ซึ่งเหตุการณ์เกี่ยวกับดาวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเรื่อง สามก๊ก ก็คือตอน “ขงเบ้งดูดาว”
- 74. ในศึกระหว่าง ขงเบ ้ง กับ สุมาอี้ • หลังจากที่เทพยดาเป็นใจ ช่วยให ้สุมาอี้ รอดจากการถูกไฟครอกตายกลางเขา เฮาโลก๊ก • สุมาอี้ ก็ไม่เคยยกทัพรบกับ ขงเบ้ง อีกเลย จะยั่วยุอย่างไรก็ไม่เป็นผล • ส่วนทัพ ซุนกวน ที่ช่วยเข ้าตี วุยก๊ก อีกด ้านก็แตกพ่าย • ขงเบ้ง จึงกลุ้มใจหนัก และล ้มป่ วยลง
- 75. คืนหนึ่งขงเบ ้งออกมาดูดาว เห็นดาวประจาตัววิปริตหม่นหมอง • รู้ว่าจะหมดอายุเป็นแน่ • เกียงอุย จึงแนะนาให ้ทาพิธีต่ออายุและสะเดาะเคราะห์เป็ น เวลา 7 วัน • ข ้างฝ่ ายสุมาอี้ ซึ่งดูดาวเป็นเหมือนกัน รู้ว่า ดาวขงเบ ้ง กาลังจะล่วงลับ เห็นเป็นทีจึงให ้ทหารออกรบทุกวัน
- 76. ในคืนสุดท ้าย พิธีต่ออายุยังไม่ เสร็จสิ้น • อุยเอี๋ยน นายทหารเอก อดทนต่อการยั่วยุของทหาร สุมาอี้ ไม่ได ้ จึงพรวดพราดเข ้าไปในกระโจมของ ขงเบ ้ง และไปแตะเอาโคมเสี่ยงทายดับลง • ขงเบ้ง เห็นเช่นนั้น จึงทอดใจใหญ่แล ้วพูดว่า “ความตายนี้เป็นบุราณกรรม ถึงมาตรว่าจะคิดอ่านแก ้ไขประการใดก็ไม่พ ้น ตัวเราครั้งนี้จะถึงความตายเป็นมั่นคง”
- 77. • ดาวดวงไหนคือดาวขงเบ ้ง หรือขงเบ ้งจะดูดาวอะไร ข ้อนี้ก็น่าสงสัยนัก • แต่เอาเป็นว่าไม่ต ้องซีเรียส เพราะวันนี้มี Music Video “ขงเบ้งดูดาว” ของราชินีนักร ้องลูกทุ่ง คุณพุ่มพวง ดวงจันทร ์ มาให ้ชม .... ไพเราะมากครับ
- 79. เพลง ขงเบ้งดูดาว ศิลปิ น พุ่มพวง ดวงจันทร ์ • เอ่อ เอ๋ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอก เมื่อเห็นดาวไม่แจ่มใส หรือว่าตัวเราจะหมดบุญจึงเป็นไป ดาวที่สดใสแต่ก่อนนั้นพลันมืดมน หรือโชคชะตา เอ่อ เอ๋ย ของเราขาด เราจึงไม่อาจจะหนีตายได ้รอดพ ้น เคยช่วยคนมาให ้โด่งดังตั้งหลายคน ถึงคราวช่วยคนให ้รอดตายไม่ได ้เลย (ดนตรี)
- 80. • ขงเบ ้งดูดาว เอ่อ เอ๋ย หัวใจหม่น เห็นดาวร่วงหล่นให ้ซบเซาโอ ้เราเอย เมื่อก่อนตัวเราเคยสุขสันต์ทุกวันเลย เดี๋ยวนี้ดาวเผยให ้เด่นชัดถึงวันตาย ขงเบ ้งดูดาว เอ่อ เอ๋ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมื่อเห็นดาวมืดมน หาย เข ้าห ้องขังตัวเพื่อรอรับกับความตาย คิดไปใจหายและหวาดเสียว ซี้เลี้ยวเรา (ดนตรี)
- 81. https://www.samkok911.com/2012/08/Kongming-Star.html • ขงเบ ้งดูดาว เอ่อ เอ๋ย หัวใจหม่น เห็นดาวร่วงหล่นให ้ซบเซาโอ ้เราเอย เมื่อก่อนตัวเราเคยสุขสันต์ทุกวันเลย เดี๋ยวนี้ดาวเผยให ้เด่นชัดถึงวันตาย ขงเบ ้งดูดาว เอ่อ เอ๋ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมื่อเห็นดาวมืดมนหาย เข ้าห ้องขังตัวเพื่อรอรับกับความตาย คิดไปใจหายและหวาดเสียว ซี้เลี้ยวเรา
- 82. ขณะที่ปรัชญาตะวันตก มองทุกอย่างแยกส่วน อี้จิง (易經 ) กลับมองว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเดียวกัน เพียงเปลี่ยนรูปเปลี่ยนสภาวะ • แม ้แต่สภาพร่างกายเรา ก็เปลี่ยนไปมาระหว่างหยาง กับหยิน • ถ ้ารักษาสมดุลหยาง-หยินได ้ ก็คือสุขภาพดี นี่ก็คือหลักของแม็กโครไบโอติกส์ (macrobiotics) ซึ่งเป็นแนวคิดที่เชื่อว่าอาหารทุกชนิดมีธาตุหยินและห ยางไม่เท่ากัน เช่น ข ้าวเจ ้า มันสาปะหลังเป็นหยาง ข ้าวโพดเป็นหยิน มะละกอเป็นหยิน แอปเปิลเป็นหยาง เป็นต ้น
- 84. แม็กโครไบโอติกส์ • เชื่อว่าโรคร ้ายทั้งหลายในโลก เกิดจากการฝ่ าฝืนระเบียบของธรรมชาติ • ขอเพียงแค่หยุดละเมิด ใช ้ชีวิตกลมกลืนกับธรรมชาติ โรคร ้ายก็หายไป
- 85. แนวคิดนี้ จึงให ้เรากินอาหารที่สัมพันธ์กับ สภาพแวดล ้อม เช่น คนที่อยู่ในเขตหนาว อาจกินหยางได ้มากกว่า คนที่ ทางานในเขตร ้อน เมื่อร ้อนในก็ต ้องกินเย็น เมื่อร่างกายเย็นไปก็ต ้องกินร ้อน เป็นต ้น • หากสามารถปรับธาตุร ้อนกับเย็นให ้สมดุล ก็จะไม่มีวัน ป่ วย
- 87. คาว่า เต๋า (道) • ในลัทธิเต๋าแปลตรงตัวว่า ทางเดิน หมายถึงวิถีแห่งธรรมชาติหรือสายทางแห่งจักรวาล • เต๋าเป็นสายทางแห่งความจริง เป็นสายทางแห่งสวรรค์ เป็นเส ้นทางสู่นิรันดร์ • เต๋าเลื่อนไหลไปทุกทิศ
- 88. ลัทธิเต๋า (道教 Taoism) • สอนว่ามนุษย์เรา สมควรเดินไปตามทางยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ โดยไม่ควรไปแก ้หรือฝืนมัน
- 89. ส่วน ลัทธิขงจื๊อ (儒家 Confucianism) ซึ่งกลายเป็นรากของวัฒนธรรมจีน • เกี่ยวพันกับเรื่องจริยธรรม สังคมการเมือง ปรัชญา อภิปรัชญา และจักรวาลวิทยา
- 91. นอกจากนี้ อี้จิง (易經 ) ยังถูกใช ้ในศาสตร์ฮวงจุ้ย (風水 Feng shui) ซึ่งมักถูกดึงให ้เป็นเรื่องของอานาจเหนือธรรมชาติไป เช่น เชื่อว่าพื้นที่ใดที่มีความสมดุลของธาตุและสภาวะ จะมี ‘พลังพิเศษ’ ที่เป็นสิริมงคล กลายเป็นเรื่องไสยศาสตร์ไป
- 92. เรื่องการแบ่งผังบ ้าน เพื่อใส่ดาว (9 ยุค) ลงในผังสาหรับวิเคราะห์ตาแหน่ง พลังงานฮวงจุ้ย มีวิธีการหาพื้นที่กี่แบบ ผมจะสรุปให ้ฟังครับ 1. แบ่งจาก จุดศูนย์กลาง บ ้านหรือห ้อง - สาหรับบุคคลทั่วไปหาได ้ไม่ยาก ยกเว ้นบ ้านทรง แปลกๆ 2. แบ่งจากตาแหน่ง ประธาน (จุดสาคัญ) - เป็นวิธีที่ถ่ายทอดอยู่ในระบบสานักฯ - รายละเอียดค่อนข ้างมาก ต ้องหาจุดประธานเป็น https://www.facebook.com/sinsae/posts/2946852308689292/
- 93. 3. แบ่งจาก พื้นที่ห้อง - การพิจารณาค่อนข ้างยาก ต ้องอาศัยประสบการณ์ ครับ
- 98. แม ้คนไม่น้อย คิดว่า อี้จิง (易經 ) เป็นเรื่องการเสี่ยงทายหรือการทานาย แต่ความจริงแล ้ว • อี้จิง (易經 ) ไม่ใช่ตาราพยากรณ์ชะตาชีวิตและฮวงจุ้ย ศาสตร์อี้จิง ลึกซึ้งกว่านั้นมาก • มันเกี่ยวข ้องกับศาสตร์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปรัชญาการใช ้ชีวิต โภชนาการ หลักการแพทย์ ตาราพิชัยสงคราม สถาปัตยกรรม การวางผังเมือง ไป จนถึงจักรวาลวิทยา
- 99. ในการอธิบายความเป็นไปของ สรรพสิ่ง • อี้จิง (易經 ) ใช ้ฉักกลักษณ์ 64 รูปแบบ หมายถึง 64 ทางเลือก • แต่ละทางเลือก มีความเป็นหยางและหยินไม่ เท่ากัน • ทั้ง 64 ทางเลือกนี้ครอบคลุมทุก เรื่อง
- 101. คนเราเกิดมา ในตัวตนที่เรา(ยัง) เลือกไม่ได ้ ยีนกาหนดหน้าตาของเรา หรืออาจรวมไปถึงนิสัยพฤติกรรมของเราด ้วย • นี่เป็นข ้อแม ้ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได ้เลือกไม่ได ้ แต่ถึงกระนั้น เราก็เกิดมาพร ้อมกับเจตจานงอิสระที่จะเลือก และลงมือกระทาให ้ศักยภาพนั้น กลายเป็นความจริง หรือจะไม่เลือกก็แล ้วแต่
- 102. อี้จิง (易經 ) มองว่าสิ่งที่เรียกว่า ‘เคราะห์ร ้าย’ เป็นผลจากความไม่กลมกลืนกับกฎแห่งธรรมชาติ และกับธรรมชาติที่แท ้จริงของเราเอง • ยกตัวอย่าง เช่น นกมีปีก จึงมีศักยภาพจะบิน แต่ถ ้านกใช ้ปีกนั้นพายน้า นี่ก็คือเคราะห์ร ้าย
- 103. ในทางกลับกัน อี้จิง (易經 ) • มองว่า ‘โชคดี’ คือการกระทาที่กลมกลืนกับวิถี ธรรมชาติ ดังนั้นโชคดีหรือเคราะห์ร ้าย จึงเป็นการกระทาของเราเอง
- 104. ในมุมมองของ อี้จิง (易經 ) ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก ก็คือ cause-effect และ Butterfly Effect (ผีเสื้อตัวหนึ่งขยับปีกในซีกโลกหนึ่งก่อเกิดเหตุการณ์ ในอีกซีกโลกหนึ่ง) • แต่ อี้จิง (易經 ) เห็นว่าบางเหตุการณ์ เราอาจไม่สามารถสัมผัสรับรู้
- 105. จักรวาล แบ่งเป็นสองโลกคือ • โลกแห่งจักรวาลภายในซึ่งมองไม่เห็น หรือหยิน กับโลกภายนอกของวัตถุ หรือหยาง • เราจึงมีความเป็นหยางและหยินทั้งคู่
- 110. • การเชื่อมกับโลกแห่งจักรวาล ภายใน กระทาโดยผ่านการสัมผัสรู้จาก ภายใน • ส่วนการเข ้าสู่โลกภายนอก ต ้องผ่านสติปัญญา นี่อธิบายว่า • สามเส ้นบน ของสัญลักษณ์ ฉัก กลักษณ์ สัมพันธ์กับสวรรค์หรือจักรวาล • สามเส ้นล่าง สัมพันธ์กับโลก
- 111. ต ้ากว ้า (大卦, dà guà) https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
- 113. นี่เองที่ทาให ้มีคนเชื่อว่ามีแต่ นักบวช หรือผู้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น จึงสามารถมองเห็นเหตุการณ์เหนือโลก ผ่านความรับรู้สัมผัสเหนือมนุษย์ที่เข ้าใจเรื่องราวที่ เกิดขึ้น • นี่ทาให ้มันดูกลายเป็นเรื่องเหนือโลกและเป็นการ ทานาย • แต่จริง ๆ อี้จิง ไม่ใช่ ‘การทานาย’ • มันคือ ‘การเลือก’ อย่างหนึ่ง
- 114. จะว่าไปแล ้ว อี้จิง (易經 ) เป็นเรื่องของ ศักยภาพ ก็เหมือน การหว่านเมล็ดข้าว ลงในผืนนา ถ ้าตกลงไปยังจุดที่ไม่ดี ศักยภาพนั้น ก็ไม่กลายเป็นจริง เช่นกัน • ถ ้าเมล็ดข ้าวที่ไม่มีศักยภาพ ตกลงไปในดินดี ก็ไม่แตกหน่อ ต ้องพอดี ทั้งสององค์ประกอบ จึงจะแตกหน่อ
- 115. ศักยภาพของสรรพสิ่ง มีหลายทางเลือก • ทุกทางเลือก มีหนทางเฉพาะของมัน • การเลือกเป็นการหาคาตอบอย่างหนึ่งจากสวรรค์หรือ จักรวาล • การโยนเหรียญทานาย จึงไม่ใช่การเดาสุ่ม แต่เป็นการเผยของจักรวาล
- 116. การเข ้าใจหลักอี้จิง จึงทาให ้เข ้าใจวิถีทางของมนุษย์ ในจักรวาล
- 117. ในมุมของ อี้จิง (易經 ) • มนุษย์ มิใช่ตัวตนเอกเทศ • มนุษย์เกิดจากจักรวาล เป็น ‘อวัยวะ’ หนึ่งของ จักรวาล • เมื่อมองแบบนี้ เราจะแสวงหาความ กลมกลืน มากกว่าความแตกแยก
- 118. ทวิลักษณ์แห่งหยินกับหยาง ปรากฏอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างใน จักรวาล • ทั้งสิ่งที่เราเห็นด ้วยตา ไปจนถึงสิ่งที่เราไม่เห็น เช่น โปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอน ของ อะตอม
- 119. ตารา อี้จิง (易經) ย่อมไม่ได ้พูดถึงโปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอน โดยตรง แต่อธิบายคุณลักษณ์และพฤติกรรมของอะตอม ทางอ ้อม • นั่นคืออะตอม ประกอบด ้วย ขั้วหยางของโปรตอน กับ ขั้วหยินของ อิเล็กตรอน • เช่นเดียวกัน ไฟฟ้าก็ต ้องมีทั้งขั้วหยางและหยิน • แม่เหล็กก็ต ้องใช ้ทั้งสองขั้วเพื่อให ้เกิดแรง • เหล่านี้แสดงให ้เห็นว่า ดูเหมือนว่า โครงสร้างพื้นฐานของจักรวาล ก็คือ สองขั้วแห่งหยางกับหยิน
- 120. แนวคิดของ อี้จิง (易經) ที่มองว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเดียวกัน เพียงเปลี่ยนรูปและสภาวะ ก็เข ้ากับเรื่องสสารกับ พลังงาน ที่เป็นสิ่งเดียวกัน แต่เปลี่ยนรูปไปมา
- 121. Jerry
- 123. นี่ฟังดูเหมือนการโยงหรือจับยัด • แต่มีอีกหลายเรื่องในจักรวาล ที่มองด ้วย อี้จิง (易經) แล ้ว กลมกลืนลงตัวอย่างประหลาด • ยกตัวอย่าง เช่น ใน ทฤษฎี บิ๊กแบง จักรวาลเกิดมาจากความไม่มี กลายเป็นความมี (ภาษาละติน ว่า creatio ex nihilo แปลว่า เกิดจาก ความไม่มี)
- 125. อี้จิง (易經) บอกว่า • ต ้นกาเนิดของสรรพสิ่งคือ ไท่จี๋ (太極) คือที่สุดสูงสุด ซึ่งหมายถึงแรกสุดและท ้ายสุด โดยเชื่อว่า ก่อนการกาเนิดแห่งจักรวาล ไม่มีสิ่งใดเลย ฟ้าดินไม่มีรูปร่าง • มันก็คือสภาวะดั้งเดิมของเต๋า
- 127. เล่าจื๊อ เขียนไว ้ในคัมภีร์ เต ้าเต๋อจิง บทที่ 40 ว่า “สรรพสิ่งมากมายในโลกถือกาเนิดมาจาก ‘ความมี’ แล ‘ความมี’ ถือกาเนิดมาจาก ‘ความไม่มี’...
- 128. หากคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่มันโยงเข ้ากับ จักรวาลวิทยา ก็ลองอ่านอีกตัวอย่าง บทที่ 42 ของคัมภีร์ เต ้าเต๋อจิง เขียนว่า “เต๋าให ้กาเนิดหนึ่ง หนึ่งให ้กาเนิดสอง สองให ้กาเนิดสาม สามให ้กาเนิดสรรพสิ่งมากมายนับไม่ถ ้วน สรรพสิ่งนับไม่ถ ้วนเหล่านี้แบกหยินบนหลัง โอบกอดหยางในวงแขน และผสมผสานพลังทั้งสอง”
- 129. ในมุมมองของฟิสิกส์ จักรวาลวิทยา เรารู้ว่าธาตุต่าง ๆ ในจักรวาลเกิดขึ้นมาได ้อย่างไร • และเริ่มที่โปรตอนหนึ่งตัว ไม่กี่นาทีหลังจากเกิด บิ๊ก แบง เกิดนิวเคลียสของธาตุไฮโดรเจน ซึ่งมีโปรตอนหนึ่งตัว • ตามมาด ้วยนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม ซึ่งมีโปรตอน สองตัว • และนิวเคลียสของธาตุลิเทียม ซึ่งมีโปรตอนสามตัว
- 130. ก็คือ “หนึ่งให ้กาเนิดสอง สองให ้ กาเนิดสาม”
- 131. หลังจากนั้น จักรวาลใหม่ ก็สร ้างอะตอมของธาตุที่หนักขึ้นตามมาอีกร ้อยกว่าธาตุ • โดยการผสมผสานธาตุเบาต่าง ๆ เข ้าด ้วยกัน ภายในใจกลางดวงดาว ธาตุต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบขึ้นเป็นสรรพสิ่งในจักรวาล • มันตรงกับ “สามให ้กาเนิดสรรพสิ่งมากมายนับไม่ถ ้วน”
- 133. บังเอิญ? หรือไม่บังเอิญ? หรือมันเป็นเช่นนั้นเอง? “I look at the world And I notice it’s turning While my guitar gently weeps...” • ขงจื๊อ เขียนไว ้ใน ตารา สิบปี ก (十翼) ว่า “ผู้ใดรู้เต๋าแห่งการเปลี่ยนแปลงและการแปลง ลักษณ์ ก็จะเข ้าใจการกระทาของเบื้องบน”
- 134. และเราจะรู้เต๋าแห่งการ เปลี่ยนแปลงได ้อย่างไร หากเราไม่มอง? “With every mistake We must surely be learning Still my guitar gently weeps”
- 135. While My Guitar Gently Weeps (1968) • ในบรรดานักดนตรีสี่คนของวง The Beatles ผมชอบ จอร์จ แฮริสัน มากที่สุด และในบรรดาเพลงทั้งหมดที่เขาแต่ง ผมชอบเพลงนี้ที่สุด “I look at you all see the love There that’s sleeping While my guitar gently weeps I look at the floor And I see it needs sweeping Still my guitar gently weeps...”
- 136. มันเป็นเพลงแนวทดลอง จอร์จ แฮริสัน เล่าว่า วันหนึ่งเขาเปิดหนังสืออี้จิ้ง เล่ม หนึ่ง “...อย่างไม่ตั้งใจ และเห็นคาว่า ‘gently weeps’ ผมวางหนังสือลง แล ้วเริ่มแต่งเพลง” เขาบอกว่า ตามคัมภีร์อี้จิง ไม่มีสิ่งใดในโลกเกิดขึ้นด ้วยความ บังเอิญ บางทีอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขาพบเห็นคาคานั้น?
- 138. อี้จิง (จีน:易經) คือวิชาที่ว่าด ้วย การเปลี่ยนแปลง จากมีเป็นไม่มี ไม่มีเป็นมี บวกกลายเป็นลบ ลบกลายเป็นบวก จึงมีการแทนสิ่งเหล่านี้ด ้วยเส ้นเต็มและเส ้นขาดสอง แบบ เมื่อนามารวมกันหกเส ้นหรือฉักลักษณ์ (ฉักกะ = หก, ลักษณะ = รูปแบบ) • เมื่อนามาหาค่าความน่าจะเป็นก็จะได ้รูปแบบการ เปลี่ยนแปลงถึงหกสิบสี่แบบ จนกลายมาเป็นแม่แบบ ของวิชาฮวงจุ้ยหกสิบสี่ข่วยด ้วยนั่นเอง • ด ้วยรูปแบบแห่งความจริง ของการเปลี่ยนแปลงหก สิบสี่แบบนี้เอง • มันคือความจริงแท ้ที่เดินคู่กับชีวิตคนเรา
- 139. อี้จิง • หลักการอ่านของวิชาอี้จิงมีหลายแบบ • แต่โดยหลักใหญ่คือ เราต ้องหาวิธีผู่กว ้าหรือการขึ้น รูปแบบของกว ้า ซึ่งประกอบไปด ้วยเส ้นหกเส ้นให ้ได ้เสียก่อน • โดยการขึ้นกว ้านี้ ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว สามารถขึ้นได ้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเห็นคนเดินมาแล ้ว เราก็ตีความหมายมาเป็นกว ้า หรือการโยนเหรียญ แล ้วนามาขึ้นกว ้า หรือการใช ้วันเดือนปีและเวลาปัจจุบัน มาตั้งกว ้า ก็ ถูกต ้องทั้งหมด
- 140. ที่บอกว่าถูกต ้องทั้งหมด • เพราะการขึ้นกว ้า จุดประสงค์เพื่อต ้องการอ่าน เรื่องราวที่เราต ้องการ • โดยผู้ถามต ้องมีความสัมพันธ์กับเรื่องนั้นด ้วย จึงจะสามารถทาให ้การอ่านนั้นถูกต ้องได ้ • หลักเบื้องต ้นของการอ่านความหมายของ "อี้จิง" ต ้องรู้ความหมายของข่วยเสียก่อน ซึ่งหากมีความรู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ย อาจจะได ้เปรียบในจุด นี้
- 141. เมื่อครั้งบรรพกาล กษัตริย์อวี่ ประสบปัญหาอุทกภัย • มีมังกรแบกภาพใบหนึ่งโผล่มาจากแม่น้าฮวงโห (ภาพเหอถู) • ตะพาบวิเศษก็คาบหนังสือเล่มหนึ่ง ขึ้นจากลาน้าลั่วสุ่ย (ตาราลั่วซู) • อวี่ อาศัยภาพและตารา ปรับเปลี่ยนขุนเขาทางน้าแก ้ปัญหาอุทกภัยทั้งเก ้า แคว ้นสาเร็จ • หลังจากนั้น ก็อาศัย ภาพเหอถู และความรู้จากการ ขจัดอุทกภัย เขียนตารา เหลียงซาน ขึ้น เป็นความหมายว่า เชื่อมต่อแม่น้าภูเขา
- 142. เมื่อ กษัตริย์ อวี่ เสียชีวิต • บุตรชายคือเซี่ยฉี ก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ราชวงศ์เซี่ย • เทิดทูนตาราเหลียงซาน เป็นคัมภีร์วิเศษ ใช ้เสี่ยงทายทานายโชคเคราะห์ ต่อมา ซางทัง ล ้มล ้างราชวงศ์เซี่ย ก่อตั้งราชวงศ์ซางขึ้น • ตาราเหลียงซาน ตกอยู่ในมือมหาเสนาบดี นาม อีอิน ทาการปรับปรุ่งกลายเป็นตารากุยฉัง หมายความว่าสรรพสิ่งของฟ้าดินล ้วนเก็บซ่อนอยู่ ภายใน • ต่อมาใช ้เป็นเครื่องมือทานายโชคเคราะห์
- 143. ปลายราชวงศ์ซาง ติ้วอ๋อง จับกุม จีซาง ไว ้ในสถานที่เรียกว่า เซียงหลี่ • จีซาง เป็นคนชาญฉลาดระหว่างที่ถูกขัง ทาการศึกษา ตารา กุยฉัง จนจัดทาตารา โจวอี้ ซึ่งอีกชื่อหนึ่งคือ อี้จิง ครอบคลุมถึงความ เปลี่ยนแปลงทั้งมวล สรุปแล ้วตาราทั้งสามเล่มแม ้มีชื่อผิดแผก แท ้ที่จริงมีส่วนเกี่ยวเนื่องกัน
- 144. ธาตุในจักรวาลที่สาคัญ และมีผลในการอธิบายปรากฏการณ์ของอิน-เอี้ยง คือ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้า ธาตุไม ้ ธาตุไฟ • รวมเรียกว่า เบญจธาตุ หรือ โหงวเฮ ้ง • ธาตุต่าง ๆ ได ้แสดงให ้เห็นถึงวัฏจักรของการกาเนิดและการดับ สูญ การทาลายล ้างซึ่งกันและกัน https://sinsae.com/i-ching/
- 146. เริ่มต ้นจากการให ้กาเนิด • ธาตุดิน ให ้กาเนิดทอง • ธาตุทอง ให ้กาเนิดธาตุน้า • ธาตุน้า ให ้กาเนิดธาตุไม ้ • ธาตุไม ้ ให ้กาเนิดธาตุไฟ และ • ธาตุไฟ ให ้กาเนิดธาตุดิน เป็นวัฏจักรเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
- 147. ขณะเดียวกัน วัฏจักรแห่งการทาลายล ้างคือ • ธาตุทองทาลายธาตุไม ้ • ธาตุไม ้ทาลายธาตุดิน • ธาตุดินทาลายธาตุน้า • ธาตุน้าทาลายธาตุไฟ • ธาตุไฟทาลายธาตุทอง เป็นวัฏจักรแห่งการพิฆาตทาลาย อีกวัฏจักรหนึ่ง เช่นนี้เรื่อยไป
- 148. หลักการเกิดและการดับของเบญจ ธาตุ (โหงวเฮ ้ง) • โดยตาราของฮวงจุ้ย ได ้นาหลักในคัมภีร์ อี้จิง เรื่องโหงวเฮ ้ง มาเป็นหัวใจ ในการกาหนดกรรมวิธีในการคานวณและในการ พยากรณ์ • เกี่ยวกับการหาทาเลที่อยู่อาศัยตั้งถิ่นฐานทาการค ้า ทามาหากิน รวมถึงการหาทาเลในการทาสุสาน เพื่อเก็บฝังบรรพ บุรุษ และใช ้ในการเซ่นไหว ้ ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ
- 149. ความสาคัญ ความศรัทธาของชาว จีน ที่มีต่อวิชาฮวงจุ้ยในเชิงการปฏิบัติ • มีความเชื่อว่าหากบริเวณใด สถานที่หรือสภาพแวดล ้อมใด ๆ ที่มีองค์ประกอบของธาตุทั้งห ้าครบถ ้วน คือ ธาตุทอง ธาตุน้า ธาตุไม ้ธาตุไฟ และธาตุดิน • หรือ เป็นตัวแทนของโลหะ, ของเหลว, พืชพันธุ์ สิ่งมีชีวิต, พลังงาน, และแผ่นดิน ตามลาดับ • อยู่รวมกันในอัตราส่วนที่สมดุล ทั้งยังมีวัฎจักรของการกาเนิด และเสื่อมสลาย ทาลาย ล ้างซึ่งกันและกัน ในอัตราส่วนที่พอเหมาะสม่าเสมอแล ้ว
- 150. บริเวณสถานที่นั้นจะเป็นทาเล ชัยภูมิ ที่มีพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ แห่งความเป็นศิริมงคล • เป็นพลังแห่งฟ้า และพลังแห่งผืนแผ่นดิน • พลังทั้งสองจะเกื้อกูลและห่อหุ้มให ้สภาพแวดล ้อมนั้น ปรับปรุงเสริมแต่งให ้เป็นสถานที่มงคล • และหากบุคคลใดอยู่ในสภาพแวดล ้อมของธรรมชาติ ที่สมดุล มีธรรมชาติที่ประกอบด ้วยความร ้อนหรืออุณหภูมิ กระแสความเร็วลม และความชื้นสัมพันธ์ที่เหมาะสม ก็ย่อมจะอยู่ในสภาพที่เรียกว่า สภาวะน่าสบาย ตามหลักของภูมิศาสตร์
- 152. หลักแห่งความสมดุลในเบญจธาตุ นี้ • ยังถูกใช ้ด ้านโภชนาการ วิเคราะห์ทางด ้านการแพทย์ • การวางผังพิชัยสงคราม • การวางผังเมือง • การพยากรณ์ชะตาชีวิต • การพยากรณ์ดินฟ้าอากาศ หรือแม ้แต่การหาทาเล สาหรับทาสุสานบรรพชน
- 155. รักแรกของสุนทรภู่ รักแรกของสุนทรภู่ในวัย ๒๐ ก็ได ้เรื่องแล ้ว เมื่อ จัน สาวคนรัก เป็นฝ่ ายในของกรมพระราชวังหลัง • เมื่อความแตก สุนทรภู่ก็ถูกลงโทษด ้วยการจองจา แต่ไม่นานกรมพระราชวังหลังทิวงคต • สุนทรภู่ก็พ ้นโทษ และได ้แต่งงานกับสาวคนรักที่ทา ให ้ติดคุก จนมีลูกด ้วยกันคนหนึ่ง https://mgronline.com/onlinesection/detail/962000009 7881
- 157. ต่อมา จัน ก็ทนความเป็นคนขี้เหล ้าของ สุนทรภู่ ไม่ไหว ต ้องเลิกร ้างไป • สุนทรภู่ มีเมียใหม่อีกหลายคน • แต่ก็อยู่กับใครได ้ไม่นาน เพราะเรื่องเหล ้าเป็นเหตุ
- 158. แม ้พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ หล ้านภาลัย • ที่ทรงได ้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให ้เป็นกวีเอกของโลก ในปีเดียวกับสุนทรภู่ • ซึ่งทรงโปรดในด ้านกวีของสุนทรภู่ ให ้เอาตัวมารับราชการในกรมอาลักษณ์ • ก็ยังทรงรับสั่งให ้เอาสุนทรภู่ไปจองจา เพราะทาร ้ายญาติผู้ใหญ่จนเจ็บหนักเพราะความเมา
- 159. แต่ด ้วยความสามารถด ้านกวี ก็ทาให ้สุนทรภู่ ออกจากตะรางได ้ เมื่อทรงต ้องการตัว
- 160. ในระหว่างที่มีชีวิตรุ่งโรจน์ในสมัย ร.๒ นี้ • สุนทรภู่ ก็ได ้สร ้างความขุนเคืองพระทัยไว ้กับ พระเจ ้าลูกยา เธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ หลายครั้ง
- 161. ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล ้าฯ ทรงมอบบทละครเรื่อง “อิเหนา” ตอนบุษบาเล่นธาร ให ้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ทรงนิพนธ์ • และเมื่อนิพนธ์เสร็จ พระเจ ้าลูกยาเธอ ทรงวานให ้ขุนสุนทรโวหารช่วยตรวจทาน ซึ่งสุนทรภู่ ก็กราบทูลเมื่ออ่านเสร็จว่า “ดีอยู่แล ้ว”
- 163. สุนทรภู่ ก็ว่าความยังไม่ชัด ขอแก ้เป็น • “น้าใสไหลเย็นเห็นตัวปลา แหวกว่ายปทุมมาอยู่ไหวไหว” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ ้าอยู่หัว ก็ทรงโปรดที่สุนทรภู่แก ้ • แต่พระเจ ้าลูกยาเธอ ทรงขุนเคืองพระทัยที่ให ้สุนทรภู่ ช่วยตรวจทานแล ้ว แต่ไม่แก ้ มาหักหน้าต่อที่ประชุมเช่นนี้
- 164. อีกครั้งหนึ่ง เมื่อ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ทรงรับพระราชทานบทละครเรื่อง “สังข์ทอง” มานิพนธ์ ตอนเลือกคู่ • เมื่อทรงอ่านถวายในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า “จาจะปลูกฝังเสียยังแล ้ว ให ้ลูกแก ้วสมมาดปรารถนา” • สุนทรภู่ก็ท ้วงอีกว่าไม่ชัด ลูกปรารถนาอะไร พระเจ ้าลูกเธอ ก็ทรงแก ้เป็น “ให ้ลูกแก ้วมีคู่เสน่หา”
- 165. ฉะนั้นใน พ.ศ.๒๓๖๗ • เมื่อกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ได ้ขึ้นครองราชย์เป็น รัชกาลที่ ๓ • ชีวิตของขุนสุนทรโวหารเลยตกอับ ถูกถอดยศถาบรรดาศักดิ์ • คนทั้งหลายจึงเรียกกันว่า “สุนทรภู่” และไม่มีใครกล ้าชุบเลี้ยงเกื้อกูล เพราะเกรงจะขัดพระราชหฤทัย ภรรยาที่อยู่ด ้วยกันก็ เลิกร ้างไปอีกคน • ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครเหลียวแล • ในปีนั้นสุนทรภู่ ต ้องยึดเอาผ ้าเหลืองเข ้าคุ้มตัวโดย ออกบวช
- 166. ปลายรัชกาลที่ ๓ ชีวิตสุนทรภู่ค่อยสุขสบายขึ้น • เมื่อเจ ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ทรงเมตตาปราณีให ้ไปอยู่พระราชวังเดิม ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์ • ทั้งกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ราชธิดาองค์โปรดของรัชกาลที่ ๓ ซึ่งทรงสร ้าง วัดเทพธิดาราม ให ้ก็ทรงเมตตา สุนทร ภู่ และรับสั่งให ้ สุนทรภู่ แต่ง พระอภัยมณี ที่ค ้างอยู่จนจบ
- 167. ครั้นเมื่อสิ้นรัชกาลที่ ๓ • พระบาทสมเด็จพระจอมเกล ้าเจ ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาสมเด็จพระเจ ้าน้องยาเธอ เจ ้าฟ้ากรม ขุนอิศเรศรังสรรค์ ขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล ้าเจ ้าอยู่หัว • ชะตาชีวิตของสุนทรภู่ ก็รุ่งโรจน์ขึ้นเป็นเจ ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ ายพระราชวังบวร • มีบรรดาศักดิ์เป็น พระสุนทรโวหาร ในวัย ๖๖ ปี
- 170. อี้จิง (จีน:易經) คือวิชาที่ว่าด ้วย การเปลี่ยนแปลง จากมีเป็นไม่มี ไม่มีเป็นมี บวกกลายเป็นลบ ลบกลายเป็นบวก จึงมีการแทนสิ่งเหล่านี้ด ้วยเส ้นเต็มและเส ้นขาดสอง แบบ เมื่อนามารวมกันหกเส ้นหรือฉักลักษณ์ (ฉักกะ = หก, ลักษณะ = รูปแบบ) • เมื่อนามาหาค่าความน่าจะเป็นก็จะได ้รูปแบบการ เปลี่ยนแปลงถึงหกสิบสี่แบบ จนกลายมาเป็นแม่แบบ ของวิชาฮวงจุ้ยหกสิบสี่ข่วยด ้วยนั่นเอง • ด ้วยรูปแบบแห่งความจริง ของการเปลี่ยนแปลงหก สิบสี่แบบนี้เอง มันคือความจริงแท ้ที่เดินคู่กับชีวิตคนเรา
- 173. เส ้นล่างสุด (เส ้นขาด) มาจาก หยิน
- 174. เส ้นล่างสุด (เส ้นเต็ม) มาจาก หยาง
- 178. ต ้ากว ้า (大卦, dà guà) https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
- 182. ชุดที่ 1 ข่วย คุง เป็น “ขี่” http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 183. ชุดที่ 2 ข่วย กึ่ง เป็น “ขี่” (เลข 6 ธาตุน้า) http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 184. ธาตุภาคีของ “ฮ่อโต ้ว” (เหอถู) http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 187. สถานะตามทิศ ส่วนที่กล่าวไปแล ้ว เป็นการกาหนด สถานะตามเวลา • เราจะมากาหนด สถานะตามทิศ หรือ ตามพื้นที่ โดย เราจะให ้พลังหยาง เป็นพลังที่อยู่ใน ทิศ แนวนอน (ทิศจากตะวันออกไปตะวันตก) https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
- 188. พระอาทิตย์ขึ้น-ลง
- 190. สนามแม่เหล็กโลก
- 191. สาหรับเหตุผลนั้น • จะเกี่ยวกับเรื่อง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ ดวงดาว ซึ่งถ ้ามีเวลาจะอธิบายในโอกาสต่อไป • ตอนนี้ต ้องไม่ลืม ที่เคยกล่าวไว ้ในช่วงแรก ว่า พลังหยิน พลังหยาง อยู่แยกกันได ้ เป็นพลังงาน 2 สาย
- 192. เมื่อนามาเขียนเป็นรูป และใช ้นิยาม ตามที่กาหนด ก็จะได ้ตามภาพด ้านล่าง https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
- 193. ในรูปเป็นเพียงแค่ 2 มิติ เราอาจจะเพิ่มไปอีกมิติ หรือ ทิศ หนึ่งก็จะได ้เป็น 3 มิติ • โดย มิติที่เพิ่มมานั้น อาจจะเป็น นอก/ใน หรือ สูง/ต่า (แต่ไม่สูงมาก เพราะมนุษย์อาศัยอยู่บนพื้น อยู่บน ท ้องฟ้าไม่ได ้) ก็ได ้ โดยกาหนดให ้
- 194. เวกเตอร์ในสามมิติ
- 195. ซึ่งสามารถ แสดงได ้ตามภาพด ้านล่าง โดยให ้เครื่องหมายบวก (+) เป็นหยาง | เครื่องหมายลบ (-) เป็นหยิน https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
- 196. ชุดที่ 3 ข่วย คั่น เป็น “ขี่” (เลข 7 ธาตุไฟ) http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 197. ชุดที่ 4 ข่วย สุ่ง เป็น “ขี่” (เลข 2 ธาตุไฟ) http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 198. ผังก่อน-หลังฟ้า http://www.sages99.com/index.php/sages/362 4 9 2 3 7 8 1 6 ดึงมาแค่ “ตัวเลข”
- 201. ชุดที่ 5 ข่วย จิ้ง เป็น “ขี่” (เลข 8 ธาตุไม ้) http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 202. ชุดที่ 6 ข่วย ลี้ เป็น “ขี่” (เลข 3 ธาตุ ไม ้) http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 203. ชุดที่ 7 ข่วย ต๋วย เป็น “ขี่” (เลข 4 ธาตุทอง)
- 204. ชุดที่ 8 ข่วย เคี้ยง เป็น “ขี่” (เลข 9 ธาตุทอง)
- 205. • ข่วยทั้ง 64 ชุด ที่แสดงทั้งหมด มีที่มาที่ไปดังแสดงไว ้แล ้ว • ขอให ้จดจา ฝึกฝน อ่านทบทวนให ้คล่อง ว่า ข่วยใด มีพลัง (ขี่) อย่างใด ธาตุอะไร http://www.sages99.com/index.php/sages/362
- 207. ที่มาที่ไป ฤกษ์ยาม 64 ข่วย http://www.sages99.com/index.php/sages/411
- 209. เพิ่ม “ข่วย” มาอีก 4 ชุด http://www.sages99.com/index.php/sages/411
- 217. “พ่อ แม่ ฟ้า ดิน คน” ของข่วย http://www.sages99.com/index.php/sages/411
- 218. เลขยุค 1 ข่วยพ่อ-แม่ เลขยุค 2 ข่วยฟ้า http://www.sages99.com/index.php/sages/411
- 219. เลขยุค 3 ข่วยคน
- 220. เลขยุค 4 ข่วยดิน
- 221. เลขยุค 6 ข่วยดิน
- 222. เลขยุค 7 ข่วยคน
- 223. เลขยุค 8 ข่วยฟ้า
- 224. เลขยุค 9 ข่วยพ่อ-แม่
- 226. หลักการและองค์ประกอบ ของ ฤกษ์ยาม 64 ข่วย http://www.sages99.com/index.php/sages/412
- 230. เลขยุค 1 ข่วยพ่อ-แม่
- 231. เลขยุค 9 ข่วยพ่อ-แม่
- 233. การต่งง ้าว เปลี่ยนเส ้นข่วย http://www.sages99.com/index.php/sages/412
- 239. การต่งง ้าว เปลี่ยนเส ้นข่วย http://www.sages99.com/index.php/sages/412