Mais conteúdo relacionado
ห้วยขวาง ไชน่าทาวน์ใหม่
- 2. 1โครงการคลังปัญญาเพื่อการอภิวัตน์ประเทศไทยในยุคบูรพาภิวัตน์ สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ฯ
วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต
เขตห้วยขวาง เป็นเขตหนึ่งในกรุงเทพมหานครที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่น ในแง่
ภูมิศาสตร์เขตห้วยขวางตั้งอยู่บริเวณตอนกลางค่อนไปทางเหนือของฝั่งพระนคร มีพื้นที่ 15,033
ตารางกิโลเมตร และมีประชากรทั้งหมด 78,943 คน ทั้งนี้ เหตุผลสาคัญที่ทาให้เขตห้วยขวางได้รับการ
ขนานนามว่าเป็น “ไชน่าทาวน์ใหม่” คือการที่มีชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจานวนมาก โดยมีประมาณ 5,000
คน คิดเป็นสัดส่วน 6% ของประชากรทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งชาวจีนเหล่านี้ค่อยๆ ก่อร่างชุมชนใหม่ที่มี
ลักษณะเฉพาะตัว อย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเขตห้วยขวาง
การย้ายถิ่นฐานของชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยส่งผลให้ชาวจีนเหล่านี้ต้อง
ปรับตัวในการดาเนินวิถีชีวิตหลายด้านโดยเฉพาะด้านการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ซึ่งถือเป็น
แรงจูงใจหลักที่ดึงดูดให้ชาวจีนสนใจมาใช้ชีวิตและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในประเทศไทย งานที่ชาวจีน
ในเขตห้วยขวางยึดเป็นอาชีพส่วนใหญ่คืองานที่ใช้ทักษะที่เกี่ยวกับภาษา และสังคมวัฒนธรรมจีน ซึ่งมี
ดังนี้
ผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยว
เขตห้วยขวางมีบริษัทท่องเที่ยวและสาขาของบริษัทท่องเที่ยวมากกว่า 100 แห่ง ซึ่งมีทั้ง
บริษัทที่นานักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในไทย และบริษัทที่นานักท่องเที่ยวไทยไปยังจีน โดย
ปัจจุบันมีชาวจีนที่ทางานให้บริษัทเหล่านี้จานวนมาก โดยประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ประมาณ
2,000 คน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ เช่น ร้านจัดเลี้ยง ร้านอาหาร ประมาณ 500 คน
ผู้ที่ประกอบอาชีพครูสอนภาษา
นักศึกษาจีนที่มาศึกษาในไทยและจบการศึกษาแล้วมักยังอยู่ในพื้นที่ต่อโดยยึดอาชีพครูสอน
ภาษาไทยให้คนจีน รวมทั้งสอนภาษาจีนให้แก่คนไทย นอกจากนี้ยังทางานด้านการอานวย
ความสะดวกด้านภาษาและการสื่อสารให้กับชาวจีนที่เข้ามาทาธุรกิจในไทยอีกด้วย โดยชาว
Yunnan Academy of Social Sciences
Haiqiu Yu (Assosiate Professor)
- 3. 2
ผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการค้าขาย
ในปัจจุบันซึ่งทั่วโลกอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว E-Commerce หรือการ
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงกลายเป็นอีกทางเลือกที่สร้างรายได้ให้ชาวจีนในเขตห้วยขวางโดย
วิธีการขายและรับสั่งซื้อสินค้าไทยทางอินเทอร์เน็ตเพื่อส่งไปยังประเทศจีน นอกจากนี้ ยังมี
ชาวจีนที่เป็นบุคลากรด้านระบบการจัดการขนส่งโลจิสติกส์รวมจานวนกว่า 1,000 คน
ชาวจีนที่กาลังมองหาโอกาสในการประกอบอาชีพ
มีจานวนประมาณ 500 – 700 คน
การก่อร่างสร้างรูปของชุมชนชาวจีนในเขตห้วยขวาง
เดิมทีเขตห้วยขวางเคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของชาวไทยและยังเป็นแหล่งที่มีธุรกิจด้าน
อาบอบนวดอยู่ค่อนข้างหนาแน่น จนกระทั่งปลายทศวรรษที่ 1980 ชาวจีนได้เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานใน
พื้นที่ดังกล่าว โดยคนกลุ่มแรกที่เข้ามาเป็นชาวไต้หวัน ต่อมาภายหลังจีนเปิดประเทศและมีนโยบาย
ส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทาให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
มากขึ้น แต่ในช่วงเวลานั้นยังขาดบุคลากรชาวไทยที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ ด้วยเหตุดังกล่าว จึง
เป็นโอกาสให้ชาวจีนมณฑลยูนนานที่พานักอยู่ในภาคเหนือของประเทศไทยเข้ามาทางานเป็นล่ามและ
มัคคุเทศก์ในกรุงเทพมหานครมากขึ้น ซึ่งชาวจีนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะรวมตัวกันอาศัยอยู่ในเขตห้วยขวาง
และอาศัยอยู่ต่อเนื่องยาวนานนับ 10 ปีส่งผลให้พื้นที่บริเวณเขตห้วยขวางค่อยๆ พัฒนาเป็นย่านคนจีน
อย่างสมบูรณ์
ต่อมาในสมัยรัฐบาลพันตารวจโททักษิณ ชินวัตร เริ่มมีการดาเนินนโยบายสนับสนุนการ
แลกเปลี่ยนทางการศึกษาและวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีน ทาให้มีนักเรียนจีนหลั่งไหลเข้ามาศึกษาใน
ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนเกิดความผูกพันกับสังคมไทย ภายหลังสาเร็จการศึกษาแล้วชาวจีน
จานวนหนึ่งจึงเลือกที่จะทางานและใช้ชีวิตอยู่ในไทยต่อไป โดยส่วนใหญ่ทางานให้กับบริษัทไทยและ
บริษัทไต้หวัน ซึ่งหากคนเหล่านี้ประสบความสาเร็จก็มีโอกาสที่ญาติพี่น้องจะติดตามเข้ามาอาศัยอยู่ใน
ประเทศไทย ส่งผลให้ชุมชนชาวจีนขยายตัวประกอบกับปีค.ศ. 2004 ที่กรุงเทพมหานครเริ่มเปิดบริการ
รถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งมีเส้นทางตัดผ่านย่านห้วยขวางเอื้อให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว ยิ่งเป็นปัจจัยดึงดูด
ให้ชาวจีนมารวมตัวกันมากขึ้น
ปัจจัยสาคัญอีกประการหนึ่งที่กระตุ้นให้ชาวจีนหลั่งไหลเข้ามาในไทยอย่างคับคั่ง คือการ
เผยแพร่ภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand ไปทั่วประเทศจีนในปีค.ศ. 2012 เป็นเหตุให้จานวน
นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยเพิ่มจาก 2.4 ล้านคน เป็นจานวนมากถึง 4 ล้านคนต่อปี ด้วยการ
เติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวอย่างก้าวกระโดดนี่เอง ทาให้มัคคุเทศก์จีนพยายามจะเข้ามาทางานในไทย
จานวนมาก โดยเลือกพานักอยู่ในเขตห้วยขวางเป็นส่วนมาก
โครงการคลังปัญญาเพื่อการอภิวัตน์ประเทศไทยในยุคบูรพาภิวัตน์ สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ฯ
วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต
- 4. 3
ธุรกิจชุมชนและสถานะชุมชนชาวจีน
ในอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในสายตาชาวจีนส่งผลให้สินค้าไทยสามารถ
ส่งออกและทากาไรได้สูงมากในตลาดของประเทศจีน สินค้าดังกล่าว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ลดน้าหนัก
เช่น ยาของโรงพยาบาลยันฮี เครื่องสาอาง เช่น Mistine, Beauty Buffet, Snail White และอาหาร
เช่น บะหมี่กึ่งสาเร็จรูปมาม่ารสต้มยากุ้ง เป็นต้น โดยสินค้าที่ขายดีที่สุดสามารถสร้างรายได้สุทธิได้
มากกว่า 4 ล้านหยวนต่อเดือน ซึ่งบริษัทที่ทาหน้าที่จัดส่งสินค้าเหล่านี้ไปยังจีนมีจานวนมากกว่า 200
บริษัท ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณซอยประชาราษฎร์บาเพ็ญในเขตห้วยขวาง โดยมีจุดรับซื้อสินค้า
กระจายอยู่ 25 จุด นอกจากนี้ การพัฒนาด้านการค้าดังกล่าวยังทาให้เกิดการยกระดับอุตสาหกรรม
การขนส่งอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีบริษัทโลจิสติกส์ทั้งหมด 7 แห่ง
โครงการคลังปัญญาเพื่อการอภิวัตน์ประเทศไทยในยุคบูรพาภิวัตน์ สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ฯ
วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต
อิทธิพลของชุมชนชาวจีนที่มีต่อสังคมไทย
การเกิดขึ้นของชุมชนชาวจีนในเขตห้วยขวางซึ่งมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องได้สร้าง
ทั้งประโยชน์และผลกระทบอย่างมีนัยยะสาคัญ โดยผลดีที่ไทยได้รับจากชุมชนชาวจีนและการ
หลั่งไหลเข้ามาของนักเที่ยวจีน ประการแรกคือ การส่งเสริมและเพิ่มระดับการบริโภคและการพัฒนา
เศรษฐกิจของไทยและภูมิภาค เนื่องจากจีนมีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่และชาวจีนในปัจจุบันมีกาลัง
ซื้อเพิ่มขึ้นประกอบกับสถานที่ท่องเที่ยวและสินค้าไทยได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวจีน จึงทา
ให้ไทยได้ประโยชน์จากธุรกิจการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าไปยังจีนเป็นอย่างมาก ประการที่
สอง คือ การส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากเอกลักษณ์ของชุมชน
ห้วยขวางที่มีการผสมผสานความเป็นไทยและจีนไว้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของชุมชนชาวจีนก็ได้สร้างผลกระทบในหลายด้าน ประการแรกคือ
การหลั่งไหลเข้ามาของชาวจีนอย่างไม่มีขีดจากัดอาจนามาซึ่งปัญหาอาชญากรรมในชุมชน เช่น การ
ลักขโมย ปัญหายาเสพติด เป็นต้น ผลเสียอีกประการหนึ่ง คือลักษณะนิสัยและบุคลิกที่ไม่พึงประสงค์
ของชาวจีนบางกลุ่มอาจสร้างความราคาญให้กับผู้อื่นได้ นอกจากนี้ การที่มีสินค้าไทยส่งออกไปขาย
ในจีนและได้รับความนิยมมากอาจนาไปสู่โอกาสเสี่ยงที่สินค้าเหล่านั้นจะถูกลอกเลียนแบบโดยพ่อค้า
จีน ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าไทยเสียชื่อเสียงและขาดการยอมรับในระยะยาว
แนวโน้มการปรับตัวเพื่อพัฒนาสู่ความเป็น “ไชน่าทาวน์ใหม่”
การก่อร่างและขยายตัวของชุมชนชาวจีนในเขตห้วยขวางและการเข้ามาของชาวจีนจานวน
มากในประเทศไทยได้สร้างทั้งโอกาสและความเสี่ยงในหลายประการโดยเฉพาะปัญหาความไม่
กลมกลืนทางสังคม ดังนั้นในการสร้างไชน่าทาวน์ใหม่ รัฐบาลควรให้ความสาคัญกับการส่งเสริมความ
เข้าใจในเรื่องวัฒนธรรมในพื้นที่สาธารณะระหว่างชาวไทยและชาวจีนให้มากขึ้นเพื่อลดผลกระทบต่อ
ความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากนี้ ในด้านการส่งเสริมความเข้มแข็งของธุรกิจชุมชนและเสริมข้อ
ได้เปรียบของสินค้าไทย ควรมีการปรับเปลี่ยนวิธีการค้าขายให้มีประสิทธิภาพ เช่น การส่งเสริม
ยุทธศาสตร์การค้าออนไลน์ เป็นต้น
- 5. 4
ที่อยู่ติดต่อ
วิทยาลัยบริหารรัฐกิจและรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
52/347 พหลโยธิน 87 ตาบลหลักหก อาเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 12000
โทรศัพท์ 02-997-2200 ต่อ 1283 โทรสาร 02-997-2200 ต่อ 1216
สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยรังสิต
อาคารพร้อมพันธุ์ 1 ชั้น 4/2 637/1 ถนนลาดพร้าว เขตจตุจักร กทม. 10900
โทรศัพท์ 02-930-0026 โทรสาร 02-930-0064
โครงการคลังปัญญาเพื่อการอภิวัตน์ประเทศไทยในยุคบูรพาภิวัตน์ สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ฯ
วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผู้อานวยการสถาบันคลังปัญญาฯ : ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์
บรรณาธิการ: น.ส.ยุวดี คาดการณ์ไกล
ถอดความ: นายพิพัฒพงศ์ ชูประสิทธิ์
เรียบเรียง: น.ส.จุฑามาศ พูลสวัสดิ์
ผู้ประสานงาน: อ.อารณีย์ วิวัฒนาภรณ์ นางพัชร์พิชา เคียงธนสมบัติ
ปีที่พิมพ์: เมษายน 2558
ผู้เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยน
ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ คุณสมปอง สงวนบรรพ์ ศ.ดร.สมบูรณ์ สุขสาราญ
รศ.ดร.สมศักดิ์แต้มบุญเลิศชัย รศ.ดร.จานง สรพิพัฒน์ อ.ทนงศักดิ์วิกุล
ผศ.ดร.ศุภมิตร ปิติพัฒน์ ดร.พนา สถิตศาสตร์ อ.ศิวพล ละอองสกุล
อ.ชาคริต เทียบเธียรรัตน์ รศ.สายฝน สุเอียนทรเมธี ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์
ดร.วุฒิพล วุฒิวรพงษ์ ดร.สินาด ตรีวรรณไชย