Recomendados
Mais conteúdo relacionado
Destaque
Destaque (10)
Mais de Khunnawang Khunnawang
Mais de Khunnawang Khunnawang (20)
5.pre nt
- 1. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 1 แบบทดสอบความสามารถด้านภาษา สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต ๑ ------------------------------------------------------------------------------------------------------ คําชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความในกรอบที่กําหนดให้ซึ่งมีทั้งหมด ๑๑ ข้อความ แล้วตอบคําถามของแต่ละข้อความโดยวงรอบตัวอักษรหน้าคําตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว ข้อละ ๑ คะแนน รวม ๓๐ คะแนน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อความที่ ๑ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๑-๓ โรงเรียนวัดเจริญดี สะอาดตา เป็นระเบียบเรียบร้อยน่าดู ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอันใด เพราะนักเรียนทุกคนไม่ทิ้งเศษกระดาษลงบนพื้น ดังนั้นจึงไม่ต้องเป็นภาระในการเก็บกระดาษดังกล่าวเลย ๑.จากข้อความข้างต้นทําให้เราทราบว่านักเรียนโรงเรียนนี้เป็นอย่างไร ก.มีความรับผิดชอบ ข.มีความสามัคคี ค.มีความซื่อสัตย์สุจริต ง.มีความขยันหมั่นเพียร ๒.โรงเรียนวัดเจริญดีควรได้รับการยกย่องหรือไม่ เพราะอะไร ก.ควรเพราะดีเด่นกว่าโรงเรียนอื่น ข.ควรเพราะอบรมนักเรียนได้ผลดี ค.ไม่ควรเพราะเป็นหน้าที่ของโรงเรียนอยู่แล้ว ง.ไม่ควรเพราะโรงเรียนไม่ได้ฝึกให้นักเรียนทํางานที่เป็นประโยชน์ ๓.ใจความสําคัญของข้อความนี้คือข้อใด ก.โรงเรียนวัดเจริญดีสะอาดตา เป็นระเบียบเรียบร้อยน่าดู ข.มีเรื่องน่าแปลกใจเพราะนักเรียนทุกคนไม่ทิ้งเศษกระดาษ ค.นักเรียนทุกคนไม่ต้องเก็บเศษกระดาษเพราะโรงเรียนมีระเบียบ ง.ภาระในการเก็บเศษกระดาษเป็นของนักเรียนในโรงเรียนวัดเจริญดี
- 2. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 2 ข้อความที่ ๒ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๔-๖ งานอดิเรกเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทําให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เกิดความ ขยันหมั่นเพียรและมีความรับผิดชอบ อันก่อให้เกิดประโยชน์หลายทางเช่นทางด้านร่างกาย ได้แก่ การ ออกกําลังกาย การเล่นกีฬา การทํางานบ้านต่างๆ ทางด้านสติปัญญา ได้แก่การอ่านหนังสือ ทําให้ รู้จักคิดเป็น ทําเป็น ทางด้านจิตใจ ได้แก่ การเล่นดนตรี ดูการแสดง ฟังเรื่องขําขัน ทางด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การประดิษฐ์ของชําร่วย ปลูกไม้ประดับ จักสาน ฯลฯ ๔.การกระทําข้อใดถือเป็นงานอดิเรก ก.นักเรียนทําการบ้าน ข.ครูสอนหนังสือ ค.เราดูฟุตบอล ง.คุณแม่ทํากับข้าว ๕.ข้อใดเป็นการใช้เวลาว่างไม่ถูกต้อง ก.ฟังวิทยุก่อนนอน ข.ปลูกต้นไม้ในวันหยุด ค.เล่นปิงปองตอนพักกลางวัน ง.อ่านหนังสือขณะรับประทานอาหาร ๖.ว่ายน้ําเป็นงานอดิเรกที่ให้ประโยชน์ด้านใดมากที่สุด ก.ทําให้เล่นกีฬาเก่ง ข.ทําให้ร่างกายแข็งแรง ค.ทําให้ร่างกายสะอาด ง.ทําให้จิตใจแจ่มใส ข้อความที่ ๓ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๗ -๑๐ ชายคนหนึ่งนั่งกินอาหารในร้านแห่งหนึ่ง เขาเหลือบไปเห็นแมวผอมโซ ตัวหนึ่งซึ่ง กําลังกินอาหารในจานทองคําเก่าๆ เขาคิดว่าจานใบนั้นถ้านําไปขายจะได้ราคาดี จึงขอซื้อแมวใน ราคาหนึ่งพันบาท เจ้าของร้านรีบตกลงทันที เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเขากล่าวว่า “เถ้าแก่ขาย แมวให้ผมแล้วควรจะให้จานผมด้วย ผมจะได้นําไปใส่อาหารให้แมว” เจ้าของร้านตอบว่า “ผมให้ไม่ได้หรอกครับ ก็เพราะจานใบนี้นี่แหละที่ทําให้ผมขาย แมวได้ราคาแพงมาหลายสิบตัวแล้ว”
- 3. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 3 ๗.ควรตั้งชื่อเรื่องนี้ว่าอย่างไร ก.เสียรู้ ข.เสียหน้า ค.เสียเหลี่ยม ง.เสียเปรียบ ๘.เรื่องนี้มีความหมายตรงกับข้อใด ก.โลภมากลาภหาย ข.ทําดีได้ดี ทําชั่วได้ชั่ว ค.ทําคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป ง.เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย ๙.การกระทําของเจ้าของร้านเปรียบได้กับสํานวนใด ก.ตีงูที่หาง ข.หมาหยอกไก่ ค.ขุดบ่อล่อปลา ง.ย้อมแมวขาย ๑๐.เจ้าของร้านในเรื่องนี้กระทําผิดกฎหมายบ้านเมืองหรือไม่ ก.ผิด เพราะมีเจตนาหลอกลวงผู้ซื้อ ข.ผิด เพราะนําของไม่ดีมาขายในราคาแพง ค.ไม่ผิด เพราะพ่อค้าย่อมหวังกําไรจากการค้า ง.ไม่ผิด เพราะผู้ซื้อเสนอราคาให้เอง ข้อความที่ ๔ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๑๑ -๑๒ ใครดูถูกผู้ชํานาญในการช่าง ความคิดขวางเฉไฉไม่เข้าเรื่อง เหมือนคนป่าคนไพรไม่รุ่งเรือง จะพูดด้วยนั้นก็เปลืองซึ่งวาจา (รัชกาลที่ ๖) ๑๑. ผู้แต่งคําประพันธ์ข้างต้นนี้กล่าวในลักษณะใด ก. ชมเชย ข. ตําหนิ ค. ชักชวน ง. อธิบาย ๑๒. ในความคิดของผู้แต่ง ผู้ที่ดูถูกผู้ชํานาญในการช่างนั้นเป็นผู้ที่ขาดสิ่งใด ก. ความวิริยะอุตสาหะ ข. ความมานะ อดทน ค. ความเจริญรุ่งเรือง ง. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
- 4. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 4 ข้อความที่ ๕ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๑๓ -๑๕ กล้วยน้ําว้าสุกงอมเป็นอาหารที่ดี ผู้ใหญ่มักจะให้เด็กอ่อนได้กิน กล้วยน้ําว้า สุกงอมบดและผสมกับข้าว ตอนที่เด็กเริ่มกินอาหาร ( นอกจากนม ) หากจะทําให้มีรสชาติอร่อยอีก นิด ก็อาจเหยาะเกลือป่นเล็กน้อยลงไปด้วยก็ได้ กล้วยน้ําว้าสุกที่นํามาบดจะใช้เฉพาะเนื้อ ส่วนที่ เป็นไส้กล้วยจะไม่ใช้ แม้ในปัจจุบันจะมีอาหารสําเร็จสําหรับ เด็กอ่อนที่อยู่ในเมืองมากมาย แต่เด็กอ่อนในชนบท ก็ยังได้กินกล้วยสุกบดเละกันอยู่ดี สําหรับเด็กโตและผู้ใหญ่ กล้วยน้ําว้าก็ยังมีประโยชน์คือ ช่วยแก้อาการท้องผูก เพราะกล้วยสุกมีสารเพกทินมาก ช่วยเพิ่มกากในลําไส้ ทําให้ขับถ่ายสะดวก และหาก กินกล้วยติดต่อกันหลายวัน ก็เป็นประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย ดังนั้น เราจึงควรกินกล้วยน้ําว้าสุก กันเป็นประจําดีกว่า ๑๓. ข้อความข้างต้นนี้โดยสรุปแล้วกล่าวถึงเรื่องอะไร ก. การเลี้ยงเด็กอ่อน ข. อาหารของเด็กอ่อน ค. ประโยชน์ของกล้วยน้ําว้าสุก ง. สารอาหารที่มีอยู่ในกล้วยน้ําว้าสุก ๑๔. ข้อความข้างต้นนี้จัดเป็นประเภทใด ก. ข่าว ข. บทความ ค. สารคดี ง. นิทาน ๑๕. กล้วยน้ําว้าที่มีประโยชน์สําหรับเด็กอ่อนจะต้องมีลักษณะอย่างไร ก. กล้วยดิบ ข. กล้วยห่าม ค. กล้วยไร้เมล็ด ง. กล้วยสุกงอม
- 5. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 5 นานมาแล้วสมัยที่สัตว์ยังพูดภาษาคนได้ แม่ควายตัวหนึ่งอาศัยอยู่กับชาวนา และมีลูกเล็กๆที่ยัง ต้องกินนม 1 ตัว วันหนึ่งชาวนาพาแม่ควายไปไถนาแต่เช้าตรู่ ลูกควายเดินตามไปด้วย เวลาผ่านไป แม่ควายยังทํางานไม่เสร็จ ลูกควายรู้สึกหิวนมจึงร้องเรียก ” แม่ แม่ แม่ แม่จ๋าหนูหิวนม” แม่ควาย ได้ยินเช่นนั้นจึงขออนุญาตชาวนาเพื่อจะให้นมลูก แต่ชาวนาไม่อนุญาต ทั้งยังกล่าวว่า “เจ้าจะ ไปได้ก็ต่อเมื่อเจ้าไถนาเสร็จแล้วเท่านั้น” ว่าแล้วชาวนาก็ให้แม่ควายไถนาต่อไป ลูกควายร้องไห้ด้วย ความหิวและความร้อนของแสงแดด เสียงร้องของลูก ทําให้แม่ควายพยายามอ้อนวอนชาวนาอีกครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเช่นเดิม แม่ควายจึงก้มหน้าทํางานจนเสร็จ ชาวนาจึงปลดแอกออกจากตัวของ แม่ควาย เมื่อเป็นอิสระแม่ควายจึงรีบวิ่งตรงไปหาลูก ความรีบร้อนทําให้เสียหลักล้มลงเป็นเหตุให้ ฟันบนหักหมดทุกซี่ โลหิตไหลเปรอะเปื้อนริมฝีปาก ชาวนาเห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งไปดู แล้วใช้ปูนขาว ทาริมฝีปากแม่ควายไว้เพื่อมิให้โลหิตไหลออกมาอีก แม่ควายจึงกล่าวกับลูกว่า “เจ้าจงจําไว้สัตว์อย่าง พวกเราจะไม่พูดภาษาคน” ตั้งแต่นั้นมาควายจึงไม่พูดภาษาคน ไม่มีฟันบน ทั้งริมฝีปากบนยังมีสีขาวทุกตัวด้วย คู่มือการเรียนการสอนภาษาไทย ข้อความที่ ๖ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๑๖ -๑๘ ๑๖. จุดมุ่งหมายของผู้เขียนในการเสนอเรื่องนี้คืออะไร ก. เล่าเรื่องของแม่ควายและลูกควายที่ฟันหัก ข. เล่าเรื่องความทรหดอดทนในการทํางานของแม่ควาย ค. เล่าเรื่องความเป็นมาของของการที่ควายพุดภาษาคนไม่ได้ ง. เล่าประวัติความเป็นมาของควายที่ไม่มีฟันบนและพูดภาษาคนไม่ได้ ๑๗. แนวคิดสําคัญของนิทานเรื่องนี้ตรงกับสํานวนใด ก.ควายขวิดอย่าขวาง ข.ทํานาบนหลังคน ค. ไม้หลักปักขี้ควาย ง. เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน ๑๘ .จากนิทานเรื่องนี้ส่งผลให้นักเรียนปฏิบัติตนตามข้อใด ก. เมตตากรุณาต่อผู้ที่ลําบากกว่า ข. ขอร้องให้ชาวนาเลิกใช้ควายไถนา ค. แบ่งปันหรือช่วยหาอาหารให้ควายกินบ้าง ง. ช่วยเหลือผู้อื่นทํางานเพื่อฝึกความอดทน
- 6. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 6 ข้อความที่ ๗ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๑๙ -๒๑ ๑๙. การกระทําของกาในเรื่องนี้ตรงกับสํานวนใด ก. เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ข. ขี่ช้างจับตักแตน ค. เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง ง. เลี้ยงช้างกินขี้ช้าง ๒๐. ผู้เขียนนิทานเรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายอะไร ก. ตักเตือน ข. สั่งสอน ค. อธิบาย ง. แนะนํา ๒๑ จากเรื่องนี้ข้อใดคือข้อคิดที่สามารถนําไปใช้ในชีวิตประจําวันได้ ก. พอใจในสิ่งที่ตนเองมี ข. อิจฉาริษยาผู้อื่น ค. เย่อหยิ่งทะนงตน ง. ทําอะไรเกินตัว กานั้นมีขนที่ดําสนิทและเป็นเงางาม แต่ทว่าพวกกากลับมิได้พึงพอใจ ในความเป็นตัวเอง พวกกาเห็นว่าหงส์นั้นมีขนสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ก็พากันนึกอิจฉาและอยากที่จะมีขนสีขาวเช่นนั้น บ้าง"สงสัยว่าคงเป็นเพราะหงส์ชอบลงอาบน้ําอยู่เสมอและก็ยังพํานักพักอาศัยอยู่ใกล้สระน้ําด้วย" กาตัวหนึ่งคาดคะเน กาอีกตัวหนึ่งจึงสนับสนุนว่า "นั่นน่ะสิ ถ้าพวกเราว่ายน้ําบ่อยๆ และพักอยู่ ใกล้สระน้ํา เราก็คงจะขาวเหมือนหงส์นะ" เมื่อเห็นดีเห็นงามด้วยกันเช่นนั้น พวกกาก็พากันละทิ้ง เทวสถานอันเป็นที่พํานักพักอาศัยมาตั้งแต่เดิม แล้วพากันอพยพไปอยู่ที่ริม สระน้ํา พวกกาชวน กันลงเล่นน้ําทุกวัน และไซร้ขนเป็นประจําอย่างหงส์ แต่พวกมันก็มิได้มีขนที่ขาวขึ้นแต่อย่างใด กายังคงมีขนสีดําสนิทเช่นเดิม แต่ทว่ามันไม่อาจมีความสุขดังเดิมได้เพราะสถานที่ใหม่นั้นมิได้มี อาหารการกินอุดมสมบรูณ์เหมือนที่เคยอยู่ ดังนั้นพวกกาจึงอดตายกันหมดในเวลาต่อมา (อมตะนิทานอีสป)
- 7. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 7 ข้อความที่ ๘ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๒๒ -๒๔ ๒๒. สรุปใจความสําคัญของนิทานเรื่องนี้ได้ว่าอย่างไร ก.โลภมากลาภหาย ข. พิมเสนไปแลกกับเกลือ ค. เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ง. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตําลึงทอง ๒๓. ผู้เขียนนิทานเรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายใดเป็นสําคัญ ก. ให้รักศักดิ์ศรี ข. ให้ซื่อตรง ค. ให้มีคุณธรรม ง. ให้รู้จักกตัญญู ๒๔. การกระทําของหมอในเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่จะนําไปใช้ในการดําเนินชีวิตได้อย่างไร ก. อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ข. อย่าพูดจาดูถูกผู้อื่น ค. อย่าเห็นแก่ตัว ง. อย่าเห็นผิดเป็นชอบ ข้อความที่ ๙ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๒๕ หมอยาสมุนไพรคนหนึ่ง มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องรักษาคนไข้ ครั้งหนึ่งเขารักษาเด็กคนหนึ่งซึ่ง เป็นโรครักษายากให้หายได้ เพื่อตอบแทนพระคุณหมอ แม่ของเด็กให้กระเป๋าสตางค์ทําด้วยแพรสวยงาม ใบหนึ่งแก่หมอ หมอสั่นหัวแล้วก็พูดอย่างแข็งกร้าวมะนาวไม่มีน้ําว่า "ผมไม่ต้องการของผมต้องการเงินสด" หญิงผู้นั้น ทั้งเจ็บทั้งอาย จึงถามไปว่า "คุณหมอจะต้องให้ดิฉันจ่ายเงินสักเท่าใดคะ" "5,000 บาท" หมอตอบ หญิงผู้นั้นไม่พูดเลยสักคํา หยิบเงิน 5,000 บาท ออกจากกระเป๋าแพรใบนั้น ส่งให้หมอ แล้วเธอก็ลุกขึ้น ออกไปพร้อมกับเงินอีก 5,000 บาทที่อยู่ในกระเป๋าแพร ซึ่งเธอนํามาให้หมอ เป็นสาวแซ่แร่รวยสวยสะอาด ก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่า แม้นแตกร้าวรานร่อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง (สุภาษิตสอนหญิงของ สุนทรภู่)
- 8. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 8 สีมากําพร้าพ่ออยู่กับแม่สองคน พอโตเป็นหนุ่มก็แต่งงาน ในครอบครัวก็รักใคร่กันดี แต่สาวๆที่ ผิดหวังจากสีมาอิจฉา จึงยุแหย่แม่ผัวให้เกลียดลูกสะใภ้ ตอนแรกลูกสะใภ้ก็ไม่โต้ตอบ เวลาแม่ผัวดุด่า พอนานเข้าก็โต้ตอบไปบ้าง ทําให้สีมาหนักใจคิดหาวิธีให้ทั้งสองปรองดองกัน จึงบอกแม่ว่า จะฆ่า เมียตัวเองให้เพื่อให้แม่สบายใจ แต่ก่อนจะฆ่าให้แม่ทําดีกับลูกสะใภ้ และก็ไปบอกเมียให้ทําดีกับแม่ เช่นกันแล้วจะฆ่าแม่ให้ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองต่างทําดีต่อกัน จนเกิดรักใคร่กันจริงๆ พอสีมาทําท่าจะฆ่า เมียแม่ก็เข้าห้ามไว้ พอจะฆ่าแม่เมียก็ห้ามไว้ สีมาจึงเอาเคียวเก็บที่เดิม พร้อมยิ้มอย่างมีความสุขใจที่ แก้ปัญหาลูกสะใภ้กับแม่เกลียดกันได้สําเร็จ นิทานพื้นบ้าน. ๒๕ . ใจความสําคัญของบทร้อยกรองนี้กล่าวถึงเรื่องใด ก. ให้รักนวลสงวนตัว ข. การบํารุงรักษาร่างกาย ค. การเลือกคู่ครอง ง. การสร้างฐานะ ข้อความที่ ๑๐ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๒๖-๒๘ ๒๖. ผู้เขียนนิทานเรื่องนี้ต้องการให้คนอ่านปฏิบัติตนอย่างไร ก. ช่วยเหลือผู้อื่น ข. มุ่งร้ายผู้อื่น ค. รักใคร่สามัคคี ง. กตัญญูกตเวที ๒๗. แนวคิดสําคัญของนิทานเรื่องนี้ตรงกับสํานวนใด ก.ฟังหู ไว้หู ข.ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ค. ฟังไม่ได้ศัพท์ จับเอามากระเดียด ง. ฟังความข้างเดียว ๒๘ .จากนิทานเรื่องนี้ข้อใดคือข้อคิดที่สามารถนําไปใช้ในชีวิตประจําวันได้ ก. รู้จัก รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ข. คิดไตร่ตรองเรื่องที่ได้ยินได้ฟังอย่างรอบคอบ ค. เชื่อฟังคําสั่งสอนของบิดา มารดา ง. เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
- 9. เครื่องมือนิเทศครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2555 9 ข้อความที่ ๑๑ อ่านข้อความนี้แล้วตอบคําถามข้อที่ ๒๙-๓๐ ๒๙. จุดมุ่งหมายของผู้เขียนในการเสนอเรื่องนี้คืออะไร ก. เตือนสติ ข. สั่งสอน ค. แนะนํา ง. ชี้แจง ๓๐.จากเรื่องนี้ข้อใดคือข้อคิดที่สามารถนําไปใช้ในชีวิตประจําวันได้ ก. คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ ข. อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง ค. ฝากเนื้อไว้กับเสือ ฝากปลาย่างไว้กับแมว ง. ปากปราศรัย น้ําใจเชือดคอ ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นกอินทรีและแม่นกฮูก เป็นเพื่อนรักกันมาก ทั้งคู่ต่างสัญญากันว่า จะไม่ทํา ร้ายลูกของกันและกัน แต่แม่นกฮูกกลัวว่านกอินทรีอาจเผลอทําร้ายลูกของตนได้ จึงอธิบายให้ฟังว่า “ลูก ของฉันนะ มีขนสวยน่ารักกว่าลูกนกตัวอื่น ๆ เลยล่ะ ห้ามเธอจับกินเด็ดขาดนะ” เย็นวันนั้นขณะที่นก อินทรีกําลังมองหาอาหารอยู่ ได้เจอโพรงไม้โพรงหนึ่ง ด้านในมีลูกนกอยู่สองตัว “ลูกนกนี่ น่าเกลียดจริง ๆ ขนสีเทาหม่นๆ อึ๋ย…น่าขยะแขยงมาก ต้องไม่ใช่ลูกของคุณนายนกฮูกแน่ๆ เลย” คิดดังนั้น นกอินทรีจึงจับ ลูกนกกินจนหมดรัง โดยไม่รู้ว่านั่นคือลูกของแม่นกฮูก เมื่อแม่นกฮูกกลับมาที่รังก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจ นี่แหละ หนาในสายตาของแม่ย่อมว่าลูกของตนสวยน่ารักเสมอ แต่ผู้อื่นอาจไม่คิดเช่นนั้น