Enviar pesquisa
Carregar
เนื้อเยื่อพืช (T)
•
22 gostaram
•
10,535 visualizações
Thitaree Samphao
Seguir
ชีววิทยาเพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
Leia menos
Leia mais
Educação
Denunciar
Compartilhar
Denunciar
Compartilhar
1 de 37
Baixar agora
Baixar para ler offline
Recomendados
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Thanyamon Chat.
stem structure
stem structure
Thanyamon Chat.
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
Thanyamon Chat.
ราก (T)
ราก (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Pinutchaya Nakchumroon
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
Thanyamon Chat.
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
Recomendados
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Thanyamon Chat.
stem structure
stem structure
Thanyamon Chat.
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
Thanyamon Chat.
ราก (T)
ราก (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Pinutchaya Nakchumroon
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
Thanyamon Chat.
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 1 การจำแนกสาร
บทที่ 1 การจำแนกสาร
Pinutchaya Nakchumroon
ม.6 นิเวศ
ม.6 นิเวศ
Wichai Likitponrak
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
Pinutchaya Nakchumroon
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
Anana Anana
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
Pinutchaya Nakchumroon
สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
สายฝน ต๊ะวันนา
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2
Sukanya Nak-on
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
Li Yu Ling
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
translocation in plant
translocation in plant
Thanyamon Chat.
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ฟลุ๊ค ลำพูน
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
Pinutchaya Nakchumroon
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)
Thitaree Samphao
ไบโอม
ไบโอม
Kittiya GenEnjoy
เซลล์และการแบ่งเซลล์
เซลล์และการแบ่งเซลล์
Sukan
ชีววิทยา
ชีววิทยา
Darika Kanhala
Mais conteúdo relacionado
Mais procurados
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 1 การจำแนกสาร
บทที่ 1 การจำแนกสาร
Pinutchaya Nakchumroon
ม.6 นิเวศ
ม.6 นิเวศ
Wichai Likitponrak
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
Pinutchaya Nakchumroon
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
Anana Anana
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
Pinutchaya Nakchumroon
สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
สายฝน ต๊ะวันนา
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2
Sukanya Nak-on
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
Li Yu Ling
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
translocation in plant
translocation in plant
Thanyamon Chat.
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ฟลุ๊ค ลำพูน
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
Pinutchaya Nakchumroon
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)
Thitaree Samphao
ไบโอม
ไบโอม
Kittiya GenEnjoy
Mais procurados
(20)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
บทที่ 1 การจำแนกสาร
บทที่ 1 การจำแนกสาร
ม.6 นิเวศ
ม.6 นิเวศ
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
translocation in plant
translocation in plant
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)
ไบโอม
ไบโอม
Destaque
เซลล์และการแบ่งเซลล์
เซลล์และการแบ่งเซลล์
Sukan
ชีววิทยา
ชีววิทยา
Darika Kanhala
6.ชุด 3 การแพร่
6.ชุด 3 การแพร่
เอเดียน คุณาสิทธิ์
8. ชุดที่ 5 การลำเลียง
8. ชุดที่ 5 การลำเลียง
เอเดียน คุณาสิทธิ์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
เอเดียน คุณาสิทธิ์
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
Destaque
(6)
เซลล์และการแบ่งเซลล์
เซลล์และการแบ่งเซลล์
ชีววิทยา
ชีววิทยา
6.ชุด 3 การแพร่
6.ชุด 3 การแพร่
8. ชุดที่ 5 การลำเลียง
8. ชุดที่ 5 การลำเลียง
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Semelhante a เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อ
Oui Nuchanart
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เข็มชาติ วรนุช
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
001 3
001 3
mickyindbsk
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
Wichai Likitponrak
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
ฟลุ๊ค ลำพูน
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
Biobiome
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
พัน พัน
Plant tissue
Plant tissue
sukanya petin
E portfollio
E portfollio
Maggie VeryLove
E portfollio-looktal
E portfollio-looktal
Looktal Love
ราก (Root)
ราก (Root)
Kung Sasithorn
Plant structure part 1
Plant structure part 1
pitsanu duangkartok
Biocontest2014 kitty
Biocontest2014 kitty
Wichai Likitponrak
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Wichai Likitponrak
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
Kang ZenEasy
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
มัทนา อานามนารถ
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
Nokko Bio
เนี้อเยื่อ
เนี้อเยื่อ
มัทนา อานามนารถ
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
Ratarporn Ritmaha
Semelhante a เนื้อเยื่อพืช (T)
(20)
เนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อ
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
001 3
001 3
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
Plant tissue
Plant tissue
E portfollio
E portfollio
E portfollio-looktal
E portfollio-looktal
ราก (Root)
ราก (Root)
Plant structure part 1
Plant structure part 1
Biocontest2014 kitty
Biocontest2014 kitty
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
เนี้อเยื่อ
เนี้อเยื่อ
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
เนื้อเยื่อพืช (T)
1.
บทที่ 1 โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก บทที่
2 การสังเคราะห์ด้วยแสง บทที่ 3 การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต บทที่ 4 การควบคุมการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพืช รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 3 (ว 32243) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559
2.
บทที่ 1 โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม
3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 คุณครูฐิตารีย์ สาเภา โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (กาญจนบุรี-ราชบุรี)
3.
สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของเนื้อเยื่อเจริญและเนื้อเยื่อถาวร ของพืช สืบค้นข้อมูล
ทดลอง และอธิบายและอภิปรายเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ ของราก ลาต้น และใบ สืบค้นข้อมูล ทดลอง และสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างภายในของราก ลาต้น และใบ ทดลองและอธิบายเกี่ยวกับตาแหน่งและจานวนของใบในพืชแต่ละชนิดและ เปรียบเทียบความหนาแน่นของปากใบในพืชต่างชนิดกัน สืบค้นข้อมูล อภิปรายและสรุปเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการคายน้าของพืช สืบค้นข้อมูล อภิปรายและสรุปเกี่ยวกับการลาเลียงน้า สารอาหารและอาหาร ของพืช จุดประสงค์การเรียนรู้ http://www.slideshare.net/patpataranutaporn/plant-tissue-16714416?related=3
4.
เนื้อเยื่อพืช รากและโครงสร้างของราก
ลาต้น ใบ การเจริญเติบโตของใบ และโครงสร้างของใบ การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้าของพืช การลาเลียงน้าของพืช การลาเลียงสารอาหารของพืช การลาเลียงอาหารของพืช เนื้อหา (CONTENT)
5.
เรื่อง เนื้อเยื่อพืช รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 3 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2559 คุณครูฐิตารีย์ สาเภา โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (กาญจนบุรี-ราชบุรี)
6.
เซลล์พืช (PLANT CELL) ผนังเซลล์ของเซลล์พืช
ผนังเซลล์ปฐมภูมิ (Primary cell wall) เซลลูโลส (Cellulose) ผนังเซลล์ปฐมภูมิของเซลล์ที่อยู่ติดกันมีมิดเดิลลาเมลลา (Middle lamella) เพกทิน (Pectin) เซลล์บางชนิดมีผนังเซลล์ทุติยภูมิ (Secondary cell wall)ลิกนิน (lignin)
7.
เมื่อมีผนังเซลล์ทุติยภูมิหนาขึ้นจนสมบูรณ์เซลล์พืชตาย เรียงลาดับชั้นของเซลล์พืชจากเยื่อหุ้มเซลล์ออกมานอกสุดระหว่างเซลล์พืช
2 เซลล์ที่อยู่ ติดกัน เซลล์พืชชนิดเดียวกันหลายๆ เซลล์ทาหน้าที่ร่วมกันเรียกว่าเนื้อเยื่อพืช (Plant tissue) เซลล์พืช (PLANT CELL) เยื่อหุ้มเซลล์ ผนังเซลล์ทุติยภูมิ ผนังเซลล์ปฐมภูมิ มิดเดิลลาเมลลาผนังเซลล์ปฐมภูมิผนังเซลล์ทุติยภูมิ เยื่อหุ้มเซลล์
8.
เนื้อเยื่อพืช (PLANT TISSUE) กลุ่มของเซลล์พืชที่อยู่รวมกันเพื่อทาหน้าที่ร่วมกัน เนื้อเยื่อเจริญ
(meristematic tissue) เนื้อเยื่อถาวร (permanent tissue)
9.
Meristematic cell
= เซลล์ที่สามารถแบ่งตัวได้ตลอดเวลา Meristem = บริเวณที่ Meristematic cell อยู่ เซลล์เบียดแน่น ไม่มี intercellular space มีการแบ่งเซลล์แบบ mitosis ได้ตลอดชีวิต ไม่เปลี่ยนแปลงไปทาหน้าที่เฉพาะ เซลล์สี่เหลี่ยม นิวเคลียสใหญ่ ผนังบางสม่าเสมอ มี 3 ชนิด เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลายยอด/ราก (apical meristem) เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ (intercalary meristem) เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง (lateral meristem) เนื้อเยื่อเจริญ (MERISTEMATIC TISSUE)
10.
เนื้อเยื่อเจริญ (MERISTEMATIC TISSUE)
11.
ทาให้โครงสร้างส่วนต่างๆ ของพืชยืดยาวขึ้น
พบได้ที่ ปลายยอด ตา ปลายกิ่ง และปลายราก เจริญเติบโตในแนวดิ่ง ทาหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อ 3 กลุ่ม Protodermเจริญเป็น epidermis Ground meristemเจริญเป็น Ground tissue (cortex) Pro cambiumเจริญเป็น vascular tissue (stele) พบที่ (พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและใบเลี้ยงคู่) ปลายยอด/ตา : shoot apical meristem เจริญเป็น ยอด, left primordia เจริญเป็นใบ, axillary buds เจริญเป็นกิ่ง Root tip: root apical meristem เจริญเป็นปลายราก เนื้อเยื่อเจริญปลายยอด/ราก (APICAL MERISTEM)
12.
อยู่เหนือข้อ (node)
เพิ่มความยาวปล้อง (internode) เจริญเติบโตในแนวดิ่ง พบเฉพาะในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ (INTERCALARY MERISTEM)
13.
จาเป็นต่อการเจริญขั้นที่ 2
(2° growth) แบ่งเป็น : vascular cambium, cork cambium และ pericycle vascular cambium อยู่ระหว่าง 1° xylem กับ 1°phloem ในรากพืชใบเลี้ยงคู่ ลาต้นพืชใบเลี้ยงคู่ แต่ ไม่พบในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว สร้าง 2° xylem ทางด้านใน และ 2°phloem ทางด้านนอก เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง (LATERAL MERISTEM)
14.
cork cambium
(phellogen): อยู่ในชั้น cortex ใต้ epidermis เปลี่ยนแปลงมาจาก parenchyma ใต้ epidermis: สร้าง periderm, สร้าง cork ทางด้านนอก และสร้าง phelloderm ทางด้านใน Pericycle: อยู่ใต้ชั้น endodermis สร้าง periderm ในรากพืชใบเลี้ยงคู่ สร้างรากแขนง เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง (LATERAL MERISTEM)
15.
พบที่ รากพืชใบเลี้ยงคู่
ลาต้นพืชใบเลี้ยงคู่ พืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด เช่น มะพร้าว ปาล์ม หมากผู้หมากเมีย จันทน์ผา จันทน์แดง ป่าน ศรนารายณ์ เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง (LATERAL MERISTEM)
16.
กลุ่มเซลล์ที่เจริญเต็มที่ ไม่การแบ่งเซลล์อีกต่อไป
เปลี่ยนแปลงมาจากเนื้อเยื่อเจริญ แบ่งได้ 2 ชนิด เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (simple permanent tissue) เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน (complex permanent tissue) เนื้อเยื่อถาวร (PERMANENT TISSUE)
17.
ประกอบด้วยเซลล์ชนิดเดี่ยวกัน ทาหน้าที่ร่วมกัน
เอพิเดอร์มิส (epidermis) พาเรงคิมา (parenchyma) คอลเลงคิมา (collenchyma) สเกลอเลงคิมา (sclerenchyma) เอนโดเดอร์มิส (endodermis) คอร์ก (cork/phellem) เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (SIMPLE PERMANENT TISSUE)
18.
ล้อมรอบ vascular
tissueแยกระหว่าง cortex กับ stele ผนังบาง เรียงแถวเดียวอัดแน่น น้าสามารถผ่านเข้าออกเซลล์ได้บริเวณ passage cell รอยต่อระหว่างเซลล์ยึดแน่นด้วย suberin/ cellulose/ lignin=casparian strip=ไม่เกิด apoplast บริเวณราก: บางเซลล์เปลี่ยนเป็นเซลล์ขนราก (root hair cell) casparian strip suberin + cellulose + lignin (พืชใบเลี้ยงเดี่ยว) suberin (พืชใบเลี้ยงคู่) พบที่ : รากพืชทุกชนิด แต่เห็นชัดในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว หน้าที่ : ควบคุมการเข้าออกของน้าระหว่าง cortex และ xylem เอพิเดอร์มิส (EPIDERMIS)
19.
รูปร่างหลายเหลี่ยม ผนังเซลล์เป็น
1° cell wall มี central vacuole ขนาดใหญ่ ดัน cytoplasm ไปอยู่ริมเซลล์ มี intercellular space เยอะ หน้าที่ สะสมน้า น้าตาล กรดอะมิโน ผลิตสารพิษ sap vacuole สะสมอาหาร (แป้ง ไขมัน โปรตีน)มี leucoplast สังเคราะห์ด้วยแสงมี chloroplast เรียก chlorenchyma สามารถ re differentiation เป็น meristematic cell ได้อีก พาเรงคิมา (PARENCHYMA)
20.
หน้าที่ สะสม
pigment ใน vacuole เพื่อดึงดูดแมลง anthocyanin พืชน้าจะมี air space ที่โดดเด่นช่วยในการ ลอยตัว (aerenchyma) พบที่ ราก/ลาต้น: cortex, stele ใบ: palisade mesophyll, spongy mesophyll พาเรงคิมา (PARENCHYMA)
21.
รูปร่างหลายเหลี่ยม ผนังเซลล์เป็น
1°cell wall แต่มี cellulose และ pectin สะสมตามมุม ระหว่างเซลล์มี intercellular space น้อย หรือไม่มีเลย อาหารและน้ายังสามารถแพร่ผ่านเซลล์ได้ ไม่สามารถ re differentiation เป็น meristematic cell ได้อีก คอลเลงคิมา (COLLENCHYMA)
22.
พบที่ :
ใต้ชั้น epidermis ของลาต้น หรือตาม มุมของลาต้นที่เป็นเหลี่ยม ก้านใบและเส้นกลางใบ หน้าที่ : สร้างความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้กับ เนื้อเยื่อของลาต้นที่ยังโตไม่เต็มที่ (supporting) สร้างความแข็งแรงแก่ก้านใบ คอลเลงคิมา (COLLENCHYMA)
23.
Sclereid/stone cell
เซลล์ที่ตายแล้ว รูปร่างไม่แน่นอน แต่จะ มีความกว้างและยาวใกล้เคียงกัน ผนังหนาเป็น lignified 2° wall Lumen=ช่องว่างตรงกลางเซลล์ Pit canal=ส่วนที่ไม่เกิดการสะสมของ lignin ใช้ติดต่อกับเซลล์ข้างเคียง พบที่: cortex ของลาต้นและราก, เปลือกไม้, เปลือกผลไม้, เนื้อผลสาลี่, กะลามะพร้าว หน้าที่: ให้ความแข็งแรงแก่โครงสร้าง สเกลอเลงคิมา (SCLERENCHYMA)
24.
fiber เซลล์ที่ตายแล้ว
รูปร่างยาว แหลม หัวแหลมท้าย ผนังหนาเป็น lignified 2° wall ผนังหนามากจน Lumen เกือบจะหายไป หมด พบที่: cortex ของรากและลาต้น/ xylem/ phloem หน้าที่: ให้ความแข็งแรงแก่โครงสร้าง ทาให้ พืชมีความยืดหยุ่น สามารถโค้งงอและรับ น้าหนักได้ สเกลอเลงคิมา (SCLERENCHYMA)
25.
ล้อมรอบ vascular
tissueแยก ระหว่าง cortex กับ stele ผนังบาง เรียงแถวเดียวอัดแน่น น้าสามารถผ่านเข้าออกเซลล์ได้บริเวณ passage cell รอยต่อระหว่างเซลล์ยึดแน่นด้วย suberin/ cellulose/ lignin=casparian strip=ไม่เกิด apoplast พบที่ : รากพืชทุกชนิด แต่เห็นชัดในพืชใบ เลี้ยงเดี่ยว หน้าที่ : ควบคุมการเข้าออกของน้า ระหว่าง cortex กับ xylem เอนโดเดอร์มิส (ENDODERMIS)
26.
เซลล์หลายชั้น ทรงสี่เหลี่ยม
ผนังหนา เรียงชิด กันตามยาว มีการสะสมของ suberin (fatty acid, wax)น้า, O2 ผ่านเข้าออกไม่ได้ = เซลล์ ตาย พบที่ : ราก/ลาต้นที่มีอายุมาก เรียงตัวอยู่ ชั้นนอกสุดของลาต้น แทนที่ชั้น epidermis อยู่ด้านนอกต่อกับ cork cambium หน้าที่ : ป้องกันอันตรายจาก เชื้อโรค แมลง สภาพแวดล้อมที่เย็นหรือร้อนเกินไป ไฟป่า lenticel ที่เกิดจากการดันของ cork ช่วย แลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้า คอร์ก (CORK/PHELLEM)
27.
เซลล์หลายชั้น ทรงกลม
ผนังบาง มี ช่องว่างระหว่างเซลล์ ≈ parenchyma (มีชีวิต) รวมเป็นส่วนหนึ่งของชั้น cortex พบที่ : อยู่ด้านในต่อกับ cork cambium หน้าที่ : สะสมสารอาหารและแร่ธาตุ PHELLODERM
28.
เนื้อเยื่อ Xylem
Tracheid Vessel Xylem parenchyma Xylem fiber เนื้อเยื่อ Phloem Sieve tube member Companion cell Phloem parenchyma Phloem fiber เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน (COMPLEX PERMANENT TISSUE)
29.
เซลล์ที่ตายแล้ว เซลล์ยาว
แหลมหัวแหลมท้าย ขนาดเล็ก ผนังเซลล์มี lignin มาเกาะ ช่องเปิดรอบเซลล์จะไม่มีการสะสมของ lignin Pit จะอยู่เป็นคู่กับเซลล์ข้างเคียง ใช้ติดต่อสื่อสาร ระหว่างเซลล์ พบในพืชมีท่อลาเลียงทุกชนิด (หวายทะนอยจะ ถึงพืชดอก) หน้าที่ : ลาเลียงน้าและแร่ธาตุจากรากสู่ใบ (transduction) XYLEM : TRACHEID
30.
เซลล์ที่ตายแล้ว เซลล์ป้อมสั้น
หัวท้ายป้าน ขนาดใหญ่ ต่อกันเป็น ท่อยาว ผนังเซลล์มี lignin มาเกาะ ช่องเปิดด้านปลาย = perforation plate ความหนาจากการสะสมของ lignin ไม่เท่ากันทา ให้เห็นเป็นรูปร่างต่างๆ Pit = ช่องเปิดรอบเซลล์ พบในพืชชั้นสูง หน้าที่ : ลาเลียงน้าและแร่ธาตุ XYLEM : VESSEL
31.
เซลล์ที่มีชีวิตเหมือน parenchyma
เรียงตัวในแนวรัศมี หน้าที่ : ลาเลียงน้าและแร่ธาตุ = Xylem ray XYLEM : XYLEM PARENCHYMA
32.
เซลล์ที่ตายแล้ว เกิดจากการสะสมของ
lignin หน้าที่ สร้างความแข็งแรงให้แก่โครงสร้าง XYLEM : XYLEM FIBER
33.
เซลล์ที่มีชีวิต เซลล์ป้อมสั้น
หัวท้ายป้าน ขนาดใหญ่ ต่อกัน เป็นท่อยาว ช่องเปิดด้านปลายเหมือนรูตะแกรง = sieve plate มี plasmodesmata เป็นจานวนมาก เพื่อ การไหลเวียนของ cytoplasm กับเซลล์ ข้างเคียง ไม่มีการสะสมของ lignin และ suberin อายุมากขึ้น นิวเคลียสและออร์แกเนลล์ต่างๆ จะสลาย พบในพืชมีท่อลาเลียงทุกชนิด หน้าที่ลาเลียงอาหารในรูปของน้าตาลซูโครส จากแหล่งผลิตสู่แหล่งสะสมอาหาร PHLOEM : SIEVE TUBE MEMBER
34.
เซลล์ที่มีชีวิต เซลล์ผอม
ผนังบาง ประกบติดกับ sieve tube member มี plasmodesmata มาก เพื่อใช้ในการ ไหลเวียนของไซโทพลาซึมกับ sieve tube member พบในพืชดอกและมะเมื่อย หน้าที่ : เซลล์ผู้ช่วยของ sieve tube member ช่วยขนย้ายน้าตาลจากเซลล์ ต้นทางเข้าสู่ sieve tube member PHLOEM : COMPANION CELL
35.
เซลล์ที่มีชีวิต เรียงตัวแบบรัศมี
หน้าที่ลาเลียงน้าด้านข้าง = phloem ray PHLOEM : PHLOEM PARENCHYMA PHLOEM : PHLOEM FIBER เซลล์ตายแล้ว เกิดจากการสะสมของ lignin หน้าที่สร้างความแข็งแรงให้แก่โครงสร้าง
Baixar agora