SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 50
ระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database)
เป็นฐานข้อมูลที่ใช้โมเดลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database
Model) ซึ่งผู้คิดค้นโมเดลเชิงสัมพันธ์นี้คือ Dr. E.F. Codd โดย
ใช้หลักพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เนื่องด้วยแนวคิดของ
แบบจาลองแบบนี้มีลักษณะที่คนใช้กันทั่วกล่าวคือมีการเก็บ
เป็นตาราง
ทาให้ง่ายต่อการเข้าใจและการประยุกต์ใช้งาน ด้วยเหตุนี้
ระบบฐานข้อมูลแบบนี้จึงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในแง่
ของ entity แบบจาลองแบบนี้คือ แฟ้มข้อมูลในรูปตาราง
และ attribute ก็เปรียบเหมือนเขตข้อมูล ส่วนความสัมพันธ์
คือความสัมพันธ์ระหว่าง entity
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ คือ การเก็บข้อมูลในรูปของ
ตาราง (Table) หลายๆตารางที่มีความสัมพันธ์กัน ในแต่
ละตารางแบ่งออกเป็นแถวๆ และในแต่ละแถวจะแบ่งเป็น
คอลัมน์ (Column) ในทางทฤษฎีจะมีคาศัพท์เฉพาะ
แตกต่างออกไป เนื่องจากแบบจาลองแบบนี้เกิดจาก
ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์เรื่องเซ็ท (Set) ดังนั้น เราจะมี
คาศัพท์เฉพาะดังตารางที่ 3.1นี้
ศัพท์เฉพาะ ศัพท์ทั่วไป
รีเลชั่น (Relation) ตาราง (Table)
ทูเปิล (Tuple) แถว (Row) หรือ เรคคอร์ด (Record) หรือ ระเบียน
แอททริบิวท์ (Attribute) คอลัมน์ (Column) หรือฟิลด์ (Field)
คาร์ดินัลลิติ้(Cardinality) จานวนแถว (Number of rows)
ดีกรี (Degree) จานวนแอททริบิวท์ (Number of attribute)
คีย์หลัก (Primary key) ค่าเอกลักษณ์ (Unique identifier)
โดเมน (Domain) ขอบข่ายของค่าของข้อมูล (Pool of legal values)
รูปที่ 3.1 แสดงรายละเอียดของส่วนประกอบต่าง ๆ ของโมเดลแบบ
ความสัมพันธ์
อาจจะเขียนในรูปสมการดังต่อไปนี้ R(รหัสประจาตัว
ประชาชน,ชื่อ,นามสกุล,วันเกิด) เนื่องจากแต่ละตาราง
สามารถมีความสัมพันธ์กันได้ดังที่กว่าไว้ในข้างต้น ทาให้
การเก็บข้อมูลในรูปแบบนี้ มีความคล่องตัวสูงเพราะเรา
สามารถแยกเก็บข้อมูลใน หลายตารางโดยอาศัย
ความสัมพันธ์ดังกล่าว และสามารถสืบค้นได้จากรหัสพิเศษ
ที่เรียกว่า กุญแจ(key) ดังรูปที่ 3.2
รูปที่ 3.2 แสดงตัวอย่างการสืบค้นข้อมูลโดย
อาศัยความสัมพันธ์
Dr.E.F.Codd ได้กาหนดส่วนประกอบของโมเดลเชิง
สัมพันธ์นี้ แบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่
1. ส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของข้อมูล
2. ส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมความถูกต้องให้กับข้อมูล
3. ส่วนในการจัดการกับข้อมูล
3.2.1. Relation
โครงสร้างของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ จะอยู่ในลักษณะของ
ตาราง 2 มิติ ประกอบด้วยทางด้านแถว และคอลัมน์ ซึ่งจะ
เรียกว่า รีเลชัน (Relation) โดยทั่ว ๆ ไป Relation หนึ่ง ๆ
จะมีคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้
1) ไม่มี Tuples คู่ใด ๆ เลยที่ซ้ากัน (No duplicate tuples)
2) ลาดับที่ของ Tuples ไม่มีความสาคัญ
3) ลาดับที่ของ Attributes ไม่มีความสาคัญ
4) ค่าของ Attribute จะเป็นค่าเดี่ยว ๆ (Atomic) นั่นคือ
ค่าของข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในตารางจะเป็นค่า ๆ เดียว เป็น
ลิสต์ของค่าหลาย ๆ ค่าไม่ได้ซึ่ง Relation ที่มีคุณสมบัติ
ข้อนี้จะถูกเรียกว่าเป็น Relation ที่อยู่ในรูปแบบ Normal
form
5) ค่าของข้อมูลในแต่ละ Attribute จะบรรจุค่าของ
ข้อมูลประเภทเดียวกัน
ชนิดของ Relations
ในระบบจัดการฐานข้อมูลทั่ว ๆ ไป Relation อาจ
จาแนกออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้คือ
1) Relation หลัก (Base Relation)
เป็น Relation ที่ถูกกาหนดขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลและ
เพื่อนาข้อมูลไปใช้เมื่อมีการสร้าง Relation โดยใช้Data
Definition Language เช่น ใน SQL คาสั่ง CREATE
TABLE เป็นการสร้าง Relation หลัก หลังจากนั้นก็จะทา
การเก็บข้อมูลเพื่อการเรียกใช้ข้อมูลในภายหลัง Relation
หลักจะเป็นตารางที่จัดเก็บข้อมูลจริงไว้
2) วิว (View) หรืออาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Relation สมมุติ
(Virtual Relation)
เป็น Relation ที่ถูกสร้างขึ้นตามความต้องการใช้ข้อมูลของ
ผู้ใช้แต่ละคน เนื่องจาก ผู้ใช้แต่ละคนอาจต้องการใช้ข้อมูล
ในลักษณะที่แตกต่างกัน จึงทาการกาหนดวิวของตัวเอง
ขึ้นมาจาก Relation หลัก เพื่อความสะดวกในการใช้ข้อมูล
และช่วยให้การรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลทาได้ง่าย
ขึ้น Relation ที่ถูกสมมติขึ้นมานี้จะไม่มีการเก็บข้อมูลจริง ๆ
ในระบบฐานข้อมูล
รูปที่ 3.3 โครงสร้างของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
จากรูปที่ 3.3 ตารางข้อมูลทั้งหมด จะเรียกว่า Relation
แต่โดยส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า Table หรือ ตาราง เนื่องจาก
โครงสร้างการจัดเก็บเป็นแบบตาราง ส่วนข้อมูลในแต่ละแถว
จะเรียกว่า ทูเพิล (Tuple) ส่วนข้อมูลในแต่ละคอลัมน์ จะ
เรียกว่า แอตทริบิวส์ (Attribute) ดังตัวอย่างมี 4 แอตทริบิวส์
คือ SID, Sname, GPA, Major เขียนเป็นสมการได้ดังนี้
Student(SID,Sname,GPA,Major)
3.2.2. Domain
โดเมน (Domain) คือการกาหนดขอบเขตและชนิดของ
ข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่ผู้ใช้จัดเก็บ มีความ
ผิดพลาดไปจากความเป็นจริงที่ควรจะเป็น ตัวอย่างดัง
รูปที่ 3.4
รูปที่ 3.4 โดเมนของข้อมูล
จากรูปที่ 3.4 เป็นการกาหนดโดเมนให้กับแอ
ตทริบิวส์ข้อมูล GPA ซึ่งเป็นค่าเกรดเฉลี่ย ของ
นักศึกษา ซึ่งค่าเกรดเฉลี่ยจะต้องมีค่าอยู่ระหว่าง 0 - 4
ดังนั้นจึงต้องกาหนดโดเมนให้กับแอตทริบิวส์ GPA
เพื่อไม่ให้ข้อมูลผิดพลาดไปจากนี้
3.2.3. คีย์ (Key)
คีย์คือ แอตทริบิวส์ หรือ กลุ่มของแอตทริบิวส์ที่
สามารถแยกความแตกต่างของข้อมูล ในแต่ละทูเพิลได้
หรือแอตทริบิวส์ที่ข้อมูลในแอตทริบิวส์นั้นต้องมี
ข้อมูลที่ไม่ซ้ากัน ซึ่งคีย์มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ได้แก่
3.2.3.1. คีย์อย่างง่าย (Simple key) หมายถึง key ที่
ประกอบด้วย attribute เดียว
3.2.3.2. คีย์ประกอบ (Combine key หรือ
Composite key) หมายถึง key ที่ ประกอบด้วย attribute
มากกว่า 1 attribute
3.2.3.3. คีย์คู่แข่ง (Candidate Key) คือคีย์ที่เล็ก
ที่สุด ที่แยกความแตกต่างของข้อมูล แต่ละทูเพิลได้
ยกตัวอย่างเช่น ในรีเลชัน Student มีข้อมูลที่สามารถ
เป็นคีย์คู่แข่ง คือแอตทริบิวส์ รหัสนักศึกษา และการใช้
แอตทริบิวส์ ชื่อรวมกับนามสกุล ซึ่งทั้งสองแบบ
สามารถระบุความแตกต่าง ของข้อมูล แต่ละทูเพิลได้
3.2.3.4. คีย์หลัก (Primary Key) คือคีย์คู่แข่ง
ซึ่งได้เลือกมาเพื่อใช้กาหนดให้เป็นค่าคีย์หลักของ รีเล
ชัน ซึ่งข้อมูลที่เป็นคีย์หลักนั้นจะต้องมีข้อมูลที่ไม่ซ้า
กัน และมักจะเลือกคีย์คู่แข่ง ที่มีขนาดเล็กมาเป็นคีย์
หลัก ตัวอย่างเช่น การเลือกแอตทริบิวส์รหัสนักศึกษา
มาเป็นค่าคีย์หลัก เนื่องจาก มีขนาดเล็กกว่าแอตทริ
บิวส์ ชื่อ รวมกับ นามสกุล ซึ่งจะทาให้การทางานเร็ว
กว่า เนื่องจากมีขนาดเล็กกว่า
3.2.3.5. คีย์รอง (Alternate Key หรือ
Secondary key) คือคีย์คู่แข่งอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูกเลือกมา
ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น แอตทริบิวส์ ชื่อรวมกับนามสกุล
ซึ่งไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นคีย์หลักของรีเลชัน ก็จะ
กลายเป็น Alternate Key
3.2.3.6. คีย์นอก (Foreign Key)เป็นคีย์ที่ใช้เชื่อม
ความสัมพันธ์ของรีเลชัน ตัวอย่างแสดงดังรูปที่ 3.5
รูปที่ 3.5 คีย์หลักและคีย์นอก
จากรูปที่ 3.5 รีเลชัน Student มีค่าคีย์หลักคือ SID ซึ่ง
เป็นรหัสนักศึกษา โดยข้อมูลของรหัสนักศึกษาจะต้องมี
ข้อมูลที่ไม่ซ้ากัน และมีคีย์นอกของตารางคือแอตทริบิวส์
Major ซึ่งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ไปยังแอตทริบิวส์ Major
ของรีเลชัน Major ซึ่งข้อมูลทุกตัวของแอตทริบิวส์ Major
ในรีเลชัน Student จะต้องมีอยู่ในแอตทริบิวส์ Major ของ
รีเลชัน Major ส่วนตาราง Major มีคีย์หลักคือแอตทริบิวส์
Major
3.2.3.7. ซุปเปอร์คีย์ (Super key) หมายถึง
attribute หรือ เซ็ทของ attribute ที่ สามารถบ่งบอกว่าแต่
ละแถว (Tuple) แตกต่างกัน ในทุก ๆ ความสัมพันธ์
จะต้องมีอย่างน้อย หนึ่ง super key ในเซ็ทของ attributes
กฎที่ใช้สาหรับรักษาความถูกต้องของข้อมูล
แบ่งออกเป็น 2 กฎคือ กฎที่เกี่ยวข้องกับเอนทิตี้ และ
กฎที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของ
เอนทิตี้ )
3.3.1. กฎความบูรณภาพของเอนทิตี้ (Entity Integrity
Rule)
กฎความบูรณภาพของเอนทิตี้ เป็นกฎที่ใช้กาหนด
เพื่อให้ข้อมูลของเอนทิตี้ มีความถูกต้อง ซึ่งกล่าวไว้ว่า
"แอตทริบิวส์ที่ทาหน้าที่เป็นคีย์หลักของรีเลชัน ไม่
สามารถมีค่าเป็นค่าว่างได้(Null Value)" และจะต้องมี
คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ (Identity) คือสามารถระบุ
ข้อมูลแอตทริบิวส์อื่นๆ ที่อยู่ในทูเพิลเดียวกันได้
3.3.2. กฎความบูรณภาพของการอ้างอิง (Referential
Integrity Rule)
ความบูรณภาพของการอ้างอิง คือกฎที่ใช้รักษา
ความถูกต้องของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันของเอนทิตี้
ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า "ค่าของคีย์นอกในรีเลชัน จะต้องมี
ข้อมูลอยู่ในอีก รีเลชันหนึ่ง ที่คีย์นอกของรีเลชันนั้น
อ้างอิงถึง"
ในบางกรณีคีย์นอกอาจเป็นค่าว่างได้ถ้านโยบายขององค์กร
อนุญาตให้ค่าคีย์นอกเป็น ค่าว่างได้กรณีหากมีการลบ หรือ
แก้ไขข้อมูล ในรีเลชันที่ถูกอ้างอิงถึง ซึ่งจะทาให้สูญเสีย
ความบูรณภาพของข้อมูล ดังตัวอย่างรูปที่ 3.6 หากมีการ
แก้ไขหรือลบข้อมูลของรีเลชัน Major ในแอตทริบิวส์ Major
ซึ่งมีความสัมพันธ์อยู่กับรีเลชัน Student จะทาให้
ความสัมพันธ์ของข้อมูลเสียหาย ดังนั้นจึงต้องเลือก การ
กระทาเพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของข้อมูลสูญเสียไปดังนี้
1.ห้ามทาการแก้ไขข้อมูลในรีเลชันที่ถูกอ้างถึงนั้น เนื่องจากจะ
ทาให้ข้อมูลในรีเลชันที่อ้างอิงมา ไม่สามารถอ้างอิงข้อมูลได้
2. อนุญาตให้ทาการแก้ไขข้อมูลในรีเลชันที่ถูกอ้างอิงถึงได้แต่
จะต้องตามไปแก้ไขข้อมูล ในรีเลชันที่อ้างอิงมาให้ตรงกับ
ข้อมูลที่แก้ไขใหม่ทั้งหมด
3. อนุญาตให้ทาการแก้ไขข้อมูลในรีเลชันที่ถูกอ้างอิงถึงได้
โดยการแก้ไขข้อมูลในรีเลชัน ที่อ้างอิงมาให้มีค่าเป็น ค่าว่าง
รูปที่ 3.6 รีเลชันที่มีความสัมพันธ์กัน
1. ห้ามทาการลบข้อมูลในรีเลชันที่ถูกอ้างถึงนั้น เนื่องจากจะ
ทาให้ข้อมูลใน รีเลชันที่อ้างอิงมา ไม่สามารถอ้างอิงข้อมูลได้
2. อนุญาตให้ทาการลบข้อมูลในรีเลชันที่ถูกอ้างอิงถึงได้แต่
จะต้อง ตามไปลบข้อมูลในรีเลชัน ที่อ้างอิงมาทั้งหมด
3. อนุญาตให้ทาการลบข้อมูลในรีเลชันที่ถูกอ้างอิงถึงได้โดย
การแก้ไขข้อมูลในรีเลชัน ที่อ้างอิงมาให้มีค่าเป็น ค่าว่าง (Null
value)
ค่าของ Attribute อาจจะเป็นค่าว่าง (Null) คือ ไม่
มีค่าหรือยังไม่ทราบค่าได้ตัวอย่างเช่น จานวนไข่ของ
นกกระจอกเทศ จะสามารถบอกได้เมื่อนกกระจอกเทศ
ออกไข่แล้ว แต่ยังไม่ทราบค่า ในขณะที่จานวนไข่ของ
ช้างนั้นไม่มีค่า เป็นต้น
Dr. E.F. Codd ได้นาทฤษฎีของเซท ซึ่งเป็นทฤษฎี
ทางคณิตศาสตร์มาใช้ในการจัดการกับ ข้อมูลของฐานเชิง
สัมพันธ์ ซึ่งมีอยู่หลายการกระทาด้วยกัน ในบทนี้จะกล่าว
โดยย่อๆ เท่านั้น เนื่องจากเป็นเนื้อหาทางทฤษฎี ซึ่งการ
นาไปใช้งานจริงนั้น จะพูดถึงในบทที่เกี่ยวกับคาสั่งที่ใช้
จัดการฐานข้อมูล ซึ่งเนื้อหาจะมีความใกล้เคียงกัน การ
กระทาเหล่านี้ได้แก่
3.4.1. Restrict
คาว่า Restrict เป็นโอเปอเรเตอร์ทางคณิตศาสตร์ที่
ใช้ในการเลือกข้อมูลจากรีเลชั่นหนึ่ง ๆ ที่มีเงื่อนไขตรง
ตามที่ระบุไว้กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ใช้ในการแสดงข้อมูล
ของทูเพิลที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้
ชื่อรีเลชั่น WHERE <COMPARISION>
นักศึกษา
นักศึกษา WHERE จังหวัด = 'นครราชสีมา'
ผลที่ได้ดังนี้
นักศึกษา
รูปแบบ
COMPARISION ในที่นี้ หมายถึงเงื่อนไขของข้อมูลที่
ต้องการเรียกดู ซึ่งจะระบุชื่อแอททริบิวต์ และค่าเฉพาะที่
ต้องการดูข้อมูล โดยมีเครื่องหมายที่ประกอบการระบุเงื่อนไข
เช่น = (เท่ากับ) < (น้อยกว่า) > (มากกว่า) <> (ไม่เท่ากับ) เป็น
ต้น ในกรณีที่มีเงื่อนไขมากกว่าหนึ่งเงื่อนไขอาจใช้คาว่า OR
(หรือ) AND (และ) ประกอบกันเป็นเงื่อนไขที่ต้องการได้
ตัวอย่าง จากตารางให้แสดงรายละเอียดของนักศึกษาที่อยู่
นครราชสีมา
รหัส ชื่อ จังหวัด
B001 แดง นครราชสีมา
B002 ดา กรุงเทพฯ
B003 เขียว สระบุรี
B004 ขาว นครราชสีมา
รหัส ชื่อ จังหวัด
B001 แดง นครราชสีมา
B004 ขาว นครราชสีมา
3.4.2. Project
คาว่า Project เป็นโอเปอเรเตอร์ทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ใน
การแสดงข้อมูลเพียงบางแอททริบิวต์จากรีเลชั่นหนึ่ง ๆ ซึ่ง
การแสดงข้อมูลอาจจะเป็นแบบมีเงื่อนไขหรือไม่มีก็ได้
รูปแบบ
ชื่อรีเลชั่น [ชื่อแอตทริบิวต์ 1, ชื่อแอตทริบิวต์ 2, ...]
ชื่อรีเลชั่น WHERE <COMPARISION> [ชื่อแอตทริบิวต์ 1, ...]
จังหวัด
นครราชสีมา
กรุงเทพฯ
สระบุรี
นครราชสีมา
ตัวอย่าง จากตารางนักศึกษาที่ผ่านมา ให้แสดงชื่อ
จังหวัดที่นักศึกษาอยู่
นักศึกษา [จังหวัด]
ผลที่ได้ดังนี้
ชื่อ จังหวัด
แดง นครราชสีมา
ขาว นครราชสีมา
ตัวอย่าง จากตารางนักศึกษาที่ผ่านมา ให้แสดงชื่อนักศึกษา
และชื่อจังหวัดเฉพาะนครราชสีมา
(นักศึกษา WHERE จังหวัด = 'นครราชสีมา' [ชื่อ,จังหวัด]
ผลที่ได้ดังนี้
ชื่อ จังหวัด
แดง นครราชสีมา
ขาว นครราชสีมา
ตัวอย่าง จากตารางนักศึกษาที่ผ่านมา ให้แสดงชื่อนักศึกษา
และชื่อจังหวัดเฉพาะนครราชสีมา
(นักศึกษา WHERE จังหวัด = 'นครราชสีมา' [ชื่อ,จังหวัด]
ผลที่ได้ดังนี้
ชื่อรีเลชั่นแรก TIMES ชื่อรีเลชั่นสอง]
จากตารางต่อไปนี้
นักศึกษา TIMES วิชา
ผลที่ได้คือ
หรือแสองสมการตามรูปที่ 3.7
งานคอม#2
งานคอม#2

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุแบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุAmIndy Thirawut
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลkruthanyaporn
 
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้นระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้นTophuto Piyapan
 
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลครูสม ฟาร์มมะนาว
 
ฐานข้อมูลนะสอน
ฐานข้อมูลนะสอนฐานข้อมูลนะสอน
ฐานข้อมูลนะสอนsariya25
 
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลครูสม ฟาร์มมะนาว
 
คู่มือ EndNoteX7
คู่มือ EndNoteX7คู่มือ EndNoteX7
คู่มือ EndNoteX7Dulyarat Gronsang
 
คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4
คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4
คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4tulibslideshare
 
วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote
วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote
วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote Khun Nuttie
 
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้นการใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้นtechno UCH
 
งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40
งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40
งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40KittinanSuksom2
 
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูลNattipong Siangyen
 
พจนานุกรมข้อมูล
พจนานุกรมข้อมูลพจนานุกรมข้อมูล
พจนานุกรมข้อมูลtumetr
 
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลสถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลskiats
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูลความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูลkruthanyaporn
 
นอร์มัลไลเซชัน
นอร์มัลไลเซชัน นอร์มัลไลเซชัน
นอร์มัลไลเซชัน Kittipong Joy
 

Mais procurados (19)

แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุแบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
 
Slide3
Slide3Slide3
Slide3
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
 
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้นระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
 
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
 
ฐานข้อมูลนะสอน
ฐานข้อมูลนะสอนฐานข้อมูลนะสอน
ฐานข้อมูลนะสอน
 
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
 
คู่มือ EndNoteX7
คู่มือ EndNoteX7คู่มือ EndNoteX7
คู่มือ EndNoteX7
 
คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4
คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4
คู่มือการใช้งานโปรแกรม EndNoteX4
 
วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote
วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote
วิธีการใช้งานโปรแกรม Endnote
 
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้นการใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
 
งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40
งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40
งานกลุ่ม ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ม.2/4 เลขที่ 1-18-26-29-31-34-40
 
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล
 
End note x6
End note x6End note x6
End note x6
 
พจนานุกรมข้อมูล
พจนานุกรมข้อมูลพจนานุกรมข้อมูล
พจนานุกรมข้อมูล
 
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลสถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูลความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล
 
แนวการสอบ ม.4
แนวการสอบ ม.4แนวการสอบ ม.4
แนวการสอบ ม.4
 
นอร์มัลไลเซชัน
นอร์มัลไลเซชัน นอร์มัลไลเซชัน
นอร์มัลไลเซชัน
 

Semelhante a งานคอม#2

งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์Earn'kanittha Thunyadee
 
การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2
การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2
การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2sunisa3112
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลOrapan Chamnan
 
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
งานคอมนางสาว มลทิรา  เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสารงานคอมนางสาว มลทิรา  เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสารmiwmilk
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5miwmilk
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล
นางสาวมลทิรา  เอกกุลนางสาวมลทิรา  เอกกุล
นางสาวมลทิรา เอกกุลmiwmilk
 
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5miwmilk
 
การจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลsa
 
Database management
Database managementDatabase management
Database managementPookngern
 
Database management
Database managementDatabase management
Database managementPookngern
 
รูปแบบของระบบฐานข้อมูล
รูปแบบของระบบฐานข้อมูลรูปแบบของระบบฐานข้อมูล
รูปแบบของระบบฐานข้อมูลMareeyalosocity
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลYongyut Nintakan
 

Semelhante a งานคอม#2 (20)

งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
งานกลุ่ม3ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
 
Lesson 1
Lesson 1Lesson 1
Lesson 1
 
Database
DatabaseDatabase
Database
 
Db1
Db1Db1
Db1
 
การจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูล
 
การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2
การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2
การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
งานคอมนางสาว มลทิรา  เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสารงานคอมนางสาว มลทิรา  เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
 
it-06-50
it-06-50it-06-50
it-06-50
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล
นางสาวมลทิรา  เอกกุลนางสาวมลทิรา  เอกกุล
นางสาวมลทิรา เอกกุล
 
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5
 
Lesson 1 intro2_db
Lesson 1 intro2_dbLesson 1 intro2_db
Lesson 1 intro2_db
 
Lesson 1 intro2_db
Lesson 1 intro2_dbLesson 1 intro2_db
Lesson 1 intro2_db
 
Research02
Research02Research02
Research02
 
การจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูล
 
Database management
Database managementDatabase management
Database management
 
Database management
Database managementDatabase management
Database management
 
รูปแบบของระบบฐานข้อมูล
รูปแบบของระบบฐานข้อมูลรูปแบบของระบบฐานข้อมูล
รูปแบบของระบบฐานข้อมูล
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 

Mais de Worapod Khomkham

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Worapod Khomkham
 
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือกการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือกWorapod Khomkham
 
ตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระ
ตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระ
ตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระWorapod Khomkham
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐานWorapod Khomkham
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์Worapod Khomkham
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์Worapod Khomkham
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์1
โปรแกรมคอมพิวเตอร์1โปรแกรมคอมพิวเตอร์1
โปรแกรมคอมพิวเตอร์1Worapod Khomkham
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์Worapod Khomkham
 
นายวรพศ คมขำ 5 4 เลขที่ 5
นายวรพศ  คมขำ 5 4 เลขที่ 5นายวรพศ  คมขำ 5 4 เลขที่ 5
นายวรพศ คมขำ 5 4 เลขที่ 5Worapod Khomkham
 

Mais de Worapod Khomkham (9)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือกการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
 
ตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระ
ตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระ
ตัวแปรชุดและตัวแปรกลุ่มอักขระ
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์1
โปรแกรมคอมพิวเตอร์1โปรแกรมคอมพิวเตอร์1
โปรแกรมคอมพิวเตอร์1
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
นายวรพศ คมขำ 5 4 เลขที่ 5
นายวรพศ  คมขำ 5 4 เลขที่ 5นายวรพศ  คมขำ 5 4 เลขที่ 5
นายวรพศ คมขำ 5 4 เลขที่ 5
 

งานคอม#2