34
เมื่อเพิ่มแรงที่ใช้ในการเหนี่ยวนาให้เกิดสนามแม่เหล็ก “H” แล้วค่าความหนาแน่น
ของเส้นแรงแม่เหล็ก “B” ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดอิ่มตัว
โดยที่เส้นประจาก o – a แสดงค่าหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็กสูงสุดจากจุดเริ่มต้น
เส้นแรงแม่เหล็กในวัสดุจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงแรก หลังจากนั้นอัตราการ
เพิ่มขึ้นของเส้นแรงแม่เหล็กในวัสดุจะค่อยๆ ช้าลง จนกระทั่งถึงจุดอิ่มตัว
0
5. Magnetic Hysteresis
35
เมื่อลดแรงที่ใช้ในการเหนี่ยวนาให้เกิดสนามแม่เหล็ก “H” ลงจนเท่ากับศูนย์(จาก
จุด a ไปจุด b) ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็กจะค่อยๆลดลง แต่ไม่เท่ากับ
ศูนย์แต่จะมีปริมาณสนามแม่เหล็กคงค้าง (Residual magnetism)
คุณสมบัติของเหล็กคาร์บอนที่สามารถเก็บสนามแม่เหล็กคงค้างไว้ได้เรียกว่า
“ Retentivity ” ดังรูป ( o – b )
saturation point
5. Magnetic Hysteresis
60
1. ไฟฟ้ากระแสสลับ ( Alternating Current , AC )
2. ไฟฟ้ากระแสตรง ( Direct Current , DC )
3. กระแสไฟฟ้าแบบ Half Wave Direct Current ( HWDC )
กระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการทดสอบด้วยอนุภาคแม่เหล็กมีดังนี้
7. ชนิดของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการทดสอบ
78
2. Magnetic Ink , White Contrast
Magnetic Ink
(Visible Technique)
Magnetic Ink
(Fluorescent Technique)
White Contrast
(Visible Technique)
11. อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ (Yoke Technique)
96
การให้สนามแม่เหล็กกับชิ้นงานที่ทดสอบมากเกินไป (Excessive
magnetizing current )
เกิดจากลักษณะและรูปร่างของชิ้นงาน ( Structural design of the article )
ค่า Permeability ที่แตกต่างกันในชิ้นงาน (Variances of permeability
within the article )
Non-relevant Indication หรือสิ่งบ่งชี้เทียม
สิ่งบ่งชี้เทียมสามารถเกิดได้เนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้
13. ชนิดของสิ่งบ่งชี้และความไม่ต่อเนื่อง