More Related Content
Similar to โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
Similar to โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่ (20)
More from Wan Ngamwongwan
More from Wan Ngamwongwan (20)
โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
- 2. สู บบุหรี่เครียดเสี่ ยงเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร
โรคของกระเพาะอาหารโดยตรงที่พบบ่อยคือ โรคแผล
ในกระเพาะอาหาร ซึ่งพบบ่อยในคนวัยทางาน และพบใน
ชายมากกว่าหญิง อาการสาคัญคือ มีอาการปวดท้องบริ เวณ
ั
ลิ้นปี่ มักจะสัมพันธ์กบการกินอาหาร
โรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือคนทัวไปเรียกกันติดปากว่ า โรคกระเพาะ หรือ โรคกระเพาะอาหาร เกิดจากสาเหตุ
่
หลายประการ และมีกลไกการเกิดโรคทีซับซ้ อนมาก สาเหตุมาจากกรดและน้ าย่อยที่หลังออกมาในกระเพาะอาหาร ไม่วากรดนั้น
่ ่ ่
จะมีปริ มาณมากหรื อน้อยจะเป็ นตัวทาลายเยือบุกระเพาะอาหาร ร่ วมกับมีความบกพร่ องของเยือบุกระเพาะอาหารที่สร้างแนว
่ ่
ต้านทานกรดไม่ดี นอกจากนี้ยงมีปัจจัยอื่นที่ส่งเสริ มให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร จนเป็ น โรคกระเพาะ ได้แก่ ยาแอสไพริ น
ั
ยารักษาโรคกระดูกและข้ออักเสบ การสู บบุหรี่ ความเครี ยด อาหารเผ็ด สุ รา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทาให้เกิดการระคายเคืองต่อเยือบุ
่
กระเพาะอาหาร เกิดการอักเสบเรื้ อรัง แล้วนาไปสู่ การเกิดแผลในกระเพาะอาหาร หรื อ โรคกระเพาะ และลาไส้เล็กส่ วนต้นได้
"เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร" อีกหนึ่งสาเหตุสาคัญของ โรคกระเพาะ ปัจจุบนพบว่ าเชื้อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร
ั
(Helicobacter pylori) เป็ นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งทีอยู่ในกระเพาะอาหาร มีรูปร่ างเป็ นเกลียวและมีหาง มีความทน
่
่ ่
กรดสู งเนื่องจากสามารถสร้างสารที่เป็ นด่างออกมาเจือจางกรดที่อยูรอบๆ ตัวมัน ทาให้สามารถอาศัยอยูในชั้นผิวเคลือบภายใน
กระเพาะอาหารได้ และยังสร้างสารพิษทาลายเซลล์เยือบุผวของกระเพาะอาหาร ส่ งผลให้เกิดการอักเสบและเกิดการเปลี่ยนแปลง
่ ิ
ของเซลล์เยือบุกระเพาะอาหาร จึงนับเป็ นสาเหตุสาคัญอันดับหนึ่งที่ทาให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
่
- 3. อาการจะดีขน หรือหายไป เมื่อรับประทานอาหาร ยาลดกรด หรือนม อาการมักเป็นๆ หายๆ อาจจะเป็นช่วงแรก ไม่
ึ้
นานแล้วก็หายไป แล้วเป็นใหม่ กลายเป็นแผลเรื้อรังได้ ซึ่งบางครั้งอาจมีผลแทรกซ้อน เช่น มีเลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร
หรือแผลนั้นทะลุเกิดการอักเสบในช่องท้องต้องผ่าตัดฉุกเฉินก็ได้
สาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหาร
1.การหลั่งกรดผิดปกติในกระเพาะอาหาร
2.กรรมพันธุ์ พบว่าเกิดกับคนในครอบครัวเดียวกันได้บ่อยๆ
3.บุหรี่ ทาให้มีการผลิตกรนในกระเพาะอาหารมากขึ้น นอกจากนี้ยังทาให้แผลหายช้า
4.ยา บางอย่างมีผลทั้งระคายเคืองกระเพาะอาหารโดยตรง และให้กลไกการป้องกันในกระเพาะอาหารเสียไป
ได้แก่ ยาแอสไพริน กลุ่มยา NSAIDs ที่ใช้รักษาโรคข้อแก้ปวด ยาในกลุ่มสเตรียรอยด์ ฯลฯ
5.ความเครียด ความกังวล ทาให้มีการหลั่งกรดมากขึ้น
6.การติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Helicobacterpylori
- 4. การรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร
คนวัยทางานมักตรากตราทางานหนัก กินอาหารไม่เป็ นเวลา พักผ่อนน้อย มีความเครี ยดจากงาน และใช้ยาแก้
ั
ปวดเมื่อยบ่อย เมื่อแพทย์ซกประวัติ อาการ ควาเสี่ ยง และตรวจร่ างกาย เข้าได้กบโรคแผลในกระเพาะอาหาร และไม่ใช่โรคอื่นๆ ที่
ั
อาการคล้ายกันดังกล่าวข้างต้น ก็จะให้การรักษาไปเลย
การรักษา ต้องมี 2 อย่างประกอบกันเสมอ คือ การรักษาด้วยยา และการปฏิบติตวที่ถูกต้องของผูป่วย และการรักษาด้วยยา
ั ั ้
แพทย์มกจะให้ยากลุ่มลดการหลังกรดในกระเพาะอาหาร หรื อยาที่เคลือบผิวหนังกระเพาะอาหารไว้ เช่น ยา Cimetidine Ranitidine
ั ่
Omeprazole Sucralfate ซึ่ งยังมีอีกหลายชนิด หลายกลุ่ม ส่ วนใหญ่แพทย์มกไม่ให้ยาน้ า อย่าง Alum milk อาจเป็ นเพราะผูป่วย
ั ้
มักหามากินเอง ก่อนมาหาแพทย์ และการใช้ Alum milk อย่างเดียวเพื่อรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารต้องกินบ่อยครั้งในปริ มาณมาก จน
อาจมีผลข้างเคียงของยาได้ บางครั้งแพทย์อาจให้ Alum milk มาใช้บรรเทาอาหาร ร่ วมกับยาอื่นก็ได้ การรักษาด้วยยาอาจใช้เวลา 4-8
สัปดาห์
การปฏิบัติตวของผู้ป่วย
ั
การปฏิบติตวของผูป่วย เป็ นปั จจัยสาคัญที่จะทาให้หายเร็ วขึ้น ซึ่ งก็คือการลดความเสี่ ยงที่ทาให้เกิดโรค ได้แก่
ั ั ้
1.รับประทานอาหารให้เป็ นเวลา ควรรับประทานอาหาร 3 มื้อ เว้นอาหารรสจัด งดรับประทานอาหารว่างหลัง
อาหารมื้อเย็น
2.ระหว่างรับประทานอาหาร เคี้ยวให้ละเอียดไม่รับประทานอาหารเวลาเหนื่อยมากๆ หรื อหลังเล่นกีฬา
3.งดสู บบุหรี่ เด็ดขาด และควรงดดื่มสุ รา หรื อดื่มกาแฟขณะท้องว่าง
4.ลดความกังวลความตึงเครี ยด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกาลังกายสม่าเสมอ
5.ละเว้นการใช้ยาแก้ปวดแก้ยอก เช่น แอสไพริ น ยาในกลุ่ม NSAIDs และสเตียรรอยด์ถาจะต้องใช้ ควร ้
ให้แพทย์ดูแลการใช้ ไม่ควรหามากินเอง