O slideshow foi denunciado.
Seu SlideShare está sendo baixado. ×

IS-สู้ชีวิต.pptx

Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Carregando em…3
×

Confira estes a seguir

1 de 36 Anúncio

Mais Conteúdo rRelacionado

Semelhante a IS-สู้ชีวิต.pptx (20)

Mais recentes (20)

Anúncio

IS-สู้ชีวิต.pptx

  1. 1. นำเสนอรำยงำน เรื่อง ศึกษำคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 6 โรงเรียนวัดหนอง ปี กำรศึกษำ 2565 ที่สนใจจะศึกษำต่อ ครู นิพำกร สมสุน
  2. 2. บทที่ 1 บทนำ
  3. 3. • ในสถานการณ์ตอนนี้ที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะต ้องใช ้ความสามารถของตนในการ เลือกเข ้าคณะวิชาต่างๆจะมีองค์ประกอบใช ้ในการพิจารณาเลือกคณะ ได ้แก่ 1.ชอบวิชา ไหน 2.ไม่ชอบวิชาไหน 3.ข ้อมูลแต่ละคณะ 4.บุคลิกภาพของผู้เลือก แต่ก็อาจมีข ้อยกเว ้น บางกรณี เช่น คณะที่คิดจะเลือกอาจไม่ใช่คณะที่มีวิชาที่ชอบแต่อาจเลือกเพราะเห็นแล ้ว รู้สึกชอบมากมาย ลักษณะบุคลิกภาพ 6 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 กลุ่มในโลกแห่งความจริง กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ชอบสืบค ้น กลุ่มที่ 3 กลุ่มชาวศิลป์ กลุ่มที่ 4 กลุ่มสังคม กลุ่มที่ 5 กลุ่มกล ้าคิดและ กลุ่มที่ 6 กลุ่มจริงจัง ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นประเภทลักษณะบุคลิกภาพที่จะสืบค ้นว่านักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล ้าจะชื่นชอบคณะใด เพราะในชั้นอุดมศึกษานั้น จะมีคณะวิชามากกว่าโรงเรียนชั้นมัธยมศึกษาแล ้วก็จะสืบค ้นแนวทางในการเลือกเรียนต่อ นั้นเป็นอย่างไรว่าอนาคตโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่อะไร • ทุกคนล ้วนต ้องมีความฝันเป็นของตนเอง พอรู้ว่าโตขึ้นอยากเป็นก็ต ้องหาคณะที่เหมาะกับ ตนเองแล ้วต ้องดูชื่อเสียงของสถาบันที่เราเลือกต่อว่าเป็นอย่างไรโดยเราก ้ต ้องดุด ้วยง่า
  4. 4. • สุดท ้ายที่สาคัญที่เราขาดไม่ได ้คือปัจจัยการใช ้ชีวิตในการเรียนในรั้วมหาลัย อย่างเช่น ค่า เรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน การเดินทาง หอพักและสภาพแวดล ้อมต่างที่เราต ้องอาศัยอยู่ใน รั้วมหาลัย แล ้วตอนนี้กลุ่มของข ้าพเจ ้าต ้องการที่จะทราบจานวนนักเรียนที่ต ้องการจะเรียน คณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 ที่สนใจจะเรียนต่อ เพื่อที่กลุ่ม ข ้าพเจ ้าจะทาการวิจัยการเลือกเข ้ามหาลัยในคณะต่างๆที่เราก็ต ้องเข ้าเหมือนกันในอนาคต ที่จะถึง สุดท ้ายนี้กลุ่มของข ้าพเจ ้าจะทาการทาโครงงานเกี่ยวกับจานวนนักเรียนที่สนใจจะ เรียนคณะต่างๆในมหาวิทยาลัย
  5. 5. วัตถุประสงค์ • 2.1. เพื่อศึกษาค ้นคว ้าสถิติคณะที่นักเรียนมีความสนใจมากที่สุด • 2.2. เพื่อศึกษาหาเหตุผลที่ต ้องการจะเข ้าศึกษาต่อคณะนั้นๆ • 2.3. เพื่อให ้คนอื่นได ้ตัดสินใจว่าจะเลือกคณะไหน • 2.4. เพื่อทาให ้มีความส่งผลต่อการตัดสินใจในการเข ้าคณะนั้นๆ
  6. 6. สมมติฐำน • ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือก คณะของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนปี การศึกษา 2565
  7. 7. ขอบเขตของกำรศึกษำ เนื้อหำ • การศึกษาคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนที่สนใจศึกษาต่อ • เพื่อการตัดสินใจเลือกศึกษาในระดับในระดับมหาวิทยาลัยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอน ปลายโรงเรียน • เพื่อศึกษาการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อจาแนกตามปัจจัย ส่วนบุคคล • เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย
  8. 8. สถำนที่ • โรงเรียนวัดหนอง ระยะเวลำ • ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
  9. 9. ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง • ประชากรนักเรียนโรงเรียนวัดหนองระดับชั้นปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2565 • กลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จานวน 50 คน ในปีการศึกษา 2565 โดย การ สุ่มกลุ่มตัวอย่าง
  10. 10. ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ • เพื่อศึกษามหาลัยที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สนใจเข ้าศึกษาต่อมีที่ใดบ ้าง • เพื่อกำรตัดสินใจเลือกเข้ำคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 สนใจได้ดีขึ้น • เพื่อเป้นการวางแผนการศึกษาในอนาคตต่อคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สนใจ
  11. 11. บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
  12. 12. ปัจจัยที่มีผลต่อควำมตั้งใจเลือกศึกษำวิชำชีพกำรพยำบำลของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 • การวิจัยนี้ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความตั้งใจเลือกศึกษาวิชาชีพการพยาบาลของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในภาคเหนือตอนบน จานวน 500 คน คัดเลือกโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอนเครื่องมือที่ใช ้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามส่วนบุคคลและแบบสอบถามความตั้งใจเลือกศึกษาวิชาชีพการพยาบาล ประกอบด ้วย 7 ตอน คือ 1)ความเชื่อต่อวิชาชีพพยาบาล 2)ความเชื่อที่ได ้รับจากบุคคลที่ สาคัญ 3)ความเชื่อต่อความสามารถของตน 4)เจตคติต่อวิชาชีพ 5)การคล ้อยตามความเห็น ของบุคคลที่มีความสาคัญ 6)การรับรู้ความสามารถของตนในการศึกษา 7)ความตั้งใจเลือก เลือกศึกษาวิชาชีพการพยาบาล ซึ่งแต่ล่ะด ้านมีค่าความเชื่อมั่นแอลฟาตรอนมากเท่ากับ .771, .913, .720, .913, .649, .537, .576 ตามลาดับการวิเคราะห์ข ้อมูลโดยใช ้สถิติเชิง พรรณนา สัมประสิทธิ์ของเฟียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอย พหุคูณแบบขั้นตอน • จากผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให ้เห็นว่า เจตคติมีอิทธิพลต่อการเลือกศึกษาวิชาชีพการ พยาบาล ดังนั้นวิทยาลัยพยาบาลและสถาบันพระบรมราชสานัก การประชาสัมพันธ์และ/หรือ จัดกิจกรรมโดยออกแบบวิธีการใหม่ๆทันสมัยเพื่อให ้นักเรียนมัธยมศึกษาตัดสินใจเข ้าศึกษา
  13. 13. ปัจจัยที่มีผลต่อกำรตัดสินใจต่อในระดับอุดมศึกษำของนักเรียน มัธยมศึกษำตอนปลำย โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลัยศิลปำกร • การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสารวจ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการ ตัดสินใจต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากรโดยจาแนกตามเพศ และระดับชั้น กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากรจานวน 214 คน โดยวิธีการสุ่ม ตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ตามสัดส่วนประชากร จาแนกตามเพศและระดับชั้น เครื่องมือที่ใช ้ใน การวิจัยเป็นแบบสอบถามเท่ากับ .890 สถิติที่ใช ้ในการวิเคราะห์ข ้อมูลได ้แก่ ร ้อยล่ะ(%) ค่าเฉลี่ย (x) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.O) • ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนมาหาวิทยาลัยศิลปากร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนใน ด ้านสถาบัน ส่วนด ้านเหตุผลส่วนตัวและด ้านเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในระดับมาก
  14. 14. ปัจจัยที่มีผลต่อกำรตัดสินใจเข้ำศึกษำต่อระดับปริญญำตรีของนักศึกษำ มหำวิทยำลัยขอนแก่นประจำปี กำรศึกษำ 2562 โดยผ่ำยนกำรคัดเลือกด้วยระบบ TCAS • งานวิจัยเรื่อง “ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเข ้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่นประจาปีการศึกษา 2562 โดยผ่ายนการคัดเลือกด ้วยระบบ TCAS” มี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเข ้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นประจาปีการศึกษา 2562โดยผ่านการคัดเลือกด ้วยระบบ TCAS มีกลุ่มประชากรคือนักศึกษาชั้นม.6 ที่สนใจเข ้าศึกษาในมหาวิทยาลัยขอนแก่นโดย ใช ้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือในการสารวจ ซึ่งได ้แบบสอบถามทั้งหมด 755 ชุด จากนั้นทาการวิเคราะห์ข ้อมูลโดยใช ้โปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ (SPSS for windows(Version 19)) • ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณโดยใช ้ผลจากการวิเคราะห์ปัจจัย พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อ การตัดสินใจเข ้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นประจาปี การศึกษา 2562 โดยผ่ายนการคัดเลือกด ้วยระบบ TCASได ้แก่ ปัจจัยด ้านความมีชื่อเสียง ของมหาวิทยาลัยและเป็นที่ยอมรับของสังคมและปัจจัยด ้านสังคมยกย่องในความรู้
  15. 15. ควำมต้องกำรและปัจจัยที่ส่งผลต่อกำรตัดสินใจเลือกศึกษำต่อ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 6 ของโรงเรียนด่ำนขุนทด • การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาความต ้องการและปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เลือกศึกษาต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนด่านขุนทดโดยใช ้วิธีการวิจัย เชิงปริมาณ(Quantitative-Research)เก็บรวบรวมข ้อมูลโดยแบบสอบถามนักเรียนโรงเรียน มัธยมด่านขุนทดจานวน 219 คนจากนักเรียนทั้งหมด 437 คน ใช ้โปรแกรมสาหรับวิเคราะห์ สถิติทางสังคมศาสตร์ SPSS for windows เพื่อหาร ้อยละค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน • ปัจจัยที่ส่งผลตจ่อความต ้องการศึกษาต่อของนักเรียนโรงเรียนมัธยมด่านขุนทด ประกอบด ้วยปัจจัย 3 ด ้านได ้แก่ ปัจจัยด ้านสถานที่และทาเลที่ตั้งของสถานศึกษาและปัจจัย ด ้านครอบครัวโดยมีรายละเอียดดังนี้ 1)ปัจจัยด ้านองค์ประกอบการศึกษาประกอบด ้วย 5 ประเด็นคือ ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย มหาลัยที่เป็นที่ยอมรับของสังคม หลักสูตรที่เปิดสอน เป็นที่เหมาะสมและน่าสนใจเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป คุณภาพการศึกษาของมหาลัย 2) ปัจจัยด ้านสถานที่และทาเลที่ตั้งของสถานศึกษา ประกอบด ้วย 5 ประเด็นคือเป็นสถานที่ที่ อยู่ใกล ้บ ้าน มีหอพักสาหรับนักศึกษาที่บ ้านอยู่ไกลสถานศึกษา มีบนนยากาศที่ดีสิ่งอานวย
  16. 16. กำรตัดสินใจเลือกศึกษำต่อในระดับอุดมศึกษำ ของนักเรียนมัธยมปลำย โรงเรียนท่ำศำลำประสิทธิ์ศึกษำ • การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อใน ระดับอุดมศึกษาของนักเรียนมัธยมปลาย โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา 2)เพื่อศึกษาการ ตัดสินใจเลือกศึกษาในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนท่า ศาลาประสิทธิ์ศึกษา จาแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3)เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีต่อการตัดสินใจ เลือกศึกษาต่อในอุดมศึกษาของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ ศึกษา • ผลการทดสอบสมมุติฐนาพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีเพศ ระดับชั้นการศึกษา ความต ้องการศึกษาต่างกัน ทาให ้การตัดสินใจเลือกศึกษาต่อใน อุดมศึกษาต่างกัน นอกจากนี้ปัจจัยด ้านภาพลักษณ์ของสถานศึกษา ด ้านเหตุผลส่วนตัวมี ผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
  17. 17. บทที่ 3 วิธีดำเนินกำรศึกษำ
  18. 18. ในกำรศึกษำครั้งนี้ ผู้ศึกษำได้ดำเนินตำมขั้นตอน ดังนี้ • 1. กลุ่มเป้าหมาย (ประชากร/ กลุ่มตัวอย่าง) • 2. เครื่องมือเครื่องใช ้ในการศึกษา • 3. วิธีดาเนินการศึกษา • 4. การวิเคราะห์ข ้อมูล • 5. สถิติที่ใช ้ในการวิเคราะห์ข ้อมูล
  19. 19. กลุ่มเป้ ำหมำย • กลุ่มเป้าหมายที่ใช ้ในการศึกษาครั้งนี้ได ้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัด หนองภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เป็นนักเรียนทั้งสิ้น 50 คน ได ้มาโดยการสุ่มกลุ่ม ตัวอย่างแบบง่ายเพื่อตอบแบบสอบถามที่สร ้างขึ้น
  20. 20. เครื่องมือที่ใช้ในกำรศึกษำ • เครื่องมือที่ใช ้ในการศึกษาครั้งนี้ ได ้แก่ แบบสอบถาม เรื่องศึกษาคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดหนองสนใจจะศึกษาต่อ โดยได ้ไปปรึกษาขอคาแนะนาจากครู นิพากร สมสุนที่ปรึกษา IS โดยเตรียมร่างข ้อคาถาม มีลักษณะเป็นข ้อคาถามจานวน 10 ข ้อ เป็นแบบมาตรา ส่วนประมาณ 5 ระดับ คือ • สร ้างแบบสอบถาม เรื่อง ศึกษาคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัด หนองที่สนใจจะศึกษาต่อ โดยได ้ไปปรึกษาขอคาแนะนาจากคุณครู นิพากร สมสุน จากนั้นนามา ปรับปรุงแก ้ไขตามที่ครูที่ปรึกษาแนะนา • นาแบบสอบถามเรื่องศึกษาคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดหนองที่ สนใจจะศึกษาต่อที่แก ้ไขปรับปรุงแล ้วให ้กลุ่มเป้าหมายประเมิน หลังจากนั้นนาผลที่ได ้มาวิเคราะห์อีก ที
  21. 21. วิธีดำเนินกำรศึกษำ ผู้ศึกษาได ้ดาเนินการตามขั้นตอนดังนี้ • กาหนดเรื่องที่จะศึกษาโดยสมาชิกทั้ง 5 คน ประชุมร่วมกัน และร่วมกันคิดและวางแผน ว่า จะศึกษาเรื่องใด • สารวจปัญหาต่างๆ ที่พบได ้รอบๆตัวทุกๆด ้านอาทิ เช่น ผู้เรียน ครูผู้สอน เป็นตัน • ตั้งประเด็นปัญหาแล ้วให ้สมาชิกเลือกว่าประเด็นปัญหาไหนน่าสนใจที่สุดแล ้วนามาเป็น แรงจูงใจมนการศึกษาค ้นคว ้าหาคาตอบ เรื่อง ศึกษาคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนวัดหนองที่สนใจจะศึกษาต่อ • สมาชิกในกลุ่มบางคนได ้ไปพบครูผู้สอนประจาวิชาเพื่อปรึกษา รับฟังความคิดเห็นแล ้วนามา วางแผนปรับปรุง • เขียนข ้อมูลความสาคัญความเป็นมาของวัตถุประสงค์สมมติฐานและอื่นๆ ที่นามาจาก
  22. 22. • สร ้างแบบสอบถาม จานวน 10 ข ้อ จานวน 50 แผ่น • นาแบบสอบถามไปใช ้กับกลุ่มเป้าหมาย จานวน 50 แผ่น • การเก็บรวบรวมข ้อมูลการศึกษาครั้งนี้ได ้ดาเนินการโดยนาแบบสอบถามที่สร ้างขึ้นให ้ นักเรียนกลุ่มตัวอย่างตอบ จานวน 50 คน และเก็บรวบรวมข ้อมูลจากนักเรียนที่เป็นกลุ่ม ตัวอย่าง โดยผู้ศึกษาทั้ง 5 คน ดาเนินการเก็บรวบรวมข ้อมูลด ้วยตนเอง • วิเคราะห์ข ้อมูลโดยใช ้วิธีการหาค่าร ้อยละ • สรุปการศึกษาและเขียนรายงาน
  23. 23. ในการวิเคราะห์ข ้อมูล ผู้ศึกษาได ้วิเคราะห์ข ้อมูลดังนี้ • นาแบบสอบถามทั้งหมดที่ตอบโดยนักเรียนกลุ่ม ตัวอย่าง มาหาค่าคะแนนรวม • นาผลรวมมาคิดเฉลี่ย และค่าร ้อยละ • พิจารณาค่าเฉลี่ย จะใช ้เกณฑ์ดังนี้ กำรวิเครำะห์ข้อมูล ค่ำเฉลี่ย 4.51-5.00 หมำยถึง มำกที่สุด ค่ำเฉลี่ย 3.51-4.50 หมำยถึง มำก ค่ำเฉลี่ย 2.51-3.50 หมำยถึง ปำนกลำง ค่ำเฉลี่ย 1.51-2.50 หมำยถึง น้อย ค่ำเฉลี่ย 1.00-1.50 หมำยถึง น้อยที่สุด
  24. 24. สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล สถิติที่ใช ้ในการวิเคราะห์ข ้อมูล ดังนี้ ค่าร ้อยละ Pct = 𝑛 𝑖 𝑛 𝑡 × 100 เมื่อ pct แทน ร ้อยละของ สิ่งที่ศึกษา 𝑛𝑖 แทน จานวนส่วนย่อยที่ ศึกษา 𝑛𝑡 แทน จานวนส่วนใหญ่ ทั้งหมด สถิติที่ใช ้ในการวิเคราะห์ข ้อมูล ดังนี้ ค่าเฉลี่ย เมื่ อ X แทน ร้อยละของสิ่งที่ศึกษา X แทน จานวนส่วนย่อยที่ศึกษา 𝑛 แทน จานวนส่วนใหญ่ทั้งหมด X= 𝑋 𝑛
  25. 25. บทที่ 4 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล
  26. 26. ข้อมูลทั่วไป ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นผู้หญิง 21 คน เป็นผู้ชาย 19 คน เพศ จานวน ร้อยละ ชาย 25 50 หญิง 25 50 รวม 50 100 อายุ จานวน ร้อยละ 16 0 0 17 43 86 18 7 14 19 0 0 รวม 50 100 • จากตาราง จากผู้ตอบแบบสอบถามเป็น • เพศชาย 25 คน คิดเป็นร ้อยละ 50 เพศหญิง 25 คน คิดเป็นร ้อยละ 50 • ช่วงอายุ 16 มีจานวน 0 คน คิดเป็นร ้อยละ 0 17 มีจานวน 43 คน คิดเป็นร ้อยละ 86 18 มีจานวน 7 คน คิดเป็นร ้อยละ 14 19 มีจานวน 0 คน คิดเป็นร ้อยละ 0
  27. 27. แบบสอบถาม เรื่อง ศึกษาคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัด หนองที่สนใจจะศึกษาต่อ ตารางผลของการตอบแบบสอบถาม
  28. 28. ประเด็น/หัวข ้อ มากที่สุด 5 มาก 4 ปาน กลาง 3 น้อย 2 น้อย ที่สุด 1 1.ความสนใจของนักเรียนในคณะต่างๆมีผลต่อการวางแผน อาชีพในอนาคตมากน้อยเพียงใด 21 18 11 0 0 2.นักเรียนคิดว่าความสามารถพิเศษของนักเรียนมีผลต่อการ เลือกคณะวิชามากน้อยเพียงใด 13 25 9 3 0 3.นักเรียนคิดว่าค่าใช ้จ่ายในการเดินทางไปและกลับมีผลต่อ การเลือกคณะในมหาลัยในระดับใด 6 22 21 1 0 4.คุณคิดว่าจานวนการแข่งขันเพื่อสอบเข ้ามหาวิทยาลัยมีผล ต่อการตัดสินใจมากน้อยแค่ไหน 11 16 15 8 0 5.นักเรียนคิดว่าสถานที่และการเดินทางมีผลต่อการเลือกคณะ ในมหาวิทยาลัยในระดับใด 11 17 15 7 0 6.ความแตกต่างของคุณภาพในการศึกษาของแต่ล่ะมหาลัยมี ผลต่อการเลือกคณะในระดับใด 14 12 17 7 0 7.นักเรียนคิดว่าความนิยมของคณะในแต่ละมหาลัยมีส่วนช่วย ในการตัดสินใจในการสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นในระดับใด 14 21 10 5 0 8.นักเรียนคิดว่าอาชีพในอนาคตมีส่วนช่วยในการตัดสินใจเข ้า เรียนในคณะนั้นๆระดับใด 8 23 13 6 0
  29. 29. จากตาราง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให ้ความเห็นในเรื่อง “ความสนใจของนักเรียนในคณะ ต่างๆมีผลต่อการวางแผนอาชีพในอนาคตมากน้อยเพียงใด” มากที่สุดเป็นลาดับที่ 1 ร ้อยละ 4.2 รองลงมาเป็น “นักเรียนคิดว่าความนิยมของคณะในแต่ละมหาลัยมีส่วนช่วยในการตัดสินใจ ในการสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นในระดับใด” เป็นลาดับที่ 2 ร ้อยละ 3.88 และสุดท ้าย “ความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัยของรัฐบาลและเอกชนมีผลต่อการศึกษาในระดับใด” มี ผู้ตอบแบบสอบถามน้อยที่สุดคิดเป็นร ้อยละ 3.5
  30. 30. บทที่ 5 สรุปผล อภิปรำย และข้อเสนอแนะ
  31. 31. การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ • 1. เพื่อศึกษาค ้นคว ้าสถิติคณะที่นักเรียนมีความสนใจมากที่สุด • 2. เพื่อศึกษาหาเหตุผลที่ต ้องการจะเข ้าศึกษาต่อคณะนั้นๆ • 3. เพื่อให ้คนอื่นได ้ตัดสินใจว่าจะเลือกคณะไหน • 4. เพื่อทาให ้มีความส่งผลต่อการตัดสินใจในการเข ้าคณะนั้นๆ กลุ่มเป้าหมายที่ใช ้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดหนอง
  32. 32. สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ค่ำร้อยละ ค่ำเฉลี่ย สรุปผลกำรศึกษำ 1. จากตารางจากผู้ตอบแบบสอบถามเป็น เพศชาย 25 คน คิดเป็นร ้อยละ 50 เพศหญิง 25 คน คิดเป็นร ้อยละ 50 ช่วงอายุ 16 มีจานวน 0 คน คิดเป็นร ้อยละ 0 17 มีจานวน 43 คน คิดเป็นร ้อยละ 86 18 มีจานวน 7 คน คิดเป็นร ้อยละ 14 19 มีจานวน 0 คน คิดเป็นร ้อยละ 0
  33. 33. จากตารางที่พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามให ้ความเห็นในเรื่อง “ความสนใจของนักเรียนในคณะ ต่างๆมีผลต่อการวางแผนอาชีพในอนาคตมากน้อยเพียงใด” มากที่สุดเป็นลาดับที่ 1 ร ้อยละ 4.2 รองลงมาเป็น “นักเรียนคิดว่าความนิยมของคณะในแต่ละมหาลัยมีส่วนช่วยในการตัดสินใจ ในการสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นในระดับใด” เป็นลาดับที่ 2 ร ้อยละ 3.88 และสุดท ้าย “ความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัยของรัฐบาลและเอกชนมีผลต่อการศึกษาในระดับใด” มี ผู้ตอบแบบสอบถามน้อยที่สุดคิดเป็นร ้อยละ 3.5
  34. 34. จากการศึกษาเรื่อง ศึกษาคณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดหนองที่สนใจจะศึกษาต่อสามารถอภิปรายผลได ้ดังนี้ • 1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศทั้งชายและหญิงช่วงอายุ 17 ปี • 2. จากแบบสอบถามจานวน10ข ้อที่ให ้ผู้ทาแบบสอบถามนั้นความเห็นเรื่อง “ความสนใจของนักเรียนในคณะต่างๆมีผลต่อการวางแผนอาชีพในอนาคต มากน้อยเพียงใด” มากที่สุด และจากคาถามเรื่อง “ความแตกต่างระหว่าง มหาวิทยาลัยของรัฐบาลและเอกชนมีผลต่อการศึกษาในระดับใด” มีผู้ตอบ แบบสอบถามน้อยที่สุด อภิปรำยผล
  35. 35. จากการศึกษามีข ้อเสนอแนะดังนี้ • 1. เห็นด ้วยกับผู้ที่ตอบแบบถามในเรื่อง ความสนใจของนักเรียนในคณะต่างๆ มีผลต่อการวางแผนอาชีพในอนาคตมากน้อยเพียงใด เพราะ จะได ้รู้ว่าการ เลือกเข ้าคณะต่างๆมีผลต่อการวางแผนอย่างไร • 2. ไม่ค่อยเห็นด ้วยกับผู้ที่ตอบแบบสอบถามในเรื่อง ความแตกต่างระหว่าง มหาวิทยาลัยของรัฐบาลและเอกชนมีผลต่อการศึกษาในระดับใด เพราะ คุณ ควรศึกษาว่าระหว่างรัฐบาลกับเอกชนนั้นมีผลต่อคุณมากน้อยแค่ไหน ข้อเสนอแนะ
  36. 36. สมำชิก

×