SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
รายงาน
เรื่อง อินเทอร์เน็ต
เสนอ
คุณครู จุฑารัตน์ ใจบุญ

จัดทาโดย
นางสาว ธิติมา พุฒเกลี้ยง
ชั้น ม.4/1 เลขที่ 25

โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
สานักงานเขตพืนที่มธยมศึกษา เขต13
้ ั
คานา
รายงานเล่มนี้เป็ นส่ วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยจัดทาเรื่ องเกี่ยวกับ
อินเทอร์ เน็ตที่มีเนื้ อหาและข้อมูลที่ประกอบไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับอินเทอร์ เน็ตคือ ประวัติความเป็ นมาของ
อินเทอร์ เน็ต ความหมายของอินเทอร์ เน็ต วิธีการใช้อินเทอร์ เน็ต บริ การต่างๆบนอินเทอร์ เน็ต มารยาทของ
ั
การใช้อินเทอร์ เน็ต และรวมทั้งประโยชน์ของอินเทอร์ เน็ตและโทษของอินเทอร์ เน็ต ที่เป็ นข้อมูลให้กบ
บุคคลที่ใช้อินเทอร์เน็ตได้ศึกษาและเรี ยนรู้ถึงข้อมูลอินเทอร์ เน็ตได้อย่างแท้จริ งและสิ่ งสาคัญคือสามารถ
ั
นาไปเป็ นสื่ อในการเรี ยนการการสอนเผยแพร่ ความรู ้ให้กบน้องๆและบุคคลรุ่ นหลังได้ศึกษาเรี ยนรู้ เพื่อที่จะ
นาไปปฎิบติใช้ในชีวตประจาวันที่เป็ นประโยชน์ได้
ั
ิ
หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่น้ ี

จัดทาโดย
นางสาว ธิติมา พุฒเกลี้ยง
สารบัญ
เรื่อง

หน้ า

ความหมายของอินเทอร์ เน็ต

1

ประวัติของอินเทอร์เน็ต

2

การทางานของอินเทอร์เน็ต

3

่
โดเมนเนมหรื อที่ชื่ออยูของเว็บไซต์

4

รู ปแบบบริ การบนอินเทอร์เน็ต

5

การประยุกต์ใช้งานอินเทอร์ เน็ต

6

การตั้งชื่อบนระบบอินเทอร์ เน็ต

7

การเชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ต

8

บริ การต่างๆบนอินเทอร์ เน็ต

9-11

มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต

12

ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต

12

โทษของอินเทอร์ เน็ต

13
อินเทอร์ เน็ต
ความหมายของอินเทอร์ เน็ต
อินเทอร์ เน็ตคือ ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะเป็ นการเชื่อมต่อเครื่ อง
คอมพิวเตอร์ หลายๆ เครื่ องจากทัวโลกมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่ งช่วยให้สามารถติดต่อสื่ อสารและ
่
่
แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ทวโลก ในการติดต่อกันระหว่างเครื่ องคอมพิวเตอร์ จาเป็ นต้องมีการระบุวา
ั่
ส่ งมาจากไหน ส่ งไปให้ใครซึ่ งต้องมีการระบุ ชื่อเครื่ อง (คล้ายกับเลขที่บาน) ในอินเทอร์ เน็ตใช้ขอตกลงใน
้
้
การติดต่อที่เรี ยกว่า TCP/IP (ข้อตกลงที่ทาให้คอมพิวเตอร์ ติดต่อกันได้) ซึ่ งจะใช้สิ่งที่เรี ยกค่า “ไอพีแอดเดรส” (IP-Address) ในการระบุชื่อเครื่ องจะไม่มีเบอร์ ที่ซ้ ากันได้

อินเทอร์ เน็ตจึงมีรูปแบบคล้ายกับเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบ WAN แต่มีโครงสร้างการทางานที่แตกต่างกัน
มากพอสมควรเนื่องจากระบบ WAN เป็ นเครื อข่ายที่ถูกสร้างโดยองค์กรๆ เดียวหรื อกลุ่มองค์กรเพื่อ
วัตถุประสงค์ดานใดด้านหนึ่ ง และมีผดูแลระบบที่รับผิดชอบแน่นอนแต่อินเทอร์ เน็ตจะเป็ นการเชื่ อมโยงกัน
้
ู้
่ ั
ระหว่างคอมพิวเตอร์ นบล้านๆเครื่ องแบบไม่ถาวรขึ้นอยูกบเวลานั้นๆ ว่าใครต้องการเข้าสู่ ระบบอินเทอร์ เน็ต
ั
บ้างใครจะติดต่อสื่ อสารกับใครก็ได้จึงทาให้ระบบอินเทอร์ เน็ตไม่มีผใดรับผิดชอบหรื อดูแลทั้งระบบ
ู้

1
ประวัติของอินเทอร์ เน็ต
อินเทอร์ เน็ตกาเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริ กา เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหาร ของ
สหรัฐอเมริ กา ชื่ อว่า ยู.เอส.ดีเฟนซ์ ดีพาร์ ทเมนท์ ( U.S. Defence Department ) เป็ นผูคิดค้นระบบขึ้นมา มี
้
วัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้มีระบบเครื อข่ายที่ไม่มีวนตายแม้จะมีสงคราม ระบบการสื่ อสารถูกทาลาย หรื อตัด
ั
ขาด แต่ระบบเครื อข่ายแบบนี้ยงทางานได้ซ่ ึ งระบบดังกล่าวจะใช้วธีการส่ งข้อมูลในรู ปของคลื่นไมโครเวฟ
ั
ิ
ฝ่ ายวิจยขององค์กรจึงได้จดตั้งระบบเน็ตเวริ์ กขึ้นมา เรี ยกว่า ARPAnetย่อมาจากคาว่า Advance Research
ั
ั
Project Agency net ซึ่งประสบความสาเร็ จและได้รับความนิยมในหมู่ของหน่วยงานทหาร องค์กร รัฐบาล
และสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็ นอย่างมาก
การเชื่อมต่อในภาพแรกแบบเดิม ถ้าระบบเครื อข่ายถูกตัดขาด ระบบก็จะเสี ยหายและทาให้การเชื่อมต่อขาด
่
ออกจากกัน แต่ในเครื อข่ายแบบใหม่ แม้วาระบบเครื อข่ายหนึ่งถูกตัดขาด เครื อข่ายก็ยงดาเนินไปได้ไม่
ั
เสี ยหาย เพราะโดยตัวระบบก็หาช่องทางอื่นเชื่ อมโยงกันจนได้ในระยะแรก เมื่อ ARPAnetประสบ
ความสาเร็ จ ก็มีองค์กรมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาร่ วมในโครงข่ายมากขึ้น โดยเน้นการรับส่ ง
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Mail ) ระหว่างกันเป็ นหลัก ต่อมาก็ได้ขยายการบริ การไปถึงการส่ ง
แฟ้ มข้อมูลข่าวสารและส่ งข่าวสารความรู ้ทวไป แต่ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิ ชย์ เน้นการให้บริ การด้านวิชาการ
ั่
เป็ นหลักปี พ.ศ. 2523 คนทัวไปเริ่ มสนใจอินเทอร์ เน็ตมากขึ้น มีการนาอินเทอร์เน็ตมาใช้ในเชิงพาณิ ชย์ มี
่
การทาธุ รกิจบนอินเทอร์ เน็ต บริ ษท ห้างร้านต่างๆ ก็เข้าร่ วมเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตมากขึ้น
ั
อินเทอร์ เน็ตในประเทศไทย
ประเทศไทยได้เริ่ มติดต่อกับอินเทอร์ เน็ตในปี พ.ศ. 2530 ในลักษณะการใช้บริ การ จดหมายเล็กทรอนิกส์
แบบแลกเปลี่ยนถุงเมล์เป็ นครั้งแรก โดยเริ่ มที่มหาวิทยาลัยสงขลานคริ นทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ( Prince of
Songkla University ) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียหรื อสถาบันเอไอที ( AIT ) ภายใต้โครงการความ
ร่ วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย ( โครงการ IDP ) ซึ่ งเป็ นการติดต่อเชื่อมโยงโดยสายโทรศัพท์
่
จนกระทังปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานคริ นทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้ยนขอที่อยูอินเทอร์ เน็ตใน
ื่
่
่
่
ประเทศไทย โดยได้รับที่อยูอินเทอร์ เน็ต Sritrang.psu.th ซึ่ งนับเป็ นที่อยูอินเทอร์ เน็ตแห่ งแรกของประเทศ
ไทย

2
่
ต่อมาปี พ.ศ. 2534 บริ ษท DEC ( Thailand ) จากัดได้ขอที่อยูอินเทอร์ เน็ตเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของ
ั
่
บริ ษท โดยได้รับที่อยูอินเทอร์ เน็ตเป็ น dect.co.th โดยที่คา “th” เป็ นส่ วนที่เรี ยกว่า โดเมน ( Domain ) ซึ่งเป็ น
ั
ส่ วนที่แสดงโซนของเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตในประเทศไทย โดยย่อมาจากคาว่า Thailand
การทางานของอินเทอร์ เน็ต
การสื่ อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะมีโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งเป็ นระเบียบวิธีการสื่ อสารที่เป็ นมาตรฐาน
ของการเชื่ อมต่อกาหนดไว้ โปรโตคอลที่เป็ นมาตรฐานสาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ต คือ TCP/IP
(Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เครื่ องคอมพิวเตอร์ ทุกเครื่ องที่เชื่อมต่อเข้ากับเครื อข่าย
อินเทอร์ เน็ตจะต้องมีหมายเลขประจาเครื่ อง ที่เรี ยกว่า IP Address เพื่อเอาไว้อางอิงหรื อติดต่อกับเครื่ อง
้
คอมพิวเตอร์ อื่นๆ ในเครื อข่าย ซึ่ ง IP ในที่น้ ีก็คือ Internet Protocol ตัวเดียวกับใน TCP/IP นันเอง IP address
่
ถูกจัดเป็ นตัวเลขชุดหนึ่งขนาด 32 บิต ใน 1 ชุดนี้จะมีตวเลขถูกแบ่งออกเป็ น 4 ส่ วน ส่ วนละ 8 บิตเท่าๆ กัน
ั
เวลาเขียนก็แปลงให้เป็ นเลขฐานสิ บก่อนเพื่อความง่ายแล้วเขียนโดยคันแต่ละส่ วนด้วยจุด (.) ดังนั้นในตัวเลข
่
แต่ละส่ วนนี้จึงมีค่าได้ไม่เกิน 256 คือ ตั้งแต่ 0 จนถึง 255 เท่านั้น เช่น IP address ของเครื่ องคอมพิวเตอร์ของ
สถาบันราชภัฎสวนดุสิต คือ 203.183.233.6 ซึ่ง IP Address ชุดนี้จะใช้เป็ นที่อยูเ่ พื่อติดต่อกับเครื่ อง
คอมพิวเตอร์ อื่นๆ ในเครื อข่าย
โดเมนเนม (Domain name system :DNS)
เนื่องจากการติดต่อสื่ อสารกันกันในระบบอินเทอร์ เน็ตใช้โปรโตคอล TCP/IP เพื่อสื่ อสารกัน โดยจะต้องมี
IP address ในการอ้างอิงเสมอ แต่ IP address นี้ถึงแม้จะจัดแบ่งเป็ นส่ วนๆ แล้วก็ยงมีอุปสรรคในการที่ตอง
ั
้
่
จดจาถ้าเครื่ องที่อยูในเครื อข่ายมีจานวนมากขึ้น การจดจาหมายเลข IP ดูจะเป็ นเรื่ องยาก และอาจสับสนจา
ผิดได้ แนวทางแก้ปัญหาคือการตั้งชื่ อหรื อตัวอักษรขึ้นมาแทนที่ IP address ซึ่ งสะดวกในการจดจามากกว่า
เช่น IP address คือ 203.183.233.6 แทนที่ดวยชื่อ dusit.ac.th ผูใช้งานสามารถ จดจาชื่ อ dusit.ac.th ได้ง่ายกว่า
้
้
การจาตัวเลข
โดเมนที่ได้รับความนิยมกันทัวโลก ที่ถือว่าเป็ นโดเมนสากล มีดงนี้ คือ .com ย่อมาจาก commercial สาหรับ
ั
่
ธุ รกิจ .eduย่อมาจาก education สาหรับการศึกษา .intย่อมาจาก International Organization สาหรับองค์กร
นานาชาติ .org ย่อมาจาก Organization สาหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากาไร .org ย่อมาจาก Organization
สาหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากาไร

3
่
โดเมนเนม หรื อที่เราเรี ยกว่าที่อยูของเว็บไซต์เป็ นชื่อที่ถูกการเรี ยกแทนหมายเลข IP Address เนื่องจากเกิด
่
ความยุงยากในการจาหมายเลข เวลาที่ตองการท่องเที่ยวในอินเทอร์ เน็ตจึงได้นาตัวอักษรมาใช้แทนมักเป็ น
้
่
ชื่อที่มีสื่อความหมายเป็ นหน่วยงาน หรื อเจ้าของเว็บไซต์น้ น ชื่อของโดเมนเนมแต่ละชื่อจะอยูหนึ่งเดียว
ั
เท่านั้น
2.1Organization Domains โดเมนเนม 2 ระดับ แสดงถึงองค์กรหรื อหน่วยงานที่มีลกษณะดังนี้ เช่น
ั
www.thai2learn.comwww.berkeley.edu
ตัวย่อประเภทองค์กร
.com บริ ษทหรื อองค์กรพาณิ ชย์
ั
.eduสถาบันการศึกษา
.net องค์กรที่ให้บริ การเครื อข่าย
.mil องค์กรทางทหาร
.govองค์กรของรัฐ
2.2Geographical Domainsโดเมน 3 ระดับ มีลกษณะดังนี้ www.google.comwww.nvc-koran.ac.thแตกต่าง
ั
จากรู ปแบบ 2 ระดับ คือหลังจากบอกประเภทองค์กรแล้วจะตามด้วยชื่อประเทศที่ต้ งขององค์กรนั้น
ั
ตัวย่อประเภทองค์กร
.co บริ ษทหรื อองค์กรพาณิ ชย์
ั
.ac สถาบันการศึกษา
.go องค์กรของรัฐ
.net องค์กรที่ให้บริ การเครื อข่าย

4
บริการพืนทีบนอินเทอร์ เน็ต
้ ่
(อังกฤษ: Internet Hosting Service) เป็ นบริ การที่ทางานบนอินเทอร์เน็ตเซิ ร์ฟเวอร์ ที่อนุญาตให้
องค์กรหรื อนิติบุคคล ใช้งานเนื้อที่บนอินเทอร์ เน็ต ซึ่ งมีบริ การในระดับต่างๆ และรู ปแบบให้บริ การใน
รู ปแบบต่างๆ กันไป
รู ปแบบบริ การที่มกพบเห็นคือ บริ การพื้นที่สาหรับเว็บไซต์ (Web Hosting) ซึ่ งผูให้บริ การส่ วนใหญ่
ั
้
ั
มักรวมบริ การพื้นที่สาหรับเว็บไซต์กบบริ การอื่นๆ อาทิเช่น บริ การพื้นที่สาหรับอีเมล (E-mail Hosting) เป็ น
ั
ต้น นอกจากนี้ยงมี บริ การตั้ง DNS และ บริ การจดทะเบียนโดเมน ควบคู่กนไป
ั

รู ปแบบบริการ






บริ การเซิ ร์ฟเวอร์ ให้เช่า (Dedicated hosting service) หรื อ บริ การการจัดการและจัดหาเซิร์ฟเวอร์ เป็ น
บริ การที่ลูกค้าเป็ นเจ้าของเครื่ อง และสามารถจัดการทรัพยากรเครื่ องได้เอง การจัดการบนเครื่ องเซิฟ
่
่
เวอร์ ยงสามารถร่ วมไปถึง บริ การตรวจตรา ว่าเซิ ฟเวอร์ วาทางานอยูตลอดเวลาอย่างเต็มประสิ ทธิ ภาพ
ั
, บริ การสารองข้อมูล, บริ การปรับปรุ งความปลอดภัย และ อื่นๆ ตามแต่ระดับการให้บริ การ
บริ การเซิ ร์ฟเวอร์ เสมือนส่ วนตัว (Virtual private server: VPS) เป็ นเทคโนโลยีที่ให้เครื่ องเซิฟเวอร์
หนึ่งเครื่ อง จาลองการทางาน เสมือนเป็ นเครื่ องเซิฟเวอร์หลายๆ เครื่ อง ภายในเครื่ องเดียว ทาให้เป็ น
เอกเทศ และเป็ นเสมือนเซิ ฟเวอร์ ส่วนตัวของผูใช้บริ การ
้
บริ การวางเซิ ร์ฟเวอร์ ณ ส่ วนกลาง (Co-Location Server หรื อ โคโล) เป็ นบริ การการเชื่ อมต่อ
อินเทอร์ เน็ต ซึ่ งผูใช้บริ การจะเป็ นผูดูแลระบบเองทั้งหมด โดยวางเครื่ องของตนที่ส่วนกลางเชื่อมต่อ
้
้
ระบบอินเทอร์เน็ต

บริการอืนๆ
่
บริ การที่มีขอจากัด หรื อ มีขอกาหนดในการใช้ซอฟต์แวร์ มีบริ การต่างๆ ดังนี้ เช่น
้
้
 บริ การพื้นที่สาหรับเว็บไซต์
 บริ การพื้นที่สาหรับอีเมล
 บริ การตั้ง DNS
 เซิ ร์ฟเวอร์ เกม
 วิกิฟาร์ ม

5
การประยุกต์ ใช้ งานเครือข่ ายอินเตอร์ เน็ต
เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต คือระบบเครื อข่ายสากล ที่เกิดจากการรวมระบบเครื อข่ายขนาดเล็กให้สื่อสารและ
แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่ งกันและกันได้ โดยเป็ นเครื อข่ายที่มีเทคโนโลยีระดับสู งซึ่ งเปิ ดกว้างสู่ สาธารณะอย่าง
่
แพร่ หลาย หรื ออาจกล่าวได้วา อินเตอร์ เน็ตเป็ นการผสมผสานกันของระบบเครื อข่ายที่แตกต่างกันทัวโลก
่
ให้เป็ นหนึ่งเดียวกัน สาหรับ ผูใช้ส่วนใหญ่น้ นจะสามารถเข้าถึงและใช้งานอินเตอร์ เน็ตได้ โดยเชื่ อมต่อผ่าน
้
ั
ทางโมเด็ม และสายโทรศัพท์ แต่ในความเป็ นจริ งนั้นเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในเครื อข่ายนี้มีอยู่
่
มากมายหลากหลาย ซึ่ งมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา โดยจะประกอบไปด้วยเครื่ องเซิ ร์ฟเวอร์
(Server) เกตเวร์ (Gateway) เราเตอร์ (Router) และสายสื่ อสารเป็ นจานวนมากที่เชื่ อมต่อสิ่ งเหล่านี้เข้าด้วยกัน
เป็ นเครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต ได้แก่
่
1. ไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์ หรื อ อีเมล เป็ นการส่ งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผานเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตโดยผูส่ง
์
้
่
จะต้องส่ งข้อความไปยังที่อยูของผูรับ และแนบไฟล์ไปได้
้
่
2. เทลเน็ต (Telnet) การใช้งานคอมพิวเตอร์ อีกเครื่ องหนึ่งที่อยูไกล ๆ ได้ดวยตนเอง เช่น สามารถเรี ยกข้อมูล
้
จากโรงเรี ยนมาทาที่บานได้
้
3. การโอนถ่ายข้อมูล (FTP) ค้นหาและเรี ยกข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาเก็บไว้ในเครื่ องของเราได้ ทั้งข้อมูล
ประเภทตัวหนังสื อ รู ปภาพและเสี ยง
4. การสื บค้นข้อมูล (เวิลด์ไวด์เว็บ, Gopher, Archie) การใช้เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตในการค้นหาข่าวสารที่มีอยู่
มากมาย ใช้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทัวโลกได้
่
5. การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น (ยูสเน็ต) เป็ นการบริ การแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดงความ
คิดเห็นที่ผใช้บริ การอินเทอร์ เน็ตทัว
ู้
่
โลก แสดงความคิดเห็นของตน โดยกลุ่มข่าวหรื อนิวกรุ๊ ป(Newgroup)แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
6. การสื่ อสารด้วยข้อความ (แชท, ไออาร์ ซี) เป็ นการพูดคุย โดยพิมพ์ขอความตอบกัน ซึ่ งเป็ นวิธีการสื่ อสาร
้
ที่ได้รับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง การสนทนากันผ่านอินเทอร์ เน็ตเปรี ยบเสมือนเรานังอยูในห้องสนทนา
่ ่
่
เดียวกัน แม้จะอยูคนละประเทศหรื อคนละซี กโลกก็ตาม

6
การตั้งชื่อบนระบบเครือข่ ายอินเตอร์ เน็ต
เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ตสร้างขึ้นจากแนวความคิดที่มีแบบแผน โดยมีการออกแบบและจัดการโดเมน
(Domain) อย่างเป็ นระบบเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และมีการเติบโตเป็ นลาดับอย่างต่อเนื่ อง Domain Name
System (DNS) เป็ นระบบจัดการแปลงชื่ อไปเป็ นหมายเลข IP address (name-to-IP address mapping) โดยมี
โครงสร้างของฐาน ข้อมูลแบบสาดับชั้น (hierarchical) ที่ประกอบด้วย โดเมนระดับบนสุ ด (Top-level
Domain) โดเมนระดับรอง (Second-level Domain) และโดเมนย่อย (Sub domain) ตัวอย่างเช่น
www.gnu.org โดยที่ .org คือโดเมนระดับบนสุ ด ซึ่ งแสดงถึงเป็ นประเภทขององค์กรซึ่ งไม่ได้คากาไร .gnu
้
่
คือโดเมนระดับรองซึ่ งเป็ นชื่ อย่อของโครงการ GNU's Not Unix ซึ่ งอยูภายใต้องค์กร Free Software
Foundation (FSF) และภายใต้ชื่อโดเมนดังกล่าวอาจมีโดเมนย่อยอื่นๆ ได้อีกเป็ นจานวนมาก
ข้อกาหนดที่สาคัญของ DNS คือ ชื่อในโดเมนลาดับบนสุ ดนั้น ได้มีการกาหนดชื่ อเฉพาะซึ่ งระบุรายละเอียด
ของกลุ่มเอาไว้ชดเจนแล้ว ดังนี้
ั
.mil แทนกลุ่มของหน่วยงานทางทหารของสหรัฐเมริ กา
.govแทนกลุ่มของหน่วยงานของรัฐบาล
.com แทนกลุ่มขององค์กรหรื อบริ ษทเอกชน
ั
.net แทนองค์กรที่ทาหน้าที่เป็ นผูให้บริ การเครื อข่าย
้
.eduแทนสถาบันการศึกษา
.org แทนองค์กรหรื อสมาคมต่างๆ ที่ดาเนิ นการโดยไม่ได้หวังผลกาไร
.xx ใช้ตวอักษร 2 ตัวแทนชื่อประเทศ
ั
ต่อมาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกลุ่มของ โดเมนลาดับบนสุ ดอีก 7 กลุ่มคือ
.firm แทนองค์กรหรื อบริ ษทห้างร้านทัวไป
ั
่
.store แทนบริ ษทที่มีธุรกรรมทางการค้า
ั
.web แทนเว็บไซท์ที่ให้ขอมูลต่างๆ
้
.arts แทนกลุ่มที่มีกิจกรรมทางด้านประเพณี และวัฒนธรรม
.rec แทนองค์กรหรื อหน่วยงานที่ทางานด้านนันทนาการ
.info แทนองค์กรที่เป็ นผูให้บริ การข้อมูล
้
.nom สาหรับบุคคลทัวไป
่

7
รู ปแบบการเชื่ อมต่ อ
การเชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตย่อยอาศัยเทคโนโลยีการสื่ อสารข้อมูลและกฏเกณฑ์ ซึ่งเป็ น
ตัวกาหนดวิธีการรับส่ งข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง รู ปแบบสื่ อสารในเครื อข่ายจาแนก
ได้ 2 ประเภท คือ
1. เครือข่ ายแบบสลับวงจร (Circuit – switched network) เป็ นเครื อข่ายที่อาศัยอุปกรณ์สลับสายทาหน้าที่
เชื่อมการสื่ อสารระหว่างจุด จุดเข้าด้วยกัน ก่อนการสื่ อสารจะเริ่ มต้นขึ้นได้จะต้องเชื่อมเส้นทางให้เสร็ จสิ้ น
ก่อน เมื่อเชื่ อมต่อได้สาเร็ จแล้วการสื่ อสารจึงเริ่ มดาเนินไปอย่างต่อเนื่ องและเส้นทางหรื อคู่สายนั้นจะถูกยึด
ใช้ได้โดยคู่สนทนาตลอดเวลา โดยบุคคลอื่นไม่สามารถก้าวก่ายในการใช้สายได้ จนกว่าจะจบสิ้ นการใช้
งาน
2. เครือข่ ายแบบสลับกลุ่มข้ อมูล (Packet switched network) เครื อข่ายแบบสลับกลุ่มข้อมูลใช้เชื่อมต่อ
ระหว่างคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีการเชื่อมต่อที่ถาวรใดๆ ระหว่างผูรับและผูส่ง เส้นทางการเชื่ อมต่อมีหลาย
้
้
เส้นทางและจะไม่มีใครเป็ นเจ้าของเส้นทางใดอย่างเป็ นเอกเทศ ข้อมูลที่วงไปตามสายในเครื อข่ายแบบสลับ
ิ่
กลุ่ม ข้อมูลย่อยหรื อเรี ยกว่า แพ็กเกจ ก่อนที่จะส่ งออกไป แพ็กเกจแต่ละแพ็กเกจ อาจถูกจัดสรรให้
ประกอบด้วยข้อมูลขนาดตั้งแต่ 1 ไบต์ ไปถึงหลายร้อยไบต์ร่วมกับรายละเอียดส่ วนอื่นๆ เช่นชื่อ
คอมพิวเตอร์ ผูส่ง ผูรับ และหมายเลขประจาตัวของ แพ็กเกจ สาหรับบอกลาดับของข้อมูล เป็ นต้น เมื่อ
้ ้
เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตเชื่ อมโยงเครื อข่ายทัวโลกให้สามารถติดต่อถึงกันได้หมดจนกลายเป็ นเครื อข่ายของ
่
โลก ดังนั้นจึงมีผใช้งานบนเครื อข่ายนี้ จานวนมาก การใช้งานเหล่านี้เป็ นสิ่ งที่กาลังได้รับการกล่าวถึงกัน
ู้
ทัวไป เพราะการเชื่ อมโยงเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตทาให้โลกไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถสื่ อสาร
่
ถึงกันได้อย่างรวดเร็ ว ตัวอย่างการใช้งานบนอินเทอร์ เน็ตที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็ นเพียงตัวอย่างที่แพร่ หลายและ
ั
ใช้กนมากเท่านั้น ยังมีการประยุกต์งานอื่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา

8
บริการต่ างๆ บนอินเทอร์ เน็ต
1. World Wide Web (WWW) เครือข่ ายใยแมงมุม
เป็ นการเข้าสู่ ระบบข้อมูลอย่างข้อมูลในรู ปของ Interactive Multimedia คือ มีท้ งรู ปภาพ ข้อความ
ั
ภาพเคลื่อนไหว เสี ยง และวีดีโออีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยงใช้ระบบที่เรี ยกว่า hypertext กล่าวคือจะมีคาสาคัญ
ั
หรื อรู ปภาพในข้อมูลนั้นที่จะช่วยให้ท่านเข้าสู่ รายละเอียดที่ลึกและกว้างขวางยิงขึ้น คาสาคัญดังกล่าวจะเป็ น
่
คาที่เป็ นตัวหนาหรื อขีดเส้นใต้ เพียง แต่ท่านเลือกกด ที่คา ที่เป็ นตัวหนาหรื อขีดเส้นใต้ นั้น ๆท่านก็สามารถ
เข้าสู่ ขอมูลเพิมเติมได้ (ข้อมูลเหล่านี้จะมีผสร้างขึ้นมาและเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆทัวโลก)
้
ู้
่
่

2. ไปรษณีย์อิเลคทรอนิคส์ (Electronic Mail หรือ E-Mail)
ั
เป็ นบริ การหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่คนนิยมใช้กนมากคือส่ งจดหมายโดยทางคอมพิวเตอร์ ถึงผูที่มีบญชี
้ ั
่
่
อินเตอร์ เน็ตด้วยกันไม่วาจะอยูใกล้หรื อไกลคนละซี กโลกจดหมายก็จะไปถึงอย่างสะดวกรวดเร็ วและ
ง่ายดายโปรแกรมที่ใช้ได้แก่Hotmail , YahooMail , ThaiMailและยังมี Mail ต่าง ๆที่ให้บริ การอย่างมากมาย
ในปัจจุบน ตามหน่วยงานหรื อองค์กรต่างๆ
ั

9
3. Instant Message (บริการสนทนาบนอินเทอร์ เน็ต )
Instant Messaging ก็คือการสนทนาทางโทรศัพท์อย่างหนึ่ งแต่เป็ นในรู ปของตัวอักษรพนักงานในบริ ษททั้ง
ั
ขนาดเล็กและใหญ่ต่างใช้ IM เป็ นเครื่ องมือในการสื่ อสารสาหรับคนอีกจานวนมาก IM คือการสื่ อสาร
สารองเมื่ออีเมล์มีปัญหาหรื อเหตุฉุกเฉินอื่นๆ

4.Telnet
เป็ นบริ การที่ช่วยให้เราสามารถเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ อื่นเสมือนหนึ่งไปนังใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ ของที่นน
ั่
่
โปรแกรมที่ช่วยให้ท่านใช้บริ การนี้ได้คือ โปรแกรม NCSA Telnet เมื่อเปิ ดโปรแกรมแล้วให้พิมพ์คาสั่ง
่
Telnet ดังในรู ปภาพข้างล่างเมื่อท่านใช้คาสั่ง Telnet แล้วให้พิมพ์ที่อยูของแหล่งข้อมูลนั้น ท่านก็จะสามารถ
เข้าสู่ ระบบข้อมูลนั้นๆ ได้เสมือนท่านไปนังอยูหน้าจอคอมพิวเตอร์ ของเครื่ อง ๆ นั้นเลยทีเดียว ระบบ Telnet
่ ่

10
5. FTP (File Transfer Protocol)
คือ บริ การที่ใช้ในการโอนย้าย file หรื อข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังอีกคอมพิวเตอร์หนึ่ง สามารถ
โอนย้ายข้อมูลเช่นรู ปภาพ , ข้อความ , บทความ , คู่มือ และโปรแกรมต่าง ๆ

6. Search Engine (บริการค้ นหาข้ อมูลบนอินเทอร์ เน็ต)
Search Engine เป็ นเว็บไซต์ที่มีเครื่ องมือในการที่จะค้นหาเว็บไซต์ต่าง ๆมาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของตัวเอง
โดยอัตโนมัติ เช่น Google.com หรื อ Altavista.com ซึ่ งเครื่ องมือนี้ มีชื่อเรี ยกว่า Search Robot จะทาหน้าที่
คอยวิงเข้าไปอ่านข้อความจากหน้าเว็บไซต์ ของเว็บต่าง ๆแล้วนามาจัดลาดับคาค้นหา (Index) ที่มีใน
่
เว็บไซต์เหล่านั้นเก็บไว้ในฐานข้อมูลของตนเอง เมื่อเราเข้าไปใช้บริ การกับ Search Engine

11
มารยาทในการใช้ อนเทอร์ เน็ตเรียกว่าบัญญัติ 10 ประการ
ิ











ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ หรื อละเมิดทาร้ายผูอื่น
้
ต้องไม่รบกวนการทางานของผูอื่น
้
ต้องไม่สอดแนมแก้ไขหรื อเปิ ดดูแฟ้ มผูอื่น
้
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อการโจรกรรม
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ สร้างหลักฐานที่เป็ นเท็จ
ต้องไม่คดลอกโปรแกรมของผูอื่น
ั
้
ต้องไม่ละเมิดในการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ โดยที่ตนเองไม่มีลิขสิ ทธิ์
ต้องไม่นาผลงานของผูอื่นมาเป็ นของตน
้
ต้องคานึงถึงสิ่ งที่เกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทาของท่าน
ต้องใช้คอมพิวเตอร์ โดยเคารพกฏระเบียบกติกามารยาท

ประโยชน์ ของอินเทอร์ เน็ต
1. สามารถติดต่อสื่ อสารกับบุคคลอื่นทัวโลก
่
2.สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้เสมือนกับเราไปนังอยูที่หองสมุดขนาดใหญ่ได้ขอมูลมากมายจากทัวทุกมุม
้
่ ่ ้
่
โลก
3.เปรี ยบเสมือนเวลาที่ให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ภายในห้องสนทนา(chat room) และกระดานข่าว
(Web room) เป็ นการเปิ ดโลกกว้างและวิสัยทัศน์ในเรื่ องที่น่าสนใจ
4. สามารถติดตามเคลื่อนไหวจากข่าวสารทัวโลกอย่างรวดเร็ ว
่
5. สามารถเปิ ดการค้าได้ดวยตัวเองโดยไม่ตองหาที่จดตั้งร้านหรื อพนักงานบริ การแต่สามารถทาการค้าได้
้
้
ั
ด้วยตัวเองคนเดียว
6.สามารถซื้ อสิ นค้าโดยไม่ตองเดินทางไปยังร้านค้าซื้ อผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริ การการชาระเงินก็สะดวก
้
เช่นชาระผ่านบัตรเครดิต การหักเงินผ่านบัญชีธนาคาร
7.สามารถรับส่ งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E-mail) เป็ นการส่ งจดหมายที่ไม่ตองเสี ยค่าบริ การและรับส่ ง
้
จดหมายได้ภายในและภายนอกประเทศนอกจากจดหมายที่เป็ นข้อความแล้วยังส่ งบัตรอวยพรในเทศการ
ต่างๆได้อีก
8. สามารถอ่านนิ ตยสารหนังสื อพิมพ์บทความและเรื่ องราวต่างๆได้ฟรี เหมือนกับเราซื้ อหนังสื อฉบับนั้นมา
อ่านเอง
9. สามารถติดประกาศข้อความต่างๆที่ตองการประกาศให้ผอื่นทราบได้เช่นประกาศขายบ้านประกาศสมัคร
้
ู้
งานประกาศขอความช่วยเหลือ

12
โทษของอินเทอร์ เน็ต
1. อินเทอร์ เน็ตเป็ นเครื อข่ายขนาดใหญ่ที่มีผคนมากมายเข้ามาใช้บริ การเป็ นเวทีเปิ ดกว้างและให้อิสระกับทุก
ู้
คนที่เข้ามาเขียนข้อมูลหรื อติดประกาศต่างๆโดยปราศจากการกลันกรองที่ดีทาให้ขอมูลที่ได้รับไม่สามารถ
้
่
่
ตรวจสอบได้วาเป็ นจริ งหรื อไม่
2. เกิดปั ญญาหาของการละเมิดลิขสิ ทธิ์ เช่นการดาวน์โหลดเพลงหรื อรู ปภาพมารวบรวมขายหรื อเป็ นปั ญหา
อย่างยิงคือการตัดต่อภาพบุคคลที่มีชื่อเสี ยงให้กลายเป็ นภาพแบบอนาจารหรื อเสี ยหายได้
่
3.ก่อให้เกิดปั ญหาด้านอาชญากรรมเพราะการเล่นอินเทอร์ เน็ตเช่นการล่อล่วงหญิงไปในทางที่ไม่ดีการก่อ
คดีข่มขืนเนื่องจากเว็บไซต์โป๊
4. ก่อให้เกิดปั ญหาการหมกหมุ่นของเยาวชนที่เข้าไปในเว็บไซต์จนทาให้เกิดโรคติดต่อทางอินเทอร์ เน็ตทา
ให้เกิดอันตรายต่อตนเองเเละสังคมได้
โรคติดต่ อทางอินเทอร์ เน็ต
่
เป็ นอาการทางจิตประเภทหนึ่งนักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S.Youngได้วเิ คราะห์ไว้วาบุคคลใดมีอาการต่อไปนี้
อย่างน้อย 4 ประการเป็ นเวลาไม่นอยกว่า 1 ปี แสดงว่าเป็ นอาการติดอินเทอร์ เน็ต
้










รู ้สึกหมกหมุ่นกับอินเทอร์ เน็ตแม้ในเวลาไม่เข้าอินเทอร์ เน็ต
มีความต้องการใช้อินเทอร์ เน็ตเป็ นเวลานานขึ้นอยูเ่ รื่ อยๆ
ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์ เน็ตได้
้
รู้สึกหงุดหงิดเทื่อใช้อินเทอร์ เน็ตน้อยลง
คิดว่าเมือใช้อินเทอร์ เน็ตเเล้วทาให้ตวเองรู ้สึกดี
ั
ใช้อินเทอร์ เน็ตในการหลีกเลี่ยงปัญหา
หลอกคนใช้ในครอบครัวหรื อเพื่อนเรื่ องการใช้อินเทอร์เน็ต
มีอาการผิดปกติเมื่อเลิกใช้อินเทอร์ เน็ตเช่นหดหู่กระวนกระวาย
อาการดังกล่าวมี่มากกว่า 4 ประการในช่วง 1 ปี จะถือว่าเป็ นอาการติดอินเทอร์ เน็ตซึ่ งมีผลเสี ยต่อ
ระบบร่ างกายทั้งการกินการขับถ่ายและกระทบต่อการเรี ยนสภาพสังคมอีกด้วย

13
บรรณานุกรม
http://www.l3nr.org/posts/460787
ประโยชน์และโทษของอินเทอร์ เน็ต
http://home.kku.ac.th/samnat/internet_system_02.html
ประวัติอินเทอร์ เน็ต
http://th.wikipedia.org/wiki
บริ การต่างๆ บนอินเทอร์ เน็ต
http://www.krujongrak.com/internet/internet.html
มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต
https://sites.google.com/site/supoldee/kar-prayukt-chi-xintexrnet
การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต

More Related Content

What's hot

Benefits of the internet education
Benefits of the internet educationBenefits of the internet education
Benefits of the internet educationcodexstudio
 
อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตdlled
 
ส่งตีพิมพ์ มสธ
ส่งตีพิมพ์ มสธส่งตีพิมพ์ มสธ
ส่งตีพิมพ์ มสธAon Narinchoti
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5krunuy5
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChalita Vitamilkz
 
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5kruwaeo
 
2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่
2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่
2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่เซฟ หัวเกรียน
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คtumetr1
 
6 บทที่ 1 บทนำ
6 บทที่  1  บทนำ6 บทที่  1  บทนำ
6 บทที่ 1 บทนำAugusts Programmer
 
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้นอินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้นChantana Papattha
 
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อัส
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  อัสบทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  อัส
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อัสArt Asn
 
ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)
ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)
ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)Chamada Rinzine
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6krunuy5
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1Thanyalux Kanthong
 

What's hot (18)

Benefits of the internet education
Benefits of the internet educationBenefits of the internet education
Benefits of the internet education
 
อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต
 
ส่งตีพิมพ์ มสธ
ส่งตีพิมพ์ มสธส่งตีพิมพ์ มสธ
ส่งตีพิมพ์ มสธ
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
10
1010
10
 
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
 
โครงงาน Blogger
โครงงาน Bloggerโครงงาน Blogger
โครงงาน Blogger
 
2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่
2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่
2560 project แอพพลิเคชัน Smart CHIANGMAI คู่
 
งานคอม1
งานคอม1งานคอม1
งานคอม1
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
 
6 บทที่ 1 บทนำ
6 บทที่  1  บทนำ6 บทที่  1  บทนำ
6 บทที่ 1 บทนำ
 
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้นอินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
 
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อัส
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  อัสบทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  อัส
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อัส
 
ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)
ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)
ภาพที่ 9-4 ตัวอย่างรายงานการวิจัยฉบับย่อ (Research Summary)
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1
 

Viewers also liked

บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรมmewinlove1995
 
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่ายธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่ายChinnakorn Pawannay
 
Bong hong cho tinh dau 488
Bong hong cho tinh dau 488Bong hong cho tinh dau 488
Bong hong cho tinh dau 488Quoc Nguyen
 
LAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARAN
LAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARANLAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARAN
LAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARANjamilbrou
 
Cay bang khong rung la 583
Cay bang khong rung la 583Cay bang khong rung la 583
Cay bang khong rung la 583Quoc Nguyen
 
Coi nguoi rung chuong tan the 890
Coi nguoi rung chuong tan the 890Coi nguoi rung chuong tan the 890
Coi nguoi rung chuong tan the 890Quoc Nguyen
 
Co lau dung nuoc 606
Co lau dung nuoc 606Co lau dung nuoc 606
Co lau dung nuoc 606Quoc Nguyen
 
Co em ben doi 457
Co em ben doi 457Co em ben doi 457
Co em ben doi 457Quoc Nguyen
 
Luc van tien 662
Luc van tien 662Luc van tien 662
Luc van tien 662Quoc Nguyen
 
Nikec Solutions gestion des impressions et de l'information
Nikec Solutions gestion des impressions et de l'informationNikec Solutions gestion des impressions et de l'information
Nikec Solutions gestion des impressions et de l'informationNikec Solutions
 
Mobile Community Cloud Computing: Emerges and Evolves
Mobile Community Cloud Computing: Emerges and EvolvesMobile Community Cloud Computing: Emerges and Evolves
Mobile Community Cloud Computing: Emerges and EvolvesDejan Kovachev
 
Napi útravalónk - Mulasztásaink
Napi útravalónk -  MulasztásainkNapi útravalónk -  Mulasztásaink
Napi útravalónk - MulasztásainkGergely Zsóka
 
Cai hoa vao qua khu 669
Cai hoa vao qua khu 669Cai hoa vao qua khu 669
Cai hoa vao qua khu 669Quoc Nguyen
 
Personal skills audit
Personal skills auditPersonal skills audit
Personal skills auditjesschilvers
 
Dai ta khong biet dua 610
Dai ta khong biet dua 610Dai ta khong biet dua 610
Dai ta khong biet dua 610Quoc Nguyen
 
Co tich ben duong 611
Co tich ben duong 611Co tich ben duong 611
Co tich ben duong 611Quoc Nguyen
 

Viewers also liked (20)

บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่ายธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
 
Bong hong cho tinh dau 488
Bong hong cho tinh dau 488Bong hong cho tinh dau 488
Bong hong cho tinh dau 488
 
LAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARAN
LAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARANLAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARAN
LAPORAN TUGAS UAS MEDIA PEMBELAJARAN
 
Retail Week
Retail WeekRetail Week
Retail Week
 
Cay bang khong rung la 583
Cay bang khong rung la 583Cay bang khong rung la 583
Cay bang khong rung la 583
 
Coi nguoi rung chuong tan the 890
Coi nguoi rung chuong tan the 890Coi nguoi rung chuong tan the 890
Coi nguoi rung chuong tan the 890
 
Co lau dung nuoc 606
Co lau dung nuoc 606Co lau dung nuoc 606
Co lau dung nuoc 606
 
Co em ben doi 457
Co em ben doi 457Co em ben doi 457
Co em ben doi 457
 
Dao hoang 585
Dao hoang 585Dao hoang 585
Dao hoang 585
 
Hoa xuan tu 856
Hoa xuan tu 856Hoa xuan tu 856
Hoa xuan tu 856
 
Luc van tien 662
Luc van tien 662Luc van tien 662
Luc van tien 662
 
Nikec Solutions gestion des impressions et de l'information
Nikec Solutions gestion des impressions et de l'informationNikec Solutions gestion des impressions et de l'information
Nikec Solutions gestion des impressions et de l'information
 
Mobile Community Cloud Computing: Emerges and Evolves
Mobile Community Cloud Computing: Emerges and EvolvesMobile Community Cloud Computing: Emerges and Evolves
Mobile Community Cloud Computing: Emerges and Evolves
 
Napi útravalónk - Mulasztásaink
Napi útravalónk -  MulasztásainkNapi útravalónk -  Mulasztásaink
Napi útravalónk - Mulasztásaink
 
Ban be oi 865
Ban be oi 865Ban be oi 865
Ban be oi 865
 
Cai hoa vao qua khu 669
Cai hoa vao qua khu 669Cai hoa vao qua khu 669
Cai hoa vao qua khu 669
 
Personal skills audit
Personal skills auditPersonal skills audit
Personal skills audit
 
Dai ta khong biet dua 610
Dai ta khong biet dua 610Dai ta khong biet dua 610
Dai ta khong biet dua 610
 
Co tich ben duong 611
Co tich ben duong 611Co tich ben duong 611
Co tich ben duong 611
 

Similar to อินเทอร์เน็ต

ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ตความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ตpatchu0625
 
อินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต   อินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต Thanradaphumkaew23
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารปิยะดนัย วิเคียน
 
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยRusifer Tangthong
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Kawinna2538
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มSutin Yotyavilai
 
การใช้อินเทอร์เน็ต
การใช้อินเทอร์เน็ตการใช้อินเทอร์เน็ต
การใช้อินเทอร์เน็ตtechno354
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตเขมิกา กุลาศรี
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งานหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งานครู อินดี้
 
ความหมายอินเทอร์เน็ต
ความหมายอินเทอร์เน็ตความหมายอินเทอร์เน็ต
ความหมายอินเทอร์เน็ตpatchu0625
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำChi Cha Pui Fai
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำChi Cha Pui Fai
 
งานนำเสนอแนวคิดใช้Itpresent
งานนำเสนอแนวคิดใช้Itpresentงานนำเสนอแนวคิดใช้Itpresent
งานนำเสนอแนวคิดใช้ItpresentYaowaluck Promdee
 

Similar to อินเทอร์เน็ต (20)

อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต
 
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ตความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
 
อินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต   อินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
 
ShreetUnit4.1
ShreetUnit4.1ShreetUnit4.1
ShreetUnit4.1
 
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
 
การใช้อินเทอร์เน็ต
การใช้อินเทอร์เน็ตการใช้อินเทอร์เน็ต
การใช้อินเทอร์เน็ต
 
ศุภชัย
ศุภชัยศุภชัย
ศุภชัย
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งานหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
 
บทที่ 6new
บทที่ 6newบทที่ 6new
บทที่ 6new
 
Email system
Email systemEmail system
Email system
 
ความหมายอินเทอร์เน็ต
ความหมายอินเทอร์เน็ตความหมายอินเทอร์เน็ต
ความหมายอินเทอร์เน็ต
 
Group 1
Group 1Group 1
Group 1
 
Communication Concept
Communication ConceptCommunication Concept
Communication Concept
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
งานนำเสนอแนวคิดใช้Itpresent
งานนำเสนอแนวคิดใช้Itpresentงานนำเสนอแนวคิดใช้Itpresent
งานนำเสนอแนวคิดใช้Itpresent
 

อินเทอร์เน็ต

  • 1. รายงาน เรื่อง อินเทอร์เน็ต เสนอ คุณครู จุฑารัตน์ ใจบุญ จัดทาโดย นางสาว ธิติมา พุฒเกลี้ยง ชั้น ม.4/1 เลขที่ 25 โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ สานักงานเขตพืนที่มธยมศึกษา เขต13 ้ ั
  • 2. คานา รายงานเล่มนี้เป็ นส่ วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยจัดทาเรื่ องเกี่ยวกับ อินเทอร์ เน็ตที่มีเนื้ อหาและข้อมูลที่ประกอบไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับอินเทอร์ เน็ตคือ ประวัติความเป็ นมาของ อินเทอร์ เน็ต ความหมายของอินเทอร์ เน็ต วิธีการใช้อินเทอร์ เน็ต บริ การต่างๆบนอินเทอร์ เน็ต มารยาทของ ั การใช้อินเทอร์ เน็ต และรวมทั้งประโยชน์ของอินเทอร์ เน็ตและโทษของอินเทอร์ เน็ต ที่เป็ นข้อมูลให้กบ บุคคลที่ใช้อินเทอร์เน็ตได้ศึกษาและเรี ยนรู้ถึงข้อมูลอินเทอร์ เน็ตได้อย่างแท้จริ งและสิ่ งสาคัญคือสามารถ ั นาไปเป็ นสื่ อในการเรี ยนการการสอนเผยแพร่ ความรู ้ให้กบน้องๆและบุคคลรุ่ นหลังได้ศึกษาเรี ยนรู้ เพื่อที่จะ นาไปปฎิบติใช้ในชีวตประจาวันที่เป็ นประโยชน์ได้ ั ิ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่น้ ี จัดทาโดย นางสาว ธิติมา พุฒเกลี้ยง
  • 3. สารบัญ เรื่อง หน้ า ความหมายของอินเทอร์ เน็ต 1 ประวัติของอินเทอร์เน็ต 2 การทางานของอินเทอร์เน็ต 3 ่ โดเมนเนมหรื อที่ชื่ออยูของเว็บไซต์ 4 รู ปแบบบริ การบนอินเทอร์เน็ต 5 การประยุกต์ใช้งานอินเทอร์ เน็ต 6 การตั้งชื่อบนระบบอินเทอร์ เน็ต 7 การเชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ต 8 บริ การต่างๆบนอินเทอร์ เน็ต 9-11 มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต 12 ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต 12 โทษของอินเทอร์ เน็ต 13
  • 4. อินเทอร์ เน็ต ความหมายของอินเทอร์ เน็ต อินเทอร์ เน็ตคือ ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะเป็ นการเชื่อมต่อเครื่ อง คอมพิวเตอร์ หลายๆ เครื่ องจากทัวโลกมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่ งช่วยให้สามารถติดต่อสื่ อสารและ ่ ่ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ทวโลก ในการติดต่อกันระหว่างเครื่ องคอมพิวเตอร์ จาเป็ นต้องมีการระบุวา ั่ ส่ งมาจากไหน ส่ งไปให้ใครซึ่ งต้องมีการระบุ ชื่อเครื่ อง (คล้ายกับเลขที่บาน) ในอินเทอร์ เน็ตใช้ขอตกลงใน ้ ้ การติดต่อที่เรี ยกว่า TCP/IP (ข้อตกลงที่ทาให้คอมพิวเตอร์ ติดต่อกันได้) ซึ่ งจะใช้สิ่งที่เรี ยกค่า “ไอพีแอดเดรส” (IP-Address) ในการระบุชื่อเครื่ องจะไม่มีเบอร์ ที่ซ้ ากันได้ อินเทอร์ เน็ตจึงมีรูปแบบคล้ายกับเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบ WAN แต่มีโครงสร้างการทางานที่แตกต่างกัน มากพอสมควรเนื่องจากระบบ WAN เป็ นเครื อข่ายที่ถูกสร้างโดยองค์กรๆ เดียวหรื อกลุ่มองค์กรเพื่อ วัตถุประสงค์ดานใดด้านหนึ่ ง และมีผดูแลระบบที่รับผิดชอบแน่นอนแต่อินเทอร์ เน็ตจะเป็ นการเชื่ อมโยงกัน ้ ู้ ่ ั ระหว่างคอมพิวเตอร์ นบล้านๆเครื่ องแบบไม่ถาวรขึ้นอยูกบเวลานั้นๆ ว่าใครต้องการเข้าสู่ ระบบอินเทอร์ เน็ต ั บ้างใครจะติดต่อสื่ อสารกับใครก็ได้จึงทาให้ระบบอินเทอร์ เน็ตไม่มีผใดรับผิดชอบหรื อดูแลทั้งระบบ ู้ 1
  • 5. ประวัติของอินเทอร์ เน็ต อินเทอร์ เน็ตกาเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริ กา เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหาร ของ สหรัฐอเมริ กา ชื่ อว่า ยู.เอส.ดีเฟนซ์ ดีพาร์ ทเมนท์ ( U.S. Defence Department ) เป็ นผูคิดค้นระบบขึ้นมา มี ้ วัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้มีระบบเครื อข่ายที่ไม่มีวนตายแม้จะมีสงคราม ระบบการสื่ อสารถูกทาลาย หรื อตัด ั ขาด แต่ระบบเครื อข่ายแบบนี้ยงทางานได้ซ่ ึ งระบบดังกล่าวจะใช้วธีการส่ งข้อมูลในรู ปของคลื่นไมโครเวฟ ั ิ ฝ่ ายวิจยขององค์กรจึงได้จดตั้งระบบเน็ตเวริ์ กขึ้นมา เรี ยกว่า ARPAnetย่อมาจากคาว่า Advance Research ั ั Project Agency net ซึ่งประสบความสาเร็ จและได้รับความนิยมในหมู่ของหน่วยงานทหาร องค์กร รัฐบาล และสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็ นอย่างมาก การเชื่อมต่อในภาพแรกแบบเดิม ถ้าระบบเครื อข่ายถูกตัดขาด ระบบก็จะเสี ยหายและทาให้การเชื่อมต่อขาด ่ ออกจากกัน แต่ในเครื อข่ายแบบใหม่ แม้วาระบบเครื อข่ายหนึ่งถูกตัดขาด เครื อข่ายก็ยงดาเนินไปได้ไม่ ั เสี ยหาย เพราะโดยตัวระบบก็หาช่องทางอื่นเชื่ อมโยงกันจนได้ในระยะแรก เมื่อ ARPAnetประสบ ความสาเร็ จ ก็มีองค์กรมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาร่ วมในโครงข่ายมากขึ้น โดยเน้นการรับส่ ง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Mail ) ระหว่างกันเป็ นหลัก ต่อมาก็ได้ขยายการบริ การไปถึงการส่ ง แฟ้ มข้อมูลข่าวสารและส่ งข่าวสารความรู ้ทวไป แต่ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิ ชย์ เน้นการให้บริ การด้านวิชาการ ั่ เป็ นหลักปี พ.ศ. 2523 คนทัวไปเริ่ มสนใจอินเทอร์ เน็ตมากขึ้น มีการนาอินเทอร์เน็ตมาใช้ในเชิงพาณิ ชย์ มี ่ การทาธุ รกิจบนอินเทอร์ เน็ต บริ ษท ห้างร้านต่างๆ ก็เข้าร่ วมเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตมากขึ้น ั อินเทอร์ เน็ตในประเทศไทย ประเทศไทยได้เริ่ มติดต่อกับอินเทอร์ เน็ตในปี พ.ศ. 2530 ในลักษณะการใช้บริ การ จดหมายเล็กทรอนิกส์ แบบแลกเปลี่ยนถุงเมล์เป็ นครั้งแรก โดยเริ่ มที่มหาวิทยาลัยสงขลานคริ นทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ( Prince of Songkla University ) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียหรื อสถาบันเอไอที ( AIT ) ภายใต้โครงการความ ร่ วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย ( โครงการ IDP ) ซึ่ งเป็ นการติดต่อเชื่อมโยงโดยสายโทรศัพท์ ่ จนกระทังปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานคริ นทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้ยนขอที่อยูอินเทอร์ เน็ตใน ื่ ่ ่ ่ ประเทศไทย โดยได้รับที่อยูอินเทอร์ เน็ต Sritrang.psu.th ซึ่ งนับเป็ นที่อยูอินเทอร์ เน็ตแห่ งแรกของประเทศ ไทย 2
  • 6. ่ ต่อมาปี พ.ศ. 2534 บริ ษท DEC ( Thailand ) จากัดได้ขอที่อยูอินเทอร์ เน็ตเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของ ั ่ บริ ษท โดยได้รับที่อยูอินเทอร์ เน็ตเป็ น dect.co.th โดยที่คา “th” เป็ นส่ วนที่เรี ยกว่า โดเมน ( Domain ) ซึ่งเป็ น ั ส่ วนที่แสดงโซนของเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตในประเทศไทย โดยย่อมาจากคาว่า Thailand การทางานของอินเทอร์ เน็ต การสื่ อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะมีโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งเป็ นระเบียบวิธีการสื่ อสารที่เป็ นมาตรฐาน ของการเชื่ อมต่อกาหนดไว้ โปรโตคอลที่เป็ นมาตรฐานสาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ต คือ TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เครื่ องคอมพิวเตอร์ ทุกเครื่ องที่เชื่อมต่อเข้ากับเครื อข่าย อินเทอร์ เน็ตจะต้องมีหมายเลขประจาเครื่ อง ที่เรี ยกว่า IP Address เพื่อเอาไว้อางอิงหรื อติดต่อกับเครื่ อง ้ คอมพิวเตอร์ อื่นๆ ในเครื อข่าย ซึ่ ง IP ในที่น้ ีก็คือ Internet Protocol ตัวเดียวกับใน TCP/IP นันเอง IP address ่ ถูกจัดเป็ นตัวเลขชุดหนึ่งขนาด 32 บิต ใน 1 ชุดนี้จะมีตวเลขถูกแบ่งออกเป็ น 4 ส่ วน ส่ วนละ 8 บิตเท่าๆ กัน ั เวลาเขียนก็แปลงให้เป็ นเลขฐานสิ บก่อนเพื่อความง่ายแล้วเขียนโดยคันแต่ละส่ วนด้วยจุด (.) ดังนั้นในตัวเลข ่ แต่ละส่ วนนี้จึงมีค่าได้ไม่เกิน 256 คือ ตั้งแต่ 0 จนถึง 255 เท่านั้น เช่น IP address ของเครื่ องคอมพิวเตอร์ของ สถาบันราชภัฎสวนดุสิต คือ 203.183.233.6 ซึ่ง IP Address ชุดนี้จะใช้เป็ นที่อยูเ่ พื่อติดต่อกับเครื่ อง คอมพิวเตอร์ อื่นๆ ในเครื อข่าย โดเมนเนม (Domain name system :DNS) เนื่องจากการติดต่อสื่ อสารกันกันในระบบอินเทอร์ เน็ตใช้โปรโตคอล TCP/IP เพื่อสื่ อสารกัน โดยจะต้องมี IP address ในการอ้างอิงเสมอ แต่ IP address นี้ถึงแม้จะจัดแบ่งเป็ นส่ วนๆ แล้วก็ยงมีอุปสรรคในการที่ตอง ั ้ ่ จดจาถ้าเครื่ องที่อยูในเครื อข่ายมีจานวนมากขึ้น การจดจาหมายเลข IP ดูจะเป็ นเรื่ องยาก และอาจสับสนจา ผิดได้ แนวทางแก้ปัญหาคือการตั้งชื่ อหรื อตัวอักษรขึ้นมาแทนที่ IP address ซึ่ งสะดวกในการจดจามากกว่า เช่น IP address คือ 203.183.233.6 แทนที่ดวยชื่อ dusit.ac.th ผูใช้งานสามารถ จดจาชื่ อ dusit.ac.th ได้ง่ายกว่า ้ ้ การจาตัวเลข โดเมนที่ได้รับความนิยมกันทัวโลก ที่ถือว่าเป็ นโดเมนสากล มีดงนี้ คือ .com ย่อมาจาก commercial สาหรับ ั ่ ธุ รกิจ .eduย่อมาจาก education สาหรับการศึกษา .intย่อมาจาก International Organization สาหรับองค์กร นานาชาติ .org ย่อมาจาก Organization สาหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากาไร .org ย่อมาจาก Organization สาหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากาไร 3
  • 7. ่ โดเมนเนม หรื อที่เราเรี ยกว่าที่อยูของเว็บไซต์เป็ นชื่อที่ถูกการเรี ยกแทนหมายเลข IP Address เนื่องจากเกิด ่ ความยุงยากในการจาหมายเลข เวลาที่ตองการท่องเที่ยวในอินเทอร์ เน็ตจึงได้นาตัวอักษรมาใช้แทนมักเป็ น ้ ่ ชื่อที่มีสื่อความหมายเป็ นหน่วยงาน หรื อเจ้าของเว็บไซต์น้ น ชื่อของโดเมนเนมแต่ละชื่อจะอยูหนึ่งเดียว ั เท่านั้น 2.1Organization Domains โดเมนเนม 2 ระดับ แสดงถึงองค์กรหรื อหน่วยงานที่มีลกษณะดังนี้ เช่น ั www.thai2learn.comwww.berkeley.edu ตัวย่อประเภทองค์กร .com บริ ษทหรื อองค์กรพาณิ ชย์ ั .eduสถาบันการศึกษา .net องค์กรที่ให้บริ การเครื อข่าย .mil องค์กรทางทหาร .govองค์กรของรัฐ 2.2Geographical Domainsโดเมน 3 ระดับ มีลกษณะดังนี้ www.google.comwww.nvc-koran.ac.thแตกต่าง ั จากรู ปแบบ 2 ระดับ คือหลังจากบอกประเภทองค์กรแล้วจะตามด้วยชื่อประเทศที่ต้ งขององค์กรนั้น ั ตัวย่อประเภทองค์กร .co บริ ษทหรื อองค์กรพาณิ ชย์ ั .ac สถาบันการศึกษา .go องค์กรของรัฐ .net องค์กรที่ให้บริ การเครื อข่าย 4
  • 8. บริการพืนทีบนอินเทอร์ เน็ต ้ ่ (อังกฤษ: Internet Hosting Service) เป็ นบริ การที่ทางานบนอินเทอร์เน็ตเซิ ร์ฟเวอร์ ที่อนุญาตให้ องค์กรหรื อนิติบุคคล ใช้งานเนื้อที่บนอินเทอร์ เน็ต ซึ่ งมีบริ การในระดับต่างๆ และรู ปแบบให้บริ การใน รู ปแบบต่างๆ กันไป รู ปแบบบริ การที่มกพบเห็นคือ บริ การพื้นที่สาหรับเว็บไซต์ (Web Hosting) ซึ่ งผูให้บริ การส่ วนใหญ่ ั ้ ั มักรวมบริ การพื้นที่สาหรับเว็บไซต์กบบริ การอื่นๆ อาทิเช่น บริ การพื้นที่สาหรับอีเมล (E-mail Hosting) เป็ น ั ต้น นอกจากนี้ยงมี บริ การตั้ง DNS และ บริ การจดทะเบียนโดเมน ควบคู่กนไป ั รู ปแบบบริการ    บริ การเซิ ร์ฟเวอร์ ให้เช่า (Dedicated hosting service) หรื อ บริ การการจัดการและจัดหาเซิร์ฟเวอร์ เป็ น บริ การที่ลูกค้าเป็ นเจ้าของเครื่ อง และสามารถจัดการทรัพยากรเครื่ องได้เอง การจัดการบนเครื่ องเซิฟ ่ ่ เวอร์ ยงสามารถร่ วมไปถึง บริ การตรวจตรา ว่าเซิ ฟเวอร์ วาทางานอยูตลอดเวลาอย่างเต็มประสิ ทธิ ภาพ ั , บริ การสารองข้อมูล, บริ การปรับปรุ งความปลอดภัย และ อื่นๆ ตามแต่ระดับการให้บริ การ บริ การเซิ ร์ฟเวอร์ เสมือนส่ วนตัว (Virtual private server: VPS) เป็ นเทคโนโลยีที่ให้เครื่ องเซิฟเวอร์ หนึ่งเครื่ อง จาลองการทางาน เสมือนเป็ นเครื่ องเซิฟเวอร์หลายๆ เครื่ อง ภายในเครื่ องเดียว ทาให้เป็ น เอกเทศ และเป็ นเสมือนเซิ ฟเวอร์ ส่วนตัวของผูใช้บริ การ ้ บริ การวางเซิ ร์ฟเวอร์ ณ ส่ วนกลาง (Co-Location Server หรื อ โคโล) เป็ นบริ การการเชื่ อมต่อ อินเทอร์ เน็ต ซึ่ งผูใช้บริ การจะเป็ นผูดูแลระบบเองทั้งหมด โดยวางเครื่ องของตนที่ส่วนกลางเชื่อมต่อ ้ ้ ระบบอินเทอร์เน็ต บริการอืนๆ ่ บริ การที่มีขอจากัด หรื อ มีขอกาหนดในการใช้ซอฟต์แวร์ มีบริ การต่างๆ ดังนี้ เช่น ้ ้  บริ การพื้นที่สาหรับเว็บไซต์  บริ การพื้นที่สาหรับอีเมล  บริ การตั้ง DNS  เซิ ร์ฟเวอร์ เกม  วิกิฟาร์ ม 5
  • 9. การประยุกต์ ใช้ งานเครือข่ ายอินเตอร์ เน็ต เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต คือระบบเครื อข่ายสากล ที่เกิดจากการรวมระบบเครื อข่ายขนาดเล็กให้สื่อสารและ แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่ งกันและกันได้ โดยเป็ นเครื อข่ายที่มีเทคโนโลยีระดับสู งซึ่ งเปิ ดกว้างสู่ สาธารณะอย่าง ่ แพร่ หลาย หรื ออาจกล่าวได้วา อินเตอร์ เน็ตเป็ นการผสมผสานกันของระบบเครื อข่ายที่แตกต่างกันทัวโลก ่ ให้เป็ นหนึ่งเดียวกัน สาหรับ ผูใช้ส่วนใหญ่น้ นจะสามารถเข้าถึงและใช้งานอินเตอร์ เน็ตได้ โดยเชื่ อมต่อผ่าน ้ ั ทางโมเด็ม และสายโทรศัพท์ แต่ในความเป็ นจริ งนั้นเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในเครื อข่ายนี้มีอยู่ ่ มากมายหลากหลาย ซึ่ งมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา โดยจะประกอบไปด้วยเครื่ องเซิ ร์ฟเวอร์ (Server) เกตเวร์ (Gateway) เราเตอร์ (Router) และสายสื่ อสารเป็ นจานวนมากที่เชื่ อมต่อสิ่ งเหล่านี้เข้าด้วยกัน เป็ นเครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต ได้แก่ ่ 1. ไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์ หรื อ อีเมล เป็ นการส่ งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผานเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตโดยผูส่ง ์ ้ ่ จะต้องส่ งข้อความไปยังที่อยูของผูรับ และแนบไฟล์ไปได้ ้ ่ 2. เทลเน็ต (Telnet) การใช้งานคอมพิวเตอร์ อีกเครื่ องหนึ่งที่อยูไกล ๆ ได้ดวยตนเอง เช่น สามารถเรี ยกข้อมูล ้ จากโรงเรี ยนมาทาที่บานได้ ้ 3. การโอนถ่ายข้อมูล (FTP) ค้นหาและเรี ยกข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาเก็บไว้ในเครื่ องของเราได้ ทั้งข้อมูล ประเภทตัวหนังสื อ รู ปภาพและเสี ยง 4. การสื บค้นข้อมูล (เวิลด์ไวด์เว็บ, Gopher, Archie) การใช้เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตในการค้นหาข่าวสารที่มีอยู่ มากมาย ใช้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทัวโลกได้ ่ 5. การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น (ยูสเน็ต) เป็ นการบริ การแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดงความ คิดเห็นที่ผใช้บริ การอินเทอร์ เน็ตทัว ู้ ่ โลก แสดงความคิดเห็นของตน โดยกลุ่มข่าวหรื อนิวกรุ๊ ป(Newgroup)แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 6. การสื่ อสารด้วยข้อความ (แชท, ไออาร์ ซี) เป็ นการพูดคุย โดยพิมพ์ขอความตอบกัน ซึ่ งเป็ นวิธีการสื่ อสาร ้ ที่ได้รับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง การสนทนากันผ่านอินเทอร์ เน็ตเปรี ยบเสมือนเรานังอยูในห้องสนทนา ่ ่ ่ เดียวกัน แม้จะอยูคนละประเทศหรื อคนละซี กโลกก็ตาม 6
  • 10. การตั้งชื่อบนระบบเครือข่ ายอินเตอร์ เน็ต เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ตสร้างขึ้นจากแนวความคิดที่มีแบบแผน โดยมีการออกแบบและจัดการโดเมน (Domain) อย่างเป็ นระบบเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และมีการเติบโตเป็ นลาดับอย่างต่อเนื่ อง Domain Name System (DNS) เป็ นระบบจัดการแปลงชื่ อไปเป็ นหมายเลข IP address (name-to-IP address mapping) โดยมี โครงสร้างของฐาน ข้อมูลแบบสาดับชั้น (hierarchical) ที่ประกอบด้วย โดเมนระดับบนสุ ด (Top-level Domain) โดเมนระดับรอง (Second-level Domain) และโดเมนย่อย (Sub domain) ตัวอย่างเช่น www.gnu.org โดยที่ .org คือโดเมนระดับบนสุ ด ซึ่ งแสดงถึงเป็ นประเภทขององค์กรซึ่ งไม่ได้คากาไร .gnu ้ ่ คือโดเมนระดับรองซึ่ งเป็ นชื่ อย่อของโครงการ GNU's Not Unix ซึ่ งอยูภายใต้องค์กร Free Software Foundation (FSF) และภายใต้ชื่อโดเมนดังกล่าวอาจมีโดเมนย่อยอื่นๆ ได้อีกเป็ นจานวนมาก ข้อกาหนดที่สาคัญของ DNS คือ ชื่อในโดเมนลาดับบนสุ ดนั้น ได้มีการกาหนดชื่ อเฉพาะซึ่ งระบุรายละเอียด ของกลุ่มเอาไว้ชดเจนแล้ว ดังนี้ ั .mil แทนกลุ่มของหน่วยงานทางทหารของสหรัฐเมริ กา .govแทนกลุ่มของหน่วยงานของรัฐบาล .com แทนกลุ่มขององค์กรหรื อบริ ษทเอกชน ั .net แทนองค์กรที่ทาหน้าที่เป็ นผูให้บริ การเครื อข่าย ้ .eduแทนสถาบันการศึกษา .org แทนองค์กรหรื อสมาคมต่างๆ ที่ดาเนิ นการโดยไม่ได้หวังผลกาไร .xx ใช้ตวอักษร 2 ตัวแทนชื่อประเทศ ั ต่อมาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกลุ่มของ โดเมนลาดับบนสุ ดอีก 7 กลุ่มคือ .firm แทนองค์กรหรื อบริ ษทห้างร้านทัวไป ั ่ .store แทนบริ ษทที่มีธุรกรรมทางการค้า ั .web แทนเว็บไซท์ที่ให้ขอมูลต่างๆ ้ .arts แทนกลุ่มที่มีกิจกรรมทางด้านประเพณี และวัฒนธรรม .rec แทนองค์กรหรื อหน่วยงานที่ทางานด้านนันทนาการ .info แทนองค์กรที่เป็ นผูให้บริ การข้อมูล ้ .nom สาหรับบุคคลทัวไป ่ 7
  • 11. รู ปแบบการเชื่ อมต่ อ การเชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตย่อยอาศัยเทคโนโลยีการสื่ อสารข้อมูลและกฏเกณฑ์ ซึ่งเป็ น ตัวกาหนดวิธีการรับส่ งข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง รู ปแบบสื่ อสารในเครื อข่ายจาแนก ได้ 2 ประเภท คือ 1. เครือข่ ายแบบสลับวงจร (Circuit – switched network) เป็ นเครื อข่ายที่อาศัยอุปกรณ์สลับสายทาหน้าที่ เชื่อมการสื่ อสารระหว่างจุด จุดเข้าด้วยกัน ก่อนการสื่ อสารจะเริ่ มต้นขึ้นได้จะต้องเชื่อมเส้นทางให้เสร็ จสิ้ น ก่อน เมื่อเชื่ อมต่อได้สาเร็ จแล้วการสื่ อสารจึงเริ่ มดาเนินไปอย่างต่อเนื่ องและเส้นทางหรื อคู่สายนั้นจะถูกยึด ใช้ได้โดยคู่สนทนาตลอดเวลา โดยบุคคลอื่นไม่สามารถก้าวก่ายในการใช้สายได้ จนกว่าจะจบสิ้ นการใช้ งาน 2. เครือข่ ายแบบสลับกลุ่มข้ อมูล (Packet switched network) เครื อข่ายแบบสลับกลุ่มข้อมูลใช้เชื่อมต่อ ระหว่างคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีการเชื่อมต่อที่ถาวรใดๆ ระหว่างผูรับและผูส่ง เส้นทางการเชื่ อมต่อมีหลาย ้ ้ เส้นทางและจะไม่มีใครเป็ นเจ้าของเส้นทางใดอย่างเป็ นเอกเทศ ข้อมูลที่วงไปตามสายในเครื อข่ายแบบสลับ ิ่ กลุ่ม ข้อมูลย่อยหรื อเรี ยกว่า แพ็กเกจ ก่อนที่จะส่ งออกไป แพ็กเกจแต่ละแพ็กเกจ อาจถูกจัดสรรให้ ประกอบด้วยข้อมูลขนาดตั้งแต่ 1 ไบต์ ไปถึงหลายร้อยไบต์ร่วมกับรายละเอียดส่ วนอื่นๆ เช่นชื่อ คอมพิวเตอร์ ผูส่ง ผูรับ และหมายเลขประจาตัวของ แพ็กเกจ สาหรับบอกลาดับของข้อมูล เป็ นต้น เมื่อ ้ ้ เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตเชื่ อมโยงเครื อข่ายทัวโลกให้สามารถติดต่อถึงกันได้หมดจนกลายเป็ นเครื อข่ายของ ่ โลก ดังนั้นจึงมีผใช้งานบนเครื อข่ายนี้ จานวนมาก การใช้งานเหล่านี้เป็ นสิ่ งที่กาลังได้รับการกล่าวถึงกัน ู้ ทัวไป เพราะการเชื่ อมโยงเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตทาให้โลกไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถสื่ อสาร ่ ถึงกันได้อย่างรวดเร็ ว ตัวอย่างการใช้งานบนอินเทอร์ เน็ตที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็ นเพียงตัวอย่างที่แพร่ หลายและ ั ใช้กนมากเท่านั้น ยังมีการประยุกต์งานอื่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา 8
  • 12. บริการต่ างๆ บนอินเทอร์ เน็ต 1. World Wide Web (WWW) เครือข่ ายใยแมงมุม เป็ นการเข้าสู่ ระบบข้อมูลอย่างข้อมูลในรู ปของ Interactive Multimedia คือ มีท้ งรู ปภาพ ข้อความ ั ภาพเคลื่อนไหว เสี ยง และวีดีโออีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยงใช้ระบบที่เรี ยกว่า hypertext กล่าวคือจะมีคาสาคัญ ั หรื อรู ปภาพในข้อมูลนั้นที่จะช่วยให้ท่านเข้าสู่ รายละเอียดที่ลึกและกว้างขวางยิงขึ้น คาสาคัญดังกล่าวจะเป็ น ่ คาที่เป็ นตัวหนาหรื อขีดเส้นใต้ เพียง แต่ท่านเลือกกด ที่คา ที่เป็ นตัวหนาหรื อขีดเส้นใต้ นั้น ๆท่านก็สามารถ เข้าสู่ ขอมูลเพิมเติมได้ (ข้อมูลเหล่านี้จะมีผสร้างขึ้นมาและเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆทัวโลก) ้ ู้ ่ ่ 2. ไปรษณีย์อิเลคทรอนิคส์ (Electronic Mail หรือ E-Mail) ั เป็ นบริ การหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่คนนิยมใช้กนมากคือส่ งจดหมายโดยทางคอมพิวเตอร์ ถึงผูที่มีบญชี ้ ั ่ ่ อินเตอร์ เน็ตด้วยกันไม่วาจะอยูใกล้หรื อไกลคนละซี กโลกจดหมายก็จะไปถึงอย่างสะดวกรวดเร็ วและ ง่ายดายโปรแกรมที่ใช้ได้แก่Hotmail , YahooMail , ThaiMailและยังมี Mail ต่าง ๆที่ให้บริ การอย่างมากมาย ในปัจจุบน ตามหน่วยงานหรื อองค์กรต่างๆ ั 9
  • 13. 3. Instant Message (บริการสนทนาบนอินเทอร์ เน็ต ) Instant Messaging ก็คือการสนทนาทางโทรศัพท์อย่างหนึ่ งแต่เป็ นในรู ปของตัวอักษรพนักงานในบริ ษททั้ง ั ขนาดเล็กและใหญ่ต่างใช้ IM เป็ นเครื่ องมือในการสื่ อสารสาหรับคนอีกจานวนมาก IM คือการสื่ อสาร สารองเมื่ออีเมล์มีปัญหาหรื อเหตุฉุกเฉินอื่นๆ 4.Telnet เป็ นบริ การที่ช่วยให้เราสามารถเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ อื่นเสมือนหนึ่งไปนังใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ ของที่นน ั่ ่ โปรแกรมที่ช่วยให้ท่านใช้บริ การนี้ได้คือ โปรแกรม NCSA Telnet เมื่อเปิ ดโปรแกรมแล้วให้พิมพ์คาสั่ง ่ Telnet ดังในรู ปภาพข้างล่างเมื่อท่านใช้คาสั่ง Telnet แล้วให้พิมพ์ที่อยูของแหล่งข้อมูลนั้น ท่านก็จะสามารถ เข้าสู่ ระบบข้อมูลนั้นๆ ได้เสมือนท่านไปนังอยูหน้าจอคอมพิวเตอร์ ของเครื่ อง ๆ นั้นเลยทีเดียว ระบบ Telnet ่ ่ 10
  • 14. 5. FTP (File Transfer Protocol) คือ บริ การที่ใช้ในการโอนย้าย file หรื อข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังอีกคอมพิวเตอร์หนึ่ง สามารถ โอนย้ายข้อมูลเช่นรู ปภาพ , ข้อความ , บทความ , คู่มือ และโปรแกรมต่าง ๆ 6. Search Engine (บริการค้ นหาข้ อมูลบนอินเทอร์ เน็ต) Search Engine เป็ นเว็บไซต์ที่มีเครื่ องมือในการที่จะค้นหาเว็บไซต์ต่าง ๆมาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของตัวเอง โดยอัตโนมัติ เช่น Google.com หรื อ Altavista.com ซึ่ งเครื่ องมือนี้ มีชื่อเรี ยกว่า Search Robot จะทาหน้าที่ คอยวิงเข้าไปอ่านข้อความจากหน้าเว็บไซต์ ของเว็บต่าง ๆแล้วนามาจัดลาดับคาค้นหา (Index) ที่มีใน ่ เว็บไซต์เหล่านั้นเก็บไว้ในฐานข้อมูลของตนเอง เมื่อเราเข้าไปใช้บริ การกับ Search Engine 11
  • 15. มารยาทในการใช้ อนเทอร์ เน็ตเรียกว่าบัญญัติ 10 ประการ ิ           ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ หรื อละเมิดทาร้ายผูอื่น ้ ต้องไม่รบกวนการทางานของผูอื่น ้ ต้องไม่สอดแนมแก้ไขหรื อเปิ ดดูแฟ้ มผูอื่น ้ ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อการโจรกรรม ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ สร้างหลักฐานที่เป็ นเท็จ ต้องไม่คดลอกโปรแกรมของผูอื่น ั ้ ต้องไม่ละเมิดในการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ โดยที่ตนเองไม่มีลิขสิ ทธิ์ ต้องไม่นาผลงานของผูอื่นมาเป็ นของตน ้ ต้องคานึงถึงสิ่ งที่เกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทาของท่าน ต้องใช้คอมพิวเตอร์ โดยเคารพกฏระเบียบกติกามารยาท ประโยชน์ ของอินเทอร์ เน็ต 1. สามารถติดต่อสื่ อสารกับบุคคลอื่นทัวโลก ่ 2.สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้เสมือนกับเราไปนังอยูที่หองสมุดขนาดใหญ่ได้ขอมูลมากมายจากทัวทุกมุม ้ ่ ่ ้ ่ โลก 3.เปรี ยบเสมือนเวลาที่ให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ภายในห้องสนทนา(chat room) และกระดานข่าว (Web room) เป็ นการเปิ ดโลกกว้างและวิสัยทัศน์ในเรื่ องที่น่าสนใจ 4. สามารถติดตามเคลื่อนไหวจากข่าวสารทัวโลกอย่างรวดเร็ ว ่ 5. สามารถเปิ ดการค้าได้ดวยตัวเองโดยไม่ตองหาที่จดตั้งร้านหรื อพนักงานบริ การแต่สามารถทาการค้าได้ ้ ้ ั ด้วยตัวเองคนเดียว 6.สามารถซื้ อสิ นค้าโดยไม่ตองเดินทางไปยังร้านค้าซื้ อผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริ การการชาระเงินก็สะดวก ้ เช่นชาระผ่านบัตรเครดิต การหักเงินผ่านบัญชีธนาคาร 7.สามารถรับส่ งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E-mail) เป็ นการส่ งจดหมายที่ไม่ตองเสี ยค่าบริ การและรับส่ ง ้ จดหมายได้ภายในและภายนอกประเทศนอกจากจดหมายที่เป็ นข้อความแล้วยังส่ งบัตรอวยพรในเทศการ ต่างๆได้อีก 8. สามารถอ่านนิ ตยสารหนังสื อพิมพ์บทความและเรื่ องราวต่างๆได้ฟรี เหมือนกับเราซื้ อหนังสื อฉบับนั้นมา อ่านเอง 9. สามารถติดประกาศข้อความต่างๆที่ตองการประกาศให้ผอื่นทราบได้เช่นประกาศขายบ้านประกาศสมัคร ้ ู้ งานประกาศขอความช่วยเหลือ 12
  • 16. โทษของอินเทอร์ เน็ต 1. อินเทอร์ เน็ตเป็ นเครื อข่ายขนาดใหญ่ที่มีผคนมากมายเข้ามาใช้บริ การเป็ นเวทีเปิ ดกว้างและให้อิสระกับทุก ู้ คนที่เข้ามาเขียนข้อมูลหรื อติดประกาศต่างๆโดยปราศจากการกลันกรองที่ดีทาให้ขอมูลที่ได้รับไม่สามารถ ้ ่ ่ ตรวจสอบได้วาเป็ นจริ งหรื อไม่ 2. เกิดปั ญญาหาของการละเมิดลิขสิ ทธิ์ เช่นการดาวน์โหลดเพลงหรื อรู ปภาพมารวบรวมขายหรื อเป็ นปั ญหา อย่างยิงคือการตัดต่อภาพบุคคลที่มีชื่อเสี ยงให้กลายเป็ นภาพแบบอนาจารหรื อเสี ยหายได้ ่ 3.ก่อให้เกิดปั ญหาด้านอาชญากรรมเพราะการเล่นอินเทอร์ เน็ตเช่นการล่อล่วงหญิงไปในทางที่ไม่ดีการก่อ คดีข่มขืนเนื่องจากเว็บไซต์โป๊ 4. ก่อให้เกิดปั ญหาการหมกหมุ่นของเยาวชนที่เข้าไปในเว็บไซต์จนทาให้เกิดโรคติดต่อทางอินเทอร์ เน็ตทา ให้เกิดอันตรายต่อตนเองเเละสังคมได้ โรคติดต่ อทางอินเทอร์ เน็ต ่ เป็ นอาการทางจิตประเภทหนึ่งนักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S.Youngได้วเิ คราะห์ไว้วาบุคคลใดมีอาการต่อไปนี้ อย่างน้อย 4 ประการเป็ นเวลาไม่นอยกว่า 1 ปี แสดงว่าเป็ นอาการติดอินเทอร์ เน็ต ้          รู ้สึกหมกหมุ่นกับอินเทอร์ เน็ตแม้ในเวลาไม่เข้าอินเทอร์ เน็ต มีความต้องการใช้อินเทอร์ เน็ตเป็ นเวลานานขึ้นอยูเ่ รื่ อยๆ ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์ เน็ตได้ ้ รู้สึกหงุดหงิดเทื่อใช้อินเทอร์ เน็ตน้อยลง คิดว่าเมือใช้อินเทอร์ เน็ตเเล้วทาให้ตวเองรู ้สึกดี ั ใช้อินเทอร์ เน็ตในการหลีกเลี่ยงปัญหา หลอกคนใช้ในครอบครัวหรื อเพื่อนเรื่ องการใช้อินเทอร์เน็ต มีอาการผิดปกติเมื่อเลิกใช้อินเทอร์ เน็ตเช่นหดหู่กระวนกระวาย อาการดังกล่าวมี่มากกว่า 4 ประการในช่วง 1 ปี จะถือว่าเป็ นอาการติดอินเทอร์ เน็ตซึ่ งมีผลเสี ยต่อ ระบบร่ างกายทั้งการกินการขับถ่ายและกระทบต่อการเรี ยนสภาพสังคมอีกด้วย 13
  • 17. บรรณานุกรม http://www.l3nr.org/posts/460787 ประโยชน์และโทษของอินเทอร์ เน็ต http://home.kku.ac.th/samnat/internet_system_02.html ประวัติอินเทอร์ เน็ต http://th.wikipedia.org/wiki บริ การต่างๆ บนอินเทอร์ เน็ต http://www.krujongrak.com/internet/internet.html มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต https://sites.google.com/site/supoldee/kar-prayukt-chi-xintexrnet การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ต