O slideshow foi denunciado.
Seu SlideShare está sendo baixado. ×

ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ

Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio
Anúncio

Confira estes a seguir

1 de 7 Anúncio

ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ

Baixar para ler offline

ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ ตามฐาน ๓ ฐาน คือ ฐานความเสื่อมของวัยรุ่น ฐานผู้มีพระผู้มีบุฯคุณ ฐานเป้าหมายการศึกษา

ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ ตามฐาน ๓ ฐาน คือ ฐานความเสื่อมของวัยรุ่น ฐานผู้มีพระผู้มีบุฯคุณ ฐานเป้าหมายการศึกษา

Anúncio
Anúncio

Mais Conteúdo rRelacionado

Diapositivos para si (18)

Quem viu também gostou (20)

Anúncio

Semelhante a ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ (20)

Mais de niralai (20)

Anúncio

Mais recentes (20)

ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ

  1. 1. ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานทางเสื่ อมของวัยรุ่น ” ี ี ุ โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน………………………. ----------------------------------------------------------------------------------------------- ทางเสื่ อมของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน ๑. ชอบความเกียจคร้ าน ๒. ผลาญเงินพ่อแม่ ๓. เรียนแย่ หลายวิชา ๔. เร่ งหาคู่รัก ๕. จมปลักอบายมุข ๖. มัวสนุกในวัยหนุ่มสาว อบายมุข คือ ช่ องทางแห่ งความเสื่ อม ๖ ประการ คือ ๑. ดืมสุ รายาเสพติดพิษมากมาย ๒. มักผ่ อนคลายด้ วยการเทียวเหยียวราตรี ๓. ชอบสนุกด้ วยการเล่ นไม่ เว้ นช่ วง ่ ่ ่ ๔. ชอบเสี่ ยงดวงด้ วยพนันมันทุกที่ ๕. คบคนชั่วเป็ นมิตรผิดวิธี ๖. อ้ างโน่ นนี่เพราะเกียจคร้ านงานไม่ ทา ํ ๕ ดี เพือสั งคม คือ ่ คิดดี พูดดี ทําดี คบคนดี ไปสู่ สถานที่ดี ๆ หลักการพัฒนาตนเองด้ วยศีล ๕ คือ ๑. ไม่ โหดร้ าย ๒. ไม่ มือไว ๓. ไม่ ใจอยาก ๔. ไม่ ปากชั่ว ๕ . ไม่ มัวเมาด้ วยอบายมุข ปัญหาของโลกในปัจจุบัน ๑. แย่ งอาหารกันกิน ๒. แย่ งถินกันอยู่ ่ ๓. แย่ งคู่กนพิศวาส ๔. แย่ งอํานาจกันเป็ นใหญ่ ั ยุคคนไทย IQ เตีย Idea ตํา ปัญญา Buffalo อวัยวะโต แต่ มันสมองเล็ก Sexรุ นแรง ้ ่ แก่ งแย่ งชิงดี กดขีปวงประชา ธุรกิจการค้ าล้ มละลาย ขายตัว มั่วกาม คุกคามทางเพศ เอดส์ ระบาด ่ ชาติล่ม สั งคมทรุ ด มนุษย์ ทราม ชอบทําตามใจตนเอง ผญาอีสานกับชีวตคนหนุ่มสาวในสั งคมปัจจุบัน ิ ตกสมัยพุทธศักราชลํา ๒๕๔๗ เหตุแห่ งเมืองไทยแลนด์ ป่ าสิ แปนปานหัวล้ าน สาวสิ หนีไกลบ้ าน เฮือน ้ ซานบ่ ข่องเกียว สมัยคนของเคียว บ่ หัวซาโต่ งซิ่น กระโปรงฮือฮัดอยู่แฮว กําลังเกิดขึนแล้ ว กําลังเกิดขึนแล้ ว ่ ้ ้ ้ หลายหลากสารพัด คนบ่ หัวซาวัด ฮอดสมัยคนใจตืน ถืกอธรรมนําทืน เมืองทั้งเมืองเกลียงอ่ อยฮอย ลูกเอาผัว ้ ่ ้ เอาเมีย พ่ อกับแม่ อยู่ทางบ้ าน พากันได้ ลูกน้ อย จนลาวปอยใส่ กน ผู้ลูกสาวว่ าสั้ นสนุกแท้ บ่แลหลัง พ่อแม่ อายคน ้ ั นินทาบ่ ทนฟัง หน้ าเหลือทอ ๒ นิว หลงสี แดงสี สิ่ว จนลืมหมกปลาซิว จนลืมต้ มปลาค่ อ ลืมคุณแม่ คุณพ่อ ลืม ้ เอาฮอดโต่ งซิ่น กะเลยสิ้นค่ าสาว ชั่นดอกหว้ า. ท่ านหลวงพ่ อพุทธทาสภิกขุ เตือนใจวัยรุ่นว่ า บังคับจิตใจตนเองได้ แค่ น้ันก็เป็ นยุวชนทีดได้ แล้ ว ่ ี
  2. 2. ปริศนาธรรมนําสุ ข ทีดากลับขาว ได้ แก่ เส้ นผม ่ ํ ทียาวกลับสั้ น ได้ แก่ สายตา ่ ทีมั่นกลับคลอน ได้ แก่ ฟัน ่ ทีหย่ อนกลับตึง ่ ได้ แก่ หู ทีซึ้งกลับเยอะ ได้ แก่ สั ญญาความจําได้ หมายรู้ ( ต. ต. ต. ต. ) ่ ธรรมะประยุกต์ ในพระพุทธศาสนา ยุวชนมีความคิดเห็นอย่ างไรบ้ างครับ ? ๑. ชีวตหลังความตายแล้วจะเป็ นอย่างไร พิสูจน์ ได้หรือไม่ ? ๒. นรก – สวรรค์มีจริงหรือไม่ พิสูจน์ ได้อย่างไร? ิ ๓. การทําแท้ งผิดศีลธรรมหรือไม่ อย่างไร ? ๔. พระพุทธศาสนามองปัญหาโสเภณีเป็ นอย่างไร ? วัฒนธรรมตะวันตก ทีว่าแน่ ก็ยงแพ้ วฒนธรรมไทย (ความแตกต่ าง) ่ ั ั วัฒนธรรมไทย (มาจาก….?) วัฒนธรรมนอก (มาจาก… .?) วัฒน แปลว่า เจริ ญ , งอกงาม น = หนองใน ธรรม แปลว่า ศูนย์รวม อ = เอดส์ ไทย มาจาก ไ = ไตรรงค์ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย,์ ก = เกิด ท = ทน ทาน เท่ห์ , ย = ยิง ยืน ยาว ่ วัฒนธรรมนอก คือ ศูนย์ รวมแห่ งความเจริญของ วัฒนธรรมไทย คือ ศูนย์รวมแห่ งความเจริ ญของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย ์ ทนทาน ยิงยืนยาว การเกิดหนองใน เอดส์ เป็ นต้ น ่ “ เอดส์ ” ทางพระพุทธศาสนาแบ่ งออกเป็ น ๖ ประเภท คือ ๑. เอดส์ ทางกาย ได้ แก่ การแสดงออกจากทางกิริยามารยาท การพูด การเดินพฤติกรรมวิปริต เป็ นต้ น ๒. เอดส์ ทางกาม ได้ แก่ การไม่ รวมในกาม มีปกติสําส่ อนทางเพศ เสพไม่ เลือกทีเ่ ลือกคู่ เป็ นต้ น ๓. เอดส์ ทางวัฒนธรรมได้ แก่ การแสดงออกทางภาษา การพูดแบบสิ้นคิด การแต่ งกายไม่ สุภาพ เป็ นต้ น ๔. เอดส์ ทางอารมณ์ ได้ แก่ อารมณ์ ชอบ / ชัง อิจฉาริษยา อิจฉาตาร้ อน นินทาว่ าร้ าย มองคนในแง่ ร้าย ๕. เอดส์ ทางความคิด ได้ แก่ คนมีความคิดวิปริต ไม่ มความเคารพพ่ อแม่ ครู อาจารย์ พระสงฆ์ ไม่ ร้ ู จกบุญคุณ ี ั ๖. เอดส์ ทางการเมือง ได้ แก่ แสดงออกลักษณะ ๕ ก. คือ เกะกะ ก่ อกวน กลันแกล้ ง กอบโกย โกงกิน ่ มนต์ คาถาป้ องกันเอดส์ ทางกาย ๑. ไม่ เห็นแก่ กาม ๒. ไม่ ตามใจอยาก ๓. ไม่ มากคู่เคียง ๔. ไม่ เสี่ ยงสิ่ งเสพย์ ตด ิ เมาเพศหมดราคา เมาสุ ราหมดสํ าคัญ เมาการพนันหมดตัว เมาเพือนชั่วหมดดี เมาโสเภณีชุบเปอร์ สตาร์ เอดส์ ่ (สรุป) ๕ ดีเพือตนเอง คือ เป็ นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็ นศิษย์ที่ดีของครู บาอาจารย์ เป็ นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ่ เป็ นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็ นศาสนิกชนที่ดีของพระพุทธศาสนา โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต ิ ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย ่ ิ
  3. 3. ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานพระผู้มบุญคุณ ” ี ี ุ ี โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน………………………... ----------------------------------------------------------------------------------------------- หน้ าทีของบุตรธิดา (ลูก) คือ ่ ๑. เลียงท่ านตอบ ้ ๒.งานช่ วยทํา ๓. คําจุนวงศ์ ้ ๔. ดํารงตนดี ๕. สิ้นชีวทาบุญให้ ี ํ หน้ าทีของบิดามารดา ( พ่ อแม่ ) คือ ่ ๑. ห้ ามจากความชั่ว ๒. ให้ ต้งตนเป็ นคนดี ั ๓. ให้ มีความรู้ ๔. จัดคู่ให้ อยู่ครอง ๕. มอบกองมรดก สรุ ปให้ จาง่ าย ๆ คือ ตัดชั่ว ตัวดี วิชาอยู่ คู่บุญ และทุนมี ํ ห้ าม – ห้ ามมิให้ ทาชั่ว, ให้ – ให้ ทาความดี , หวง – ใครจะทําอันตรายมิได้ , ห่ วง – ทุ่มเทเสี ยสละเพือลูก ํ ํ ่ เสน่ ห์ของผ้ าขีริ้ว ผ้ าขีริ้วมีปรัชญาทีน่าศึกษา คือ เป็ นผ้ าทีขเี้ หร่ แต่ มีเสน่ ห์ เพราะ… ้ ้ ่ ่ (ผ้ าขีริ้วยอมสกปรกเพือให้ สิ่งอืนสะอาด) ้ ่ ่ เสน่ห์ของคนที่ยอมลําบากเพื่อให้ผอื่นเป็ นสุ ข เช่น พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานสุ ขสบาย ยอมโน้มตัวจากที่สูงลง ู้ สู่ ที่ต่าได้ ส่ งให้ศึกษาเล่าเรี ยนเพื่ออนาคตของลูกตนเอง(ลูกดีต้องมี ๔ ช. คือ เชื่อ = ฟัง , ช่ วย= งาน , ชื่น = ชม , เชิด =ตระกูล) ํ (ผ้ าขีริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ กสลัดความสกปรกออกจากตัว ได้ ตลอดเวลา) ้ ็ เสน่ห์ของคนที่รู้ตวเองว่าสกปรก เมื่อถึงเวลาก็ชาระล้างให้สะอาด เหมือนชําระร่ างกายประจําวัน มิใช่อมความสกปรก ั ํ ไว้แล้วแกล้งหลอกตัวเองว่าสะอาดหมดจด คือรู ้จกยอมรับว่าตนก็ทาผิดได้ มิใช่ถูกเสมอไป ขอบคุณเมื่อมีคนตักเตือน ถือว่า ั ํ เป็ นครู ของเรา เช่น พ่อแม่บอกกล่าวตักเตือน ก็เชื่อฟังคําสังสอน ไม่เถียงด้วยวาจาก้าวร้าว คิดว่าตนเองถูกเสมอ คิดว่าพ่อแม่ ่ เป็ นคนไม่ทนสมัย อย่ าลืมว่ ากรรมชั่ว ทีทากับพ่อแม่ มันบาปมากทีสุด ั ่ ํ ่ พระคุณของแม่ มี ๕ ส. คือ ๑. แม่ เป็ นผู้สร้ าง (สร้ างให้ ลูกเกิดมาเป็ นคน เป็ นมนุษย์ ) ๒.แม่ เป็ นผู้สอน (สอนให้ รู้ จกการดําเนินชีวต สอนให้ ร้ ู จกอ่ อนน้ อมถ่ อมตนต่ อผู้มีพระคุณ) ั ิ ั ๓. แม่ เป็ นผู้ส่ง (ส่ งให้ ศึกษาเล่ าเรียน ให้ มีอนาคตก้ าวหน้ า ได้ ประกาศนียบัตร ไม่ ใช่ ได้ ประกาศนียบุตร ) ๔. แม่ เป็ นเสริม (เสริมให้ สูง ประคองมิให้ เซ คําไม่ ให้ ทรุ ด ) ้ ๕. แม่ เป็ นผู้เสี ย (เสี ยสละทุกอย่ างทั้งหยาดเหงือ ทรัพย์ สิ้น ความสุ ข สติปัญญาเพือลูก) ่ ่ แววของลูกทีดี ๑. ต้ องขยัน ๒. ต้ องอดทน ๓. ต้ องประหยัด ๔. ต้ องซื่อสัตย์ ๕. ต้ องกตัญญู ่ ความทุกข์ ของพ่ อแม่ มี ๓ ประการคือ ๑. ทุกข์ เพราะไม่ มีลูก ๒. ทุกข์ เพราะลูกตาย ๓. ทุกข์ เพราะลูกชั่ว (ทุกข์ มากทีสุด) ่ ทําไมคนไม่ รีบกตัญญู เพราะติด ๒ รอ คือ ๑. รอว่ าง ๒. รอรวย
  4. 4. การเลียงพ่ อแม่ มี ๒ วิธี คือ ้ ๑. เลียงทางกาย ้ ได้ แก่ เลียงด้ วยให้ ข้าวนํา เสื้อผ้ า ยารักษาโรค ของกินเครื่องใช้ มิปล่ อยให้ ท่านอดรัดทดใจ ้ ้ ๒. เลียงทางใจ ้ ได้ แก่ ทําความดีให้ ท่านชื่นใจ เว้ นจากเรื่องกระทบกระเทือนความรู้ สึก เรียนให้ จบ สรุปสิ่ งพ่ อแม่ ให้ ลูก คือ ๑. ให้ กาเนิด คือ ํ ชีวต เลือดเนือ ยอดแห่ งทรัพย์ ิ ้ ๒. ให้ นํานม คือ เลือดทีหลังเพือหล่อเลียงชีวตลูก ้ ่ ่ ่ ้ ิ ๓. ให้ การอบรม คือ แนะนําทางดี ให้ หลีกทางชั่ว ๔. ให้ บรมธรรม คือ บอกอุบายการดําเนินชีวตทีดี ิ ่ ลูกไทย ๆ ยุค “ไฮเทค” ลูก……ยอดเยียม๑. ลูกรัก ่ ลูกทีรักพ่ อรักแม่ รักวงศ์ ตระกูล รักมรดกทีพ่อแม่ มอบให้ ไม่ ทาลาย ่ ่ ํ ๒. ลูกเลียง ้ ลูกทีมีคุณธรรมกตัญญูกตเวที เลียงดูพ่อแม่ ให้ มีความสุ ขกาย สุ ขใจ ่ ้ ๓. ลูกเลิศ ลูกทีประเสริฐกว่ าพ่ อแม่ เชิดชู วงศ์ ตระกูลเป็ นสง่ าราศีแก่วงศ์ ตระกูลของตน ่ ลูก……ยอดแย่ ๑. ลูกริบ ลูกขีโกง จ้ องหาจังหวะแต่ จะเบียดบังทรัพย์ สินพ่ อแม่ ้ ๒. ลูกลอก ลูกทีปอกลอกพ่อแม่ ่ เลียงไม่ ร้ ูจักโต ให้ ไม่ รู้ จักพอ ้ ๓. ลูกลาก ลูกทีก่อเวรสร้ างแต่ กรรม นําทุกข์ มาสู่ พ่อแม่ ลากพ่ อแม่ ขึนโรงขึนศาลยันคุก ่ ้ ้ ๔. ลูกรก ลูกทีอยู่ทไหนพ่ อแม่ กหนักใจ รกตระกูล ลักษณะว่ า “ชั่วเกินโปรดคดเกินดัด” ่ ี่ ็ ๕. ลูกนรก ลูกทีใจดําอํามหิต ฆ่ าได้ กระทังพ่ อแม่ ทําร้ ายได้ แม้ ผู้มพระคุณ ่ ่ ี ครู ในโลกนีมี ๔ ประเภท คือ ้ ๑. ครู ประจําบ้ าน ได้ แก่ พ่ อแม่ เป็ นผู้ทให้ กาเนิด และเลียงเรามาตั้งแต่ เล็ก ๆ หัดสอนให้ เดิน ี่ ํ ้ ๒. ครู ประจําโรงเรียน ได้ แก่ ครู บาอาจารย์ทสอนศิลปวิทยาแก่ศิษย์ ให้ อ่านออกเขียนได้ ี่ ๓. ครูประจําโลก (จิตใจ) ได้ แก่ พระพุทธเจ้ า พระสงฆ์ สาวก ผู้นําธรรมะมาอบรมสั่ งสอนให้ เราเป็ นคนดี ๔. ครู ประจําธรรมชาติ ได้ แก่ ประสบการณ์สิ่งทีได้ ผ่านไปแล้ วในชีวตจิตใจของเรา ทั้งดีและไม่ ดี ่ ิ หน้ าทีของศิษย์ ทดี ่ ี่ ๑. ต้ องมีความเคารพ ๒. คบการศึกษา ๓. กล้ ารับความผิด ๔. คิดช่ วยเหลือครู ๕ . กตัญญูต่อสถาบัน กรรม ๖ ประเภท ๑.ทําแล้วเศร้ าหมอง เรียกว่ า บาปกรรม (ฆ่ าสั ตว์ ลักทรัพย์ มั่วยาเสพติด ทะเลาะกัน) ๒.ทําแล้วผ่ องใส เรียกว่ า บุญกรรม (ทําบุญ ช่ วยเหลือคนทีตกทุกข์ สามัคคี ) ่ ๓.ทําแล้ วผูกพันธ์ ติดตาม เรียกว่ า เวรกรรม (ความโกรธ อิจฉาริษยา แก้แค้ นการฆ่ ากัน) ๔.ทําแล้วโง่ เรียกว่ า อกุศลกรรม (ความชั่วทุกชนิดในโลกนี้ ใช้ ความรุนแรง) ๕. ทําแล้ วฉลาด เรียกว่ า กุศลกรรม (ความดีทุกชนิดในโลกนี้ ใช้ ปัญญาพิจารณา) ๖. ทําแล้ วดีแต่ มีข้นตอน เรียกว่ า พิธีกรรม ั (เป็ นคนมีเหตุมีผล ทํางานมีระบบระเบียบวินัย) โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต ิ ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย ่ ิ
  5. 5. ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานเป้ าหมายของการศึกษา ” ี ี ุ โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน……………………….. ----------------------------------------------------------------------------------------------- การศึกษา( Education ) ศึกษาทางโลก - เรียนไปเพือเพิมทุกข์ / ศึกษาทางธรรม- เรียนไปเพือหมดทุกข์ ่ ่ ่ สิ่ งทีไม่ ควรทําเร็วค่ อย ๆ เป็ นค่ อย ๆไป ๗ ประการ ่ ๑. ความรัก ๒. การเกา ๓. การขึนต้ นไม้ ้ ๔. การว่ ายนํา ๕. การรับประทานอาหาร ้ ๖. การสร้ างฐานะ ๗. การศึกษา คนเราเกิดมามี ๔ บัตร ๑. สู จบัตร ๒. ประกาศนียบัตร ๓. ธนบัตร ๔. มรณบัตร ิ สถานทีทก่อให้ เกิดสติปัญญาหรือ เกิดความคิดดี ๆ ่ ี่ ๑. วัด - ทําให้ นึกถึงพระ – สวรรค์ ๒. วัง - นึกถึงศิลปกรรม ความดีทพระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประเทศชาติ ี่ ๓. โรงเรียน - นึกถึงความก้ าวหน้ า – อนาคต ๔. โรงศาล - นึกถึงความผิดพลาด - ความประมาท ๕. โรงพยาบาท - นึกถึงอนิจจังของสั งขารว่ าไม่ เทียง ่ ความเชื่อต่ างกัน เด็กอนุบาล เชื่อพ่อแม่ เด็กประถม เชื่อคุณครู เด็กมัธยม เชื่อเพือน ่ ปริญญาตรี เชื่อตํารา ปริญญาโท เชื่อตนเอง ปริญญาเอก ไม่ เชื่อใครเลย อะไรเอ่ ย ? ๑. บ้ านใกล้ ท่านํา ไม่ มีนํากิน - เกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้ ว เป็ นคนไม่ ศึกษาธรรมะ ไม่ มีธรรมะประจําจิตใจ ้ ้ ๒. ช่ างปั้นดินไม่ มีหม้ อใช้ - ตัวของเราเองไม่ คุณธรรมประจิตใจ เช่ น ความกตัญญูกตเวที ความอ่ อนน้ อม ๓. เลียงไก่ ไม่ มีเสี ยงขัน ้ - ลูกเนรคุณพ่อแม่ ครู อาจารย์ ไม่ มความเคารพต่ อท่ านผู้มีพระคุณ ี ๔. อยากไปสวรรค์ ให้ ไปแก้ ซิ่นทีวด - ศึกษาธรรมะจากคัมภีร์ ศึกษาเล่ าเรียนวิชาพระพุทธศาสนา แล้ วนําไปปฏิบัติ ่ั หัวใจนักปราชญ์ หลักการเรียนเก่ ง ฟังให้ หมด จดให้ มาก ปากต้ องไว ใจต้ องคิด สุ ต้ องตั้งใจฟังให้ ดอย่ าขีเ้ กียจ ี จิ คิดให้ ละเอียดข้ อสงสั ย ปุ ถามตามเนือความทีข้องใจ ้ ่ ลิ เขียนไว้ เมื่อสงสั ยให้ เปิ ดดู
  6. 6. ทําไมมนุษย์ เกิดมาไม่ เหมือนกัน ๑. มีอายุยน ื เพราะ - มีเมตตาต่ อสั ตว์ ไม่ ฆ่าสั ตว์ ไม่ เบียดเบียนสั ตว์ ๒. ไม่ ป่วยเป็ นโรค เพราะ - ไม่ ทาร้ ายทรมานและกักขังสั ตว์ ํ ๓. รู ปร่ างหล่ อสวย เพราะ - ไม่ มีความโกรธแค้ น ๔. มียศศักดิ์ เพราะ - มีความยินดีเมื่อคนอืนได้ ดี ไม่ อจฉาริษยา ่ ิ ๕. มีฐานะรํ่ารวย เพราะ - ใฝ่ ทําบุญสุ นทานมามาก ๖. มีตระกูลสู ง เพราะ - มีความเคารพ อ่ อนน้ อม ถ่ อมตน ๗. มีสติปัญญาดี เพราะ - เข้ าหาพระสงฆ์ เข้ าหาบัณฑิต ตั้งใจศึกษาเล่ าเรียน เรียนเก่ งอย่ างมีหลัก ๑. เรียนจากครู เรียนจากครูทโรงเรียน ี่ ๒. ดูจากตํารา อ่ านศึกษาจากตําราในห้ องสมุด ๓. สดับปาฐะ ฟังจากผู้รู้คนอืน ่ ทางทีจะเรียนให้ จบ คือ ่ - อิทธิบาท ๔ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อ่ อนน้ อมมีเสน่ ห์ คือ - มืออ่ อน หัวอ่ อน เข่ าอ่ อน หลังอ่ อน ปากอ่ อน ศึกษาไปเพือนทํางานทีไม่ มโทษ ่ ่ ี ๑. ไม่ ผดกฎหมาย ๒. ไม่ ผดประเพณี ๓. ไม่ ผดศีล ิ ิ ิ ๔. ไม่ ผดธรรม ิ การเคารพ หมายถึง การแสดงความนับถือ การแสดงความอ่อนน้ อม อ่อนโยน ถ่ อมตนอย่างเหมาะสม ทั้งต่ อ หน้ าและลับหลัง ความเคารพมี ๗ ประเภท ๑. เคารพในพระพุทธเจ้ า ๒.เคารพในพระธรรม ๓. เคารพในพระสงฆ์ ๔. เคารพในการศึกษา ๕. เคารพในสมาธิ ๖. เคารพในความไม่ ประมาท ๗. เคารพในปฏิสันถาร นักเรียนทีดีควร ่ ๑.ไม่ โยกเก้ าอี้ ๒. ไม่ หนีโรงเรียน ๓. ไม่ เขียนข้ างฝา ๔. ไม่ ด่าครู สอน ๕. ไม่ นอนตืนสาย ่ ๖. ไม่ หน่ ายการเรียน ๗. ไม่ เพียรทําผิด ๘. ไม่ คดมุ่งร้ าย ิ ๙. ไม่ อายการงาน ๑๐. ไม่ ผลาญเงินตรา ๑๑. ไม่ ซ่าหาเรื่อง ๑๒. ไม่ เคืองโกรธกัน ๑๓. ไม่ หันหาอบายมุข ๑๔. ไม่ คลุกกับเกมส์ ๔ ย. ก่ อปัญหา๑. ย. เยาวชน ขาดความอบอุ่น ถูกทอดทิง นักเรียน กลายเป็ นนักเลง (อาชีวะ เป็ น อาซิว่ะ) ้ ๒.ย. ยากจน เศรษฐกิจฝื ดเคือง ความฟุ้ งเฟอ ฟุ้ มเฟื อย ้ ๓. ย.ยาเสพติด ตัวอันตรายทีบ่อนทําลายคน , เศรษฐกิจประเทศชาติและสั งคม ่ ๔. ย.ยุแหย่ ยุให้ รํา ตําให้ รั่ว ทั้งปากคนและปากกา โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต ิ ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย ่ ิ
  7. 7. หลักและวิธีการใช้ ทรัพย์ ๑. ฝากออมสิ น เก็บฝากธนาคารไว้ ใช้ ในยามจําเป็ น ๒. ฝังดินไว้ บริจาคทําบุญสุ นทานในพระพุทธศาสนา ๓. ใช้ หนีเ้ ก่ า พ่ อแม่ เลียงเรามา เราก็เลียงท่ านตอบ ้ ้ ๔. ให้ เขากู้ เลียงดูบุตรธิดา ส่ งให้ ศึกษาเล่าเรียน ้ ๕. ใส่ ปากงูเห่ า ช่ วยเหลือญาติมิตร ๖. ทิงลงสู่ เหว เลียงตัวเราเอง ้ ้ นํา ๓ ประเภท ทําให้ ฉิบหาย ้ ๑. นําเหล้ า ้ ทําให้ ว่ ุนวาย ๒. นําลาย ้ ทําให้ ขัดแย้ ง ๓. นําหมึก ้ ทําให้ ย่ ุง ( หนังสื อพิมพ์)

×