More Related Content
Similar to Projectm6 2-2554
Similar to Projectm6 2-2554 (20)
More from Net'Net Zii (9)
Projectm6 2-2554
- 1. 1
โครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร 5
ปี การศึกษา 2555
ชื่อโครงงาน
สื่ อการเรี ยนรู้เรื่ องศาสนาพุทธ
ชื่อผูทาโครงงาน
้
1. นางสาวอรญา รชตะโสฬส เลขที่ 18 ชั้นม.6 ห้อง13
2. นางสาวกัญจณ์ชญา สมหวัง เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง13
3. นางสาวกัญญาภัค โพธิยา เลขที่ 28 ชั้นม.6 ห้อง13
ชื่ออาจารย์ที่ปรึ กษาโครงงาน
นางเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรี ยนที่ 1-2 ปี การศึกษา 2555
โรงเรี ยนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้ อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิ กในกลุ่ม .……
1.นางสาวอรญา รชตะโสฬส เลขที่ 18 2.นางสาวกัญจณ์ชญา สมหวัง เลขที่ 27
3.นางสาวกัญญาภัค โพธิยา เลขที่ 28
ชื่อโครงงาน สื่ อการเรี ยนรู้เรื่ องศาสนาพุทธ
Project : Media of Learning about Buddhism.
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่ อเพื่อการศึกษา
ชื่ อผู้ทาโครงงาน
1. นางสาวอรญา รชตะโสฬส เลขที่ 18 ชั้นม.6 ห้อง13
2. นางสาวกัญจณ์ชญา สมหวัง เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง13
3. นางสาวกัญญาภัค โพธิยา เลขที่ 28 ชั้นม.6 ห้อง13
ชื่อทีปรึกษา นางเขื่อนทอง มูลวรรณ์
่
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรี ยนที่ 1-2 ปี การศึกษา 2555
ทีมาและความสาคัญของโครงงาน
่
พระพุทธศาสนา หรื อ ศาสนาพุทธ เป็ นศาสนาที่เข้ามาสู่ ในประเทศไทยจนถึงปั จจุบน เมื่อประมาณ พ.ศ.
ั
236 สมัยเดียวกันกับประเทศศรี ลงกา ด้วยการส่ งพระสมณทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ 9 สาย
ั
่
โดยการอุปถัมภ์ของพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริ ยอินเดีย ในขณะนั้นประเทศไทยรวมอยูในดินแดนที่เรี ยกว่า
์
่
สุ วรรณภูมิ ซึ่ งมีขอบเขตกว้างขวาง มีประเทศรวมกันอยูในดินแดนส่ วนนี้ท้ ง 7 ประเทศในปั จจุบน ได้แก่
ั ั
่ ั
ไทย พม่า ศรี ลงกา ญวน กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ซึ่ งสันนิษฐานว่ามีใจกลางอยูท่ีจงหวัดนครปฐมของไทย เนื่องจากได้
ั
พบโบราณวัตถุที่สาคัญ เช่นพระปฐมเจดีย ์ และรู ปธรรมจักรกวางหมอบเป็ นหลักฐานสาคัญ แต่พม่าก็สันนิษฐานว่า
มีในกลางอยูที่เมืองสะเทิม ภาคใต้ของพม่า พระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ สุวรรณภูมิในยุคนี้ นาโดยพระโสณะและพระ
่
อุตตระ พระเถระชาวอินเดีย เดินทางมาเผยแผ่พุทธศาสนาในแถบนี้ จนเจริ ญรุ่ งเรื องมาตามลาดับ และในปัจจุบน ั
ศาสนาพุทธก็เป็ นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยนั้นนับถือมากเป็ นอันดับหนึ่ง
การจัดสร้าง โครงงานพัฒนาสื่ อเพื่อการศึกษาที่เป็ นส่ วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์ จึงมีความสาคัญที่จะ
เป็ นสื่ อในการให้ความรู ้เรื่ องศาสนาพุทธ และจะได้รู้เรี ยนรู ้เกี่ยวกับประวัติของศาสนาพุทธ หลักธรรมสาคัญของ
พุทธศาสนา และพิธีกรรมในศาสนาพุทธ ซึ่งคนไทยเรานั้นเป็ นชาวพุทธ ในการดาเนินชีวตก็ตองเกี่ยวข้องกับ
ิ ้
- 3. 3
ศาสนาพุทธ เพราะเป็ นสิ่ งที่ยดเหนี่ยวจิตใจของคนเรา และก็มีพิธีกรรมต่างๆ ในศาสนาพุทธที่คนไทยได้รับการสื บ
ึ
ทอดมาช้านานให้เรี ยนรู ้สืบต่อไป ดังนั้นศาสนาพุทธจึงมีความสาคัญที่ตองเรี ยนรู้
้
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาการเรี ยนการสอนโดยใช้สื่อจากคอมพิวเตอร์
2. เพื่อช่วยให้การเรี ยนรู้ง่ายขึ้น สะดวกและรวดเร็ ว
3. เพื่อให้การเรี ยนรู ้ในเรื่ องศาสนาพุทธมีความชัดเจนและทันสมัยกับปั จจุบน
ั
4. เพื่อการใช้เทคโนโลยีในการศึกษาให้เป็ นประโยชน์
5. เพื่อให้คนในสมาชิกกลุ่มรู ้จกทางานเป็ นทีม
ั
ขอบเขตโครงงาน
การนาโปรแกรมซอฟแวร์ คอมพิวเตอร์ มาช่วยใช้เป็ นสื่ อของการเรี ยนการสอน ทาให้การศึกษามี
ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีและทันสมัย ซึ่ งจะมีความสะดวกในการค้นคว้าหาข้อมูลเรื่ องศาสนาพุทธมากยิงขึ้น
่
หลักการและทฤษฎี
ศาสนาพุทธ หรื อ พระพุทธศาสนา หรื อ พุทธศาสนา โดยความหมายแล้ว หมายถึงศาสนาแห่งความรู ้แจ้ง
เป็ นศาสนาที่มีพระรัตนตรัย เป็ นสรณะอันสู งสุ ด อันได้แก่ พระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์ โดยพระรัตนตรัย
ทั้ง 3 นี้ยอมมีคุณเกี่ยวพันเป็ นอันเดียวกัน จะแยกออกจากกันโดยเฉพาะไม่ได้ ด้วยพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู ้ธรรมก่อน
่
แล้วสอนให้พระสงฆ์รู้ธรรม พระธรรมนั้น พระสงฆ์ซ่ ึ งเป็ นสาวกของพระพุทธเจ้าย่อมจาทรงไว้ ปฏิบติและสั่ง ั
สอนสื บต่อพระศาสนา พระรัตนตรัยนี้เปรี ยบด้วยวัตถุวเิ ศษที่มีราคาอย่างสู ง คือ แก้ว จึงเรี ยกพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ ว่า รัตนะ คาว่า "รัตนะ" แปลว่าแก้ว,สิ่ งมีค่าสู งยิง,สิ่ งประเสริ ฐ ซึ่ งคาว่ารัตนะในที่น้ ีจะหมายถึง พระ
่
่
รัตนตรัย ซึ่ งก็คือแก้ว 3 ดวง ผูที่นบถือพระพุทธศาสนาก็คือนับถือแก้ว 3 ดวงนี้วามีคุณ ย่อมจะเป็ นที่พ่ ึงที่ระลึกแก่
้ ั
ตน
หลักธรรมคาสอนทางพุทธศาสนาได้ถูกบันทึกรวบรวมไว้ในคัมภีร์ชื่อ พระไตรปิ ฏก อันประกอบด้วย
"พระธรรม" คือความรู ้ในสัจธรรมต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงได้ตรัสรู ้ดวยพระองค์เอง แล้วนามาแสดงแก่ชาวโลก
้
กับ "พระวินย" คือข้อบังคับต่างๆ ที่ทรงบัญญัติไว้สาหรับผูที่บวชเป็ นสาวกในศาสนานี้ผถูกเรี ยกว่า พระภิกษุ
ั ้ ู้
สงฆ์ (ชาย) และ พระภิกษุณีสงฆ์ (หญิง)
พระพุทธเจ้าได้เริ่ มออกเผยแผ่คาสอนดังกล่าวในภูมิภาคที่เป็ นประเทศอินเดียในปั จจุบน ตั้งแต่เมื่อ 45 ปี
ั
ก่อนพุทธศักราช ปั จจุบนศาสนาพุทธได้เผยแผ่ไปทัวทั้งโลก โดยเฉพาะใน ทวีปเอเชีย ทั้งในเอเชียกลาง และเอเชีย
ั ่
ตะวันออก, ตลอดจนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันรวมถึงประเทศไทยด้วย
นอกเหนือจากพระรัตนตรัยแล้ว ผูนบถือโดยทัวไปที่ไม่ได้บวชเป็ นพระภิกษุสงฆ์ เราเรี ยกว่า พุทธศาสนิกชน พุทธ
้ ั ่
มามกะ พุทธสาวก หรื อ อุบาสก (ชาย) /อุบาสิ กา (หญิง) ภิกษุสงฆ์ ภิกษุณีสงฆ์ อุบาสก อุบาสิ กา รวมกันเรี ยกว่า
พุทธบริ ษท 4
ั
- 4. 4
หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ได้เสด็จไปโปรดพระปัญจวัคคีย ์ ณ ป่ าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมือง
พาราณสี พระองค์ได้ทรงแสดงปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตตนสู ตร แก่พระปั ญจวัคคีย ์ พระโกณฑัญญะบรรลุเป็ น
พระโสดาบัน และกราบทูลขอบวช นับเป็ นพระสงฆ์องค์แรกในโลก ในสมัยพุทธกาล พระองค์ได้เสด็จไปเผยแผ่
พุทธศาสนาตามที่ต่าง ๆ ในชมพูทวีปเป็ นเวลานานกว่า 45 พรรษา จนกระทังปริ นิพพาน
่
ภายหลังการปริ นิพพานของพระพุทธเจ้า ได้เกิดความขัดแย้งอันเกิดจากการตีความพระธรรมคาสอนและ
พระวินยไม่ตรงกัน จึงมีการแก้ไขโดยมีการจัดทาสังคายนาร้อยกรองพระธรรมวินยที่ถูกต้องไว้เป็ นหลักฐาน
ั ั
สาหรับยึดถือเป็ นแบบแผนต่อไป จึงนาไปสู่ การทาสังคายนาพระไตรปิ ฎก ในการทาสังคายนาพระไตรปิ ฎกครั้งที่ 2
นี้เองที่พระพุทธศาสนาแตกออกเป็ นหลายนิกายกว่า 20 นิกาย[21] และในการทาสังคายนาพระไตรปิ ฎกครั้งที่ 3 ใน
รัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ได้ทรงแต่งสมณทูต 9 สายออกไปเผยแผ่พุทธศาสนา จนกระทังพุทธศาสนา
่
แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง
ศาสนาพุทธมีความเจริ ญรุ่ งเรื องและความเสื่ อมถอยสลับกัน เนื่องจากการส่ งเสริ มของผูมีอานาจปกครองใน
้
แต่ละท้องถิ่น แต่ในภาพรวมแล้ว พุทธศาสนาในอินเดียเริ่ มอ่อนแอลงหลังพุทธศตวรรษที่ 15 เป็ นต้นมา โดย
ศาสนาฮินดูได้เข้ามาแทนที่ เช่นเดียวกับการเสื่ อมถอยของพุทธศาสนาในเอเชียกลาง จีน เกาหลี ในขณะที่ศาสนา
่ ่
พุทธได้เข้าไปตั้งมันอยูในญี่ปุ่น และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 25 ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็ นต้นมา ศาสนาพุทธเริ่ มเป็ นที่ดึงดูดใจของ
ชาวตะวันตกมากขึ้น และได้มีการตั้งองค์กรทางพุทธศาสนาระดับโลกโดยชาวพุทธจากเอเชีย ยุโรป และอเมริ กา
เหนือรวม 27 ประเทศที่ศรี ลงกาเมื่อ พ.ศ. 2493 ในชื่อ "องค์กรพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก"
ั
หลักธรรมสาคัญของพระพุทธศาสนา
ศาสนาพุทธสอนว่า ปรมัตถธรรมหรื อสรรพสิ่ งมี 4 อย่างคือ จิต เจตสิ ก รู ป นิพพาน จึงปฏิเสธการมีอยูของ ่
พระเจ้า (เพราะพระเจ้าจัดเข้าในปรมัตถธรรมไม่ได้) และเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎแห่งธรรมชาติ 5 ประการ
อันมี กฎแห่ งสภาวะ (อุตุนิยาม) มีธาตุท้ ง 5 คือ ดิน น้ า ลม ไฟ และอากาศ ที่เปลี่ยนสถานะเป็ นธาตุต่าง ๆ กลับไป
ั
กลับมา กฎแห่ งชีวต (พีชนิยาม) คือกฎสมตา (ปรับสมดุล) กฎวัฏฏตา (หมุนวนเวียน) และกฎชีวตา (มีปฏิสัมพันธ์
ิ ิ
ต่อกัน) ที่ทาให้เกิดชีวตินทรี ย ์ รวมทั้ง กฎแห่ งวิญญาน (จิตนิยาม) คือนามธาตุที่กลายเป็ น ธรรมธาตุ7 ที่เป็ นไป
ิ
ตาม กฎแห่ งเหตุผล (กรรมนิยาม) และ กฎไตรลักษณ์ (ธรรมนิยาม) กฎไตรลักษณ์เป็ นสิ่ งที่ทาให้มีการสร้าง ดารง
รักษาอยู่ และทาลายไปของทุกสรรพสิ่ ง เมื่อย่อกฎทั้ง 3 แล้ว จะเหลือเพียง ทุกข์ เท่ านั้นทีเ่ กิดขึน ทุกข์ เท่ านั้นทีดับไป
้ ่
วิธีดาเนินงาน
1. ประชุมวางแผน
2. ร่ างโครงร่ างโครงงาน
3. ค้นคว้าข้อมูล
4. วิเคราะห์ขอมูล ดาเนินการ
้
- 5. 5
แนวทางการดาเนินงาน
การนาโปรแกรมซอฟแวร์ คอมพิวเตอร์ มาประยุกต์ใช้งาน กับ การเรี ยนโดยการใช้สื่อทางเทคโนโลยี จะทา
ให้การค้นคว้าหาความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องศาสนาพุทธได้ง่ายขึ้นและมีความสะดวก รวดเร็ วในการเรี ยนรู ้ในเนื้อหานั้น
เครื่องมือและอุปกรณ์ ทใช้
ี่
- คอมพิวเตอร์
- โปรแกรมซอฟแวร์ ต่างๆ
- งบประมาณ 1,000 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผูรับผิดชอบ
้
บ 1 1 1 1 1 1 1
1 2 3 4 5 6 7 8 9 12
ที่ 0 1 3 4 5 6 7
1 คิดหัวข้อโครงงาน / อรญา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / อรญา
3 จัดทาโครงร่ างงาน / กัญญาภัค
4 ปฏิบติการสร้าง
ั / กัญจณ์ชญา
โครงงาน ,อรญา
5 ปรับปรุ งทดสอบ / กัญจณ์ชญา
,อรญา,
กัญญาภัค
6 การทาเอกสารรายงาน / อรญา,
กัญญาภัค
7 ประเมินผลงาน / กัญจณ์ชญา
,อรญา,
กัญญาภัค
8 นาเสนอโครงงาน / อรญา
- 6. 6
ผลทีคาดว่าจะได้ รับ
่
- การศึกษาโดยการใช้สื่อทางเทคโนโลยีจะมีความสะดวก และรวดเร็ วในการเรี ยนรู ้มากขึ้น
- สื่ อนี้จะสามารถให้ความรู ้ให้แก่คนที่คนคว้าหาเรื่ องศาสนาพุทธได้มากขึ้น
้
- สามารถนาสื่ อที่ทาขึ้นมานั้นใช้ได้ต่อไปในระยะเวลายาวนาน
สถานทีดาเนินการ
่
- ที่บาน
้
- โรงเรี ยน
- ห้องสมุด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทเี่ กียวข้ อง
่
- กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้สงคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ั
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่ งข้ อมูลต่ าง ๆ ทีนามาใช้ การทาโครงงาน)
่
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%
E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99
%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98