M
- 2. ระบบ (System)
ระบบ (System) คือ กลุ่ม (Set) ที่มีองค์ประกอบ
(Component) หลาย ๆ ส่วน โดยแต่ละองค์ประกอบจะ
ทำางานร่วมกันเพื่อจุดประสงค์ (Purpose) เดียวกัน
เช่น ระบบงานทางคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก
3 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) และ
บุคลากร (Peopleware) ทั้ง 3 ส่วนนี้จะทำางานเพื่อจุดประสงค์ใน
การประมวลผล เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ตามความต้องการ
- 3. ภาพรวมของระบบ
ระบบจะถูกกำาหนดด้วย ขอบเขต (Boundary) โดยส่วนที่
อยู่ภายในขอบเขตจะประกอบด้วย ระบบย่อย (Subsystem)
ซึ่งระบบย่อย ก็คือ องค์ประกอบของระบบ
ระบบที่ดีควรมี ระบบย่อย ที่สมบูรณ์ในตัว การสื่อสารภายใน
ระบบย่อยจะส่งข้อมูลระหว่างกัน มีการโต้ตอบ (Feedback)
หรือ การตรวจสอบ (Monitoring) เพื่อให้ระบบสามารถ
ดำาเนินการไปสู่เป้าหมาย (Goal) ที่ต้องการ โดยสิ่ง
แวดล้อม (Environment) คือ สิ่งที่มีผลกระทบต่อระบบ
- 4. ผลกระทบจากสิงแวดล้อม
่
ผลกระทบภายใน (Internal Environment) คือ ผลกระทบ
ที่เกิดจากภายในองค์การที่ส่งผลกระทบต่อองค์การ เช่น
ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพนักงาน
ปัญหาการบังคับบัญชาในองค์การ
ปัญหาการขาดแคลนพนักงานในตำาแหน่งหน้าที่
ปัญหาการขาดงาน
- 5. ผลกระทบภายนอกระบบ (External Environment) คือ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภายนอกองค์การที่สามารถเกิดขึ้น
ได้เตลอดเวลา โดยที่องค์การไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือ
ควบคุมได้ เช่น
คู่แข่งทางการค้า
นโยบาย กฏระเบียบ ของ รัฐ
ภัยธรรมชาติ
ความต้องการของลูกค้า
เทคโนโลยี
- 6. ระบบธุรกิจ
ระบบธุรกิจ (Business System) คือ ระบบที่ประกอบด้วย
ระบบย่อยพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ระบบการผลิต ระบบการตลาด
ระบบบัญชี ระบบสินค้าคงคลัง และระบบบริหารงานบุคคล
แต่ละระบบย่อยล้วนแต่มีความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น เช่น เมื่อมี
การขายสินค้า ฝ่ายบัญชี ก็จะทำาการบันทึกบัญชีรายได้จาก
การขายสินค้า เอกสารการขายก็ต้องนำาไปตัดยอดสินค้า
คงคลัง
- 7. กรรมวิธีในการดำาเนินงานเพื่อให้ภาพรวมของระบบธุรกิจ
สามารถดำาเนินการได้ด้วยดี ต้องขึ้นกับ ระบบย่อย ต่าง ๆ ที่
ดี ดังนั้นเมื่อมีการศึกษาระบบงานใด ๆ ควรมีการพิจารณา
จาก
What? How?
When? Who?
- 8. What คือ การหาวัตถุประสงค์ของระบบว่าคืออะไร มีแผน
งาน ขั้นตอนอย่างไร
How คือ การหาวิธีการทำางาน ต้องใช้เครื่องมือใด เพื่อให้
งานสำาเร็จได้อย่างรวดเร็วย
When คือ การหาช่วงเวลาในการเริมทำางาน การจัดตาราง
่
การทำางานอย่างมีระบบ
Who คือ บุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
- 9. ลักษณะของระบบ
ระบบปิด (Close System) คือ ระบบที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่ง
แวดล้อม มีจุดมุ่งหมายในการทำางานภายในตัวเอง โดยไม่
เกี่ยวข้องหรือรับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมใด ๆ
ระบบเปิด (Open System) คือ ระบบที่มีปฏิสัมพันธ์กบสิ่ง
ั
แวดล้อม มีการแลกเปลี่ยนซึงกันและกันกับสภาพแวดล้อม
่
ที่เป็นอยู่ ด้วยการแลกเปลี่ยนหรือรับ-ส่งข้อมูลเข้ามาใน
ระบบ
- 10. ข้อมูลและสารสนเทศ
ข้อมูล (Data) คือ ข้อมูลดิบ (Raw Data) ที่มีความหมาย
ในตัวมันเอง โดยที่ยังไม่กอให้เกิดประโยชน์
่
สารสนเทศ (Information) คือ การนำาข้อมูลมาผ่านการ
ประมวลผลใด ๆ เพื่อให้เกิดสารสนเทศและเป็นประโยชน์
ต่อผู้ใช้
- 11. การวิเคราะห์ระบบ
เมื่อระบบการทำางานที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถบรรลุ
วัตถุประสงค์ หรือเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจเป็น
ผลมาจากสภาพสิ่งแวดล้อมที่เกียวข้องกับระบบงานที่
่
เปลี่ยนแปลงไป จึงต้องมี การวิเคราะห์ระบบ (System
Analysis) ที่เป็นอยู่ว่ามีข้อดี-ข้อเสียประการใด เพื่อจะได้
ทำาการปรับปรุงแก้ไขให้ระบบทำางานได้ดีขึ้น
การวิเคราะห์ระบบงาน เป็นการศึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นใน
ระบบงานปัจจุบัน (Current System) เพื่อการออกแบบ
ระบบการทำางานใหม่ (New System) นอกจากออกแบบ
สร้างระบบงานใหม่แล้ว เป้าหมายในการวิเคราะห์ระบบยัง
เป็นการปรับปรุง แก้ไขระบบงานเดิมให้ดีขึ้น
- 12. นักวิเคราะห์ระบบ
นักวิเคราะห์ระบบ (System Analysis: SA) เป็นผู้ที่ประสาน
การติดต่อกับบุคคลต่าง ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล ความต้องการ
(Requirement) เพื่อสร้างระบบงานใหม่ โดยงานหลักคือ
การวางแผน (Planning)
การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirement Analysis)
การเขียนข้อกำาหนดและรายละเอียด (Specification)
กำาหนดความต้องการฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ของระบบ
กำาหนดเทคโนโลยีที่นำามาใช้งาน
- 13. วงจรการพัฒนาระบบ
วงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle:
SDLC) เป็นวงจรที่แสดงถึงกิจกรรมต่าง ๆ แต่ละขั้นตอน
ตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งสำาเร็จ ในการพัฒนาระบบมีอยู่ 7 ขั้น
ตอน คือ
กำาหนดปัญหา (Problem Definition)
วิเคราะห์ (Analysis)
ออกแบบ (Design)
พัฒนา (Development)
ทดสอบ (Test)
ติดตั้ง (Implementation)
บำารุงรักษา (Maintenance)
- 14. การกำาหนดปัญหา
การกำาหนดปัญหา เป็นขั้นตอนของการกำาหนดขอบเขตของ
ปัญหา สาเหตุของปัญหาจากการดำาเนินงานในปัจจุบัน
ความเป็นไปได้ในการสร้างระบบงานใหม่ การกำาหนดความ
ต้องการ (Requirement) ระหว่างนักวิเคราะห์ระบบกับผู้ใช้
งาน โดยข้อมูลเหล่านี้ได้จากการสัมภาษณ์ การรวบรวม
ข้อมูลจากการดำาเนินงาน เพื่อทำาการสรุปเป็นข้อกำาหนด
(Requirement Specification) ที่ชัดเจน
- 15. วิเคราะห์
การวิเคราะห์ เป็นขั้นตอนของการวิเคราะห์การดำาเนินงาน
ของระบบปัจจุบัน โดยการนำา Requirement Specification
ที่ได้มาจากการกำาหนดปัญหา เพื่อทำาการพัฒนาเป็นแบบ
จำาลอง (Logical Model) ซึ่งประกอบด้วย แผนภาพกระแส
ข้อมูล (Data Flow Diagram) คำาอธิบายการประมวลผล
ข้อมูล (Process Description) และแบบจำาลองข้อมูล
(Data Model) ในรูปแบบของ ER-Diagram (Entity
Relationship) ทำาให้ทราบถึงรายละเอียดขั้นตอนการ
ดำาเนินงานในระบบ มีความเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับ
สิ่งใด
- 16. การออกแบบ
การออกแบบ เป็นขั้นตอนของการนำาผลลัพธ์ที่ได้จากการ
วิเคราะห์ มาพัฒนาเป็น Physical Model ให้สอดคล้องกัน
โดยการออกแบบเริ่มจาก ส่วนของอุปกรณ์และเทคโนโลยี
ต่าง ๆ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่นำามาพัฒนา การ
ออกแบบจำาลองข้อมูล (Data Model) การออกแบบรายงาน
(Output Design) และการออกแบบจอภาพในการติดต่อกับ
ผู้ใช้งาน (User Interface: UI) การจัดทำาพจนานุกรม
ข้อมูล (Data Dictionary)
- 17. พัฒนา
การพัฒนา เป็นขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม ด้วยการสร้าง
ชุดคำาสั่งหรือเขียนโปรแกรมเพื่อการสร้างระบบงาน โดย
โปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะ
สมกับเทคโนโลยีที่ใช้งานอยู่
- 18. ทดสอบ
การทดสอบระบบ เป็นขั้นตอนของการทดสอบระบบก่อนที่
จะนำาไปใช้งานจริง ทีมงานจะทำาการทดสอบข้อมูลเบื้องต้น
ก่อน ด้วยการสร้างข้อมูลจำาลองเพื่อตรวจสอบการทำางาน
ของระบบ
- 19. ติดตัง
้
การติดตั้ง เป็นขั้นตอนต่อมาหลังจากที่ทำาการทดสอบ จน
มั่นใจแล้วว่าระบบสามารถทำางานได้จริง และตรงกับความ
ต้องการของผู้ใช้ระบบ จากนั้นจึงดำาเนินการติดตั้งระบบเพื่อ
ใช้งานจริงต่อไป
- 20. บำารุงรักษา
การบำารุงรักษา เป็นขั้นตอนของการปรับปรุงแก้ไขระบบ
หลังจากที่ได้มีการติดตั้งและใช้งานแล้ว ในขั้นตอนนี้อาจจะ
เกิดจากปัญหาของโปรแกรม (Bug) ซึ่งโปรแกรมเมอร์จะ
ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจเกิดจากความต้องการของผู้
ใช้เพิ่มเติม