SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 16
Baixar para ler offline
03/10/54




                                              ลิพด (Lipid)
                                                 ิ
                                  JIRAT SUKJAILUA
                                    Science Department
                             Maechai Wittayakom school




                                                ไขมันและนำมัน
                                                         ้


ไขมันและนำมันเป็ นสำรประกอบ
               ้
เอสเทอร์ ทเี่ กิดจำกกรดไขมันกับ
แอลกอฮอล์บำงชนิด ที่ 25C
 ของแข็ง เรียกว่ำ ไขมัน
 ของเหลว เรียกว่ำ นำมัน้




                                                                      1
03/10/54




                                                        ไขมันและนำมัน
                                                                 ้
 1. ไขมัน และนำมัน
              ้
        ไขมัน และนำมัน มีหน้ ำทีดงนี้
                  ้             ่ ั
    - ป้ องกันกำรสู ญเสียนำ ทำให้ ผวหนังชุ่มชื้น
                           ้        ิ
    - ป้ องกันการสู ญเสียความร้ อน ช่ วยให้ ร่างกายอบอุ่น
    - ป้ องกันการกระแทก
    - ช่ วยให้ ผมและเล็บมีสุขภาพดี
     - ช่ วยละลายวิตามิน A D E K
     - ร่ างกายสามารถนาไขมันทีสะสมใต้ ผวหนัง มาย่ อยสลายเพือ
                                  ่          ิ                 ่
     เปลียนเป็ นพลังงาน ( 1 กรัม ให้ พลังงาน 9 กิโลแคลอรี ) ในกรณีที่
           ่
     ร่ างกายได้ รับสารอาหารไม่ เพียงพอ




                                                        ไขมันและนำมัน
                                                                 ้
  1. ไขมัน และนำมัน
               ้                                         เป็ นสำรที่มีควำมสำคัญ
                                                         ต่ อเซลล์ประสำท อำจ
1. ไขมัน และนำมัน
             ้                                           เรียกว่ำ ฟอสโฟกลีเซอ
                                                         ไรด์ หรือ ฟอสฟำติด พบ
2. ไข                                                    ในเซลล์ทุกเซลล์
                                                         โดยเฉพำะเยือหุ้มเซลล์
                                                                       ่
3. ฟอสโฟกลีเซอไรด์

 4. สฟิ นโกไลปิ ด                                          Sphingolipids are often
                                                           found in neural tissue,
 5. สเตอรอยด์
                                           เป็ นส่ วนประกอบของฮอร์ โมนร่ ำงกำย




                                                                                           2
03/10/54




                                                             ไขมันและนำมัน
                                                                      ้
  1.1 องค์ ประกอบ และโครงสร้ ำงของไขมันและกรดไขมัน
ไขมัน เป็ นสารประกอบที่เรี ยกว่า ไตรกลีเซอไรด์ (triglycerides) เกิดจาก
การรวมตัวทางเคมีของกรดไขมัน (fatty acids) 3 โมเลกุล กับ กลีเซอรอล
(glycerol) 1 โมเลกุล
                                   O                        O


     CH2 – O – H          H – O - C - C17H35    CH2 – O – C – C17H35

                                   O                        O


     CH – O – H       +   H – O - C - C17H35    CH – O – C – C17H35     +   3H2O

                                   O                        O


     CH2 – O – H          H – O - C - C17H35    CH2 – O – C – C17H35

         (glycerol)            (fatty acids)        (triglycerides)




                                                                       กรดไขมัน

       โครงสร้ ำงของกรดไขมัน ประกอบด้ วย
     • ส่ วนทีมธำตุคำร์ บอนต่ อกันด้ วยพันธะเดียว หรือพันธะคู่เป็ นสำยยำว
                ่ ี                              ่
     • ส่ วนทีเ่ ป็ นหมู่คำร์ บอกซิล ( - COOH ) เป็ นสมบัตเิ ป็ นกรด




                                               (Triglyceride)




                                                                                         3
03/10/54




                                                               กรดไขมัน




                                                               กรดไขมัน

    กรดไขมันในธรรมชำติมี 40 ชนิดแบ่ งออกเป็ น 2 ประเภท
       กรดไขมัน                         อิมตัว
                                          ่                            ไม่ อมตัว
                                                                             ิ่
ชื่อ                   ลงท้ ำยด้วย - อิก -ริก -ติก           ลงท้ ำยด้วย –เลอิก
สู ตร                  CnH2n+1COOH (H มำกกว่ำ)               มีได้ หลำยสู ตร (H น้ อยกว่ำ)
จุดหลอมเหลว            สู งกว่ำ 25 oC                        ต่ำกว่ำ 25 oC
สถำนะ                  ของแข็ง (ไขมันสัตว์ /นำมันมะพร้ ำว)
                                               ้             ของเหลว (นำมันพืช)
                                                                           ้
พันธะระหว่ำงคำร์ บอน   เดียว
                           ่                                 คู่
ควำมว่องไวในกำร        น้ อย                                 มำก
      เกิดปฏิกริยำ
              ิ
ชนิดที่พบมำกที่สุด     กรดสเตียริก                           กรดโอเลอิก




                                                                                                   4
03/10/54




                                                   กรดไขมัน

กรดไขมัน          สู ตรโครงสร้ ำง                   m.p.(C)
Myristic*         CH3(CH2)12COOH                      53.9
Palmitic*         CH3(CH2)14COOH                      63.1
Stearic*          CH3(CH2)16COOH                      69.6
Palmitoleic**     CH3(CH2)5CH=CH(CH2)7COOH            -0.5
Oleic**           CH3(CH2)7CH=CH(CH2)7COOH            13.4
Linoleic**        CH3(CH2)4(CH=CHCH2)2(CH2)6COOH      -11
*กรดไขมันอิมตัว **กรดไขมันไม่ อมตัว
           ่                   ิ่




                                                   กรดไขมัน




                                                                     5
03/10/54




                                                                                                    กรดไขมัน

สมบัตของกรดไขมัน
     ิ
[ -_ -] โมเลกุลของกรดไขมันในธรรมชาติส่วนใหญ่จะมีจานวนอะตอม
ของคาร์ บอนเป็ นเลขคู่ท้ งชนิดอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว
                         ั
[ -_ -] จุดหลอมเหลวของกรดไขมันจะสู งขึ้นเมื่อมวลโมเลกุลเพิ่มขึ้น
กรดไขมันอิ่มตัวจะมีจุดหลอมเหลวสู งกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวเมื่อ
โมเลกุลมีจานวนอะตอมของคาร์ บอนเท่ากัน
[ -_ -] จุดหลอมเหลวของกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีจานวนอะตอมของ
คาร์ บอนเท่ากันจะลดลงเมื่อจานวนพันธะคู่เพิ่มขึ้น




                                                                                                    กรดไขมัน

                                       กราฟแสดงร้อยละของกรดไขม ันอิมต ัวและไม่
                                                                      ่
     ร้อยละของปริมาณกรดไขม ันอิมต ัว




                                         อิมต ัวของกรดไขม ันและนาม ันบางชนิด
                                           ่                    ้
                               ่




                                       100
                                        90
              และไม่อมต ัว




                                        80
                                        70
                     ิ่




                                        60                                                           ไม่อ ม ตัว
                                                                                                          ิ่
                                        50
                                        40                                                           อิม ตัว
                                                                                                       ่
                                        30
                                        20
                                        10
                                         0
                                            ย




                                                                                             อง
                                                   มู

                                                           ัว

                                                                  ว




                                                                                               ัน
                                                                                   ันถ ิ ง
                                                                          ด
                                                        ันว

                                                                  รำ




                                                                                             ส
                                                ันห
                                         เน




                                                                        โพ




                                                                                            ะว
                                                                   ้




                                                                                             ื
                                                                                          หล
                                                                                วล
                                                                ะพ




                                                                                         นต
                                                       ม




                                                                        ำว
                                                ม

                                                    ไข




                                                                             ันถ
                                                                                ั่

                                                                                      วเ
                                             ไข




                                                           ันม


                                                                        ้
                                                                   ันข




                                                                                     ทำ
                                                                                      ั่
                                                                             ม
                                                            ม




                                                                                  อก
                                                                         น้ำ
                                                                    ม




                                                                                     ม
                                                        น้ำ

                                                                น้ำ




                                                                                 น้ำ

                                                                                        มันด
                                                                                    น้ำ




                                                                                                                        6
03/10/54




                                                                                              กรดไขมัน

      ตำรำงแสดงปริมำณของกรดไขมันที่มีอยู่ในไขมันและนำมันบำงชนิด
                                                    ้

     ชนิดของ                                          % ของกรดไขมันชนิดต่ ำง              ๆ
         นำมัน
           ้
     หรือไขมัน              กรดไมริ             กรดปำล์            กรดสเตีย            กรดโอเล    กรดไลโนเล
                               สติก                มิตก
                                                      ิ                ริก                 อิก         อิก
  ไขมันสั ตว์
                           8 - 15                25 - 29            9 - 12              18 - 33     2-4
    เนย                    0.1 - 1               25 - 30           12 - 18              48 - 60     6 - 12
    นำมันหมู
           ้                2- 5                 24 - 34           15 - 30              35 - 45     1-3
    ไขมันวัว                0-1                   5 - 15            1 - 4 ิ่            67 - 84      8 - 12
  นำมัข้นสังเกตชนิดของไขมันที1่เป็-นของเหลว จะมีเปอร์- เ11 ของกรดไขมั3 ไม่4อมตัวสู ง
   ้ อ พืช                          2             7
                                                        ซนต์         น
                                                                       -                25 - 35     50 - 60
   นำมันมะกอก
     ้                      1-2                   6 - 10            2-4                 20 - 30     50 - 58
   นำมัน
       ้
             ข้ ำวโพด
   นำมันถัว
         ้        ่
             เหลือง
                                                                      กำรเหม็นหืนของไขมันและนำมัน
                                                                                             ้

• ถ้ ำเป็ นกรดไขมันชนิดไม่ อมตัว จะทำปฏิกริยำกับออกซิเจนในอำกำศ ( ปฏิกริยำออกซิเดชัน ) เกิดสำร
                            ิ่           ิ                            ิ
ใหม่ ที่มีกลินเหม็นหืน
             ่
แสดงว่ำ นำมันจำกพืชจะเหม็นหืนได้ง่ำยกว่ำนำมันจำกสัตว์ แต่ นำมันพืชมีวตำมิน E ซึ่งเป็ นสำรยับยั้ง
         ้                                    ้               ้           ิ
กำรเกิดปฏิกริยำนี้ แต่ มีไม่ มำกพอ ดังนั้นในกำรผลิตนำมันพืช จึงต้ องเติมวิตำมิน E เพิมเข้ ำไป
           ิ                                        ้                                ่




                                           (โมเลกุลเล็กระเหยง่ายมีกลิ่นเหม็น)



                                                                                                                    7
03/10/54




                                                    กำรป้ องกันกำรเหม็นหืน

 เก็บไว้ ในภำชนะที่สะอำดและแห้ ง ในที่มีอุณหภูมิต่ำ
  และไม่ ถูกแสงสว่ ำง
 เติมสำรกันหืน เช่ นวิตำมินเอ วิตำมินซี วิตำมินอี
     BHA
     (Butyl hydroxyanisole)


     BHT
     (Butylatedhydroxytoluene)




                                                            (hydrogenation)
 ปฏิกริยำไฮโดรจิเนชัน (hydrogenation) คือกำรเติมไฮโดรเจนลงไปในกรดไขมันไม่ อมตัว ที่
     ิ                                                                               ิ่
 ควำมดันสู งและมีตัวเร่ งปฏิกริยำ เช่ น แพลทินัม (Pt) ทำให้ ได้เป็ นกรดไขมันอิมตัว นำไปใช้ ใน
                             ิ                                                ่
 อุตสำหกรรม ดังนี้




          กรดไขมันไม่ อิ่มตัว                                          กรดไขมันอิ่มตัว




                                                                                                      8
03/10/54




                                                             (hydrogenation)
• นำมันพืช (ของเหลว) + H2
   ้                            ------> กรดไขมันอิมตัว (ของแข็ง) คือ เนยเทียม (มำกำรีน)
                                                  ่

• นำมันปำล์ม + สำรปรุ งแต่ ง +ระเหยนำออก ------> ครีมเทียม (ผง)
   ้                                ้

• นำมันที่เก็บไว้ นำนๆ หรือได้ รับควำมร้ อนสู ง จะสลำยตัวให้ กรดไขมัน และกลีเซอรอล
   ้


- กรดไขมันทีจำเป็ น ( essential fatty acids) คือกรดไขมันทีมพนธะคู่ระหว่ ำงอะตอม
                ่                                             ่ ี ั
คำร์ บอนตั้งแต่ 2 ตำแหน่ งขึนไป ซึ่งร่ ำงกำยสังเครำะห์ ไม่ ได้ เช่ น กรดไลโนเลอิก และ
                            ้
กรดไลโนเลนิก (พบมำกในเมล็ดดอกคำฝอย > ดอกทำนตะวัน > ข้ ำวโพด)
ทำรกทีขำดกรดไขมันทีจำเป็ น จะทำให้ เกิดโรคผิวหนังอักเสบ ลอกหลุด ซึ่งเป็ นสำเหตุ
         ่              ่
ทำให้ ตดเชื้อง่ ำย และแผลหำยช้ ำ)
       ิ




                                                                     Saponification

   Saponification



                                                                                โซเดียมคำร์ บอกซิเลต




                                                                                                             9
03/10/54




                              Saponification

โครงสร้ ำงของสบู่




                                   (–)
                                         Na+




                              Saponification

กำรละลำยในนำและนำมันของสบู่
           ้    ้




                                                    10
03/10/54




                                                 Saponification

สบู่กบนำกระด้ ำง
     ั ้


                                         แคลเซียมสเตียเรต
                                         (ไคลสบู่)




                                                   สำรซักฟอก

สำรซักฟอก คือเกลือโซเดียมซัลโฟเนต
ของสารไฮโดรคาร์บอนที่มีสมมบัติใน
การทาความสะอาดได้และชลอความ
กระด้างของน้ า


ส่วนที่ไม่มีข้ ว
               ั
                         ส่วนที่มีข้ ว
                                     ั




                                                                       11
03/10/54




                                      โครงสร้ ำงของสำรซักฟอก

                                           - โซ่ ตรง ถูกย่ อยได้ ง่ำย ไม่ เป็ นมลพิษ


                                                     - โซ่ กงบ้ ำง ถูกย่ อยได้ บ้ำง
                                                            ิ่



                                                         - โซ่ กงมำก ถูกย่ อยได้ ยำก
                                                                ิ่


โซเดียมไตรพอลิฟอสเฟต คือสำรทีตกค้ ำงทำให้ สำหร่ ำยเจริญเติบโตได้ ง่ำย
                             ่




                                       Phospolipid




                                              องค์ ประกอบของฟอสโฟลิปิด

                                     - พบในเซลล์พืชและเซลล์สตว์
                                                             ั
                                     - เป็ นองค์ประกอบหลักของเยื้อหุมเซลล์
                                                                    ้




                                                                                            12
03/10/54




                                        Phospolipid




                        - ละลายคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และไขมันในเส้นเลือด
                        - พบในเนื้อ ไข่ และร่ างกายสร้างขึ้นเองได้




                                                              Wax
ไข เกิดจำก กรดไขมัน 14 – 360 โมเลกุลทำปฏิกริยำกับ
                                          ิ
แอลกอฮอล์




                     เป็ นของแข็ง แต่ จุดหลอมเหลวต่ำ




                                                                                    13
03/10/54




                                                       Steroid
สเตรอยด์ ประกอบด้ วย ไซโคลเฮกเซน 4 วง และ ไซโคลเพนเทน 1 วง

                        สเตรอยด์ ไม่ ละลำยนำ แต่ ละลำยในตัวทำละลำยอินทรีย์
                                           ้
                        ซึ่งแบ่ งออกเป็ น

                              1. คอเลสเทอรอส
                              2. ฮอร์ โมนอะครีโนคอสติคอยด์
                              3. ฮอร์ โมนเพศ
                              4. กรดนำดี้




                                                       Steroid

  1. คอเลสเทอรอส

                                       -เป็ นสำรตั้งต้ นในกำรสร้ ำงออร์ โมน
                                       -สร้ ำงวิตำมิน ดี
                                       -สร้ ำงกรดนำดี
                                                    ้




                                                                                   14
03/10/54




                                                          Steroid
1. คอเลสเทอรอส
สำรประกอบลิโปโปรตีน (Lipoprotein) มี 2 ชนิด LDL (Low density lipoprotein)
,HDL (High density lipoprotein)
 LDL-C เป็ นไขมันที่ทำให้ เกิดกำร   HDL-C ช่ วยนำเอำไขมันที่สะสมอยู่ตำมผนัง
 สะสมของไขมันในผนังของหลอดเลือด     หลอดเลือดออกมำ แต่ ทำงำนช้ ำกว่ำ LDL-C
 แดงทั้งร่ ำงกำย




                                                          Steroid
 2. ฮอร์ โมนอะครีโนคอสติคอยด์


                                            -ทำหน้ ำทีควบคุมกระบวนกำรรักษำ
                                                      ่
                                            สมดุลของนำและอิเล็กโทรไลต์
                                                        ้
                                            -ควบคุมกระบวนกำรเผำผลำญโปรตีน
                                            และคำร์ โบไฮเดรต เช่ น คอร์ ตซอล ชลอ
                                                                         ิ
                                            กำรสร้ ำงโปรตีน




                                                                                        15
03/10/54




                                                      Steroid
3. ฮอร์ โมนเพศ
 Testosterone
                        -ควบคุมกำรเจริญเติบโตของอวัยวะ
                        สืบพันธุ์ และโครงสร้ ำงของกล้ ำมเนือ
                                                           ้
                        และลักษณะเสียงของเพศชำย



       -ควบคุมเยือบุผนังมดลูก และ ควบคุม
                  ้
       กำรเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธุ์
       และลักษณะเสียงของเพศหญิง




                                                      Steroid
3. กรดนำดี
       ้



                                    -ช่ วยย่ อยไขมันในลำไส้ เล็ก
                                    -ละลำยคอเลสเทอรอสทีอยู่ในอำหำร
                                                             ่




                                                                          16

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3
สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3
สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3sailom
 
สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2Thanyamon Chat.
 
Biomolecule - สารชีวโมเลกุล
Biomolecule - สารชีวโมเลกุลBiomolecule - สารชีวโมเลกุล
Biomolecule - สารชีวโมเลกุลJusmistic Jusmistic
 
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุลบทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุลJariya Jaiyot
 
Protein
ProteinProtein
Proteinsailom
 
สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )
สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )
สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )PamPaul
 
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)kruaoijaipcccr
 
บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)
บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)
บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)BELL N JOYE
 
สารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุลสารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุลkruaoijaipcccr
 
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
เคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุล
เคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุลเคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุล
เคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุลWichai Likitponrak
 
ใบงานที่18คาร์โบไฮเดรค
ใบงานที่18คาร์โบไฮเดรคใบงานที่18คาร์โบไฮเดรค
ใบงานที่18คาร์โบไฮเดรคTANIKAN KUNTAWONG
 

Mais procurados (20)

สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3
สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3
สารชีวโมเลกุล ตอนที่ 3
 
ชีวเคมี
ชีวเคมีชีวเคมี
ชีวเคมี
 
Biochem
BiochemBiochem
Biochem
 
Protein
ProteinProtein
Protein
 
385
385385
385
 
สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2
 
Protein
ProteinProtein
Protein
 
Biomolecule - สารชีวโมเลกุล
Biomolecule - สารชีวโมเลกุลBiomolecule - สารชีวโมเลกุล
Biomolecule - สารชีวโมเลกุล
 
Brands chemistry
Brands chemistryBrands chemistry
Brands chemistry
 
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุลบทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
 
Equilibrium mahidol
Equilibrium mahidolEquilibrium mahidol
Equilibrium mahidol
 
Protein
ProteinProtein
Protein
 
Protein
ProteinProtein
Protein
 
สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )
สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )
สารชีวโมเลกุล ( Biomolecular )
 
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
 
บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)
บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)
บทที่ 5 สรชีวโมเลกุล (เอกสารประกอบการสอน)
 
สารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุลสารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุล
 
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
 
เคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุล
เคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุลเคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุล
เคมีพื้นบท3สารชีวโมเลกุล
 
ใบงานที่18คาร์โบไฮเดรค
ใบงานที่18คาร์โบไฮเดรคใบงานที่18คาร์โบไฮเดรค
ใบงานที่18คาร์โบไฮเดรค
 

Destaque

บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์Gawewat Dechaapinun
 
Chapter 1.3 properties of glass crystalline mixtures
Chapter 1.3 properties of glass crystalline mixturesChapter 1.3 properties of glass crystalline mixtures
Chapter 1.3 properties of glass crystalline mixturesGawewat Dechaapinun
 
บทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูป
บทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูปบทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูป
บทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูปGawewat Dechaapinun
 
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰Gawewat Dechaapinun
 
Chapter 2.1 glaze classifications
Chapter 2.1 glaze classificationsChapter 2.1 glaze classifications
Chapter 2.1 glaze classificationsGawewat Dechaapinun
 
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰Gawewat Dechaapinun
 

Destaque (12)

งานนำเสนอ5
งานนำเสนอ5งานนำเสนอ5
งานนำเสนอ5
 
บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์
 
ˆ 8
ˆ 8ˆ 8
ˆ 8
 
Chapter 1.3 properties of glass crystalline mixtures
Chapter 1.3 properties of glass crystalline mixturesChapter 1.3 properties of glass crystalline mixtures
Chapter 1.3 properties of glass crystalline mixtures
 
บทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูป
บทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูปบทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูป
บทที่ 5 การเตรียมผลผลิตก่อนการแปรรูป
 
งานนำเสนอ8
งานนำเสนอ8งานนำเสนอ8
งานนำเสนอ8
 
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
 
Chapter 2.1 glaze classifications
Chapter 2.1 glaze classificationsChapter 2.1 glaze classifications
Chapter 2.1 glaze classifications
 
4
44
4
 
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธตเธœเธฑเธเนเธฅเธฐเธœเธฅเน„เธกเน‰
 
Chapter 3 glaze manufacturing
Chapter 3 glaze manufacturingChapter 3 glaze manufacturing
Chapter 3 glaze manufacturing
 
Chapter 5 glazes defects
Chapter 5 glazes defectsChapter 5 glazes defects
Chapter 5 glazes defects
 

Mais de jirat266

สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมีjirat266
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีjirat266
 
แบบทดสอบ
แบบทดสอบแบบทดสอบ
แบบทดสอบjirat266
 
Electrochemistry01
Electrochemistry01Electrochemistry01
Electrochemistry01jirat266
 
กรดเบส011
กรดเบส011กรดเบส011
กรดเบส011jirat266
 
Electrochemistry01
Electrochemistry01Electrochemistry01
Electrochemistry01jirat266
 
Carbohydrate
CarbohydrateCarbohydrate
Carbohydratejirat266
 
ปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมjirat266
 
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์jirat266
 
แอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตน
แอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตนแอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตน
แอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตนjirat266
 
แอลเคน แอลคีน แอลไคน์
แอลเคน แอลคีน แอลไคน์แอลเคน แอลคีน แอลไคน์
แอลเคน แอลคีน แอลไคน์jirat266
 
คำอธิบายรายวิชา ว 40225
คำอธิบายรายวิชา ว 40225คำอธิบายรายวิชา ว 40225
คำอธิบายรายวิชา ว 40225jirat266
 
คำอธิบายรายวิชา ว 40224
คำอธิบายรายวิชา ว 40224คำอธิบายรายวิชา ว 40224
คำอธิบายรายวิชา ว 40224jirat266
 
คำอธิบายรายวิชา ว 40223
คำอธิบายรายวิชา ว 40223คำอธิบายรายวิชา ว 40223
คำอธิบายรายวิชา ว 40223jirat266
 

Mais de jirat266 (16)

สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
แบบทดสอบ
แบบทดสอบแบบทดสอบ
แบบทดสอบ
 
Electrochemistry01
Electrochemistry01Electrochemistry01
Electrochemistry01
 
กรดเบส011
กรดเบส011กรดเบส011
กรดเบส011
 
Electrochemistry01
Electrochemistry01Electrochemistry01
Electrochemistry01
 
Dna
DnaDna
Dna
 
Carbohydrate
CarbohydrateCarbohydrate
Carbohydrate
 
Protein
ProteinProtein
Protein
 
ปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมปิโตรเลียม
ปิโตรเลียม
 
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
 
แอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตน
แอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตนแอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตน
แอลกอฮอล์ ฟีนอล แอลดีไฮด์ คีโตน
 
แอลเคน แอลคีน แอลไคน์
แอลเคน แอลคีน แอลไคน์แอลเคน แอลคีน แอลไคน์
แอลเคน แอลคีน แอลไคน์
 
คำอธิบายรายวิชา ว 40225
คำอธิบายรายวิชา ว 40225คำอธิบายรายวิชา ว 40225
คำอธิบายรายวิชา ว 40225
 
คำอธิบายรายวิชา ว 40224
คำอธิบายรายวิชา ว 40224คำอธิบายรายวิชา ว 40224
คำอธิบายรายวิชา ว 40224
 
คำอธิบายรายวิชา ว 40223
คำอธิบายรายวิชา ว 40223คำอธิบายรายวิชา ว 40223
คำอธิบายรายวิชา ว 40223
 

lipid

  • 1. 03/10/54 ลิพด (Lipid) ิ JIRAT SUKJAILUA Science Department Maechai Wittayakom school ไขมันและนำมัน ้ ไขมันและนำมันเป็ นสำรประกอบ ้ เอสเทอร์ ทเี่ กิดจำกกรดไขมันกับ แอลกอฮอล์บำงชนิด ที่ 25C  ของแข็ง เรียกว่ำ ไขมัน  ของเหลว เรียกว่ำ นำมัน้ 1
  • 2. 03/10/54 ไขมันและนำมัน ้ 1. ไขมัน และนำมัน ้ ไขมัน และนำมัน มีหน้ ำทีดงนี้ ้ ่ ั - ป้ องกันกำรสู ญเสียนำ ทำให้ ผวหนังชุ่มชื้น ้ ิ - ป้ องกันการสู ญเสียความร้ อน ช่ วยให้ ร่างกายอบอุ่น - ป้ องกันการกระแทก - ช่ วยให้ ผมและเล็บมีสุขภาพดี - ช่ วยละลายวิตามิน A D E K - ร่ างกายสามารถนาไขมันทีสะสมใต้ ผวหนัง มาย่ อยสลายเพือ ่ ิ ่ เปลียนเป็ นพลังงาน ( 1 กรัม ให้ พลังงาน 9 กิโลแคลอรี ) ในกรณีที่ ่ ร่ างกายได้ รับสารอาหารไม่ เพียงพอ ไขมันและนำมัน ้ 1. ไขมัน และนำมัน ้ เป็ นสำรที่มีควำมสำคัญ ต่ อเซลล์ประสำท อำจ 1. ไขมัน และนำมัน ้ เรียกว่ำ ฟอสโฟกลีเซอ ไรด์ หรือ ฟอสฟำติด พบ 2. ไข ในเซลล์ทุกเซลล์ โดยเฉพำะเยือหุ้มเซลล์ ่ 3. ฟอสโฟกลีเซอไรด์ 4. สฟิ นโกไลปิ ด Sphingolipids are often found in neural tissue, 5. สเตอรอยด์ เป็ นส่ วนประกอบของฮอร์ โมนร่ ำงกำย 2
  • 3. 03/10/54 ไขมันและนำมัน ้ 1.1 องค์ ประกอบ และโครงสร้ ำงของไขมันและกรดไขมัน ไขมัน เป็ นสารประกอบที่เรี ยกว่า ไตรกลีเซอไรด์ (triglycerides) เกิดจาก การรวมตัวทางเคมีของกรดไขมัน (fatty acids) 3 โมเลกุล กับ กลีเซอรอล (glycerol) 1 โมเลกุล O O CH2 – O – H H – O - C - C17H35 CH2 – O – C – C17H35 O O CH – O – H + H – O - C - C17H35 CH – O – C – C17H35 + 3H2O O O CH2 – O – H H – O - C - C17H35 CH2 – O – C – C17H35 (glycerol) (fatty acids) (triglycerides) กรดไขมัน โครงสร้ ำงของกรดไขมัน ประกอบด้ วย • ส่ วนทีมธำตุคำร์ บอนต่ อกันด้ วยพันธะเดียว หรือพันธะคู่เป็ นสำยยำว ่ ี ่ • ส่ วนทีเ่ ป็ นหมู่คำร์ บอกซิล ( - COOH ) เป็ นสมบัตเิ ป็ นกรด (Triglyceride) 3
  • 4. 03/10/54 กรดไขมัน กรดไขมัน กรดไขมันในธรรมชำติมี 40 ชนิดแบ่ งออกเป็ น 2 ประเภท กรดไขมัน อิมตัว ่ ไม่ อมตัว ิ่ ชื่อ ลงท้ ำยด้วย - อิก -ริก -ติก ลงท้ ำยด้วย –เลอิก สู ตร CnH2n+1COOH (H มำกกว่ำ) มีได้ หลำยสู ตร (H น้ อยกว่ำ) จุดหลอมเหลว สู งกว่ำ 25 oC ต่ำกว่ำ 25 oC สถำนะ ของแข็ง (ไขมันสัตว์ /นำมันมะพร้ ำว) ้ ของเหลว (นำมันพืช) ้ พันธะระหว่ำงคำร์ บอน เดียว ่ คู่ ควำมว่องไวในกำร น้ อย มำก เกิดปฏิกริยำ ิ ชนิดที่พบมำกที่สุด กรดสเตียริก กรดโอเลอิก 4
  • 5. 03/10/54 กรดไขมัน กรดไขมัน สู ตรโครงสร้ ำง m.p.(C) Myristic* CH3(CH2)12COOH 53.9 Palmitic* CH3(CH2)14COOH 63.1 Stearic* CH3(CH2)16COOH 69.6 Palmitoleic** CH3(CH2)5CH=CH(CH2)7COOH -0.5 Oleic** CH3(CH2)7CH=CH(CH2)7COOH 13.4 Linoleic** CH3(CH2)4(CH=CHCH2)2(CH2)6COOH -11 *กรดไขมันอิมตัว **กรดไขมันไม่ อมตัว ่ ิ่ กรดไขมัน 5
  • 6. 03/10/54 กรดไขมัน สมบัตของกรดไขมัน ิ [ -_ -] โมเลกุลของกรดไขมันในธรรมชาติส่วนใหญ่จะมีจานวนอะตอม ของคาร์ บอนเป็ นเลขคู่ท้ งชนิดอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ั [ -_ -] จุดหลอมเหลวของกรดไขมันจะสู งขึ้นเมื่อมวลโมเลกุลเพิ่มขึ้น กรดไขมันอิ่มตัวจะมีจุดหลอมเหลวสู งกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวเมื่อ โมเลกุลมีจานวนอะตอมของคาร์ บอนเท่ากัน [ -_ -] จุดหลอมเหลวของกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีจานวนอะตอมของ คาร์ บอนเท่ากันจะลดลงเมื่อจานวนพันธะคู่เพิ่มขึ้น กรดไขมัน กราฟแสดงร้อยละของกรดไขม ันอิมต ัวและไม่ ่ ร้อยละของปริมาณกรดไขม ันอิมต ัว อิมต ัวของกรดไขม ันและนาม ันบางชนิด ่ ้ ่ 100 90 และไม่อมต ัว 80 70 ิ่ 60 ไม่อ ม ตัว ิ่ 50 40 อิม ตัว ่ 30 20 10 0 ย อง มู ัว ว ัน ันถ ิ ง ด ันว รำ ส ันห เน โพ ะว ้ ื หล วล ะพ นต ม ำว ม ไข ันถ ั่ วเ ไข ันม ้ ันข ทำ ั่ ม ม อก น้ำ ม ม น้ำ น้ำ น้ำ มันด น้ำ 6
  • 7. 03/10/54 กรดไขมัน ตำรำงแสดงปริมำณของกรดไขมันที่มีอยู่ในไขมันและนำมันบำงชนิด ้ ชนิดของ % ของกรดไขมันชนิดต่ ำง ๆ นำมัน ้ หรือไขมัน กรดไมริ กรดปำล์ กรดสเตีย กรดโอเล กรดไลโนเล สติก มิตก ิ ริก อิก อิก ไขมันสั ตว์ 8 - 15 25 - 29 9 - 12 18 - 33 2-4 เนย 0.1 - 1 25 - 30 12 - 18 48 - 60 6 - 12 นำมันหมู ้ 2- 5 24 - 34 15 - 30 35 - 45 1-3 ไขมันวัว 0-1 5 - 15 1 - 4 ิ่ 67 - 84 8 - 12 นำมัข้นสังเกตชนิดของไขมันที1่เป็-นของเหลว จะมีเปอร์- เ11 ของกรดไขมั3 ไม่4อมตัวสู ง ้ อ พืช 2 7 ซนต์ น - 25 - 35 50 - 60 นำมันมะกอก ้ 1-2 6 - 10 2-4 20 - 30 50 - 58 นำมัน ้ ข้ ำวโพด นำมันถัว ้ ่ เหลือง กำรเหม็นหืนของไขมันและนำมัน ้ • ถ้ ำเป็ นกรดไขมันชนิดไม่ อมตัว จะทำปฏิกริยำกับออกซิเจนในอำกำศ ( ปฏิกริยำออกซิเดชัน ) เกิดสำร ิ่ ิ ิ ใหม่ ที่มีกลินเหม็นหืน ่ แสดงว่ำ นำมันจำกพืชจะเหม็นหืนได้ง่ำยกว่ำนำมันจำกสัตว์ แต่ นำมันพืชมีวตำมิน E ซึ่งเป็ นสำรยับยั้ง ้ ้ ้ ิ กำรเกิดปฏิกริยำนี้ แต่ มีไม่ มำกพอ ดังนั้นในกำรผลิตนำมันพืช จึงต้ องเติมวิตำมิน E เพิมเข้ ำไป ิ ้ ่ (โมเลกุลเล็กระเหยง่ายมีกลิ่นเหม็น) 7
  • 8. 03/10/54 กำรป้ องกันกำรเหม็นหืน  เก็บไว้ ในภำชนะที่สะอำดและแห้ ง ในที่มีอุณหภูมิต่ำ และไม่ ถูกแสงสว่ ำง  เติมสำรกันหืน เช่ นวิตำมินเอ วิตำมินซี วิตำมินอี BHA (Butyl hydroxyanisole) BHT (Butylatedhydroxytoluene) (hydrogenation) ปฏิกริยำไฮโดรจิเนชัน (hydrogenation) คือกำรเติมไฮโดรเจนลงไปในกรดไขมันไม่ อมตัว ที่ ิ ิ่ ควำมดันสู งและมีตัวเร่ งปฏิกริยำ เช่ น แพลทินัม (Pt) ทำให้ ได้เป็ นกรดไขมันอิมตัว นำไปใช้ ใน ิ ่ อุตสำหกรรม ดังนี้ กรดไขมันไม่ อิ่มตัว กรดไขมันอิ่มตัว 8
  • 9. 03/10/54 (hydrogenation) • นำมันพืช (ของเหลว) + H2 ้ ------> กรดไขมันอิมตัว (ของแข็ง) คือ เนยเทียม (มำกำรีน) ่ • นำมันปำล์ม + สำรปรุ งแต่ ง +ระเหยนำออก ------> ครีมเทียม (ผง) ้ ้ • นำมันที่เก็บไว้ นำนๆ หรือได้ รับควำมร้ อนสู ง จะสลำยตัวให้ กรดไขมัน และกลีเซอรอล ้ - กรดไขมันทีจำเป็ น ( essential fatty acids) คือกรดไขมันทีมพนธะคู่ระหว่ ำงอะตอม ่ ่ ี ั คำร์ บอนตั้งแต่ 2 ตำแหน่ งขึนไป ซึ่งร่ ำงกำยสังเครำะห์ ไม่ ได้ เช่ น กรดไลโนเลอิก และ ้ กรดไลโนเลนิก (พบมำกในเมล็ดดอกคำฝอย > ดอกทำนตะวัน > ข้ ำวโพด) ทำรกทีขำดกรดไขมันทีจำเป็ น จะทำให้ เกิดโรคผิวหนังอักเสบ ลอกหลุด ซึ่งเป็ นสำเหตุ ่ ่ ทำให้ ตดเชื้อง่ ำย และแผลหำยช้ ำ) ิ Saponification Saponification โซเดียมคำร์ บอกซิเลต 9
  • 10. 03/10/54 Saponification โครงสร้ ำงของสบู่ (–) Na+ Saponification กำรละลำยในนำและนำมันของสบู่ ้ ้ 10
  • 11. 03/10/54 Saponification สบู่กบนำกระด้ ำง ั ้ แคลเซียมสเตียเรต (ไคลสบู่) สำรซักฟอก สำรซักฟอก คือเกลือโซเดียมซัลโฟเนต ของสารไฮโดรคาร์บอนที่มีสมมบัติใน การทาความสะอาดได้และชลอความ กระด้างของน้ า ส่วนที่ไม่มีข้ ว ั ส่วนที่มีข้ ว ั 11
  • 12. 03/10/54 โครงสร้ ำงของสำรซักฟอก - โซ่ ตรง ถูกย่ อยได้ ง่ำย ไม่ เป็ นมลพิษ - โซ่ กงบ้ ำง ถูกย่ อยได้ บ้ำง ิ่ - โซ่ กงมำก ถูกย่ อยได้ ยำก ิ่ โซเดียมไตรพอลิฟอสเฟต คือสำรทีตกค้ ำงทำให้ สำหร่ ำยเจริญเติบโตได้ ง่ำย ่ Phospolipid องค์ ประกอบของฟอสโฟลิปิด - พบในเซลล์พืชและเซลล์สตว์ ั - เป็ นองค์ประกอบหลักของเยื้อหุมเซลล์ ้ 12
  • 13. 03/10/54 Phospolipid - ละลายคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และไขมันในเส้นเลือด - พบในเนื้อ ไข่ และร่ างกายสร้างขึ้นเองได้ Wax ไข เกิดจำก กรดไขมัน 14 – 360 โมเลกุลทำปฏิกริยำกับ ิ แอลกอฮอล์ เป็ นของแข็ง แต่ จุดหลอมเหลวต่ำ 13
  • 14. 03/10/54 Steroid สเตรอยด์ ประกอบด้ วย ไซโคลเฮกเซน 4 วง และ ไซโคลเพนเทน 1 วง สเตรอยด์ ไม่ ละลำยนำ แต่ ละลำยในตัวทำละลำยอินทรีย์ ้ ซึ่งแบ่ งออกเป็ น 1. คอเลสเทอรอส 2. ฮอร์ โมนอะครีโนคอสติคอยด์ 3. ฮอร์ โมนเพศ 4. กรดนำดี้ Steroid 1. คอเลสเทอรอส -เป็ นสำรตั้งต้ นในกำรสร้ ำงออร์ โมน -สร้ ำงวิตำมิน ดี -สร้ ำงกรดนำดี ้ 14
  • 15. 03/10/54 Steroid 1. คอเลสเทอรอส สำรประกอบลิโปโปรตีน (Lipoprotein) มี 2 ชนิด LDL (Low density lipoprotein) ,HDL (High density lipoprotein) LDL-C เป็ นไขมันที่ทำให้ เกิดกำร HDL-C ช่ วยนำเอำไขมันที่สะสมอยู่ตำมผนัง สะสมของไขมันในผนังของหลอดเลือด หลอดเลือดออกมำ แต่ ทำงำนช้ ำกว่ำ LDL-C แดงทั้งร่ ำงกำย Steroid 2. ฮอร์ โมนอะครีโนคอสติคอยด์ -ทำหน้ ำทีควบคุมกระบวนกำรรักษำ ่ สมดุลของนำและอิเล็กโทรไลต์ ้ -ควบคุมกระบวนกำรเผำผลำญโปรตีน และคำร์ โบไฮเดรต เช่ น คอร์ ตซอล ชลอ ิ กำรสร้ ำงโปรตีน 15
  • 16. 03/10/54 Steroid 3. ฮอร์ โมนเพศ Testosterone -ควบคุมกำรเจริญเติบโตของอวัยวะ สืบพันธุ์ และโครงสร้ ำงของกล้ ำมเนือ ้ และลักษณะเสียงของเพศชำย -ควบคุมเยือบุผนังมดลูก และ ควบคุม ้ กำรเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธุ์ และลักษณะเสียงของเพศหญิง Steroid 3. กรดนำดี ้ -ช่ วยย่ อยไขมันในลำไส้ เล็ก -ละลำยคอเลสเทอรอสทีอยู่ในอำหำร ่ 16