SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 77
ศิลปะตะวันออก
อินเดีย
ภูม ศ าสตร์
ิ
อิน เดีย
N

S
การแบ่ง ยุค สมัย ในศิล ปะอิน เดีย
สมัย

อิน เดีย N

สมัยที่ 1
สมัยที่ 2

สมัยที่ 3
สมัยที่ 4

อิน เดีย S

ศ. อินเดียโบราณ
(พศว. 3 -6)
ศ. คัน
ธาระ
(พศว. 6 9)

ศ. มถุรา
(พศว. 6
-9)

ศ. อมราวดี
(พศว. 7 - 10)

ศ. คุปตะ (พศว. 9 - 11)
ศ. หลังคุปตะ (พศว. 11 - 13)
•ศ.อินเดีย N
•ศ. อินเดีย S
พื้นฐานความรูทางศาสนา
้
ใน
ประเทศอินเดีย
ศาสนาฮินดู
ศาสนาพุทธ
ปูพื้นฐานศาสนาฮินดู
ประวัต ิศ าสนาฮิน ดู
ระ ศาสนา คัม ภี
พัฒ นาการ
ยะ
ร์
1 พระเวท
พระเ นับถือเทพเจ้าธรรมชาติ
วท (พระอินทร์,พระวรุณ,พระอัคนี)
2 เกิดศาสนา คนหันไปนับถือพุทธศาสนามาก
พุทธ
3 ฮินดู
ปุรา  ยกตรีมรติขึ้นเป็นพระเจ้าสูงสุด
ู
ณะ (พระพรหม,พระวิษณุ,พระศิวะ)
 กดเทพเจ้าเดิมเป็นเทพชั้นรอง
 เกิด 2 นิกาย (แต่ไม่มนิกายของ
ี
ปูพื้นฐานความรู้พุทธศาสนา
นิก า
ย
เถรว
าท
มหา
ยาน

นิก ายในพุท ธศาสนา
ลัก ษณะสำา คัญ
ศิล ปะที่
เจริญ
 นับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียว  อินเดีย
โบราณ
 อมราวดี
 นับถือพระพุทธเจ้าหลาย
 คันธาระ
องค์
+มถุรา
 นับถือพระโพธิสัตว์หลาย
 คุปตะ
องค์

ตันต  นับถือพระพุทธเจ้า+ พระ

 ปาละ

ระยะที่
เจริญ
พศว.
1-10
พศว.
6-13

พศว.
ความรู้เ บื้อ งต้น เกี่ย วกับ
พระพุท ธรูป (อาสนะ -มุท รา )
พระพุทธรูป → ประกอบไปด้วย”อาสนะ” และ
“มุทรา”
อาสนะ = ท่าประทับนั่ง, มุทรา อาสนะ
= การแสดง
พระหัตถ์
ขัดสมาธิราบ (วีรา
อาสนะ = ท่า
สนะ)
ประทับนัง → ใน
่
ศิลปะอินเดียมี 3
ขัดสมาธิเพชร (วัช
อาสนะสำาคัญ
ราสนะ)

ประทับนั่งห้อย
ขัดสมาธิ
ราบ
กับขัด
สมาธิเพชร
ขัดสมาธิราบ(วี
ราสนะ)

ขัดสมาธิ

อินเดี
ยใต้

อินเดีย
เหนือ
การประทับนั่งห้อย
พระบาท(ประลัมพ
ปาทาสนะ)

ประทับบนบัลลังก์
ห้อยพระบาทลงด้านล่าง
ทั้ง 2 ข้าง

ศิลปะอินดีย
เหนือ
ความรู้เ บื้อ งต้น เกีย วกับ มุท รา
่
มุทรา = การแสดงพระหัตถ์ → ในศิลปะอินเดีย
มี 6 มุทราสำาคัญ
ปางประทานอภัย
ปางประทานพร

ปางประทานอภัย
(อภัยมุทรา)
ปางสมาธิ
(ธยานมุทรา)
ปางประทาน
ธรรม/สังสอน
่
(วิตรรกมุทรา)

ปางประทานพร
(วรทมุทรา)
ปางมารวิชย
ั
(ภูมิศปรรศมุทรา)
ปางปฐมเทศนา
(ธรรมจักรมุทรา)
เสริม
พระพุทธรูปในศิลปะอินเดีย
มือซ้าย = จับชายจีวรเสมอ
แบพระหัตถ์
ตั้งขึ้น

จับชาย
จีวร

จับชาย
จีวร
นิยมทั้งอินดีย N
&S

อภัยมุทรา
(ประทาน

นิยมเฉพาะอินดีย N
แบพระหัตถ์
ห้อยลง

วรทมุทรา
(ประทาน
พระหัตถ์ทั้งสอง
วางบนพระเพลา

นิยมเฉพาะอินดีย S

ปางสมาธิ (ธยาน

พระหัตถ์ขวา พระหัตถ์ซ้าย
สัมผัสแผ่นดิน วางบนพระเพลา

นิยมเฉพาะอินดีย N

ปางมารวิชย (ภูมิศ
ั
เสริม
พระนาคปรก =
อินเดีย S เสมอ

พระหัตถ์ขวา
จีบเป็นวง

นิยมเฉพาะอินดีย S

วิตรรก

พระหัตถ์ขวา
จีบเป็นวง

พระหัตถ์ซ้ายชี้ไป
ยังพระหัตถ์ขวา

นิยมเฉพาะอินดีย N

ธรรมจักร
ตารางสรุปอาสนะ-มุทรา
อิน

ศิลปะ

เดีย
N

อาสนะ
คันธาระ
มถุรา
คุปตะ
ปาละ

S

พระนั่ง

อมราวดี

มุทรา

พระยืน
มือขวา

มือซ้าย

ขัดสมาธิ มารวิชัย
เพชร
ธรรมจักร
ห้อย
พระบาท

ประทาน
อภัย

จับชายจีวร

ขัดสมาธิ สมาธิ
ราบ
ประทาน
(+นาคปร อภัย-วิ
ก)
ตรรกะ

ประทาน
อภัย-วิ
ตรรกะ

จับชายจีวร

(แบบ
ประทานพร สมมาตร)

(แบบขนาน)
ระบบอาทิพุทธ-ธยานิพุทธ (พุทธ
ตันตระ)
1. อาทิพทธ
ุ

สร้างโลก + สร้างธยานิพุทธ
ไม่มีรูป

2. ธยานิพทธ (มี 5 องค์)
ุ

พระพุทธเจ้าประจำาทิศ (CESWN) + ผู้ดูแลแต่ละกัปป์
ประทับบนสวรรค์ + มีกายทิพย์

3. มานุษิพุทธ (มี 5 องค์)

พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้+สั่งสอนบนโลก
ประทับบนโลก กายเนื้อ

4. ธยานิโพธิสัตว์ (มี 5 องค์)

พระโพธิสัตว์ประจำากัปป์
ดูแลโลกในระหว่างที่มนุษิพุทธปรินิพพานไปแล้ว
ระบบธยานิ
พุทธ
อมิตาภะ
ปางสมาธิ
กัปป์ปัจจุบัน = อมิตาภะ
มนุษิพุทธ = ศากยมุนี
ธยานิโพธิสัตว์ = อวโลกิเตศวร

อโมฆสิทธิ มนุษิพุทธองค์ถดไป
ั
ปางประทาน
=ไมเตรยะ
อภัย

มหาไวโรจนะ
ปฐมเทศนา

รัตนสัมภวะ
ปางประทาน
พร

อักโษภยะ
ปางมารวิชัย
ธยานิพุทธ 5

อโมฆสิทธิ

มหาไวโรจนะ
อมิตาภะ
รัตนสัมภวะ

อักโษภยะ
ชฎามกุฏ
+อมิตาภะ

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
(ปัทมปาณี) =
ธยานิโพธิสัตว์ประจำากัปป์ปัจจุบัน
ดอกบัวปัทมะ

พระ
เศียร

 ชฎามกุฏ
 พระอมิตาภะ

สัญลักษ  ดอกบัว“ปัทมะ”
ณ์
(so ปัทมปาณี)
 สัญลักษณ์นก
ั
บวชอื่นๆ
ฝึก แยก
อาสนะ-มุท รา
ศิลปะอินเดียโบราณ
พศว. 3-6
เป็นศิลปะของพวกอารยัน→ ลุ่มนำ้าคงคา-ยมุนา (ต่อมาขยายไปแคว้นมหาษฏร์)
ราชวงศ์เมารยะ-ศุงคะ
สมัย

ศาสนา

สมัยอารยันระยะแรก

ศาสนาพระเวท

พุทธกาล

เกิดศาสนาพุทธ

พระเจ้าอโศก

เดิม = ขยายอาณาจักร
ด้วยสงคราม

K สำาคัญสุดของ ร.เมา
รยะ


อินเดียโบราณตอนต้น
พศว.3


ยังไม่มการสร้างสถาปัตยก
ี
รม+ประติมากรรมด้วยถาวรวัตถุ
-

ต่อมา = ศรัทธา + อุปถัมป์
พุทธเถรวาท

ศาสนาพราหมณ์ แต่ก็อุป
อินเดียโบราณตอนปลาย ถัมป์ศาสนาพุทธ
พศว.5-6

ร.ศุงคะ

ศิล ปกรรม

สถูป+ประตู(โตรณะ)+
รั้วรอบ(เวทิกา)
ทีภารหุต +สาญจี
่
สถูปสมัยอินเดียโบราณกับ
การปูพื้นฐานให้กับสถูปรุ่นหลัง
ฉัตรวลี → ปล้องไฉน
หรรม
ิกา →
บ

ัลลังก
์

อัณฑะ → องค์ระฆัง

สถูปในศิลปะอินเดียโบราณ

สถูปในศิลปะไทย
→ มีลักษณะเป็น
“คานตั้ง+คานนอน”
ประตูทางเข้า
เรียกว่า
“โตรณะ”
มีทั้ง 4 ทิศ

เวทิกา โตรณะ และความนิยม
เลียนแบบเครื่องไม้ในศิลปะ
อินเดียโบราณ

หรรมิกา

2

โตรณะ,หรรมิกา, เวทิกา
→ คานตั้ง + คานนอน
= “เลียนแบบเครื่องไม้”

ลานประทักษิณ

ภายในเวทิกา
=
ลานประทักษิณ

สถูป

1

รั้ว รอบสถูป =
เรีย กว่า “เวทิก า”
→แสดงเขตศักดิสิทธิ์
์
→ มีลักษณะเป็น
“คานตั้ง+คานนอน”
ภาพเล่าเรื่อง
ในพุทธ
ศาสนา

องค์ประกอบโต
รณะ

ยักษิณี
เหนี่ยว
กิ่งไม้
ภาพเล่าเรื่องทางพุทธศาสนาบนเวทิกา
และโตรณะ
ex. ภารหุต,สาญจี
ภาพเล่าเรื่องบน เวทิกา+โตรณะใน

ภาพเล่าเรื่องบน เวทิกา+โตรณะใน
สถูปอินเดียโบราณ ประกอบด้วย
1) พุทธประวัติ + ชาดก → เพื่อให้
คนทีเข้าไปประทักษิณ ได้เรียนรู้
่
เรื่องราวไปในตัว
2) สัญลักษณ์มงคล → เพื่อให้คนที่
เข้าไปสักการะได้รับสิริมงคล

โตรณะ
เลียนแบบ
เครื่องไม้

โตรณะ + เวทิก า จากภารหุต
 ตัวสถูปพังไปหมดแล้ว → เหลือแต่
โตรณะ&เวทิกา
 ปรากฏภาพเล่าเรื่องที่เวทิกา

ภาพเล่าเรื่องบนเวทิกา =
เป็นภาพในกรอบวงกลม
พุทธประวัติในศิลปะอินเดียโบราณ = ช่างไม่กล้าทำาพระพุทธ
รูปเป็นรูปมนุษย์ → ใช้สัญลักษณ์แทน
2
อยู่ภายใต้
ฉัตร / ต้นไม้
1

1
บัลลังก์เปล่า
พระพุทธบาท

3

2
พุท ธประวัต ิ
ตอนสุบ ิน นิม ต
ิ
(ฝัน ของพระนาง
มหามายา )

พระนาง
มหามายา
กำาลังบรรทม

“ช้าง” =พระโพธิสัตว์
เสด็จลงสู่พระครรภ์

สมัย อิน เดีย โบราณ
Perspective อย่า งง่า ยๆ
บุคคล/สิ่งอื่น = วางซ้อนอยู่
ด้านบนโดยที่ไม่ได้มีขนาด
เล็กลง
พุทธประวัติตอนเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
ม้าเปล่า
+ คนถือฉัตร

ม้าเปล่าหลายตัว
= แสดงการเคลื่อนไหว
4

2
1

3
ม้ากลับ

เมืองกบิลพัสดุ์

พระบาท = เจ้าชาย
สิทธัตถะลงจากม้า
พุท ธประวัต ิต อนตรัส รู้
ต้นโพธิ์ตรัสรู้
อาคารคลุมต้นโพธิ์
“โพธิฆระ”

เทวดาแสดง
ความยินดี

บัลลังก์ตรัสรู้
“โพธิบัลังก์”

มารพ่ายหนี
ตัว อย่า งพุท ธ
ประวัต ิต อนอื่น ๆ
พระพุทธบาท
ด้านบน
= เริมเสด็จลง
่

แทนด้วยธรรมจักร
(ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร)

1

ปฐมเทศนา

“เสด็จลงจากดาวดึงส์”
แทนด้วยบันไดเปล่า
3

บัลลังก์เปล่า =
ประทับ+เทศน์
บนโลกมนุษย์

2
พระพุทธบาทด้านล่าง =
เสด็จถึงโลกมนุษย์
พระบาทหลายพระบาท
= แสดงการเคลื่อนไหว

แทนด้วยสถูป

ปรินิพพาน
ภาพชาดกในศิลปะอินเดียโบราณ
1) แสดงภาพพระโพธิสัตว์ ≠
พระพุทธเจ้า
2) มักทำาหลายตอนในภาพเดียว

คนไปบอกพระราชา
พระราชามาล่ากวาง
2

กวางบริวาร
กำาลังหนี

กวางทอง
เทศน์ให้
พระราชา
ฟัง

3

1

ตัว อย่า ง
ชาดก
”มฤคชาดก”

กวางทองช่วยคน
ตัวอย่างชาดก
”มหากปิชาดก”
พญาลิงขึงตนเองกับต้นไม้ 2 ต้น
เพื่อให้ลิงตัวอื่นสามารถ
หนีข้ามแม่นำ้าไปได้

1
ลิงบริวารกำาลังหนี
แม่นำ้า

พระราชาสำานึกผิด
โปรดให้บริวารกางเตียง
กันพญาลิงตกลงมา

2

3
พญาลิงเทศน์
ให้พระราชา
ยักษิณเหนียวกิงไม้
ี
่
่

เหนี่ยวกิ่งไม้

 ยักษิณี = เทวีประจำาต้นไม้
 มักแสดงการเหนี่ยวกิ่งไม้

ประดับอยู่
บนเวทิกา

 เท้ากระแทกต้นไม้ = ทำาให้
ต้นไม้ออกผล
ใส่กำาไล

ผ้านุ่งอินเดียโบราณ
ผ้าหนา → มอง
ไม่เห็นองคเพศ

ข้อมือ+ข้อเท้า
จำานวนมาก

เดิม → คนนับถือ
ยักษ์ + ยักษิณี (เทพพื้นเมือง)
ต่อมา → เกิดศาสนาพุทธ →
ต้องการที่จะผนวกลัทธิ
นับถือยักษ์ + ยักษิณี

เหยียบสัตว์พาหนะ

ยักษ์ + ยักษิณี ถูกนำามาสลักไว้ที่
เวทิกา ≈ เป็นบริวารของ
พระพุทธเจ้า
ศิลปะอินเดียสมัยที่ 2
(พศว. 6-10)
ศิลปะคันธาระ
ศิลปะมถุรา
ศิลปะอมราวดี
ศิลปะอินเดียสมัยที่ 2 กับการ
ประดิษฐ์พระพุทธรูป
ปรากฏพระพุทธรูปเป็นรูปมนุษย์ทั้ง 3 ศิลปะ
เกิดข้อถกเถียงว่า ระหว่าง ศิลปะคันธาระ vs ศิลปะมถุรา →
ศิลปะใดเกิดพระพุทธรูปก่อนกัน (ใน Class นี้ เราจะเรียน
เฉพาะทฤษฎีคันธาระเกิดพระพุทธรูปก่อน)
ศิลปะอมราวดี = sure ว่าเกิดพระพุทธรูปทีหลังสุด เพราะ

อมราวดีตอนต้น = ไม่
กล้าสร้างพระพุทธรูป
= อิทธิพลอินเดีย
โบราณ

อมราวดีตอนปลาย = เริ่ม
เกิดพระพุทธรูป = อิทธิพล
คันธาระ-มถุรา
การประดิษฐ์พระพุทธรูปในศิลปะคัน
ธาระ
ศิลปะกรีก-โรมันนิยมทำาประติมากรรมเทพเจ้า → คันธาระ
เกียวข้องกับกรีก-โรมัน → หลายท่านเชื่อว่าคันธาระประดิษฐ์
่
พระพุทธรูปก่อน
พระพุทธเจ้าปรินิพพาน 600 ปีก่อนการประดิษฐ์พระพุทธรูป
→ ช่างแก้ปัญหาโดยใช้ข้อมูล 3 แหล่ง
1) ศึกษาคัมภีร์มหาบุรุษลักษณะ แล้วเลือกบางอย่าง
2) เอารูปแบบเทพเจ้ากรีก-โรมันมาใช้
3) คิดกระโหลกปูด → “อุษณีษะ” เพื่อแยกความแตกต่าง
พระพุทธเจ้าออกจากพระสาวก (3 ศิลปะประดิษฐ์ “อุษณี
ษะ”แตกต่างกัน)
การประดิษฐ์
พระพุทธรูป
ในศิลปะคัน
ธาระ

อุษณีษะ
พระเกศาหยักศก
อุณาโลม / อูรณา
มีประภามณฑล
รอบพระเศียร
ตามแบบ Apollo

ประเภทที่ 1 ประดิษฐ์ตาม
คัมภีร์มหาบุรุษลักษณะ
ประเภทที่ 2
ประดิษฐ์ตามอิทธิพล
กรีก-โรมัน
ประเภทที่ 3 ประดิษฐ์
อุษณีษะเพื่อแยกความ
แตกต่างพระพุทธรูป
ออกจากพระสงฆ์

ห่มจีวรคลุม
+ จีวรเป็นริ่ว
เหมือนผ้า Toga

พระกรรณยาว
ผมหยักศก
อิทธิพลกรีก-โรมัน
(ลักษณะเฉพาะคันธาระ)

อุษณีษะเป็น “มวยผม”
(ลักษณะเฉพาะคันธาระ)

มีอุณาโลมเสมอ
(ลักษณะร่วมสมัยที่ 2)

ผมหยักศก
ตามแบบกรีก-โรมัน

เศีย ร
พระพุท ธ
รูป
คัน ธาระ

บางครั้งมีพระมัสสุ
(ลักษณะเฉพาะคันธาระ)
ภาพเล่าเรื่องพุทธประวัติในศิลปะคัน
ธาระ (ประสูติ)
คันธาระ = ศิลปะแรกที่แสดง
พระนางมหามายาเหนี่ยวกิ่ง
อโศก

พระโพธิสัตว์ออกจากสีข้าง
เทพเจ้าเป็นผู้รับ

มหส่งอิท
าม ธิพ
าย ล
าเห ให
นี่ย ้พระ
วก นา
งอ ง
ิ่
โศ
ก

ยักษิณี
เหนี่ยว
กิ่งไม้
พุทธประวัติในศิลปะคันธาระ
(ทุกรกิริยา-ปฐมเทศนา)
ทุกรกิริยา

ปฐมเทศนา
มีลักษณะ
กายวิภาคสมจริง
→อิทธิพลกรีก-โรมัน
→ ไม่ปรากฏ
ในศิลปะอื่น

ปัญจวคีย์

พระพุทธเจ้าทรง
ใช้พระหัตถ์
หมุนธรรมจักร
กวางหมอบ =
ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ภาพเล่าเรื่องพุทธประวัตในศิลปะคันธาระ
ิ
(ตอนปรินพพาน)
ิ
ต้นสาละคู่

บุคคลที่กำาลังโศกเศร้า

ริ้วจีวรยังทำาไม่ดี
เหมือนเอาพระพุทธรูปยืนมานอน

ต้นสาละคู่

•พระพุทธรูปไสยาสน์ในอินเดีย
= ตอนปรินพพานเท่านั้น
ิ
(≠ ไทย)
• พระพุทธรูปไสยาสน์ = ตอน
ปรินิพพาน
→ พบครั้งแรกในคันธาระ
(≠ อินเดียโบราณ+อมราวดี →
ใช้สถูปแทนปรินิพพาน)
ศิลปะมถุรา (พศว.6-9)
ศูนย์กลางศิลปกรรมหลัก = มถุรา (อุตรประเทศ)
ปรากฏพระพุทธรูปเป็นรูปมนุษย์ แต่ไม่มี
อิทธิพลกรีก-โรมันเลย ≠ คันธาระ
พระพุทธรูปได้อิทธิพลจากประติมากรรมยักษ์ใน
ศิลปะอินเดียโบราณ
อุษณีษะ =
ทำาเป็นผมขมวดขึ้นไปเป็นชั้นๆ
ไม่มีพระเกศา (โล้น)
≈ พระสงฆ์

ลักษณะเฉพาะใน
ศิลปะมถุรา
(≠ คันธาระ)

อุณาโลม = คันธาระ

เศียรพระพุทธรูป
ในศิลปะมถุรา
พระพักตร์กลม +พระโอษฐ์ยิ้ม
อย่างชัดเจน
(ลักษณะเด่นในมถุรา)
ศิลปะอมราวดี (พศว.7-10)
ศูนย์กลางศิลปกรรมหลัก = อมราวดี + นาคาร
ชุนโกณฑะ (อานธรประเทศ)
เดิม = ราชวงศ์ศาตวาหนะ (ศูนย์กลางศิลปกรรม
หลัก = อมราวดี) ต่อมา = ราชวงศ์อิกษวากุ
(ศูนย์กลางศิลปกรรมหลัก = นาคารชุนโกณฑะ)
สืบมาจากศิลปะอินเดียโบราณ
อมราวดีตอนต้น = ใช้สัญลักษณ์แทน
พระพุทธเจ้า (สืบมาจากอินเดียโบราณ)→
อมราวดีตอนปลาย = ปรากฏพระพุทธรูปเป็นรูป
มนุษย์ แต่บางครั้งก็ยังใช้สญลักษณ์ควบคูอยู่
ั
่
อุษณีษะนูนขึ้น
เพียงเล็กน้อย
”อุษณีษะตำ่า“

อุณาโลม
= ศิลปะอื่นๆ

พระเกศาขมวด
ก้นหอย

ลักษณะเฉพาะ
อมราวดี
≠ คันธาระ & มถุรา

เศียรพระพุทธรูป
อมราวดี
โครงพระพักตร์
= รูปยาวรี

ลักษณะเฉพาะ
อมราวดี
≠ คันธาระ & มถุรา
ภาพเล่าเรื่องในศิลปะอมราวดี
ภาพเล่าเรื่องในศิลปะอมราวดี ≈ อินเดียโบราณ
แต่ มีก ารเคลือ นไหวอย่า งรุน แรง (≠ อินเดีย
่
โบราณ)
การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อมราวดี)

เดินปกติ

การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อินเดียโบราณ)

เคลื่อนไหว
อย่างรุนแรง
ภาพเล่า เรื่อ งในศิล ปะอมราวดี


อมราวดีตอนต้น = ใช้สัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า (สืบ
มาจากอินเดียโบราณ)
เมืองกบิล
เมื
 อมราวดีตอนปลาย = ปรากฏพระพุทธเจ้าเป็นรูป องกบิล
ม้า + ฉัตร
พัสดุ์
พัสดุ์
= สืบมา
มนุษย์
ม้า + ฉัตร

ม้าเปล่า

การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อมราวดีตอนต้น)

ม้ามีคนขี่

การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อมราวดีตอนปลาย)
การไหว้พระพุทธบาท
ศิลปะอินเดียโบราณ

แสดงการไหว้ที่
แสดงท่าทางเกินจริง

แสดงการไหว้ธรรมดา
ไม่มทาทางเกินจริง
ี ่

การไหว้พระพุทธบาท
ศิลปะอมราวดี
ภาพเล่าเรื่องตอน
“ประสูติ”

พระนางมายาเหนี่ยวกิ่งไม้
อิทธิพลยักษิณีเหนี่ยวกิ่งไม้ = คันธาระ
ยืน
ั
บ
ะท ้ลอย
ร
้าป +แส
ธเจ ัตร
ุท
ะพ เป็นฉ
พร ดง
แส

2

1

พระพุทธเจ้าในฐานะ
“ทารก” แสดงเป็นผ้า

จตุโลกบาล 4
ทดลอง
แยกศิลปะ
ศิลปะอินเดียสมัยที่ 3 (พศว.
9-13)
ศิลปะคุปตะ (พศว.9-11)
ศิลปะหลังคุปตะ (พศว.11-13)
พระพุทธรูปในศิลปะคุปตะ
สมัยราชวงศ์คปตะ ถือว่าเป็นยุคทองในบรรดา
ุ
ยุคต่างๆของอินเดีย ทั้งด้านการเมือง (รวม
ประเทศได้) + ด้านวัฒนธรรม (วรรณคดี,
ศาสนา,ศิลปกรรม)
ราชวงศ์คปตะ = ฮินดู แต่ก็อุปถัมป์พุทธมหายาน
ุ
(พุทธเถรวาทเสือมสูญไปจากอินเดีย)
่
พระพุทธรูปคุปตะ = พระพักตร์สงบ จีวรบาง
แนบองค์เหมือนผ้าเปียกนำ้า→ยกย่องว่าเป็น
พระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในศิลปะอินเดีย
แม้สุนทรียภาพ = สูงสุด แต่เทคนิค = เสือมลง
่
ตั้งแต่สมัยนี้เป็นต้นไป ช่างไม่สามารถทำา
อุษณีษะ & พระเกศา =
คันธาระ + อมราวดี
(ต่อมาปูพื้นฐานให้ทุก
ศิลปะ)

“มวย
ณีษะแบบ
อุษ

ว
ขม
้นห
ดก

พระเนตรเหลือบตำ่า
→ ดูสงบ
ลักษณะเฉพาะคุปตะ

า
กศ
ะเ
พร

อุณาโลมหายไป
ลักษณะเฉพาะคุปตะ

ผม”

พระพุทธรูปคัน
ธาระ

อย

เศียรพระพุทธรูป
คุปตะ (ทั้ง 2

พระพุทธรูปอมราว
ศิลปะอินเดียสมัยที่ 4
ศิลปะอินเดียใต้ (ทมิฬ)
ศิลปะอินเดียเหนือ
ประติมากรรมอินเดียเหนือ สมัยราชวงศ์ปาละ-เสนะ
เจริญขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย (แคว้นพิหาร
+เบงกอล+บังคลาเทศ)
ราชวงศ์ปาละ (พศว.14-17) นับถือศาสนาพุทธ มหายานตันตระ
(เต็มไปด้วยเวทมนตร์คาถา + เทพดุร้าย)→ เกิดขึนเนื่องจากการ
้
แข่งขันกับศาสนาฮินดู
ราชวงศ์เสนะ (พศว.18) นับถือศาสนาฮินดู ไวษณพนิกาย
ศูนย์กลางศิลปกรรม = นาลันทา (มหาวิทยาลัยพุทธศาสนา)
หลังพศว.18 ชาวมุสลิมโจมตี + ทำาลายนาลันทา→พุทธศาสนา
สูญสิ้นไปจากประเทศอินเดีย
ศิลปะปาละ-เสนะ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วง
1) ปาละตอนต้น พศว.14-15
2) ปาละตอนปลาย-เสนะ พศว.16-18
พระพุทธรูปยืน
ในศิลปะปาละ
อุษณีษะ
& พระเกศา
ตามแบบ
คุปตะ
อุณาโลม
ปรากฏขึนใหม่
้
≠ คุปตะ

พระเศียรปาละ
พระทรงเครื่องปาละ
ทรงเครื่องกษัตริย์
สวมเทริดขนนก +
สร้อยคอ(ทับบนจีวร)

 ศิลปะปาละตอนปลาย→ มีแนวความคิด
ว่าพระพุทธเจ้า = “จักรวรรติน”
(พระพุทธเจ้าคือจักรพรรดิแห่งจักรวาล) →
เกิดพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์
 เดิม อาจเป็นเครื่องประดับที่ถอดออกได้
→ หาย → ต่อมาจึงสลักไปกับองค์พระ

มงกุฏทีประกอบจาก
่
ตาบแผ่นสามเหลี่ยม
เรียงกัน เรียกว่า
“เทริดขนนก”
(ลักษณะเฉพาะ
ในศิลปะปาละ)
ปรินิพพาน ที่กสินารา
ุ
(ด้านบนสุดเสมอ)

พระแปดปาง
ในศิลปะปาละ

เสด็จลง
จากดาวดึงส์
สังกัสสะ

 ศิลปะปาละ → ปรากฏการทำา
ปราบช้างนาฬาคีรี
พุทธประวัติ 8 ตอน ในแผ่น
เมืองราชคฤห์
เดียวกัน
 8 ตอน เรียกว่า อัษฏมหาปาฏิหาริย์ (สังเวชนียสถาน 4 +
แสดงยมก- มหาปาฏิหาริย์ 4)
ปาฏิหาริย์
สาวัตถี  สังเวชนียสถาน 4 →
ประสูติ,ตรัสรู้,ปฐมเทศนา,ปรินิ
พพาน

ปฐมเทศนา
สารนาถ

ประสูติ
สวนลุมพินี

ตรัสรู้ ที่พทธคยา
ุ
(เป็นประธานเสมอ)

 มหาปาฏิหาริย์ 4 → ปราบ
ช้างนาฬาคีรี,แสดงยมก
ปาฏิหาริย์,เสด็จลงจาก
ดาวดึงส์,รับบาตรจากพญา
วานร
รับบาตรจาก
พญาวานร
ป่าเลไลยก์
ศิลปะในเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้
ชวา – ขอม – จาม – พม่า
ศิลปะชวา
ศิลปะชวาภาคกลาง
ศิลปะชวาภาคตะวันออก
ประวัติศาสตร์และการแบ่งยุคใน
ศิลปะชวา
สมัย

ราชวงศ์ & ศาสนา

ชวาภาค
กลาง

สัญชัย

(พศว.
12-16)

มหายาน)

ชวาภาค
ตะวันออก
(พศว.
16-20)

(ฮินดู)

ไศเลนทร์

(พุทธ

สัญชัยครั้งที่

(ฮินดู)
สิงหาส่าหรี

2

มัชฌปาหิต

(พุทธผสมฮินดู)

เหตุการณ์สำาคัญ

ลักษณะศิลปะ

ชวาภาคกลางตอนปลาย

อิทธิพลอินเดีย

เกิดภูเขาไฟระเบิดบ่อย →
ย้ายหนีมาชวาตะวันออก

หลังคุปตะ +
ปาละ

ชวาตะวันออกตอนปลาย → พื้นเมือง
พวกมุสลิมเข้า → พวกฮินดู ละทิงอิทธิพล
้
หนีไปเกาะบาหลี
อินเดีย
คาบสมุทรมาลายู

เกาะสุมาตรา

เกาะชวา
บาหลี
ชวาภา
คตะวัน

ชวาภาคกลาง

ออก
มีอุณาโลม
= ปาละ
≠ หลังคุปตะ

ธรรมจักรมุทรา
= อินเดีย N

่
แต
ง
ี
เฉีย ยจวร
่
หม ีชา
ย
ซ้า ละ
่ม
ไม อังสา ปา
ะ
ี่พร ุปตะ ≠
ท ค
ัง
หล
=

ไม่มีอุณาโลม
คุปตะ+หลังคุปตะ
ธรรมจักรมุทรา
= อินเดีย N

นั่งห้อยพระบาท
= อินเดีย N
ชายจีวร
ด้านล่างเป็น
เขี้ยวตะขาบ
= ปาละ
≠ หลังคุปตะ

พระพุทธรูป
ภายในจันทิ
เมนดุต
่
แต
ง
ี
เฉีย ยจวร
่
หม ีชา
้าย
่
ม
าซ
ไม อังส
ะ
ี่พร
ท

นั่งพระชานุแยก
แต่พระบาทชิด
เช่นกัน

พระพุท ธรูป ประธานที่
จัน ทิเ มนดุต = พระพุท ธ
รูป แสดงธรรมจัก รมุท รา

นั่งห้อยพระบาท
= อินเดีย N

พระพุท ธรูป ที่ถ ำ้า เอลโลร่า
พระประธานที่เมนดุตขนาบข้างด้วยพระโพธิสัตว์อว
โลกิเตศวร & วัชรปาณี
พระอมิตาภะ
บนชฎามกุฏ

มอขว
ื
า=ป
มือซา
ระ
้ ย=
จบดอ ทานพร
ั
อิทธิพ กปัทมะยกข
ลปาล
น
ึ้
ะ

ฐานกลีบบัว
= ปาละ

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ทีจัน
่
ทิเมนดุต → อิทธิพลปาละ

ประทับนั่งในท่า
“ลลิตาสนะ”
(ท่าสำาหรับพระโพธิสัตว์
นิยมในศิลปะปาละ)

ฐานกลีบบัว
แบบปาละ

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
ศิลปะปาละ
อุณาโลม
= ปาละ

อุษณีษะ+พระเกศา
= คุปตะ-ปาละ
มีอุณาโลม = ปาละ
พระยืนห่มคลุม
แต่พระนั่งห่มเฉียง
อิทธิพลปาละ

จีวรเรียบไม่มริ้ว
ี
เหมือนทังคุปตะ,หลังคุปตะ
้
& ปาละกลุ่มหนึ่ง
ชายจีวรด้านล่าง
เขียวตะขาบ
้
= ปาละ
ขัดสมาธิเพชร
อินเดีย N

ั้น
ั่ง
ะน จวรส
พร าย ี า
ี
ช
ส
ม่ม ระอัง ตะ
ไ
ถ้า ที่พ คุป ะ)
ัง
ล
หล = ปา
= ี
ม
(ถ้า
ศิลปะขอม
• ก่อนเมืองพระนคร
• หัวเลี้ยวหัวต่อ
• เมืองพระนคร
(ตอนต้น – ตอนกลาง - ตอนปลาย)
ยุค สมัย ในศิล ปะขอม
สมัย
ก่อนเมืองพระนคร
(พศว. 12 - 14)

ชื่อ ศิล ปะ
พนมดา, ถาลาบริวัติ,
สมโบร์ไพรกุก,ไพรเกมง,
กำาพงพระ

หัวเลี้ยวหัวต่อ
(พศว. 14 - 15)

กุเลน, พระโค

เมืองพระนคร
(พศว. 14 - 18)

บาแค็ง, เกาะแกร์, แปรรูป,
บันทายสรี, คลัง, นครวัด, บายน
พระเกศาขมวด
ก้นหอย + อุษณีษะ
แบบ
คุปตะ

พระพุทธรูปสมัยก่อนเมืองพระนคร

พระสมัย
พระนครมักเป็น
พระนาคปรก

พระเกศาหวี
+ รัดเกล้า
ทรงกรวย =
รูปแบบขอม

พระพุทธรูปสมัยเมืองพระนคร
พระพุทธรูปนั่งสมัย
พระนคร = นาคปรก
เสมอ
พระเกศาหวี + รัดเกล้า
ไม่มีกระบังหน้า

พระพุทธรูปสมัยบาปวน

ทรงกระบังหน้า
=
นครวัด

พระพุทธรูปสมัยนครวัด
ศิลปะจาม
สมัย
มิเซิน E1

มิเซิน (ภัทเรศวร)

ดงเดือง

อมราวดี/อินทรปุระ

ป.ฮุงถาญ

วิชัย
อาณาจักรจามปา
แบ่งได้ 3 แคว้น
โพกลวงการาย,โพโรเม
ปาณฑุรังค์

พศว.
13

หัวล่าย

14

ดงเดือง
(อินทรปุ
ระ
มิเซิน)A1

15
ต้น

(อินทรปุ
ระ)
บิญดิ่น
(วิชัย)

สมัยหลัง

15
ปลาย
– 16
17-18

อิทธิพ
ล
อินเดี
ย
ชวา

จีน
พืน
้
เมือง
ชวา

ประวัติศาสตร์
ศิวลึงค์ประจำา
อาณาจักรทีมิเซิน
่
(ภักเรศวร)
ชวาบุทรุก (พร้อม
ขอม) ิ
เมืองหลวงที่อนทร
ปุระ
พุทปะเจริญสูงสุด
ศิลธมหายานจาก
จีน

จีน
เวียดนามเริ่ม
บายน โจมตี→ ย้ายเมือง
หลวงไปวิชัย
บุกรุกขอม + ขอม
บุกรุกกลับ
19 ลง จีน
เวียดนามโจมตี →
มา
ถอยไปปาณฑุรังค์
→ ต่อมาเวียดนาม
กลืน
ชายจีวร
พาดพระอังสาขวา
อิทธิพลจีน

ชายจีวรสั้น
ที่พระอังสาซ้าย
อิทธิพลปาละ

ประติม ากรรมจาม
สมัย ดงเดือ ง
สมัยดงเดือง มีการสร้างวัด
พุทธมหายานขึ้นทีดงเดือง ชื่อ
่
“วัดลักษมีนทรโลเกศวร”
ดงเดือง = สมัยเดียวทีมีพุทธ
่
มหายาน
พุทธมหายานสมัยดงเดือง =
อิทธิพลจีน

นั่งห้อยพระบาท+
มือวางไว้บนเข่า
= อิทธิพลจีน

พระพุทธรูป
ประธาน พบที่ดงเดื

พระนั่งทีเล่อซาน
่
ศิลปะพม่า
ศิลปะศรีเกษตร
ศิลปะพุกาม
ศิลปะหงสาวดี
ศิลปะมัณฑเล
อังวะ
พม่า

ปยู
ตองอู

หงสาว
ดี
มอญ

ศิล ปะพม่า แบ่ง ได้ 4 สมัย
สมัยที่
พม่า N
พม่า S
1
ศรีเกษตร (ปยู) สุธรรมวดี /
(12 สะเทิม
16)
(มอญ)
2
(16 19)

พุกาม (พม่า)
พระเจ้าอโนรธาตีมอญ + รับ
พุทธเถรวาท

3
(19 23)

อังวะ (พม่า)
ตองอู (พม่า)

หงสาวดี
(มอญ)
พระเจ้า
ธรรมเจดีย์

4
(23 25)

ราชวงศ์คองบอง (พม่า)
อังวะ – อมรปุระ – มัณฑเล
พระเจ้าอลองพญา + มังระ
พระเจ้ามินดง
พระพุทธรูปศิลปะศรีเกษตร = อิยเดีย N + S

อุษณีษะตำ่า
อมราวดี

ปางมารวิชัย =
อินเดีย N
พระพุทธรูปในศิลปะพุกาม = อิทธิพลปาละ
พระนังปาละ
่

พระนังพุกาม
่
• เดิมเป็นพระพุทธรูปประจำาแคว้นยะไข่

• พระเจ้าปดุงเชิญมาอมรปุระ ถวายเครื่อง
ทรง = พระทรงเครื่อง
• พระเจ้ามังระตีอยุธยา กวาดต้อนช่างไทย =
เครื่องทรงอยุธยา

พระมหามัยมุนี ของอนุราธปุระ

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)พัน พัน
 
งานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยา
งานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยางานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยา
งานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยาWasin Kunnaphan
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียPannaray Kaewmarueang
 
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนพัน พัน
 
ศาสนาเชน
ศาสนาเชนศาสนาเชน
ศาสนาเชนPadvee Academy
 
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมันอารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมันJungko
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียGain Gpk
 
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์Sununtha Sukarayothin
 
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนwarintorntip
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์Padvee Academy
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียToey Songwatcharachai
 
07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยา07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยาJulPcc CR
 
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57Pracha Wongsrida
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย Gain Gpk
 
ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทย
ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทยประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทย
ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทยPatcha Jirasuwanpong
 
งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์
งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์
งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์Pornsitaintharak
 

Mais procurados (20)

ศิลปะตะวันตก
ศิลปะตะวันตกศิลปะตะวันตก
ศิลปะตะวันตก
 
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
 
งานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยา
งานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยางานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยา
งานทัศนศิลป์ในสมัย อยุธยา
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
 
ศาสนาเชน
ศาสนาเชนศาสนาเชน
ศาสนาเชน
 
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมันอารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมัน
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
 
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์
 
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
ศ ลปะอ นเด_ย
ศ ลปะอ นเด_ยศ ลปะอ นเด_ย
ศ ลปะอ นเด_ย
 
07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยา07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยา
 
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทย
ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทยประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทย
ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมไทย
 
งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์
งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์
งานทัศนศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์
 
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
 

Semelhante a ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้)

หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ponderingg
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์Gob_duangkamon
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2teacherhistory
 
004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพรAniwat Suyata
 
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์sorrachat keawjam
 
พุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
พุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
พุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียAnchalee BuddhaBucha
 
พุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทยพุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทยPadvee Academy
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4pagePrachoom Rangkasikorn
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4pagePrachoom Rangkasikorn
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
รุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขรุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขKwandjit Boonmak
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์Gob_duangkamon
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์Gob_duangkamon
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1teacherhistory
 
สไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1page
สไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1pageสไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1page
สไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59
ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59
ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59Looknum
 

Semelhante a ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้) (20)

Brands so(o net)
Brands so(o net)Brands so(o net)
Brands so(o net)
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
 
004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร
 
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์
 
พุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
พุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
พุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
 
พุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทยพุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทย
 
Art
ArtArt
Art
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-4page
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-4page
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย+568+55t2his p04 f12-1page
 
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1pageสังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1page
สังคมและวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย +568+dltvp4+55t2his p04 f12-1page
 
รุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขรุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุข
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
 
สไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1page
สไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1pageสไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1page
สไลด์ ศาสนพิธี+499+dltvsocp6+55t2soc p06 f24-1page
 
ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59
ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59
ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่มที่ 59
 

Mais de Heritagecivil Kasetsart

มรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลก มรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลก Heritagecivil Kasetsart
 
มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์)
มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์) มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์)
มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์) Heritagecivil Kasetsart
 
มรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลกมรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลกHeritagecivil Kasetsart
 
มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557
มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557
มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557Heritagecivil Kasetsart
 
ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)
ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)
ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)Heritagecivil Kasetsart
 

Mais de Heritagecivil Kasetsart (20)

มรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลก มรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลก
 
The heritages of world civilization
The heritages of world civilization The heritages of world civilization
The heritages of world civilization
 
01999031 western music romantic
01999031 western music romantic01999031 western music romantic
01999031 western music romantic
 
01999031 western music baroque.
01999031 western music baroque.01999031 western music baroque.
01999031 western music baroque.
 
01999031 western music classical.
01999031 western music classical.01999031 western music classical.
01999031 western music classical.
 
Man lg
Man lgMan lg
Man lg
 
Man lg handout s
Man lg handout sMan lg handout s
Man lg handout s
 
Man lg eng hndout
Man lg eng hndoutMan lg eng hndout
Man lg eng hndout
 
World history
World historyWorld history
World history
 
World major religion
World major religionWorld major religion
World major religion
 
Reasoning
ReasoningReasoning
Reasoning
 
Philosophy history
Philosophy historyPhilosophy history
Philosophy history
 
Philosophy and religion
Philosophy and religionPhilosophy and religion
Philosophy and religion
 
Introduction of philosophy
Introduction of philosophyIntroduction of philosophy
Introduction of philosophy
 
Philosophy and religion
Philosophy and religionPhilosophy and religion
Philosophy and religion
 
Introduction of philosophy
Introduction of philosophyIntroduction of philosophy
Introduction of philosophy
 
มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์)
มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์) มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์)
มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์)
 
มรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลกมรดกอารยธรรมโลก
มรดกอารยธรรมโลก
 
มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557
มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557
มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557
 
ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)
ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)
ยุคปัจจุบัน(อัพเดท2557)
 

ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้)