SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 19
การจัดเก็บข้อมูลที่มีปริมาณมากๆ ในระบบคอมพิวเตอร์โดยการ
   เก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลแต่ละแฟ้ม อาจเกิดปัญหาข้อมูลซำ้าซ้อนกัน
     เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่หลายแฟ้มข้อมูล จนทำาให้ข้อมูลมี
 ความขัดแย้งกันเอง จึงได้มีการเปลี่ยนการจัดเก็บข้อมูลให้อยู่ใน
รูปของฐานข้อมูลแทนเพือความสะดวกในการบันทึกข้อมูล แก้ไข
                          ่
                                           ข้อมูล และค้นหาข้อมูล
1. ความหมายของฐานข้อมูลและระบบการจัดการฐานข้อมูล

“ ฐานข้อมูล ” (database) หมายถึง การจัดรวบรวมข้อนิเทศหรือข้อมูล
 ของเรื่องต่างๆ ไว้ในรูปแบบที่จะเรียกมาใช้ได้ทันทีเมือต้องการ ในการ
                                                      ่
 เรียกนัน อาจเรียกเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมาใช้ประโยชน์เป็นครั้งเป็น
         ้
 คราวก็ได้ ฐานข้อมูลที่ดควรจะได้รับการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ
                         ี
 (ทักษิณา สวนานนท์, 2544, หน้า 154-155)
นอกจากนี้ กิตติ ภักดีวัฒนะกุล (2547, หน้า 226) ยังได้สรุปความหมาย
 ของฐานข้อมูล ว่าคือ กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มความสัมพันธ์กันและถูกนำา
                                                ี
 มารวมกัน เช่น ฐานข้อมูลในบริษัทแห่งหนึ่งอาจประกอบไปด้วยแฟ้ม
 ข้อมูลหลายแฟ้มข้อมูล ซึ่งแต่ละแฟ้มต่างก็มความสัมพันธ์กัน ได้แก่
                                              ี
 แฟ้มข้อมูลพนักงาน แฟ้มข้อมูลแผนกในบริษัท แฟ้มข้อมูลขายสินค้า
 และแฟ้มข้อมูลสินค้า เป็นต้น
สรุปได้ว่า “ฐานข้อมูล” คือ การรวบรวมข้อมูลที่เราต้องการจะจัดเก็บ
 ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กันหรือเป็นเรื่องเดียวกันไว้ดวยกัน เพือสะดวก
                                                    ้        ่
 ในใช้งาน
“ระบบการจัดการฐานข้อมูล” (Data Base Management System: 
 DBMS) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพือรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ
                                            ่
 เพือจะได้นำาไปเก็บรักษา เรียกใช้หรือนำามาปรับปรุงให้ทันสมัยได้งาย
     ่                                                            ่
นอกจากนี้ โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์ (2546, หน้า 29) ยังได้สรุปความ
 หมายของระบบการจัดการฐานข้อมูล ว่าคือ โปรแกรมที่ใช้เป็น
 เครื่องมือในการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งประกอบด้วยหน้าที่ต่างๆ
 ในการจัดการกับข้อมูล รวมทั้งภาษาที่ใช้ทำางานกับข้อมูล โดย
 มักจะใช้ภาษา SQL ในการโต้ตอบระหว่างกันกับผู้ใช้ เพือให้
                                                       ่
 สามารถกำาหนดการสร้าง การเรียกดู การบำารุงรักษาฐานข้อมูล
 รวมทั้งการจัดการควบคุมการเข้าถึงฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็นการ
 ป้องกันความปลอดภัยในฐานข้อมูล เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ
 การใช้งานเข้ามาละเมิดข้อมูลในฐานข้อมูลที่เป็นศูนย์กลางได้
 นอกจากนี้ DBMS ยังมีหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงและความ
 ปลอดภัยของข้อมูล การสำารองข้อมูล และการเรียกคืนข้อมูลใน
 กรณีที่ข้อมูลเกิดความเสียหาย
สรุปได้วา “ระบบการจัดการฐานข้อมูล” คือ โปรแกรมที่ทำาหน้าที่
           ่
 ในการกำาหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล อำานวย
 ความสะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล กำาหนดผู้ที่ได้
 รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูลได้ พร้อมกับกำาหนดด้วยว่าให้ใช้ได้
2. ประวัติความเป็นมาของระบบการจัดการฐานข้อมูล


 2. ประวัติความเป็นมาของระบบการจัดการฐานข้อมูล
 การจัดการฐานข้อมูลเริ่มต้นจากการที่องค์การบริหารการบินและอวกาศ
  สหรัฐอเมริกา หรือนาซาได้ว่าจ้างบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ประเทศสหรัฐอเมริกา
  ให้ออกแบบระบบเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการสำารวจดวงจันทร์ในโครงกา
  รอะพอลโล (โครงการอะพอลโลเป็นโครงการสำารวจอวกาศอย่างจริงจัง และมี
  การส่งมนุษย์ขนบนดวงจันทร์ได้สำาเร็จด้วยยานอะพอลโล 11) ได้พัฒนาระบบ
                  ึ้
  การดูแลข้อมูลเรียกว่า ระบบ GUAM ( Generalized Upgrade Access 
  Method) ซึ่งถือเป็นต้นกำาเนิดของระบบการจัดการฐานข้อมูล
 ต่อมาบริษัท ไอบีเอ็ม ได้พัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลขึนมาใหม่เพื่อให้
                                                            ้
  ใช้งานกับธุรกิจทั่วๆ ไปได้ เรียกว่า DL/I (Data Language/I ) จนในที่สุด
  ก็ได้กลายมาเป็นระบบ IMS ( Information Management System)
 ในช่วงปี พ.ศ. 2525 มีการนำาระบบฐานข้อมูลเข้ามาใช้กับคอมพิวเตอร์อย่าง
  เต็มที่  ได้มีการคิดค้นและผลิตซอฟต์แวร์เกียวกับฐานข้อมูลออกมามากมาย
                                              ่
  การเจริญเติบโตของการจัดการฐานข้อมูลรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับ
  ระบบคอมพิวเตอร์และมีการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้
 ปัจจุบันได้มีการนำาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเก็บข้อมูล โดยใช้โปรแกรม
  สำาเร็จรูปทั่วไปโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเขียนโปรแกรมเอง เพียงแต่เรียนรู้คำาสั่งการ
  เรียกใช้ข้อมูลหรือการจัดการข้อมูล เช่น การป้อนข้อมูล การบันทึกข้อมูล
  การแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อมูล เป็นต้น
ในอดีตยุคที่มีไมโครคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นแรกๆ โปรแกรม
 สำาเร็จรูปทางด้านการจัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้กันอย่าง
 แพร่หลาย คือ Personal Filling System) ต่อมาได้มี
 โปรแกรมฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายโปรแกรม เช่น Datastar 
 DB Master และ dBASE II เป็นต้นโดยเฉพาะโปรแกรม
 dBASE II ได้รับความนิยมมาก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2528 ผู้
 ผลิตได้สร้าง dBASE III Plus ออกมาซึ่งสามารถจัดการฐาน
 ข้อมูลแบบสัมพันธ์ (relational) เชื่อมโยงแฟ้มข้อมูลต่างๆ
 เข้าด้วยกัน ค้นหา และนำามาสร้างเป็นรายงานตามความ
 ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว ต่อมาได้มีการสร้าง โปรแกรม
 สำาเร็จรูปเกียวกับฐานข้อมูลออกมา เช่น FoxBASE, 
              ่
 FoxPro, Microsoft Access และ Oracle เป็นต้น
3. องค์ประกอบของระบบการจัดการฐานข้อมูล


ระบบการจัดการฐานข้อมูลประกอบด้วยส่วนสำาคัญหลักๆ 5 ส่วน
 คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล กระบวนการทำางาน  และ
 บุคลากร ดังรายละเอียดต่อไปนี้
3.1 ฮาร์ดแวร์ (hardware) หมายถึง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
 ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลและประมวลผลข้อมูล ซึ่งอาจประกอบด้วย
 เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่หนึ่งเครืองขึ้นไป หน่วยเก็บข้อมูลสำารอง
                                   ่
 หน่วยนำาเข้าข้อมูล และหน่วยแสดงผลข้อมูล นอกจากนี้ยังต้องมี
 อุปกรณ์การสื่อสารเพื่อเชื่อมโยงอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์หลายๆ
 เครื่องให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เป็นต้น โดยเครื่อง
 คอมพิวเตอร์ที่จะใช้เป็นอุปกรณ์สำาหรับประมวลผลข้อมูลในฐาน
 ข้อมูลนั้น สามารถเป็นได้ตั้งแต่เครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มินิ
 คอมพิวเตอร์ หรือไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าเป็นเครื่องเมนเฟรม
 คอมพิวเตอร์หรือมินิคอมพิวเตอร์ จะสามารถใช้ต่อกับเทอร์มินัล
 หลายเครื่อง เพือให้ผู้ใช้งานฐานข้อมูลหลายคน สามารถดึง
                 ่
ส่วนการประมวลผลฐานข้อมูลในเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์
 สามารถทำาการประมวลผลได้ 2 แบบ แบบแรกเป็นการประมวล
 ผลฐานข้อมูลในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว โดย
 มีผู้ใช้งานได้เพียงคนเดียวเท่านั้น (single user) ทีสามารถดึง
                                                     ่
 ข้อมูลหรือปรับปรุงข้อมูลภายในฐานข้อมูลได้ สำาหรับแบบที่สอง
 จะเป็นการนำาไมโครคอมพิวเตอร์หลายตัวมาเชื่อมต่อกันใน
 ลักษณะของเครือข่ายระยะใกล้ (Local Area Network :
 LAN) ซึ่งเป็นรูปแบบของระบบเครือข่ายแบบลูกข่าย / แม่ข่าย
 (client / server network) โดยจะมีการเก็บฐานข้อมูลอยู่ที่เครือง  ่
 แม่ข่าย (server) การประมวลผลต่างๆ จะกระทำาที่เครืองแม่ข่าย
                                                        ่
 สำาหรับเครื่องลูกข่าย (client) จะมีหน้าที่ดึงข้อมูลหรือส่งข้อมูล
 เข้ามาปรับปรุงในเครื่องแม่ข่าย หรือคอยรับผลลัพธ์จากการ
 ประมวลผลของเครื่องแม่ข่าย ดังนั้นการประมวลผลแบบนี้จึง
 เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลายคนสามารถใช้งานฐาน
 ข้อมูลร่วมกันได้
ระบบฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพดีต้องอาศัยเครืองคอมพิวเตอร์ที่
                                                 ่
 3.2 ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง โปรแกรมทีใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งมีการพัฒนา
                                            ่
    เพือใช้งานได้กบเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์จนถึงเครื่องเมนเฟรม ซึ่งโปรแกรมแต่ละตัวจะมี
       ่               ั
    คุณสมบัตการทำางานที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรม จะต้องพิจารณาจาก
               ิ
    คุณสมบัตของโปรแกรมแต่ละตัวว่ามีความสามารถทำางานในสิงทีเราต้องการได้หรือไม่ อีกทังเรื่อง
                 ิ                                                  ่ ่                      ้
    ราคาก็เป็นเรื่องสำาคัญ เนื่องจากราคาของโปรแกรมแต่ละตัวจะไม่เท่ากัน โปรแกรมทีมความ ่ ี
    สามารถสูงก็จะมีราคาแพงมากขึ้น นอกจากนี้ยงต้องพิจารณาว่าสามารถใช้ร่วมกับฮาร์ดแวร์ และ
                                                     ั
    ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัตการทีเรามีอยู่ได้หรือไม่ ซึ่งโปรแกรมทีใช้ในการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่
                           ิ      ่                               ่
    Microsoft Access, Oracle, Informix, dBase, FoxPro, และ Paradox เป็นต้น โดยโปรแกรมที่
    เหมาะสำาหรับผู้เริ่มต้นฝึกหัดสร้างฐานข้อมูล คือ Microsoft Access เนื่องจากเป็นโปรแกรมใน
    Microsoft Office ตัวหนึ่ง ซึ่งจะมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว และการใช้งานก็ไม่ยากจนเกิน
    ไป แต่ผู้ใช้งานต้องมีพนฐานในการออกแบบฐานข้อมูลมาก่อน
                             ื้
   3.3 ข้อมูล (data) ระบบการจัดการฐานข้อมูลทีดีและมีประสิทธิภาพ ควรประกอบด้วยข้อมูลทีมี
                                                   ่                                           ่
    คุณสมบัตขั้นพืนฐานดังนี้
                   ิ ้
   3.3.1 มีความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้จะทำาให้เกิดผล
    เสียอย่างมาก ผูใช้จะไม่กล้าอ้างอิงหรือนำาไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้การตัดสินใจของผู้
                         ้
    บริหารขาดความแม่นยำา และอาจมีโอกาสผิดพลาดได้ โครงสร้างข้อมูลทีออกแบบต้องคำานึงถึง
                                                                               ่
    กรรมวิธการดำาเนินงานเพือให้ได้ความถูกต้องแม่นยำามากทีสด โดยปกติความผิดพลาดของ
             ี                  ่                             ่ ุ
    สารสนเทศส่วนใหญ่ มาจากข้อมูลทีไม่มีความถูกต้องซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากคนหรือเครื่องจักร
                                        ่
    การออกแบบระบบการจัดการฐานข้อมูลจึงต้องคำานึงถึงในเรื่องนี้ด้วย
   3.3.2 มีความรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำาเป็นต้องให้ทนต่อความต้องการของผู้
                                                                             ั
    ใช้มีการตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ตีความหมายสารสนเทศได้ทนต่อเหตุการณ์หรือความ
                                                                           ั
    ต้องการ มีการออกแบบระบบการเรียกค้น และแสดงผลได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้
   3.3.3 มีความสมบูรณ์ของข้อมูล ซึ่งขึนอยูกับการรวบรวมข้อมูลและวิธการปฎิบัตด้วย ในการ
                                          ้  ่                           ี         ิ
    ดำาเนินการจัดทำาข้อมูลต้องสำารวจและสอบถามความต้องการข้อมูล เพื่อให้ได้ขอมูลที่มความ
                                                                                 ้        ี
3.3.4 มีความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำานวนมากจะต้อง
 ใช้พนที่ในการจัดเก็บข้อมูลมาก จึงจำาเป็นต้องออกแบบโครงสร้าง
      ื้
 ข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้ มีการใช้รหัสหรือย่อข้อมูลให้
 เหมาะสมเพือที่จะจัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
             ่
3.3.5 มีความสอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำาคัญ ดังนั้นจึง
 ต้องมีการสำารวจเพือหาความต้องการของหน่วยงานและองค์กร ดู
                    ่
 สภาพการใช้ข้อมูล ความลึกหรือความกว้างของขอบเขตของข้อมูลที่
 สอดคล้องกับความต้องการ
3.4 กระบวนการทำางาน (procedures) หมายถึง ขั้นตอนการทำางาน
 เพือให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เช่น คู่มอการใช้งานระบบการจัดการ
    ่                                    ื
 ฐานข้อมูล ตั้งแต่การเปิดโปรแกรมขึนมาใช้งาน การนำาเข้าข้อมูล การ
                                     ้
 แก้ไขปรับปรุงข้อมูล การค้นหาข้อมูล และการแสดงผลการค้นหา
 เป็นต้น
3.5 บุคลากร (people) จำาเป็นต้องเกี่ยวข้องกับระบบอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง
 บุคลากรที่ทำาหน้าที่ในการจัดการฐานข้อมูล มีดงต่อไปนี้
                                               ั
3.5.1 ผูบริหารข้อมูล (data administrators) ทำาหน้าที่ในการกำาหนด
         ้
 ความต้องการในการใช้ข้อมูลข่าวสารขององค์กร การประมาณขนาด
3.5.2 ผู้บริหารฐานข้อมูล (database administrators) ทำาหน้าที่
 ในการบริหารจัดการ ควบคุม กำาหนดนโยบาย มาตรการ และ
 มาตรฐานของระบบฐานข้อมูลทั้งหมดภายในองค์กร ตัวอย่างเช่น
 กำาหนดรายละเอียดและวิธีการจัดเก็บข้อมูล กำาหนดควบคุมการ
 ใช้งานฐานข้อมูล กำาหนดระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
 กำาหนดระบบสำารองข้อมูล และกำาหนดระบบการกูคืนข้อมูล้
 เป็นต้น ตลอดจนทำาหน้าทีประสานงานกับผู้ใช้ นักวิเคราะห์ระบบ
                          ่
 และนักเขียนโปรแกรม เพื่อให้การบริหารระบบฐานข้อมูล
 สามารถดำาเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.5.3 นักวิเคราะห์ระบบ (systems analysts) มีหน้าที่ศึกษาและ
 ทำาความเข้าใจในระบบงานขององค์กร ศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น
 จากระบบงานเดิม และความต้องการของระบบใหม่ที่จะทำาการ
 พัฒนาขึ้นมา รวมทั้งต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจใน
 กระบวนการทำางานโดยรวมของทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อีก
 ด้วย
3.5.4 นักออกแบบฐานข้อมูล (database designers) ทำาหน้าที่นำา
3.5.5 นักเขียนโปรแกรม (programmers) มีหน้าที่รับผิด
 ชอบในการเขียนโปรแกรมประยุกต์เพื่อการใช้งานใน
 ลักษณะต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น
 การเก็บบันทึกข้อมูล และการเรียกใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล
 เป็นต้น
3.5.6 ผู้ใช้ (end-users) เป็นบุคคลที่ใช้ข้อมูลจากระบบฐาน
 ข้อมูล ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของระบบฐานข้อมูล คือ ตอบ
 สนองความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้ ดังนั้นในการ
 ออกแบบระบบฐานข้อมูลจึงจำาเป็นต้องมีผู้ใช้เข้าร่วมอยู่ใน
 กลุมบุคลากรที่ทำาหน้าที่ออกแบบฐานข้อมูลด้วย
    ่
4. หน้าที่ของระบบการจัดการฐานข้อมูล


4. หน้าที่ของระบบการจัดการฐานข้อมูล
ระบบการจัดการฐานข้อมูลมีหน้าที่สำาคัญๆ หลายอย่าง เพื่อ
 ให้เกิดความถูกต้องและสอดคล้องกันของข้อมูลภายในฐาน
 ข้อมูล ได้แก่
4.1 การจัดการพจนานุกรมข้อมูล ระบบการจัดการฐาน
 ข้อมูลจะทำาการจัดเก็บนิยามของข้อมูล และความสัมพันธ์
 ระหว่างข้อมูลไว้ในพจนานุกรมข้อมูล เป็นสารนิเทศที่บอก
 เกียวกับโครงสร้างของฐานข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ทั้งหมด
    ่
 ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลจะต้องทำางานผ่านระบบ
 การจัดการฐานข้อมูล โดยที่ระบบจัดการฐานข้อมูลจะใช้
 พจนานุกรมข้อมูล เพื่อค้นหาโครงสร้างตลอดจนส่วน
 ประกอบของข้อมูลและความสัมพันธ์ที่ต้องการ นอกจากนั้น
 แล้วการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีต่อโครงสร้างฐานข้อมูลจะถูก
4.2 การจัดเก็บข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะสร้าง
 โครงสร้างที่จำาเป็นต่อการจัดเก็บข้อมูล ช่วยลดความยุ่งยากใน
 การนิยามและการเขียนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทาง
 กายภาพของข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลในปัจจุบันไม่
 เพียงแต่จะช่วยในการจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัด
 เก็บกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในการตรวจสอบบูรณภาพของข้อมูลอีก
 ด้วย
4.3 การแปลงและนำาเสนอข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะ
 ทำาหน้าที่ในการแปลงข้อมูลที่ได้รับเข้ามา เพือให้สอดคล้องกับ
                                             ่
 โครงสร้างในการจัดเก็บข้อมูล ทำาให้เราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับ
 ความแตกต่างระหว่างรูปแบบของข้อมูลทางตรรกะและทาง
 กายภาพ กล่าวคือทำาให้มีความเป็นอิสระของข้อมูล ระบบการ
 จัดการฐานข้อมูลจะแปลงความต้องการเชิงตรรกะของผู้ใช้ ให้
 เป็นคำาสั่งที่สามารถดึงข้อมูลทางกายภาพที่ต้องการ
4.4 การจัดการระบบความปลอดภัยของข้อมูล ระบบการจัดการ
 ฐานข้อมูลจะสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยการ
 4.5 การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หลายคน ระบบการจัดการฐานข้อมูล
  จะใช้หลักการออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้หลายคน
  สามารถเข้าใช้ฐานข้อมูลพร้อมกันได้ และข้อมูลมีความถูกต้อง
 4.6 การเก็บสำารองและกู้คืนข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะมีโปรแกรม
  เพื่อสนับสนุนการสำารองและกู้คืนข้อมูล เพื่อให้แน่ใจด้านความปลอดภัยและ
  ความมั่นคงของข้อมูลในระบบ ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะกู้ขอมูลในฐาน้
  ข้อมูลคืนมาหลังจากระบบเกิดความล้มเหลว เช่น เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง
  เป็นต้น
 4.7 การควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะ
  สนับสนุนและควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ตั้งแต่ลดความซำ้าซ้อนของข้อมูล
  ไปจนถึงความไม่สอดคล้องกันของข้อมูล ความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เก็บไว้ใน
  พจนานุกรมข้อมูลจะถูกนำามาใช้ในการควบคุมความถูกต้องของข้อมูลด้วย
 4.8 ภาษาที่ใช้ในการเข้าถึงฐานข้อมูลและการเชื่อมต่อกับโปรแกรม
  ประยุกต์ ระบบการจัดการฐานข้อมูลสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลโดยผ่านภาษา
  คิวรี (query language) ซึ่งเป็นคำาสั่งที่ใช้ในการค้นคืนข้อมูลจากฐานข้อมูล
  โดยผู้ใช้เพียงบอกว่าต้องการอะไร และไม่จำาเป็นต้องรู้ว่ามีขนตอนอย่างไรใน
                                                              ั้
  การนำาข้อมูลออกมา เพราะระบบการจัดการฐานข้อมูลจะเป็นผู้กำาหนดวิธีการ
  ในการเข้าถึงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพเอง
 4.9 การติดต่อสื่อสารกับฐานข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลที่ทันสมัยจะ
5. ข้อดีของการใช้ฐานข้อมูล


 5. ข้อดีของการใช้ฐานข้อมูล
 เมื่อมีการนำาระบบการจัดการฐานข้อมูลมาใช้ เพื่ออำานวยความสะดวกในการ
  บันทึกข้อมูล แก้ไขปรับปรุงข้อมูล ค้นหาข้อมูล รวมทั้งกำาหนดผู้ที่ได้รับ
  อนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูล เป็นต้น ทำาให้ฐานข้อมูลมีข้อดีมากมาย ได้แก่
 5.1 ลดความจำาเจของงานดูแลเอกสาร ซึ่งเป็นงานประจำาที่ทำาให้ผู้ดูแลรู้สึกเบื่อ
  หน่าย และขาดแรงจูงใจ แต่เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานนี้
  แทนมนุษย์ได้ โดยผ่านโปรแกรมสำาหรับการจัดการฐานข้อมูล
 5.2 ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแล
  ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทำาให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับ
  เหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ
 5.3 ลดความซำ้าซ้อนในการจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากการจัดทำาฐานข้อมูลจะมี
  การรวบรวมข้อมูลประเภทต่างๆ เข้ามาจัดเก็บไว้ในระบบและเก็บข้อมูลเพียง
  ชุดเดียว ซึ่งทุกฝ่ายที่เกียวข้องจะสามารถเรียกใช้ขอมูลที่ต้องการได้  
                            ่                          ้
  เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทำาให้เกิดความรวดเร็วในการค้นหา
  และจัดเก็บข้อมูลด้วย
 5.4 หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้ เมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บในระบบฐาน
  ข้อมูล จะทำาให้ข้อมูลลดความซำ้าซ้อนลง คือ มีข้อมูลแต่ละประเภทเพียงหนึ่ง
  ชุดในระบบ ทำาให้ขอมูลที่เก็บได้ไม่ขดแย้งกันเอง ในกรณีที่
                        ้                ั
จำาเป็นต้องเก็บข้อมูลที่ซำ้าซ้อนกัน เพื่อสาเหตุบางประการ เช่น
 เพือความรวดเร็วในการประมวลผลข้อมูล ระบบจัดการฐาน
    ่
 ข้อมูลจะเป็นผู้ดูแลข้อมูลที่ซำ้ากันให้มีความถูกต้องตรงกัน
5.5 ใช้ข้อมูลร่วมกันได้ เนืองจากระบบการจัดการฐานข้อมูล
                            ่
 สามารถจัดให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้ข้อมูลในแฟ้มที่มีข้อมูล
 เดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงิน
 สามารถที่จะใช้ข้อมูลจากแฟ้มประวัติพนักงานในระบบฐาน
 ข้อมูลได้พร้อมกัน
5.6 ควบคุมมาตรฐานของข้อมูลได้ เมื่อข้อมูลต่างๆ ในหน่วยงาน
 ถูกรวบรวมเข้ามา ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถที่จะวาง
 มาตรฐานในการรับข้อมูล แสดงผลข้อมูล ตลอดจนการจัดเก็บ
 ข้อมูลได้ เช่น การกำาหนดรูปแบบของตัวเลขให้มีทศนิยม 2
 ตำาแหน่งสำาหรับค่าที่เป็นตัวเงิน การกำาหนดรูปแบบของการรับ
5.7 จัดทำาระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ ผู้บริหาร
 ระบบฐานข้อมูลสามารถกำาหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้
 ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะทำาการตรวจสอบ
 สิทธิในการทำางานกับข้อมูลทุกครั้ง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์ใน
      ์
 การเรียกดูข้อมูล   การลบข้อมูล  การปรับปรุงข้อมูล   และการ
 เพิมข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล
    ่
5.8 ควบคุมความถูกต้องของข้อมูลได้   ปัญหาเรื่องความขัดแย้ง
 กันของข้อมูลทีมีความซับซ้อน เป็นปัญหาหนึ่งในเรื่องความถูก
               ่
 ต้องของข้อมูล ซึ่งเมื่อได้มีการกำาจัดความซับซ้อนของข้อมูลออก
 ปัญหาเรื่องความถูกต้องของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อายุโดย
 ปกติของคนงาน ควรอยู่ระหว่าง 18 – 60 ปี ถ้าหากในระบบฐาน
 ข้อมูล ปรากฏมีพนักงานที่มีอายุ 150 ปีซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทาง
 ปฏิบัติทหน่วยงานจะมีการว่าจ้างคนงานที่มีอายุเกิน 60 ปี และ
         ี่
 อายุของคนในปัจจุบันไม่ควรเกิน 100 ปี ผู้บริหารระบบฐานข้อมูล
6. ข้อเสียของการใช้ฐานข้อมูล


 6. ข้อเสียของการใช้ฐานข้อมูล
 แม้ว่าการประมวลผลข้อมูลด้วยระบบการจัดการจัดการฐานข้อมูล จะมีข้อดีหลาย
  ประการ แต่ก็จะมีข้อเสียอยูบ้างดังต่อไปนี้
                                 ่
 6.1 เสียค่าใช้จายสูง เนื่องจากราคาของโปรแกรมทีใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูลจะ
                   ่                                  ่
  มีราคาค่อนข้างแพง รวมทังเครืองคอมพิวเตอร์ทมีประสิทธิภาพสูง คือ ต้องมีความเร็ว
                               ้   ่               ี่
  สูง มีขนาดหน่วยความจำาและหน่วยเก็บข้อมูลสำารองทีมความจุมาก ทำาให้ต้องเสียค่า
                                                        ่ ี
  ใช้จ่ายสูงในการจัดทำาระบบการจัดการฐานข้อมูล
 6.2 เกิดการสูญเสียข้อมูลได้ เนื่องจากข้อมูลต่างๆ ภายในฐานข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยูใน ่
  ทีเดียวกัน ดังนั้นถ้าทีเก็บข้อมูลเกิดมีปัญหา อาจทำาให้ต้องสูญเสียข้อมูลทั้งหมดในฐาน
    ่                      ่
  ข้อมูลได้ ดังนั้นการจัดทำาฐานข้อมูลที่ดีจงต้องมีการสำารองข้อมูลไว้เสมอ
                                            ึ
 สรุปท้ายบท
 การจัดเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลมีขอดีมากกว่าการแยกเก็บข้อมูลไว้ในแฟ้มข้อมูล
                                         ้
  แต่ละแฟ้ม เพราะเมือข้อมูลมีปริมาณมากๆ ถ้าเก็บข้อมูลไว้ในแฟ้มข้อมูลอาจจะทำาให้
                         ่
  เกิดความซับซ้อนกันของข้อมูลเมือมีการแก้ไขข้อมูลทีมีอยูหลายแฟ้มไม่ครบ จนทำาให้
                                       ่                 ่  ่
  ข้อมูลมีความขัดแย้งกันเอง แต่ถาเก็บข้อมูลไว้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล ซึงมีการ
                                     ้                                          ่
  จัดเก็บข้อมูลเพียงชุดเดียว จะทำาให้ลดความซำ้าซ้อนและความแตกต่างของข้อมูลได้
  จึงทำาให้ประหยัดพื้นทีในการจัดเก็บข้อมูลและเกิดความรวดเร็วในการค้นหาข้อมูลด้วย
                             ่
  ซึงโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่ Microsoft Access,
      ่
  Oracle, Informix, dBase, FoxPro, และ Paradox เป็นต้น โดยมีการจำาลองฐานข้อมูล
  เป็นแบบต่างๆ ได้แก่ แบบลำาดับชั้น แบบเครือข่าย เชิงสัมพันธ์ เชิงวัตถุ และเชิงวัตถุ -
  สัมพันธ์ ซึ่งขึนอยู่กบจำานวนของข้อมูลและความสลับซับซ้อนของการจัดเก็บข้อมูล ใน
                 ้     ั

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศบทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศSrion Janeprapapong
 
เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)
เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)
เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)Nicha Nichakorn
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
แบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศ
แบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศแบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศ
แบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศgchom
 
การทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาทการทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาทThitaree Samphao
 
โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1Ocean'Funny Haha
 
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูลใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูลThanawut Rattanadon
 
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558peter dontoom
 
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...Suricha Phichan
 
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...Suphot Chaichana
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานpacharawalee
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องPongtep Treeone
 

Mais procurados (20)

5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
 
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศบทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
 
ปกคำนำสารบัญ
ปกคำนำสารบัญปกคำนำสารบัญ
ปกคำนำสารบัญ
 
2 hormone p_lan
2 hormone p_lan2 hormone p_lan
2 hormone p_lan
 
ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์
 
เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)
เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)
เรื่องผ้าไหมมัดหมี่(IS2)
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
แบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศ
แบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศแบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศ
แบบบันทึกกิจกรรมระบบนิเวศ
 
สารบัญ.
สารบัญ.สารบัญ.
สารบัญ.
 
การทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาทการทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาท
 
การหาค่ากลางทั้ง3แบบ
การหาค่ากลางทั้ง3แบบการหาค่ากลางทั้ง3แบบ
การหาค่ากลางทั้ง3แบบ
 
โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1
 
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูลใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
 
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
 
กิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศกิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศ
 
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
 
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงาน
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 

Destaque

บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรSanyawadee
 
การจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลsa
 
บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูลบทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูลniwat50
 
การจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลการจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลWanphen Wirojcharoenwong
 
การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานSatapon Yosakonkun
 
ระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
ระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MISระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
ระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MISsiriporn pongvinyoo
 
Vejthani HR : People Soft Employee Self Service User Guild
Vejthani HR : People Soft Employee Self Service User GuildVejthani HR : People Soft Employee Self Service User Guild
Vejthani HR : People Soft Employee Self Service User Guildporche123
 
ลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูล
ลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูลลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูล
ลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูลปิยะดนัย วิเคียน
 
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรSanyawadee
 
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรSanyawadee
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1Sarun Kitcharoen
 
ระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self service
ระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self serviceระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self service
ระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self serviceIcezaa Chokmoa
 
คู่มือการใช้งานSpss
คู่มือการใช้งานSpssคู่มือการใช้งานSpss
คู่มือการใช้งานSpssprapapan20
 
ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล
ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล
ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลเลดี้ มาม่า
 
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสงระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสงUtai Sukviwatsirikul
 
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้นระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้นTophuto Piyapan
 

Destaque (20)

บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
 
การจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูล
 
บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูลบทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
 
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
 
การจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลการจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูล
 
การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
 
ระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
ระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MISระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
ระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
 
ข้อมูลข่าวสาร
ข้อมูลข่าวสารข้อมูลข่าวสาร
ข้อมูลข่าวสาร
 
แผงวงจรหลัก
แผงวงจรหลักแผงวงจรหลัก
แผงวงจรหลัก
 
Vejthani HR : People Soft Employee Self Service User Guild
Vejthani HR : People Soft Employee Self Service User GuildVejthani HR : People Soft Employee Self Service User Guild
Vejthani HR : People Soft Employee Self Service User Guild
 
ลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูล
ลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูลลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูล
ลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูล
 
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
 
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1
 
ระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self service
ระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self serviceระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self service
ระบบจัดเก็บแฟ้มทะเบียนประวัติพนักงาน Employee self service
 
คู่มือการใช้งานSpss
คู่มือการใช้งานSpssคู่มือการใช้งานSpss
คู่มือการใช้งานSpss
 
ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล
ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล
ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล
 
คู่มือการใช้งาน Desktop author
คู่มือการใช้งาน Desktop authorคู่มือการใช้งาน Desktop author
คู่มือการใช้งาน Desktop author
 
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสงระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
 
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้นระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐานข้อมูลเบื้องต้น
 

Semelhante a การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล

ระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูลระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูลchanoot29
 
ระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูลระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูลMareeyalosocity
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลYongyut Nintakan
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลYongyut Nintakan
 
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุลงานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุลchanoot29
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูลหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูลchaiwat vichianchai
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1nunzaza
 
Data processing
Data processingData processing
Data processingchukiat008
 
การพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง Intro
การพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง Introการพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง Intro
การพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง IntroJenchoke Tachagomain
 
นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5
นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5
นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5hattayagif
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณlovelovejung
 
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศOrapan Chamnan
 
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศOrapan Chamnan
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comLuckfon Fonew
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comlovelovejung
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comlovelovejung
 
หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์ น่านกร ม.5
หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์  น่านกร ม.5หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์  น่านกร ม.5
หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์ น่านกร ม.5palmyZommanow
 

Semelhante a การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล (20)

งานนำเสนอ..
งานนำเสนอ..งานนำเสนอ..
งานนำเสนอ..
 
ระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูลระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูล
 
ระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูลระบบฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูล
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุลงานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูลหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
Data processing
Data processingData processing
Data processing
 
การพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง Intro
การพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง Introการพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง Intro
การพัฒนาเอกสารออนไลน์ขั้นสูง Intro
 
นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5
นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5
นางสาว หัทยา เชื้อสมเกียรติ ม.5
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ
 
Db1
Db1Db1
Db1
 
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
 
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
 
Lesson 1
Lesson 1Lesson 1
Lesson 1
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
 
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 comนางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
นางสาว อรอนงค์ สุขาวรรณ ม.5 เลขที่ 16 com
 
หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์ น่านกร ม.5
หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์  น่านกร ม.5หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์  น่านกร ม.5
หน่วยที่ 1เรื่อง การจัดการข้อมูล ธนพงษ์ น่านกร ม.5
 

การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล

  • 1. การจัดเก็บข้อมูลที่มีปริมาณมากๆ ในระบบคอมพิวเตอร์โดยการ เก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลแต่ละแฟ้ม อาจเกิดปัญหาข้อมูลซำ้าซ้อนกัน เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่หลายแฟ้มข้อมูล จนทำาให้ข้อมูลมี ความขัดแย้งกันเอง จึงได้มีการเปลี่ยนการจัดเก็บข้อมูลให้อยู่ใน รูปของฐานข้อมูลแทนเพือความสะดวกในการบันทึกข้อมูล แก้ไข ่ ข้อมูล และค้นหาข้อมูล
  • 2. 1. ความหมายของฐานข้อมูลและระบบการจัดการฐานข้อมูล “ ฐานข้อมูล ” (database) หมายถึง การจัดรวบรวมข้อนิเทศหรือข้อมูล ของเรื่องต่างๆ ไว้ในรูปแบบที่จะเรียกมาใช้ได้ทันทีเมือต้องการ ในการ ่ เรียกนัน อาจเรียกเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมาใช้ประโยชน์เป็นครั้งเป็น ้ คราวก็ได้ ฐานข้อมูลที่ดควรจะได้รับการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ ี (ทักษิณา สวนานนท์, 2544, หน้า 154-155) นอกจากนี้ กิตติ ภักดีวัฒนะกุล (2547, หน้า 226) ยังได้สรุปความหมาย ของฐานข้อมูล ว่าคือ กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มความสัมพันธ์กันและถูกนำา ี มารวมกัน เช่น ฐานข้อมูลในบริษัทแห่งหนึ่งอาจประกอบไปด้วยแฟ้ม ข้อมูลหลายแฟ้มข้อมูล ซึ่งแต่ละแฟ้มต่างก็มความสัมพันธ์กัน ได้แก่ ี แฟ้มข้อมูลพนักงาน แฟ้มข้อมูลแผนกในบริษัท แฟ้มข้อมูลขายสินค้า และแฟ้มข้อมูลสินค้า เป็นต้น สรุปได้ว่า “ฐานข้อมูล” คือ การรวบรวมข้อมูลที่เราต้องการจะจัดเก็บ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กันหรือเป็นเรื่องเดียวกันไว้ดวยกัน เพือสะดวก ้ ่ ในใช้งาน “ระบบการจัดการฐานข้อมูล” (Data Base Management System:  DBMS) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพือรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ ่ เพือจะได้นำาไปเก็บรักษา เรียกใช้หรือนำามาปรับปรุงให้ทันสมัยได้งาย ่ ่
  • 3. นอกจากนี้ โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์ (2546, หน้า 29) ยังได้สรุปความ หมายของระบบการจัดการฐานข้อมูล ว่าคือ โปรแกรมที่ใช้เป็น เครื่องมือในการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งประกอบด้วยหน้าที่ต่างๆ ในการจัดการกับข้อมูล รวมทั้งภาษาที่ใช้ทำางานกับข้อมูล โดย มักจะใช้ภาษา SQL ในการโต้ตอบระหว่างกันกับผู้ใช้ เพือให้ ่ สามารถกำาหนดการสร้าง การเรียกดู การบำารุงรักษาฐานข้อมูล รวมทั้งการจัดการควบคุมการเข้าถึงฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็นการ ป้องกันความปลอดภัยในฐานข้อมูล เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ การใช้งานเข้ามาละเมิดข้อมูลในฐานข้อมูลที่เป็นศูนย์กลางได้ นอกจากนี้ DBMS ยังมีหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงและความ ปลอดภัยของข้อมูล การสำารองข้อมูล และการเรียกคืนข้อมูลใน กรณีที่ข้อมูลเกิดความเสียหาย สรุปได้วา “ระบบการจัดการฐานข้อมูล” คือ โปรแกรมที่ทำาหน้าที่ ่ ในการกำาหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล อำานวย ความสะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล กำาหนดผู้ที่ได้ รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูลได้ พร้อมกับกำาหนดด้วยว่าให้ใช้ได้
  • 4. 2. ประวัติความเป็นมาของระบบการจัดการฐานข้อมูล  2. ประวัติความเป็นมาของระบบการจัดการฐานข้อมูล  การจัดการฐานข้อมูลเริ่มต้นจากการที่องค์การบริหารการบินและอวกาศ สหรัฐอเมริกา หรือนาซาได้ว่าจ้างบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ออกแบบระบบเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการสำารวจดวงจันทร์ในโครงกา รอะพอลโล (โครงการอะพอลโลเป็นโครงการสำารวจอวกาศอย่างจริงจัง และมี การส่งมนุษย์ขนบนดวงจันทร์ได้สำาเร็จด้วยยานอะพอลโล 11) ได้พัฒนาระบบ ึ้ การดูแลข้อมูลเรียกว่า ระบบ GUAM ( Generalized Upgrade Access  Method) ซึ่งถือเป็นต้นกำาเนิดของระบบการจัดการฐานข้อมูล  ต่อมาบริษัท ไอบีเอ็ม ได้พัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลขึนมาใหม่เพื่อให้ ้ ใช้งานกับธุรกิจทั่วๆ ไปได้ เรียกว่า DL/I (Data Language/I ) จนในที่สุด ก็ได้กลายมาเป็นระบบ IMS ( Information Management System)  ในช่วงปี พ.ศ. 2525 มีการนำาระบบฐานข้อมูลเข้ามาใช้กับคอมพิวเตอร์อย่าง เต็มที่  ได้มีการคิดค้นและผลิตซอฟต์แวร์เกียวกับฐานข้อมูลออกมามากมาย ่ การเจริญเติบโตของการจัดการฐานข้อมูลรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับ ระบบคอมพิวเตอร์และมีการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้  ปัจจุบันได้มีการนำาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเก็บข้อมูล โดยใช้โปรแกรม สำาเร็จรูปทั่วไปโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเขียนโปรแกรมเอง เพียงแต่เรียนรู้คำาสั่งการ เรียกใช้ข้อมูลหรือการจัดการข้อมูล เช่น การป้อนข้อมูล การบันทึกข้อมูล การแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อมูล เป็นต้น
  • 5. ในอดีตยุคที่มีไมโครคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นแรกๆ โปรแกรม สำาเร็จรูปทางด้านการจัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้กันอย่าง แพร่หลาย คือ Personal Filling System) ต่อมาได้มี โปรแกรมฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายโปรแกรม เช่น Datastar  DB Master และ dBASE II เป็นต้นโดยเฉพาะโปรแกรม dBASE II ได้รับความนิยมมาก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2528 ผู้ ผลิตได้สร้าง dBASE III Plus ออกมาซึ่งสามารถจัดการฐาน ข้อมูลแบบสัมพันธ์ (relational) เชื่อมโยงแฟ้มข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน ค้นหา และนำามาสร้างเป็นรายงานตามความ ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว ต่อมาได้มีการสร้าง โปรแกรม สำาเร็จรูปเกียวกับฐานข้อมูลออกมา เช่น FoxBASE,  ่ FoxPro, Microsoft Access และ Oracle เป็นต้น
  • 6. 3. องค์ประกอบของระบบการจัดการฐานข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลประกอบด้วยส่วนสำาคัญหลักๆ 5 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล กระบวนการทำางาน  และ บุคลากร ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 3.1 ฮาร์ดแวร์ (hardware) หมายถึง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลและประมวลผลข้อมูล ซึ่งอาจประกอบด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่หนึ่งเครืองขึ้นไป หน่วยเก็บข้อมูลสำารอง ่ หน่วยนำาเข้าข้อมูล และหน่วยแสดงผลข้อมูล นอกจากนี้ยังต้องมี อุปกรณ์การสื่อสารเพื่อเชื่อมโยงอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เป็นต้น โดยเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่จะใช้เป็นอุปกรณ์สำาหรับประมวลผลข้อมูลในฐาน ข้อมูลนั้น สามารถเป็นได้ตั้งแต่เครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มินิ คอมพิวเตอร์ หรือไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าเป็นเครื่องเมนเฟรม คอมพิวเตอร์หรือมินิคอมพิวเตอร์ จะสามารถใช้ต่อกับเทอร์มินัล หลายเครื่อง เพือให้ผู้ใช้งานฐานข้อมูลหลายคน สามารถดึง ่
  • 7. ส่วนการประมวลผลฐานข้อมูลในเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์ สามารถทำาการประมวลผลได้ 2 แบบ แบบแรกเป็นการประมวล ผลฐานข้อมูลในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว โดย มีผู้ใช้งานได้เพียงคนเดียวเท่านั้น (single user) ทีสามารถดึง ่ ข้อมูลหรือปรับปรุงข้อมูลภายในฐานข้อมูลได้ สำาหรับแบบที่สอง จะเป็นการนำาไมโครคอมพิวเตอร์หลายตัวมาเชื่อมต่อกันใน ลักษณะของเครือข่ายระยะใกล้ (Local Area Network : LAN) ซึ่งเป็นรูปแบบของระบบเครือข่ายแบบลูกข่าย / แม่ข่าย (client / server network) โดยจะมีการเก็บฐานข้อมูลอยู่ที่เครือง ่ แม่ข่าย (server) การประมวลผลต่างๆ จะกระทำาที่เครืองแม่ข่าย ่ สำาหรับเครื่องลูกข่าย (client) จะมีหน้าที่ดึงข้อมูลหรือส่งข้อมูล เข้ามาปรับปรุงในเครื่องแม่ข่าย หรือคอยรับผลลัพธ์จากการ ประมวลผลของเครื่องแม่ข่าย ดังนั้นการประมวลผลแบบนี้จึง เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลายคนสามารถใช้งานฐาน ข้อมูลร่วมกันได้ ระบบฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพดีต้องอาศัยเครืองคอมพิวเตอร์ที่ ่
  • 8.  3.2 ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง โปรแกรมทีใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งมีการพัฒนา ่ เพือใช้งานได้กบเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์จนถึงเครื่องเมนเฟรม ซึ่งโปรแกรมแต่ละตัวจะมี ่ ั คุณสมบัตการทำางานที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรม จะต้องพิจารณาจาก ิ คุณสมบัตของโปรแกรมแต่ละตัวว่ามีความสามารถทำางานในสิงทีเราต้องการได้หรือไม่ อีกทังเรื่อง ิ ่ ่ ้ ราคาก็เป็นเรื่องสำาคัญ เนื่องจากราคาของโปรแกรมแต่ละตัวจะไม่เท่ากัน โปรแกรมทีมความ ่ ี สามารถสูงก็จะมีราคาแพงมากขึ้น นอกจากนี้ยงต้องพิจารณาว่าสามารถใช้ร่วมกับฮาร์ดแวร์ และ ั ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัตการทีเรามีอยู่ได้หรือไม่ ซึ่งโปรแกรมทีใช้ในการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่ ิ ่ ่ Microsoft Access, Oracle, Informix, dBase, FoxPro, และ Paradox เป็นต้น โดยโปรแกรมที่ เหมาะสำาหรับผู้เริ่มต้นฝึกหัดสร้างฐานข้อมูล คือ Microsoft Access เนื่องจากเป็นโปรแกรมใน Microsoft Office ตัวหนึ่ง ซึ่งจะมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว และการใช้งานก็ไม่ยากจนเกิน ไป แต่ผู้ใช้งานต้องมีพนฐานในการออกแบบฐานข้อมูลมาก่อน ื้  3.3 ข้อมูล (data) ระบบการจัดการฐานข้อมูลทีดีและมีประสิทธิภาพ ควรประกอบด้วยข้อมูลทีมี ่ ่ คุณสมบัตขั้นพืนฐานดังนี้ ิ ้  3.3.1 มีความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้จะทำาให้เกิดผล เสียอย่างมาก ผูใช้จะไม่กล้าอ้างอิงหรือนำาไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้การตัดสินใจของผู้ ้ บริหารขาดความแม่นยำา และอาจมีโอกาสผิดพลาดได้ โครงสร้างข้อมูลทีออกแบบต้องคำานึงถึง ่ กรรมวิธการดำาเนินงานเพือให้ได้ความถูกต้องแม่นยำามากทีสด โดยปกติความผิดพลาดของ ี ่ ่ ุ สารสนเทศส่วนใหญ่ มาจากข้อมูลทีไม่มีความถูกต้องซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากคนหรือเครื่องจักร ่ การออกแบบระบบการจัดการฐานข้อมูลจึงต้องคำานึงถึงในเรื่องนี้ด้วย  3.3.2 มีความรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำาเป็นต้องให้ทนต่อความต้องการของผู้ ั ใช้มีการตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ตีความหมายสารสนเทศได้ทนต่อเหตุการณ์หรือความ ั ต้องการ มีการออกแบบระบบการเรียกค้น และแสดงผลได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้  3.3.3 มีความสมบูรณ์ของข้อมูล ซึ่งขึนอยูกับการรวบรวมข้อมูลและวิธการปฎิบัตด้วย ในการ ้ ่ ี ิ ดำาเนินการจัดทำาข้อมูลต้องสำารวจและสอบถามความต้องการข้อมูล เพื่อให้ได้ขอมูลที่มความ ้ ี
  • 9. 3.3.4 มีความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำานวนมากจะต้อง ใช้พนที่ในการจัดเก็บข้อมูลมาก จึงจำาเป็นต้องออกแบบโครงสร้าง ื้ ข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้ มีการใช้รหัสหรือย่อข้อมูลให้ เหมาะสมเพือที่จะจัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ ่ 3.3.5 มีความสอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำาคัญ ดังนั้นจึง ต้องมีการสำารวจเพือหาความต้องการของหน่วยงานและองค์กร ดู ่ สภาพการใช้ข้อมูล ความลึกหรือความกว้างของขอบเขตของข้อมูลที่ สอดคล้องกับความต้องการ 3.4 กระบวนการทำางาน (procedures) หมายถึง ขั้นตอนการทำางาน เพือให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เช่น คู่มอการใช้งานระบบการจัดการ ่ ื ฐานข้อมูล ตั้งแต่การเปิดโปรแกรมขึนมาใช้งาน การนำาเข้าข้อมูล การ ้ แก้ไขปรับปรุงข้อมูล การค้นหาข้อมูล และการแสดงผลการค้นหา เป็นต้น 3.5 บุคลากร (people) จำาเป็นต้องเกี่ยวข้องกับระบบอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง บุคลากรที่ทำาหน้าที่ในการจัดการฐานข้อมูล มีดงต่อไปนี้ ั 3.5.1 ผูบริหารข้อมูล (data administrators) ทำาหน้าที่ในการกำาหนด ้ ความต้องการในการใช้ข้อมูลข่าวสารขององค์กร การประมาณขนาด
  • 10. 3.5.2 ผู้บริหารฐานข้อมูล (database administrators) ทำาหน้าที่ ในการบริหารจัดการ ควบคุม กำาหนดนโยบาย มาตรการ และ มาตรฐานของระบบฐานข้อมูลทั้งหมดภายในองค์กร ตัวอย่างเช่น กำาหนดรายละเอียดและวิธีการจัดเก็บข้อมูล กำาหนดควบคุมการ ใช้งานฐานข้อมูล กำาหนดระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล กำาหนดระบบสำารองข้อมูล และกำาหนดระบบการกูคืนข้อมูล้ เป็นต้น ตลอดจนทำาหน้าทีประสานงานกับผู้ใช้ นักวิเคราะห์ระบบ ่ และนักเขียนโปรแกรม เพื่อให้การบริหารระบบฐานข้อมูล สามารถดำาเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.5.3 นักวิเคราะห์ระบบ (systems analysts) มีหน้าที่ศึกษาและ ทำาความเข้าใจในระบบงานขององค์กร ศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น จากระบบงานเดิม และความต้องการของระบบใหม่ที่จะทำาการ พัฒนาขึ้นมา รวมทั้งต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจใน กระบวนการทำางานโดยรวมของทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อีก ด้วย 3.5.4 นักออกแบบฐานข้อมูล (database designers) ทำาหน้าที่นำา
  • 11. 3.5.5 นักเขียนโปรแกรม (programmers) มีหน้าที่รับผิด ชอบในการเขียนโปรแกรมประยุกต์เพื่อการใช้งานใน ลักษณะต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น การเก็บบันทึกข้อมูล และการเรียกใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล เป็นต้น 3.5.6 ผู้ใช้ (end-users) เป็นบุคคลที่ใช้ข้อมูลจากระบบฐาน ข้อมูล ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของระบบฐานข้อมูล คือ ตอบ สนองความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้ ดังนั้นในการ ออกแบบระบบฐานข้อมูลจึงจำาเป็นต้องมีผู้ใช้เข้าร่วมอยู่ใน กลุมบุคลากรที่ทำาหน้าที่ออกแบบฐานข้อมูลด้วย ่
  • 12.
  • 13. 4. หน้าที่ของระบบการจัดการฐานข้อมูล 4. หน้าที่ของระบบการจัดการฐานข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลมีหน้าที่สำาคัญๆ หลายอย่าง เพื่อ ให้เกิดความถูกต้องและสอดคล้องกันของข้อมูลภายในฐาน ข้อมูล ได้แก่ 4.1 การจัดการพจนานุกรมข้อมูล ระบบการจัดการฐาน ข้อมูลจะทำาการจัดเก็บนิยามของข้อมูล และความสัมพันธ์ ระหว่างข้อมูลไว้ในพจนานุกรมข้อมูล เป็นสารนิเทศที่บอก เกียวกับโครงสร้างของฐานข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ทั้งหมด ่ ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลจะต้องทำางานผ่านระบบ การจัดการฐานข้อมูล โดยที่ระบบจัดการฐานข้อมูลจะใช้ พจนานุกรมข้อมูล เพื่อค้นหาโครงสร้างตลอดจนส่วน ประกอบของข้อมูลและความสัมพันธ์ที่ต้องการ นอกจากนั้น แล้วการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีต่อโครงสร้างฐานข้อมูลจะถูก
  • 14. 4.2 การจัดเก็บข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะสร้าง โครงสร้างที่จำาเป็นต่อการจัดเก็บข้อมูล ช่วยลดความยุ่งยากใน การนิยามและการเขียนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทาง กายภาพของข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลในปัจจุบันไม่ เพียงแต่จะช่วยในการจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัด เก็บกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในการตรวจสอบบูรณภาพของข้อมูลอีก ด้วย 4.3 การแปลงและนำาเสนอข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะ ทำาหน้าที่ในการแปลงข้อมูลที่ได้รับเข้ามา เพือให้สอดคล้องกับ ่ โครงสร้างในการจัดเก็บข้อมูล ทำาให้เราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับ ความแตกต่างระหว่างรูปแบบของข้อมูลทางตรรกะและทาง กายภาพ กล่าวคือทำาให้มีความเป็นอิสระของข้อมูล ระบบการ จัดการฐานข้อมูลจะแปลงความต้องการเชิงตรรกะของผู้ใช้ ให้ เป็นคำาสั่งที่สามารถดึงข้อมูลทางกายภาพที่ต้องการ 4.4 การจัดการระบบความปลอดภัยของข้อมูล ระบบการจัดการ ฐานข้อมูลจะสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยการ
  • 15.  4.5 การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หลายคน ระบบการจัดการฐานข้อมูล จะใช้หลักการออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้หลายคน สามารถเข้าใช้ฐานข้อมูลพร้อมกันได้ และข้อมูลมีความถูกต้อง  4.6 การเก็บสำารองและกู้คืนข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะมีโปรแกรม เพื่อสนับสนุนการสำารองและกู้คืนข้อมูล เพื่อให้แน่ใจด้านความปลอดภัยและ ความมั่นคงของข้อมูลในระบบ ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะกู้ขอมูลในฐาน้ ข้อมูลคืนมาหลังจากระบบเกิดความล้มเหลว เช่น เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง เป็นต้น  4.7 การควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะ สนับสนุนและควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ตั้งแต่ลดความซำ้าซ้อนของข้อมูล ไปจนถึงความไม่สอดคล้องกันของข้อมูล ความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เก็บไว้ใน พจนานุกรมข้อมูลจะถูกนำามาใช้ในการควบคุมความถูกต้องของข้อมูลด้วย  4.8 ภาษาที่ใช้ในการเข้าถึงฐานข้อมูลและการเชื่อมต่อกับโปรแกรม ประยุกต์ ระบบการจัดการฐานข้อมูลสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลโดยผ่านภาษา คิวรี (query language) ซึ่งเป็นคำาสั่งที่ใช้ในการค้นคืนข้อมูลจากฐานข้อมูล โดยผู้ใช้เพียงบอกว่าต้องการอะไร และไม่จำาเป็นต้องรู้ว่ามีขนตอนอย่างไรใน ั้ การนำาข้อมูลออกมา เพราะระบบการจัดการฐานข้อมูลจะเป็นผู้กำาหนดวิธีการ ในการเข้าถึงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพเอง  4.9 การติดต่อสื่อสารกับฐานข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลที่ทันสมัยจะ
  • 16. 5. ข้อดีของการใช้ฐานข้อมูล  5. ข้อดีของการใช้ฐานข้อมูล  เมื่อมีการนำาระบบการจัดการฐานข้อมูลมาใช้ เพื่ออำานวยความสะดวกในการ บันทึกข้อมูล แก้ไขปรับปรุงข้อมูล ค้นหาข้อมูล รวมทั้งกำาหนดผู้ที่ได้รับ อนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูล เป็นต้น ทำาให้ฐานข้อมูลมีข้อดีมากมาย ได้แก่  5.1 ลดความจำาเจของงานดูแลเอกสาร ซึ่งเป็นงานประจำาที่ทำาให้ผู้ดูแลรู้สึกเบื่อ หน่าย และขาดแรงจูงใจ แต่เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานนี้ แทนมนุษย์ได้ โดยผ่านโปรแกรมสำาหรับการจัดการฐานข้อมูล  5.2 ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแล ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทำาให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับ เหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ  5.3 ลดความซำ้าซ้อนในการจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากการจัดทำาฐานข้อมูลจะมี การรวบรวมข้อมูลประเภทต่างๆ เข้ามาจัดเก็บไว้ในระบบและเก็บข้อมูลเพียง ชุดเดียว ซึ่งทุกฝ่ายที่เกียวข้องจะสามารถเรียกใช้ขอมูลที่ต้องการได้   ่ ้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทำาให้เกิดความรวดเร็วในการค้นหา และจัดเก็บข้อมูลด้วย  5.4 หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้ เมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บในระบบฐาน ข้อมูล จะทำาให้ข้อมูลลดความซำ้าซ้อนลง คือ มีข้อมูลแต่ละประเภทเพียงหนึ่ง ชุดในระบบ ทำาให้ขอมูลที่เก็บได้ไม่ขดแย้งกันเอง ในกรณีที่ ้ ั
  • 17. จำาเป็นต้องเก็บข้อมูลที่ซำ้าซ้อนกัน เพื่อสาเหตุบางประการ เช่น เพือความรวดเร็วในการประมวลผลข้อมูล ระบบจัดการฐาน ่ ข้อมูลจะเป็นผู้ดูแลข้อมูลที่ซำ้ากันให้มีความถูกต้องตรงกัน 5.5 ใช้ข้อมูลร่วมกันได้ เนืองจากระบบการจัดการฐานข้อมูล ่ สามารถจัดให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้ข้อมูลในแฟ้มที่มีข้อมูล เดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงิน สามารถที่จะใช้ข้อมูลจากแฟ้มประวัติพนักงานในระบบฐาน ข้อมูลได้พร้อมกัน 5.6 ควบคุมมาตรฐานของข้อมูลได้ เมื่อข้อมูลต่างๆ ในหน่วยงาน ถูกรวบรวมเข้ามา ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถที่จะวาง มาตรฐานในการรับข้อมูล แสดงผลข้อมูล ตลอดจนการจัดเก็บ ข้อมูลได้ เช่น การกำาหนดรูปแบบของตัวเลขให้มีทศนิยม 2 ตำาแหน่งสำาหรับค่าที่เป็นตัวเงิน การกำาหนดรูปแบบของการรับ
  • 18. 5.7 จัดทำาระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ ผู้บริหาร ระบบฐานข้อมูลสามารถกำาหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะทำาการตรวจสอบ สิทธิในการทำางานกับข้อมูลทุกครั้ง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์ใน ์ การเรียกดูข้อมูล   การลบข้อมูล  การปรับปรุงข้อมูล   และการ เพิมข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล ่ 5.8 ควบคุมความถูกต้องของข้อมูลได้   ปัญหาเรื่องความขัดแย้ง กันของข้อมูลทีมีความซับซ้อน เป็นปัญหาหนึ่งในเรื่องความถูก ่ ต้องของข้อมูล ซึ่งเมื่อได้มีการกำาจัดความซับซ้อนของข้อมูลออก ปัญหาเรื่องความถูกต้องของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อายุโดย ปกติของคนงาน ควรอยู่ระหว่าง 18 – 60 ปี ถ้าหากในระบบฐาน ข้อมูล ปรากฏมีพนักงานที่มีอายุ 150 ปีซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทาง ปฏิบัติทหน่วยงานจะมีการว่าจ้างคนงานที่มีอายุเกิน 60 ปี และ ี่ อายุของคนในปัจจุบันไม่ควรเกิน 100 ปี ผู้บริหารระบบฐานข้อมูล
  • 19. 6. ข้อเสียของการใช้ฐานข้อมูล  6. ข้อเสียของการใช้ฐานข้อมูล  แม้ว่าการประมวลผลข้อมูลด้วยระบบการจัดการจัดการฐานข้อมูล จะมีข้อดีหลาย ประการ แต่ก็จะมีข้อเสียอยูบ้างดังต่อไปนี้ ่  6.1 เสียค่าใช้จายสูง เนื่องจากราคาของโปรแกรมทีใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูลจะ ่ ่ มีราคาค่อนข้างแพง รวมทังเครืองคอมพิวเตอร์ทมีประสิทธิภาพสูง คือ ต้องมีความเร็ว ้ ่ ี่ สูง มีขนาดหน่วยความจำาและหน่วยเก็บข้อมูลสำารองทีมความจุมาก ทำาให้ต้องเสียค่า ่ ี ใช้จ่ายสูงในการจัดทำาระบบการจัดการฐานข้อมูล  6.2 เกิดการสูญเสียข้อมูลได้ เนื่องจากข้อมูลต่างๆ ภายในฐานข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยูใน ่ ทีเดียวกัน ดังนั้นถ้าทีเก็บข้อมูลเกิดมีปัญหา อาจทำาให้ต้องสูญเสียข้อมูลทั้งหมดในฐาน ่ ่ ข้อมูลได้ ดังนั้นการจัดทำาฐานข้อมูลที่ดีจงต้องมีการสำารองข้อมูลไว้เสมอ ึ  สรุปท้ายบท  การจัดเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลมีขอดีมากกว่าการแยกเก็บข้อมูลไว้ในแฟ้มข้อมูล ้ แต่ละแฟ้ม เพราะเมือข้อมูลมีปริมาณมากๆ ถ้าเก็บข้อมูลไว้ในแฟ้มข้อมูลอาจจะทำาให้ ่ เกิดความซับซ้อนกันของข้อมูลเมือมีการแก้ไขข้อมูลทีมีอยูหลายแฟ้มไม่ครบ จนทำาให้ ่ ่ ่ ข้อมูลมีความขัดแย้งกันเอง แต่ถาเก็บข้อมูลไว้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล ซึงมีการ ้ ่ จัดเก็บข้อมูลเพียงชุดเดียว จะทำาให้ลดความซำ้าซ้อนและความแตกต่างของข้อมูลได้ จึงทำาให้ประหยัดพื้นทีในการจัดเก็บข้อมูลและเกิดความรวดเร็วในการค้นหาข้อมูลด้วย ่ ซึงโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่ Microsoft Access, ่ Oracle, Informix, dBase, FoxPro, และ Paradox เป็นต้น โดยมีการจำาลองฐานข้อมูล เป็นแบบต่างๆ ได้แก่ แบบลำาดับชั้น แบบเครือข่าย เชิงสัมพันธ์ เชิงวัตถุ และเชิงวัตถุ - สัมพันธ์ ซึ่งขึนอยู่กบจำานวนของข้อมูลและความสลับซับซ้อนของการจัดเก็บข้อมูล ใน ้ ั