1. PRESENT
E1 YOUTUBE
1/17

2. Youtube
Youtube คือเว็บไซต์ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี โดยนำ
เทคโนโลยีของ Adobe Flash Playerมาใช้ในการแสดงภาพวิดีโอ โดยผู้ใช้สามารถ
เข้าดูวีดีโอต่างๆ พร้อมทั้งเป็นผู้อัปโหลดวีดีโอ ผ่าน Youtube ได้ฟรี เมื่อสมัคร
สมาชิกแล้วผู้ ใช้จะสามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป แบ่งปันภาพวิดีโอให้คนอื่นดูด้วย แต่
หากไม่ได้สมัครสมาชิกก็สามารถเข้าไปเปิดดูภาพวิดีโอที่ผู้ใช้คนอื่นๆ ใส่ไว้ใน
Youtube ได้ แต่ไม่สามารถเป็นผู้อัปโหลดวีดีโอได้

3. Obvious problem
-ปัญหาที่ลูกค้าส่วนใหญ่พูดถึงเยอะจะเกี่ยว
กับการที่ Youtube มีโฆษณาเยอะ
-ลูกค้าไม่สมัคร Youtube Premium
เพราะคิดว่าไม่คุ้ม
-Youtube Premium ราคา แพง ไม่คุ้ม

4. Real Problem
-ลูกค้าที่สมัครเป็นประจำ เป็นคนที่ใช้ Youtube เป็นประจำจึง
เลือกสมัคร Youtube Premium เพราะไม่ต้องการให้มีโฆษณา
มารบกวนระหว่างการดูคอนเทนต์ต่างๆ และยังสามารถฟังหรือออก
ไปเล่นApplication อื่นๆอีกด้วย ทั้งที่แบบธรรมดาไม่สามารถทำได้
—ลูกค้าที่เลือกใช้ฟรี ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้รู้สึกว่าการสมัคร
Premium ไม่คุ้มค่าเพราะมองว่าราคาแพงไม่ได้มี Content อะไร
เพิ่มจากเดิมที่พิเศษจริงๆและหาดูจากที่อื่นไม่ได้

5. Winning Zone

6. 12/17
เพิ่มฟีเจอร์ที่มีการจับมือร่วมกับยูทูปเบอร์ที่มียอดติดตามเยอะเป็นอันดับต้นๆ เพื่อเปิดเป็นฟีเจอร์รวมที่
ไม่สามารถหารับชทจากแพลตฟอร์มอื่นได้ โดยการคิดคอนเทนต์ที่พิเศษสุดๆ และมีการโปรโมทผ่าน
ช่องทางYoutube Shorts เป็นคลิปสั้นๆที่คนใช้แบบฟรีสามารถดูได้ก่อน แต่ถ้าจะดูฉบับเต็มคุณ
ต้องสมัคร Youtube Premium เท่านั้น และนอกจากจะได้รับชมคอนเทนต์ที่พิเศษและหาดูจากที่อื่น
ไม่ได้ ยังได้รับสิทธิพิเศษที่กล่าวข้างต้นเพิ่มอีกด้วย

7. 12/17
และสิทธิพิเศษ YouTube พอยท์
คือถ้าลูกค้าสมัครPremium ครบทุกๆ 6 เดือน จะสามารถนำพอยท์มาแลกเป็นส่วนลดราคาเต็มได้10% ของเดือนถัดไป

8. 8/17
คู่แข่ง Youtube

9. 8/17
คู่แข่ง Youtube
VS
VS
VS
Winning Zone
Youtube
-เพิ่มการสร้าง Content ดีๆที่พิเศษและ
แตกต่างเพราะ Youtube มีCommunity
ที่มีการสร้าง Content และ user มี
engagement ต่อ platform สูงมากๆอยู่
แล้ว ซึ่งถ้าเรานำความแข็งแกร่งตรงนี้มา
ผสมกับการสร้าง Content เราอาจจะชนะ
Netflix ได้ในอนาคต

10. 8/17
คู่แข่ง Youtube
VS
VS
VS
Winning Zone
Youtube shorts
-เพิ่มการกดกรอหรือหยุดในวิดีโอได้
-สามารถกดบันทึกไว้ดูภายหลัง
และสร้างเป็นคอลเลคชั่นไว้ภายหลังได้
-เพิ่มการปรับแต่งความงามใบหน้าและฟิล
เตอร์ให้แตกต่างมากขึ้น

11. 8/17
คู่แข่ง Youtube
VS
VS
VS
Winning Zone
Youtube music
-ปรับในด้านคุณภาพเสียงให้เทียบเคียงหรือดี
กว่า Spotify
เพราะYoutube มีฟีเจอร์ที่ข่ม Spotify
หรือjoox อยู่แล้วคือการผสมระหว่าง Music
Videos กับ Music Streming ทำให้ผู้ใช้
สามารถเลือกได้ว่าจะฟังอย่างเดียวหรือทั้งดู
ทั้งฟัง

12. พัฒนาและเติมเต็มในส่วนที่ลูกค้าควรได้รับเพิ่มและรู้สึกคุ่มค่าอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นตอนแรกที่คนสมัคร
Youtube Premium อาจจะได้รับสิทธิพิเศษที่มากอยู่แล้วแต่เราก็มองหาสิ่งที่ลูกค้าควรจะได้และแตกต่าง
รู้สึกคุ้มค่ากว่าเดิมที่จะใช้งานเราในระยะยาวไปอีก เช่นการปรับคุณภาพวิดีโอให้สูงกว่าเดิม การได้รับContent
ที่พิเศษ หรือสิทธิส่วนลดต่างๆจากเดิม
Red Ocean
แข่งกับลูกค้าเดิม
4/17

13. ในปัจจุบันบางกลุ่มคนชอบดูอะไรที่ไม่ยืดเยื้อสั้นเข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ คนบางส่วนเลยอาจจะหนีการรับชมของ
เราไปดูหรือค้นหาจากของคู่แข่งเช่น TikTok เพราะเนื้อหาบางวิดีโอสามารถดูและทำให้เข้าใจสั้นๆได้ เราจึงมี
การคิดว่าควรปรับจุดที่เราอาจจะยังตอบสนองได้ไม่ครบเช่นมการกดบันทึกหรือสร้างคอลเลคชั่นไว้ภายหลัง
ได้ของ Youtube shorts เพิ่มฟีเจอร์ใบหน้าสวย ฟิตเตอร์ที่แตกต่าง ให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดคนหันกลับมาดู
ของเรา โดยที่เป็น 2In1 สามารถดู Content ที่พิเศษเป็นวิดีโอยาวและยังสามารถดูวิดีโอสั้นที่เลื่อนดูได้
เพลินๆ โดยครบจบในแอพเดียว
Blue Ocean
แข่งกับลูกค้าที่ทิ้งเราไป
4/17

14. จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยประชากรศาสตร์ใน
ด้าน เพศ อายุ อาชีพ สถานภาพและรายได้เฉลี่ย
ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันแต่มีผลในการตัดสินใจเลือก
ซื้อ Youtube Premium และองค์ประกอบทัศนคติ
ในด้านความรู้ ความรู้สึกและด้านพฤติกรรมในชีวิต
ประจำวันก็ส่งผลในการเป็นตัวประกอบการตัดสินใจ
ในการเลือกซื้อ Youtube Premium เช่นกัน
ข้อมูลทุติยภูมิ (Desk Research)
https://3m-it.ru.ac.th/journals/it14/6114193051%20บทความ%20จตุรพร%20เกิดแย้ม.pdf

15. ข้อมูลปฐมภูมิจาก
แบบสอบถาม
รายได้เฉลี่ยต่อเดือนนั้นจะอยู่ที่ไม่เกิน10,000บาทอยู่ที่
58.8% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องมีฐานเงินเดือนที่สูงมากก็
สามารถที่จะใช้งายแอปพลิเคชั่น Youtube ได้ เพราะYoutube
นั้นสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบที่ฟรีและเสียตัง
จากประสบการณ์การใช้งานผู้คนเกือบ100% ใช้
งานyoutube มามากกว่า2ปี เพราะเป็นแอปพลิเคชั่นที่
ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

16. ข้อมูลปฐมภูมิจาก
แบบสอบถาม
ประเภทของสื่อที่ผู้คนมักเปิดรับส่วนใหญ่ก็คือเพลง
เพราะYoutube คือแพลตฟอร์มที่มีเพลงจากทั่วโลกจะลงมิวสิก
วิดีโอไว้ในนี้ ทั้งเพื่อเป็นการวัดความนิยมจากยอกผู้เข้ารับชม
ผู้คนจึงมักเปิดรับสื่อที่เป็นเพลงในแอปพลิเคชั่น Youtube กัน
ค่อนข้างมาก และรองลงมาก็คือรายการ เพราะไม่ว่าจะเป็น
รายการจากยูทูปเบอร์ , รายการทีวี ก็มักที่จะลงในYoutube ต่อ
มาก็คือสตรีมมิ่ง มีอยู่เพียง 7.8% เพราะเป็นสิ่งที่มีแอปพลิเคชั่
นอื่นที่เป็นแอปพลิเคชั่นเฉพาะด้านนั้นที่มุ่งเน้นในการทำสื่อสตรีม
มิ่งโดยเฉพาะ และอันดับที่น้อยที่สุดก็คือละคร เพราะส่วนมาก
ละครหรือว่าซีรี่ย์คือสิ่งที่มักจะไปอยู่ในแอปพลิเคชั่นอื่นๆที่ต้อง
ทำการชำระเงินถึงจะเข้าดูได้

17. ข้อมูลปฐมภูมิจาก
แบบสอบถาม
74.,5% เลือกเปิดรับชมได้ทุกวัน เพราะส่วนใหญ่ผู้คนมักจะ
เปิดแอปพลิเคชั่นนี้เพื่อฟังเพลงและทำให้รู้สึกผ่อนคลายซึ่ง
สามารถเปิดรับสื่อได้ไม่ว่าจะเป็นวันใดก็ตาม
ผู้คนส่วนใหญ่เปิดรับสื่อผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งแสดงให้เห็นถึง
การที่แอปพลิเคชั่น Youtube คือสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
สามารถเปิดรับสื่อได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

18. ข้อมูลปฐมภูมิจาก
แบบสอบถาม
ข้อเสนอแนะ เกิน50% มักมีเสียงวิจารณ์ออกมาว่าแอปพชิ
เคชั่น youtube มีโฆษณามากเกินไป และมีราคาในการสมัค
รพรีเมี่ยมที่ค่อนข้างสูงต่อเดือน ซึ่งในความเป็นจริงถ้าเทียบ
กับแอปพลิเคชั่นอื่นๆที่เป็น OTT แพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย
กันนั้น Youtube ถือว่ามีราคาที่ใกล้เคียงกับแอปพลิเคชั่
นอื่นๆ แต่ว่าการที่สมัครพรีเมี่ยมของYoutube จะได้สิทธิ
ประโยชน์เพียงแค่จะไม่มีโฆษณามาคั้นระหว่างคลิปเท่านั้น
ในขณะที่แอปพลิเคชั่นอื่นๆมีสิทธิพิเศษมากมาย เช่น มีสื่อ
อื่นๆให้รับชมมากขึ้น , มีสิ่งที่ไม่สามารถรับชมได้จากที่อื่นให้
ได้รับชมได้เพียงแค่ในแอปพลิเคชั่นนี้เท่านั้น เป็นต้น

19. ข้อมูลปฐมภูมิจาก
แบบสอบถาม
สรุปความเห็นโดยรวม ผู้คนมองว่าyoutube มีเนื้อหาที่
หลากหลาย แต่ youtubeเป็นแพลตฟอร์มที่มีโฆษณาเยอะ
จนเกินไปและมีสิ่งที่ควรมีการอัพเดทและปรับปรุง ซึ่งส่วน
ใหญ่ผู้คนมักรู้สึกหงุดหงิดใจกับโฆษณาค่อนข้างมาก

20. ข้อมูลปฐมภูมิจากการ
สอบถามUser โดยตรง

21. ข้อมูลปฐมภูมิจากการ
สอบถามUser โดยตรง

22. ข้อมูลปฐมภูมิจากการ
สอบถามUser โดยตรง

23. ข้อมูลจากการใช้ Zocial Listening ของ
โปรแกรม Zocail Eye
Channel
ประมาณ 23,000
Main Keywords
87,426 (45.87%)
Sub Keywords
ราคา (66.67%)
โปรโมชั่น (33.33%)

24. ข้อมูลจากการใช้ Zocial Listening ของ
โปรแกรม Zocail Eye
Main keyword
มีการพูดถึงyoutubeมาก
ที่สุด(67.12%)

25. ข้อมูลจากการใช้ Zocial Listening ของ
โปรแกรม Zocail Eye
Sub keyword
มีคนพูดถึง ยูทูปพรีเมี่ยมอยู่ที่อันดับ
ที่4 (11.42%)
ยูทูป+mv เป็นอันดับที่5 (4.46%)
#ยูทูป เป็นอันดับที่8 (2.73%)
และ ยูทูป+รายการ เป็นอันดับที่9
(1.09%)

26. ข้อมูลจากการใช้ Zocial Listening ของ
โปรแกรม Zocail Eye
ผู้คนที่คอมเม้นต์เกี่ยว
กับYoutube ส่วนใหญ่จะ
เป็นเพศชาย(อยู่ที่61.16%)

27. ข้อมูลจากการใช้ Zocial Listening ของ
โปรแกรม Zocail Eye
คำที่ซ้ำกันมากที่สุดคือคำ
ว่า "ข่าว" และคำอื่นๆที่เป็น
รองลงมาก็จะเป็นคำที่
เกี่ยวกับข่าวอีกเช่นกัน
แฮชแท็กที่เจอเยอะที่สุดก็
เป็นสิ่งที่เกี่ยวกับข่าวอีก
เช่นกัน

28. ข้อมูลจากการใช้ Zocial Listening ของ
โปรแกรม Zocail Eye
ความคิดเห็น
จากมากไปน้อย
-Neutral
-Positive
-Negative
Top site
Youtube.com
20,907 (14.53%)

29. Insight
จากข้อมูล
information
- Youtube แอปพลิเคชั่นที่มุ่งเน้นให้บริการแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี
ซึ่งก็จะมีข้อจำกัดหลายๆอย่าง เช่น ไม่สามารถที่จะนำหนังหรือว่าซีรี่ย์บางเรื่องมาลงได้
เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานฟรีได้ หรือจะเสียเงินสมัครเป็นสมาชิกก็ได้
แต่สิทธิพิเศษจากการสมัครสมาชิกมีเพียงแค่จะไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างคลิปเท่านั้น
- Youtube เป็นแอปพลิเคชั่นที่เปิดให้ทุกคนสามารถลงคลิปวิดีโอของ
ตนเอง สามารถโปรโมทได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีโฆษณามาก และถ้ามองใน
มุมของกานแสวงหารายได้นั้น Youtube ได้รายได้จาก ผู้สมัครYoutubeพรี
เมี่ยม และเงินที่ได้จากการโฆษณา
- สิ่งที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกไม่ชอบใจที่Youtube มีโฆษณาเยอะและนานมากเกินไป ใน
ความเป็นจริงนั้น Youtube ถือว่าเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีโฆษณาไม่ได้เยอะมากถ้าเทียบกับแอป
พลิเคชั่นอื่นๆ(ที่ไม่เสียตัง) แต่ที่ผู้ใช้รู้สึกเช่นนั้นเป็นเพราะว่าความเคยชินของผู้บริโภค เพราะ
เริ่มแรก Youtube เคยเป็นแอปพลิเคชั่นที่ไม่มีโฆษณามาก่อน ทำให้ผู้ใช้เกิดความเคยชินแต่
เมื่อYoutubeได้ดึงให้มีการโฆษณาเข้ามาจึงก่อให้เกิดความไม่ชอบใจของผู้บริโภค รวมไปทั้งผู้
ใช้ส่วนใหญ่มักจะดูมิวสิกวิดีโอและฟังเพลง ซึ่งแต่ละเพลงมีเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 นาทีเท่านั้น จึง
ทำให้โฆษณามีความถี่มากกว่าแอปพลิเคชั่นอื่นๆที่จะเป็นซีรี่ย์ที่แบ่งเป็นพาร์ท โดยแต่ละพาร์ทมี
ความยาวอยู่ที่ประมาณ5-10นาที จึงทำให้ความถี่ของโฆษณานั้นต่ำกว่า