ความคงตัวของเภสัชภัณฑ์และการเก็บรักษา

A
Review Article


                            ความคงตัวของเภสัชภัณฑและการเก็บรักษา
นัยนา สันติยานนท*
กลุมวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
Corresponding author: naiyanap@swu.ac.th
                                                       §
Thai Pharm Health Sci J 2008;3(1):180-187

บทนํา
       §ผูปวยและญาติของผูปวยจํานวนไมนอยมีค วามเขาใจวา
                                                                               รา นยาใกล บาน มีเ พี ยงร อยละ 6 ของกลุ ม ตัว อยา งที่ไ ปพบ
การเก็บยาทุกชนิดไวในตูเย็นจะทําใหสามารถเก็บไวไดนาน                         แพทยที่โรงพยาบาลเมื่อ รูสึกไมสบาย และกลุม ตัวอยางที่ไ ป
ขึ้น โดยเฉพาะยาน้ําที่ใชในเด็ก จากการเก็บขอมูลการศึกษา                        ซื้อยาที่รานยาดว ยตนเองถึงรอยละ 70 ปรึ กษาเภสัชกร แต
นํารองในเรื่อง “การเก็บรักษายาที่ใชในเด็ก” ของผูนิพนธเอง                    กลุมตัวอยางสวนใหญไมใสใจการเก็บรักษายา ซึ่งวิธีการเก็บ
(อยูในระหวางการดําเนินการวิจัย) โดยใชแบบสอบถาม ถาม                           รักษายาที่ ผิดวิ ธีและไม เหมาะสมเป นอีก หนทางหนึ่งที่ ทําให
ผู ป ว ยหรื อ ญาติ ที่ ดู แ ลการใช ย าของเด็ ก ที่ ไ ด รั บ ยาจาก           อายุ ข องยาสั้ น ลง การเก็ บ รั ก ษายาที่ ถู ก ต อ งจะช ว ยรั ก ษา
โรงพยาบาล จํานวน 30 คน พบวา ผูตอบแบบสอบถามสวน                                คุณภาพของยา และชวยใหผูที่รับประทานยานั้นปลอดภัยและ
ใหญนํายาที่ไดรับจากโรงพยาบาลเก็บไวในตูเย็น โดยยาสวน                        ไมกอใหเกิด ผลขา งเคียง จากการศึกษาพฤติก รรมการเก็ บ
ใหญ ที่ เ ด็ก ได รั บคือ ยาลดไข ชนิ ดน้ํ า เชื่ อมมี ตั ว ยาสํ า คั ญ คื อ   รักษายาสามัญประจําบานของกลุมตัวอยางกลุมนี้ พบวารอย
พาราเซตามอล นอกจากนี้ยังพบวา การนํายาเก็บในตูเย็นนั้น                         ละ 41 ของกลุ ม ตัว อย างเก็บยาไว ใ นตู ย าที่แ ยกเป น สัด ส ว น
สวนใหญจ ะเก็บที่ฝ าเป ด-ป ดตู เย็ น และผูต อบแบบสอบถาม                    และอี ก ร อ ยละ 17 เก็ บ ยาไว ใ นกล อ งใส ย าหรื อ กระเป า ยา
สวนใหญตอบวายังไมสามารถระบุเวลาที่เก็บไวไดโดยบอกวา                        โดยเฉพาะ แตมีกลุมตัวอยางอีกกวารอยละ 27 ไมมีที่เก็บยาที่
อาจจะเก็บไวจนถึงวันหมดอายุ ผูตอบแบบสอบถามบางสวน                              แน น อน และ ร อ ยละ 15 เก็ บ ยาในลิ้ น ชั ก ตามตู ต า ง ๆ
ตอบวา จะเก็บไวไมเกิน 2 เดือน จากการเก็บรวบรวมขอมูล                          ผลการวิจัยนี้ ชี้ใหเห็นวาผูบริโภคไมไดใหความสําคัญและใสใจ
เบื้อ งต นนี้ ทําใหท ราบว า ผู ที่ดู แลการใช ยาในเด็ก นั้น ยังขาด          ตอการเก็บรักษายาเทาที่ควร ดังจะเห็นไดจากรอยละ 58 ของ
ความรูเรื่องการเก็บรักษายาโดยเฉพาะยาน้ํา ซึ่งจากขอมูลนี้                      กลุมตัวอยาง ที่มีตูย าหรือกลองใสยาที่แ ยกเปนสัดสวน แต มี
อาจจะเป น แนวทางให เ ภสั ช กรมี บ ทบาทในการให ข อ มู ล                      เพียงรอยละ 30 เทานั้น ที่มีการจัดหมวดหมูตามประเภทของ
เพิ่มเติมในเรื่องนี้ใหกับผูปวยหรือผูที่ดูแลผูปวย เพื่อใหผูปวย          ยา (ยาภายในและยาภายนอก) และร อ ยละ 11 ของกลุ ม
ใชยาไดปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น                                          ตัวอยางเทานั้นที่จัดแยกตามสรรพคุณของยา ในขณะที่สว น
                                                                                ใหญของกลุมตัวอยางที่มีตูยาหรือกลองใสยาโดยเฉพาะ (รอย
พฤติกรรมการบริโภคยาของผูปวย                                                   ละ 59) ไมมีการจัดแยกประเภทของยาอยางเปนหมวดหมู ซึ่ง
      ผลการศึกษาโดยบริษัท ฟารอีสท ดีดีบี จํากัด (มหาชน)1                      อาจกลา วได วา ผูบริโ ภคยั งไมค อยใสใ จกั บการเก็บรัก ษายา
ซึ่งเปนการศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของผูบริโภคตอการใช                         สามั ญประจํา บา นเทา ที่ค วร อย างไรก็ต ามการที่ ประชาชน
ยาสามั ญประจํ าบา น โดยได ทํา การสํา รวจผูบริโ ภคชายและ                      ยังคงปรึ กษาเรื่ อ งยากั บเภสั ชกรกว า 70% เป นโอกาสดี ที่
หญิงที่มีอายุระหวาง 15 - 30 ป จํานวน 200 คน ในเขต                             เภสัชกรจะให ข อมู ลการเก็ บรัก ษายาที่ถู กต อ งกั บประชาชน
กรุงเทพมหานคร และไดสัมภาษณแพทยและเภสัชกรเกี่ยวกับ                            หรื อ ผู ป ว ย เพื่ อ ให ก ารใช ย ามี ค วามปลอดภั ย และเกิ ด
การเก็บรักษายาสามัญประจําบานพบวา รอยละ 81 ของกลุม                           ประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอยางบรรเทาอาการเจ็บปวยของตัวเองดวยการซื้อยาจาก

§
    13th year of Srinakharinwirot Journal of Pharmaceutical Science


180                                                               Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
ความคงตัวของเภสัชภัณฑ2-10                                                    กายภาพของสวนประกอบตาง ๆ ในตํารับ ที่ไมเกี่ยวของกับ
         ความคงตัว ของยาหรื อเภสั ชภั ณ ฑมี ค วามสํา คั ญในทุ ก              การเปลี่ยนแปลงของตัวยาสําคัญ
ขบวนการที่เ กี่ย วขอ งกับยา เริ่ มตั้งแตข บวนการผลิ ต จนถึ ง                       4. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของตํารับ เชน ยาเม็ด
สภาวะการเก็บรักษายาในโรงงานที่ทําการผลิต ในรถที่ขนสง                         เปลี่ ย นสี ครี ม เกิ ด การแยกชั้ น ยาน้ํ า แขวนตะกอนเกิ ด การ
ในร านยา และในบ านของผู บริโ ภค เนื่ องจากยาที่ไ ดผลทาง                   ตกตะกอนและแขวนลอยไมได อีกเมื่อ เขยา ทําใหผู ปวยไม มี
เภสัชวิท ยาจะต องมีปริ มาณของยา ณ ตําแหนงเปา หมายใน                        ความมั่นใจในเภสัชภัณฑ แมวาประสิทธิภาพในการรักษาของ
ความเข ม ข น ที่ เ หมาะสม ถ า การเก็ บ รั ก ษาเภสั ช ภั ณ ฑ ไ ม          ยาจะไมเปลี่ยนไป
เหมาะสม ทํา ใหย าเกิด การสลายตั วมากกวา ที่ผู ผลิต คาดไว
จากการศึกษาวิจัย ก็จะทําใหผูปวยไดรับยานอยกวาที่คาดไว                   ปจจัยที่มีผลตอการสลายตัวของยา
สงผลใหปริมาณยาที่ตําแหนงเปาหมายต่ําเกินกวาที่จะไดผล                            ปจจัยหลายอยางมีผลตอความคงตัวของเภสัชภัณฑ รวม
ในการรักษา โดยเฉพาะในกรณีของโรคที่เปนอันตรายถึงชีวิต                         ตั้งแตตัวยาสําคัญ ปฏิกิริยาระหวางตัวยาสําคัญกับสารอื่น ๆ
การได รั บ ยาในขนาดที่ เ หมาะสมมี ค วามจํ า เป น อย า งยิ่ ง               ในตํารับ ขบวนการผลิต รูปแบบยาเตรียม ภาชนะบรรจุ ฝาปด
บางครั้ ง สารที่ เ กิ ด จากการสลายตั ว ของยาอาจก อ ให เ กิ ด                สภาวะแวดลอมทั้งในการขนสง ในการเก็บรักษาที่สถานที่จัด
อัน ตราย ในกรณี นี้ สภาวะในการเก็ บรั ก ษายาจึ งต อ งมี ก าร                 จําหน าย การเก็บรั กษาของผู ปวย และระยะเวลาตั้งแตผลิ ต
ควบคุมดูแลอยางดี                                                             จนถึงการใชผลิตภัณฑ
         คําว า “ความคงตัวของเภสัชภัณ ฑ” สื่ อความหมายได                          1. แสง
หลายอยาง ความหมายที่ใชกั นมากที่สุดคือ ความคงตัวทาง                                แสงอาจเรงใหยาสลายตัวเร็วขึ้นได การหลีกเลี่ยงแสงอาจ
เคมีของยาในตํารับ อยางไรก็ตามประสิทธิภาพของยาในเภสัช                         ทําโดยการใชภาชนะสีชาซึ่งสามารถลดรังสี UV ไดในปริมาณ
ภัณ ฑ ไม ไ ดขึ้ น อยูกั บปริ ม าณของตั ว ยาสํ า คัญ เท านั้ น แต ยั ง   มาก แสงเรงการสลายตัวของยาในรูปแบบของแข็ งแตกตา ง
ขึ้นกับคุณสมบัติทางเภสัชกรรมอื่น ๆ ดวย เชน ความแข็งของ                      จากการเรงการสลายตัวของยาในรูปแบบสารละลาย เนื่องจาก
ยาเม็ด อัตราเร็วในการแตกตัว และอัตราการละลาย เปนตน                          แสงเรงการสลายตัวของยาในรูปแบบของแข็งเฉพาะที่ผิวนอก
ดั ง นั้ น การตรวจสอบความคงตั ว ของยาจึ ง ต อ งรวมการ                        ความลึกที่แสงจะผานเขาไปถูกจํากัดดวยการดูดซึมและการ
ตรวจสอบคุณสมบัติ อื่นดวย และสอดแทรกอยูในทุกขั้นตอน                          สะทอ นของแสง ปจ จัย ที่มี ผลกระทบตอ การสลายตั วของยา
ของการผลิ ต และจั ด จํ า หน า ยเภสั ชภั ณ ฑ ระดั บยาต่ํ า สุ ด ที่          เนื่ องจากแสง ได แ ก ขนาดและพื้น ผิ วของอนุ ภาคยา สีแ ละ
ยอมรับโดยทั่วไปคือ รอยละ 90 ของปริมาณยาที่กําหนดไว                          โครงสรางผลึกยา ความหนาของตัว อยาง และสวนประกอบ
ดังนั้นวันหมดอายุของยาจึงหมายถึงเวลาที่ยาเตรียมยังคงตัว                       อื่นๆ ในตํารับ
อยูเมื่อเก็บภายใตสภาวะที่กําหนด                                                    2. ความชื้น
         ความไมคงตัวของยาซึ่งจะนําไปสูการปฏิเสธเภสัชภัณฑ                          ความชื้นเปนปญหาหลักหนึ่งที่ทําใหยาในรูปของแข็งไม
มี 4 ลักษณะคือ                                                                คงตัว ความชื้นอาจจับหรือไมจับกับยาก็ได เฉพาะความชื้นที่
         1. การสลายตั ว ทางเคมี ข องตั ว ยาสํ า คั ญ ซึ่ งจะทํ า ให          ไมจับกั บยาที่ มีผลตอ การสลายตัว ของยาที่ตองการความชื้ น
ปริมาณยาในเภสัชภัณฑลดลงในกรณีของยาที่มี therapeutic                          นอกจากยาแลว สารอื่นในตํารับอาจเปนแหลงของความชื้นได
index แคบ เชน digoxin และ theophylline มีความสําคัญมาก                       เช น กั น เช น แป ง ข า วโพด เจลาติ น microcrystalline
ที่ ป ริ ม าณยาในเภสั ช ภั ณ ฑ จ ะต อ งมากพอ เพื่ อ ที่ จ ะไ ด             cellulose, lactose hydrate, dicalcium phosphate
ผลการรักษาหลังจากที่ผูปวยไดรับเภสัชภัณฑนั้น                               dihydrate, sucrose, sorbitol และ magnesium stearate เปน
         2. สารที่ เ กิ ด จากการสลายตั ว ของยามี พิ ษ มากกว า ยา             ตน น้ําหรือความชื้น อาจเขา ทํา ปฏิกิ ริยาโดยตรงกับยา หรื อ
แม ว า การสลายตั ว ทางเคมี ข องยาจะไม ม ากนั ก เช น การ                   อาจกอใหเกิดชั้นของความชื้นซึ่งเอื้อตอการเกิดปฏิกิริยาในชั้น
สลายตัวของ tetracycline เปน epianhydrotetracycline และ                       ความชื้ น นี้ หรื อ ความชื้ น อาจมี ผ ลทั้ ง สองแบบ การเพิ่ ม
การสลายตัวของ p-aminosalicylic acid เปน m-aminophenol                        ความชื้น สัมพั ทธมั กเพิ่ มการสลายตัวของยาโดยเฉพาะยาที่
         3. ค ว า มไ ม ค ง ตั วข อ ง ย า นํ าไ ป สู ก า รล ด ล ง ข อ ง      เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันไดงาย นอกจากนี้การเพิ่มความชื้นยัง
bioavailability ซึ่งจะทําใหประสิทธิภาพการรักษาของยาลดลง                      อาจเร งขบวนการ aging โดยการทํ าปฏิกิริ ยากับสารอื่ นใน
มาก ป ญ หานี้ อ าจเกิ ด จากการเปลี่ ย นแปลงทางเคมี ห รื อ                    ตํารับ มีกรณีที่ความชื้นชวยลดการสลายตัวของยา แมจะพบ
                                                                              ไดนอยมาก เชน กรณีของ ergocalciferol

Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008                                                         181
3. อุณหภูมิ                                                          excessive heat คือ อุณหภูมิสูงกวา 40 °C
         ผูผลิตจะทํา การทดสอบความคงตั วของยาในสภาวะที่ มี                    protection from freezing ควรระบุในกรณีที่ภาชนะบรรจุ
สภาพรุนแรงกวาหรือเบากวาสภาพที่ยาตองสัมผัสจริงๆ เชน                   มีความเสี่ยงตอการแตก หรือยาเตรียมที่อาจสูญเสียความแรง
ที่อุณหภูมิ 40 °C / 75% relative humidity (RH) หรือเก็บใน                หรือมีการทําลายลักษณะของยาเตรียม เมื่อเก็บในสภาวะแช
ตูเย็นอุณหภูมิ 2 – 8 °C เปนตน เพื่อเปนแนวทางในการ                    แข็ง
กํ า หนดสภาวะการเก็ บยาว า เก็ บได ที่ อุ ณ หภู มิ ห อ ง (room             protection from moisture สภาวะความชื้นไมเกิน 60%
temperature) หรือในหองควบคุมอุณหภูมิ (controlled room                   RH
temperature) หรือในตูเย็น (refrigerator) ดังนั้นควรสังเกต                    ในกรณีที่ไมระบุสภาวะในการเก็บ สภาวะในการเก็บและ
ขอแนะนําในการเก็ บรักษาที่บงไวในเอกสารกํากับยาวาตอ ง                แจกจายเภสั ชภัณ ฑควรปอ งกั นความชื้ น การแชแข็ ง และที่
เก็บในสภาวะใด โดยเฉพาะการเก็บในตูเย็น (ที่อุณหภูมิ 2-8                  อุณหภูมิไมเกิน 40 °C
°C) ซึ่ ง ยาบางอย า งจะสลายตั ว ได เ ร็ ว มากถ า เก็ บ ไว ที่
อุณ หภูมิ ห อง เช น ยาหยอดตาคลอแรมเฟนิ คอล ถ า เก็ บใน                สภาวะในการเก็บรักษายา
ตูเย็นอุณหภูมิ 2 - 8 °C จะคงตัวไดถึง 18 เดือน แตถาเก็บที่                   การบรรจุ ย าในภาชนะที่ เ หมาะ สม และจั ด วางใน
อุณหภูมิหอง (18 - 25 °C) จะมีอายุไดแคประมาณ 4 เดือน                   สิ่งแวดลอมที่เหมาะสม จะชวยคงสภาพยาได การควบคุมและ
                                                                         จัดเก็บเภสัชภัณฑที่ไมถูกตอง อาจทําใหยาสลายตัวมากกวาที่
เทานั้น หรือยาฉีดอินซูลิน ถาเก็บที่ 2 - 8 °C จะมีอายุไดถึง 2
                                                                         คาดไว ซึ่งจะสงผลใหอ ายุการใชยาสั้นลง ซึ่งบริษัทผูผลิตยา
ป แตถาเก็บที่อุณหภูมิหองจะมีอายุไดแค 1 เดือน โดยเฉพาะ
                                                                         เปนผูกําหนดสภาวะในการจัดเก็บยาที่เหมาะสม และตองระบุ
ยาฉี ด ต อ งเก็ บในสภาวะที่ แ นะนํ า อย า งเคร งครั ด เพราะถ า
                                                                         ไวที่ ฉลากยา อยา งไรก็ต าม สภาวะการจัดเก็บยาที่ ดีไ มไ ด
ประสิท ธิ ภาพลดลงแล ว จะเปน อั นตรายต อ ผูปว ยเป นอย า ง
                                                                         ยืน ยัน ว ายาจะมี ความคงตัว ตลอดไป ทั้ งนี้ย ามีอ ายุก ารใช ที่
มาก แตในบางกรณีการเก็บยาที่อุณหภูมิต่ํา เชน นําไปเก็บใน
                                                                         จํากัด ไมควรเก็บเภสัชภัณฑเพื่อใชตลอดกาล เภสัชภัณฑทุก
ตู เ ย็ น ก็ จ ะมี ผ ลเสี ย เช น ยาน้ํ า จะเกิ ด การตกผลึ ก ของยาได
                                                                         ชนิดควรระบุวันหมดอายุของยาไวที่ฉลากดวย
ปริมาณยาลดนอยลงเมื่อนําไปใช

ความหมายของสภาวะอุณหภูมิที่ระบุในเภสัชตํารับ                             วิ ธี ก ารเก็ บ รั ก ษายาและบทบาทของเภสั ช กรที่
      freezer คือ สถานที่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิไวระหวาง -              เกี่ยวกับการเก็บรักษายาของผูปวย
20 °C ถึง -10 °C
                                                                         คําแนะนําทั่วไป
      cold คือ อุณหภูมิไมเกิน 8 °C
      refrigerator คื อ สถานที่ เ ย็ น (cold) ที่ มี ก ารควบคุ ม                1. หลีกเลี่ยงการเก็บยาในที่แสงสวางสองถึง ควรเก็บยา
                                                                         ในบริเวณที่เย็นและแหง เชน ในตูในหองครัวหรือในหองนอน
อุณหภูมิไวระหวาง 2 ถึง 8 °C
                                                                         ในที่ที่เด็กหยิบยาไมได ไมควรเก็บยาในหองน้ํา ไมควรเก็บยา
      cool คือ อุณหภูมิระหวาง 8 °C ถึง 15 °C ยาเตรียมที่                ในบริเ วณที่อุน และชื้ น และไมควรเก็บยาในตูเ ย็น ยกเวนยา
ระบุใหเก็บใน cool place อาจเก็บไวในตูเย็น ยกเวนกรณีที่มี
                                                                         บางชนิดที่มีการระบุใหเก็บในตูเย็น
การระบุเปนอยางอื่น                                                            2. ไม ค วรเก็ บยาต า งชนิ ด กั น รวมกั น ในภาชนะบรรจุ
      room temperature คือ อุณหภูมิใ นสภาวะการทํ างาน                    เดียวกัน ควรเก็บยาในภาชนะบรรจุที่ไดรับมาจากบริษัทผูผลิต
ปกติ
                                                                         (original container) หรือจากสถานพยาบาล ปดฝาใหสนิ ท
      controlled room temperature คือ อุณหภูมิระหวาง 20                 เมื่อไมไดใชยา ไมควรดึงฉลากยาออก เนื่องจากที่ฉลากยามี
°C ถึง 25 °C เมื่อนํามาคํานวณ mean kinetic temperature                   ขอมูลการใชยาและขอมูลที่จําเปน
จะไดไมเกิน 25 °C โดยอยูระหวาง 15 °C ถึง 30 °C ยา                            3. เพื่อปองกันการผิดพลาด ไมควรใชยาในที่มืด ควรอาน
เตรี ยมที่ มีก ารระบุ ใหเ ก็บที่ controlled room temperature            ฉลากกอนใชยาเสมอ และควรสังเกตวันหมดอายุของยาดวย
หรือเก็บที่อุณหภูมิไมเกิน 25 °C อาจเก็บใน cool place ก็ได                     4. ในกรณี ที่แ พทย บอกให ผูปวยหยุด ใช ยา ผูปวยควร
นอกจากจะระบุเปนอยางอื่น                                                ปรึกษาแพทยวาจะเก็บยาที่เหลือไวใชไดอีกหรือไม ถาไมได
      warm คือ อุณหภูมิระหวาง 30 °C ถึง 40 °C                           ผูปว ยควรทิ้งยาไป ไม ควรใหย าที่ เหลือกั บคนอื่ น เนื่ องจาก


182                                                         Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
แพทยสั่งยานั้นเพื่อรักษาอาการปวยกับผูปวยเฉพาะราย ซึ่ง             ตะกอนนั้ น ยาปฏิ ชี ว นะที่ มี ก ารใช กั น มากคื อ ยาในกลุ ม
อาจไมเหมาะที่จะใชรักษาผูอื่น                                       penicillins เชน amoxicillin หลังผสมน้ําแลวสามารถเก็บไวได
                                                                      ที่อุณหภูมิไมเกิน 25 °C หรือเก็บในตูเย็นชองธรรมดาแตควร
การเก็บรักษายาภายใตสภาวะที่กําหนด                                    เก็บในตูเย็น ซึ่งยาจะยังมีความคงตัวที่ สามารถยอมรับไดใ น
      สภาวะการเก็บยาที่แนะนํา มักระบุไว บนฉลาก โดยอาจ                เวลา 14 วั น 14 ส วนยาปฏิ ชีว นะที่ มี ตั วยาสํ า คั ญ 2 ชนิ ด คื อ
กําหนดชวงอุณหภูมิ หรือสถานที่หรือเงื่อนไขในการเก็บเภสัช              amoxicillin และ clavulanic acid นั้น พบวาหลังผสมน้ําแลว
ภัณฑ เชน “เก็บในตูเย็น” “เก็บที่อุณหภูมิหอง” เภสัชกรควร           ควรเก็บในตูเย็นชองธรรมดา ตัวยาสําคัญจะยังมีความคงตัวที่
ปฏิบัติ ตามคํ าแนะนําเสริมดว ย เช น “เก็ บยาใหพนแสง” ถ า         สามารถยอมรับไดใ นเวลา 7 วั น 15 ซึ่ งขอ มู ลนี้ สอดคลอ งกั บ
เภสั ชภั ณฑที่ ตอ งเก็บใหพ นแสงบรรจุใ นภาชนะใสหรื อโปร ง         คําแนะนําในการเก็บรักษายาจากบริษัทผูผลิต นอกจากนี้ยังมี
แสงแล ว ใส ใ นกล อ งทึ บแสง เภสั ชกรและผู ปว ยไม ค วรแกะ        ยาปฏิชีวนะกลุมอื่นๆ อีก เชน cephalosporins ที่ใชกันมาก
กลองทิ้งจนกวาจะใชยาหมดหรือทิ้งยา ถาไมระบุสภาวะในการ              คือ cephalexin หลังผสมน้ําแลวควรเก็บในตูเย็นชองธรรมดา
เก็บอยางเฉพาะเจาะจง เภสัชกรและผูปวยควรเก็บเภสัชภัณฑ               ซึ่งยาจะยังมีความคงตัวที่สามารถยอมรับไดในเวลา 14 วัน14
นั้นในอุณภูมิหอง (controlled room temperature, 20-25 °C)             ซึ่ งข อ มู ล นี้ สอดคล อ งกั บคํ า แนะนํ า ในการเก็ บรั ก ษายาจาก
ควรหลีกเลี่ยงการเก็บเภสัชภัณฑในบริเวณที่รอน เย็น หรือมี             บริษั ทผูผ ลิต สวนยาในกลุมนี้ ที่เป นรุน ใหม เช น cefdinir มี
แสงมากเกินไป หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมากเกินไป                    คํ า แนะนํ า จากบริ ษั ท ผู ผ ลิ ต ว า ผงยาที่ ยั ง ไม ผ สมน้ํ า เก็ บ ที่
                                                                      หองควบคุมอุณหภูมิที่ 18 - 25 °C และหลังผสมน้ําแลวควร
      เมื่อคํานึงถึงเรื่องอุณหภูมมีขอแนะนําดังนี้
                                 ิ                                    เก็บในตูเย็นชองธรรมดา (2 - 5 °C) จะสามารถเก็บไดไมเกิน
      1. เภสัชภัณฑ หลายชนิดตอ งเก็บในที่เย็น โดยเฉพาะที่            10 วัน นอกจากนี้ยังมีกลุมอื่นๆ ที่มักจะใชในเด็กที่มีประวัติแพ
อุณหภูมิ ต่ํากวา 15 °C เชน ยาเหน็ บที่ ตองหลอมละลายที่             ยาในกลุ ม penicillins คื อ กลุ ม macrolides เช น ยา
อุณหภูมิของรางกาย ยาเตรียมเหลานี้อาจเสียสภาพ ไดถาวาง              erythromycin และ azithromycin มีคําแนะนําจากบริษัทผูผลิต
ไวในที่รอน ยาฉีดอินซูลินควรเก็บที่อุณหภูมิ 2 – 8 (หรือ 10)          ว า สามารถเก็ บ ไว ที่ อุ ณ หภู มิ ไ ม เ กิ น 30 °C ได โดย
°C คือ ในตูเย็นแตไมใชชองแชแข็ง                                  azithromycin หลั งผสมน้ํ า แล ว ก็สามารถเก็ บได ที่อุ ณ หภู มิ นี้
      2. ยาปฏิชีวนะในรูปแบบยาน้ําแขวนตะกอน ผลิตภัณฑที่               เชนเดียวกัน
มีน้ํามันหอมระเหย และครีมบางชนิดตองเก็บในที่เย็น                             เมื่อคํานึงถึงเรื่องความชื้นมีขอแนะนําดังนี้ ยาในรูปแบบ
      3. ย าที่ มี ไ ซรั บใ นป ริ ม าณ สู ง คว รห ลี ก เลี่ ยง กา ร   ของแข็งควรปอ งกันความชื้ น ผลิตภัณ ฑเหล านี้ค วรบรรจุใ น
เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ                                                   ภาชนะที่ ปอ งกั น อากาศและความชื้ น ได และควรชี้ แ จงให
                                                                      ผูปวยปด ฝาหลังจากใช ยา ยาผงที่แบ งบรรจุ ในกลอ งหรือห อ
      และจากการเก็บขอมูลการศึกษานํารองในเรื่อง “การเก็บ             กระดาษควรเก็บในที่แหง
รักษายาที่ใชในเด็ก” โดยใชแบบสอบถาม ถามผูปวยหรือญาติ                       เมื่อคํานึงถึงเรื่องแสงมีขอแนะนําดังนี้ ขวดสีชาใชปองกัน
ที่ดูแลการใชยาของเด็กที่ไดรับยาจากโรงพยาบาล จํานวน 30               ผลิตภัณฑที่ไวตอแสง การใสกลองชวยเพิ่มการปองกันแสงได
คน พบว า ผู ต อบแบบสอบถามส ว นใหญ นํ า ยาที่ ไ ด รั บจาก         สารบางชนิดเชน paraldehyde ตองเก็บในที่มืดสนิท ภาชนะ
โรงพยาบาลเก็บไวในตูเย็น โดยยาสวนใหญที่เด็กไดรับคือ ยา            บรรจุ ไ ม ค วรสั ม ผั สแสงอาทิ ต ย โ ดยตรงแม จ ะเป น ภาชนะ
ลดไ ข ช นิ ด น้ํ า เชื่ อ มมี ตั ว ยาสํ า คั ญ คื อ พาราเซตามอล      ปองกันแสงก็ตาม
นอกจากนี้ยังพบวา การนํายาเก็บในตูเย็นนั้น สวนใหญจะเก็บ
ที่ฝาเปด-ปดตูเย็น ซึ่งในสวนของยาพาราเซตามอล ชนิดที่ใช            การสังเกตความไมคงตัวของเภสัชภัณฑ
ในเด็กนั้นเปนที่ทราบกันดีวา สามารถเก็บไวที่อุณหภูมิหองได               การสู ญ เสี ย ความแรงข องยามั ก มี ผ ลมาจากกา ร
หรือแมในเอกสารกํากับยาในบางชื่อการคาอาจจะระบุใหเก็บที่             เปลี่ ย นแปลง ทางเคมี ป ฏิ กิ ริ ย าที่ พ บบ อยที่ สุ ด ไ ด แ ก
อุณภูมิต่ํากวา 25 - 30 °C การเก็บในตูเย็นอาจมีผลตอคาการ           hydrolysis, oxidation และ photolysis การเปลี่ยนแปลงทาง
ละลายของตัวยาสําคัญรวมทั้งอาจทําใหสารที่ใหรสหวานเกิด                เคมีอาจมีผลมาจากปฏิกิริยาระหวางสารตาง ๆ ในผลิตภัณฑ
การตกผลึกได ทําใหรสชาติของยาเปลี่ยนไป 11-13 ในสวนของ               หรือ พบบา งที่ เกิ ดจากปฏิกิ ริย าระหวา งสารในผลิต ภัณ ฑกั บ
ยาปฏิ ชี ว นะชนิ ด ผงหลั ง ผสมน้ํ า แล ว จะได เ ป น ยาน้ํ า แขวน   ภาชนะบรรจุ การสูญเสียความแรงของยาอาจมีผลมาจากการ


Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008                                                              183
ที่ยาซึมเขาสูหรือจับกับผิวของภาชนะบรรจุและจุกปด ในกรณี            การปนเปอนดวยเชื้อจุลินทรีย ดังนั้นที่เปลือกของ soft gelatin
ที่ความแรงของยาเพิ่มขึ้น มัก มีสาเหตุจากการระเหยของตั ว              capsule มักเติมสารกันบูดเพื่อปองกันการเจริญของเชื้อรา
ทําละลายหรือการซึมของสารออกจากภาชนะบรรจุและฝาปด
แมวาโดยทั่วไปแลวเภสัชกรหรือผูปวยไมสามารถตรวจสอบ                2. Uncoated tablets
การสลายตัวทางเคมีของยาได บางครั้งการสลายตัวทางเคมีที่                    ยาเม็ดที่ คงตัวต องมีขนาด รูปร าง น้ําหนักและสีเหมือ น
เกิ ด ขึ้ น ในปริ ม าณมากส ง ผลให เ กิ ด การเปลี่ ย นแปลงทาง       ตอนที่เริ่มผลิตตลอดอายุของยา นอกจากนี้ การแตกกระจาย
กายภาพได อย า งไรก็ ต าม การเปลี่ ย นแปลงทางกายภาพ                 ตัวและการละลายตองไมเปลี่ยนแปลงมากนัก ลักษณะความ
บางอย างอาจไมเ กี่ย วข องกับการเปลี่ย นแปลงทางเคมี เช น          ไมคงตัวทางกายภาพของยาเม็ดที่ไมเคลือบ สังเกตไดจากผง
การเปลี่ยนสีหรือกลิ่น การตกตะกอน หรือสารละลายขุน การ                ยาจํานวนมากหรือเศษเม็ดยาที่แตกหักออกมาจากเม็ดยาที่กน
เปลี่ยนแปลงเหลา นี้ ชี้ใ หเห็น ถึงปญ หาความไม คงตัว ของยา        ภาชนะ รอยราวหรือรอยบิ่นที่ผิวเม็ดยา เม็ดยาบวม รอยดางที่
เภสัชกรควรตั้งสมมติฐ านวาเภสัชภัณฑที่มีการเปลี่ยนแปลง              เม็ดยา เม็ดยาเปลี่ยนสี เม็ดยาเกาะติดกัน หรือผลึกที่เม็ดยา
ทางกายภาพที่ ไ ม มี ก ารอธิ บ ายไว ที่ ฉ ลาก อาจมี ก าร            หรือที่ผนังของภาชนะบรรจุ
เปลี่ยนแปลงทางเคมีรวมดวย และไมควรจายยานั้นใหคนไข
การเจริญและหรือการปนเปอนของเชื้ออาจปรากฏในรูปของ                   3. Coated tablets
การเปลี่ ย นแปลงทางกายภาพ นอกจากการเปลี่ ย นแปลง                          ลักษณะที่ไมคงตัวทางกายภาพคือ รอยราว รอยดาง ที่
ลัก ษณะทางกายภาพที่ เห็ นได อย างชัด เจน เชน สี หรื อกลิ่ น       เม็ดยา สารที่ใชเคลือบเหนียว และเม็ดยาเกาะกันเปนกอน
เปลี่ ย น ซึ่ งบอกถึ งความไม ค งตั ว ของเภสั ชภั ณ ฑ แ ล ว การ
เปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่พบไดบอยและบงบอกความไมคง                   4. Dry powders และ granules
สภาพในเภสัชภัณฑรูปแบบตางๆ มีดังนี้                                      ผงยาแลเะแกรนูลที่ไมมีวัตถุประสงคที่จะผสมน้ํากอนใช
                                                                     อาจเกาะกันเปนกอนแข็งหรือเปลี่ยนสี ทําใหไมเปนทียอมรับ
                                                                                                                        ่
เภสัชภัณฑในรูปแบบของแข็ง
     เภสั ช ภั ณ ฑ ใ นรู ป แบบของแข็ ง ควรเก็ บในบริ เ วณที่ มี     5. Powders และ granules
ความชื้ นต่ํ า ดั งนั้น จึ งควรเก็ บใน tight container หรื อ ใน             เปนผงยาที่ตองผสมน้ําใหอยูในรูปของสารละลายหรือยา
ภาชนะบรรจุจากบริษัทผูผลิต สภาพที่มีไอน้ําหรือหยดน้ําหรือ            น้ํ า แขวนตะกอนก อ นใช เภสั ช ภั ณ ฑ ใ นกลุ ม นี้ มั ก เป น ยา
ยาจับกันเปนกอนภายในภาชนะบรรจุแสดงถึงสภาพที่ไมดี ถา               ปฏิชีวนะหรือวิตามินที่ไวตอความชื้นเปนพิเศษ เนื่องจากยา
เภสั ช กรสั งเกตเห็ น สารกั น ความชื้ น (desiccant) ภายใน            เหลานี้จายในภาชนะที่ มาจากบริษั ทผูผลิต จึงมักไมมีปญหา
ภาชนะบรรจุจากบริษัทผูผลิตแสดงวาควรระมัดระวังความชื้น               การปนเป อ นของความชื้ น อย า งไรก็ ต าม เภสั ชกรควรใช
ในการเก็บยาและควรบอกผูปวยเมื่อจายยา สารที่เกิดจากการ              วิจารณญาณในการพิจารณาลักษณะจับกันเปนกอนแข็งที่ไม
สลายตัวบางชนิด เชน salicylic acid ที่สลายตัวจาก aspirin             ปกติ และถาที่ผนังภาชนะบรรจุมีไอน้ําหรือหยดน้ําก็แสดงวา
สามารถระเหิดและตกผลึกกลับมาเกาะอยูตามผนังของภาชนะ                   ยาเตรียมนั้นไมเหมาะที่จะนําไปใชอีกตอไป กลิ่นที่ไมดีก็แสดง
บรรจุ                                                                ถึงความไมคงตัวเชนกัน เนื่องจากสูตรตํารับเหลานี้เปนผงแหง
                                                                     ที่ตองผสมน้ําก อนใช จึงตองสังเกตสีและกลิ่นของผลิตภัณ ฑ
1. Hard gelatin capsules และ soft gelatin capsules                   ทั้งในรูปผงแหงและหลังจากผสมน้ําแลว
       เนื่องจากยาเหลา นี้ไดรั บการห อหุมด วยเปลือกเจลาติ น
การเปลี่ ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของเปลือ ก เชน การ                    6. Effervescent tablets, granules และ powders
เปลี่ ยนแปลงความยื ดหยุ น ความแข็ ง ความนุม ชี้ใ หเห็ นถึ ง            ผลิตภัณฑเหลานี้ไวตอความชื้นคอนขางมาก สัญญาณที่
ความไ ม ค งตั ว ของผลิ ต ภั ณ ฑ นอกจากนี้ อ าจเกิ ด การ            บงบอกความไมคงตัวคือ ผงยาบวมหรือการเกิดกาซทําใหเกิด
ปลดปลอยกาซโดยการสังเกตกระดาษที่ใชปดผนึกมีรองรอย                 แรงดัน แสดงวาปฏิกิริยาการเกิดฟองฟูเกิดขึ้นแลวกอนจายยา
ของการโปงพองก็แ สดงถึงความไมคงตั วเชนกัน เปลือกของ
ยาแคปซู ล ที่ เ ก็บในสภาวะที่ ไม เ หมาะสมอาจนิ่ ม และติ ด กั น      เภสัชภัณฑในรูปแบบของเหลว
หรือแข็งและแตกแมมีแรงกดออน ๆ ยาแคปซูลควรหลีกเลี่ยง                     สิ่ ง สํ า คั ญ สํ า หรั บ เภสั ช ภั ณ ฑ ใ นรู ป แบบของเหลว คื อ
                                                                     ความสม่ํ าเสมอของยาและความปราศจากการปนเปอนของ

184                                                     Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
เชื้อจุลินทรีย เภสัชกรและผูปวยอาจสังเกตความไมคงตัวจาก                    และเมื่ออนุ ภาคยาตกตะกอนแลวจะจับกันแนน เปนกอนแข็ ง
สารละลายขุ น หรื อ ตกตะกอน อิ มั ล ชั น แยกชั้ น ยาน้ํ า แขวน               ทําใหยากที่จะกระจายตัวเหมื อนเดิม ของเหลวที่ใช จึงควรมี
ตะกอนไมสามารถแขวนลอยไดหลังจากเขยาขวด หรือมีการ                            ความหนาแนนและความหนืดมากพอเพื่อลดโอกาสที่อนุภาค
เปลี่ยนแปลงของกลิ่นและรส การเจริญของเชื้ออาจเกิดรวมกับ                      ยาจะตกตะกอน ลักษณะหลักที่แสดงถึงความไมคงตัวของยา
การเปลี่ยนสี การขุน หรือการเกิดกาซ                                         น้ําแขวนตะกอนคือ การเกิด caking ซึ่งเปนลักษณะที่ผงยาไม
                                                                             สามารถกลับแขวนลอยไดอีกดวยแรงเขยาปานกลาง ผงยาที่มี
1. Solutions, elixirs และ syrups                                             ขนาดโตขึ้ น หลั งจากเก็ บผลิ ตภั ณ ฑ ไ ว ร ะยะเวลาหนึ่ งอาจมี
      ลักษณะที่แสดงถึงความไมค งตัวหลัก ๆ มี 2 อยา ง คื อ                   สาเหตุ ม าจากผลึ ก ยามี ข นาดใหญ ขึ้ น และแสดงถึ ง การ
การขุน และการเจริญของเชื้ อหรือการเกิดกาซจากปฏิกิริย า                     เปลี่ยนแปลงทางกายภาพเชนกัน
เคมี ยาน้ํ าใสที่ คงตั วตองคงความใส สี และกลิ่น เหมือ นตอน
เริ่มผลิตตลอดอายุของยา โดยเฉพาะความใสของตํารับจะเปน                         4. Tinctures และ Fluidextracts
จุดหลักในการทดสอบดานความคงตัวทางกายภาพของยาน้ํา                                   เภสัชภัณฑรูปแบบเหลานี้หรือที่มีลักษณะคลาย ๆ กันมัก
ใส ยาน้ําเชื่อมมีจุดที่ควรสังเกตอีกอยางคือ เมื่อตั้งทิ้งไวแลว             มีสีเขมขึ้นเนื่องจากยาเตรียมมีความเขมขนขึ้น ดังนั้นเภสัชกร
เกิดผลึกของน้ําตาลเกาะบริเวณรอบปากขวด ซึ่งอาจแสดงถึง                         จึงควรตรวจสอบอยางละเอียดวามีการตกตะกอนหรือไม
ความไมเหมาะสมในการนําไปใชอีก
                                                                             5. Sterile liquids
2. Emulsions                                                                      การคงสภาพปราศเชื้ อ เป น สิ่ ง ที่ สํ า คั ญ มากสํ า หรั บ
       อิ มั ล ชั น ที่ ค งตั ว ต อ งมี ก ารกระจายตั ว อย า งสม่ํ า เสมอ   ของเหลวที่ ปราศจากเชื้ อ การปนเป อ นของเชื้ อ จุลิ น ทรี ย ใ น
เหมือ นตอนเริ่ม ผลิ ตด วยแรงเขยา ปานกลางและสามารถเท                        ของเหลวปราศจากเชื้อมักสังเกตไมไดดวยตาเปลา เภสัชกร
ออกจากขวดได ต ลอดอายุ ข องยา ลั ก ษณะที่ ไ ม ค งตั ว ของ                   อาจตั้งสมมติฐานวา ผลิตภัณฑเกิดการปนเปอนดวยเชื้อจาก
อิมัลชันสังเกตไดจากการแยกชั้นของผลิตภัณฑ อยางไรก็ตาม                      ลัก ษณะหมอกบาง ๆ การขุ น การเปลี่ ย นสี การเกิ ดฟ ล ม ที่
อิมั ล ชั นยั งมี ความคงตั ว แมเ กิ ด creaming คื อ เนื้ ออิ มั ล ชั น      ผิวหนา การเกาะกัน ของผงยา หรื อการเกิ ดก าซ ลั กษณะที่
สามารถเขากันไดเมื่อเขยา                                                   สําคัญที่สุดของสารละลายปราศจากเชื้อที่เปนยาตาหรือยาฉีด
การเก็บอิมัลชันไวในตูเย็น โดยที่ตํารับนั้นไมไดผานการ                    คือ ความใส เภสั ชกรควรตั้ งขอ สงสั ยถาสั งเกตเห็ นการผนึ ก
ทดสอบการเก็บในตูเย็น อาจทําใหสารทําอิมัลชันที่เปนพวก                      ผลิตภัณฑที่ไมสมบูรณ
น้ํามันมีคาการละลายในระบบลดลงและเกิดการตกตะกอน ซึ่ง
เปนสาเหตุใหตํารับไมคงตัวได                                               เภสัชภัณฑกึ่งแข็งกึงเหลว
                                                                                                 ่
                                                                                  ลัก ษณะที่ แสดงถึ งความไม คงตั วหลั กของครี ม ยาขี้ ผึ้ ง
3. Suspensions                                                               และยาเหน็บ คือ สี กลิ่น หรือความหนืดที่เปลี่ยนไป
       ยาน้ํ า แขวนตะกอนที่ ค งตั ว ต อ งมี ก ารกระจายตั ว อย า ง
สม่ําเสมอเมื่อเขยาดวยแรงปานกลาง และสามารถเทออกจาก                          1. Creams
ขวดไดงา ยตลอดอายุข องยา โดยไม มีก ารเปลี่ ยนแปลงการ                             โดยทั่วไปครีม คือ อิมัลชัน ที่ประกอบดวยน้ํา และน้ํามั น
กระจายของขนาดอนุภาคยา (particle size distribution) รูป                       เภสั ชกรและผูปวยสามารถสังเกตความไมค งตัว ของครี มได
ผลึกยา หรือปริมาณยาที่ผูปวยควรไดรับจากขนาดการใหยา                        จากการแยกของอิมัลชัน การโตของผลึก การหดตัวของเนื้ อ
เทาเดิม ยาน้ําแขวนตะกอนที่มีความคงตัวที่สุดเปนระบบที่ยา                    ครี ม เนื่ อ งจากการระเหยของน้ํ า และการปนเป อ นของ
มีการเกาะกันอยางหลวมๆ (flocculated suspension) โดยไม                       เชื้อจุลินทรีย
มี พั น ธะกั บ ของเหลวที่ ย าแขวนลอยอยู อ ย า งมี นั ย สํ า คั ญ
อนุภาคที่ตกตะกอนของระบบนี้สามารถกระจายตัวกลับไดงาย                         2. Ointments
ดวยแรงเขยาปานกลาง ในยาน้ําแขวนตะกอนที่ยาไมไดจับกัน                            ยาขี้ผึ้งที่คงตัวตองมีการกระจายตัวของยาอยางสม่ําเสมอ
อย า งหลวมๆ (nonflocculated suspension) ของเหลวที่                          ตลอดอายุ ของยา ป ญหาความไม คงตัว หลัก ของยาขี้ผึ้ ง คื อ
แขวนลอยยามี บ ทบาทต อ ความคงตั ว ของยาเตรี ย มมาก                           การแยกของของเหลวออกมาเยิ้ ม ที่ ผิ ว หน า ของยาเตรี ย ม
อนุภาคยาควรมีขนาดเล็กและเบา เพื่อใหตกตะกอนอยางชาๆ                         (bleeding) และมีค วามข น หนื ด (consistency) เปลี่ย นไป

Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008                                                          185
เนื่ อ งจากระยะเวลาในการเก็ บ เภสั ช ภั ณ ฑ ห รื อ จากการ                       dose container ที่ ไ ม อ นุ ญ าตใหแ ยกออกจากกั น ในการ
เปลี่ย นแปลงอุ ณหภูมิ ยาขี้ ผึ้งที่ นุม เกิ นไปทํ าใหเ ปรอะเป อ น            กํา หนด beyond-use date ของยาที่ แ บ งบรรจุ ใ นภาชนะ
เมื่อใช แตถาแข็งเกินไปจะบีบออกจากหลอดยากและทายาก                              เหลานี้ ถาไมมีขอมูลทางดานความคงตัวควรกําหนดดังนี้
การเกิด แกรนู ลหรือ เม็ดเล็ก ๆ ก็เ ปนปญ หาความไม คงตั ว
ทางกายภาพของยาขี้ผึ้งเชนกัน                                                           1) 25% ของเวลาที่ เ หลื อระหว างวั น ที่ แบ งบรรจุ กั บวั น
                                                                                 หมดอายุของยาที่กําหนดโดยบริ ษัทผู ผลิตที่ ภาชนะบรรจุย า
3. Suppositories                                                                 ขนาดใหญ หรือ
       ลักษณะหลักที่บงบอกความไมคงตัวของยาเหน็บคือ ยา                                 2) 6 เดือนหลังจากวันที่แบงบรรจุ
เหน็บที่ออนนุมเกินไป ยาเหน็บบางชนิดอาจแหงและแข็ง หรือ                               ทั้งนี้ ใหเลื อกใชชวงระยะเวลาที่สั้นกวา ยาที่แบ งบรรจุ
เหี่ ย วแห ง เภสั ชกรควรตรวจสอบยาเหน็ บแต ล ะแท งอย า ง                      เหล า นี้ ค วรเก็ บ ในสิ่ งแวดล อ มที่ ค วบคุ ม ความชื้ น และตาม
ใกลชิด ถาสังเกตเห็นรอยน้ํามั นที่กล อง โดยการเปด ฟอยล ที่                   อุณหภู มิที่กํา หนดในเภสั ชตํารั บหรือ ตามฉลาก ในกรณีที่ไ ม
หุมอยูถาจําเปน ยาเหน็บโดยทั่วไปควรเก็บในตูเย็น                              ระบุอุณหภูมิและความชื้น ควรเก็บที่อุณหภูมิหอง (controlled
                                                                                 room temperature) แตไมเกิน 25 °C ที่ความชื้นสัมพัทธไม
วันหมดอายุ (expiration date)                                                     มากกวา 75% ในตูเย็นและในชองแชแข็งไมถือเปนบริเวณที่
         วันหมดอายุของยาบอกชวงเวลาที่คาดวายาเตรียมจะคง                         ควบคุมความชื้น ถายานั้นถูกกําหนดใหเก็บในที่เย็นจัด (cold
คุณสมบัติที่ กําหนดไว ในเภสัชตํารับภายใตสภาวะการเก็บที่                        temperature) ใหเก็บยาในตูเย็นหรือชองแชแข็งโดยใสยาใน
กําหนดไว วั นหมดอายุข องยาจึ งบอกชว งเวลาที่ควรใช หรื อ                       ภาชนะบรรจุชั้น นอก (outer container) ที่ เ ขา มาตรฐานที่
จายยา ฉลากของเภสัชภัณฑควรแสดงวันหมดอายุของยาไว                                บังคับไวสําหรับยานั้น ๆ
อย า งชั ด เจน เภสั ช กรควรจ า ยยาที่ ยั ง ไม ห มดอายุ ถ า วั น
หมดอายุแสดงไวในรูปของ เดือน/ป หมายถึง วันสุดทายของ                            อายุการใชยา
เดื อ นที่ ร ะบุ ไ ว วั น หมดอายุ ที่ กํ า หนดโดยบริ ษั ท ผู ผ ลิ ต นี้ ไ ม         อายุการใชยาเปนชวงระยะเวลาที่คาดหวังวาคุณภาพของ
สามารถนํ าไปใชกั บผลิต ภัณ ฑที่ แบ งบรรจุใ นภาชนะบรรจุ ที่                    ยายังคงอยู ในชว งที่ ย อมรับ และผูปวยควรได รับการแจงให
แตกตางไปจากเดิม                                                                 ทราบระยะเวลาการเก็บยา การพิ จารณาอายุ การใชย าต อ ง
         ในการกําหนดระยะเวลาที่ผูปวยจะใชยาหลังจากไดรับยา                     คํานึงถึงสาเหตุ ตาง ๆ ที่ ทําใหยาไมคงตัว รวมถึ งสภาพการ
ผู จ า ยยาควรคํ า นึ งถึ งธรรมชาติ ข องยา ภาชนะที่ บรรจุ โ ดย                  เก็บที่ไมเหมาะสมภายในบานดวย เภสัชกรไมควรแนะนําให
ผูผลิตและวันหมดอายุของยาที่ระบุ ภาชนะที่ใสยาเตรียมให                          ผูปวยกักตุนยาไว
ผูปวยถาตองแบงจายยาจากภาชนะของบริษัทผูผลิต สภาวะ                                 ยาที่ จ า ยในภาชนะบรรจุ เ ริ่ ม ต น จากบริ ษั ท ผู ผ ลิ ต อาจ
ในการเก็บยาของผูปวย และระยะเวลาในการใชยาของผูปวย                            คาดหวังวันหมดอายุที่ใกลเคียงกับที่กําหนดโดยบริษัทผูผลิต
ผู จ า ยยาอาจระบุ ร ะยะเวลาการใช ย าให ผู ปว ยไว ไ ม เ กิ น วั น         ถาผูปวยสามารถเก็บยาในสภาวะที่แนะนํา อยางไรก็ตาม การ
หมดอายุของยาที่กําหนดโดยบริษัทผูผลิต หรือไมเกินหนึ่งป                         เปลี่ยนภาชนะบรรจุ โดยเฉพาะอยางยิ่งถามี การปรับเปลี่ย น
หลังจากจายยา โดยเลือกชวงที่สั้นกวา                                            หรื อ เจื อ จางผลิ ต ภั ณ ฑ จะทํ า ให อ ายุ ก ารใช ย าสั้ น ลงอย า งมี
         บริ ษั ท ผู ผ ลิ ต ควรระบุ ข อ มู ล ทางด า นการบรรจุ แ ละ            นัยสําคัญได โดยทั่วไป เภสัชกรควรกําหนดอายุการใชยาไวที่
beyond-use date บนฉลากของยาในรูปแบบของแข็งที่ใหโดย                              14 วัน ถามีการเจือจางยาเตรียมดังกลาว ยาที่ไมมีการวิจัยวัน
การรับประทาน เพื่อใหเภสัชกรผูจายยาสามารถเลือกภาชนะ                            หมดอายุ ของยาควรกํ าหนดวั นหมดอายุของยาในช วงสั้ นไว
บรรจุแ ละกํ าหนด beyond-use date บนฉลากที่เ หมาะสม                               กอน
ภายใตการเก็บในสภาวะที่กําหนดได beyond-use date ระบุ                                  นอกเหนือจากคําวา “วันหมดอายุ” อาจใชคําวา “ทิ้งยาที่
วันที่ไมควรใชยานั้นอีกตอไป beyond-use date ที่กําหนดบน                        ไมใชแลวในวันที…..” หรือ “หามใชยาหลังจากวันที่….” ใหใช
                                                                                                     ่
ฉลากโดยเภสัชกรผูจายยาไมควรเปนวันหลังจากวันหมดอายุ                            คําที่ทําใหผูปวยสับสนนอยที่สุด เภสัชกรควรสมมติวาผูปวยที่
ของยาที่กําหนดโดยบริษัทผูผลิต                                                   ไดยาเปนครั้งแรกจะเปดภาชนะบรรจุทันที อยางไรก็ตาม ยาที่
         การแบ งบรรจุ ย าที่ ไ มใ ช ย าปราศจากเชื้ อ ทั้งในรู ปแบบ            ผูปวยไดรับเสมอ ๆ เชน ยาหยอดตา อาจจําเปนตองมีฉลาก
ของแข็งและของเหลวใน single-unit container หรือ single-                           กํากับวันหมดอายุทั้งกับผลิตภัณฑที่ยังไมเปดใช และที่เปดใช
dose container ควรมีฉลากติดที่แตละภาชนะ ยกเวน unit-

186                                                                Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
แล ว ฉลากกํา กับสํา หรั บยาหยอดตาคือ “ทิ้ งหลังจากเปด ใช                    6. กลุมงานคุมครองผูบริโภค สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี.
แ ล ว 4 สั ป ด า ห ”    แ ล ะ อ า จ เ ส ริ ม ฉ ล า ก “เ ป ด ใ ช                 ความรูเรื่องการใชยา. (สืบคนขอมูลวันที่ 8 พฤษภาคม 2551,
วันที่………………..” เปนตน                                                             ที่ http://203.157.168.7/consumer/htmls/article06.htm)
                                                                               7. ประสงค พฤกษานานนท. การเก็บรักษายา. (สืบคนขอมูลวันที่ 4
                                                                                    เมษายน 2551, ที่ http://www.clinicdek.com/index.php?
บทสรุป                                                                              option=com_content&task-=view&id=45&Itemid=73)
      จากที่ ก ล า วมาทั้ ง หมดนี้ จ ะเห็ น ว า การเก็ บ รั ก ษายาที่        8. กองพัฒนาศั กยภาพผูบริโภค สํานักงานคณะกรรมการอาหาร
ถูกตองและเหมาะสม จะสงผลตอความคงตัวของยาหรือเภสัช                                 และยา. ความรู เ กี่ ย วกั บ การใช ย า. (สื บ ค น ข อ มู ล วั น ที่ 4
ภัณฑ การที่ผูปวยหรือผูบริโภคยายังไมใสใจในเรื่องการเก็บ                        เม ษา ยน 25 51 , ที่ http://webnotes.fda.moph.go.th/
รักษายาแตก็ยังสนใจปรึกษาเภสัชกรในเรื่องยา ดังนั้นเภสัชกร                           consumer/csmb/csmb2550.nsf/723dc9fee41b850847256e
ควรมีบทบาทในการใหขอมูลในเรื่องการเก็บรักษายาที่ถูกตอง                            5c00332fb4/b08a84a2cbf1af324725727c00309cd4?Open
กับผูปวยหรือผูที่มีหนาที่ดูแลผูปวย ซึ่งจะทําใหการใชยาของ                    document)
ผูปวยเกิดประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น
                                                                              9. ทัดทรง ทั่วทิพย, ณรงค สาริสุต, มนตชุลี นิติพน, ยุพิน รุงเวช
                                                                                    วุฒิวิทยา, ฤดี เสาวคนธ, อําพล ไมตรีเวช (บรรณาธิการ). ยา
                                                                                    เม็ด. กรุงเทพมหานคร. โอเอส พริ้นติ้งเฮาส, 2534: น.157-
                                                                                    185.
เอกสารอางอิง
                                                                               10. วราภรณ จรรยาประเสริฐ. รูปแบบยาน้ําใสและความคงตัวของ
1. บิ สิ เ นสไทย. คนกรุ ง นิ ย มซื้ อ ยาเอง. (สื บ ค น ข อ มู ล วั น ที่ 8        เภสั ช ภั ณ ฑ . กรุ ง เทพมหานคร. คณะเภสั ช ศาสตร
      พฤษภาคม 2551, ที่ http://www.businessthai.co.th/content.                      มหาวิทยาลัยมหิดล, 2540: น.60-86.
      php?data=413229_R&D%20Plus)                                              11. วิมล อนันตสกุลวัฒน. ยาพาราเซตามอล. (สืบคนขอมูลวันที่ 4
2. พนิดา วยั มหสุ วรรณ. วิ ธีการเก็ บรัก ษาผลิ ตภัณ ฑยา. (สืบค น                  เมษายน 2551, ที่ http://www.elib-online.com/doctors/
      ขอ มู ล วั นที่ 19 มีน าคม 2551, ที่ http://www.pharm.chula.                 drug_paracet1.html)
      ac.th/clinic101_5/article/savedrug.htm)                                  12. พรรณวดี วิโรจนวงศ. ใชไมดียานี้อันตราย. (สืบคนขอมูลวันที่
3. ศิวพร หวางสิงห. คุณภาพ มาตรฐานของยา และการเก็บรักษา                            6 มิ ถุ น ายน 2551, ที่ http://www.geocities.com/Tokyo/
      ยา. (สื บ ค น ข อมู ล วั น ที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://www.               Harbor/2093/doctors/drug_child02.html)
      thainakarin.co.th/tipsdetailth.php?id=51)                                13. เครือขายความรวมมือบริการเภสัชสนเทศ. การเก็บรักษายา
4. กลุมงานเภสัชกรรม สถาบันสุขภาพเด็กแหงชาติมหาราชินี. การ                         เด็ ก. (สื บค น ขอ มูล วั นที่ 6 มิถุ น ายน 2551, ที่ http://drug.
      เก็บรักษายา. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://                   pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=6591&gid=1)
      web.childrenhospital.go.th/main/ph/detail3.htm)                          14. ฝายเภสัชกรรม โรงพยาบาลบางละมุง. การเก็บรักษายาน้ําที่ใช
5. สมชัยยา สุริฉันท. การเก็บรักษากับความคงตัวของยาและเภสัช                         ในเด็ก. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://rxbang
      ภัณฑ. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://www.                     lamung.wikidot.com/syrup-medication-storate)
      gpo.or.th/rdi/html/stability.html)                                       15. Mehta AC, Hart-Davies S, Payne J, Lacey RW. Stability of
                                                                                    amoxicillin and potassium clavulanate in co-amoxiclav
                                                                                    oral suspension. J Clin Pharm Ther 1994;19(5):313-315.




Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008                                                                       187

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados(20)

การเลือกใช้ยากันชัก การเลือกใช้ยากันชัก
การเลือกใช้ยากันชัก
Utai Sukviwatsirikul8K visualizações
CPG warfarin use ThailandCPG warfarin use Thailand
CPG warfarin use Thailand
Thorsang Chayovan2.7K visualizações
คู่มือ fatal DI&ยาจิตเวช คู่มือ fatal DI&ยาจิตเวช
คู่มือ fatal DI&ยาจิตเวช
Utai Sukviwatsirikul6.4K visualizações
Smoking cessation1Smoking cessation1
Smoking cessation1
Utai Sukviwatsirikul1.5K visualizações
การใช้ยาในผู้สูงอายุการใช้ยาในผู้สูงอายุ
การใช้ยาในผู้สูงอายุ
Sirinoot Jantharangkul22.5K visualizações

Destaque(13)

Drug regulation2557Drug regulation2557
Drug regulation2557
consumernblp1.4K visualizações
Slide ยา had (1)Slide ยา had (1)
Slide ยา had (1)
Lek Suthida5.7K visualizações
ระบบยาระบบยา
ระบบยา
Rachanont Hiranwong17.6K visualizações
ClosuresClosures
Closures
Anvita Bharati34.7K visualizações
Pharmaceutics -  suspensionPharmaceutics -  suspension
Pharmaceutics - suspension
Areej Abu Hanieh81.2K visualizações
Plastic Manufacturing Company - Business PlanPlastic Manufacturing Company - Business Plan
Plastic Manufacturing Company - Business Plan
Ayush Man Tamrakar86.4K visualizações
Pharmaceutical Suspensions and EmulsionsPharmaceutical Suspensions and Emulsions
Pharmaceutical Suspensions and Emulsions
Pallavi Kurra279.8K visualizações
Emulsion stabilityEmulsion stability
Emulsion stability
Professor Abd Karim Alias139.6K visualizações

Similar a ความคงตัวของเภสัชภัณฑ์และการเก็บรักษา

บทที่ 10 serratiopeptidaseบทที่ 10 serratiopeptidase
บทที่ 10 serratiopeptidasedentyomaraj
46.2K visualizações5 slides
ParaqautParaqaut
ParaqautLoveis1able Khumpuangdee
5.2K visualizações62 slides
Transfer factor chewable 15.5.2555Transfer factor chewable 15.5.2555
Transfer factor chewable 15.5.25554LIFEYES
330 visualizações21 slides
77
7แนม พากฏิพัทธ์
390 visualizações5 slides

Similar a ความคงตัวของเภสัชภัณฑ์และการเก็บรักษา(20)

บทที่ 10 serratiopeptidaseบทที่ 10 serratiopeptidase
บทที่ 10 serratiopeptidase
dentyomaraj46.2K visualizações
ParaqautParaqaut
Paraqaut
Loveis1able Khumpuangdee5.2K visualizações
Transfer factor chewable 15.5.2555Transfer factor chewable 15.5.2555
Transfer factor chewable 15.5.2555
4LIFEYES330 visualizações
77
7
แนม พากฏิพัทธ์390 visualizações
Adverse drug reaction 09Adverse drug reaction 09
Adverse drug reaction 09
Rachanont Hiranwong15.5K visualizações
บทที่ 6 ยาคุมกำเนิดบทที่ 6 ยาคุมกำเนิด
บทที่ 6 ยาคุมกำเนิด
Pa'rig Prig6.9K visualizações
Tf tri factor 1Tf tri factor 1
Tf tri factor 1
4LIFEYES1K visualizações
Medication reconciliation slideMedication reconciliation slide
Medication reconciliation slide
Rachanont Hiranwong8.4K visualizações
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
pop Jaturong3K visualizações
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
Tiwapon Wiset3.8K visualizações

Mais de adriamycin

Mass transportMass transport
Mass transportadriamycin
5.5K visualizações14 slides
Slide interfacial phenomena pdfSlide interfacial phenomena pdf
Slide interfacial phenomena pdfadriamycin
7.1K visualizações53 slides
Interfacial phenomena 2555Interfacial phenomena 2555
Interfacial phenomena 2555adriamycin
19.6K visualizações10 slides
Complexation2555Complexation2555
Complexation2555adriamycin
2.2K visualizações10 slides
Dissolution2555Dissolution2555
Dissolution2555adriamycin
13.8K visualizações8 slides
Solu partition2555Solu partition2555
Solu partition2555adriamycin
20.2K visualizações15 slides

Mais de adriamycin(20)

Mass transportMass transport
Mass transport
adriamycin5.5K visualizações
Slide interfacial phenomena pdfSlide interfacial phenomena pdf
Slide interfacial phenomena pdf
adriamycin7.1K visualizações
Interfacial phenomena 2555Interfacial phenomena 2555
Interfacial phenomena 2555
adriamycin19.6K visualizações
Complexation2555Complexation2555
Complexation2555
adriamycin2.2K visualizações
Dissolution2555Dissolution2555
Dissolution2555
adriamycin13.8K visualizações
Solu partition2555Solu partition2555
Solu partition2555
adriamycin20.2K visualizações
State of matterState of matter
State of matter
adriamycin925 visualizações
StabilityStability
Stability
adriamycin4.3K visualizações
Hw 1 state_of_matterHw 1 state_of_matter
Hw 1 state_of_matter
adriamycin290 visualizações
Hw 1 state_of_matterHw 1 state_of_matter
Hw 1 state_of_matter
adriamycin227 visualizações
State of matterState of matter
State of matter
adriamycin1.8K visualizações
Intro to sciIntro to sci
Intro to sci
adriamycin603 visualizações
Intro to dosage formIntro to dosage form
Intro to dosage form
adriamycin3.9K visualizações
Pharm carePharm care
Pharm care
adriamycin318 visualizações
Pharm carePharm care
Pharm care
adriamycin247 visualizações
Pharm carePharm care
Pharm care
adriamycin273 visualizações
Mass transportMass transport
Mass transport
adriamycin5.7K visualizações
ปรากฏการณ์ฝนตกปรากฏการณ์ฝนตก
ปรากฏการณ์ฝนตก
adriamycin1.8K visualizações

ความคงตัวของเภสัชภัณฑ์และการเก็บรักษา

  • 1. Review Article ความคงตัวของเภสัชภัณฑและการเก็บรักษา นัยนา สันติยานนท* กลุมวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ Corresponding author: naiyanap@swu.ac.th § Thai Pharm Health Sci J 2008;3(1):180-187 บทนํา §ผูปวยและญาติของผูปวยจํานวนไมนอยมีค วามเขาใจวา  รา นยาใกล บาน มีเ พี ยงร อยละ 6 ของกลุ ม ตัว อยา งที่ไ ปพบ การเก็บยาทุกชนิดไวในตูเย็นจะทําใหสามารถเก็บไวไดนาน แพทยที่โรงพยาบาลเมื่อ รูสึกไมสบาย และกลุม ตัวอยางที่ไ ป ขึ้น โดยเฉพาะยาน้ําที่ใชในเด็ก จากการเก็บขอมูลการศึกษา ซื้อยาที่รานยาดว ยตนเองถึงรอยละ 70 ปรึ กษาเภสัชกร แต นํารองในเรื่อง “การเก็บรักษายาที่ใชในเด็ก” ของผูนิพนธเอง กลุมตัวอยางสวนใหญไมใสใจการเก็บรักษายา ซึ่งวิธีการเก็บ (อยูในระหวางการดําเนินการวิจัย) โดยใชแบบสอบถาม ถาม รักษายาที่ ผิดวิ ธีและไม เหมาะสมเป นอีก หนทางหนึ่งที่ ทําให ผู ป ว ยหรื อ ญาติ ที่ ดู แ ลการใช ย าของเด็ ก ที่ ไ ด รั บ ยาจาก อายุ ข องยาสั้ น ลง การเก็ บ รั ก ษายาที่ ถู ก ต อ งจะช ว ยรั ก ษา โรงพยาบาล จํานวน 30 คน พบวา ผูตอบแบบสอบถามสวน คุณภาพของยา และชวยใหผูที่รับประทานยานั้นปลอดภัยและ ใหญนํายาที่ไดรับจากโรงพยาบาลเก็บไวในตูเย็น โดยยาสวน ไมกอใหเกิด ผลขา งเคียง จากการศึกษาพฤติก รรมการเก็ บ ใหญ ที่ เ ด็ก ได รั บคือ ยาลดไข ชนิ ดน้ํ า เชื่ อมมี ตั ว ยาสํ า คั ญ คื อ รักษายาสามัญประจําบานของกลุมตัวอยางกลุมนี้ พบวารอย พาราเซตามอล นอกจากนี้ยังพบวา การนํายาเก็บในตูเย็นนั้น ละ 41 ของกลุ ม ตัว อย างเก็บยาไว ใ นตู ย าที่แ ยกเป น สัด ส ว น สวนใหญจ ะเก็บที่ฝ าเป ด-ป ดตู เย็ น และผูต อบแบบสอบถาม และอี ก ร อ ยละ 17 เก็ บ ยาไว ใ นกล อ งใส ย าหรื อ กระเป า ยา สวนใหญตอบวายังไมสามารถระบุเวลาที่เก็บไวไดโดยบอกวา โดยเฉพาะ แตมีกลุมตัวอยางอีกกวารอยละ 27 ไมมีที่เก็บยาที่ อาจจะเก็บไวจนถึงวันหมดอายุ ผูตอบแบบสอบถามบางสวน แน น อน และ ร อ ยละ 15 เก็ บ ยาในลิ้ น ชั ก ตามตู ต า ง ๆ ตอบวา จะเก็บไวไมเกิน 2 เดือน จากการเก็บรวบรวมขอมูล ผลการวิจัยนี้ ชี้ใหเห็นวาผูบริโภคไมไดใหความสําคัญและใสใจ เบื้อ งต นนี้ ทําใหท ราบว า ผู ที่ดู แลการใช ยาในเด็ก นั้น ยังขาด ตอการเก็บรักษายาเทาที่ควร ดังจะเห็นไดจากรอยละ 58 ของ ความรูเรื่องการเก็บรักษายาโดยเฉพาะยาน้ํา ซึ่งจากขอมูลนี้ กลุมตัวอยาง ที่มีตูย าหรือกลองใสยาที่แ ยกเปนสัดสวน แต มี อาจจะเป น แนวทางให เ ภสั ช กรมี บ ทบาทในการให ข อ มู ล เพียงรอยละ 30 เทานั้น ที่มีการจัดหมวดหมูตามประเภทของ เพิ่มเติมในเรื่องนี้ใหกับผูปวยหรือผูที่ดูแลผูปวย เพื่อใหผูปวย ยา (ยาภายในและยาภายนอก) และร อ ยละ 11 ของกลุ ม ใชยาไดปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอยางเทานั้นที่จัดแยกตามสรรพคุณของยา ในขณะที่สว น ใหญของกลุมตัวอยางที่มีตูยาหรือกลองใสยาโดยเฉพาะ (รอย พฤติกรรมการบริโภคยาของผูปวย ละ 59) ไมมีการจัดแยกประเภทของยาอยางเปนหมวดหมู ซึ่ง ผลการศึกษาโดยบริษัท ฟารอีสท ดีดีบี จํากัด (มหาชน)1 อาจกลา วได วา ผูบริโ ภคยั งไมค อยใสใ จกั บการเก็บรัก ษายา ซึ่งเปนการศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของผูบริโภคตอการใช สามั ญประจํา บา นเทา ที่ค วร อย างไรก็ต ามการที่ ประชาชน ยาสามั ญประจํ าบา น โดยได ทํา การสํา รวจผูบริโ ภคชายและ ยังคงปรึ กษาเรื่ อ งยากั บเภสั ชกรกว า 70% เป นโอกาสดี ที่ หญิงที่มีอายุระหวาง 15 - 30 ป จํานวน 200 คน ในเขต เภสัชกรจะให ข อมู ลการเก็ บรัก ษายาที่ถู กต อ งกั บประชาชน กรุงเทพมหานคร และไดสัมภาษณแพทยและเภสัชกรเกี่ยวกับ หรื อ ผู ป ว ย เพื่ อ ให ก ารใช ย ามี ค วามปลอดภั ย และเกิ ด การเก็บรักษายาสามัญประจําบานพบวา รอยละ 81 ของกลุม ประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอยางบรรเทาอาการเจ็บปวยของตัวเองดวยการซื้อยาจาก § 13th year of Srinakharinwirot Journal of Pharmaceutical Science 180 Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
  • 2. ความคงตัวของเภสัชภัณฑ2-10 กายภาพของสวนประกอบตาง ๆ ในตํารับ ที่ไมเกี่ยวของกับ ความคงตัว ของยาหรื อเภสั ชภั ณ ฑมี ค วามสํา คั ญในทุ ก การเปลี่ยนแปลงของตัวยาสําคัญ ขบวนการที่เ กี่ย วขอ งกับยา เริ่ มตั้งแตข บวนการผลิ ต จนถึ ง 4. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของตํารับ เชน ยาเม็ด สภาวะการเก็บรักษายาในโรงงานที่ทําการผลิต ในรถที่ขนสง เปลี่ ย นสี ครี ม เกิ ด การแยกชั้ น ยาน้ํ า แขวนตะกอนเกิ ด การ ในร านยา และในบ านของผู บริโ ภค เนื่ องจากยาที่ไ ดผลทาง ตกตะกอนและแขวนลอยไมได อีกเมื่อ เขยา ทําใหผู ปวยไม มี เภสัชวิท ยาจะต องมีปริ มาณของยา ณ ตําแหนงเปา หมายใน ความมั่นใจในเภสัชภัณฑ แมวาประสิทธิภาพในการรักษาของ ความเข ม ข น ที่ เ หมาะสม ถ า การเก็ บ รั ก ษาเภสั ช ภั ณ ฑ ไ ม ยาจะไมเปลี่ยนไป เหมาะสม ทํา ใหย าเกิด การสลายตั วมากกวา ที่ผู ผลิต คาดไว จากการศึกษาวิจัย ก็จะทําใหผูปวยไดรับยานอยกวาที่คาดไว ปจจัยที่มีผลตอการสลายตัวของยา สงผลใหปริมาณยาที่ตําแหนงเปาหมายต่ําเกินกวาที่จะไดผล ปจจัยหลายอยางมีผลตอความคงตัวของเภสัชภัณฑ รวม ในการรักษา โดยเฉพาะในกรณีของโรคที่เปนอันตรายถึงชีวิต ตั้งแตตัวยาสําคัญ ปฏิกิริยาระหวางตัวยาสําคัญกับสารอื่น ๆ การได รั บ ยาในขนาดที่ เ หมาะสมมี ค วามจํ า เป น อย า งยิ่ ง ในตํารับ ขบวนการผลิต รูปแบบยาเตรียม ภาชนะบรรจุ ฝาปด บางครั้ ง สารที่ เ กิ ด จากการสลายตั ว ของยาอาจก อ ให เ กิ ด สภาวะแวดลอมทั้งในการขนสง ในการเก็บรักษาที่สถานที่จัด อัน ตราย ในกรณี นี้ สภาวะในการเก็ บรั ก ษายาจึ งต อ งมี ก าร จําหน าย การเก็บรั กษาของผู ปวย และระยะเวลาตั้งแตผลิ ต ควบคุมดูแลอยางดี จนถึงการใชผลิตภัณฑ คําว า “ความคงตัวของเภสัชภัณ ฑ” สื่ อความหมายได 1. แสง หลายอยาง ความหมายที่ใชกั นมากที่สุดคือ ความคงตัวทาง แสงอาจเรงใหยาสลายตัวเร็วขึ้นได การหลีกเลี่ยงแสงอาจ เคมีของยาในตํารับ อยางไรก็ตามประสิทธิภาพของยาในเภสัช ทําโดยการใชภาชนะสีชาซึ่งสามารถลดรังสี UV ไดในปริมาณ ภัณ ฑ ไม ไ ดขึ้ น อยูกั บปริ ม าณของตั ว ยาสํ า คัญ เท านั้ น แต ยั ง มาก แสงเรงการสลายตัวของยาในรูปแบบของแข็ งแตกตา ง ขึ้นกับคุณสมบัติทางเภสัชกรรมอื่น ๆ ดวย เชน ความแข็งของ จากการเรงการสลายตัวของยาในรูปแบบสารละลาย เนื่องจาก ยาเม็ด อัตราเร็วในการแตกตัว และอัตราการละลาย เปนตน แสงเรงการสลายตัวของยาในรูปแบบของแข็งเฉพาะที่ผิวนอก ดั ง นั้ น การตรวจสอบความคงตั ว ของยาจึ ง ต อ งรวมการ ความลึกที่แสงจะผานเขาไปถูกจํากัดดวยการดูดซึมและการ ตรวจสอบคุณสมบัติ อื่นดวย และสอดแทรกอยูในทุกขั้นตอน สะทอ นของแสง ปจ จัย ที่มี ผลกระทบตอ การสลายตั วของยา ของการผลิ ต และจั ด จํ า หน า ยเภสั ชภั ณ ฑ ระดั บยาต่ํ า สุ ด ที่ เนื่ องจากแสง ได แ ก ขนาดและพื้น ผิ วของอนุ ภาคยา สีแ ละ ยอมรับโดยทั่วไปคือ รอยละ 90 ของปริมาณยาที่กําหนดไว โครงสรางผลึกยา ความหนาของตัว อยาง และสวนประกอบ ดังนั้นวันหมดอายุของยาจึงหมายถึงเวลาที่ยาเตรียมยังคงตัว อื่นๆ ในตํารับ อยูเมื่อเก็บภายใตสภาวะที่กําหนด 2. ความชื้น ความไมคงตัวของยาซึ่งจะนําไปสูการปฏิเสธเภสัชภัณฑ ความชื้นเปนปญหาหลักหนึ่งที่ทําใหยาในรูปของแข็งไม มี 4 ลักษณะคือ คงตัว ความชื้นอาจจับหรือไมจับกับยาก็ได เฉพาะความชื้นที่ 1. การสลายตั ว ทางเคมี ข องตั ว ยาสํ า คั ญ ซึ่ งจะทํ า ให ไมจับกั บยาที่ มีผลตอ การสลายตัว ของยาที่ตองการความชื้ น ปริมาณยาในเภสัชภัณฑลดลงในกรณีของยาที่มี therapeutic นอกจากยาแลว สารอื่นในตํารับอาจเปนแหลงของความชื้นได index แคบ เชน digoxin และ theophylline มีความสําคัญมาก เช น กั น เช น แป ง ข า วโพด เจลาติ น microcrystalline ที่ ป ริ ม าณยาในเภสั ช ภั ณ ฑ จ ะต อ งมากพอ เพื่ อ ที่ จ ะไ ด cellulose, lactose hydrate, dicalcium phosphate ผลการรักษาหลังจากที่ผูปวยไดรับเภสัชภัณฑนั้น dihydrate, sucrose, sorbitol และ magnesium stearate เปน 2. สารที่ เ กิ ด จากการสลายตั ว ของยามี พิ ษ มากกว า ยา ตน น้ําหรือความชื้น อาจเขา ทํา ปฏิกิ ริยาโดยตรงกับยา หรื อ แม ว า การสลายตั ว ทางเคมี ข องยาจะไม ม ากนั ก เช น การ อาจกอใหเกิดชั้นของความชื้นซึ่งเอื้อตอการเกิดปฏิกิริยาในชั้น สลายตัวของ tetracycline เปน epianhydrotetracycline และ ความชื้ น นี้ หรื อ ความชื้ น อาจมี ผ ลทั้ ง สองแบบ การเพิ่ ม การสลายตัวของ p-aminosalicylic acid เปน m-aminophenol ความชื้น สัมพั ทธมั กเพิ่ มการสลายตัวของยาโดยเฉพาะยาที่ 3. ค ว า มไ ม ค ง ตั วข อ ง ย า นํ าไ ป สู ก า รล ด ล ง ข อ ง เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันไดงาย นอกจากนี้การเพิ่มความชื้นยัง bioavailability ซึ่งจะทําใหประสิทธิภาพการรักษาของยาลดลง อาจเร งขบวนการ aging โดยการทํ าปฏิกิริ ยากับสารอื่ นใน มาก ป ญ หานี้ อ าจเกิ ด จากการเปลี่ ย นแปลงทางเคมี ห รื อ ตํารับ มีกรณีที่ความชื้นชวยลดการสลายตัวของยา แมจะพบ ไดนอยมาก เชน กรณีของ ergocalciferol Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008 181
  • 3. 3. อุณหภูมิ excessive heat คือ อุณหภูมิสูงกวา 40 °C ผูผลิตจะทํา การทดสอบความคงตั วของยาในสภาวะที่ มี protection from freezing ควรระบุในกรณีที่ภาชนะบรรจุ สภาพรุนแรงกวาหรือเบากวาสภาพที่ยาตองสัมผัสจริงๆ เชน มีความเสี่ยงตอการแตก หรือยาเตรียมที่อาจสูญเสียความแรง ที่อุณหภูมิ 40 °C / 75% relative humidity (RH) หรือเก็บใน หรือมีการทําลายลักษณะของยาเตรียม เมื่อเก็บในสภาวะแช ตูเย็นอุณหภูมิ 2 – 8 °C เปนตน เพื่อเปนแนวทางในการ แข็ง กํ า หนดสภาวะการเก็ บยาว า เก็ บได ที่ อุ ณ หภู มิ ห อ ง (room protection from moisture สภาวะความชื้นไมเกิน 60% temperature) หรือในหองควบคุมอุณหภูมิ (controlled room RH temperature) หรือในตูเย็น (refrigerator) ดังนั้นควรสังเกต ในกรณีที่ไมระบุสภาวะในการเก็บ สภาวะในการเก็บและ ขอแนะนําในการเก็ บรักษาที่บงไวในเอกสารกํากับยาวาตอ ง แจกจายเภสั ชภัณ ฑควรปอ งกั นความชื้ น การแชแข็ ง และที่ เก็บในสภาวะใด โดยเฉพาะการเก็บในตูเย็น (ที่อุณหภูมิ 2-8 อุณหภูมิไมเกิน 40 °C °C) ซึ่ ง ยาบางอย า งจะสลายตั ว ได เ ร็ ว มากถ า เก็ บ ไว ที่ อุณ หภูมิ ห อง เช น ยาหยอดตาคลอแรมเฟนิ คอล ถ า เก็ บใน สภาวะในการเก็บรักษายา ตูเย็นอุณหภูมิ 2 - 8 °C จะคงตัวไดถึง 18 เดือน แตถาเก็บที่ การบรรจุ ย าในภาชนะที่ เ หมาะ สม และจั ด วางใน อุณหภูมิหอง (18 - 25 °C) จะมีอายุไดแคประมาณ 4 เดือน สิ่งแวดลอมที่เหมาะสม จะชวยคงสภาพยาได การควบคุมและ จัดเก็บเภสัชภัณฑที่ไมถูกตอง อาจทําใหยาสลายตัวมากกวาที่ เทานั้น หรือยาฉีดอินซูลิน ถาเก็บที่ 2 - 8 °C จะมีอายุไดถึง 2 คาดไว ซึ่งจะสงผลใหอ ายุการใชยาสั้นลง ซึ่งบริษัทผูผลิตยา ป แตถาเก็บที่อุณหภูมิหองจะมีอายุไดแค 1 เดือน โดยเฉพาะ เปนผูกําหนดสภาวะในการจัดเก็บยาที่เหมาะสม และตองระบุ ยาฉี ด ต อ งเก็ บในสภาวะที่ แ นะนํ า อย า งเคร งครั ด เพราะถ า ไวที่ ฉลากยา อยา งไรก็ต าม สภาวะการจัดเก็บยาที่ ดีไ มไ ด ประสิท ธิ ภาพลดลงแล ว จะเปน อั นตรายต อ ผูปว ยเป นอย า ง ยืน ยัน ว ายาจะมี ความคงตัว ตลอดไป ทั้ งนี้ย ามีอ ายุก ารใช ที่ มาก แตในบางกรณีการเก็บยาที่อุณหภูมิต่ํา เชน นําไปเก็บใน จํากัด ไมควรเก็บเภสัชภัณฑเพื่อใชตลอดกาล เภสัชภัณฑทุก ตู เ ย็ น ก็ จ ะมี ผ ลเสี ย เช น ยาน้ํ า จะเกิ ด การตกผลึ ก ของยาได ชนิดควรระบุวันหมดอายุของยาไวที่ฉลากดวย ปริมาณยาลดนอยลงเมื่อนําไปใช ความหมายของสภาวะอุณหภูมิที่ระบุในเภสัชตํารับ วิ ธี ก ารเก็ บ รั ก ษายาและบทบาทของเภสั ช กรที่ freezer คือ สถานที่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิไวระหวาง - เกี่ยวกับการเก็บรักษายาของผูปวย 20 °C ถึง -10 °C คําแนะนําทั่วไป cold คือ อุณหภูมิไมเกิน 8 °C refrigerator คื อ สถานที่ เ ย็ น (cold) ที่ มี ก ารควบคุ ม 1. หลีกเลี่ยงการเก็บยาในที่แสงสวางสองถึง ควรเก็บยา ในบริเวณที่เย็นและแหง เชน ในตูในหองครัวหรือในหองนอน อุณหภูมิไวระหวาง 2 ถึง 8 °C ในที่ที่เด็กหยิบยาไมได ไมควรเก็บยาในหองน้ํา ไมควรเก็บยา cool คือ อุณหภูมิระหวาง 8 °C ถึง 15 °C ยาเตรียมที่ ในบริเ วณที่อุน และชื้ น และไมควรเก็บยาในตูเ ย็น ยกเวนยา ระบุใหเก็บใน cool place อาจเก็บไวในตูเย็น ยกเวนกรณีที่มี บางชนิดที่มีการระบุใหเก็บในตูเย็น การระบุเปนอยางอื่น 2. ไม ค วรเก็ บยาต า งชนิ ด กั น รวมกั น ในภาชนะบรรจุ room temperature คือ อุณหภูมิใ นสภาวะการทํ างาน เดียวกัน ควรเก็บยาในภาชนะบรรจุที่ไดรับมาจากบริษัทผูผลิต ปกติ (original container) หรือจากสถานพยาบาล ปดฝาใหสนิ ท controlled room temperature คือ อุณหภูมิระหวาง 20 เมื่อไมไดใชยา ไมควรดึงฉลากยาออก เนื่องจากที่ฉลากยามี °C ถึง 25 °C เมื่อนํามาคํานวณ mean kinetic temperature ขอมูลการใชยาและขอมูลที่จําเปน จะไดไมเกิน 25 °C โดยอยูระหวาง 15 °C ถึง 30 °C ยา 3. เพื่อปองกันการผิดพลาด ไมควรใชยาในที่มืด ควรอาน เตรี ยมที่ มีก ารระบุ ใหเ ก็บที่ controlled room temperature ฉลากกอนใชยาเสมอ และควรสังเกตวันหมดอายุของยาดวย หรือเก็บที่อุณหภูมิไมเกิน 25 °C อาจเก็บใน cool place ก็ได 4. ในกรณี ที่แ พทย บอกให ผูปวยหยุด ใช ยา ผูปวยควร นอกจากจะระบุเปนอยางอื่น ปรึกษาแพทยวาจะเก็บยาที่เหลือไวใชไดอีกหรือไม ถาไมได warm คือ อุณหภูมิระหวาง 30 °C ถึง 40 °C ผูปว ยควรทิ้งยาไป ไม ควรใหย าที่ เหลือกั บคนอื่ น เนื่ องจาก 182 Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
  • 4. แพทยสั่งยานั้นเพื่อรักษาอาการปวยกับผูปวยเฉพาะราย ซึ่ง ตะกอนนั้ น ยาปฏิ ชี ว นะที่ มี ก ารใช กั น มากคื อ ยาในกลุ ม อาจไมเหมาะที่จะใชรักษาผูอื่น penicillins เชน amoxicillin หลังผสมน้ําแลวสามารถเก็บไวได ที่อุณหภูมิไมเกิน 25 °C หรือเก็บในตูเย็นชองธรรมดาแตควร การเก็บรักษายาภายใตสภาวะที่กําหนด เก็บในตูเย็น ซึ่งยาจะยังมีความคงตัวที่ สามารถยอมรับไดใ น สภาวะการเก็บยาที่แนะนํา มักระบุไว บนฉลาก โดยอาจ เวลา 14 วั น 14 ส วนยาปฏิ ชีว นะที่ มี ตั วยาสํ า คั ญ 2 ชนิ ด คื อ กําหนดชวงอุณหภูมิ หรือสถานที่หรือเงื่อนไขในการเก็บเภสัช amoxicillin และ clavulanic acid นั้น พบวาหลังผสมน้ําแลว ภัณฑ เชน “เก็บในตูเย็น” “เก็บที่อุณหภูมิหอง” เภสัชกรควร ควรเก็บในตูเย็นชองธรรมดา ตัวยาสําคัญจะยังมีความคงตัวที่ ปฏิบัติ ตามคํ าแนะนําเสริมดว ย เช น “เก็ บยาใหพนแสง” ถ า สามารถยอมรับไดใ นเวลา 7 วั น 15 ซึ่ งขอ มู ลนี้ สอดคลอ งกั บ เภสั ชภั ณฑที่ ตอ งเก็บใหพ นแสงบรรจุใ นภาชนะใสหรื อโปร ง คําแนะนําในการเก็บรักษายาจากบริษัทผูผลิต นอกจากนี้ยังมี แสงแล ว ใส ใ นกล อ งทึ บแสง เภสั ชกรและผู ปว ยไม ค วรแกะ ยาปฏิชีวนะกลุมอื่นๆ อีก เชน cephalosporins ที่ใชกันมาก กลองทิ้งจนกวาจะใชยาหมดหรือทิ้งยา ถาไมระบุสภาวะในการ คือ cephalexin หลังผสมน้ําแลวควรเก็บในตูเย็นชองธรรมดา เก็บอยางเฉพาะเจาะจง เภสัชกรและผูปวยควรเก็บเภสัชภัณฑ ซึ่งยาจะยังมีความคงตัวที่สามารถยอมรับไดในเวลา 14 วัน14 นั้นในอุณภูมิหอง (controlled room temperature, 20-25 °C) ซึ่ งข อ มู ล นี้ สอดคล อ งกั บคํ า แนะนํ า ในการเก็ บรั ก ษายาจาก ควรหลีกเลี่ยงการเก็บเภสัชภัณฑในบริเวณที่รอน เย็น หรือมี บริษั ทผูผ ลิต สวนยาในกลุมนี้ ที่เป นรุน ใหม เช น cefdinir มี แสงมากเกินไป หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมากเกินไป คํ า แนะนํ า จากบริ ษั ท ผู ผ ลิ ต ว า ผงยาที่ ยั ง ไม ผ สมน้ํ า เก็ บ ที่ หองควบคุมอุณหภูมิที่ 18 - 25 °C และหลังผสมน้ําแลวควร เมื่อคํานึงถึงเรื่องอุณหภูมมีขอแนะนําดังนี้ ิ เก็บในตูเย็นชองธรรมดา (2 - 5 °C) จะสามารถเก็บไดไมเกิน 1. เภสัชภัณฑ หลายชนิดตอ งเก็บในที่เย็น โดยเฉพาะที่ 10 วัน นอกจากนี้ยังมีกลุมอื่นๆ ที่มักจะใชในเด็กที่มีประวัติแพ อุณหภูมิ ต่ํากวา 15 °C เชน ยาเหน็ บที่ ตองหลอมละลายที่ ยาในกลุ ม penicillins คื อ กลุ ม macrolides เช น ยา อุณหภูมิของรางกาย ยาเตรียมเหลานี้อาจเสียสภาพ ไดถาวาง erythromycin และ azithromycin มีคําแนะนําจากบริษัทผูผลิต ไวในที่รอน ยาฉีดอินซูลินควรเก็บที่อุณหภูมิ 2 – 8 (หรือ 10) ว า สามารถเก็ บ ไว ที่ อุ ณ หภู มิ ไ ม เ กิ น 30 °C ได โดย °C คือ ในตูเย็นแตไมใชชองแชแข็ง azithromycin หลั งผสมน้ํ า แล ว ก็สามารถเก็ บได ที่อุ ณ หภู มิ นี้ 2. ยาปฏิชีวนะในรูปแบบยาน้ําแขวนตะกอน ผลิตภัณฑที่ เชนเดียวกัน มีน้ํามันหอมระเหย และครีมบางชนิดตองเก็บในที่เย็น เมื่อคํานึงถึงเรื่องความชื้นมีขอแนะนําดังนี้ ยาในรูปแบบ 3. ย าที่ มี ไ ซรั บใ นป ริ ม าณ สู ง คว รห ลี ก เลี่ ยง กา ร ของแข็งควรปอ งกันความชื้ น ผลิตภัณ ฑเหล านี้ค วรบรรจุใ น เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ภาชนะที่ ปอ งกั น อากาศและความชื้ น ได และควรชี้ แ จงให ผูปวยปด ฝาหลังจากใช ยา ยาผงที่แบ งบรรจุ ในกลอ งหรือห อ และจากการเก็บขอมูลการศึกษานํารองในเรื่อง “การเก็บ กระดาษควรเก็บในที่แหง รักษายาที่ใชในเด็ก” โดยใชแบบสอบถาม ถามผูปวยหรือญาติ เมื่อคํานึงถึงเรื่องแสงมีขอแนะนําดังนี้ ขวดสีชาใชปองกัน ที่ดูแลการใชยาของเด็กที่ไดรับยาจากโรงพยาบาล จํานวน 30 ผลิตภัณฑที่ไวตอแสง การใสกลองชวยเพิ่มการปองกันแสงได คน พบว า ผู ต อบแบบสอบถามส ว นใหญ นํ า ยาที่ ไ ด รั บจาก สารบางชนิดเชน paraldehyde ตองเก็บในที่มืดสนิท ภาชนะ โรงพยาบาลเก็บไวในตูเย็น โดยยาสวนใหญที่เด็กไดรับคือ ยา บรรจุ ไ ม ค วรสั ม ผั สแสงอาทิ ต ย โ ดยตรงแม จ ะเป น ภาชนะ ลดไ ข ช นิ ด น้ํ า เชื่ อ มมี ตั ว ยาสํ า คั ญ คื อ พาราเซตามอล ปองกันแสงก็ตาม นอกจากนี้ยังพบวา การนํายาเก็บในตูเย็นนั้น สวนใหญจะเก็บ ที่ฝาเปด-ปดตูเย็น ซึ่งในสวนของยาพาราเซตามอล ชนิดที่ใช การสังเกตความไมคงตัวของเภสัชภัณฑ ในเด็กนั้นเปนที่ทราบกันดีวา สามารถเก็บไวที่อุณหภูมิหองได การสู ญ เสี ย ความแรงข องยามั ก มี ผ ลมาจากกา ร หรือแมในเอกสารกํากับยาในบางชื่อการคาอาจจะระบุใหเก็บที่ เปลี่ ย นแปลง ทางเคมี ป ฏิ กิ ริ ย าที่ พ บบ อยที่ สุ ด ไ ด แ ก อุณภูมิต่ํากวา 25 - 30 °C การเก็บในตูเย็นอาจมีผลตอคาการ hydrolysis, oxidation และ photolysis การเปลี่ยนแปลงทาง ละลายของตัวยาสําคัญรวมทั้งอาจทําใหสารที่ใหรสหวานเกิด เคมีอาจมีผลมาจากปฏิกิริยาระหวางสารตาง ๆ ในผลิตภัณฑ การตกผลึกได ทําใหรสชาติของยาเปลี่ยนไป 11-13 ในสวนของ หรือ พบบา งที่ เกิ ดจากปฏิกิ ริย าระหวา งสารในผลิต ภัณ ฑกั บ ยาปฏิ ชี ว นะชนิ ด ผงหลั ง ผสมน้ํ า แล ว จะได เ ป น ยาน้ํ า แขวน ภาชนะบรรจุ การสูญเสียความแรงของยาอาจมีผลมาจากการ Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008 183
  • 5. ที่ยาซึมเขาสูหรือจับกับผิวของภาชนะบรรจุและจุกปด ในกรณี การปนเปอนดวยเชื้อจุลินทรีย ดังนั้นที่เปลือกของ soft gelatin ที่ความแรงของยาเพิ่มขึ้น มัก มีสาเหตุจากการระเหยของตั ว capsule มักเติมสารกันบูดเพื่อปองกันการเจริญของเชื้อรา ทําละลายหรือการซึมของสารออกจากภาชนะบรรจุและฝาปด แมวาโดยทั่วไปแลวเภสัชกรหรือผูปวยไมสามารถตรวจสอบ 2. Uncoated tablets การสลายตัวทางเคมีของยาได บางครั้งการสลายตัวทางเคมีที่ ยาเม็ดที่ คงตัวต องมีขนาด รูปร าง น้ําหนักและสีเหมือ น เกิ ด ขึ้ น ในปริ ม าณมากส ง ผลให เ กิ ด การเปลี่ ย นแปลงทาง ตอนที่เริ่มผลิตตลอดอายุของยา นอกจากนี้ การแตกกระจาย กายภาพได อย า งไรก็ ต าม การเปลี่ ย นแปลงทางกายภาพ ตัวและการละลายตองไมเปลี่ยนแปลงมากนัก ลักษณะความ บางอย างอาจไมเ กี่ย วข องกับการเปลี่ย นแปลงทางเคมี เช น ไมคงตัวทางกายภาพของยาเม็ดที่ไมเคลือบ สังเกตไดจากผง การเปลี่ยนสีหรือกลิ่น การตกตะกอน หรือสารละลายขุน การ ยาจํานวนมากหรือเศษเม็ดยาที่แตกหักออกมาจากเม็ดยาที่กน เปลี่ยนแปลงเหลา นี้ ชี้ใ หเห็น ถึงปญ หาความไม คงตัว ของยา ภาชนะ รอยราวหรือรอยบิ่นที่ผิวเม็ดยา เม็ดยาบวม รอยดางที่ เภสัชกรควรตั้งสมมติฐ านวาเภสัชภัณฑที่มีการเปลี่ยนแปลง เม็ดยา เม็ดยาเปลี่ยนสี เม็ดยาเกาะติดกัน หรือผลึกที่เม็ดยา ทางกายภาพที่ ไ ม มี ก ารอธิ บ ายไว ที่ ฉ ลาก อาจมี ก าร หรือที่ผนังของภาชนะบรรจุ เปลี่ยนแปลงทางเคมีรวมดวย และไมควรจายยานั้นใหคนไข การเจริญและหรือการปนเปอนของเชื้ออาจปรากฏในรูปของ 3. Coated tablets การเปลี่ ย นแปลงทางกายภาพ นอกจากการเปลี่ ย นแปลง ลักษณะที่ไมคงตัวทางกายภาพคือ รอยราว รอยดาง ที่ ลัก ษณะทางกายภาพที่ เห็ นได อย างชัด เจน เชน สี หรื อกลิ่ น เม็ดยา สารที่ใชเคลือบเหนียว และเม็ดยาเกาะกันเปนกอน เปลี่ ย น ซึ่ งบอกถึ งความไม ค งตั ว ของเภสั ชภั ณ ฑ แ ล ว การ เปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่พบไดบอยและบงบอกความไมคง 4. Dry powders และ granules สภาพในเภสัชภัณฑรูปแบบตางๆ มีดังนี้ ผงยาแลเะแกรนูลที่ไมมีวัตถุประสงคที่จะผสมน้ํากอนใช อาจเกาะกันเปนกอนแข็งหรือเปลี่ยนสี ทําใหไมเปนทียอมรับ ่ เภสัชภัณฑในรูปแบบของแข็ง เภสั ช ภั ณ ฑ ใ นรู ป แบบของแข็ ง ควรเก็ บในบริ เ วณที่ มี 5. Powders และ granules ความชื้ นต่ํ า ดั งนั้น จึ งควรเก็ บใน tight container หรื อ ใน เปนผงยาที่ตองผสมน้ําใหอยูในรูปของสารละลายหรือยา ภาชนะบรรจุจากบริษัทผูผลิต สภาพที่มีไอน้ําหรือหยดน้ําหรือ น้ํ า แขวนตะกอนก อ นใช เภสั ช ภั ณ ฑ ใ นกลุ ม นี้ มั ก เป น ยา ยาจับกันเปนกอนภายในภาชนะบรรจุแสดงถึงสภาพที่ไมดี ถา ปฏิชีวนะหรือวิตามินที่ไวตอความชื้นเปนพิเศษ เนื่องจากยา เภสั ช กรสั งเกตเห็ น สารกั น ความชื้ น (desiccant) ภายใน เหลานี้จายในภาชนะที่ มาจากบริษั ทผูผลิต จึงมักไมมีปญหา ภาชนะบรรจุจากบริษัทผูผลิตแสดงวาควรระมัดระวังความชื้น การปนเป อ นของความชื้ น อย า งไรก็ ต าม เภสั ชกรควรใช ในการเก็บยาและควรบอกผูปวยเมื่อจายยา สารที่เกิดจากการ วิจารณญาณในการพิจารณาลักษณะจับกันเปนกอนแข็งที่ไม สลายตัวบางชนิด เชน salicylic acid ที่สลายตัวจาก aspirin ปกติ และถาที่ผนังภาชนะบรรจุมีไอน้ําหรือหยดน้ําก็แสดงวา สามารถระเหิดและตกผลึกกลับมาเกาะอยูตามผนังของภาชนะ ยาเตรียมนั้นไมเหมาะที่จะนําไปใชอีกตอไป กลิ่นที่ไมดีก็แสดง บรรจุ ถึงความไมคงตัวเชนกัน เนื่องจากสูตรตํารับเหลานี้เปนผงแหง ที่ตองผสมน้ําก อนใช จึงตองสังเกตสีและกลิ่นของผลิตภัณ ฑ 1. Hard gelatin capsules และ soft gelatin capsules ทั้งในรูปผงแหงและหลังจากผสมน้ําแลว เนื่องจากยาเหลา นี้ไดรั บการห อหุมด วยเปลือกเจลาติ น การเปลี่ ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของเปลือ ก เชน การ 6. Effervescent tablets, granules และ powders เปลี่ ยนแปลงความยื ดหยุ น ความแข็ ง ความนุม ชี้ใ หเห็ นถึ ง ผลิตภัณฑเหลานี้ไวตอความชื้นคอนขางมาก สัญญาณที่ ความไ ม ค งตั ว ของผลิ ต ภั ณ ฑ นอกจากนี้ อ าจเกิ ด การ บงบอกความไมคงตัวคือ ผงยาบวมหรือการเกิดกาซทําใหเกิด ปลดปลอยกาซโดยการสังเกตกระดาษที่ใชปดผนึกมีรองรอย แรงดัน แสดงวาปฏิกิริยาการเกิดฟองฟูเกิดขึ้นแลวกอนจายยา ของการโปงพองก็แ สดงถึงความไมคงตั วเชนกัน เปลือกของ ยาแคปซู ล ที่ เ ก็บในสภาวะที่ ไม เ หมาะสมอาจนิ่ ม และติ ด กั น เภสัชภัณฑในรูปแบบของเหลว หรือแข็งและแตกแมมีแรงกดออน ๆ ยาแคปซูลควรหลีกเลี่ยง สิ่ ง สํ า คั ญ สํ า หรั บ เภสั ช ภั ณ ฑ ใ นรู ป แบบของเหลว คื อ ความสม่ํ าเสมอของยาและความปราศจากการปนเปอนของ 184 Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
  • 6. เชื้อจุลินทรีย เภสัชกรและผูปวยอาจสังเกตความไมคงตัวจาก และเมื่ออนุ ภาคยาตกตะกอนแลวจะจับกันแนน เปนกอนแข็ ง สารละลายขุ น หรื อ ตกตะกอน อิ มั ล ชั น แยกชั้ น ยาน้ํ า แขวน ทําใหยากที่จะกระจายตัวเหมื อนเดิม ของเหลวที่ใช จึงควรมี ตะกอนไมสามารถแขวนลอยไดหลังจากเขยาขวด หรือมีการ ความหนาแนนและความหนืดมากพอเพื่อลดโอกาสที่อนุภาค เปลี่ยนแปลงของกลิ่นและรส การเจริญของเชื้ออาจเกิดรวมกับ ยาจะตกตะกอน ลักษณะหลักที่แสดงถึงความไมคงตัวของยา การเปลี่ยนสี การขุน หรือการเกิดกาซ น้ําแขวนตะกอนคือ การเกิด caking ซึ่งเปนลักษณะที่ผงยาไม สามารถกลับแขวนลอยไดอีกดวยแรงเขยาปานกลาง ผงยาที่มี 1. Solutions, elixirs และ syrups ขนาดโตขึ้ น หลั งจากเก็ บผลิ ตภั ณ ฑ ไ ว ร ะยะเวลาหนึ่ งอาจมี ลักษณะที่แสดงถึงความไมค งตัวหลัก ๆ มี 2 อยา ง คื อ สาเหตุ ม าจากผลึ ก ยามี ข นาดใหญ ขึ้ น และแสดงถึ ง การ การขุน และการเจริญของเชื้ อหรือการเกิดกาซจากปฏิกิริย า เปลี่ยนแปลงทางกายภาพเชนกัน เคมี ยาน้ํ าใสที่ คงตั วตองคงความใส สี และกลิ่น เหมือ นตอน เริ่มผลิตตลอดอายุของยา โดยเฉพาะความใสของตํารับจะเปน 4. Tinctures และ Fluidextracts จุดหลักในการทดสอบดานความคงตัวทางกายภาพของยาน้ํา เภสัชภัณฑรูปแบบเหลานี้หรือที่มีลักษณะคลาย ๆ กันมัก ใส ยาน้ําเชื่อมมีจุดที่ควรสังเกตอีกอยางคือ เมื่อตั้งทิ้งไวแลว มีสีเขมขึ้นเนื่องจากยาเตรียมมีความเขมขนขึ้น ดังนั้นเภสัชกร เกิดผลึกของน้ําตาลเกาะบริเวณรอบปากขวด ซึ่งอาจแสดงถึง จึงควรตรวจสอบอยางละเอียดวามีการตกตะกอนหรือไม ความไมเหมาะสมในการนําไปใชอีก 5. Sterile liquids 2. Emulsions การคงสภาพปราศเชื้ อ เป น สิ่ ง ที่ สํ า คั ญ มากสํ า หรั บ อิ มั ล ชั น ที่ ค งตั ว ต อ งมี ก ารกระจายตั ว อย า งสม่ํ า เสมอ ของเหลวที่ ปราศจากเชื้ อ การปนเป อ นของเชื้ อ จุลิ น ทรี ย ใ น เหมือ นตอนเริ่ม ผลิ ตด วยแรงเขยา ปานกลางและสามารถเท ของเหลวปราศจากเชื้อมักสังเกตไมไดดวยตาเปลา เภสัชกร ออกจากขวดได ต ลอดอายุ ข องยา ลั ก ษณะที่ ไ ม ค งตั ว ของ อาจตั้งสมมติฐานวา ผลิตภัณฑเกิดการปนเปอนดวยเชื้อจาก อิมัลชันสังเกตไดจากการแยกชั้นของผลิตภัณฑ อยางไรก็ตาม ลัก ษณะหมอกบาง ๆ การขุ น การเปลี่ ย นสี การเกิ ดฟ ล ม ที่ อิมั ล ชั นยั งมี ความคงตั ว แมเ กิ ด creaming คื อ เนื้ ออิ มั ล ชั น ผิวหนา การเกาะกัน ของผงยา หรื อการเกิ ดก าซ ลั กษณะที่ สามารถเขากันไดเมื่อเขยา สําคัญที่สุดของสารละลายปราศจากเชื้อที่เปนยาตาหรือยาฉีด การเก็บอิมัลชันไวในตูเย็น โดยที่ตํารับนั้นไมไดผานการ คือ ความใส เภสั ชกรควรตั้ งขอ สงสั ยถาสั งเกตเห็ นการผนึ ก ทดสอบการเก็บในตูเย็น อาจทําใหสารทําอิมัลชันที่เปนพวก ผลิตภัณฑที่ไมสมบูรณ น้ํามันมีคาการละลายในระบบลดลงและเกิดการตกตะกอน ซึ่ง เปนสาเหตุใหตํารับไมคงตัวได เภสัชภัณฑกึ่งแข็งกึงเหลว ่ ลัก ษณะที่ แสดงถึ งความไม คงตั วหลั กของครี ม ยาขี้ ผึ้ ง 3. Suspensions และยาเหน็บ คือ สี กลิ่น หรือความหนืดที่เปลี่ยนไป ยาน้ํ า แขวนตะกอนที่ ค งตั ว ต อ งมี ก ารกระจายตั ว อย า ง สม่ําเสมอเมื่อเขยาดวยแรงปานกลาง และสามารถเทออกจาก 1. Creams ขวดไดงา ยตลอดอายุข องยา โดยไม มีก ารเปลี่ ยนแปลงการ โดยทั่วไปครีม คือ อิมัลชัน ที่ประกอบดวยน้ํา และน้ํามั น กระจายของขนาดอนุภาคยา (particle size distribution) รูป เภสั ชกรและผูปวยสามารถสังเกตความไมค งตัว ของครี มได ผลึกยา หรือปริมาณยาที่ผูปวยควรไดรับจากขนาดการใหยา จากการแยกของอิมัลชัน การโตของผลึก การหดตัวของเนื้ อ เทาเดิม ยาน้ําแขวนตะกอนที่มีความคงตัวที่สุดเปนระบบที่ยา ครี ม เนื่ อ งจากการระเหยของน้ํ า และการปนเป อ นของ มีการเกาะกันอยางหลวมๆ (flocculated suspension) โดยไม เชื้อจุลินทรีย มี พั น ธะกั บ ของเหลวที่ ย าแขวนลอยอยู อ ย า งมี นั ย สํ า คั ญ อนุภาคที่ตกตะกอนของระบบนี้สามารถกระจายตัวกลับไดงาย 2. Ointments ดวยแรงเขยาปานกลาง ในยาน้ําแขวนตะกอนที่ยาไมไดจับกัน ยาขี้ผึ้งที่คงตัวตองมีการกระจายตัวของยาอยางสม่ําเสมอ อย า งหลวมๆ (nonflocculated suspension) ของเหลวที่ ตลอดอายุ ของยา ป ญหาความไม คงตัว หลัก ของยาขี้ผึ้ ง คื อ แขวนลอยยามี บ ทบาทต อ ความคงตั ว ของยาเตรี ย มมาก การแยกของของเหลวออกมาเยิ้ ม ที่ ผิ ว หน า ของยาเตรี ย ม อนุภาคยาควรมีขนาดเล็กและเบา เพื่อใหตกตะกอนอยางชาๆ (bleeding) และมีค วามข น หนื ด (consistency) เปลี่ย นไป Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008 185
  • 7. เนื่ อ งจากระยะเวลาในการเก็ บ เภสั ช ภั ณ ฑ ห รื อ จากการ dose container ที่ ไ ม อ นุ ญ าตใหแ ยกออกจากกั น ในการ เปลี่ย นแปลงอุ ณหภูมิ ยาขี้ ผึ้งที่ นุม เกิ นไปทํ าใหเ ปรอะเป อ น กํา หนด beyond-use date ของยาที่ แ บ งบรรจุ ใ นภาชนะ เมื่อใช แตถาแข็งเกินไปจะบีบออกจากหลอดยากและทายาก เหลานี้ ถาไมมีขอมูลทางดานความคงตัวควรกําหนดดังนี้ การเกิด แกรนู ลหรือ เม็ดเล็ก ๆ ก็เ ปนปญ หาความไม คงตั ว ทางกายภาพของยาขี้ผึ้งเชนกัน 1) 25% ของเวลาที่ เ หลื อระหว างวั น ที่ แบ งบรรจุ กั บวั น หมดอายุของยาที่กําหนดโดยบริ ษัทผู ผลิตที่ ภาชนะบรรจุย า 3. Suppositories ขนาดใหญ หรือ ลักษณะหลักที่บงบอกความไมคงตัวของยาเหน็บคือ ยา 2) 6 เดือนหลังจากวันที่แบงบรรจุ เหน็บที่ออนนุมเกินไป ยาเหน็บบางชนิดอาจแหงและแข็ง หรือ ทั้งนี้ ใหเลื อกใชชวงระยะเวลาที่สั้นกวา ยาที่แบ งบรรจุ เหี่ ย วแห ง เภสั ชกรควรตรวจสอบยาเหน็ บแต ล ะแท งอย า ง เหล า นี้ ค วรเก็ บ ในสิ่ งแวดล อ มที่ ค วบคุ ม ความชื้ น และตาม ใกลชิด ถาสังเกตเห็นรอยน้ํามั นที่กล อง โดยการเปด ฟอยล ที่ อุณหภู มิที่กํา หนดในเภสั ชตํารั บหรือ ตามฉลาก ในกรณีที่ไ ม หุมอยูถาจําเปน ยาเหน็บโดยทั่วไปควรเก็บในตูเย็น ระบุอุณหภูมิและความชื้น ควรเก็บที่อุณหภูมิหอง (controlled room temperature) แตไมเกิน 25 °C ที่ความชื้นสัมพัทธไม วันหมดอายุ (expiration date) มากกวา 75% ในตูเย็นและในชองแชแข็งไมถือเปนบริเวณที่ วันหมดอายุของยาบอกชวงเวลาที่คาดวายาเตรียมจะคง ควบคุมความชื้น ถายานั้นถูกกําหนดใหเก็บในที่เย็นจัด (cold คุณสมบัติที่ กําหนดไว ในเภสัชตํารับภายใตสภาวะการเก็บที่ temperature) ใหเก็บยาในตูเย็นหรือชองแชแข็งโดยใสยาใน กําหนดไว วั นหมดอายุข องยาจึ งบอกชว งเวลาที่ควรใช หรื อ ภาชนะบรรจุชั้น นอก (outer container) ที่ เ ขา มาตรฐานที่ จายยา ฉลากของเภสัชภัณฑควรแสดงวันหมดอายุของยาไว บังคับไวสําหรับยานั้น ๆ อย า งชั ด เจน เภสั ช กรควรจ า ยยาที่ ยั ง ไม ห มดอายุ ถ า วั น หมดอายุแสดงไวในรูปของ เดือน/ป หมายถึง วันสุดทายของ อายุการใชยา เดื อ นที่ ร ะบุ ไ ว วั น หมดอายุ ที่ กํ า หนดโดยบริ ษั ท ผู ผ ลิ ต นี้ ไ ม อายุการใชยาเปนชวงระยะเวลาที่คาดหวังวาคุณภาพของ สามารถนํ าไปใชกั บผลิต ภัณ ฑที่ แบ งบรรจุใ นภาชนะบรรจุ ที่ ยายังคงอยู ในชว งที่ ย อมรับ และผูปวยควรได รับการแจงให แตกตางไปจากเดิม ทราบระยะเวลาการเก็บยา การพิ จารณาอายุ การใชย าต อ ง ในการกําหนดระยะเวลาที่ผูปวยจะใชยาหลังจากไดรับยา คํานึงถึงสาเหตุ ตาง ๆ ที่ ทําใหยาไมคงตัว รวมถึ งสภาพการ ผู จ า ยยาควรคํ า นึ งถึ งธรรมชาติ ข องยา ภาชนะที่ บรรจุ โ ดย เก็บที่ไมเหมาะสมภายในบานดวย เภสัชกรไมควรแนะนําให ผูผลิตและวันหมดอายุของยาที่ระบุ ภาชนะที่ใสยาเตรียมให ผูปวยกักตุนยาไว ผูปวยถาตองแบงจายยาจากภาชนะของบริษัทผูผลิต สภาวะ ยาที่ จ า ยในภาชนะบรรจุ เ ริ่ ม ต น จากบริ ษั ท ผู ผ ลิ ต อาจ ในการเก็บยาของผูปวย และระยะเวลาในการใชยาของผูปวย คาดหวังวันหมดอายุที่ใกลเคียงกับที่กําหนดโดยบริษัทผูผลิต ผู จ า ยยาอาจระบุ ร ะยะเวลาการใช ย าให ผู ปว ยไว ไ ม เ กิ น วั น ถาผูปวยสามารถเก็บยาในสภาวะที่แนะนํา อยางไรก็ตาม การ หมดอายุของยาที่กําหนดโดยบริษัทผูผลิต หรือไมเกินหนึ่งป เปลี่ยนภาชนะบรรจุ โดยเฉพาะอยางยิ่งถามี การปรับเปลี่ย น หลังจากจายยา โดยเลือกชวงที่สั้นกวา หรื อ เจื อ จางผลิ ต ภั ณ ฑ จะทํ า ให อ ายุ ก ารใช ย าสั้ น ลงอย า งมี บริ ษั ท ผู ผ ลิ ต ควรระบุ ข อ มู ล ทางด า นการบรรจุ แ ละ นัยสําคัญได โดยทั่วไป เภสัชกรควรกําหนดอายุการใชยาไวที่ beyond-use date บนฉลากของยาในรูปแบบของแข็งที่ใหโดย 14 วัน ถามีการเจือจางยาเตรียมดังกลาว ยาที่ไมมีการวิจัยวัน การรับประทาน เพื่อใหเภสัชกรผูจายยาสามารถเลือกภาชนะ หมดอายุ ของยาควรกํ าหนดวั นหมดอายุของยาในช วงสั้ นไว บรรจุแ ละกํ าหนด beyond-use date บนฉลากที่เ หมาะสม กอน ภายใตการเก็บในสภาวะที่กําหนดได beyond-use date ระบุ นอกเหนือจากคําวา “วันหมดอายุ” อาจใชคําวา “ทิ้งยาที่ วันที่ไมควรใชยานั้นอีกตอไป beyond-use date ที่กําหนดบน ไมใชแลวในวันที…..” หรือ “หามใชยาหลังจากวันที่….” ใหใช ่ ฉลากโดยเภสัชกรผูจายยาไมควรเปนวันหลังจากวันหมดอายุ คําที่ทําใหผูปวยสับสนนอยที่สุด เภสัชกรควรสมมติวาผูปวยที่ ของยาที่กําหนดโดยบริษัทผูผลิต ไดยาเปนครั้งแรกจะเปดภาชนะบรรจุทันที อยางไรก็ตาม ยาที่ การแบ งบรรจุ ย าที่ ไ มใ ช ย าปราศจากเชื้ อ ทั้งในรู ปแบบ ผูปวยไดรับเสมอ ๆ เชน ยาหยอดตา อาจจําเปนตองมีฉลาก ของแข็งและของเหลวใน single-unit container หรือ single- กํากับวันหมดอายุทั้งกับผลิตภัณฑที่ยังไมเปดใช และที่เปดใช dose container ควรมีฉลากติดที่แตละภาชนะ ยกเวน unit- 186 Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008
  • 8. แล ว ฉลากกํา กับสํา หรั บยาหยอดตาคือ “ทิ้ งหลังจากเปด ใช 6. กลุมงานคุมครองผูบริโภค สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี. แ ล ว 4 สั ป ด า ห ” แ ล ะ อ า จ เ ส ริ ม ฉ ล า ก “เ ป ด ใ ช ความรูเรื่องการใชยา. (สืบคนขอมูลวันที่ 8 พฤษภาคม 2551, วันที่………………..” เปนตน ที่ http://203.157.168.7/consumer/htmls/article06.htm) 7. ประสงค พฤกษานานนท. การเก็บรักษายา. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://www.clinicdek.com/index.php? บทสรุป option=com_content&task-=view&id=45&Itemid=73) จากที่ ก ล า วมาทั้ ง หมดนี้ จ ะเห็ น ว า การเก็ บ รั ก ษายาที่ 8. กองพัฒนาศั กยภาพผูบริโภค สํานักงานคณะกรรมการอาหาร ถูกตองและเหมาะสม จะสงผลตอความคงตัวของยาหรือเภสัช และยา. ความรู เ กี่ ย วกั บ การใช ย า. (สื บ ค น ข อ มู ล วั น ที่ 4 ภัณฑ การที่ผูปวยหรือผูบริโภคยายังไมใสใจในเรื่องการเก็บ เม ษา ยน 25 51 , ที่ http://webnotes.fda.moph.go.th/ รักษายาแตก็ยังสนใจปรึกษาเภสัชกรในเรื่องยา ดังนั้นเภสัชกร consumer/csmb/csmb2550.nsf/723dc9fee41b850847256e ควรมีบทบาทในการใหขอมูลในเรื่องการเก็บรักษายาที่ถูกตอง 5c00332fb4/b08a84a2cbf1af324725727c00309cd4?Open กับผูปวยหรือผูที่มีหนาที่ดูแลผูปวย ซึ่งจะทําใหการใชยาของ document) ผูปวยเกิดประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น  9. ทัดทรง ทั่วทิพย, ณรงค สาริสุต, มนตชุลี นิติพน, ยุพิน รุงเวช วุฒิวิทยา, ฤดี เสาวคนธ, อําพล ไมตรีเวช (บรรณาธิการ). ยา เม็ด. กรุงเทพมหานคร. โอเอส พริ้นติ้งเฮาส, 2534: น.157- 185. เอกสารอางอิง 10. วราภรณ จรรยาประเสริฐ. รูปแบบยาน้ําใสและความคงตัวของ 1. บิ สิ เ นสไทย. คนกรุ ง นิ ย มซื้ อ ยาเอง. (สื บ ค น ข อ มู ล วั น ที่ 8 เภสั ช ภั ณ ฑ . กรุ ง เทพมหานคร. คณะเภสั ช ศาสตร พฤษภาคม 2551, ที่ http://www.businessthai.co.th/content. มหาวิทยาลัยมหิดล, 2540: น.60-86. php?data=413229_R&D%20Plus) 11. วิมล อนันตสกุลวัฒน. ยาพาราเซตามอล. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 2. พนิดา วยั มหสุ วรรณ. วิ ธีการเก็ บรัก ษาผลิ ตภัณ ฑยา. (สืบค น เมษายน 2551, ที่ http://www.elib-online.com/doctors/ ขอ มู ล วั นที่ 19 มีน าคม 2551, ที่ http://www.pharm.chula. drug_paracet1.html) ac.th/clinic101_5/article/savedrug.htm) 12. พรรณวดี วิโรจนวงศ. ใชไมดียานี้อันตราย. (สืบคนขอมูลวันที่ 3. ศิวพร หวางสิงห. คุณภาพ มาตรฐานของยา และการเก็บรักษา 6 มิ ถุ น ายน 2551, ที่ http://www.geocities.com/Tokyo/ ยา. (สื บ ค น ข อมู ล วั น ที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://www. Harbor/2093/doctors/drug_child02.html) thainakarin.co.th/tipsdetailth.php?id=51) 13. เครือขายความรวมมือบริการเภสัชสนเทศ. การเก็บรักษายา 4. กลุมงานเภสัชกรรม สถาบันสุขภาพเด็กแหงชาติมหาราชินี. การ เด็ ก. (สื บค น ขอ มูล วั นที่ 6 มิถุ น ายน 2551, ที่ http://drug. เก็บรักษายา. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http:// pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=6591&gid=1) web.childrenhospital.go.th/main/ph/detail3.htm) 14. ฝายเภสัชกรรม โรงพยาบาลบางละมุง. การเก็บรักษายาน้ําที่ใช 5. สมชัยยา สุริฉันท. การเก็บรักษากับความคงตัวของยาและเภสัช ในเด็ก. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://rxbang ภัณฑ. (สืบคนขอมูลวันที่ 4 เมษายน 2551, ที่ http://www. lamung.wikidot.com/syrup-medication-storate) gpo.or.th/rdi/html/stability.html) 15. Mehta AC, Hart-Davies S, Payne J, Lacey RW. Stability of amoxicillin and potassium clavulanate in co-amoxiclav oral suspension. J Clin Pharm Ther 1994;19(5):313-315. Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008 187