SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Download to read offline
ั
พระสงคิณี
กุสะลา ธัมมา, พระธรรมทังหลายทีเป็ นกุศล, ให ้ผลเป็ นความสุข
                            ้       ่
อะกุสะลา ธัมมา, ธรรมทังหลายทีเป็ นอกุศล, ให ้ผลเป็ นความทุกข์,
                          ้       ่
อัพ๎ยากะตา ธัมมา, ธรรมทังหลายทีเป็ นอัพยากฤต, เป็ นจิตกลาง ๆ อยู,
                              ้       ่                                     ่
กะตะเม ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่าใดเป็ นกุศล
ยัส๎ะมิง สะมะเย, ในสมัยใด,
กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง อุปปั นนัง โหติโสมะนั สสะสะหะคะตัง ญาณะสมปะยุตตัง, ั
กามาวจรกุศลจิตทีรวมด ้วยโสมนั ส, คือความยินดี, ประกอบด ้วยญาน คือ ปั ญญาเกิดขึน ปรารภ
                  ่ ่                                                                ้
อารมณ์ใด ๆ,
รูปารัมมะนัง วา, จะเป็ นรูปารมณ์, คือยินดีในรูปเป็ นอารมณ์ก็ด,      ี
  ั                             ั                      ี
สททารัมมะนั ง วา, จะเป็ นสททารมณ์, คือยินดีในเสยงเป็ นอารมณ์ก็ด,          ี
คันธารัมมะนั ง วา, จะเป็ นคันธารมณ์, คือยินดีในกลินเป็ นอารมณ์ก็ด,
                                                     ่                  ี
ระสารัมมะนั ง วา, จะเป็ นรสารมณ์, คือยินดีในรสเป็ นอารมณ์ก็ด,         ี
                                                             ิ่ ่
โผฏฐัพพารัมมะนั ง วา, จะเป็ นโผฏฐัพพารมณ์, คือยินดีในสงทีกระทบถูกต ้องกายเป็ นอารมณ์ก็ด,   ี
ธัมมารัมมะนั ง วา ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ, จะเป็ นธรรมารมณ์, คือยินดีในธรรมเป็ นอารมณ์ก็ด,  ี
ตัส๎ะมิง สะมะเย ผัสโส โหติ, อะวิกเขโป โหติ, เย วา ปะนะ ตัส๎ะมิง สะมะเย, อัญเญปิ
                                                                                ุ้ ่
อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปั นนา อะรูปิโน ธัมมา, ในสมัยนั นผัสสะและความไม่ฟงซานย่อมมี, อีก
                                                         ้
อย่างหนึง ในสมัยนั น ธรรมเหล่าใด, แม ้อืนมีอยูเป็ นธรรมทีไม่มรป, อาศัยกันและกันเกิดขึน,
          ่           ้                 ่     ่            ่    ี ู                    ้
อิเม ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่านี้เป็ นกุศล, ให ้ผลเป็ นความสุข



พระวิภ ังค์
                              ่                                   ี ิ
ปั ญจักขันธา, ขันธ์ห ้าคือสวนประกอบหน ้าอย่างทีรวมเข ้าเป็ นชวต ได ้แก่,
                                                           ่
                          ื ่
รูปักขันโธ, รูปขันธ์คอสวนทีเป็ นรูปภายนอกและภายในคือร่างกายนี, ประกอบด ้วยธาตุ ๔,
                                ่                                     ้
                                        ื         ึ
เวทะนากขันโธ, เวทนาขันธ์คอความรู ้สกเสวยอารมณ์ ทีเป็ นสุข เป็ นทุกข์ หรือเฉย ๆ,
                                                             ่
   ั                    ั
สญญากขันโธ, สญญาขันธ์คอความจาได ้หมายรู ้ในอารมณ์ ๖,
                                    ื
     ั                ั                                        ั่
สงขารักขันโธ, สงขารขันธ์คอความคิดทีปรุงแต่งจิตให ้ดีหรือชวหรือเป็ นกลาง ๆ,
                                  ื                 ่
วิญญาณั กขันโธ, วิญญาณขันธ์คอความรู ้แจ ้งในอารมณ์ ทางอายตนะทัง ๖,
                                            ื                           ้
ตัตถะ กะตะโม รูปักขันโธ, บรรดาขันธ์ทงหมดรูปขันธ์เป็ นอย่างไร,
                                                      ั้
ยังกิญจิ รูปัง, รูปอย่างใดอย่างหนึง,            ่
อะตีตานาคะตะปั จจุปปั นนั ง, ทีเป็ นอดีต อนาคต และปั จจุบัน,
                                          ่
อัชฌัตตัง วา, ภายในก็ตาม,
พะหิทธา วา, ภายนอกก็ตาม,
โอฬาริกง วา สุขมัง วา, หยาบก็ตาม ละเอียดก็ตาม
         ั        ุ
หีนัง วา ปะณีตัง วา, เลวก็ตาม ประณีตก็ตาม
               ั
ยัง ทูเร วา สนติเก วา, อยูไกลก็ตาม อยูใกล ้ก็ตาม,
                                      ่                  ่
                    ั                         ั
ตะเทกัชฌัง อะภิสญญูหต๎วา อะภิสงขิปิต๎วา, ย่นกล่าวร่วมกัน,
                            ิ
อะยัง วุจจะติ รูปักขันโธ, เรียกว่ารูปขันธ์
พระธาตุกถา
  ั               ั
สงคะโห อะสงคะโห, การสงเคราะห์ การไม่สงเคราะห์ คือ,
    ั                   ั               ิ่ ่
สงคะหิเตนะ อะสงคะหิตัง, สงทีไม่สงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์แล ้ว,ิ่ ่
            ั             ั               ิ่ ่                  ิ่ ่
อะสงคะหิเตนะ สงคะหิตัง, สงทีสงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์ไม่ได ้,
      ั             ั                ิ่ ่
สงคะหิเตนะ สงคะหิตง, สงทีสงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์ได ้,
                              ั                              ิ่ ่
              ั             ั                  ิ่ ่                   ิ่ ่
อะสงคะหิเตนะ อะสงคะหิตัง, สงทีไม่สงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์ไม่ได ้,
        ั
สมปะโยโค วิปปะโยโค, การอยูด ้วยกัน การพลัดพรากกัน คือ,
                                             ่
          ั
สมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง, การพลัดพรากจากสงทีอยูด ้วยกัน     ิ่ ่ ่
                      ั
วิปปะยุตเตนะ สมปะยุตตัง, การอยูรวมกับสงทีพลัดพรากไป
                                                  ่ ่ ิ่ ่
                ั               ิ่ ่
อะสงคะหิตัง, จัดเป็ นสงทีสงเคราะห์ไม่ได ้



พระปุคคลปัญญ ัตติ
ฉะปั ญญัตติโย, บัญญัต ิ ๖ ประการ, อันบัณฑิตผู ้รู ้พึงบัญญัตขน คือ,                ิ ึ้
ขันธะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีเป็ นหมวดหมูกันเรียกว่าขันธ์ มี ๕,
                                ิ               ่                  ่
อายะตะนะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมอันเป็ นบ่อเกิด (แห่งทุกข์และไม่ทกข์), เรียกว่าอายตนะ มี
                                          ิ                                                        ุ
๑๒,
ธาตุปัญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีทรงตัวอยูเรียกว่าธาตุ มี ๑๘,
                            ิ               ่                ่
  ั                                                                       ั
สจจะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีเป็ นของจริงเรียกว่าสจจะ มี ๔, คือ อริยสจจ์ ๔,
                              ิ               ่                                                        ั
อินท๎ รยะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีเป็ นใหญ่เรียกว่าอินทรีย ์ มี ๒๒,
       ิ                                ิ                ่
ปุคคะละปั ญญัตติ, การบัญญัตจาพวกบุคคลของบุคคลทังหลาย,
                                      ิ                                        ้
กิตตาวะตา ปุคคะลานั ง ปุคคะละปั ญญัตติ, บุคคลบัญญัตของบุคคลมีเท่าไร,             ิ
สะมะยะวิมตโต อะสะมะยะวิมตโต, ผู ้พ ้นในกาลบางคราว, ผู ้พ ้นอย่างเด็ดขาด,
            ุ                     ุ
กุปปะธัมโม อะกุปปะธัมโม, ผู ้มีธรรมทีกาเริบได ้, ผู ้มีธรรมทีกาเริบไม่ได ้,
                                                           ่                        ่
                                                                 ่ ื่
ปะริหานะธัมโม อะปะริหานะธัมโม, ผู ้มีธรรมทีเสอมได ้, ผู ้มีธรรมทีเสอมไม่ได ้,                 ่ ื่
เจตะนาภัพโพ อะนุรักขะนาภัพโพ, ผู ้มีธรรมทีควรแก่เจตนา, ผู ้มีธรรมทีควรแก่การรักษา,
                                                               ่                                     ่
ปุถชชะโน โคต๎ ระภู, ผู ้เป็ นปุถชน, ผู ้คร่อมโคตร,
    ุ                               ุ
                                                  ั่
ภะยูปะระโต อะภะยูปะระโต, ผู ้เว ้นชวเพราะกลัว, ผู ้เว ้นชวไม่ใชเพราะกลัว,   ั่          ่
ภัพพาคะมะโน อะภัพพาคะมะโน, ผู ้ควรแก่มรรคผลนิพพาน, ผู ้ไม่ควรแก่มรรคผลนิพพาน,
นิยะโต อะนิยะโต, ผู ้เทียง, ผู ้ไม่เทียง,
                         ่                             ่
ปะฏิปันนะโก ผะเลฏฐิโต, ผู ้ปฏิบัตอริยมรรค, ผู ้ตังอยูในอริยผล,
                                                     ิ                ้ ่
อะระหา อะระหัตตายะ ปะฏิปันโน, ผู ้เป็ นพระอรหันต์, ผู ้ปฏิบัตเพือเป็ นพระอรหันต์          ิ ่
พระกถาว ัตถุ
                          ั
ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สจฉิกตถะปะระมัตเถนาติ, ค ้นหาบุคคลไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือ
                              ั
ความหมายอันแท ้จริงหรือ ?,
อามันตา, ถูกแล ้ว,
        ั                                                       ั
โย สจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ, ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ, สจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ,
ปรมัตถ์ คือความหมายอันแท ้จริงอันใดมีอยู, ค ้นหาบุคคลนั นไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือความหมายอัน
                                          ่             ้
แท ้จริงอันนั นหรือ ?
              ้
นะ เหวัง วัตตัพเพ, ท่านไม่ควรกล่าวอย่างนั น,   ้
                                                     ั
อาชานาหิ นิคคะหัง หัญจิ ปุคคะโล อุปะลัพภะติ, สจฉิกัตถะปะระมัตเถนะ เตนะ วะตะ เร
                   ั                                                      ั
วัตตัพเพ, โย สจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สจฉิกัตถะปะระมัตเถนา
ติ มิจฉา, ท่านจงรู ้นิคหะ (การข่ม ปราม) เถิด, ถ ้าท่านค ้นหาบุคคลไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือโดย
ความหมายอันแท ้จริงแล ้ว, ท่านก็ควรกล่าวด ้วยเหตุนันว่าปรมัตถ์, คือความหมายอันแท ้จริงอันใด
                                                   ้
มีอยู, เราค ้นหาบุคคลนั นไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือโดยความหมายอันแท ้จริงนัน, คาตอบของท่าน
      ่                 ้                                               ้
ทีวาปรมัตถ์ คือความหมายอันแท ้จริงอันใดมีอยู, เราค ้นหาบุคคลนั นไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือโดย
  ่ ่                                            ่                ้
ความหมายอันแท ้จริงอันนันจึงผิด,
                            ้



พระยมก
เย เกจิ กุสะลา ธัมมา, ธรรมบางเหล่าเป็ นกุศล,
  ั
สพเพ เต กุสะละมูลา, ธรรมเหล่านั นทังหมดมีกศลเป็ นมูล,
                                ้ ้         ุ
เย วา ปะนะ กุสะละมูลา, อีกอย่างหนึงธรรมเหล่าใด มีกศลเป็ นมูล,
                                   ่                ุ
    ั
สพเพ เต ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่านั นทังหมดก็เป็ นกุศล,
                                  ้ ้
เย เกจิ กุสะลา ธัมมา, ธรรมบางเหล่าเป็ นกุศล,
      ั
สพเพ เต กะสุละมูเลนะ เอกะมูลา, ธรรมเหล่านั น ทังหมดมีมลอันเดียวกับธรรมทีมกศลเป็ นมูล
                                              ้   ้   ู                 ่ ี ุ
,
เย วา ปะนะ กุสะละมูเลนะ เอกะมูลา, อีกอย่างหนึงธรรมเหล่าใดมีมลอันเดียวกับธรรมทีมกศล
                                                ่             ู               ่ ี ุ
เป็ นมูล,
        ั
สพเพ เต ธัมมากุสะลา, ธรรมเหล่านันทังหมดเป็ นกุศล
                                 ้ ้
พระมหาปัฏฐาน
เหตุปัจจะโย, ธรรมทีมเหตุเป็ นปั จจัย,
                     ่ ี
อารัมมะณะปั จจะโย, ธรรมทีมอารมณ์เป็ นปั จจัย,
                                            ่ ี
อะธิปะติปัจจะโย, ธรรมทีมอธิบดีเป็ นปั จจัย,
                                ่ ี
อะนั นตะระปั จจะโย, ธรรมทีมปัจจัยไม่มอะไรคั่นในระหว่าง,
                                         ่ ี                     ี
สะมะนั นตะระปั จจะโย, ธรรมทีมปัจจัยมีทสดเสมอกัน,    ่ ี            ี่ ุ
สะหะชาตะปั จจะโย, ธรรมทีเกิดพร ้อมกับปั จจัย,
                                          ่
อัญญะมัญญะปั จจะโย, ธรรมทีเป็ นปั จจัยของกันและกัน,  ่
                                 ่ ี ิ ั
นิสสะยะปั จจะโย, ธรรมทีมนสยเป็ นปั จจัย,
อุปะนิสสะยะปั จจะโย, ธรรมทีมอปนิสยเป็ นปั จจัย,   ่ ี ุ        ั
ปุเรชาตะปั จจะโย, ธรรมทีมการเกิดก่อนเป็ นปั จจัย,
                                     ่ ี
ปั จฉาชาตะปั จจะโย, ธรรมทีมการเกิดภายหลังเป็ นปั จจัย,
                                               ่ ี
อาเสวะนะปั จจะโย, ธรรมทีมการเสพเป็ นปั จจัย,
                                        ่ ี
กัมมะปั จจะโย, ธรรมทีมกรรมเป็ นปั จจัย,
                         ่ ี
วิปากะปั จจะโย, ธรรมทีมวบากเป็ นปั จจัย,
                             ่ ี ิ
อาหาระปั จจะโย, ธรรมทีมอาหารเป็ นปั จจัย,
                               ่ ี
อินท๎ รยะปั จจะโย, ธรรมทีมอนทรียเป็ นปั จจัย,
       ิ                          ่ ี ิ                    ์
ฌานะปั จจะโย, ธรรมทีมฌานเป็ นปั จจัย,
                           ่ ี
มัคคะปั จจะโย, ธรรมทีมมรรคเป็ นปั จจัย,
                          ่ ี
   ั
สมปะยุตตะปั จจะโย, ธรรมทีมการประกอบเป็ นปั จจัย,่ ี
วิปปะยุตตะปั จจะโย, ธรรมทีไม่มการประกอบเป็ นปั จจัย,
                                             ่           ี
อัตถิปัจจะโย, ธรรมทีมปัจจัย,
                      ่ ี
นั ตถิปัจจะโย, ธรรมทีไม่มปัจจัย,
                       ่           ี
วิคะตะปั จจะโย, ธรรมทีมการอยูปราศจากเป็ นปั จจัย,
                            ่ ี                        ่
อะวิคะตะปั จจะโย, ธรรมทีมการอยูไม่ปราศจากเป็ นปั จจัย
                                      ่ ี                    ่

More Related Content

What's hot

เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.
เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.
เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะบทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะอุษณีษ์ ศรีสม
 
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญสวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญPhatphong Mahawattano
 
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานAnchalee BuddhaBucha
 
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะPadvee Academy
 
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎกโครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎกAnchalee BuddhaBucha
 
บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐานบทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐานpop Jaturong
 
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)Padvee Academy
 

What's hot (20)

แบบตั้งฉายาพระ.pdf
แบบตั้งฉายาพระ.pdfแบบตั้งฉายาพระ.pdf
แบบตั้งฉายาพระ.pdf
 
เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.
เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.
เอกสารประกอบการบรรยายวิชาพระไตรปิฎกวิเคราะห์ (ตอน ๓) ๑๗ พ.ย.
 
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะบทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
 
บทความ (สังขาร)
บทความ (สังขาร)บทความ (สังขาร)
บทความ (สังขาร)
 
มงคลวิเสสกถา
มงคลวิเสสกถามงคลวิเสสกถา
มงคลวิเสสกถา
 
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญสวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
 
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
 
มงคล38
มงคล38มงคล38
มงคล38
 
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
 
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑
 
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎกโครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
 
บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐานบทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
 
การปกครองคณะสงฆ์
การปกครองคณะสงฆ์การปกครองคณะสงฆ์
การปกครองคณะสงฆ์
 
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
 
พระไตรปิฎก
พระไตรปิฎกพระไตรปิฎก
พระไตรปิฎก
 
สรุปนักธรรมโท _V.2565.pdf
สรุปนักธรรมโท _V.2565.pdfสรุปนักธรรมโท _V.2565.pdf
สรุปนักธรรมโท _V.2565.pdf
 
บาลีไวยากรณ์ ๔ (แบบฝึกหัด ๑)
บาลีไวยากรณ์ ๔ (แบบฝึกหัด ๑)บาลีไวยากรณ์ ๔ (แบบฝึกหัด ๑)
บาลีไวยากรณ์ ๔ (แบบฝึกหัด ๑)
 
สรุปนักธรรมเอก_V 2565.pdf
สรุปนักธรรมเอก_V 2565.pdfสรุปนักธรรมเอก_V 2565.pdf
สรุปนักธรรมเอก_V 2565.pdf
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1 หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1
 
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส
 

Similar to พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์

9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcool
9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcool9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcool
9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcoolTongsamut vorasan
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาmagicgirl123
 
4 อานาปานสติ anapanasati
4 อานาปานสติ anapanasati4 อานาปานสติ anapanasati
4 อานาปานสติ anapanasatiTongsamut vorasan
 
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypracticeTongsamut vorasan
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาprimpatcha
 
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมTaweedham Dhamtawee
 
สุภีร์ ทุมทอง สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน สุภีร์ ทุมทอง   สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน
สุภีร์ ทุมทอง สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน Tongsamut vorasan
 
อมรา สินทวีวงศ์ ธรรมะดัดสันดาน
อมรา สินทวีวงศ์   ธรรมะดัดสันดานอมรา สินทวีวงศ์   ธรรมะดัดสันดาน
อมรา สินทวีวงศ์ ธรรมะดัดสันดานTongsamut vorasan
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตTaweedham Dhamtawee
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีTaweedham Dhamtawee
 
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔Padvee Academy
 
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616Sombat Nakasathien
 
อริยสัจ ๔ ม.๒
อริยสัจ ๔ ม.๒อริยสัจ ๔ ม.๒
อริยสัจ ๔ ม.๒Evesu Goodevening
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarmaTongsamut vorasan
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarmaTongsamut vorasan
 
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)Ballista Pg
 

Similar to พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ (20)

9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcool
9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcool9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcool
9 อินทรีย์สังวร ( ตามดู ไม่ตามไป )keepcool
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
 
4 อานาปานสติ anapanasati
4 อานาปานสติ anapanasati4 อานาปานสติ anapanasati
4 อานาปานสติ anapanasati
 
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
 
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
 
สุภีร์ ทุมทอง สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน สุภีร์ ทุมทอง   สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน
สุภีร์ ทุมทอง สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน
 
อมรา สินทวีวงศ์ ธรรมะดัดสันดาน
อมรา สินทวีวงศ์   ธรรมะดัดสันดานอมรา สินทวีวงศ์   ธรรมะดัดสันดาน
อมรา สินทวีวงศ์ ธรรมะดัดสันดาน
 
17-cit-mano-vinna.pdf
17-cit-mano-vinna.pdf17-cit-mano-vinna.pdf
17-cit-mano-vinna.pdf
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
 
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
 
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
 
อริยสัจ ๔ ม.๒
อริยสัจ ๔ ม.๒อริยสัจ ๔ ม.๒
อริยสัจ ๔ ม.๒
 
ภาษาไทย จ้า11
ภาษาไทย จ้า11ภาษาไทย จ้า11
ภาษาไทย จ้า11
 
Immortality Thama.Pps
Immortality Thama.PpsImmortality Thama.Pps
Immortality Thama.Pps
 
คำนำทำ1
คำนำทำ1คำนำทำ1
คำนำทำ1
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
 
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
 

พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์

  • 1. ั พระสงคิณี กุสะลา ธัมมา, พระธรรมทังหลายทีเป็ นกุศล, ให ้ผลเป็ นความสุข ้ ่ อะกุสะลา ธัมมา, ธรรมทังหลายทีเป็ นอกุศล, ให ้ผลเป็ นความทุกข์, ้ ่ อัพ๎ยากะตา ธัมมา, ธรรมทังหลายทีเป็ นอัพยากฤต, เป็ นจิตกลาง ๆ อยู, ้ ่ ่ กะตะเม ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่าใดเป็ นกุศล ยัส๎ะมิง สะมะเย, ในสมัยใด, กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง อุปปั นนัง โหติโสมะนั สสะสะหะคะตัง ญาณะสมปะยุตตัง, ั กามาวจรกุศลจิตทีรวมด ้วยโสมนั ส, คือความยินดี, ประกอบด ้วยญาน คือ ปั ญญาเกิดขึน ปรารภ ่ ่ ้ อารมณ์ใด ๆ, รูปารัมมะนัง วา, จะเป็ นรูปารมณ์, คือยินดีในรูปเป็ นอารมณ์ก็ด, ี ั ั ี สททารัมมะนั ง วา, จะเป็ นสททารมณ์, คือยินดีในเสยงเป็ นอารมณ์ก็ด, ี คันธารัมมะนั ง วา, จะเป็ นคันธารมณ์, คือยินดีในกลินเป็ นอารมณ์ก็ด, ่ ี ระสารัมมะนั ง วา, จะเป็ นรสารมณ์, คือยินดีในรสเป็ นอารมณ์ก็ด, ี ิ่ ่ โผฏฐัพพารัมมะนั ง วา, จะเป็ นโผฏฐัพพารมณ์, คือยินดีในสงทีกระทบถูกต ้องกายเป็ นอารมณ์ก็ด, ี ธัมมารัมมะนั ง วา ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ, จะเป็ นธรรมารมณ์, คือยินดีในธรรมเป็ นอารมณ์ก็ด, ี ตัส๎ะมิง สะมะเย ผัสโส โหติ, อะวิกเขโป โหติ, เย วา ปะนะ ตัส๎ะมิง สะมะเย, อัญเญปิ ุ้ ่ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปั นนา อะรูปิโน ธัมมา, ในสมัยนั นผัสสะและความไม่ฟงซานย่อมมี, อีก ้ อย่างหนึง ในสมัยนั น ธรรมเหล่าใด, แม ้อืนมีอยูเป็ นธรรมทีไม่มรป, อาศัยกันและกันเกิดขึน, ่ ้ ่ ่ ่ ี ู ้ อิเม ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่านี้เป็ นกุศล, ให ้ผลเป็ นความสุข พระวิภ ังค์ ่ ี ิ ปั ญจักขันธา, ขันธ์ห ้าคือสวนประกอบหน ้าอย่างทีรวมเข ้าเป็ นชวต ได ้แก่, ่ ื ่ รูปักขันโธ, รูปขันธ์คอสวนทีเป็ นรูปภายนอกและภายในคือร่างกายนี, ประกอบด ้วยธาตุ ๔, ่ ้ ื ึ เวทะนากขันโธ, เวทนาขันธ์คอความรู ้สกเสวยอารมณ์ ทีเป็ นสุข เป็ นทุกข์ หรือเฉย ๆ, ่ ั ั สญญากขันโธ, สญญาขันธ์คอความจาได ้หมายรู ้ในอารมณ์ ๖, ื ั ั ั่ สงขารักขันโธ, สงขารขันธ์คอความคิดทีปรุงแต่งจิตให ้ดีหรือชวหรือเป็ นกลาง ๆ, ื ่ วิญญาณั กขันโธ, วิญญาณขันธ์คอความรู ้แจ ้งในอารมณ์ ทางอายตนะทัง ๖, ื ้ ตัตถะ กะตะโม รูปักขันโธ, บรรดาขันธ์ทงหมดรูปขันธ์เป็ นอย่างไร, ั้ ยังกิญจิ รูปัง, รูปอย่างใดอย่างหนึง, ่ อะตีตานาคะตะปั จจุปปั นนั ง, ทีเป็ นอดีต อนาคต และปั จจุบัน, ่ อัชฌัตตัง วา, ภายในก็ตาม, พะหิทธา วา, ภายนอกก็ตาม, โอฬาริกง วา สุขมัง วา, หยาบก็ตาม ละเอียดก็ตาม ั ุ หีนัง วา ปะณีตัง วา, เลวก็ตาม ประณีตก็ตาม ั ยัง ทูเร วา สนติเก วา, อยูไกลก็ตาม อยูใกล ้ก็ตาม, ่ ่ ั ั ตะเทกัชฌัง อะภิสญญูหต๎วา อะภิสงขิปิต๎วา, ย่นกล่าวร่วมกัน, ิ อะยัง วุจจะติ รูปักขันโธ, เรียกว่ารูปขันธ์
  • 2. พระธาตุกถา ั ั สงคะโห อะสงคะโห, การสงเคราะห์ การไม่สงเคราะห์ คือ, ั ั ิ่ ่ สงคะหิเตนะ อะสงคะหิตัง, สงทีไม่สงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์แล ้ว,ิ่ ่ ั ั ิ่ ่ ิ่ ่ อะสงคะหิเตนะ สงคะหิตัง, สงทีสงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์ไม่ได ้, ั ั ิ่ ่ สงคะหิเตนะ สงคะหิตง, สงทีสงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์ได ้, ั ิ่ ่ ั ั ิ่ ่ ิ่ ่ อะสงคะหิเตนะ อะสงคะหิตัง, สงทีไม่สงเคราะห์เข ้ากับสงทีสงเคราะห์ไม่ได ้, ั สมปะโยโค วิปปะโยโค, การอยูด ้วยกัน การพลัดพรากกัน คือ, ่ ั สมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง, การพลัดพรากจากสงทีอยูด ้วยกัน ิ่ ่ ่ ั วิปปะยุตเตนะ สมปะยุตตัง, การอยูรวมกับสงทีพลัดพรากไป ่ ่ ิ่ ่ ั ิ่ ่ อะสงคะหิตัง, จัดเป็ นสงทีสงเคราะห์ไม่ได ้ พระปุคคลปัญญ ัตติ ฉะปั ญญัตติโย, บัญญัต ิ ๖ ประการ, อันบัณฑิตผู ้รู ้พึงบัญญัตขน คือ, ิ ึ้ ขันธะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีเป็ นหมวดหมูกันเรียกว่าขันธ์ มี ๕, ิ ่ ่ อายะตะนะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมอันเป็ นบ่อเกิด (แห่งทุกข์และไม่ทกข์), เรียกว่าอายตนะ มี ิ ุ ๑๒, ธาตุปัญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีทรงตัวอยูเรียกว่าธาตุ มี ๑๘, ิ ่ ่ ั ั สจจะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีเป็ นของจริงเรียกว่าสจจะ มี ๔, คือ อริยสจจ์ ๔, ิ ่ ั อินท๎ รยะปั ญญัตติ, การบัญญัตธรรมทีเป็ นใหญ่เรียกว่าอินทรีย ์ มี ๒๒, ิ ิ ่ ปุคคะละปั ญญัตติ, การบัญญัตจาพวกบุคคลของบุคคลทังหลาย, ิ ้ กิตตาวะตา ปุคคะลานั ง ปุคคะละปั ญญัตติ, บุคคลบัญญัตของบุคคลมีเท่าไร, ิ สะมะยะวิมตโต อะสะมะยะวิมตโต, ผู ้พ ้นในกาลบางคราว, ผู ้พ ้นอย่างเด็ดขาด, ุ ุ กุปปะธัมโม อะกุปปะธัมโม, ผู ้มีธรรมทีกาเริบได ้, ผู ้มีธรรมทีกาเริบไม่ได ้, ่ ่ ่ ื่ ปะริหานะธัมโม อะปะริหานะธัมโม, ผู ้มีธรรมทีเสอมได ้, ผู ้มีธรรมทีเสอมไม่ได ้, ่ ื่ เจตะนาภัพโพ อะนุรักขะนาภัพโพ, ผู ้มีธรรมทีควรแก่เจตนา, ผู ้มีธรรมทีควรแก่การรักษา, ่ ่ ปุถชชะโน โคต๎ ระภู, ผู ้เป็ นปุถชน, ผู ้คร่อมโคตร, ุ ุ ั่ ภะยูปะระโต อะภะยูปะระโต, ผู ้เว ้นชวเพราะกลัว, ผู ้เว ้นชวไม่ใชเพราะกลัว, ั่ ่ ภัพพาคะมะโน อะภัพพาคะมะโน, ผู ้ควรแก่มรรคผลนิพพาน, ผู ้ไม่ควรแก่มรรคผลนิพพาน, นิยะโต อะนิยะโต, ผู ้เทียง, ผู ้ไม่เทียง, ่ ่ ปะฏิปันนะโก ผะเลฏฐิโต, ผู ้ปฏิบัตอริยมรรค, ผู ้ตังอยูในอริยผล, ิ ้ ่ อะระหา อะระหัตตายะ ปะฏิปันโน, ผู ้เป็ นพระอรหันต์, ผู ้ปฏิบัตเพือเป็ นพระอรหันต์ ิ ่
  • 3. พระกถาว ัตถุ ั ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สจฉิกตถะปะระมัตเถนาติ, ค ้นหาบุคคลไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือ ั ความหมายอันแท ้จริงหรือ ?, อามันตา, ถูกแล ้ว, ั ั โย สจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ, ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ, สจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ, ปรมัตถ์ คือความหมายอันแท ้จริงอันใดมีอยู, ค ้นหาบุคคลนั นไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือความหมายอัน ่ ้ แท ้จริงอันนั นหรือ ? ้ นะ เหวัง วัตตัพเพ, ท่านไม่ควรกล่าวอย่างนั น, ้ ั อาชานาหิ นิคคะหัง หัญจิ ปุคคะโล อุปะลัพภะติ, สจฉิกัตถะปะระมัตเถนะ เตนะ วะตะ เร ั ั วัตตัพเพ, โย สจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สจฉิกัตถะปะระมัตเถนา ติ มิจฉา, ท่านจงรู ้นิคหะ (การข่ม ปราม) เถิด, ถ ้าท่านค ้นหาบุคคลไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือโดย ความหมายอันแท ้จริงแล ้ว, ท่านก็ควรกล่าวด ้วยเหตุนันว่าปรมัตถ์, คือความหมายอันแท ้จริงอันใด ้ มีอยู, เราค ้นหาบุคคลนั นไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือโดยความหมายอันแท ้จริงนัน, คาตอบของท่าน ่ ้ ้ ทีวาปรมัตถ์ คือความหมายอันแท ้จริงอันใดมีอยู, เราค ้นหาบุคคลนั นไม่ได ้โดยปรมัตถ์, คือโดย ่ ่ ่ ้ ความหมายอันแท ้จริงอันนันจึงผิด, ้ พระยมก เย เกจิ กุสะลา ธัมมา, ธรรมบางเหล่าเป็ นกุศล, ั สพเพ เต กุสะละมูลา, ธรรมเหล่านั นทังหมดมีกศลเป็ นมูล, ้ ้ ุ เย วา ปะนะ กุสะละมูลา, อีกอย่างหนึงธรรมเหล่าใด มีกศลเป็ นมูล, ่ ุ ั สพเพ เต ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่านั นทังหมดก็เป็ นกุศล, ้ ้ เย เกจิ กุสะลา ธัมมา, ธรรมบางเหล่าเป็ นกุศล, ั สพเพ เต กะสุละมูเลนะ เอกะมูลา, ธรรมเหล่านั น ทังหมดมีมลอันเดียวกับธรรมทีมกศลเป็ นมูล ้ ้ ู ่ ี ุ , เย วา ปะนะ กุสะละมูเลนะ เอกะมูลา, อีกอย่างหนึงธรรมเหล่าใดมีมลอันเดียวกับธรรมทีมกศล ่ ู ่ ี ุ เป็ นมูล, ั สพเพ เต ธัมมากุสะลา, ธรรมเหล่านันทังหมดเป็ นกุศล ้ ้
  • 4. พระมหาปัฏฐาน เหตุปัจจะโย, ธรรมทีมเหตุเป็ นปั จจัย, ่ ี อารัมมะณะปั จจะโย, ธรรมทีมอารมณ์เป็ นปั จจัย, ่ ี อะธิปะติปัจจะโย, ธรรมทีมอธิบดีเป็ นปั จจัย, ่ ี อะนั นตะระปั จจะโย, ธรรมทีมปัจจัยไม่มอะไรคั่นในระหว่าง, ่ ี ี สะมะนั นตะระปั จจะโย, ธรรมทีมปัจจัยมีทสดเสมอกัน, ่ ี ี่ ุ สะหะชาตะปั จจะโย, ธรรมทีเกิดพร ้อมกับปั จจัย, ่ อัญญะมัญญะปั จจะโย, ธรรมทีเป็ นปั จจัยของกันและกัน, ่ ่ ี ิ ั นิสสะยะปั จจะโย, ธรรมทีมนสยเป็ นปั จจัย, อุปะนิสสะยะปั จจะโย, ธรรมทีมอปนิสยเป็ นปั จจัย, ่ ี ุ ั ปุเรชาตะปั จจะโย, ธรรมทีมการเกิดก่อนเป็ นปั จจัย, ่ ี ปั จฉาชาตะปั จจะโย, ธรรมทีมการเกิดภายหลังเป็ นปั จจัย, ่ ี อาเสวะนะปั จจะโย, ธรรมทีมการเสพเป็ นปั จจัย, ่ ี กัมมะปั จจะโย, ธรรมทีมกรรมเป็ นปั จจัย, ่ ี วิปากะปั จจะโย, ธรรมทีมวบากเป็ นปั จจัย, ่ ี ิ อาหาระปั จจะโย, ธรรมทีมอาหารเป็ นปั จจัย, ่ ี อินท๎ รยะปั จจะโย, ธรรมทีมอนทรียเป็ นปั จจัย, ิ ่ ี ิ ์ ฌานะปั จจะโย, ธรรมทีมฌานเป็ นปั จจัย, ่ ี มัคคะปั จจะโย, ธรรมทีมมรรคเป็ นปั จจัย, ่ ี ั สมปะยุตตะปั จจะโย, ธรรมทีมการประกอบเป็ นปั จจัย,่ ี วิปปะยุตตะปั จจะโย, ธรรมทีไม่มการประกอบเป็ นปั จจัย, ่ ี อัตถิปัจจะโย, ธรรมทีมปัจจัย, ่ ี นั ตถิปัจจะโย, ธรรมทีไม่มปัจจัย, ่ ี วิคะตะปั จจะโย, ธรรมทีมการอยูปราศจากเป็ นปั จจัย, ่ ี ่ อะวิคะตะปั จจะโย, ธรรมทีมการอยูไม่ปราศจากเป็ นปั จจัย ่ ี ่