SlideShare a Scribd company logo
1 of 3
ภาพวาดโมนา ลิซ่า (Mona Lisa)




      กว่า 500 ปีมากแล้วกับคำาถามที่ว่า โมนา ลิซ่า (Mona Lisa) นั่นเป็น
ใคร ซึ่งยังเป็นปริศนา และยังไม่มีคำาตอบที่ชัดเจนและแน่นอน ว่าบุคคลใน
ภาพเขียนของ ลีโอนาร์
โด ดา วินซี่ (Leonardo da vin Ci 1452-1519) คือใครกันแน่ ภาพนี้วาด
ขึ้นราวๆ ค.ศ. 1503-1506 โดยแฝงรอยยิ้มที่ลึกลับ น่าเคลือบแคลง ไปด้วย
ปริศนามากมายลง
บนใบหน้าของ โมนา ลิซ่า ให้ผู้คนได้นึกคิด จินตนาการกันไปต่างๆ นานา
ยาวนานถึง 5 ศตวรรษ จวบจนกระทั่งปัจจุบัน คำาถามที่ผู้คนสงสัย และได้
ค้นคว้าหาคำาตอบกันอย่างมากมาย ก็คือ โมนา ลิซ่า คือใคร?

        ตามคำาบอกเล่าของ "จิออร์โอ วาซารี" (Giorgio Vasari
1511-1574) จิตรกร สถาปนิก และ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับศิลปะในสมัยนั้น
เขากล่าวไว้ว่า โมนา ลิซ่า ก็คือภรรยาของ ฟรานเชสโก เดล จิโอกอนโด
ซึ่งเป็นพ่อค้าไหมที่มั่งคั่งแห่ง เมืองฟลอเรนซ์ ขณะที่ ดาวินซี่ เขียนภาพนี้
ซึ่งได้ใช้เวลานานถึง 4 ปี เขาได้ไปว่าจ้าง นักร้อง นักดนตรี และตัวตลกมา
ให้ความบันเทิงแก่หญิงงามผู้เป็นแบบของ ภาพเขียน เพื่อให้เธอมีรอยยิ้มที่
ปราศจากความเศร้าหมอง อย่างไรก็ตามจากคำา บรรยายของ วาซารี ก็เป็น
เพียงข้อมูลจากผู้ที่ไม่เคยเห็นภาพเขียนนี้ของ ลีโอนาร์โด แต่อย่างใด

       จากหลักฐานอีกแหล่งหนึ่งจาก "อันโตนิโอ เดอ เบอาทิส" ผู้บันทึก
ปากคำาของ ลีโอนาร์โดใน ค.ศ. 1517 ว่าผู้เป็นแบบในภาพคือสตรีชาว
ฟลอเรนซ์ และ จูลีอาโน เดอ เมดิซี่ เป็นผู้ว่าจ้างให้เขียนภาพนี้ จากการที่
ไม่มหลักฐานปรากฎที่แน่ชัดว่า ใครเป็นแบบให้กับ ลีโอนาร์โดวาดภาพนี้
    ี
จึงทำาให้มีการตั้งข้อสันนิษฐานกันไป ต่างๆ นานา ไม่ว่าจะ -เป็น บุคคลใน
ภาพอาจเป็น คอนสตันซ่า คาวารอส หรืออาจจะเป็น อิสซาเบลลา เดสเต ผู้
อื้อฉาว หรืออาจเป็นภรรยาลับของ จูลีอาโน เดอ เมดิซี่ ทั้งนี้ ก็เพราะได้
ปรากฎว่า มีโม
นา ลิซ่า (เปลือย) หลายภาพในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็น ที่โด่งดังมากกับภาพ
เปลือยของสาวผู้นี้

        นอกจากนี้จากการที่ลีโอนาร์โดเองมีชื่อที่ถูกกล่าวขานกันว่าเขาเป็น
พวก รักร่วมเพศ จึงเกิดการสันนิษฐานว่า โมนา ลิซ่า ไม่ใช่ผู้หญิงแต่เป็น
ภาพเหมือนจำาแลง เพศของเด็กหนุ่มรูปงามคนใดคนหนึ่ง ซึ่งศิลปินมักเลี้ยง
ไว้ติดสอยห้อยตามในสตูดิโอ บ้างก็มีการนำาภาพเหมือนของ ลีโอนาร์โดมา
มาเปรียบเทียบกับภาพของ โมนา ลิซ่า แล้วก็สรุปเอาดื้อๆว่าภาพเขียนอัน
ลือชื่อนี้แท้ที่จริงคือ ภาพของ ลีโอนาร์โด ดาวิน ซี่ เองที่แปลงกาย แต่งตัว
เป็นสตรีเพศ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่สนับสนุนทฤษีนี้ยังกล่าวเสริม ต่อไปว่า ลาย
ปักขดเชือกที่รอบคอเสื้อของ โมนา ลิซ่า คือลายเซ็นลับของ ดาวินซี่เอง
เพราะในภาษาอิตาเลี่ยนคำาว่า "ขดเชือก" จะตรงกับคำาว่า "วินชีเร่"
(Vincire)

        แม้ว่าบุคคลในภาพ โมนา ลิซ่า ยังเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ข้อมูล
เกี่ยวกับผู้ครอบครองภาพนี้ยังพอมีข้อมูลอยู่บ้าง นันก็คือ เป็นที่ทราบกันดี
                                                  ่
อยู่แล้วว่า ลีโอนาร์โด ไม่ยอมพรากจากภาพเขียนนี้ และเขาได้นำาติดตัว
พร้อมกับทรัพย์สินสินมีค่าอื่นๆที่เขารัก หวงแหน ออกจากกรุงโรมเมื่อครั้ง
เดินทางมาที่ฝรั่งเศสเพื่อเป็นศิลปินแห่งราชสำานักของพระเจ้าฟรานซิสที่ 1
(ค.ศ. 1479-1547) ใน ค.ศ. 1517 ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ครอบครองภาพ โมนา
ลิซ่า คนแรกก็คือกษัตริย์ฝรั่งเศส ซึ่งโปรดให้นำาภาพไปประดับที่ห้องสรงใน
พระ
ราชวัง ฟองแตนโบล แต่เมื่อจักรพรรดินโปเลียนขึ้นครองราชย์ ภาพโมนา ลิ
ซ่า จึงถูกย้ายมาพำานักในห้องพระบรรทม และมีชื่อเรียกอย่าง สนิทสนมว่า
"มาดาม ลิซ่า"

           มุมมอง ทัศนะคติ และ ความคิดเห็นความรู้สึก ต่างๆ ที่มีต่อ Mona
Lisa นันมีมากมายเหลือเกิน "จูลส์ มิเชอเลต์" ได้พรรณนาไว้ใน หนังสือ
         ้
ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสว่า "ภาพเขียนนี้ดึงดูดข้าพเจ้า พรำ่าเรียกข้าพเจ้า
รุกรานข้าพเจ้า ซึมซาบเข้าไปในตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าตรงลิ่วเข้าไปหาโดย
ไม่รู้สึกตัว ประดุจนกบินดิ่งเข้าไปในปากงูพิษ" นี่คือทัศ-
นคติต่อ Mona Lisa ในศตวรรษที่ 16 ที่มองความงามในแบบอุดมคติ แต่
มุมมองจากนักวิจารณ์ในศตวรรษที่ 19 กลับมองไปอีกด้านหนึ่ง โดยเฉพาะ
กลุ่มโรแมนติคส์ที่มองว่า โมนา ลิซ่า เป็นสตรีมรณะ (Femme fatale) หรือ
อีกนัยหนึ่งคือสตรีผู้ยื่นความตายแก่บุรุษ

      สำาหรับ เธโอฟิล โกติเอร์ (Theophile Gautier) โมนา ลิซ่า มิได้
เป็นสาวน้อยที่มี รอยยิ้มแสนหวานงามปานกลีบกุหลาบ ตามที่วาซารีเคย
พรรณนาไว้แต่จะเป็นสาววัย สามสิบที่ร่องรอยแห่งเลือดฝาด และความ
สดใสแห่งชีวิตเริ่มที่จะอันตรธานหายไป สีของอาภรณ์ และผ้าคลุมผมของ
เธอ ซึ่งหมองคลำ้าเพราะกาลเวลา ทำาให้เธอดูเหมือนหญิง หม้ายที่แฝงไว้
ด้วยความทุกข์โศก

         อันที่จริงแล้ว ลักษณะรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า ที่มีการตีความไป
ต่างๆนานานั้น สามารถ พบเห็นได้ในภาพเขียนอื่นๆของ ดาวินซี่ เองเช่น
รอยยิ้มที่แฝงความอ่อนโยนและการุณย์ ของเซนต์แอนน์ หรือพระแม่มารี
หรือแม้กระทั่งรูปปั้นในยุคโบราณของกรีก ในศตรวรรษที่ 19 มีผู้เห็นว่าภาย
ใต้รอยยิ้มยากที่จะหยั่งลึกของ โมนา ลิซ่า นีกลับแฝงไว้ด้วย ปริศนาอมตะ
                                           ้
แห่งอิสตรี ส่วนนักจิตวิเคราะห์อย่าง ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund freud) ก็
ตีความหมายว่า "ลีโอนาร์โดหลงไหลรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า" เพราะมันคือ
สิ่งที่หลับไหล ภายในจิตใจ และความทรงจำาในอดีตของเขาที่ผ่านมานาน
แล้ว รอยยิ้มนี้ถอดแบบพิมพ์ มาจากคาเตรีนาผู้ที่เป็นมารดา สำาหรับนัก
สุนทรียศาสตร์อย่าง วอลเทอร์ เพ
เทอร์ (Walter Pater) พรรณนาไว้ว่า "เธอมีอายุแกกว่าหินผาที่ห้อมล้อม
เธอ ประดุจหนึ่งปีศาจดูดเลือด เธอได้ตายมาแล้วหลายคราและหยั่งรู้ความ
ลึกลับแห่งหลุมศพ"

        พอมาถึงต้นศตรวรรษที่ 20 ผู้คนรุ่นใหม่ๆ เกือบที่จะไม่ได้แสดง
ความคิดเห็น ความรู้สึก และทัศนคติต่อโมนา ลิซ่า เสียแล้ว เมื่อวันที่ 21
สิงหาคม ค.ศ. 1911 ในเวลา เช้าตรู่ข่าวการโจรกรรมภาพ Mona Lisa ออก
จากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ปรากฎต่อมวลชน ซึ่งกว่าจะค้นพบเธอ และจับกลุมผู้
โจรกรรมได้ก็ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี ปรากฎว่าคนที่โจร- กรรมโมนา ลิซ่าไป ก็
คือคนที่ทำาความสะอาดในพิพิธภัณฑ์นั่นเอง สถานที่ค้นพบ โมนา ลิซ่า นัน      ้
ก็คือเมือง ฟลอเรนซ์บ้านเกิดของเธอนั่นเอง ในปัจจุบันนี้โมนาลิซ่าได้รับ
การ ทะนุถนอมเป็นอย่างดี ในตู้กระจกปรับอากาศและกันกระสุน ซึ่งไม่มใคร    ี
ที่จะสามารถลักพาตัวเธอได้อีกต่อไป มีสิ่งที่น่าสังเกตุก็คือ ตั้งแต่การหาย
ลึกลับของ โมนา ลิซ่าเป็นระยะเวลายาวนานในคราวนัน มีผู้ที่ไปดูโมนา ลิ
                                                     ้
ซ่าบางคนบอกว่า รอยยิ้มของเธอนั้นเปลี่ยนไป โดยที่ตั้งข้อสงสัยว่า เธอ
อาจไม่ใช่ โมนา ลิซ่า ตัวจริง

      เมื่อปี ค.ศ. 1974 โมนาลิซ่าถูกนำาไปแสดงที่กรุง มอสโก และ
โตเกียว โดยเฉพาะที่ โตเกียวมีผู้คนมาเข้าแถวชมเพื่อยลโฉมเธอถึง 2 ล้าน
คนในช่วงเวลาแค่ 3 เดือน


ที่มา ::
http://www.thamwebsite.com/cty/tiplearn/old/pages/monalisa.htm

More Related Content

Viewers also liked

my life by leo
my life by leomy life by leo
my life by leo
leog123
 
History Lynne Martin Indian indentured labour
History Lynne Martin Indian indentured labourHistory Lynne Martin Indian indentured labour
History Lynne Martin Indian indentured labour
Wynberg Girls High
 

Viewers also liked (9)

Accsell008
Accsell008Accsell008
Accsell008
 
my life by leo
my life by leomy life by leo
my life by leo
 
Xіv. магічні артефакти
Xіv. магічні артефактиXіv. магічні артефакти
Xіv. магічні артефакти
 
8 Reasons Twitter Still Lags Behind Facebook
8 Reasons Twitter Still Lags Behind Facebook8 Reasons Twitter Still Lags Behind Facebook
8 Reasons Twitter Still Lags Behind Facebook
 
Fxlab
FxlabFxlab
Fxlab
 
Creating The Future Of Events Today
Creating The Future Of Events TodayCreating The Future Of Events Today
Creating The Future Of Events Today
 
Wiki on Library Perspective
Wiki on Library PerspectiveWiki on Library Perspective
Wiki on Library Perspective
 
Global Patriotism
Global PatriotismGlobal Patriotism
Global Patriotism
 
History Lynne Martin Indian indentured labour
History Lynne Martin Indian indentured labourHistory Lynne Martin Indian indentured labour
History Lynne Martin Indian indentured labour
 

More from Mos BirDy

ทหารอากาศ
ทหารอากาศทหารอากาศ
ทหารอากาศ
Mos BirDy
 
รูปโมลานิซ่า
รูปโมลานิซ่ารูปโมลานิซ่า
รูปโมลานิซ่า
Mos BirDy
 
อาร์ม รูปโมลานิซ่า
อาร์ม  รูปโมลานิซ่าอาร์ม  รูปโมลานิซ่า
อาร์ม รูปโมลานิซ่า
Mos BirDy
 
วิหารซุส
วิหารซุสวิหารซุส
วิหารซุส
Mos BirDy
 
อาชีพทหารบก
อาชีพทหารบกอาชีพทหารบก
อาชีพทหารบก
Mos BirDy
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
Mos BirDy
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
Mos BirDy
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
Mos BirDy
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
Mos BirDy
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
Mos BirDy
 
หอเอนเมืองปิซา
หอเอนเมืองปิซาหอเอนเมืองปิซา
หอเอนเมืองปิซา
Mos BirDy
 
อาชีพทหารบก
อาชีพทหารบกอาชีพทหารบก
อาชีพทหารบก
Mos BirDy
 
ปราสาทคำคินคะคุจิ
ปราสาทคำคินคะคุจิปราสาทคำคินคะคุจิ
ปราสาทคำคินคะคุจิ
Mos BirDy
 
ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์
ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์
ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์
Mos BirDy
 
วิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้าวิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้า
Mos BirDy
 
วิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้าวิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้า
Mos BirDy
 
วิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้าวิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้า
Mos BirDy
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
Mos BirDy
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
Mos BirDy
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
Mos BirDy
 

More from Mos BirDy (20)

ทหารอากาศ
ทหารอากาศทหารอากาศ
ทหารอากาศ
 
รูปโมลานิซ่า
รูปโมลานิซ่ารูปโมลานิซ่า
รูปโมลานิซ่า
 
อาร์ม รูปโมลานิซ่า
อาร์ม  รูปโมลานิซ่าอาร์ม  รูปโมลานิซ่า
อาร์ม รูปโมลานิซ่า
 
วิหารซุส
วิหารซุสวิหารซุส
วิหารซุส
 
อาชีพทหารบก
อาชีพทหารบกอาชีพทหารบก
อาชีพทหารบก
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
 
ทัชมาฮัล
ทัชมาฮัลทัชมาฮัล
ทัชมาฮัล
 
หอเอนเมืองปิซา
หอเอนเมืองปิซาหอเอนเมืองปิซา
หอเอนเมืองปิซา
 
อาชีพทหารบก
อาชีพทหารบกอาชีพทหารบก
อาชีพทหารบก
 
ปราสาทคำคินคะคุจิ
ปราสาทคำคินคะคุจิปราสาทคำคินคะคุจิ
ปราสาทคำคินคะคุจิ
 
ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์
ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์
ประสูติชัยอาร์กเดอทริออมฟ์
 
วิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้าวิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้า
 
วิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้าวิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้า
 
วิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้าวิศวกรไฟฟ้า
วิศวกรไฟฟ้า
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
 

อาร์ม รูปโมลานิซ่า

  • 1. ภาพวาดโมนา ลิซ่า (Mona Lisa) กว่า 500 ปีมากแล้วกับคำาถามที่ว่า โมนา ลิซ่า (Mona Lisa) นั่นเป็น ใคร ซึ่งยังเป็นปริศนา และยังไม่มีคำาตอบที่ชัดเจนและแน่นอน ว่าบุคคลใน ภาพเขียนของ ลีโอนาร์ โด ดา วินซี่ (Leonardo da vin Ci 1452-1519) คือใครกันแน่ ภาพนี้วาด ขึ้นราวๆ ค.ศ. 1503-1506 โดยแฝงรอยยิ้มที่ลึกลับ น่าเคลือบแคลง ไปด้วย ปริศนามากมายลง บนใบหน้าของ โมนา ลิซ่า ให้ผู้คนได้นึกคิด จินตนาการกันไปต่างๆ นานา ยาวนานถึง 5 ศตวรรษ จวบจนกระทั่งปัจจุบัน คำาถามที่ผู้คนสงสัย และได้ ค้นคว้าหาคำาตอบกันอย่างมากมาย ก็คือ โมนา ลิซ่า คือใคร? ตามคำาบอกเล่าของ "จิออร์โอ วาซารี" (Giorgio Vasari 1511-1574) จิตรกร สถาปนิก และ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับศิลปะในสมัยนั้น เขากล่าวไว้ว่า โมนา ลิซ่า ก็คือภรรยาของ ฟรานเชสโก เดล จิโอกอนโด ซึ่งเป็นพ่อค้าไหมที่มั่งคั่งแห่ง เมืองฟลอเรนซ์ ขณะที่ ดาวินซี่ เขียนภาพนี้ ซึ่งได้ใช้เวลานานถึง 4 ปี เขาได้ไปว่าจ้าง นักร้อง นักดนตรี และตัวตลกมา ให้ความบันเทิงแก่หญิงงามผู้เป็นแบบของ ภาพเขียน เพื่อให้เธอมีรอยยิ้มที่ ปราศจากความเศร้าหมอง อย่างไรก็ตามจากคำา บรรยายของ วาซารี ก็เป็น เพียงข้อมูลจากผู้ที่ไม่เคยเห็นภาพเขียนนี้ของ ลีโอนาร์โด แต่อย่างใด จากหลักฐานอีกแหล่งหนึ่งจาก "อันโตนิโอ เดอ เบอาทิส" ผู้บันทึก ปากคำาของ ลีโอนาร์โดใน ค.ศ. 1517 ว่าผู้เป็นแบบในภาพคือสตรีชาว ฟลอเรนซ์ และ จูลีอาโน เดอ เมดิซี่ เป็นผู้ว่าจ้างให้เขียนภาพนี้ จากการที่ ไม่มหลักฐานปรากฎที่แน่ชัดว่า ใครเป็นแบบให้กับ ลีโอนาร์โดวาดภาพนี้ ี จึงทำาให้มีการตั้งข้อสันนิษฐานกันไป ต่างๆ นานา ไม่ว่าจะ -เป็น บุคคลใน ภาพอาจเป็น คอนสตันซ่า คาวารอส หรืออาจจะเป็น อิสซาเบลลา เดสเต ผู้
  • 2. อื้อฉาว หรืออาจเป็นภรรยาลับของ จูลีอาโน เดอ เมดิซี่ ทั้งนี้ ก็เพราะได้ ปรากฎว่า มีโม นา ลิซ่า (เปลือย) หลายภาพในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็น ที่โด่งดังมากกับภาพ เปลือยของสาวผู้นี้ นอกจากนี้จากการที่ลีโอนาร์โดเองมีชื่อที่ถูกกล่าวขานกันว่าเขาเป็น พวก รักร่วมเพศ จึงเกิดการสันนิษฐานว่า โมนา ลิซ่า ไม่ใช่ผู้หญิงแต่เป็น ภาพเหมือนจำาแลง เพศของเด็กหนุ่มรูปงามคนใดคนหนึ่ง ซึ่งศิลปินมักเลี้ยง ไว้ติดสอยห้อยตามในสตูดิโอ บ้างก็มีการนำาภาพเหมือนของ ลีโอนาร์โดมา มาเปรียบเทียบกับภาพของ โมนา ลิซ่า แล้วก็สรุปเอาดื้อๆว่าภาพเขียนอัน ลือชื่อนี้แท้ที่จริงคือ ภาพของ ลีโอนาร์โด ดาวิน ซี่ เองที่แปลงกาย แต่งตัว เป็นสตรีเพศ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่สนับสนุนทฤษีนี้ยังกล่าวเสริม ต่อไปว่า ลาย ปักขดเชือกที่รอบคอเสื้อของ โมนา ลิซ่า คือลายเซ็นลับของ ดาวินซี่เอง เพราะในภาษาอิตาเลี่ยนคำาว่า "ขดเชือก" จะตรงกับคำาว่า "วินชีเร่" (Vincire) แม้ว่าบุคคลในภาพ โมนา ลิซ่า ยังเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ข้อมูล เกี่ยวกับผู้ครอบครองภาพนี้ยังพอมีข้อมูลอยู่บ้าง นันก็คือ เป็นที่ทราบกันดี ่ อยู่แล้วว่า ลีโอนาร์โด ไม่ยอมพรากจากภาพเขียนนี้ และเขาได้นำาติดตัว พร้อมกับทรัพย์สินสินมีค่าอื่นๆที่เขารัก หวงแหน ออกจากกรุงโรมเมื่อครั้ง เดินทางมาที่ฝรั่งเศสเพื่อเป็นศิลปินแห่งราชสำานักของพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 (ค.ศ. 1479-1547) ใน ค.ศ. 1517 ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ครอบครองภาพ โมนา ลิซ่า คนแรกก็คือกษัตริย์ฝรั่งเศส ซึ่งโปรดให้นำาภาพไปประดับที่ห้องสรงใน พระ ราชวัง ฟองแตนโบล แต่เมื่อจักรพรรดินโปเลียนขึ้นครองราชย์ ภาพโมนา ลิ ซ่า จึงถูกย้ายมาพำานักในห้องพระบรรทม และมีชื่อเรียกอย่าง สนิทสนมว่า "มาดาม ลิซ่า" มุมมอง ทัศนะคติ และ ความคิดเห็นความรู้สึก ต่างๆ ที่มีต่อ Mona Lisa นันมีมากมายเหลือเกิน "จูลส์ มิเชอเลต์" ได้พรรณนาไว้ใน หนังสือ ้ ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสว่า "ภาพเขียนนี้ดึงดูดข้าพเจ้า พรำ่าเรียกข้าพเจ้า รุกรานข้าพเจ้า ซึมซาบเข้าไปในตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าตรงลิ่วเข้าไปหาโดย ไม่รู้สึกตัว ประดุจนกบินดิ่งเข้าไปในปากงูพิษ" นี่คือทัศ- นคติต่อ Mona Lisa ในศตวรรษที่ 16 ที่มองความงามในแบบอุดมคติ แต่ มุมมองจากนักวิจารณ์ในศตวรรษที่ 19 กลับมองไปอีกด้านหนึ่ง โดยเฉพาะ กลุ่มโรแมนติคส์ที่มองว่า โมนา ลิซ่า เป็นสตรีมรณะ (Femme fatale) หรือ อีกนัยหนึ่งคือสตรีผู้ยื่นความตายแก่บุรุษ สำาหรับ เธโอฟิล โกติเอร์ (Theophile Gautier) โมนา ลิซ่า มิได้ เป็นสาวน้อยที่มี รอยยิ้มแสนหวานงามปานกลีบกุหลาบ ตามที่วาซารีเคย พรรณนาไว้แต่จะเป็นสาววัย สามสิบที่ร่องรอยแห่งเลือดฝาด และความ
  • 3. สดใสแห่งชีวิตเริ่มที่จะอันตรธานหายไป สีของอาภรณ์ และผ้าคลุมผมของ เธอ ซึ่งหมองคลำ้าเพราะกาลเวลา ทำาให้เธอดูเหมือนหญิง หม้ายที่แฝงไว้ ด้วยความทุกข์โศก อันที่จริงแล้ว ลักษณะรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า ที่มีการตีความไป ต่างๆนานานั้น สามารถ พบเห็นได้ในภาพเขียนอื่นๆของ ดาวินซี่ เองเช่น รอยยิ้มที่แฝงความอ่อนโยนและการุณย์ ของเซนต์แอนน์ หรือพระแม่มารี หรือแม้กระทั่งรูปปั้นในยุคโบราณของกรีก ในศตรวรรษที่ 19 มีผู้เห็นว่าภาย ใต้รอยยิ้มยากที่จะหยั่งลึกของ โมนา ลิซ่า นีกลับแฝงไว้ด้วย ปริศนาอมตะ ้ แห่งอิสตรี ส่วนนักจิตวิเคราะห์อย่าง ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund freud) ก็ ตีความหมายว่า "ลีโอนาร์โดหลงไหลรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า" เพราะมันคือ สิ่งที่หลับไหล ภายในจิตใจ และความทรงจำาในอดีตของเขาที่ผ่านมานาน แล้ว รอยยิ้มนี้ถอดแบบพิมพ์ มาจากคาเตรีนาผู้ที่เป็นมารดา สำาหรับนัก สุนทรียศาสตร์อย่าง วอลเทอร์ เพ เทอร์ (Walter Pater) พรรณนาไว้ว่า "เธอมีอายุแกกว่าหินผาที่ห้อมล้อม เธอ ประดุจหนึ่งปีศาจดูดเลือด เธอได้ตายมาแล้วหลายคราและหยั่งรู้ความ ลึกลับแห่งหลุมศพ" พอมาถึงต้นศตรวรรษที่ 20 ผู้คนรุ่นใหม่ๆ เกือบที่จะไม่ได้แสดง ความคิดเห็น ความรู้สึก และทัศนคติต่อโมนา ลิซ่า เสียแล้ว เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1911 ในเวลา เช้าตรู่ข่าวการโจรกรรมภาพ Mona Lisa ออก จากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ปรากฎต่อมวลชน ซึ่งกว่าจะค้นพบเธอ และจับกลุมผู้ โจรกรรมได้ก็ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี ปรากฎว่าคนที่โจร- กรรมโมนา ลิซ่าไป ก็ คือคนที่ทำาความสะอาดในพิพิธภัณฑ์นั่นเอง สถานที่ค้นพบ โมนา ลิซ่า นัน ้ ก็คือเมือง ฟลอเรนซ์บ้านเกิดของเธอนั่นเอง ในปัจจุบันนี้โมนาลิซ่าได้รับ การ ทะนุถนอมเป็นอย่างดี ในตู้กระจกปรับอากาศและกันกระสุน ซึ่งไม่มใคร ี ที่จะสามารถลักพาตัวเธอได้อีกต่อไป มีสิ่งที่น่าสังเกตุก็คือ ตั้งแต่การหาย ลึกลับของ โมนา ลิซ่าเป็นระยะเวลายาวนานในคราวนัน มีผู้ที่ไปดูโมนา ลิ ้ ซ่าบางคนบอกว่า รอยยิ้มของเธอนั้นเปลี่ยนไป โดยที่ตั้งข้อสงสัยว่า เธอ อาจไม่ใช่ โมนา ลิซ่า ตัวจริง เมื่อปี ค.ศ. 1974 โมนาลิซ่าถูกนำาไปแสดงที่กรุง มอสโก และ โตเกียว โดยเฉพาะที่ โตเกียวมีผู้คนมาเข้าแถวชมเพื่อยลโฉมเธอถึง 2 ล้าน คนในช่วงเวลาแค่ 3 เดือน ที่มา :: http://www.thamwebsite.com/cty/tiplearn/old/pages/monalisa.htm