More Related Content
Similar to อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์ (20)
More from Chaiwattana Tongpramoon (6)
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
- 3. 1.ส่วนรับข้อมูล (Input Unit)
ทำหน้ำที่รับข้อมูลจำกผู้ใช้เข้ำสู่หน่วยควำมจำหลัก ปัจจุบันอุปกรณ์มำกมำยแบ่งเป็นประเภทต่ำงๆ ได้ดังนี้
– Keyboard (คีย์บอร์ด) เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในกำรนำข้อมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
– Mouse (เมำส์) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้ำที่ป้อนข้อมูลที่เห็นกำรทำงำน โดยจะเป็นตัวที่ใช้ควบคุมลูกศรให้
เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งต่ำงๆ บนจอภำพ
– monitor (จอภำพ) คือ ส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้โดยตรง สำมำรถมองเห็นข้อมูลที่แสดงผลได้โดยผ่ำนจอภำพ
– case (เคส) คือ กล่องหรือโครงสร้ำงสำหรับเก็บประกอบอุปกรณ์ต่ำงๆ คอมพิวเตอร์ไว้ภำยในนั้น ซึ่งขนำด
ของเคสก็จะแตกต่ำงกันออกไป แล้วแต่กำรใช้งำนหรือควำมเหมำะสมในกำรใช้งำนของแต่ละคน รวมทั้งสถำนที่เก็บ
อุปกรณ์เหล่ำนั้นด้วยว่ำมีขนำดพื้นที่มำกน้อยเพียงใด และในตัวเคสก็จะมีในส่วนของพำวเวอร์ซัพพลำยติดมำด้วย
- 7. case (เคส)
เคส คือ กล่องหรือโครงสร้างสาหรับเก็บ
ประกอบอุปกรณ์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ไว้
ภายในนั้น ซึ่งขนาดของเคสก็จะแตกต่าง
กันออกไป แล้วแต่การใช้งานหรือความ
เหมาะสมในการใช้งานของแต่ละคน
รวมทั้งสถานที่เก็บอุปกรณ์เหล่านั้นด้วยว่า
มีขนาดพื้นที่มากน้อยเพียงใด และใน
ตัวเคสก็จะมีในส่วนของพาวเวอร์ซัพพลาย
ติดมาด้วย
- 8. 2.ส่วนประมวลผลข้อมูล (Central Processing Unit)
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ที่จะขาดไม่ได้เลยคือหน่วยประมวลผลกลาง หรือ ซีพียูเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์
(Processor) หรือ ชิป (chip) นับเป็นอุปกรณ์ ที่มีความสาคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่
ผู้ใช้ป้อนเข้ามาทางอุปกรณ์อินพุต ตามชุดคาสั่ง หรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการใช้งาน ส่วนประกอบของหน่วยประมวลผลกลางนั้นประกอบ
ไปด้วย
1. หน่วยคานวณ และตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU)
2. หน่วยควบคุม (Control Unit)
3. หน่วยความจาหลัก (Main Memory)
- 9. หน่วยคานวณ และตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU)
1) หน่วยคานวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU)
หน่วยคานวณและตรรกะเป็นหน่วยที่ทาหน้าที่คานวณทางเลขคณิตได้แก่ การบวก ลบ คูณ หาร และ
เปรียบเทียบทางตรรกะเพื่อทาการตัดสินใจ เช่น ทาการเปรียบเทียบข้อมูล เพื่อตรวจสอบว่าปริมาณหนึ่ง
น้อยกว่า เท่ากับ หรือมากกว่า อีกปริมาณหนึ่ง แล้วส่งผลการเปรียบเทียบว่า จริงหรือเท็จไปยัง
หน่วยความจาเพื่อทางานต่อไป
- 10. หน่วยควบคุม (Control Unit)
หน่วยควบคุม ทาหน้าที่ควบคุมการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ เช่น ควบคุม
การทางานของความจาหลัก หน่วยรับข้อมูล หน่วยคานวณและตรรกะ หน่วยแสดงผล
และที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้นการทางานของหน่วยนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางระบบ
ประสาท ที่ทาหน้าที่ควบคุมการทางานของส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์
โดยที่หน่วยควบคุมและซีพียูจะรับรู้คาสั่งต่าง ๆ ในรูปของคาสั่งภาษาเครื่องเท่านั้น
- 11. หน่วยความจาหลัก (Main Memory)
หน่วยความจาที่ต่อกับหน่วยประมวลผลกลาง และหน่วยประมวลผลกลางสามารถใช้งานได้โดยตรง
หน่วยความจา ชนิดนี้จะเก็บข้อมูล และชุดคาสั่งในระหว่างประมวลผล และมีกระแสไฟฟ้า เมื่อปิด
เครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูลในหน่วย ความจานี้จะหายไปด้วย หน่วยความจาหลักที่ใช้ในระบบ
คอมพิวเตอร์ปัจจุบัน เป็นชนิดที่ทามาจากสารกึ่งตัวนา หน่วยความจาชนิดนี้มีขนาดเล็ก ราคาถูก แต่เก็บ
ข้อมูลได้มาก และสามารถให้หน่วยประมวลผลกลาง นาข้อมูลมาเก็บ และเรียกค้นได้อย่างรวดเร็ว
เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องต้องอาศัยหน่วยความจาหลัก เพื่อใช้เก็บข้อมูลและคาสั่ง ซีพียูจะทา
หน้าที่นาคาสั่ง จากหน่วยความจาหลัก มาแปลงความหมายแล้วกระทาตาม เมื่อทาเสร็จก็จะนาผลลัพธ์
มาเก็บไว้ในหน่วยความจาหลัก ซีพียูจะกระทาตามขั้นตอนเช่นนี้เป็นวงรอบเรื่อยๆ ไปอย่างรวดเร็ว เรียก
การทางานลักษณะนี้ว่า วงรอบคาสั่ง (Execution cycle)
- 12. 3.ส่วนแสดงผล (Output Unit)
หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทาหน้าที่แสดงผลลัพธ์จากคอมพิวเตอร์ โดยมากจะแบ่งออกเป็น
2 ประเภท
1. หน่วยแสดงผลชั่วคราว (Soft Copy)
หมายถึงการแสดงผลออกมาให้ผู้ใช้ได้รับทราบในขณะนั้น แต่เมื่อเลิกการทางานหรือเลิกใช้แล้วผลนั้นก็
จะหายไป ไม่เหลือเป็นวัตถุให้เก็บได้ถ้าต้องการเก็บผลลัพธ์นั้นก็สามารถส่งถ่ายไปเก็บในรูปของข้อมูล
ในหน่วยเก็บข้อมูลสารอง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในภายหลัง
2. หน่วยแสดงผลถำวร (Hard Copy) หมายถึงการแสดงผลที่สามารถจับต้อง และ
เคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ มักจะออกมาในรูปของกระดาษ ซึ่งผู้ใช้สามารถนาไปใช้ในที่ต่าง ๆ หรือให้
ผู้ร่วมงานดูในที่ใด ๆ ก็ได้
- 20. 4.หน่วยความจา (Memory Unit)
หน่วยความจา (Memory Unit) ทาหน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจาก
หน่วยรับข้อมูล เพื่อเตรียมส่งออกหน่วยประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรับ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล และเตรียมส่งออกหน่วยแสดงผลข้อมูลต่อไป ซึ่ง
หน่วยความจาของคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
- 21. 4.1) หน่วยความจาหลัก (Main Memory Unit)
4.1.1) หน่วยควำมจำหลักแบบอ่ำนได้อย่ำงเดียว (Read Only Memory – ROM) เป็นหน่วยความจาแบบสารกึ่ง
ตัวนาชั่วคราวชนิดอ่านได้อย่างเดียว ใช้เป็นสื่อบันทึกในคอมพิวเตอร์ เพราะไม่สามารถบันทึกซ้าได้ (อย่างง่ายๆ) เป็นความจาที่ซอฟต์แวร์
หรือข้อมูลอยู่แล้ว และพร้อมที่จะนามาต่อกับไมโครโพรเซสเซอร์ได้โดยตรง หน่วยความจาประเภทนี้แม้ไม่มีไฟเลี้ยงต่ออยู่ ข้อมูลก็จะไม่
หายไปจากน่วยความจา (nonvolatile)
โดยทั่วไปจะใช้เก็บข้อมูลที่ไม่ต้องมีการแก้ไขอีกแล้วเช่น เก็บโปรแกรมไบออส (Basic Input output System :
BIOS) หรือเฟิร์มแวร์ ที่ควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์ใช้เก็บโปรแกรมการทางานสาหรับเครื่องคิดเลขใช้เก็บโปรแกรมของ
คอมพิวเตอร์ที่ทางานเฉพาะด้าน เช่น ในรถยนต์ที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมวงจร ควบคุมในเครื่องซักผ้า เป็นต้น
- 22. 4.1.2) หน่วยควำมจำหลักแบบแก้ไขได้ (Random Access Memory – RAM) เป็นหน่วยความจาหลัก ที่ใช้ใน
ระบบคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบัน หน่วยความจาชนิดนี้อนุญาตให้เขียนและอ่านข้อมูลได้ในตาแหน่งต่างๆ อย่างอิสระ และรวดเร็วพอสมควร
ซึ่งต่างจากสื่อเก็บข้อมูลชนิดอื่นๆ อย่างเทป หรือดิสก์ ที่มีข้อจากัดในการอ่านและเขียนข้อมูล ที่ต้องทาตามลาดับก่อนหลังตามที่จัดเก็บไว้
ในสื่อ หรือมีข้อกาจัดแบบรอม ที่อนุญาตให้อ่านเพียงอย่างเดียว
ข้อมูลในแรม อาจเป็นโปรแกรมที่กาลังทางาน หรือข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผล ของโปรแกรมที่กาลังทางานอยู่ ข้อมูลในแรมจะหายไป
ทันที เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ถูกปิดลง เนื่องจากหน่วยความจาชนิดนี้จะเก็บข้อมูลได้เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้น
- 23. 4.2) หน่วยเก็บข้อมูลสารอง (Secondary Storage
Unit)
4.2.1) แบบจำนแม่เหล็ก เป็นอุปกรณ์สารองข้อมูลที่เป็นลักษณะของจานแม่เหล็กสาหรับบันทึกข้อมูลไว้ภายใน Disk ได้รับความ
นิยมและใช้งานมานานพอสมควรซึ่งเป็น ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ที่ใช้หลักๆ เลยในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์
- 24. 4.2.2) แบบแสง เป็นสื่อเก็บข้อมูลสารองที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยใช้หลักการทางานของแสง การจัดการข้อมูลจะคล้ายกับ
แผ่นจานแม่เหล็ก ต่างกันที่การแบ่งจะเป็นรูปก้นหอย และเริ่มเก็บบันทึกข้อมูลจากส่วนด้านในออกมาด้านนอก ที่เป็นที่นิยมและรู้จักกันดี
เช่น CD , DVD
- 25. 4.2.3) แบบเทป เป็นสื่อเก็บข้อมูลที่สามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจานวนมากและเข้าถึงข้อมูลแบบเรียงลาดับต่อเนื่องกันไป มีการผลิตขึ้นมา
หลากหลายขนาดแตกต่างกันไป เช่น DAT และ QIC เป็นต้นปัจจุบันไม่ค่อยถือเป็น ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
- 26. 4.2.4) แบบอื่นๆ เป็นสื่อเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่พบได้ทั่วไปในปัจจุบัน มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น Flash Drive, Thumb
Drive , Handy Drive เป็นต้น อีกชนิดคือ Memory Card เพื่อใช้เก็บข้อมูลในกล้องดิจิตอลแบบพกพา