Mais conteúdo relacionado
Semelhante a ธรรมชาติของภาษา (20)
Mais de ณรงค์ศักดิ์ กาหลง (20)
ธรรมชาติของภาษา
- 5. คำาว่า “ภาษา” เปน็ศัพท์ภาษา
สันสกฤตมาจากรากศัพท์ว่า “ภาษฺ” มีความ
หมายว่า “พูด กล่าว
หรือบอก” ภาษาจึงมีความหมายตามรูป
ศัพท์ว่า การพูด การกล่าว หรือการบอก
เมื่อพจิารณาความหมายของคำาว่า ภาษา
สามารถแบ่งได้เป็นความหมายอย่างกว้าง
และความหมายอย่างแคบ ดังนี้
- 6. ๑. ความหมายอย่างกว้าง ภาษา หมาย
ถึง การแสดงออกเพื่อการสื่อความหมาย
โดยมีกฎเกณฑ์ที่รับรู้ร่วมกันระหว่างผู้ส่งสาร
กับผู้รับสาร ซึ่งอาจเป็นการสื่อสารระหว่าง
มนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสตัว์ หรือมนุษย์
กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกสก์็ได้ เช่น
นักเรียนทำาแบบฝึกหัดผ่านทางโปรแกรม
คอมพิวเตอร์มัลติมีเดียที่สามารถโต้ตอบกับ
นักเรียนได้ เปน็ต้น การใช้ถ้อยคำาหรือวัจ
นภาษา หรือการใช้ท่าทาง
หรืออวัจนภาษา รวมถึงการใช้สญัลักษณ์
ต่างๆ เช่น ภาพ เสยีง เพอื่สื่อความหมาย
- 7. b. ความหมายอย่างแคบ ภาษา หมายถึง
ถ้อยคำาทมี่นุษย์ใช้สื่อความหมาย ภาษา
ตามนัยนี้จึงจำากัดลงมาเฉพาะวัจนภาษา
อันเปน็ภาษาที่ใชเ้ฉพาะมนุษย์กับมนุษย์
และใช้สอื่ที่สำาคัญคอื “เสียงพูด”
ในการสื่อสารระหว่างกันเท่านั้น มไิด้
หมายรวมถึง “ตัวอักษร” หรือภาษา
เขียน เนื่องจากมนุษย์ทุกกลุ่มจะสร้าง
ภาษาพดูขึ้นใช้ในกลุ่มของตนเองก่อน
แต่การสร้างภาษาเขียนนั้นมีเฉพาะบาง
ภาษาเท่านั้น
ภาษาเป็นหัวใจของการสื่อสาร และมี
- 9. ๑. ภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย
เสยีงเปน็สอื่ที่สำาคญัที่สุด ที่ทำาให้
มนุษย์สามารถสอื่สารกันได้ ความเขา้ใจใน
ที่นี้เกิดจากการรับรู้ความหมายที่ตรงกัน
ระหว่างผู้สอื่สารกับผรูั้บสาร แต่สิ่งที่ควร
พิจารณาคือ การกำาหนดว่าเสยีงใดจะมีความ
หมายใดนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการสมมุติ
หรือกำาหนดขึ้นเองภายในกลุ่มชนที่ใช้ภาษา
นั้นนับแต่แรกใช้ภาษา ด้วยเหตุนี้ เราจึงยัง
ไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่าเหตุใดจึงเรียกสิ่ง
นั้นว่าสงิ่นั้น เช่น เหตุใดเราจึงเรียก
สารประกอบระหว่างธาตุไฮโดรเจนและ
- 11. ๒. ภาษาประกอบจากหน่วยในภาษาที่
ประกอบกันเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น
หน่วยในภาษา หมายถึง เสียงที่มี
นัยสำาคัญและทำาให้เกิดความหมายที่ต่างกัน
นักภาษาศาสตร์จะศึกษาหน่วยเสียงใน
ภาษาจากการวิเคราะห์ “คเู่ทยีบเสียง” คอื
การเปรียบเทียบคำาสองคำาที่มีองค์ประกอบ
เหมือนกันทุกอย่าง ยกเว้นหน่วยเสยีงที่
ต้องการวิเคราะห์ เช่น เปรียบเทียบคำาว่า
“rat” และ “cat” แสดงว่าหน่วยเสียง /r/
และ /c/ มีนัยสำาคญัที่ทำาให้เกิดความหมาย
ที่ต่างกัน หน่วยเสยีงทั้งสองจึงมีคณุสมบตัิ
- 12. ทุกภาษาจะประกอบด้วยหน่วยเสียงที่มี
ขนาดเล็กที่สดุ คือ หน่วยเสียงพยัญชนะ
และหน่วยเสยีงสระ เช่น ภาษาไทยมี
หน่วยเสยีงพยัญชนะ ๒๑ หน่วยเสียง
และหน่วยเสยีงสระ ๒๑ หน่วยเสยีง
เป็นต้น ภาษาเขมรมหีน่วยเสียงพยัญชนะ
๑๘ หน่วยเสยีงและหน่วยเสยีงสระ ๓๒
หน่วยเสยีง เปน็ต้น หน่วยเสียงเหล่านี้
สามารถนำามาประกอบกันเป็นหน่วยคำาวลี
ประโยค และข้อความขนาดยาวไม่รู้จบ
จึงเปน็ที่น่าสังเกตว่า แม้ภาษาจะ
ประกอบด้วยหน่วยเสียงซึ่งมีจำานวน
- 13. ๓. ภาษามีการเปลี่ยนแปลง
ภาษาทุกภาษาย่อมมีการ
เปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงของภาษา
นั้นเกิดจากการใชภ้าษาของมนุษย์นั่นเอง
บางครั้งอาจเปลี่ยนเสยีง เปลี่ยนความ
หมาย หรือเปลี่ยนคำาทใี่ช้ร่วมไปบา้ง หรือ
อาจสูญไปจากภาษาเลยก็มี สาเหตุทที่ำาให้
ภาษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงพอสันนิษฐาน
ได้ดังนี้
๑. การออกเสียงพูดจากันในชีวิต
ประจำาวัน
ทำาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้าน
- 14. ๑. การกร่อนเสียง
๒. การกลมกลืนเสียง
๓. การเปลี่ยนแปลงด้านเสียงสระ
๔. การเปลี่ยนแปลงด้านเสียงวรรณยุกต์
๒. ความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปมี
อิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในภาษาหลาย
ด้าน ดังนี้
๑. การเปลี่ยนแปลงด้านคำา
๒. การเปลี่ยนแปลงด้านประโยค
๓. การเปลี่ยนแปลงด้านสำานวน
- 15. ๓. อิทธิพลของภาษาอื่น
การติดต่อกับชนชาติอื่น ทำาให้คน
ไทยยืมภาษาอื่นมาใช้ ในการยืมคำาภาษา
อื่นมาใช้ เราจะดัดแปลงให้เข้ากับลกัษณะ
ภาษาไทย เช่น คำายืมจากภาษาบาลี
ภาษาสนัสกฤต ซึ่งมีหลายพยางค์ เราจะ
ดัดแปลงให้พยางค์น้อยลงโดยใช้
เครื่องหมายทัณฑฆาตกำากับอักษรที่ไม่
ต้องการออกเสยีง เชน่ กาญจน์ โพธิ์
กษัตริย์ หรือทำาให้พยางค์สดุท้ายออกเสยีง
เปน็พยัญชนะสะกด เช่น พละ เปน็ พล
คชะ เปน็ คช ในกรณีที่ดัดแปลงหรือนำา
- 16. ๔. การเรียนภาษาของเด็ก
เมื่อเด็กเริ่มเรียนภาษา อวัยวะในการ
ออกเสยีงและสมองยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่
จึงมีคำาที่เด็กจะออกเสยีงได้งา่ยๆ เปน็ภาษา
ของเด็ก เช่น อั้ม หมำ่า แทนคำาว่า กิน
และมีการผูกประโยคของเด็กที่ต่างจาก
ผใู้หญ่ เช่น หนูเปล่าทำา แทนที่จะใชค้ำาว่า
เปล่า หนูไมไ่ด้ทำา เมื่อเด็กโตขึ้น เด็กจะ
แก้ไขให้ถูกต้องได้ แต่ในบางกรณีเมื่อเด็ก
ไม่แก้ไข แล้วผู้ใหญ่ใช้ตามก็อาจจะเกิดการ
เปลี่ยนแปลงในภาษาได้ เช่น โครงสร้าง
ประโยค หนูเปล่าทำา นี้ มีผู้ใช้กันอยมู่าก
- 17. ๔. ภาษาต่างๆ มีลักษณะที่เหมือนกัน
และต่างกัน
ภาษาต่างๆ ในโลกนี้ย่อม
คล้ายคลึงกันในบาง
ลักษณะ และแตกต่างกันในบางลักษณะ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการกำาหนดกฎเกณฑ์ของ
ภาษานั้นๆ
- 19. เมื่อพิจารณาพลังของภาษาทมีี่ต่อความคดิ
แมจ้ะไม่เห็นเปน็รูปธรรมชดัเจน แต่พอ
สังเกตได้จากความคิดหรือทัศนคติของ
บุคคลเมื่อได้พูดออกมาว่าเขามีความคิด
เช่นใด ประโยคและข้อความจำานวนมากมี
ผลต่อความคดิ โดยอาจเปน็การชี้แนะ สงั่
สอน หรือเป็นข้อเตือนใจผู้อ่านหรือผู้ฟงั
หลายคนอาจปรับเปลี่ยนวิธีคิดของตนตาม
ไปด้วย เช่น
“ผไู้ม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก”
“การปฏิบตัิงาน คอืการปฏิบัติธรรม”
“ความกลัวเป็นสิ่งที่ใจของเราสร้าง